การวัดประเมินตามสภาพจริง โดยการปฏิบัติและจากแฟ้มสะสมงานเพื่อพัฒนา

Download Report

Transcript การวัดประเมินตามสภาพจริง โดยการปฏิบัติและจากแฟ้มสะสมงานเพื่อพัฒนา

1
การวัดประเมิน
ตามสภาพจริง โดยการปฏิบัติและจากแฟ้ มสะสมงาน
เพือ่ พัฒนา/ปรับปรุงการเรียนรู้ : แนวคิดและวิธีการ
(Authentic, Performance, Portfolio Assessments
FOR Learning Improvement: Concepts & Practices )
รองศาสตราจารย์ ดร. องอาจ นัยพัฒน์
ภาควิชา การวัดผลและวิจยั การศึกษา
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
วันที่ 3-4 มิถุนายน พ.ศ. 2557
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
2
หัวข้ อการบรรยาย
•
•
•
•
•
•
•
คาสาคัญ ความหมาย และแนวคิดพืน้ ฐานทีเ่ กีย่ วข้ อง
กลยุทธ์ ของการวัดประเมินเพือ่ การเรียนรู้
แนวทางการประเมินการเรียนรู้ทมี่ คี ุณภาพ
กระบวนการวัดประเมินการเรียนรู้ในชั้นเรียน
ผลการเรียนรู้: พุทธิพสิ ั ย จิตพิสัยและทักษะพิสัย
การเลือกเครื่องมือ/วิธีการรวบรวมข้ อมูลสารสนเทศ
ตัวอย่ าง: เครื่องมือการวัดประเมินผลการเรียนรู้ (พุทธิพสิ ัย จิตพิสัยและทักษะพิสัย)
หมายเหตุ: เอกสารนีส้ ามารถนาไปใช้ ประโยชน์ และเผยแพร่ ต่อได้ แต่ได้โปรดอ้างอิงชื่อ/นามสกุลของผู้จดั ทา
(ทีเ่ รียบเรียงความคิดและร้ อยเรียงถ้ อยคาในการจัดทาเอกสารนี้เป็ นเวลานานพอควร)
ขอบคุณ ครับ
รศ.ดร.องอาจ นัยพัฒน์
3
๑. คาสาคัญ ความหมาย และแนวคิดพืน้ ฐานทีเ่ กีย่ วข้อง
• การวัด (Measurement) คือ การกาหนดตัวเลขเพือ่ บ่ งชี้ปริมาณคุณสมบัตหิ รือลักษณะของวัตถุหรือเหตุการณ์ ใดๆ ที่
สนใจตามกฎเกณฑ์ บางประการ
• การประเมินค่า (Evaluation) คือ การตัดสินคุณค่าและมูลค่าของบุคคล วัตถุ เหตุการณ์ หรือสิ่งใดๆ ที่สนใจตามการ
ตีความข้ อมูลสารสนเทศ (โดยเฉพาะข้ อมูลสารสนเทศจากการวัดในรูปตัวเลข) ที่รวบรวมได้
• การวัดประเมิน (Assessment) คือ กระบวนการเก็บรวบรวม บันทึกและใช้ ข้อมูลสารสนเทศเพือ่ ประเมินค่าบุคคล วัตถุ
เหตุการณ์ หรือสิ่งใดๆ ที่สนใจ
• การวัดประเมินในชั้นเรียน (Classroom Assessment) เป็ นกระบวนการที่ครูทาการรวบรวมและตีความข้ อมูล/สารสนเทศ
ต่ างๆ ที่เกีย่ วข้ องกับความรู้ /ความเข้ าใจ ความสามารถ/ทักษะ และทัศนคติ/ความเชื่อของนิสิต/นักศึกษา แล้วนาผลการ
ตีความดังกล่าวไปใช้ ตดั สินใจในการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนให้ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิง่ ขึน้
• การวัดประเมินเพือ่ การเรียนรู้ (Assessment FOR Learning) เป็ นการวัดประเมินความก้าวหน้ าเพือ่ สนับสนุนการเรียนรู้
ของผู้เรียน
• การวัดประเมินขณะเรียนรู้ (Assessment AS Learning) เป็ นการวัดประเมินการกากับหรือนาตนเองในการเรียนรู้ได้
อย่ างเป็ นอิสระของผู้เรียน
• การวัดประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment OF Learning) เป็ นการวัดประเมินเพือ่ ตรวจสอบผลการเรียนรู้ของผู้เรียน
ตามเกณฑ์ มาตรฐานคุณภาพ ซึ่งเป็ นการบ่ งบอกถึงระดับความสาเร็จในการเรียนรู้ของผู้เรียนนั่นเอง
4
๑. คาสาคัญ ความหมาย และแนวคิดพืน้ ฐานทีเ่ กีย่ วข้อง (ต่อ)
การวัดประเมิน
(Assessment)
การวัด
(Measurement)
และ/หรือ
เช่ น การทดสอบ
บวก
ไม่ ใช่ การวัด
(Non-measurement)
เช่ น การสังเกต การสอบถามด้ วยวาจา
การประเมิน/ตัดสิ นคุณค่ า
บวก
(Evaluation/Value Judgments)
เช่ น ปานกลาง ดี ดีเยีย่ ม
แผนภาพ: กระบวนการวัดประเมิน (The assessment process)
5
๑. คาสาคัญ ความหมาย และแนวคิดพืน้ ฐานที่เกีย่ วข้อง (ต่อ)
• การวัดประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment) คือ การประเมินความรู้ ทักษะ
ความสามารถ คุณลักษณะหรือพฤติกรรมของผู้เรียนทีเ่ กิดขึน้ ในสภาพการณ์ จริง (A
real life context)
• การวัดประเมินการปฏิบัติ (Performance assessment) คือ การวัดประเมินกระบวนการ
(Process) และผลผลิต (Product) ของการปฏิบัตทิ สี่ ะท้ อนความรู้ ทักษะ ความสามารถ
คุณลักษณะหรือพฤติกรรมของผู้เรียนทีส่ าธิตหรือแสดงออกมาให้ เห็น
• การวัดประเมินด้ วยแฟ้ มสะสมงาน (Portfolio assessment) คือ การวัดประเมินความรู้
ทักษะ ความสามารถ หรือคุณลักษณะของผู้เรียนจากข้ อมูลหลักฐานทีบ่ ่ งชี้ความเพียร
พยายาม ความก้ าวหน้ าและผลสั มฤทธิ์ของผู้เรียนในแฟ้มสะสมงาน (Portfolios) ทีเ่ ก็บ
รวบรวมและจัดเรียงอย่างเป็ นระบบภายในระยะเวลาหนึ่งๆ
6
๑. คาสาคัญ ความหมาย และแนวคิดพืน้ ฐานที่เกีย่ วข้อง (ต่อ)
การวัดประเมิน
หลังสอน
การสอนแบบมี
ปฏิสัมพันธ์
การวัดประเมิน
ระหว่ างสอน
การวางแผน
การสอน
การค้ นหาข้ อมูล
หลักฐานบ่ งชี้ผลการ
เรียนรู้ ทคี่ าดหวัง
กาหนดผลการ
เรียนรู้ ทคี่ าดหวัง
การวัดประเมิน
ก่อนสอน
เป้ าหมายการเรียนรู้
และวัตถุประสงค์การ
เรียนรู้ โดยทัว่ ไป
แผนภาพ: ความสั มพันธ์ ระหว่ างการสอนและ
การวัดประเมินการเรียนรู้
ที่มา: ดัดแปลงจาก McMillan (2004, p.7)
7
๑. คาสาคัญ ความหมาย และแนวคิดพืน้ ฐานที่เกีย่ วข้อง (ต่อ)
ที่มา: องอาจ นัยพัฒน์. (2557)
แผนภาพ: ความสัมพันธ์ ระหว่างการวัดประเมินการ
เรียนรู้และองค์ประกอบการเรียนรู้อนื่ ๆ
8
๑. คาสาคัญ ความหมาย และแนวคิดพืน้ ฐานที่เกีย่ วข้อง (ต่อ)
ระดับผลกระทบ
(Impact level)
สารสนเทศป้ อนกลับ
หลักสู ตร
(Information feedback)
จิตวิทยา
การสอนและการเรียนรู้ในชั้นเรียน
การวัดประเมิน
ระดับจุลภาค
การวัดประเมินความก้าวหน้ าของการ
เรียนรู้ (Assessment FOR Learning)
การวัดประเมิน
ระดับมหภาค
การวัดประเมินตัดสินผลการเรียนรู้
(Assessment OF Learning)
ระบบการวัดประเมินทีส่ มดุล
(Balanced Assessment System)
แผนภาพ: ความสั มพันธ์ ระหว่ างการวัดประเมินการเรียนรู้ แบบผลสรุปและผลย่ อย
9
๑. คาสาคัญ ความหมาย และแนวคิดพืน้ ฐานที่เกีย่ วข้อง (ต่อ)
การวัดประเมินการเรียนรู้ของผู้เรียน:
 ความหมาย
กระบวนการรวบรวม วิเคราะห์ และวิพากษ์ ข้อมูลสารสนเทศเกีย่ วกับการ
เรียนรู้ของผู้เรียนจากหลากหลายแหล่ งเพือ่ ความเข้ าใจอย่ างลุ่มลึกว่ า
ผู้เรียนมีความรู้ความเข้ าใจ ความสามารถทักษะ และคุณลักษณะพึง
ประสงค์ อะไรบ้ าง ทีเ่ ป็ นผลจากประสบการณ์ การเรียนรู้ทผี่ ่ านมา
 แนวคิดและหลักการ
• เป็ นไปในลักษณะ “การนั่งเคียงข้ าง (Sitting beside)”
ตามความหมายของคาว่ า “assess” หรือ “assidere” ในภาษาละติน
ทีแ่ ปลว่ า “to sit beside”
• ดาเนินไปด้ วยการแลกเปลีย่ นข้ อมูลสารสนเทศเกีย่ วกับประสบการณ์ การเรียนรู้
• มีการวิเคราะห์ /วิพากษ์ ข้อมูลสารสนเทศเพือ่ ปรับปรุงการเรียนรู้อย่ างสร้ างสรรค์
• ผู้ประเมินวัดประเมินการเรียนรู้ของนิสิต/นักศึกษาด้ วยความเมตตา/เอือ้ อาทร
• รวมรวมข้ อมูลสารสนเทศจากหลากหลายแหล่ ง (ไม่ เพียงแต่ คะแนนการสอบ)
• มุ่งเน้ นวัดประเมินเพือ่ การพัฒนาปรับปรุง (มากกว่ าตรวจสอบ) การเรียนรู้
10
๑. คาสาคัญ ความหมาย และแนวคิดพืน้ ฐานที่เกีย่ วข้อง (ต่อ)
กระบวนทัศน์ ใหม่ ในการวัดประเมินการเรียนรู้ (๑)
• เป็ นการวัดประเมินในชั้นเรียนทีส่ ่ งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนโดยตั้งอยู่บนฐานคิดสาคัญ คือ
๑.
๒.
๓.
๔.
รูปแบบและสาระของการวัดประเมินจะต้ องสะท้ อนการคิดและทักษะการแก้ปัญหาของผู้เรียนแต่ ละกลุ่ม
สาระที่เกิดขึน้ ในระดับจุลภาค (Micro small-scale level) เช่ น ชั้นเรียน หรือห้ องปฏิบัตกิ าร/สนาม
ปฏิบัตกิ าร ได้ อย่ างดี
การวัดประเมินจะต้ องมีจุดมุ่งหมายเพือ่ เข้ าใจการเรียนรู้ของผู้เรียนว่าเรียนรู้อย่ างไร มีความก้าวหน้ า
เพียงใด (Formative purpose) ทาอะไรได้ (หรือไม่ ได้ ) บ้ าง และทาการพิจารณาตัดสินใจเพือ่ สนับสนุนให้
ผู้เรียนเรียนรู้ได้ อย่ างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล (ตามศักยภาพที่มี) (Assessment FOR learning)
และมีจติ นิสัยกากับการคิดหรือการเรียนรู้ด้วยการนาตนเองได้ อย่ างเป็ นอิสระในขณะเรียนรู้หรือไม่
(Assessment AS learning)
มุ่งเน้ นประเมินกระบวนการเรียนรู้ (Process of learning) แทนที่จะเน้ นการตัดสินผลการเรียนรู้
(Summative purpose) หรือพิสูจน์ ให้ เห็นว่าการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ ผลตามเกณฑ์ มาตรฐานหรือไม่
อย่ างไร (Assessment OF learning)
มีสาระต้ องเชื่อมโยงกับหลักสู ตร/การจัดการเรียนรู้ จิตวิทยา/วัฒนธรรมการเรียนรู้ และจะต้ องเชื่อมโยง
กับระบบการวัดประเมินผลการเรียนรู้ที่องิ มาตรฐานในระดับมหภาค (Macro or large-scale level) เช่ น
กลุ่มสถานศึกษา เขตพืน้ ที่ ประเทศ/นานาประเทศ (Balanced Assessment system)
11
๑. คาสาคัญ ความหมาย และแนวคิดพืน้ ฐานที่เกีย่ วข้อง (ต่อ)
กระบวนทัศน์ ใหม่ ในการวัดประเมินการเรียนรู้ (๒)
• เป็ นการวัดประเมินการเรียนรู้ ในชั้นเรียน (Classroom-based Formative
Assessment)
▫ ช่ วยพัฒนากระบวนการเรียนรู้และพัฒนาการด้ านต่ างๆ ของผู้เรียน
▫ ช่ วยปรับปรุงการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (Learning-oriented assessment) ของนิสิต/
นักศึกษาให้ แก่ ครู /อาจารย์
▫ ให้ สารสนเทศป้ อนกลับอย่ างมีความหมาย (Meaningful feedbacks) สาหรับผู้เรียน ครู/
อาจารย์ (รวมทั้งผู้บริหารหลักสู ตร) ว่ าผู้เรียนมีผลการเรียนรู้ (Learning outcomes) ได้ แก่
ความรู้ความเข้ าใจ ความสามารถ/ทักษะ และอารมณ์ /ทัศนคติ เป็ นไปตามระดับมาตรฐาน
หรือไม่ อย่ างไร
▫ เป็ นการเชื่อมโยงระหว่ างการสอนของครู /อาจารย์ และการเรียนรู้ของผู้เรียน
▫ ช่ วยเพิม่ พูนความเข้ าใจให้ แก่ ครู /อาจารย์ (รวมทั้งผู้บริหารหลักสู ตร) เกีย่ วกับการเรียนรู้
ของผู้เรียนในสาระต่ างๆ ได้ ดยี งิ่ ขึน้
12
๑. คาสาคัญ ความหมาย และแนวคิดพืน้ ฐานที่เกีย่ วข้อง (ต่อ)
กระบวนทัศน์ ใหม่ ในการวัดประเมินการเรียนรู้ (๔)
• เป็ นตามสภาพจริง (Authentic)
เป็ นกระบวนการต่ อเนื่อง/พลวัต (ongoing/dynamic) ทีเ่ ชื่อมโยงกับหลักสู ตร การเรียนการสอน
และการวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้
 เป็ นรู ปแบบทีเ่ ปิ ดโอกาสให้ ผ้ ูเรียนสามารถเลือกและแสดงความรู้ /ความเข้ าใจ ความสามารถ/
ทักษะ และทัศนคติ/ความเชื่อทีต่ นมีตามความเป็ นจริงได้ อย่ างอิสระ
 วิธีดาเนินการมีความยืดหยุ่น ปรับเปลีย่ นได้ ตามบริบทของการจัดเรียนรู้ ในชั้นเรียน
 มีความสอดคล้ องกับบริบทชั้ นเรียนและวัฒนธรรมการเรียนรู้ ของผู้เรียน
 เน้ นวัดประเมินผลการปฏิบต
ั ิงานของผู้เรียนทีส่ ั มพันธ์ กบั “โลกแห่ งความเป็ นจริง”
 เน้ นการวัดประเมินเพือ่ พัฒนากระบวนการเรียนรู้ มากกว่ าการตัดสิ นหรือพิสูจน์ ให้ เห็นว่ ามีการ
เรียนรู้ (เช่ น ตัดเกรด)
 ลดความตึงเครียดและความวิตกกังวลจากประสบการณ์ ใดๆ ในทางลบทีเ่ กิดจากการวัดประเมิน
การเรียนรู้แบบดั้งเดิม
 ส่ งเสริมให้ ผ้ ูเรียนวัดประเมินการเรียนรู้ ด้วยตนเองหรือโดยกลุ่มเพือ่ น (Self- or PeerAssessment) เพือ่ ให้ เกิดการคิดสะท้ อนกลับมาพัฒนาการเรียนรู้ของตนต่ อไป

13
๑. คาสาคัญ ความหมาย และแนวคิดพืน้ ฐานทีเ่ กีย่ วข้อง (ต่อ)
กระบวนทัศน์ ใหม่ ในการวัดประเมินการเรียนรู้ (๕)
• ลักษณะของการวัดประเมินตามสภาพจริง
ใช้ วธิ ีการกระตุ้น/ท้ าทายนิสิต/นักศึกษาให้ ปฏิบตั ิการหรือแสดงออกในสภาพการณ์ จริง
(Performance in the field) ว่ ามีความรู้ /ความเข้ าใจ ความสามารถ/ทักษะ และอารมณ์ /
ความรู้สึก เพียงใด อย่ างไร
 กาหนดโจทย์ ให้ ปฏิบตั ิหรือแก้ ปัญหาโดยใช้ กจิ กรรมหรืองานทีอ่ ยู่ในโลกแห่ งความเป็ นจริง
 ใช้ เครื่องมือและวิธีการวัดประเมินทีห
่ ลากหลาย รวมทั้งสอดคล้ องกับลักษณะผลการเรียนรู้
และบริบททีต่ ้ องการวัดประเมิน มากยิง่ ขึน้
 ผลการวัดประเมินทาให้ ครู มส
ี ารสนเทศเพือ่ ใช้ ตัดสิ นใจในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ในชั้น
เรียน มากขึน้


มีกฎเกณฑ์ สาหรับใช้ ในการวัดประเมิน (Assessment rubrics)
เน้ นให้ ผู้เรียนสะท้ อนผลการเรียนรู้และครู สะท้ อนผลการจัดการเรียนรู้ของตน (self
reflection) จากสารสนเทศผลการวัดประเมิน
We do not learn from experience. We learn from reflecting on experience. John Dewey

14
๑. คาสาคัญ ความหมาย และแนวคิดพืน้ ฐานทีเ่ กีย่ วข้อง (ต่อ)
กระบวนทัศน์ ใหม่ ในการวัดประเมินการเรียนรู้ (๖)
สรุ ปประเภทและลักษณะของการวัดประเมินการเรียนรู้ (1)
ประเภทของการวัดประเมิน
(Types of assessment)
กระบวนทัศน์
(Paradigm)
จุดมุ่งหมายหลัก
(Main purpose)
จุดมุ่งเน้ น
(Focus)
การวัดประเมินเพือ่ การเรียนรู้
(Assessment FOR Learning):
Formative assessment
สรรค์สร้ างนิยม
(Constructivism)
เพือ่ เข้ าใจและปรับปรุงการ
เรียนรู้ของผู้เรียน (ความ
แตกต่ างระหว่างบุคคล)
กระบวนการเรียนรู้
(พัฒนา/ปรับปรุง
การเรียนรู้)
การวัดประเมินขณะเรียนรู้
(Assessment AS Learning):
Formative assessment
พุทธิปัญญานิยม
(Cognitivism)
เพือ่ พัฒนาให้ เรียนรู้ได้ ด้วย วิธีการเรียนรู้แบบกากับ
ตนเองอย่ างอิสระ
ตนของผู้เรียน
(Autonomous or
(ส่ งเสริมการเรียนรู้ แบบ
independent learners)
กากับหรือนาตนเอง)
(ส่ วนบุคคล)
การวัดประเมินผลการเรียนรู้
(Assessment OF Learning):
Summative assessment
พฤติกรรมนิยม
(Behaviorism)
เพือ่ ตรวจสอบการบรรลุ
เป้ าหมายหรือวัตถุประสงค์
การเรียนรู้ (แต่ ละบุคคล)
ผลการเรียนรู้
(ตรวจสอบการเรียนรู้ )
Berry (2008, pp. 9-11) สมหวัง พิธิยานุวฒั น์ (กาลังพิมพ์)
15
การวัดประเมินการเรี ยนร้ ูรายภาคเรี ยน
ช่ วงการเรียนรู้
ก่อนการสอน
วัดประเมินผลการเรียนรู้
(Assessment FOR Learning)
• แบบทดสอบรวม
•ทดสอบย่ อย
ช่ วงต้ นภาคเรียน • ปฏิบตั ิงาน
• คุณลักษณะอัน
พึงประสงค์
• ผลสัมฤทธิ์
• ผลสั มฤทธิ์
เครื่องมือ/วิธีการ
(Assessment AS Learning)
• มาตรประเมินรูปแบบเรียนรู้
•แบบทดสอบฉับพลัน (Quiz)
• กระบวนการ &
• วิธีการประเมินการปฏิบตั ิ
ผลงาน
• แบบตรวจสอบรายการ
• คุณลักษณะทีร่ ะบุใน • มาตรประเมินค่ า
กรอบหลักสู ตรและ
• วิธีการสั งเกต
แหล่ งอืน่ ๆ
• วิธีการสอบถามด้ วยวาจา
Assessment OF Learning
กลางภาคเรียน
• แบบทดสอบ
• ทดสอบสรุ ป
• ผลสั มฤทธิ์
(Mid-term)
• แฟ้ มสะสมงาน (Portfolio)
16
การวัดประเมินการเรี ยนร้ ูรายภาคเรี ยน (ต่ อ)
การวัด/ประเมินผลการเรียนรู้
ช่ วงการเรียนรู้
(Assessment FOR Learning)
ช่ วงหลังภาคเรียน • ทดสอบย่ อย
• ผลสั มฤทธิ์
• ปฏิบตั ิงาน
• กระบวนการ &
เครื่องมือ/วิธีการ
(Assessment AS Learning)
• แบบทดสอบฉับพลัน (Quiz)
• วิธีการประเมินภาคปฏิบตั ิ
• คุณลักษณะอัน ผลงาน
• แบบตรวจสอบรายการ
พึงประสงค์
•คุณลักษณะทีร่ ะบุใน • มาตรประเมินค่ า
TQF
• วิธีการสั งเกต
(Assessment OF Learning)
ปลายภาคเรียน
• ทดสอบสรุปรวม • ผลสั มฤทธิ์
(Final)
• วิธีการสอบถามด้ วยวาจา
• แบบทดสอบ
• แฟ้ มสะสมงาน (Portfolio)
17
๒. กลยุทธ์ ของการวัดประเมินเพือ่ การเรียนรู้
ผู้สอนกาลังจะไปไหน (จะนาพาผู้เรียนไปทีใ่ ด)
กลยุทธ์ ที่ 1: ให้ ผ้เู รียนรู้และเข้ าใจวิสัยทัศน์ เกีย่ วกับเป้ าหมายการเรียนรู้อย่ างชัดเจน
กลยุทธ์ ที่ 2: แบ่ งปันตัวอย่ างและตัวแบบงานที่ได้ เรียนรู้ (ทั้งที่ดแี ละไม่ ด)ี ให้ ผ้เู รียนทราบ
ผู้สอนอยู่ทใี่ ดในเวลานี้
กลยุทธ์ ที่ 3: ให้ สารสนเทศป้ อนกลับ (Feedback) แก่ผ้เู รียนอย่ างสม่าเสมอ
กลยุทธ์ ที่ 4: สอนผู้เรียนตั้งเป้ าหมายและประเมินการเรียนรู้ของตนเอง
ผู้สอนจะสามารถจัดการเรียนรู้ไปสู่ เป้ าหมายดังกล่ าวได้ อย่ างไร (จะปิ ดช่ องว่ างจุดเป้ าหมายที่จะ
ไป-จุดทีอ่ ยู่ปัจจุบนั )
กลยุทธ์ ที่ 5: ออกแบบบทเรียนที่เน้ นเป้ าหมายการเรียนรู้แบบแยกส่ วน (มากกว่ารวมส่ วนกันอย่ างหลากหลาย
เป้ าหมาย) ในแต่ ละครั้ง
กลยุทธ์ ที่ 6: สอนผู้เรียนให้ ทบทวนผลงานการเรียนรู้แต่ ละคุณลักษณะในแต่ ละเวลา
กลยุทธ์ ที่ 7: ปลูกฝังผู้เรียนให้ คดิ สะท้ อนกลับ (ใคร่ ครวญไตร่ ตรอง) เพือ่ กากับติดตามเรียนรู้ของตนเองและ
แลกเปลีย่ นเรียนรู้กบั ผู้อนื่
Chappuis, 2009, p. 12; Citing in Stiggins & Chappuis, 2012, p. 30
18
• ๒. กลยุทธ์ ของการวัดประเมินเพือ่ การเรียนรู้
การวัดประเมินการเรียนรู้ ของผู้เรียนในโลกศัตวรรษที่ 21
• บริบทหรือเงือ่ นไขการวัดประเมินผันแปรได้ (มากกว่ าการอยู่ภายใต้ เพียงมาตรฐานเดียว)
• สภาพการประเมินสอดคล้ องกับ “โลกความเป็ นจริง” (Real world situation)
• เน้ นการวัดประเมินกระบวนการและผลผลิตของการทาโครงการ (Projects) หรืองาน (Tasks)
ทีก่ าหนดให้ ปฏิบตั ิ (Project/Task-Based learning)
• เน้ นนาผลการวัดประเมินเป็ นสารสนเทศป้ อนกลับไปสนับสนุนการเรียนรู้ท้งั ของผู้เรียนและ
ผู้สอน
• เน้ นวัดประเมินและรายงานผลการประเมินการเรียนรู้ในรู ปทีมงาน (Team results) (มากกว่ า
รายบุคคลรายบุคคล)
• เปิ ดเผยขอบข่ ายเนือ้ หาและเกณฑ์ การวัดประเมินกว้ างๆ ให้ ผ้ ูเรียนทราบ (มากกว่ าปกปิ ดไว้
เป็ นความลับ)
• สนับสนุนให้ ผู้เรียนประเมินกระบวนการและผลการเรียนรู้ของตนเอง (Self-assessment)
(Reeves, 2010; Shepard et. al., 2005)
19
หมายเหตุ: เรี ยนรู้ (Learn) เข้าใจ
(Understand) สร้างสรรค์ (Create)
สำรว จ
สารวจ (Explore) และแบ่งปัน
เรียนรู้อะไรนอกเหนื อจาก
บทเรียนบ้าง มีสิ่งใดที่ทาผิดและ
(Share)
ิ่ ิ
เรียนรู้จาก สงผดนัน้ อย่างไร
แบ่งปัน
ใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้เพื่อช่วยเหลือ
บุคคล ชัน้ เรียน ชุมชนหรือ
โลกอย่างไรบ้าง
เข้าใจ
หลักฐานอะไรที่สามารถประยุกต์
การเรียนรู้ในขอบเขตการรู้คิด
หนึ่ งไปยังที่คล้ายๆ กัน
สร้ำงสรรค์
การวัดประเมิน
ทักษะการเรียนรู้ ใน
ศัตวรรษที่ 21
มีแนวคิด ความรู้ หรือความ
เข้าใจใหม่อะไรบ้าง ที่
สามารถนาเสนอได้
เรียนรู้
รู้อะไร และสามารถทาอะไร
ได้บ้าง
กรอบแนวคิดการวัดประเมินทักษะการเรียนรู้ ในศัตวรรษที่ 21
(ที่มา: อ้างอิงจาก Reeves, 2010, p.312)
20
เป้ าหมาย/ผลการเรียนรู้ ของผู้เรียนในโลกศัตวรรษที่ 21
กรอบแนวคิดทักษะในศัตวรรษที่ 21
(The Partnership of 21st Century Skills–
P21)
การเรียนรู้ในศัตวรรษที่ 21 ที่ห้องปฏิบัตกิ ารทางการ
ศึกษาในเขตพืน้ ที่ส่วนกลางตอนเหนือ (North Central
Regional Educational Laboratory–NCREL) หรือที่
นิยมเรียกว่า enGauge model พัฒนาขึน้ ในปี ค.ศ. 2003
โดยได้ รับการอ้างอิงถึงในหนังสือ 21st Century Skills
ค่อนข้ างมากเช่ นเดียวกับ P21 Framework
21
• ๒. กลยุทธ์ ของการวัดประเมินเพือ่ การเรียนรู้
หลักการตั้งคาถามเพือ่ วัดประเมินการเรียนรู้
• เน้ นตั้งคาถามทีต่ ้ องการคาตอบแบบให้ เหตุผล
▫
▫
▫
▫
▫
▫
คาถามเชิงวิเคราะห์
คาถามเชิงสังเคราะห์
คาถามเชิงเปรียบเทียบ
คาถามเชิงจาแนก
คาถามเชิงประเมิน
คาถามนิรนัยและอุปนัย
▫
▫
▫
▫
คาถามที่ช่วยให้ ผ้เู รียนตั้งข้ อสังเกตและเรียนรู้
คาถามที่ช่วยให้ ผ้เู รียนถ่ ายโยงการเรียนรู้
คาถามที่ช่วยให้ ผ้เู รียนยืนยัน/ตรวจสอบสิ่งที่ได้ เรียนรู้
คาถามที่ช่วยทาให้ ผ้เู รียนกากับ/ควบคุมตนเอง
• เน้ นตั้งคาถามทีก่ ระตุ้นการคิดและสนับสนุนการเรียนรู้
• เน้ นตั้งคาถามแบบลุ่มลึกและเชื่อมโยงสาระเดียวกัน
▫ เช่ น ตั้งคาถามเกีย่ วกับการอ่านหนังสื อนอกเวลาภาษาอังกฤษ (อ่านเข้ าใจเรื่องราวได้ มากน้ อยเพียงใด มีคาศัพท์ ง่ายหรือ
ยากต่ อการเข้ าใจบ้ าง ผู้เขียนมีกลยุทธ์ ในการเสนอเรื่องราวอย่ างไร เรียนรู้ อะไรบ้ างจากเรื่องราวทีอ่ ่ าน และโดยภาพรวม
แล้วชอบเรื่องทีอ่ ่านหรือไม่ อย่ างไร)
• กระตุ้นให้ ผู้เรียนตั้งคาถามด้ วยตนเองเพือ่ สะท้ อนกลับความคิดของตนเอง
22
• ๒. กลยุทธ์ ของการวัดประเมินเพือ่ การเรียนรู้
หลักการสาคัญให้ สารสนเทศป้อนกลับ (Feedback) เพือ่ พัฒนาการเรียนรู้
• ใช้ กฎเกณฑ์ /แนวทางการให้ คะแนน (Scoring rubrics or guidelines) เป็ นแนวทางการให้ สารสนเทศป้ อนกลับ
เพือ่ ความชัดเจน
• เน้ นการให้ สารสนเทศป้ อนกลับเชิงเปรียบเทียบกับเกณฑ์ มาตรฐาน (มากกว่าการให้ สารสนเทศป้ อนกลับเชิง
เปรียบเทียบระหว่างผู้เรียนด้ วยกัน)
• ส่ งเสริมบรรยากาศในหมู่ผ้เู รียนให้ มีการวิพากษ์ เชิงสร้ างสรรค์ มีการคิดใคร่ ครวญทวนสอบความคิดและการ
เรียนรู้ของตนเอง และการยอมรับจุดจากัดที่ต้องพัฒนาปรับปรุง
• ใช้ ผลงานหรือทักษะจากการปฏิบัตงิ านของผู้เรียนเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานแต่ ละระดับเพือ่ บ่ งชี้ข้อดีและข้ อจากัด
ในการเรียนรู้ของผู้เรียน
• ควรเกิดขึน้ อย่ างสม่าเสมอตลอดกระบวนการเรียนรู้ (มิใช่ เฉพาะตอนจบการสอนแต่ ละหัวข้ อ)
• ครู/อาจารย์ และผู้เรียนต้ องเข้ าใจร่ วมกันว่าการให้ สารสนเทศป้ อนกลับช่ วยเอือ้ อานวยให้ เกิดการเรียนรู้ ต้ อง
เชื่อถือและไว้วางใจระหว่างกัน
• ควรรวบรวมและวิเคราะห์ ข้อผิดพลาดสาคัญ (Key errors) ที่เกิดจากการเรียนรู้ของผู้เรียนว่ามีอะไรบ้ าง เกิดจาก
สาเหตุอะไร และจะให้ สารสนเทศป้ อนกลับอะไรเพือ่ ช่ วยให้ ผ้เู รียนหลีกเลีย่ งข้ อผิดพลาดเหล่านั้น (อาจกระทาผ่าน
กระบวนการวิจยั ในชั้นเรียน)
• ใช้ กลยุทธ์ การเสริมแรงทางบวกด้ วยการสื่อสารให้ ผ้เู รียนรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง (Self-esteem) และรับรู้
ความสามารถของตนเอง (Self-efficacy) ในขณะให้ สารสนเทศป้ อนกลับเพือ่ พัฒนาการเรียนรู้
• สื่อสารด้ วยถ้ อยคาทางภาษาที่เข้ าใจง่ ายๆ ตรงประเด็นที่ต้องพัฒนาปรับปรุง และมีระดับความยากง่ ายเหมาะสม
(ไม่ ง่ายเกินไปจนขาดความท้ าทาย หรือยากเกินไปจนเกิดความท้ อแท้ !!!)
23
2. เป้ าหมายการวัด
ประเมินชัดเจน
๓. แนวทางการประเมินการเรียนรู้ ทมี่ ีคุณภาพ
วัดประเมินอะไร เป้ าหมาย
ชัดเจนต่อผูส้ อนและผูเ้ รี ยน
หรื อไม่
1. จุดมุ่งหมายการวัด
ประเมินชัดเจน
3.1 เครื่องมือ-วิธีการ
วัดประเมินทาไม ใครจะ
วัดประเมินสอดคล้อง
ใช้ผลวัดประเมิน ผูเ้ รี ยน
กับเป้ าหมายการเรียนรู้ 3.ออกแบบ
เป็ นผูใ้ ช้ดว้ ยหรื อไม่
& จุดมุ่งหมายการประเมิน วัดประเมินที่ดี
วัดประเมินอย่างไร เครื่ องมือ
วิธีการใด & มีคุณภาพ
3.2 เลือกตัวอย่ างภาระ
หรื อไม่
งาน/กิจกรรมที่จะวัด
ประเมินเหมาะสม
ผูเ้ รี ยนมีบทบาทอะไรและ
มีหลีกเลี่ยงความลาเอียง
หรื อไม่ อย่างไร
5. สื่อสารมีประสิทธิผล
รายงานผลบรรลุจุดมุ่งหมาย
ตอบสนองความจาเป็ น
ของผูเ้ รี ยน & ผูเ้ กี่ยวข้อง
ดัดแปลงจาก Stiggins & Chappuis, 2012, p.24)
24
๔. กระบวนการวัดประเมินการเรียนรู้ในชั้นเรียน
กระบวนการวัดประเมินในชั้นเรียน
แผนภาพกระบวนการวัดประเมินในชั้นเรียน
• วางแผน
▫ ทาความเข้ าใจบริบทการเรียนรู้ ที่จะวัดประเมิน
▫ กาหนดจุดมุ่งหมายการวัดประเมินและใช้ ผลการวัด
ประเมิน
▫ กาหนดเป้ าหมาย/ผลการเรี ยนรู้ที่จะวัดประเมิน
▫ เลือกเครื่ องมือ/วิธีการรวบรวมข้ อมูลสารสนเทศ
และเกณฑ์ มาตรฐานคุณภาพ
• ลงมือวัดประเมิน (รวบรวมข้ อมูลสารสนเทศ)
▫ ลงมือรวบรวม (ตระหนักต่ อจรรยาบรรณ)
• รายงานผล
▫ วิเคราะห์ และตีความข้ อมูลสารสนเทศ
▫ รายงานผลและพัฒนาการเรียนการสอน
http://www.utexas.edu/academic/diia/
assessment/iar/teaching/
25
การวัดประเมินผลการเรียนรู้
วัดประเมินผลการเรียนรู้
ผลผลิตสุ ดท้ าย
ทีอ่ ยู่ในรู ปแบบ
2 องค์ประกอบที่แสดงในรูปแบบ
เป้ าหมาย ผลลัพธ์ หรือสมรรถนะ
ข้ อความ คือ มาตรฐานที่คาดหมาย
ว่าผู้เรียนว่าสามารถ
บรรลุผลได้ สาเร็จ
วัดประเมินโดยวิธีการของ
เกณฑ์ มาตรฐานวัดประเมิน
สิ่ งทีว่ ดั ประเมิน
๔. กระบวนการวัดประเมินการเรียนรู้ในชั้นเรียน
สมรรถนะทีป่ ระยุกต์ ใช้
ประกอบด้ วย
ทักษะพิสัยพุทธิพสิ ั ยจิตพิสัย
ทักษะพิสัย
พุทธิพสิ ัย
สมรรถนะเชิงปฏิบัติการ
สมรรถนะเชิงหลักการ
สมรรถนะเชิงสะท้ อนกลับ
(Practical competence)
(Foundational competence)
(Reflexive competence)
ที่มา: South African Qualifications Authority (2001, p.20)
26
๔. กระบวนการวัดประเมินการเรียนรู้ในชั้นเรียน
สมรรถนะของการเรียนรู้ 3 แบบ
สมรรถนะเชิงสะท้ อนกลับ
(Reflexive competence)
สมรรถนะเชิงปฏิบัติการ
สมรรถนะเชิงหลักการ
(Practical competence)
(Foundational competence)
สะท้ อนการมีความสามารถ
และทักษะด้ านการปฏิบตั ิที่
เกิดขึน้ ในสถานการณ์ หรือ
สิ่ งแวดล้ อมจริง
(การปฏิบตั ิ)
แสดงให้ เห็นถึงการมีความรู้
ความเข้ าใจและเหตุผลใน
การปฏิบตั ิ
(การให้ เหตุผลเบือ้ งหลังการ
ปฏิบตั ิ)
แสดงให้ เห็นถึงทักษะ และ
ความสามารถในการเชื่อมโยง
(บูรณาการ) การปฏิบตั ิเข้ ากับ
ความรู้ความเข้ าใจในงานทีท่ า
อย่ างไตร่ ตรองและมีทัศนคติที่
ดี (ความสามารถประยุกต์ และ
การอธิบายเหตุผลสนับสนุน
การปฏิบตั ิงาน)
พุทธิพสิ ั ย
ทักษะพิสัย-พุทธิพสิ ั ย- จิตพิสัย
ทักษะพิสัย
ทีม่ า: South African Qualifications Authority (2001, p.21)
27
๔. กระบวนการวัดประเมินการเรียนรู้ในชั้นเรียน
เป้ าหมายหรือผลการเรียนรู้ ทคี่ าดหวังของผู้เรียน (Students’ Expected Learning Outcomes)
จิตพิสัย (Affective Domain)
คนดี: มีคุณธรรม/
จริยธรรม/จิตพิสัยดี (Ethical/
Affective Characteristics)
คนมีสุข: มีสุขภาพ
กายและสุ ขภาพจิตดี/มี
สุ นทรียภาพดี (Physical
& Mental
Health/Aesthetic
Value)
พุทธิพสิ ัย (Cognitive Domain)
คนเก่ ง (๑): มีความรู้ความคิด
/สติปัญญาดี (Cognitive /Intellectual Ability)
ทักษะพิสัย (Psychomotor Domain)
คนเก่ ง (๒): มีทกั ษะ/กระบวนการ/
ความสามารถทางปฏิบัติ (Psychomotor
skill/ Performance)
เชาวน์ ปัญญาอารมณ์
(Emotional Intelligence-EI
or EQ) และสุ นทรียศาสตร์
IQ
MQ
28
Cognitive Domain
Higherorder
Thinking
Skills
Advanced
Reasoning
Basic
From: ดัดแปลงจาก Sallee (2012, June)
http://suzanne-sallee-iachieve.blogspot.com/2011/08/mobile-learningand-blooms-taxonomy.html
29
http://softchalkcloud.com/lesson/files/8wXSLynRaeBOP6/Learning_Outcomes_
Lesson_print.html
30
http://softchalkcloud.com/lesson/files/8wXSLynRaeBOP6/Learning_Outcomes_
Lesson_print.html
31
ตัวอย่างตารางแสดงรายละเอียดสาระและผลการเรียนรู้ ที่ต้องการวัดประเมิน
ทีม่ า: http://cjc-educ10.wikispaces.com/Table+of+Specifications+(TOS)
32
จิตพิสัย (จิตนิสัย/อารมณ์ ):
แนวทางการวัดประเมินตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ (๑)
มาตรฐานผลการเรียนรู้ ด้านจิตพิสัย
• มีความประพฤติอย่ างมีคณ
ุ ธรรม/
จริ ยธรรม
• มีความรั บผิดชอบต่ อตนเองและ
ส่ วนรวม/สั งคม
• มีความสามารถปรั บตนท่ ามกลางความ
ขัดแย้ งทางค่ านิยม
• มีการพัฒนานิสัยและปฏิบัติตนตาม
ศีลธรรม
• มีการแสดงถึงภาวะผู้นา
• มีความสัมพันธ์ ระหว่ างบุคคล
• มีความสามารถในการทางานเป็ นกลุ่ม
เครื่องมือ/วิธีการ
• การสั งเกตของอาจารย์
• แบบมีโครงสร้ าง
• แบบไม่ มีโครงสร้ าง
• การประเมินโดยกลุ่มเพือ่ น
• สั งคมมิติ (Sociometric approach)
• การทายชื่อคุณลักษณะ/พฤติกรรมของ
บุคคล (Guess-Who approach)
• การรายงานตนเองของนิสิต/นักศึกษา
• แบบสอบถาม
• มาตรประมาณค่ า (Rating scale)
• การใช้ แฟ้มสะสมงาน (Portfolio
assessment)
33
การเลือกเครื่องมือ/วิธีการรวบรวมข้ อมูลสารสนเทศ (๒)
แบบสร้ างคาตอบ
แบบเลือกคาตอบ
• แบบเลือกตอบ
หลายตัวเลือก
• แบบถูก-ผิด
• แบบจับคู่
• แบบเติมคา
ผลผลิต







การปฏิบัติ
เขียนบทความ/ทางานสร้ างสรรค์
เขียนรายงานสะท้ อนการเรียนรู้
เขียนตอบแบบสั้ นๆ
ทาตาราง/แผนภูม/ิ กราฟ
แสดงนิทรรศการ
แฟ้มสะสมงาน
ทาโครงงาน/โครงการ






การนาเสนอด้ วยวาจา
การอ่ านทานองเสนาะ
การโต้ วาที/การอภิปราย
การแสดงละคร/เต้ นรา
การแสดงดนตรี/กีฬา
การวาดภาพ/การสาธิต
การตั้งคาถาม
การสั งเกตอย่ างเป็ นทางการ/ไม่ เป็ นทางการ
การพูดคุยระหว่ างอาจารย์ กบั นิสิต/นักศึกษา
A Teacher ’ Guide To Classroom Assessment
34
การเลือกเครื่องมือ/วิธีการรวบรวมข้ อมูลสารสนเทศ (๓)
35
เครื่องมือและวิธีการวัดประเมิน
เป้ าหมายหรือ
ผลการเรียนรู้
ที่คาดหวัง
SELECTED
RESPONSE
ESSAY
PERFORMANCE
ASSESSMENT
PERSONAL
COMMUNICATION
Know
Reasoning
Performance
Skills
Products
Dispositions
Learning targets for 21st Century
(Stiggins & Chappuis, 2012,pp. 45-46)
Stiggins & Chappuis (2012, p. 73)
36
ตัวอย่าง: การวัดประเมินด้ านจิตพิสัย (จิตนิสัย/อารมณ์ ):
แนวทางการวัดประเมินตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ (๑)
37
ตัวอย่าง: การวัดประเมินจิตพิสัย (จิตนิสัย/อารมณ์ ):
แนวทางการวัดประเมินตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ (๒)
๙. จิตพิสัย:
แนวทางการวัดประเมินตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ (๓)
ตัวอย่ าง: มาตรประเมินปฏิสัมพันธ์ ทางสังคมของนิสิต/นักศึกษา
38
พุทธิพสิ ั ย/ทักษะพิสัย:
แนวทางการวัดประเมินตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ (๑)
มาตรฐานผลการเรียนรู้ ด้านพุทธิพสิ ัย/ทักษะพิสัย เครื่องมือ/วิธีการ
• มีความรู้ความเข้ าใจ วิเคราะห์ และจาแนก
• แบบทดสอบ
ข้ อเท็จจริงในหลักการ ทฤษฎี และกระบวนการ
• แบบเลือกตอบ (Multiple-choice test)
ต่ างๆ
• แบบความเรียง (Essay test)
• สามารถวิเคราะห์ สถานการณ์ และใช้ ความรู้
• การวัดประเมินการปฏิบตั ิ (Performance
assessments)
ความเข้ าใจในแนวคิด หลักการ ทฤษฎี และ
• กาหนดงาน/กิจกรรมและบริบทเงือ่ นไข
กระบวนการต่ างๆ ในการแก้ ปัญหา
• กาหนดเกณฑ์ การให้ คะแนน (Scoring
• สามารถวิเคราะห์ เชิงตัวเลขและใช้ เทคนิคทาง
rubrics) เป็ นแบบองค์ รวม (Holistic) หรือ
คณิตศาสตร์ และสถิติ
แบบวิเคราะห์ (Analytic)
• สามารถสื่อสารทั้งการพูด การเขียน และการใช้
• ใช้ วธิ ีการสั งเกตร่ วมกับมาตรประมาณค่ า
เทคโนโลยีสารสนเทศ
(Rating scale) และ/หรือ
• สามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง
• ใช้ แบบตรวจสอบรายการ (Check-lists)
• การใช้ แฟ้มสะสมงาน (Portfolio assessment)
39
พุทธิพสิ ัย/ทักษะพิสัย:
แนวทางการวัดประเมินตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ (๒)
เครื่องมือ/วิธีการ
• แบบทดสอบ (แบบเลือกตอบ)
เครื่องมือ/วิธีการ (ต่ อ)
• การวัดประเมินภาคปฏิบตั ิ
▫ ข้ อดี : เป็ นปรนัย/ครอบคลุมเนือ้ หาสาระที่
ต้ องการวัดประเมิน/ตรวจง่ าย
▫ ข้ อจากัด: สร้ าง (ให้ มีคุณภาพดี) ทาได้ ยากและ
ใช้ เวลามาก/เหมาะกับการวัดประเมินความรู้
ความเข้ าใจ/อาจเดาได้ ถูกโดยไม่ มีความรู้ /
▫ ข้ อดี : สอดคล้องกับสภาพจริง/บูรณาการกับการ
จัดการเรียนรู้/เหมาะกับการวัดทักษะหรือ
ประยุกต์ ความรู้ไปใช้ แก้ปัญหา
▫ ข้ อจากัด: มักเป็ นอัตนัย/ผลการวัดประเมินไม่ คง
เส้ นคงวา ณ จุดเวลาต่ างๆ (ความเที่ยงตา่ )/ใช้
เวลามากในการวางแผนและทาการวัดประเมิน
ระดับสู ง/เดาถูกได้ ยากถ้ าไม่ มีความรู้
▫ ข้ อจากัด: มักเป็ นอัตนัย/ตรวจยาก
เรียนรู้ของตนเองและร่ วมมือกับอาจารย์ ในการ
วัดประเมิน/ยืดหยุ่นและปรับเปลีย่ นได้ /
สอดคล้องกับสภาพจริง/
▫ ข้ อจากัด: อาจลาเอียง/ตรวจยาก/มักมีความเที่ยง
ตา่ /ใช้ เวลามากในการพัฒนาเกณฑ์ การให้ คะแนน
• แบบทดสอบ (แบบความเรียง)
• การใช้ แฟ้มสะสมงาน
▫ ข้ อดี : เหมาะกับการวัดประเมินความคิด
▫ ข้ อดี : ส่ งเสริมให้ นิสิต/นักศึกษาวัดประเมินการ
40
ตัวอย่าง: การวัดประเมินพุทธิพสิ ัย/ทักษะพิสัย:
แนวทางการวัดประเมินตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ (๕)
ตัวอย่ าง: แบบประเมินความสามารถในการ
สื่ อสาร (การพูดและเขียน)
แบบประเมินการเขียนรายงานการทดลองในห้ องปฏิบัติการ
แบบประเมินการนาเสนอและอภิปรายผลงานวิจัยในที่ประชุ ม
ที่มา: Brown wth Bull & Pendlebury (1997, p.105, 159)
41
ตัวอย่าง: การวัดประเมินพุทธิพสิ ัย/ทักษะพิสัย:
แนวทางการวัดประเมินตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ (๗)
• มาตรประเมินค่ าการกล่ าวสุ นทรพจน์ /คาบรรยาย/คาปราศรัย
▫ คาชี้แจง: โปรดประเมินความสามารถการกล่ าวสุ นทรพจน์ โดยทาเครื่องหมาย ที่จุดใดๆ บนช่ วงแสดง
ลักษณะของการกล่าวสุ นทรพจน์ พร้ อมทั้งกรอกรายละเอียดในช่ องคิดเห็นเพิม่ เติมเพือ่ ช่ วยให้ เข้ าใจเกีย่ วกับ
พฤติกรรมการกล่าวสุ นทรพจน์ ของนิสิต/นักศึกษาได้ ชัดเจนยิง่ ขึน้
ก.ด้ านเนือ้ หาสาระและการลาดับความ
1. การกล่ าวเปิ ดประเด็น
ไม่ เหมาะสม กล่ าว
ออกนอกประเด็น
เป็ นปกติธรรมดา
ไม่ มีสิ่งใดน่ าสนใจเป็ นพิเศษ
ปลุกเร้ านาเข้ าสู่
ประเด็นได้ อ ย่างน่ าสนใจยิง่
ข้ อคิดเห็นเพิม่ เติม: ..........................................................................................................................
ข.ด้ านการนาเสนอ
2. ท่ าทาง/การแสดงออก
ราบเรียบ ระดับเดียว ประหม่ าและ
แสดงความสับสน/วกวนบ่ อยครั้ง
ส่ วนใหญ่ ตรงประเด็น
มีบางครั้งแสดงความสับสน
มีความมั่นใจ เป็ นธรรมชาติ
สอดคล้ องตามถ้ อยคากล่ าวเน้ น
ข้ อคิดเห็นเพิม่ เติม: ..........................................................................................................................
42
ตัวอย่าง: การวัดประเมินผลการเรียนรู้ (พุทธิพสิ ัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย):
แนวทางการวัดประเมินโดยใช้ แฟ้มสะสมงาน (๒)
การให้ ค่าแฟ้ มสะสมผลงาน (2)
ตัวอย่ าง: เกณฑ์ /มาตรฐาน
• การพิจารณาแฟ้ม คณะกรรมการจะทาการประเมินแฟ้ ม
ด้ วยเกณฑ์ 4 ข้ อ (ข้ อละ 5 คะแนน) รวม 20 คะแนน
โดยแต่ ละคนต่ างพิจารณาแล้วนาคะแนนมาสรุปร่ วมกัน
โดยมีเกณฑ์ การตัดสิน คือ
คะแนน 18 - 20 หมายถึง ดีเลิศ
Rubrics
คะแนน 15 - 17 หมายถึง พอใจ
คะแนน 12 - 14 หมายถึง ค่อนข้ างพอใจ
คะแนนตา่ กว่า 12 หมายถึง ปรับปรุง
Criteria
1
2
3
Number of
Sources
Historical
Accuracy
1-4
5-9
10-12
Lots of historical
inaccuracies
Few inaccuracies
No apparent
inaccuracies
Can not tell from
Can tell with
Can easily tell
which
source
difficulty
where
Organization
which sources info
information
information came
was drawn from
came
from
Bibliography
Bibliography contains very
little information
Bibliography
contains most
relevant
information
All relevant
information is
included
ทีม่ า: ดัดแปลงจาก jfmueller.faculty.noctrl.edu/toolbox/rubrics.htm
การเลือกตัวอย่ างงาน/กิจกรรมการเรียนรู้ และการ
ทดสอบด้ วยวาจาเพือ่ ประเมินค่ าแฟ้ มสะสมงาน
• สาระการเรียนรู้ ภาระงาน หรือกิจกรรมหลัก
จานวนมาก จะต้ องสุ่ มหรือเจาะจงเลือกมา
เป็ นตัวอย่ างเพือ่ ทาการวัดประเมิน
• สาระการเรียนรู้ ภาระงาน หรือกิจกรรมหลัก
ที่ทาการวัดประเมินจะต้ องเป็ นตัวแทนที่ดี
ของมวลสาระการเรียนรู้ ภาระงาน หรือ
กิจกรรมการเรียนรู้ ท้งั หมดที่นิสิต/นักศึกษา
ต้ องเรียนรู้
• การสอบปากเปล่ าแฟ้มสะสมงาน นิสิต/
นักศึกษาผู้รับการประเมินเลือกแฟ้ มที่ตน
พอใจประมาณครึ่งหนึ่งของแฟ้มทั้งหมดมา
ใช้ ในการทดสอบด้ วยวาจา โดยมีข้นั ตอนการ
นาเสนอ ดังนี้
1. ผู้เรียนนาเสนอ 5 - 7 นาที
2. คณะกรรมการทดสอบซักถาม
3. ผู้ถูกประเมินออกจากห้ องทดสอบ
4. คณะกรรมการทดสอบอภิปรายและ
ปรึกษาเกีย่ วกับผลการทดสอบปากเปล่ า
43
ความตรง (Validity) ของการวัดประเมิน
• ความหมาย
▫ คุณสมบัติของเครื่องมือ/วิธีการวัดประเมิน
ทีส่ ามารถวัดประเมินได้ ตรงตามจุดมุ่งหมายที่
ต้ องการวัดได้ อย่ างถูกต้ องแม่ นยา ครอบคลุม
ครบถ้ วนตรงตามเนือ้ หาสาระ และสอดคล้ อง
ตรงตามความเป็ นจริงของสิ่ งทีต่ ้ องการวัด
(APA, 1985; Messick, 1994; Miller, Linn &
Gronlund, 1995)
โดยพิจารณาความตรง (ความเทีย่ งตรง)
ประเด็นต่ อไปนี้
 ความเหมาะสม (appropriateness)
 ความหมาย (meaningfulness) และ
 ประโยชน์ (usefulness) ของข้ อสรุปเฉพาะที่
ได้ มาจากผลของการวัดประเมิน
ดังนั้น ความตรงหรือไม่ ตรงของการวัดไม่ ได้ อยู่ทเี่ ครื่องมือ
แต่ ขนึ้ อยู่กบั ข้ อสรุปเฉพาะทีเ่ ป็ นผลมาจากค่ าทีไ่ ด้ จากการ
วัดด้ วยเครื่องมือ
ความเทีย่ ง (Reliability) ของการวัดประเมิน
วิธีการประมาณค่ าความเทีย่ ง (ความเชื่อมั่น)
• ความหมาย
คุณสมบัติของการวัดทีแ่ สดงให้ ทราบว่ าค่ า
ของคะแนนทีเ่ ป็ นผลมาจากการวัดด้ วย
เครื่องมือและวิธีการวัดประเมินที่มคี วาม
คงเส้ นคงวา (Consistency) หรือคงตัว
(Stability) หรือไม่ เพียงใด
• การทดสอบซ้า (Test–Retest Method)
• การใช้ เครื่องมือวัดที่มีความคล้ายคลึง
(Equivalent–Form Method)
• การหาค่าความคงตัวภายในเครื่องมือวัด
(Internal Consistency Method)
44
เอกสารอ้างอิง
สมหวัง พิธิยานุวฒ
ั น์ (กาลังพิมพ์ ). การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่ งชาติ. ใน องอาจ นัยพัฒน์
(บรรณาธิการ). การวิจัยสถาบันและกระบวนการเรี ยนรู้ ส่ ู อนาคต (หน้ า 37-50), กรุ งเทพฯ: บริษัทวงตะวัน จากัด.
องอาจ นัยพัฒน์ (2553). การวัดประเมินในชั้นเรียน: วิวฒ
ั นาการและแนวคิดใหม่ เพือ่ พัฒนาการเรียนรู้ . วารสารศรีนครินทรวิโรฒวิจัยและพัฒนา 2(3),
1-12.
องอาจ นัยพัฒน์ (2557). กระบวนการเรียนรู้ ส่ ู อนาคต: บันทึกสรุปและการปรั บเปลี่ยนที่ท้าทาย ใน องอาจ นัยพัฒน์ (บรรณาธิการ). การวิจัย
สถาบันและกระบวนการเรี ยนรู้ส่ ู อนาคต (หน้ า 105-120), กรุ งเทพฯ: บริษัทวงตะวัน จากัด.
South African Qualifications Authority (2001). Criteria and Guidelines for Assessment of NQF Registered Unit standards and Qualifications.
Pretoria, South Africa.
Airasian, P.W. (2000). Assessment in the classroom: A concise approach (5th ed.). New York: Mc-Graw Hill.
American Psychological Association, American Educational Research Association, & National Council on Measurement in Education.
(1985). Standards for educational and psychological testing. Washington, D.C.: American Psychological Association.
Arter, J. A., & Spandel, V. (1992). Using portfolios of student work in instruction and assessment. Educational Measurement: Issues and
Practice, 11, 36-44.
Brown, G., Bull, J. & Pendlebury, M. (1997). Assessing student learning in higher education. New York: Routledge.
McMillan, J.H/ (2004). Classroom assessment: Principles and practice for effective instruction (3rd ed.). Singapore: Pearson Education.
Messick, S. (1994). The interplay of evidence and consequences in the validation of performance assessments. Educational Research, 23(2),
13-23.
Miller, M.D., Linn, R. L., & Grondlund, N. E. (2009). Measurement and assessment in teaching (10th ed.) Englewood Cliffs, NJ: Merrill.
Reeves, D. (2010). A framework for assessing 21st century skills. In J. Bellanca & R. Brandt (Eds.). 21st century skills: Rethinking how
students learn. Bloomington, IN: Solution Tree Press.
Stiggins, R.J. & Chappuis, J. (2012). Student-Involved Assessment FOR Learning (6th ed.). Upper Saddle River, NJ: Prentice-Hall.