โดย คุณบุญมี สันโดษ

Download Report

Transcript โดย คุณบุญมี สันโดษ

การใช้หลักฐานเชิง
ประจักษ ์
้ ัง
ในการพยาบาลผู ป
้ ่ วยเรือร
(ผู ป
้ ่ วยมะเร็งทีร่ ับยาเคมี
บาบัด)
: บทเรียนจากประสบการณ์
นางบุญมี สันโดษ พยาบาล
วิชาชีพชานาญการ
พย.ม.การพยาบาลผู ใ้ หญ่
APN Oncology
25 มกราคม 2554
กลุ่มงานศ ัลยกรรม
การปฏิบต
ั ต
ิ ามหลักฐานเชิง
ประจักษ ์
(Evidence - Based Practice : EBP)
แนวคิดและความสาคัญ
หลักฐานเชิงประจักษ ์
(Evidence)
่ งเกต หรือ พิสูจน์หรือยืนยันดด้
ข้อเท็จจริงทีสั
่ านการทดลองใช้หรือพิสูจน์ในทาง
ความรู ้ทีผ่
ปฏิบต
ั แ
ิ ล้ว
สมมติฐานทางทฤษฎีทดด้
ี่ ร ับการพิสูจน์ยน
ื ยัน
ว่าเป็ นความจริงโดยมีขอ
้ มู ลหรือหลักฐาน
ประกอบการยืนยัน
่ นอยู ่
โดยสรุป ความรู ้ ข้อมู ลหรือความจริงทีเป็
้ มาจากงานวิ
่
ทังที
จ ัยและดม่ใช่งานวิจ ัย มาจาก
ความคิดเห็น ประสบการณ์ หรือข้อมู ลทาง
ประวัติศาสตร ์
ชนิ ดของหลักฐานเชิงประจักษ ์
(Type of Evidence)
รายงานผลการวิจ ัย (primary research)
รายงานผลการประเมินโครงการ
รายงานการประเมินผลลัพธ ์ของโรงพยาบาล/
หอผู ป
้ ่ วย
ความรู ้จากผู ป
้ ่ วย ผู ร้ ับบริการ ผู ด
้ ูแล
ความรู ้จากประสบการณ์ทางคลินิก / ความรู ้
่
จากบริบท ท้องถิน
่
ข้อเสนอแนะจากผู เ้ ชียวชาญ
(Expert opinions)
รายงานผลการทบทวนงานวิจ ัยอย่างเป็ นระบบ
(Systematic review)
แนวปฏิบต
ั ท
ิ างคลินิก (Clinical
practice guidelines)
่
การปฏิบต
ั ท
ิ เป็
ี นเลิศ (
Best practice )
่ ประสิทธิผล (effectiveness)
การปฏิบต
ั ก
ิ ารทีมี
่
และมีประสิทธิภาพ (efficiency) ซึงสามารถ
ยืนยันด้วยหลักฐาน หรือประจักษ ์พยานดด้
้ ดของผลลัพธ ์ทีดี
่ ทังนี
้ ้
โดยแสดงถึงตัวชีวั
่ ความ
ต้องรวบรวมมาด้วยวิธก
ี ารทีมี
่ อ
น่ าเชือถื
การปฏิบต
ั ต
ิ ามหลักฐานเชิง
ประจักษ ์
(Evidence - Based Practice : EBP)
…เป็ นกระบวนการสืบค้นหาหลักฐาน
ความรู ้จากงานวิจย
ั หรือ best practice
นามาประกอบการพิจารณา ตัดสินใจ และ
กาหนดเป็ นแนวปฏิบต
ั ห
ิ รือจัดทาเป็ น
่ าดปสู ่การปฏิบต
มาตรฐานทีน
ั .ิ ..
(Sackett et al, 1996)
การปฏิบต
ั ต
ิ ามหลักฐานเชิง
ประจักษ ์
(Evidence - Based Practice : EBP)
คือ การใช้แนวทางปฏิบต
ั ท
ิ พิ
ี่ สูจน์แล้วว่า
ดด้ผลดีมาประกอบการตัดสินใจในการ
ดู แลผู ป
้ ่ วย โดย
กระทาอย่างมีสติรอบคอบ (conscientious)
ทาอย่างเปิ ดเผยและเป็ นทีรู่ ้จัก (explicit)
มีการพิจารณาก่อนต ัดสินใจ (judicious)
การปฏิบต
ั ต
ิ ามหลักฐานเชิง
ประจักษ ์
(Evidence - Based Practice : EBP)
่ มา
…เป็ นการปฏิบต
ั ก
ิ ารโดยอาศ ัยความรู ้ทีดด้
จากการทบทวนอย่างเป็ นระบบ ร่วมกับทักษะ
ความชานาญของผู ป
้ ฏิบต
ั ิ ในการตัดสินใจ
่
่
เกียวกับปั
ญหาทีเฉพาะเจาะจงและเป็
นที่
ต้องการของผู ร้ ับบริการ...
(Pearson, 2001)
การปฏิบต
ั ต
ิ ามหลักฐานเชิง
ประจักษ ์
(Evidence - Based Practice : EBP)
เป็ นกระบวนการปร ับปรุงคุณภาพการปฏิบต
ั ิ
่ าอย่างเป็ นระบบ น่ าเชือถื
่ อ โดยอาศ ัย best
ทีท
่
่ ทสุ
practice ทีประจักษ
์แล้วว่าดด้ผลลัพธ ์ทีดี
ี่ ด
่ อและมีความเสียงน้
่
่ ด จะต้องทา
น่ าเชือถื
อยทีสุ
่ เฉพาะปั ญหา (related to specific
เฉพาะเรือง
problem)
โดยต้องระบุหวั ข้อการปฏิบต
ั ใิ ห้ช ัดเจนว่าจะ
่
เป็ นการปร ับปรุงการปฏิบต
ั เิ รืองอะดร
การปฏิบต
ั ต
ิ ามหลักฐานเชิง
ประจักษ ์
(Evidence - Based Practice : EBP)
เป็ นรู ปแบบหนึ่งของการใช้ผลการวิจ ัยดปสู ่การ
่ นยันว่า
ปฏิบต
ั ิ โดยพิจารณาเอาผลการวิจ ัยทียื
้ั
การปฏิบต
ั น
ิ นดด้
ผลดีมาเป็ นแนวทางสาหร ับ
ปร ับปรุงคุณภาพ เป็ นการลดช่องว่างระหว่าง
การวิจ ัยกับการปฏิบต
ั ิ
ความสาคัญของการปฏิบต
ั ิ
ตามหลักฐานเชิงประจักษ ์
Evidence - Based Practice : EBP
่ าให้ตอ
ความสาคัญทีท
้ ง
ปฏิบต
ั ิ
โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ ์
เป้ าหมายหลักของการจัดบริการสุขภาพภายใต้
ระบบสุขภาพยุคใหม่
แนวคิดการพัฒนารู ปแบบบริการสุขภาพให้ม ี
คุณภาพอย่างต่อเนื่ อง
่
กิจกรรมเพือการประก
น
ั คุณภาพ การร ับรอง
คุณภาพโรงพยาบาล
่ นการใช้ความรู ้ในการขับเคลือนงาน
่
สังคมในยุคทีเน้
ต่างๆให้สาเร็จ
ความคาดหวังของประชาชนต่อระบบบริการสุขภาพ
่
้
การพัฒนาการพยาบาลให้มค
ี ณ
ุ ภาพสู งสุด
่ าค ัญของผู ท
คือ ภารกิจร ับผิดชอบทีส
้ อยู
ี่ ่ใน
วิชาชีพทุกคน
พ.ร.บ.วิชาชีพ 2540 : มุ่งเน้นให้ผูใ้ ช้บริการ
่ คณ
ดด้ร ับบริการทีมี
ุ ภาพ
มาตรฐานการปฏิบต
ั ก
ิ ารพยาบาล มาตรฐาน
ที่ 3 ว่าด้วยการพัฒนาคุณภาพการปฏิบต
ั ก
ิ าร
พยาบาลและการผดุงครรภ ์ กาหนดลักษณะของ
การปฏิบต
ั ก
ิ ารพยาบาลฯ ดว้วา
่ เป็ นการปฏิบต
ั บ
ิ น
้
พืนฐานของศาสตร
์ทางการพยาบาลและศาสตร ์
่ ยวข้
่
่ นสมัยมีหลักฐานยืนยันดด้
ทีเกี
องทีทั
ระบบสุขภาพแนว
ใหม่
เน้นการมีส่วนร่วมของผู ใ้ ช้บริการ
เน้นการตรวจสอบคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
เน้นความคุม
้ ค่าคุม
้ ทุน
เน้นการประเมินผลลัพธ ์อย่างครอบคลุม
รู ้จักคุณค่าและใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม
เน้นการใช้หลักฐานเชิงประจ ักษ ์ / ประเด็น
จริยธรรมและสิทธิมนุ ษยชน
เน้นการประสานความร่วมมือและการทางาน
เป้ าหมายของการปฏิบต
ั ต
ิ าม
หลักฐานเชิงประจักษ ์
 ปร ังปรุงคุณภาพการปฏิบต
ั ก
ิ าร
พยาบาล
 พัฒนาคุณภาพงานบริการ
่
 มุ่งให้เกิดผลลัพธ ์การดูแลทีดี
 เป็ นการปิ ดช่องว่างระหว่างการ
วิจ ัยและการปฏิบต
ั ิ
 ลดค่าใช้จา
่ ย
กระบวนการใช้หลักฐานเชิง
ประจักษ ์
1. กาหนดหัวข้อปั ญหา
2. การกาหนดว ัตถุประสงค ์และ
ผลลัพธ ์
3. การสืบค้นหลักฐานความรู ้เชิง
ประจักษ ์
4. การประเมินคุณค่าของหลักฐาน
ความรู ้
5. การพัฒนาแนวปฏิบต
ั ิ
้
6. การใช้แนวปฏิบต
ั ท
ิ สร
ี่ ้างขึน
7. การประเมินผลลัพธ ์และการ
ปร ับปรุง
้
่ 1. การกาหนดหัวข้อ
ขันตอนที
ปั ญหา
เป็ นกิจกรรมขัน
้ แรกของการปรับปรุง
ระบบงาน/กิจกรรมคุณภาพ
 เป็ นจุดเริม
่ ต ้นในการค ้นหาปั ญหา โอกาส
พัฒนา
 การทาดีอยูแ
่ ล ้วก็ยังต ้องพัฒนาให ้ดียงิ่ ขึน
้
ไม่ได ้หมายความว่าสงิ่ ทีท
่ าอยูไ่ ม่ด ี ทีม
่ อ
ี ยูอ
่ าจ
ยังไม่เป็ นระบบ
 ทีมงานต ้องร่วมกันวิเคราะห์ค ้นหาประเด็น
สาคัญของการบริการพยาบาล
ั อย่างมาทาโดย
 ไม่ควรผลักดันให ้หาอะไรสก
ไม่รู ้ความหมายหรือไม่มจ
ี ด
ุ มุง่ หมาย
การคัดเลือกประเด็นปั ญหา
High Risk
High Volume
High Variation
High Cost
Problem prone
Not satisfied
High Risk :่
 กิจกรรมการปฏิบต
ั ก
ิ ารดูแลใดๆทีหากมี
ความบกพร่อง / ดม่มม
ี าตรฐานการปฏิบต
ั ท
ิ ี่
ช ัดเจน จะเกิดผลกระทบ/อ ันตรายแก่
ผู ใ้ ช้บริการและผู ใ้ ห้บริการ
High Volume :-
่
่ ป ริมาณในการปฏิบต
 เรืองที
มี
ั ก
ิ จ
ิ กรรมการ
ดูแลเป็ นจานวนมาก
่ องทา
 กิจกรรมหรือการปฏิบต
ั ก
ิ ารดูแลทีต้
เป็ นประจา
่
้
 มีป ริมาณผู ใ้ ช้บริการในเรืองเหล่
านันเป็
น
High Variation : มีความแตกต่างกันในการปฏิบต
ั ม
ิ าก หรือ
่
มีการเบียงเบนดปจากมาตรฐานและแนว
ทางการปฏิบต
ั ท
ิ ก
ี่ าหนดดว้ หรือผลลัพธ ์
แปรปรวน
High Cost :-
่ คา
 การปฏิบต
ั ก
ิ ารดูแลทีมี
่ ใช้จา
่ ยสูงมาก ถ้า
่ ัดเจน
ดม่มม
ี าตรฐานหรือแนวทางการดูแลทีช
จะทาให้สูญเสียค่าใช้จา
่ ยโดยดม่จาเป็ นหรือ
ดด้ร ับผลลัพธ ์ดม่คม
ุ ้ ค่า
 ใช้อป
ุ กรณ์มาก ราคาแพง
Problem prone :่
่ แนวโน้มจะเกิดปั ญหา
เรืองที
มี
่ แนวโน้มว่า
กิจกรรมหรือการปฏิบต
ั ใิ ดๆทีมี
จะเกิดปั ญหาแก่ผูใ้ ช้บริการและผู ใ้ ห้บริการ
บุคลากรเคยมีประสบการณ์มาก่อนว่าเป็ น
่ อให้เกิดปั ญหามาก่อน แม้จะดม่รุนแรงก็
ปั จจัยทีก่
ตาม
Not satisfied :-
• มีความยุ่งยาก ดม่สะดวก มีขอ
้ ผิดพลาดใน
การปฏิบต
ั บ
ิ ่อยๆ
่ ในการ
เกณฑ ์ทีใช้
่
พิจารณาเพิม
ภาวะสุขภาพของประชาชน
่
้ ้อน เพิมภาระ
เกิดความสู ญเปล่า ซาซ
งานมากเกินดป
 เสียเวลาโดยดม่จาเป็ น เสียโอกาส
 เป็ นข้อร ้องเรียนของผู ใ้ ช้บริการ
กระบวนการกาหนด
ปั
ญ
หา
1. วิเคราะห ์กระบวนการ/วิธป
ี ฏิบต
ั ใิ นปั จจุบน
ั
สอดคล้องกับมาตรฐาน? เป็ นดปตามหลัก
วิชาการ? ทันสมัย? มีพนฐานบน
ื้
evidence?
้
ผลลัพธ ์เป็ นดปตามเกณฑ ์? ต ัวชีวัดคุ
ณภาพ
เป็ นอย่างดร?
่ั
2. ถ้ามีแนวปฏิบต
ั ด
ิ แ
ี ล้ว ทบทวนให้มนใจว่
าจะ
่ งประสงค ์
นาดปสู ่ระดับคุณภาพทีพึ
กระบวนการกาหนด
ปั ญหา
3. ถ้าแนวปฏิบต
ั ย
ิ งั มีความบกพร่องร่วมกัน
้
ทบทวนและจัดทาใหม่ ให้ อยู ่บนพืนฐาน
evidence
้
4. ถ้ามีแนวปฏิบต
ั ท
ิ จัดท
ี่
าดว้แล้ว ทังในประเทศ
และต่างประเทศให้ทบทวนและนามาพิจารณา
ปร ับปรุงให้เหมาะสมกับ Setting
การเขียนหลักการและ
เหตุ
ผ
ล
ความสาค ัญและความเป็ นมาของปั ญหา
ขนาดของปั ญหา ความรุนแรง ผลกระทบ
ค่าใช้จา
่ ย อ ัตราตาย ความพิการ คุณภาพ
ชีวต
ิ ภาวะสุขภาพ ฯลฯ
้ ผลลัพธ ์ จากงานวิจ ัย
ต ัวเลข สถิต ิ ต ัวชีวัด
หน่ วยงาน
ความจาเป็ น ความต้องการในการ
ปฏิบต
ั ก
ิ ารตามหลักฐานเชิงประจักษ ์
้
้
่ 2. การกาหนด
ขันตอนที
วัตถุประสงค ์และผลลัพธ ์
่ ต้
่ องการให้เกิดเมือเสร็
่
้ จกรรม
เป็ นสิงที
จสินกิ
แล้ว
มีความเป็ นรู ปธรรม สามารถวัดดด้ ประเมินดด้
่ ดจากการปฏิบต
ผลลัพธ ์ คือผลทีเกิ
ั ต
ิ ามแนว
้
ปฏิบต
ั ท
ิ พั
ี่ ฒนาขึน
( ภายหลัง
implementation )
ผลลัพธ ์ (outcome) ดด้แก่ clinical
outcome ,
Functional outcome, Financial outcome , perceptual
outcome
้
่ 2. การกาหนด
ขันตอนที
วัตถุประสงค ์และผลลัพธ ์
outcome ควรเกิดกับ ผู ใ้ ช้บริการ ผู ใ้ ห้บริการ
หน่ วยงาน/องค ์กร
่ เกิ
่ ดจาก Intervention ของ CPGs
เป็ นสิงที
้ั
้ ผลลัพธ ์ระยะ
อาจเป็ นดด้ทงผลลั
พธ ์ระยะสัน
ยาว
มีการวางแผนการประเมินผลลัพธ ์ล่วงหน้า
่
(แบบประเมิน เครืองมื
อ วิธก
ี ารเก็บข้อมู ล)
้
่ 3. การสืบค้นหลักฐาน
ขันตอนที
ความรู
้เชิ
ง
ประจักษ
์
้
กาหนดเกณฑ ์ในการสืบค้น :- ขึนอยู
่ก ับว่า
ต้องการงานระด ับใด
กาหนดคาสาค ัญของการสืบค้น :- จาก
population ,intervention ,outcome ,types of evidence
กาหนดแหล่งสืบค้น :- จาก electronic
databases ,hand searching ,reference lists , personal
communication
(ผู ท
้ รงคุณวุฒ)ิ
วิธก
ี ารสืบค้น :- สืบค้นทางelectronics,
hand-searching,
สรุปผลการสืบค้น :- จัดทารายการผลการ
แหล่งสืบค้นหลักฐานความรู ้
เชิ
ง
ประจักษ
์
Bibliographic databases :- CINAHL ,Medline ,Embase ,ProQuest
,PubMed ,SienceDirect , Blackwell Synergy etc.
Website :- www.joannabriggs.edu.au :- www.guideline.gov
:- www.cochrane.org :- www.his.ox.ac.uk/guidelines/
:- www.york.ac.uk
:- www.ncbi.nim.nih.gov/PubMed
:- www.medsch.wise.edu
:- www.nice.org.uk
:- www.health-evidence.ca :- www.sign.ac.uk
้
่ 4. การประเมินคุณค่า
ขันตอนที
หลักฐานความรู ้เชิงประจักษ ์
 ต้องมาจากการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็ น
่ การวัดผลลัพธ ์ทีเกิ
่ ดจากการปฏิบต
ระบบ ทีมี
ั ิ
่ าหนดในการ
 ผลลัพธ ์ต้องตรงกันกับทีก
พัฒนาคุณภาพของหน่ วยงาน
 ข้อเสนอแนะจากหลักฐานสามารถนาดป
ปฏิบต
ั ก
ิ ับกลุ่มผู ใ้ ช้บริการในหน่ วยงานดด้ง่าย
่ ด
และสะดวกทีสุ
่ อของหลักฐานที่
 มีระด ับความน่ าเชือถื
เหมาะสม
้
่ 4.การประเมินคุณค่า
ขันตอนที
หลักฐานความรู ้เชิงประจักษ ์
 ทุกๆหลักฐานต้องผ่านการพิจารณา
่
ตัดสินใจร่วมกันในกลุ่มผู พ
้ ฒ
ั นา CPGs ทีมี
ประสบการณ์ และใช้วจ
ิ ารณญาณในการ
่
ต ัดสินใจโดยคานึ งถึงประโยชน์ ความเสียง
ต้นทุน ค่าใช้จา
่ ย ก่อนนาดปเป็ นแนวปฏิบต
ั ิ
การประเมินคุณภาพ
งานวิ
จ
ัย
 RCT design
 กลุ่มตัวอย่างดด้ร ับการสุ่มเข้ากลุ่มที่
ศึกษา?
 กลุ่มตัวอย่างดด้ร ับการจัดกระทา
เหมือนกัน?
 การวัดผลลัพธ ์เหมือนกันทัง้ 2 กลุ่ม?
 กลุ่มต ัวอย่างมีความเหมือนกันทัง้ 2
กลุ่ม?
 Double blind randomized technic?
การประเมินคุณภาพ
งานวิ
จ
ัย
 Quasi-experimental design
 เกณฑ ์ในการเลือกกลุ่มตัวอย่างมีความ
ช ัดเจน?
 กลุ่มตัวอย่างดด้ร ับการจัดกระทา
เหมือนกัน?
 การวัดผลลัพธ ์เหมือนกันทัง้ 2 กลุ่ม?
 กลุ่มต ัวอย่างมีความเหมือนกันทัง้ 2
กลุ่ม?
 สถิตท
ิ ใช้
ี่ มค
ี วามเหมาะสม?

การประเมินคุณภาพ
งานวิ
จ
ัย
Systematic review
่ าคัญเกียวข้
่
 มีประเด็นทางคลีนิกทีส
องกับ
หัวข้อพัฒนา?
 การสืบค้นข้อมู ลอย่างกว้างขวางและเป็ น
ระบบ?
 มีการประเมินและพิจารณาคุณสมบัตข
ิ อง
่ ามาทบทวน?
งานวิจ ัยทีน
่ จากการทบทวนผลการวิจย
 ข้อสรุปทีดด้
ั มี
ความดวต่อการนาดปใช้?

การประเมินคุณภาพ
งานวิ
จ ัย
Guidelines
 การประเมินคุณภาพของแนวปฏิบต
ั ต
ิ อ
้ ง
้ อหาและกระบวนการพั
้
ประเมินทังเนื
ฒนา
้
่ นข้อเสนอแนะในแนว
 พิจารณาเนื อหาที
เป็
ปฏิบต
ั ิ
่
่
 เครืองมื
อทีเหมาะสมในการประเมิ
นคือ The
Appraisal of Guidelines for Research and Evaluation :
AGREE
 สร ้างและพัฒนาโดย The
AGREE
Collaboration, St.George’Hospital Medical
การจัดระดับของงานวิจ ัย
The Joanna Briggs Institute
(JBI) กาหนดโดย NHMRC
(Alan Pearson, 2007)
Level of
Effectiveness
evidence
่
้
1
ผลการทบทวนอย่างเป็ นระบบทีงานวิ
จย
ั ทุกชิน
้
เป็ น RCTs ทังหมด
2
ผลการทบทวน Quasi-experimental
studies
3
3a–ผลการวิจย
ั แบบ cohort studies ชนิ ดมี
กลุ่มควบคุม
3b-ผลการวิจย
ั แบบ case controlled
3c-ผลการวิจย
ั แบบ observational studies
ชนิ ดดม่มก
ี ลุ่มควบคุม
่
4
ความเห็นของผู เ้ ชียวชาญ
Expert Opinion
การแบ่งเกรดของข้อเสนอแนะ
ตามความสามารถในการประยุกต ์ใช้
(JBI, 2007)
Grade A : ข้อเสนอแนะสามารถนาดปใช้ดด้
่
เลย เป็ นทียอมร
ับเชิงจริยธรรม มีเหตุผล
่ มากในการนาดปสู ่การ
สนับสนุ นทีดี
่
บต
ั ิ และประสิทธิผลเป็ นที่
เปลียนแปลงการปฏิ
ประจักษ ์ช ัดเจน
Grade B : ข้อเสนอแนะสามารถนาดปใช้ดด้
แต่ตอ
้ งมีการเตรียมบุคลากรและอุปกรณ์อก
ี
เล็กน้อย การยอมร ับเชิงจริยธรรมยังดม่ชด
ั เจน
่ พอควรในการนาดปสู ่
มีเหตุผลสนับสนุ นทีดี
่
การเปลียนแปลงการปฏิ
บต
ั ิ และประสิทธิผล
่
การแบ่งเกรดของข้อเสนอแนะ
ตามความสามารถในการประยุกต ์ใช้
(JBI, 2007)
Grade C : ข้อเสนอแนะสามารถนาดปใช้ดด้
แต่ตอ
้ งมีการเตรียมบุคลากรและอุปกรณ์อก
ี
มาก การยอมร ับเชิงจริยธรรมอาจมีขอ
้ โต้แย้ง
บ้าง มีขอ
้ จากัดของเหตุผลสนับสนุ นในการ
่
นาดปสู ่การเปลียนแปลงการปฏิ
บต
ั ิ และ
่
ประสิทธิผลเป็ นทีประจักษ
์อาจมีขอ
้ จากัดควรมี
การพิจารณาอย่างรอบคอบ
้
่ 5. การพัฒนาแนวปฏิบต
ขันตอนที
ั ิ
ทางคลีนิก
ประกอบดปด้วย 2 phase
Phase 1
การพัฒนาแนวปฏิบต
ั ท
ิ างคลินิกโดยใช ้หลักฐานเชิง
ประจักษ ์ (Development of Evidence
Practice Guidelines : CPGs)
- กาหนดทีมงานร ับผิดชอบ ทีมสหสาขาวิชาชีพ
่
ผูเ้ ชียวชาญ
- สืบค ้น ประเมินคุณค่าและคัดเลือกหลักฐานเชิง
ประจักษ ์อย่างเป็ นระบบ
- ยกร่าง ตรวจสอบคุณภาพแนวปฏิบต
ั ิ และทา
รูปเล่ม
้
่ 5. การพัฒนาแนว
ขันตอนที
ปฏิบต
ั ท
ิ างคลีนิก
Phase 2
การนาแนวปฏิบต
ั ท
ิ างคลินิกไปใช ้ให ้เกิดผลลัพธ ์
(Implementation of Clinical Practice
Guidelines)
้ อบรมผูป้ ฏิบต
่
- ประชุมชีแจง
ั ิ ผูเ้ กียวข
้อง
- กากับดูแล นิ เทศติดตามการปฏิบต
ั ต
ิ อ
่ เนื่ อง
การพัฒนาแนวปฏิบต
ั ท
ิ าง
คลีนก
ิ
Systemic review/meta-analysis
Evidence / Best practice
Well
designed
study
Recommendations
Expert
opinion&consensus
(clinical judgment &
experience)
Clinical Practice
Guidelines Development
หลักสาคัญในการพัฒนาแนวปฏิบต
ั ิ
ทางคลินิก (CPGs)
่
ต ้องมีเป้ าหมายหลักทีผลลั
พธ ์การบริการ
 ต ้องมาจาก the best available evidence
และต ้องระบุ strength of evidence
 การแปลง evidence ต ้องผ่านการตัดสินใจของผู ้
่
่ ้ได ้มาซึง่
มีประสบการณ์และมีความเชียวชาญเพื
อให
good clinical recommendations
 ต ้องเป็ น multidisciplinary team
(customers &stakeholders)
หลักสาคัญในการพัฒนาแนวปฏิบต
ั ิ
ทางคลินิก (CPGs)
 CPGs ต้องมีความยืดหยุ่น สามารถ
ประยุกต ์ใช้ดด้ในหลายหน่ วยงาน
่
 ควรพัฒนาบนฐานค่าใช้จา
่ ยทีลดลง
่ ฒนาแล้วต้องมีการเผยแพร่และ
 CPGs ทีพั
นาดปใช้ในกลุ่มเป้ าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
 ควรมีการติดตามประเมินผลการนาCPGs ดป
่ อย่างต่อเนื่อง
ใช้ และผลลัพธ ์ทีดด้
 ควรมีการ revised อย่างสม่าเสมอ
่ 6. การใช้แนว
้
ขันตอนที
ปฏิบต
ั ท
ิ างคลีนิก
สามารถใช้ดด้หลายทาง ดด้แก่
้
การใช้แนวปฏิบต
ั ท
ิ พั
ี่ ฒนาขึนเอง
(สร ้างเอง
้
และใช้เอง) ให้ดาเนิ นการตามขันตอน
2
่ าวมาข้างต้น)
phaseทีกล่
่ อ
 การใช้แนวปฏิบต
ั ท
ิ างคลินิกทีผู
้ นท
ื่ าดว้เต็ม
รู ปแบบ จะต้องมีการประเมินคุณภาพแนว
้
ปฏิบต
ั เิ หล่านันอย่
างเป็ นระบบ ก่อนต ัดสินใจ
่
นามาใช้ โดยใช้เครืองมื
อ AGREE (The Appraisal
of Guidelines for Research and Evaluation) ซึง่
การประเมินต้องประเมินตามคูม
่ อ
ื (manual
practice) ของ AGREE Collabolation สามารถ
download ดด้ท ี่
โดยมีการประยุกต ์ หรือดัดแปลง
แนวปฏิบต
ั ก
ิ อ
่ นการนามาใช้ ซึง่
ผ่านการประเมินโดยใช้ AGREE แล้ว
มีขอ
้ จากัดบางประการในการมาใช้
้ องมี
ในหน่ วยงานตนเอง ในกรณี นีต้
การทาประชาพิจารณ์ โดยผู ม
้ ส
ี ่วน
่
เกียวข้
อง และระบุให้ช ัดเจนว่า
ประยุกต ์อย่างดร มากน้อยเพียงใด สิง่
่
ทีควรท
าอย่างยิง่ คือการทบทวน
่ นสมัย
วิชาการเชิงประจักษ ์ทีทั
่
เพิมเติ
มเข้าดป
้
่ 7. การประเมินผลลัพธ ์
ขันตอนที
และการปร ับปรุง
7.1 ประเมินโครงสร ้างและประเมิน
กระบวนการ
- ประเมินความรู ้ความเข้าใจของผู ้
ให้บริการ
- ประเมินการปฏิบต
ั ต
ิ าม CPGs (guidelines
adherence)
- ประเมินความสะดวก ยากง่ ายในการใช้
CPGs
- ประเมินปั ญหา อุปสรรคในการใช้ CPGs
้
่ 7. การประเมินผลลัพธ ์
ขันตอนที
และการปร ับปรุง
7.2 ประเมินผลลัพธ ์ของการใช้ CPGs
่ ดจากการใช้ CPGs
- รวบรวมผลลัพธ ์ทีเกิ
- ประเมินความพึงพอใจ ทัศนคติของผู ใ้ ช้
CPGs
สร ้างแบบสอบถาม / แบบสังเกต /
สัมภาษณ์ / แบบรวบรวมข้อมู ล
้
่ 7. การประเมินผลลัพธ ์
ขันตอนที
และการปร ับปรุง
7.3 หลังการทดลองใช้และมีการ
ประเมินผล
่ งต้องปร ับปรุง หรือ
ถ้าพบว่ามีขอ
้ ทียั
ประเด็นปั ญหา ให้นาข้อมู ลมาวิเคราะห ์
่
พัฒนาเพิมเติ
ม หรือปร ับปรุงแนวปฏิบต
ั ิ
ร่วมกันก่อนนาดปเผยแพร่ตอ
่ ดป
่ 8. การ
้
ขันตอนที
เผยแพร่แนวปฏิบต
ั ิ
่
เมือการพั
ฒนาแนวปฏิบต
ั ดิ ด้ครบถ้วน
สมบู รณ์ ผ่านการตรวจสอบ ทดลองใช้
ประเมินผล ปั ญหาอุปสรรค ปร ับปรุงแนว
ปฏิบต
ั จ
ิ นสามารถใช้ดด้สมบู รณ์ ให้จ ัดทา
รู ปเล่มฉบับสมบู รณ์ ประกาศใช้ในหน่ วยงาน
่
่
ในโรงพยาบาล พร ้อมกับมีการสือสารที
ช ัดเจน ติดตามประเมินผลต่อเนื่องต่อดป
The End for
This Section
มีคาถาม????ก่อนดู ตวั อย่างการ
นาลงสู ่การปฏิบต
ั ?
ิ ??
“การใช้หลักฐานเชิงประจักษ ์ในการ
่ ชอ
ลดและป้ องกันการเกิดเยือบุ
่ งปาก
อ ักเสบในผู ป
้ ่ วยมะเร็ง