38.บทที่ 2 แนวคิดทฤษฎีการพัฒนาสังคม

Download Report

Transcript 38.บทที่ 2 แนวคิดทฤษฎีการพัฒนาสังคม

ั
บทที่ 2 แนวคิดทฤษฎีการพ ัฒนาสงคม





ั
แนวทางการสร้างทฤษฎีการพ ัฒนาสงคม
ั
ทฤษฎีการพ ัฒนาสงคมสม
ัยใหม่
แนวคิดกระแสหล ัก
แนวคิดฝ่ายซา้ ย
แนวคิดทางเลือก
ั
แนวทางในการสร้างทฤษฎีการพ ัฒนาสงคม

ั
ในการสร้างทฤษฎีการพ ัฒนาสงคมอย่
างรอบด้าน (comprehensive
้ อ
social development) มีแนวทางบางอย่างทีจ
่ ะนาไปพิจารณาด ังนีค
ื
1. ทฤษฎีเป็นสงิ่ สาค ัญ ถ้าไม่มส
ี งิ่ นี้ การพ ัฒนา
ั
สงคมก็
เป็นเพียงการทดลองแบบ trial and
error experimentation ซงึ่ จะไม่มวี ันประสบ
ความสาเร็จ ไม่มค
ี วามก้าวหน้า ด ังทีเ่ ราเห็ นจาก
ั
ประสบการณ์ 10 ปี ของการพ ัฒนาสงคม
ั
2. การพ ัฒนาสงคม
ควรมี 2 สว่ น คือ การเรียนรู ้
และการประยุกต์ใชใ้ นภาคปฏิบ ัติ กระบวนการ
้ สวงหาปัจจ ัยใน
เรียนรูม
้ ี 3 ระด ับ คือ เพือ
่ นามาใชแ
ี เพือ
การดารงชพ
่ ใชใ้ นการทาความเข้าใจก ับเพือ
่ น
ั
มนุษย์ในสงคมของเรา
และเพือ
่ ใช ้ ในการสร้าง
ั
ความคิดและแสวงหาความรูใ้ นการพ ัฒนาสงคม
3. ทฤษฎี
คือการจ ัดการความรูอ
้ ย่างเป็นระบบ สงิ่ ทีเ่ รา
ต้องการคือ comprehensive theory of social
development ทีส
่ ามารถจะวิเคราะห์ปญ
ั หาและเสนอแนว
ทางการพ ัฒนาทีม
่ ห
ี ลายมิต ิ ทฤษฎีเป็น conceptual
knowledge ชนิดหนึง่ เราเอาไปใชไ้ ด้เพือ
่ จุดมุง
่ หมาย
บางอย่าง ทฤษฎีของเราควรเป็น unifying theory of
ื่ มโยงหลายสาขาแบบสห
knowledge ทีม
่ ค
ี วามเชอ
วิทยาการ
ั
ทฤษฎีการพ ัฒนาสงคมสม
ัยใหม่

ื่
หล ังสงครามโลกครงที
ั้ ่ 2 เกิดมีสาขาวิชาใหม่ ชอ
Development Economics มีการวิเคราะห์ “ยุทธศาสตร์การ
พ ัฒนา” (development strategies) ซงึ่ สาน ักอืน
่ ๆ ก่อนหน้า
นีไ้ ม่เคยกล่าวถึงเลยก่อนหน้านี้


ยุทธศาสตร์การพ ัฒนาสว่ นใหญ่เป็นแนวคิดของ
ื่ ว่า การพ ัฒนา ควร
เศรษฐศาสตร์กระแสหล ัก ซงึ่ เชอ
จะเป็นกระบวนการเปลีย
่ นแปลง โดยมีร ัฐเป็นผู ้
วางแผนและจ ัดการดูแลควบคุม ผสมผสานก ับกลไก
ตลาด
จะเห็นได้วา
่ น ักเศรษฐศาสตร์แต่ละคน ก็มแ
ี นวคิด
ของตนเองเกีย
่ วก ับยุทธศาสตร์การพ ัฒนา โดยสว่ น
ั
ใหญ่จะสงเคราะห์
จากประสบการณ์ของประเทศทุน
นิยมเป็นหล ัก


ั
ิ ต์
ในค่ายสงคมนิ
ยม และในหมูน
่ ักวิชาการแนวมาร์กซส
่ ก ัน
มีการเสนอยุทธศาสตร์การพ ัฒนาเชน
โดยได้ประสบการณ์มาจากการพ ัฒนาในกลุม
่ ประเทศ
ั
่ สหภาพโซเวียต และยุโรปตะว ันออก
สงคมนิ
ยม เชน
โดยผสมผสานก ับปร ัชญาและแนวคิดของมาร์กซ ์
ั
ในการพ ัฒนาแบบสงคมนิ
ยม

ั
ตามแนวทางของสงคมนิ
ยม
ร ัฐมีบทบาทสาค ัญในการเป็น
ศูนย์กลางของการวางแผน
และการจ ัดสรรทร ัพยากรแบบ
้ ลไกร ัฐ ไม่ใช ้
เบ็ดเสร็จ (ใชก
กลไกตลาดเลย)

ั
น ักคิดสายวิพากษ์สงคมเคยต
งั้
คาถามไว้วา
่
ทาอย่างไร จึงจะแก้ไขปัญหา
้ ยาวนานให้
ความยากจนทีย
่ ด
ื เยือ
หมดไป (chronic poverty หรือ
poverty trap)?

คาตอบ 3 แนว คือ
- แนวคิดกระแสหล ัก
- แนวคิดฝ่ายซา้ ย
- แนวคิดทางเลือก
1. แนวคิดกระแสหล ัก





ิ
ทฤษฎีสาน ักคลาสสค
ทฤษฎีของเคนส ์
ทฤษฎีของชุมปี เตอร์
ทฤษฎีภาวะท ันสม ัย
ทฤษฎีการพึง่ พา

Adam Smith ได้ร ับการยกย่องให้เป็น “บิดา
แห่งเศรษฐศาสตร์สม ัยใหม่” ในฐานะผูบ
้ ก
ุ เบิก
ทฤษฎีพ ัฒนาการทางเศรษฐกิจระยะยาวทีม
่ ก
ี าร
วิเคราะห์หลายมิต ิ
และ David Ricardo เสนอแนวคิดเกีย
่ วก ับ
ั้ างๆ ในสงคม
ั
การแบ่งรายได้ระหว่างชนชนต่
บุคคลทงสอง
ั้
มีอท
ิ ธิพลต่อความคิดของ Mark




เศรษฐศาสตร์กระแสหล ัก ใชว้ ธ
ิ ก
ี ารแบบ
่ ฟิ สก
ิ ส ์ เคมี ชวี วิทยา)
วิทยาศาสตร์ (เชน
้ ฐานของการวิเคราะห์
พืน
ิ
คือ ความคิดแบบนีโอคลาสสค
ซงึ่ มีการ
แบ่งแยกระหว่างเศรษฐกิจ ก ับการเมือง
ท ัศนะของน ักวิชาการให้การยอมร ับว่า
ิ ได้วางรากฐาน
เศรษฐศาสตร์สาน ักคลาสสค
สร้างทฤษฎีการพ ัฒนาอย่างเป็นระบบ
้ อ
น ักคิดคนสาค ัญของสาน ักนีค
ื Adam
Smith เสนอแนวคิดเรือ
่ ง “ความมง่ ั คง่ ั
ของประชาชาติ”
บนหล ักการของ “มือทีม
่ องไม่เห็น”



ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ของ John Menard Keynes
ได้กล่าวถึงความไม่มเี สถียรภาพของทุนนิยม จะทา
่ ง ๆ จนอาจ
ให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกตา
่ เป็นชว
่ ในยุค Great
กลายเป็นวิกฤติทงระบบ
ั้
ด ังเชน
Depression ในภาวะเศรษฐกิจตกตา่
Keynes
เสนอให้ ร ัฐมีบทบาทสาค ัญในการเข้าแทรกแซง
เศรษฐกิจ
Josepe A. Schumpeter เป็นน ักเศรษฐศาสตร์รน
ุ่
แรก ๆ ทีเ่ สนอ “ทฤษฎีการพ ัฒนาเศรษฐกิจ” ในยุค
ใหม่ เขาเห็นว่า ในระบบทุนนิยมจะเกิดการทาลาย
ล้างสงิ่ เก่า ๆ อยูต
่ ลอดเวลา โดยสงิ่ ใหม่ ๆ จะเข้ามา
แทนทีใ่ นล ักษณะหมุนเวียนเป็นวงจร
ื่ ว่า ทุนนิยมพ ัฒนาขึน
้ มา ได้เพราะมี
Schumpeter เชอ
“การทาลายล้างแบบสร้างสรรค์”

ทฤษฎีภาวะท ันสม ัย (Modernization
Theory)
ความสาเร็จของเศรษฐกิจในยุโรปตะว ันตก (Eropean
Recovery Programme-ERP) หล ังสงครามโลกครงที
ั้ ส
่ อง
ผนวกก ับภาวะเปลีย
่ นแปลงทางการเมืองระหว่างประเทศ
อ ันเนือ
่ งจากการได้ร ับอิสรภาพของประเทศอาณานิคม
และการขยายต ัวของสงครามเย็นระหว่างประเทศมหาอานาจ
้ ของทฤษฎีภาวะท ันสม ัย
น ับเป็นเงือ
่ นไขสาค ัญต่อการเกิดขึน

ทฤษฎีการพึง่ พา (Dependency Theory)
ต้นทศวรรษที่ 1960 น ักทฤษฎีห ัวก้าวหน้า (the
radicals) 3 กลุม
่ ได้ทาการวิพากษ์ทฤษฎีภาวะท ันสม ัย
โดยข้อเสนอทีป
่ ฏิเสธความเป็นไปได้ของการแยกเรือ
่ ง
ั
เศรษฐกิจจากเรือ
่ งทางสงคม
และกล่าวหาว่าทฤษฎีภาวะท ันสม ัยไม่เพียงพอ ต่อการ
ั
วิเคราะห์ปญ
ั หาและเสนอทางออกสาหร ับสงคมด้
อย
พ ัฒนา ได้แก่



กลุม
่ แรก น ักวิชาการสายยุโรป (the
European Line) ทีเ่ รียกว่า กลุม
่ น ักทฤษฎี
ั
สถาบ ันสงคมใหม่
(Neo-Institutional
Social Theory-NIST)
น ักคิดกลุม
่ นีร้ ว
่ มก ันเสนอทางเลือกของทฤษฎีวา่ แนวความคิด
เศรษฐศาสตร์แบบดงเดิ
ั้ มมิอาจจะใชไ้ ด้อย่างเป็นประโยชน์
เท่าทีค
่ วรในการวิเคราะห์ปญ
ั หาของโลกทีส
่ าม
พร้อมก ับเสนอว่า ความสนใจทีแ
่ ท้จริงควรจะเป็นการพิจารณาถึง
ั
ล ักษณะทางสงคมและสถาบ
ัน (social and institutional
context)
และล ักษณะระบบเศรษฐกิจของโลก (world economic
context) ซงึ่ เป็นสภาพเงือ
่ นไขทีส
่ าค ัญในการกาหนดทิศทาง
เศรษฐกิจของโลกทีส
่ าม

กลุม
่ ทีส
่ อง น ักวิชาการสายละตินอเมริกา (the
Latin American Line) ร่วมก ันเสนอทฤษฎี
แนวความคิดพึง่ พา (Dependency Theory)
้ ฏิเสธท ัศนะของน ักเศรษฐศาสตร์น ี
น ักคิดกลุม
่ นีป
ิ (neo-classic) เกีย
โอคลาสสค
่ วก ับสภาวะด้อย
พ ัฒนา โดยเรียกร้องให้เพิม
่ ความสาค ัญก ับ
ประว ัติศาสตร์ การใชร้ ะเบียบวิธป
ี ระว ัติศาสตร์
โครงสร้าง และสถาบ ัน (history/ structural/
institutional method) ในการวิเคราะห์รป
ู แบบ
การพ ัฒนา

กลุม
่ ทีส
่ าม น ักวิชาการกลุม
่ ทฤษฎีภาวะด้อยพ ัฒนา (the
underdevelopment theory) ซงึ่ นาโดย A. G. Frank
น ักคิดกลุม
่ นีว้ จ
ิ ารณ์วา่ การดาเนินการพ ัฒนาในประเทศด้อย
พ ัฒนาเป็นไปตามเงือ
่ นไขของระบบทุนนิยมโลก (world
capitalist system) และการวิเคราะห์มจ
ี ด
ุ มุง
่ เน้นทีล
่ ักษณะ
ั
ิ ต์
ทุนนิยม (capitalism) โดยอาศยแนวความคิ
ดของมาร์กซส
มาใชใ้ นการวิจารณ์
2. แนวคิดฝ่ายซา้ ย


ิ ต์
ทฤษฎีการพ ัฒนาแนวมาร์กซส
ิ ต์ (K. Marx) ได้ทาการวิพากษ์
ทฤษฎีของมาร์กซส
ิ และสร้างพาราไดม์ใหม่ในการ
ทฤษฎีสาน ักคลาสสค
วิเคราะห์เศรษฐกิจ โดยทาการวิพากษ์อย่างหน ักว่า
ต้นตอแห่งความหายนะของประชาชน คือเศรษฐกิจที่
เรียกว่า “ระบบทุนนิยม”

ั
Marx ได้ตงข้
ั้ อสงเกตและ
พยากรณ์ไว้วา
่ ทุนนิยม เต็มไป
ด้วยความข ัดแย้ง หลายประการ
และในต ัวของม ันเอง ก็ม ี
้ จนกระทง่ ั ต้อง
วิกฤตการณ์ยด
ื เยือ
ล่มสลายในทีส
่ ด
ุ



เศรษฐศาสตร์การเมืองทีเ่ รียกว่า radical
political economy หรือ radical
economics
เศรษฐศาสตร์ทางเลือกอีกแนวหนึง่ ทีม
่ พ
ี ัฒนาการทาง
ความคิดทีน
่ า
่ สนใจ และเป็นทีย
่ อมร ับก ันแพร่หลายในหมูข
่ อง
น ักวิชาการรุน
่ ใหม่ทต
ี่ อ
่ ต้านเศรษฐศาสตร์กระแสหล ัก นน
่ ั คือ
radical political economy หรือ radical economics ซงึ่
่ งทศวรรษที่ 1960 มาจนถึงปัจจุบ ัน
ปรากฏให้เราเห็นตงแต่
ั้
ชว

เศรษฐศาสตร์แนวราดิค ัล มีโลกท ัศน์คล้าย ๆ ก ับ
ิ ต์ทว่ ั ๆ ไป
เศรษฐศาสตร์การเมืองแนวมาร์กซส
คือ ต่อต้านอุดมการณ์ทน
ุ นิยม วิพากษ์ระบบเศรษฐกิจ
แบบทุนนิยม และชใ้ี ห้เห็นถึงความเลวร้ายของระบบ
ั
และผลกระทบทีม
่ ต
ี อ
่ ชวี ต
ิ ของผูค
้ นในสงคม
รวมทงต่
ั้ อต้านโครงสร้างและสถาบ ันต่าง ๆ ทีก
่ อ
่ ให้เกิด
การกดขี่ ขูดรีด การครอบงา และความแปลกแยก
(alienation)

พร้อมก ันนี้ ก็กระตุน
้ ให้มก
ี ารเคลือ
่ นไหวเพือ
่
เปลีย
่ นแปลงระบบ และสร้างระบบใหม่ให้ม ี
ความยุตธ
ิ รรม สน ับสนุนการสร้างพล ังอานาจ
ี เปรียบ
ให้แก่กลุม
่ คนผูย
้ ากไร้ ผูเ้ สย
ผูด
้ อ
้ ยโอกาส ไปจนถึงผูท
้ อ
ี่ ยูช
่ ายขอบ
ั
ของสงคม

วิธวี ท
ิ ยาของแนวราดิค ัล
เน้น
ั้ และความข ัดแย้งทาง
วิเคราะห์ชนชน
ั้ ชใี้ ห้เห็นการแบ่งแยกทางสงคม
ั
ชนชน
ื้ ชาติ เพศ และสผ
ี วิ
เชอ
เน้นการมองกระบวนการทาง
ประว ัติศาสตร์ ให้ความสาค ัญแก่
การวิเคราะห์อด
ุ มการณ์ ผลประโยชน์
ื่
และอานาจ ปฏิเสธความเชอ
ทางวิทยาศาสตร์ (positivism)
และสงิ่ ทีเ่ รียกว่า
“ปลอดค่านิยม” (value free)





ทางด้านวิธวี ท
ิ ยา
เศรษฐศาสตร์แนวราดิ
ค ัล มองว่าการอภิปรายทางวิธวี ท
ิ ยา
้ างชนชนชนิ
ั้
เป็นการต่อสูท
ดหนึง่ ทีแ
่ สดงให้
เห็นถึงอ ัตล ักษณ์ของความเป็น ราดิค ัล
เป็นการเสนอ “วาทกรรมเชงิ วิพากษ์”
(critical discourse) เพือ
่ ต่อต้านวาทกรรม
กระแสหล ัก ทีก
่ าล ังครอบงาวงการ
เศรษฐศาสตร์อยูใ่ นขณะนี้
น ักเศรษฐศาสตร์แนวราดิค ัลมองว่า หลายสงิ่
่ นเร้น
หลายอย่างในระบบทุนนิยม ถูกปิ ดบ ังซอ
โดย “มือทีม
่ องไม่เห็น”
เป็นภารกิจทีส
่ าค ัญทีเ่ ราจะต้องทาการวิพากษ์
แบบถึงราก ถึงโคนเพือ
่ เปิ ดเผยความจริงให้
ประจ ักษ์



ในหมูน
่ ักเศรษฐศาสตร์แนวนี้ มีการอภิปราย
่ ก ัน
แนวคิดทฤษฎีและวิธวี ท
ิ ยาของตนเองเชน
โดยเฉพาะอย่างยิง่ มีการต่อต้านแนวคิดของ
ิ ต์แบบโบราณ ทีบ
มาร์กซส
่ อกว่า เศรษฐกิจเป็น
ต ัวกาหนดทุกสงิ่ ทุกอย่าง (economics
reductionism)
เศรษฐศาสตร์แนวราดิค ัลจะเน้นหล ักการ
“ความหลากหลายทางวิธวี ท
ิ ยา” เสนอแนว
“ญาณวิทยาเชงิ วิพากษ์” (critical
epistemology)
3. แนวคิดการพ ัฒนาทางเลือก



ทฤษฎีการพ ัฒนาทางเลือก (Alternative Development
้ ภายใต้กระบวนท ัศน์การ
Theory) เป็นแนวคิดทีเ่ กิดขึน
พ ัฒนาทีว่ า
่
ทฤษฎีการพ ัฒนากระแสหล ักมีขอ
้ จาก ัดหลายประการ
ั
นามาซงึ่ ความหายนะทางสงคมและส
งิ่ แวดล้อม และไม่อาจ
สนองตอบปัญหาความจาเป็นของประชาชาติโดยเฉพาะ
ประเทศในโลกทีส
่ าม
จึงมีการพ ัฒนาความคิดและโลกท ัศน์ทางด้านการพ ัฒนา
้ มากมายในประเทศต่าง ๆ ทว่ ั โลก เพือ
เกิดขึน
่ หลีกหนี
ข้อจาก ัดของทฤษฎีการพ ัฒนากระแสหล ัก ซงึ่ มาจาก
ประเทศมหาอานาจ


แนวคิดนี้ วิเคราะห์วา
่ ทฤษฎีกระแส
หล ัก เป็นต้นตอสาค ัญของปัญหาการ
พ ัฒนา ยิง่ พ ัฒนา ยิง่ ยากจน เพราะ
แนวคิดทฤษฎีและยุทธศาสตร์กระแส
หล ักเป็นต้นเหตุ
อาวุธของทฤษฎีทางเลือก คือทาการ
วิพากษ์ “วาทกรรมการพ ัฒนา”
ั้ ม
ของชนชนผู
้ อ
ี านาจ พร้อมก ับการ
เสนอทางเลือกใหม่ เพือ
่ “ต่อต้าน
วาทกรรมกระแสหล ัก”

เศรษฐศาสตร์การเมืองระหว่าง
ประเทศ
ท่ามกลางการขยายต ัวของกระบวนการ
โลกาภิว ัตน์ จึงเกิดปัญหาใหม่ : การพ ัฒนา
เกีย
่ วข้องก ับ โลกาภิว ัตน์ อย่างไร ?

สาขาวิชาใหม่ international political
economy : IPE แนวคิดนีเ้ ตือนว่า เราจะ
แก้ไขปัญหาการพ ัฒนาได้อย่างน่าพอใจนน
ั้
ั ันธ์ระหว่างประเทศ
จะต้องมองไปทีค
่ วามสมพ
เราก ับทุนนิยมโลก


international political
economy ทาการวิเคราะห์
เศรษฐกิจ / การเมืองระด ับโลก
ประเทศทีก
่ าล ังพ ัฒนากาล ังถูกทุน
้
นิยมโลกเข้ามาครอบงามากขึน
ด ังนน
ั้ ทฤษฎียท
ุ ธศาสตร์การ
พ ัฒนา จะมองแค่ระด ับชาติไม่ได้
“ต ัวละคร ทีส
่ าค ัญ” ไม่ได้อยูบ
่ น
เวทีระด ับชาติแล้ว แต่อยูบ
่ นเวที
ระด ับโลก ซงึ่ มีอท
ิ ธิพลในการ
ควบคุมนโยบายเศรษฐกิจของโลก
และของประเทศทีก
่ าล ังพ ัฒนา
ต่าง ๆ
เปรียบเทียบเศรษฐศาสตร์กระแสหล ัก
ก ับเศรษฐศาสตร์ทางเลือก


1. เศรษฐศาสตร์กระแสหล ัก
ื่ ในความก้าวหน้าของความคิด แสวงหาทฤษฎี
เชอ
อ ันเป็นสากล (ไม่ขน
ึ้ ก ับประว ัติศาสตร์และบริบท)
ื่ ในความเป็นผูเ้ ชย
ี่ วชาญและแบ่งแยกสาขาความรู ้
เชอ
้ ล ักการ logical positivism แนวคิดทฤษฎีเลือ
ใชห
่ น
ลอยเหินห่างจากความเป็นจริง และแบ่งแยกระหว่าง
การวิเคราะห์อะไรคืออะไร ก ับอะไรควรเป็นอะไร

2. เศรษฐศาสตร์ทางเลือก
ต้องตรวจสอบเกีย
่ วก ับความก้าวหน้า และการ
พ ัฒนาทางความคิด ทฤษฎีตอ
้ งอิงประว ัติศาสตร์
และบริบท มองแบบ องค์รวมผสมผสานหลาย
มิตส
ิ าขาแบบบูรณาการ และเน้นความเป็นสห
้ ล ักการตีความเชงิ วิพากษ์
วิทยาการ ใชห
้ ฐานของ
(critical hermeneutics) อยูบ
่ นพืน
ความเป็นจริง และไม่มก
ี ารแบ่งแยก
ระหว่าง positivism ก ับ normative analysis