GDP ประเทศไทย + 10%

Download Report

Transcript GDP ประเทศไทย + 10%

GDP ประเทศไทย +
10%
4 Megatrend ของโลก
• Global warming
• Energy and food crisis
• Going green and Organic Farming
• Free Trade Movement
GDP ประเทศไทย + 10% ด้วย Mega-project
• TRANS-CHAO PHRAYA AND MEKONG RIVER
TRADE ROUTES
• AEC – ACMECS – BIMSTEC – DAWEI PROJECT
•GREEN –ENERGY AND GREEN ECONOMY
TRANS-CHAO PHRAYA AND MEKONG RIVER TRADE ROUTES
http://www.itd.co.th/en/Dawei%20Final%20May%202011_ROADSHOW%20FINAL_WEBSITE.pdf
จอห ์น เมย ์นาร ์ด เคนส ์
ปี 1932 เมือ
่ เศรษฐกิจตกตำ่ ซบเซำ ได ้ดำเนิน
มำตำมลำดับ ไม่เพียงแต่สหรัฐอเมริกำ ในอังกฤษ
เยอรมันตะวันตก สวิสเซอร์แลนด์ เกิดสภำพเดียวกัน
ไปหมดและขยำยขอบเขตลุกลำมทั่วโลก ตอนนัน
้
ทุกคนไม่มใี ครคิดออกว่ำจะทำอย่ำงไรดีกบ
ั ภำวะ
เศรษฐกิจทีม
่ ด
ื แปดด ้ำน
ื โด่งดังมำก
ในปี 1936 เคนส ์ ได ้พิมพ์หนั งสอ
ื่ ทฤษฎีทั่วไปว่ำด ้วยกำรจ ้ำงงำน อัตรำดอกเบีย
ชอ
้
และเงินตรำ เคนสเ์ ริม
่ ต ้นง่ำยๆ ด ้วยกำรบอกว่ำ สงิ่ ที่
ื่ กันว่ำ อุปทำนทีบ
นักเศรษฐศำตร์รน
ุ่ ก่อนๆ เชอ
่ อกว่ำ
เป็ นตัวสร ้ำงอุปสงค์ไม่จริงเสมอไป เพรำะอุปทำนไม่
จำเป็ นต ้องสร ้ำงอุปสงค์ขน
ึ้ มำในจำนวนเท่ำกันเสมอ
้ างประเทศ
การเป็ นหนี ต่
ถ ้ำหำกว่ำกำรเป็ นหนีต
้ ำ่ งประเทศ เกิดขึน
้ พอกพูน
ขึน
้ มำ เพรำะควำมจำเป็ นในกำรสร ้ำงอุตสำหกรรม และขยำย
กำรค ้ำออกไปให ้กว ้ำงขวำง เพือ
่ ขยำยกำรผลิตให ้สำมำรถ
แข่งขันกับคูแ
่ ข่งในเวทีกำรค ้ำระหว่ำงประเทศให ้ได ้ ทัง้ นี้
เพือ
่ จะได ้มีกำรสง่ ออกและทำรำยได ้เป็ นเงินตรำต่ำงประเทศ
ิ ดังกล่ำว ก็ต ้องถือว่ำ มี
เข ้ำมำในประเทศเพิม
่ มำกขึน
้ หนีส
้ น
สภำพคล่องในตัวของมันเองให ้สำมำรถแก ้ไขปั ญหำด ้วย
ตัวเองได ้ จึงไม่น่ำกลัว ?
ื่ ทีว่ ำ่ กำรใชเงิ
้ นงบประมำณแบบจัดสรร
ควำมเชอ
งบประมำณให ้ขำดดุลอยูต
่ ลอดเวลำเพือ
่ กระตุ ้นเศรษฐกิจนัน
้
เป็ นสงิ่ ทีด
่ ี ยิง่ มำกเท่ำไหร่ยงิ่ ดีเท่ำนัน
้ โดยไม่สนใจว่ำหนี้ของ
ิ ต่ำงประเทศที่
ประเทศจะมีปริมำณเท่ำไหร่ โดยเฉพำะหนีส
้ น
ก่อกันขึน
้ มำนัน
้ กลับเอำมำใชจ่้ ำยเพือ
่ กำรบริโภคในปั จจุบน
ั
มำกกว่ำ เปรียบเสมือนกับว่ำเรำเอำบ ้ำนไปจำนองธนำคำร
AEC – ACMECS – BIMSTEC – DAWEI PROJECT
ั
ิ เลขาธิการคณะกรรมการพ ัฒนาการเศรษฐกิจและสงคมแห่
ทีม
่ าภาพ : นายอาคม เติมพิทยาไพสฐ
งชาติ
ั
สาน ักงานคณะกรรมการพ ัฒนาการเศรษฐกิจและสงคมแห่
งชาติ
ประเทศไทยและการแข่งข ันในระด ับโลก
ิ กับกำรแข่งขันกับประเทศอำเซย
ี นอืน
ประเทศไทยต ้องเผชญ
่ ๆ และกำร
แข่งขันในตลำดโลก กำรดำเนินยุทธศำสตร์กำรลงทุนขนำนใหญ่ และเสริมสร ้ำงหลัก
่ ยุทธศำสตร์ด ้ำนพลังงำน, เศรษฐกิจ
ค้ำจุนสำหรับโครงกำรขนำดใหญ่ อำทิเชน
่ งทุน
คำร์บอนตำ่ (Low carbon Economy) และระบบ Logistics ข ้ำมประเทศ (ไม่ใชล
บริโภคภำยใน ตำมระบบรถไฟฟ้ ำ 7 ส ี ทำให ้เงินทุนไหลออกมำกกว่ำเงินทุนไหลเข ้ำ)
กำรกำหนดยุทธศำสตร์ประเทศไทยให ้มีกำร GDP ขยำยตัว 10% ติดต่อกัน
5 ปี นั น
้ จำเป็ นต ้องดำเนินกำรในยุทธศำสตร์ตอ
่ ไปนี้
่ วำมเป็ นสำกลและ Asia-hub
• กำรผลักดันกำรสร ้ำงสรรค์เพือ
่ พัฒนำสูค
• กำรจัดวำงตำแหน่งของกำรพัฒนำใหม่กบ
ั โอกำสใหม่ทำงประวัตศ
ิ ำสตร์ทเี่ ปลีย
่ นไป
• เพิม
่ ขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขันด ้ำนเศรษฐกิจระหว่ำงประเทศ
• เพิม
่ กำรเข ้ำร่วมในกิจกำรระหว่ำงประเทศ และหลอมรวมเข ้ำสูโ่ ลกกำรแข่งขัน
่ งเชอ
ื่ มโยงต่อกันได ้แก ทำงหลวง, รถไฟ, กำรบิน, ท่อน้ ำมัน-ก๊ำซธรรมชำติ
• 5 ชอ
และกำรขนสง่ ทำงน้ ำ
ื้ ขำยตำมกรรมสท
ิ ธิ์ และทรัพย์สน
ิ ต่ำงๆ
• ศูนย์กลำงซอ
่ ำยนอกรอบด ้ำน ไม่ทะเลำะกับใคร และดึงดูดกำรลงทุนนำนำชำติ
• เปิ ดประเทศสูภ
Asia’s Age of Discovery
ในระบบเศรษฐกิจโลกประกอบด ้วยกำรแข่งขัน รำยได ้ต่อหัว ในประเทศ
สวิตเซอร์แลนด์ อยูท
่ ป
ี่ ระมำณ 50,000 ดอลล่ำห์ สว่ นประเทศไทย 3,000 ดอลล่ำห์
จีนน่ำจะประมำณ 1,500 ดอลล่ำห์ และเวียดนำมประมำณ 800 ดอลล่ำห์
ี สำมำรถปรับเพิม
จำกจุดตำ่ นี้ เศรษฐกิจเอเซย
่ สูงขึน
้ ได ้ในอีก 10 ปี ข ้ำงหน ้ำ
เป็ น 2 เท่ำ แต่ต ้องเตรียมกำรตัง้ แต่วันนี้ ผมไม่เห็นว่ำ ประชำชนในสวิตเซอร์แลนด์
เยอรมัน หรืออเมริกำ จะหำเงินได ้มำกเป็ น 2 เท่ำในอีก 10 ข ้ำงหน ้ำ (สงั คมตะวันตก
ี โลกหนึง่ ด ้วยผลพวง
เมือ
่ 250 ปี ทแ
ี่ ล ้ว เป็ นสงั คมทีม
่ ั่งคัง่ เมือ
่ เปรียบเทียบกับอีกซก
ของระบอบอำณำนิคมสว่ นหนึง่ และอีกสว่ นเป็ นผลจำกสงครำมโลกครัง้ ที่ 2)
ในอเมริกำ เป็ นสงั คมเบบีบ
้ ม
ู ประชำกรเกิดและโตมำหลังสงครำม พวกเขำ
โตมำพร ้อมควำมมำกมี ในยุค 80 คนมีเงินออม 20% แต่ตอนนีอ
้ ต
ั รำกำรออมเป็ นศูนย์
พวกเขำไม่มเี งินออมเลย แต่มห
ี นีก
้ ำ่ ยกอง กู ้ยืมเงินเหมือนบ ้ำคลัง่ เป็ นสำนึกผิดของ
คนอเมริกำ เทคโนโลยีเปลีย
่ นแปลงตลอดเวลำ สงิ่ ทีไ่ ม่เคยเปลีย
่ นคือ ธรรมชำติของ
มนุษย์ (องค์กรศำสนำ และอบำยมุขจึงเติบโตได ้ตลอด)
สะดวกสบำยเกินไป บำงทีก็กลำยเป็ นด ้อยโอกำสไป ปั ญหำหนึง่ ของ
ประเทศไทยคือ มีทรัพยำกรอำหำรมหำศำล คนมีควำมสุข ซงึ่ เป็ นจุดต ้องระวัง คน
ไทยชอบพูดว่ำ เรำไม่เคยเป็ นเมืองขึน
้ ของใคร
ควำมเจ็บปวดอย่ำงสงครำม หรือควำมทุกข์ทน (Suffering) ก็เป็ นสงิ่ ดี มัน
ี เงิน สูญเสย
ี สงิ่
เป็ นควำมสำมำรถในกำรฝ่ ำฟั น เยอรมันเริม
่ จำกจุดตำ่ สุด คนสูญเสย
ต่ำงๆ ไปในสงครำม แต่ทว่ำเมือ
่ จิตวิญญำณถูกฟื้ นตัว คนจะขยันมำก พวกเขำจะ
ทำงำนหนั ก และสำหรับเศรษฐกิจ คนทีม
่ ค
ี วำมทะเยอทะยำนจะพัฒนำได ้มำกกว่ำคน
ทีม
่ องอะไรๆ ก็งำ่ ยไปหมด
มีอะไรต ้องทำอีกเยอะในกำรทีจ
่ ะทำให ้ประเทศไทยประสบควำมสำเร็จ
(Mare Faber/Gloom Boom Doom of Investment ใน MBA ฉบับ January 2009)
ั้
การเติบโตของชนชนกลางท
ว่ ั โลก
ในอดีต ประชำกรสว่ นใหญ่ของโลกเป็ นคนยำกจน ควำมต ้องกำรพืน
้ ฐำนใน
ี จึงเป็ นเรือ
ั และยำรักษำ
กำรดำรงชพ
่ งของปั จจัยส ี่ คือ อำหำร เครือ
่ งนุ่งห่ม ทีอ
่ ยูอ
่ ำศย
ั ้ กลำง
โรค นั บตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2549 เป็ นต ้นมำ ประชำกรโลกมำกกว่ำครึง่ หนึง่ เป็ นชนชน
ิ ค ้ำ และบริกำรทีห
ซงึ่ มีควำมต ้องกำรบริโภคสน
่ ลำกหลำย เพือ
่ ควำมสะดวกสบำยใน
ี เชน
่ รถยนต์ เครือ
้
ั ท์มอ
กำรดำรงชพ
่ งใชไฟฟ้
ำ โทรศพ
ื ถือ เป็ นต ้น
ั ้ กลำงทั่วโลก มีจำนวน 3,300 ล ้ำนคน โดย
ในปี พ.ศ. 2549 ประชำกรชนชน
ั้
คำดว่ำจะเพิม
่ ขึน
้ เป็ น 5,100 ล ้ำนคน ในปี พ.ศ.2568 นอกจำกกำรเพิม
่ จำนวนชนชน
ั ้ กลำงสว่ น
กลำงแล ้ว ยังมีควำมเปลีย
่ นแปลงในเชงิ องค์ประกอบด ้วย ในอดีตชนชน
ั ้ กลำง อำศย
ั อยูใ่ นทวีป
ใหญ่ อยูใ่ นประเทศตะวันตก แต่ในปั จจุบน
ั 3 ใน 4 ของชนชน
ี ชนชน
ั ้ กลำงมีรำยได ้ดี มีกำลังซอ
ื้ ค่อนข ้ำงสูง จึงเพิม
เอเซย
่ โอกำสของกำรลงทุน
่ ในประเทศจีนคำดว่ำมีจำนวนโทรศพ
ั ท์มอ
ตัวอย่ำงเชน
ื ถือมำกถึง 650 ล ้ำนเครือ
่ ง
หำกท่ำนมีสว่ นแบ่งกำรตลำด 10% และทำกำไรเพียงเครือ
่ งละ 100 บำท ท่ำน
สำมำรถทำกำไรได ้มำกถึง 6,500 ล ้ำนบำท (วิน พรหม แพทย์, ในวำรสำร
ิ ประกันสงั คม, มีนำคม 2554) มีกลุม
่ ประเทศดำวรุง่ พุง่ แรง BRIC ได ้แก่ บรำซล
ี -อินเดียและจีน และกลุม
รัสเซย
่ ทีก
่ ำลังมีปัญหำ PIGS ได ้แก่ โปรตุเกส-อิตำลี-กรีซ
ึ ษำ
และสเปน ทีป
่ ระเทศไทยควรจะได ้ศก
กลยุทธ์ธร
ุ กิจ
สร ้ำงควำมได ้เปรียบทำงกำรแข่งขัน (Competitive Advantage) ตัง้ แต่
เริม
่ ต ้นโดยเน ้น
• กำรเป็ นผู ้นำด ้ำนต ้นทุน (Cost leadership)
• กำรสร ้ำงควำมแตกต่ำง (Differentiation)
ิ ค ้ำได ้คุณภำพทีส
• กำรเจำะตลำด (Focus) กำหนดต ้นทุนให ้ตำ่ ทีส
่ ด
ุ แต่ผลิตสน
่ ด
ุ
ั ของบริษัท เพือ
• มีเป้ ำหมำยและทิศทำงทีแ
่ น่ชด
่ วำงกรอบกำลังกำรผลิต, ต ้นทุน
วัตถุดบ
ิ , กำรคุมตลำด, กำรฝึ กพนั กงำน, กำรโฆษณำเพือ
่ กระตุ ้นดีมำนด์ตลำด
• ขับเคลือ
่ นองค์กรด ้วยเทคโนโลยีและควำมรู ้ นวัตกรรมกับควำมคิด คือ หัวใจสำคัญ
อิงพืน
้ ฐำนแห่งกำรเป็ นผู ้ประกอบกำรทีน
่ ำนวัตกรรมไปสร ้ำงผลผลิตต่อยอดให ้เกิด
ประโยชน์ได ้ในทีส
่ ด
ุ
ี และละตินอเมริกำต ้องเสย
ี หำยจำกธุรกิจกำรเงินระยะสน
ั ้ ทีเ่ รียกกัน
(ประเทศในเอเซย
ว่ำ เงินร ้อนนั น
้ ถูกนำเข ้ำมำหลัง่ ไหลในประเทศเพียงชวั่ ข ้ำมคืน และในขณะเดียวกัน
่ กัน หรือ
เงินร ้อน เหล่ำนีก
้ ็สำมำรถจะถูกทำให ้ไหลออกไปได ้ในชวั่ เวลำข ้ำมคืนเชน
ิ ธิภำพของระบบโลกำภิวัฒน์)
เป็ นควำมไร ้ประสท
ชวี ต
ิ และการทางาน
ื่ สต
ั ย์
เจ ้ำของกิจกำรทีร่ วย มีเงิน มักประสบปั ญหำด ้ำนลูกน ้องไม่ซอ
(ขีป
้ ระจบ) คนทำงำนเก่งมักประจบไม่เก่ง คนกินแรงคนอืน
่ มักประจบเก่ง และ
ก่อให ้เกิดเจ ้ำนำยหูเบำ, พนั กงำนทีเ่ ก่งมักมีปัญหำด ้ำนลูกน ้อง ไม่อดทนต่อ
ปั ญหำน้ ำเน่ำในทีท
่ ำงำน และหลำยองค์กร ปั ญหำเกิดจำกยอดเจดีย ์ แต่ยอด
เจดียก
์ ลับพยำยำมให ้ฐำนเจดียเ์ ป็ นคนแก ้ปั ญหำ มีกำรเอำระบบ เอำอุปกรณ์
ต่ำงๆ นำเทคโนโลยี นำเอำหลักสูตรอันยอดเยีย
่ มมำชว่ ยแก ้ ซงึ่ ในทีส
่ ด
ุ ก็พัน
กันเป็ นเกลีย
่ วแน่น
ิ ธิ์ ใจงำม, Thailand Industrial Today, March 2011)
(เอกสท
The Poor and Rich
ิ ธิเสรีภำพเท่ำเทียมกันแล ้ว
จอห์น เอฟ เคนเนดี กล่ำวว่ำ หำกสงั คมทีม
่ ส
ี ท
ไม่สำมำรถชว่ ยคนยำกจนจำนวนมำกได ้ มันก็คงไม่สำมำรถรักษำและปกป้ องคน
่ เดียวกัน “If a free society cannot help the many who are
ร่ำรวยในสงั คมได ้เชน
poor, it cannot save the few who are rich” (วีระพงษ์ ชุตภ
ิ ัทร์, 2554)
ั เจน คือ ประเทศอียป
ี , เยเมน, ลิเบีย เป็ นต ้น
กรณีตวั อย่ำงทีเ่ ห็นได ้ชด
ิ ต์, ตูนเี ซย
ี หรือ ADB พบว่ำประเทศไทยเป็ น
จำกกำรสำรวจของธนำคำรพัฒนำเอเซย
ี ตะวันออกเฉียง
ประเทศทีม
่ ค
ี วำมไม่เท่ำเทียมในด ้ำนรำยได ้สูงทีส
่ ด
ุ ในภูมภ
ิ ำคเอเซย
ิ้ ปี 2552, อินโดนีเซย
ี มำเลเซย
ี และ
ใต ้ (ไทย มี Gini index = 0.485 ณ สน
เวียดนำม ตำ่ กว่ำ 0.40) ซงึ่ สอดคล ้องกับข ้อมูลกำรกระจำยรำยได ้ว่ำ ประเทศไทยมี
ประชำกร 20% ทีร่ วยทีส
่ ด
ุ มีรำยได ้ถึง 54.2% ของรำยได ้ทัง้ หมด ในขณะที่
ประชำกร 20% ทีจ
่ นทีส
่ ด
ุ กลับมีรำยได ้ 4.8% ของรำยได ้ทัง้ หมด
ั ฐีระเวช-ผู ้ปลุกกำรเงินรำกหญ ้ำ)
(พรชย
จุดแข็ง – จุดอ่อน
ทว่ำ บำงทีจด
ุ แข็งก็กลำยเป็ นจุดอ่อนได ้ อย่ำงควำมกล ้ำหำญเด็ดเดีย
่ ว
่ กัน เพรำะเมือ
ึ
ของนโปเลียน ทำให ้เขำต ้องแพ ้ภัยตัวเองเชน
่ สำมำรถเอำชนะข ้ำศก
ื่ มัน
ด ้วยจุดแข็งข ้อนีไ
้ ด ้อย่ำงต่อเนือ
่ ง ควำมกล ้ำหำญ เด็ดเดีย
่ ว ก็กลำยเป็ นควำมเชอ
ื่ มั่นมีมำก ก็ทำให ้นโปเลียนถูกมองว่ำ เป็ นผู ้นำทีม
ในตัวเอง เมือ
่ ควำมเชอ
่ ักเอำแต่ใจ
่ เดียวกัน : กำรมีชย
ั
ตัวเอง และจองหอง ไม่ยอมฟั งใคร (กรณีประเทศไทยก็เป็ นเชน
ชนะมำตลอด และไม่เคยตกเป็ นเมืองขึน
้ ของใคร อำจกลำยเป็ นจุดอ่อนได ้
่ เดียวกัน)
เชน
นโปเลียน เป็ น CEO ทีส
่ ำมำรถจัดองค์กรให ้เกิดศักยภำพในกำรสง่ มอบงำน
หรือ Delivery ได ้ด ้วยดี สำเหตุทน
ี่ โปเลียนทำได ้ ก็เพรำะนโปเลียนรู ้จริงงำนทีท
่ ำ
จุดอ่อนของนโปเลียนคือ ควำมสำเร็จทีไ่ ด ้มำเร็วเกินไปจึงออกอำกำรว่ำ เริม
่ จะไม่ฟัง
ื่ มั่นในตัวเองสูง หรือกลำยเป็ นเหยือ
ใคร เชอ
่ ของคำว่ำ Hubris คือจองหอง และไม่ฟัง
ี ทำให ้นโปเลียนสูญเสย
ี กำลังพลมหำศำล ผลลัพท์ของกำรโจมตี
ใคร กำรบุกรัสเซย
คือ ควำมพ่ำยแพ ้อย่ำงใหญ่หลวง และเริม
่ ปรำกฎเป็ นลำงว่ำจะต ้องพ่ำยแพ ้ต่อไป กำร
ไม่ฟังใครเพรำะควำมสำเร็จทีไ่ ด ้มำอย่ำงรวดเร็ว กลับกลำยเป็ นควำมพินำศ ว่ำกันว่ำ
ิ ให ้นโปเลียนต ้องพ่ำยแพ ้ต่อ Lord Wellington ที่
ปั จจัยสำคัญทีเ่ ป็ นตัวตัดสน
Waterloo นั น
้ ก็เพรำะว่ำบรรดำนำยธนำคำรทัง้ หลำย โดยเฉพำะอย่ำงยิง่ ตระกูล
Rothschild หยุดอำนวยธุรกรรมทำงด ้ำนกำรเงินให ้กับเขำ เพรำะไม่ไว ้ใจนโปเลียน
ั ญำ เพรำะชว่ งหลังนโปเลียนมักไม่ฟังใคร
กลัวว่ำถ ้ำชนะแล ้วจะไม่ทำตำมสญ
(MBA ฉบับ January 2009)
การพ ัฒนาความมง่ ั คง่ ั อีสานจีน
จีห
๋ ลิน เป็ นมณฑลขนำดเล็กทัง้ ในเชงิ ภูมศ
ิ ำสตร์และขนำดเศรษฐกิจใน
ภูมภ
ิ ำคจีน หรือประมำณ 1 ใน 3 ของประเทศไทย ในชว่ งหลำยปี ทผ
ี่ ำ่ นมำ
เศรษฐกิจของมณฑลเติบโตในอัตรำร ้อยละ 10 มำนั บตัง้ แต่ปี 2546 และขยำยตัว
ิ้ ปี 2552 มีผลิตภัณฑ์มวลรวม
รวมถึงร ้อยละ 51 ในระหว่ำงปี 2546-2550 ณ สน
(GDP) ประมำณ 105,500 ล ้ำนดอลล่ำห์สหรัฐ ขยำยตัวในอัตรำร ้อยละ 13.3 นั บว่ำ
สูงยิง่ กว่ำค่ำเฉลีย
่ ของประเทศจีน รำยได ้เฉลีย
่ ตัวหัวอยูท
่ ป
ี่ ระมำณ 3,850 ดอลล่ำห์
สหรัฐ จีห
๋ ลิน มีโครงสร ้ำงเศรษฐกิจจำแนกเป็ น ภำคเกษตรกรรม ร ้อยละ 15
ภำคอุตสำหกรรม ร ้อยละ 45 และภำคบริกำร ร ้อยละ 40
อุตสำหกรรมสำคัญได ้แก่ กำรผลิตรถไฟและยำนยนต์ ปิ โตรเคมี ยำ
ั ว์ รวมทัง้ อุดมสมบูรณ์ไปด ้วยแร่ธำตุ
อิเล็กทรอนิกส ์ กำรเกษตร-ป่ ำไม ้ และปศุสต
ทำงธรรมชำติ
่
นครฉำงชุน ในมณฑลจีห
๋ ลิน มีจด
ุ แข็งในภำคบริกำรหลำยด ้ำน อำทิเชน
กำรเป็ นแหล่งท่องเทีย
่ วภูมภ
ิ ำคตอนเหนือ และกำรเป็ นเมืองแห่งป่ ำไม ้ เมือง
มหำวิทยำลัย และนครแห่งภำพยนต์
ด ้วยควำมพร ้อมของทัง้ ปั จจัยกำรผลิตทีธ่ รรมชำติให ้มำ และมนุษย์สร ้ำง
ขึน
้ รวมทัง้ ควำมพยำยำมในกำรเปิ ดประตูเศรษฐกิจสูโ่ ลกภำยนอก มูลค่ำและ
ั สว่ นกำรค ้ำและกำรลงทุนโดยตรงจำกต่ำงประเทศ FDI ต่อ GDP ของมลฑลก็
สด
เพิม
่ ขึน
้ อย่ำงต่อเนือ
่ ง (ดร.ไพจิตร วิบล
ู ย์ธนสำร,2554)
จากนีถ
่ งึ ทิมบ ักตู เมกกะแห่งซาฮาร่า
ทิมบ ักตู นัน
้ เป็ นเมืองเล็กๆเมืองหนึง่ ในประเทศมำลี ตัง้ อยูบ
่ ริเวณขอบ
ตอนใต ้ของทะเลทรำยซำฮำร่ำ ซงึ่ ห่ำงจำกจุดทีแ
่ ม่น้ ำไนเจอร์ขน
ึ้ ไปทำงเหนือประมำณ
15 กิโลเมตร เมืองนีเ้ ป็ นต ้นกำเนิดวลีในภำษำอังกฤษทีว่ ำ่ “From here to Timbuktu”
(จำกทีน
่ ถ
ี่ งึ ทิมบักตู) ซงึ่ เมือ
่ ได ้ยินฝรั่งพูดวลีนี้ ก็ขอให ้ทรำบว่ำเขำกำลังหมำยถึง
สถำนทีซ
่ งึ่ ห่ำงไกลมำกๆ อีกทัง้ ยังค่อนข ้ำงลีล
้ ับและแปลกประหลำดอีกด ้วย แต่
อย่ำงไรก็ตำม หำกได ้ทรำบเรือ
่ งรำวทีก
่ ำลังจะเล่ำเกีย
่ วกับเมืองนีแ
้ ล ้ว ก็จะพบว่ำเมือง
ื่ ออกมำอย่ำงสน
ิ้ เชงิ
ทิมบักตูจริงๆ นัน
้ ชำ่ งแตกต่ำงจำกควำมหมำยทีว่ ลีดังกล่ำวสอ
ิ ปวิทยำกำรอิสลำม
เพรำะทีน
่ เี่ คยมีอดีตอันเกรียงไกรในฐำนะเป็ นศูนย์กลำงกำรเรียนรู ้ศล
ของทวีปแอฟริกำ จนถึงขนำดได ้รับกำรขนำนนำมว่ำเป็ น นครเมกกะแห่งทะเลทรำยซำ
์ ห่งทวีปแอฟริกำ (the Athens of
ฮำร่ำ (the Mecca of Sahara) หรือ กรุงเอเธนสแ
Africa)
http://sameaf.mfa.go.th/th/country/africa/tips_detail.php?ID=1825
ความมง่ ั คง่ ั ทิมบุกตู (Timbuktu)
้
เมือ
่ จักรวรรดิก
์ ำนำ (Ghana Empire) เรืองอำนำจทำให ้มีเสนทำงช
ว่ ย
ื่ มภูมภ
เชอ
ิ ำคต่ำงๆ ของอัฟริกำเข ้ำกับภูมภ
ิ ำคต่ำงๆ ของโลกอีกด ้วย (TransSaharan Trade Routes) และทิมบักตูก็ตงั ้ อยูบ
่ ริเวณจุดตัดระหว่ำงแม่น้ ำในเจอร์
้
และเสนทำงกำรค
้ำเหล่ำนี้ ปั จจัยทัง้ หมดนีเ้ องสง่ ผลให ้เมืองแห่งนีก
้ ลำยเป็ น
้ เกลือ ทำส และม ้ำ
ศูนย์กลำงทำงกำรค ้ำทีส
่ ำคัญของอัฟริกำ ได ้แก่ ทองคำ งำชำง
ั นำศำสนำอิสลำม เข ้ำมำสูท
่ ม
จำกอำหรับ ควำมรุง่ เรืองทำงกำรค ้ำนีไ
้ ด ้ชก
ิ บักตูใน
ศตวรรษที่ 11 และในศตวรรษที่ 14 ได ้มีกำรก่อตัง้ มหำวิทยำลัยทีส
่ ำคัญถึง 3 แห่ง
Sankore University, Jingaray University และ Sidi Yahya University และยัง
เป็ นทีต
่ งั ้ สำนั กสอนคำภีรก
์ รุ อ่ำนอีก 180 สำนั ก ทำให ้ทิมบุกตูเป็ นศูนย์กลำงผลิต
ึ ษำศำสตร์อส
ตำรำ และศก
ิ ลำมของอัฟริกำแถบตะวันตก
ื่ มของทิมบุกตู
ความเสอ
เพรำะเต็มไปด ้วยปั ญหำกำรฉั อรำษฏร์บำงหลวง และกำรกดขีข
่ ม
่ เหง
ประชำชนในศตวรรษที่ 15 ผู ้นำชำวตัวเร็กเผ่ำมำคซำรัน ซงึ่ เคยเป็ นผู ้ก่อตัง้ ทิมบุกตู
หมดอำนำจลงในชว่ งจักรวรรดิม
์ ำลีเรืองอำนำจ ก็ถอ
ื โอกำสเข ้ำรุกรำน และยึดครอง
ทิมบุกตู
ื่ มของทิมบุกตู ก็คอ
ปั จจัยอีกประกำรหนึง่ ทีส
่ ง่ ผลต่อกำรเสอ
ื กำรค ้นพบ
ทวีปอเมริกำ โดยก่อนหน ้ำนีช
้ ำวยุโรปต ้องพึง่ พ่อค ้ำมุสลิม ทัง้ ทีเ่ ป็ นอำหรับและอัฟ
้ ทำส รวมถึงสน
ิ ค ้ำ
ริกำเป็ นอย่ำงมำก ในกำรทีจ
่ ะได ้มำซงึ่ ทองคำ เครือ
่ งเทศ งำชำง
หำยำกอืน
่ ๆ นอกทวีปยุโรป ชำวยุโรปมีควำมไม่พอใจในมำตรกำรด ้ำนภำษี
ิ ค ้ำเหล่ำนีโ้ ดยพ่อค ้ำมุสลิม ซงึ่ ทำให ้ยุโรปพยำยำมค ้นหำ
และกำรกำหนดรำคำสน
้
ิ ค ้ำดังกล่ำว
เสนทำงกำรค
้ำใหม่ เพือ
่ ลดบทบำทของพ่อค ้ำมุสลิม ในกำรผูกขำดสน
่ ำรค ้นพบแหล่ง
และในทีส
่ ด
ุ ก็ทำสำเร็จ เมือ
่ มีกำรค ้นพบทวีปอเมริกำได ้นำไปสูก
ทองคำแหล่งใหม่ กำรพัฒนำนิคมเพำะปลูก อ ้อย กำแฟ โกโก ้ และนิคมเหมืองแร่
เงิน สง่ ผลให ้เกิดควำมต ้องกำรแรงงำนทำสจำกอัฟริกำเป็ นอย่ำงมำก ทำให ้เกิด
้
เสนทำงกำรค
้ำข ้ำมมหำสมุทรแอตแลนติก (Trans-Atlantic Trade Routes) มี
้
ควำมสำคัญขึน
้ มำแทนเสนทำงกำรค
้ำข ้ำมทะเลทรำยซำฮำร่ำ ทิมบุกตู ทำให ้ทิมบุก
ื่ มสลำยในทีส
ี ควำม
ตูได ้รับผลกระทบอย่ำงหนั กจนพบกับควำมเสอ
่ ด
ุ เพรำะสูญเสย
้
มั่งคัง่ จำกผลประโยชน์โดยตรงจำกกิจกรรมทำงกำรค ้ำบนเสนทำงดั
งกล่ำว