งานนำเสนอ IPM - กรมส่งเสริมการเกษตร

Download Report

Transcript งานนำเสนอ IPM - กรมส่งเสริมการเกษตร

การจัดการศัตรู พืชด้วยวิธีผสมผสาน และการ
ใช้สารเคมีในการเกษตร อย่างถูกต้องและ
ปลอดภัย
โดย
นางอารี ยพ์ นั ธ์ อุปนิสากร
สานักพัฒนาคุณภาพสิ นค้าเกษตร
กรมส่ งเสริ มการเกษตร
หัวข้อบรรยาย
สถานการณ์ศตั รู พืช สถานการณ์สารเคมี
 ความจาเป็ นใช้IPM
 เงื่อนไขและข้อจากัด

IPM Ecological based
 ระดับเศรษฐกิจ(ETL) และวิเคราะห์ระบบนิ เวศ(AESA)
 การสารวจ ติดตามสถานการณ์
 การจาแนกและจัดกลุ่มศัตรู พืชตามหน้าที่ในระบบนิ เวศ

การควบคมุ ศัตรูพชื
การควบคมุ คือ การจัเการให้ อย่ ใู นระเับทีร่ ั บไเ้
ระเับที่ไม่ ก่อให้ บกิเความบสียหาย
ศัตรูพชื คือ สิ่งมีชีวิตที่กนิ ทาลายหรื อบบียเบบียนพืช
และทาความบสียหายให้ กบั พืช
● ตาย
● ผลผลิตลเลง
การใช้ สารเคมี
ใช้ ต่อเนื่องเป็ นเวลานาน
เป็ นวิธีเดียวที่เกษตรกรนึกถึง
เริ่มใช่ เมื่อหลังสงครามโลกครั้ งที่ 2
ปริมาณและชนิดเพิม
่ อย่ างรวดเร็ว
แต่ ยงั คงมีศัตรู ระบาด
อันตรายของสารบคมี
สารบคมีทางการบกษตร
-
ต่ อผ้ ใู ช้
ต่ อผ้ บู ริ โภค
ต่ อบศรษฐกิจ
นาบข้ า 500 ชนิเ
มากกว่ า15000 ชื่อ
มากกว่ า 8000 ร้ านค้ า
หาซื้อไเ้ ง่าย
การระบาดของศัตรูพชื
ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง
เพิม่ ความรุ นแรงมากขึ้น
ต้องเพิ่มปริ มาณการพ่น และจานวนครั้ง
ชนิดของศัตรู พืชมีมากขึ้น
จุดวิกฤติของการกาจัดศัตรู พชื ในปัจจุบัน
 พิษตกค้ างปนเปื้ อนในผลผลิต
 อันตรายต่ อคนสั ตว์ และสิ่ งแวดล้ อม
 ต้ นทุนการผลิตสู ง
 นโยบาย
●
อาหารปลอดภัย
 มาตรการลดการใช้ สารเคมี 96 ชนิด
 เริ่มมีมาตรการใช้ บังคับ GAP
 การกีดกันทางการค้ า
ไข่
ตัวเต็มวัย
ศัตรูพชื
ดักแด้
ตัวอ่ อน
แมลง
สั ตว์ โลกทีม่ ีปริมาณชนิดมากทีส่ ุ ดกว่ า 1 ล้ านชนิด
มีกระดูกหุ้มเนือ้
มีการลอกคราบ
มีข้อ มีปล้ อง งอตัวได้
อยู่อาศัยได้ ทุกที่
มีชีวติ หลายระยะ ไข่ ตัวอ่ อน ดักแด้ ตัวเต็มวัย
อยู่ในวัยทีต่ ่ างกัน กินอาหารต่ างกัน
ไข่ มีเปลือกหุ้ม หรือมีขนปกคลุม
ตัวอ่ อน มักกินศัตรูพชื อยู่ในทีป่ ลอดภัย
ดักแด้ มีผนังเหนียวหุ้มและหลบซ่ อนอยู่
ตัวเต็มวัย มีปีก บินเร็ว ไกล มีขนหรือเกล็ดปกคลุม
มีการขยายพันธุ์แบบพิเศษ
ออกลูกได้ ครั้งละมากๆ และเร็ว
ปรับตัวได้ เก่ งตามสภาพแวดล้ อม
ตัวเล็กกินอาหารได้ มาก ชนิดเดียวกันกินอาหารต่ างกัน
อายุส้ั น พัฒนาตัวเองได้ เร็ว
Life cycle
ระยะไข่
ระยะไข่
ระยะไข่
egg
อายุ
--777วัวัวันน
อายุ
น
5อายุ
- 7555-days
moth
ระยะผีเสื้อ
4 4- -14
อายุ
14 days
วัน
ระยะหนอน
ระยะหนอน
larva
32
-- 48
อายุ
32days
48 วัวัน
น
32อายุ
- 48
pupa
ระยะดั
กแด้
9อายุ
- 11
9 - days
11 วัน
ศัตรูพชื
 สิ่งทีท
่ าให้ พชื บสียหาย
 ศัตรูคน คนบป็ นสาบหตุ
 คน(บกษตรกร)ต้ องจัเการ
 มีปัจจัยหลายอย่ างมาบกีย่ วข้ อง
การควบคุมศัตรูพช
ื โดยวิธ ี
ผสมผสาน (IPM)
 การเขตกรรม เตรียมดิน ปลูก ทา
ความสะอาดแปลง
 วิธก
ี ล เด็ดยอด ตัดตน
้
 สารเคมี แช่ทอนพั
นธุ ์ ฉี ดพน
่
่
 ชีววิธ ี ตัวหา
้ ตัวเบียน
เชือ
้ จุลน
ิ ทรีย ์
 อืน
่ ๆ
แต่ละวิธม
ี ข
ี ้ อดี ข้อจากัด และ
ช่วงเวลาทีเ่ หมาะสม
การบริหารศัตรูพช
ื (Pest
Management)
 เป็ นการควบคุมศั ตรูพช
ื โดยวิธ ี
ผสมผสาน
 เลือกวิธท
ี เี่ หมาะสมทีส
่ ุด ตาม
สถานการณ ์ และความรุนแรง
ของศั ตรูพช
ื
 เพือ
่ ให้การควบคุมปริมาณศั ตรูพช
ื
มีประสิ ทธิภาพสูงสุด
 คุ้มคาทางเศรษฐกิ
จมากทีส
่ ุด
่
ผลการควบคุมศัตรูพช
ื
สถานการณ ์
และปัจจัย
แวดลอมมี
ผลตอความส
าเร็จ
้
่
ในการควบคุมศัตรูพช
ื ไม่
เหมือนกันทุกที่
ลดความเสี ยหาย ความ
รุนแรง ควบคุมให้ไม่
ระบาด/สมดุล
ปัจจัยที่ทาให้เกิดการระบาดของศัตรู พืช
ปัจจัยธรรมชาติ
 พืชอาหาร
 พืชอาศัย
 นิ เวศวิทยาศัตรู พืช
 นิ เวศวิทยาศัตรู ธรรมชาติ
 ความสัมพันธ์ของปั จจัยต่างๆในระบบนิ เวศ

ตัวอ่างปัจจัยที่มีผลต่อการะบาดของศัตรู พืช
พืช : พันธุ์
อายุ ความแข็งแรง/อ่ อนแอ
แมลง: วัย ชนิด( ศัตรู พชื ศัตรู ธรรมชาติ แมลง
อืน่ ๆ) ลักษณะการกิน
สิ่ งแวดล้ อม : อุณหภูมิ ความชื้น ลม แสงแดด
อืน
่ ๆ: การปฏิบัติของเกษตรกร( ปุ๋ ย ยา วิธีปลูก ฯลฯ)
การนา IPM สู่การปฏิบตั ิของเกษตรกร
ไม่ได้อยูท่ ี่ตวั วิธีการเท่านั้นที่ตอ้ งเลือกให้เหมาะสม
 แต่อยูท่ ี่เวลาในการเลือกใช้วธิ ีการนั้นๆ
 ต้องเหมาะสมต่อสถานการณ์ปัจจุบนั ทั้งแมลง
และปัจจัยแวดล้อม
วิธีที่เลือกต้องเหมาะสมต่อ
สถานการณ์
สภาพสังคม
เศรษฐกิจ
การตลาด
ต้ องรวบรวม สำรวจ วิเครำะห์
โดยเกษตร
การติดตามสถานการณ์ของศัตรู พืช
สารวจ ตรวจนับศัตรู พืช ศัตรู ธรรมชาติ และส่ วนของพืช
ที่ถูกทาลายอย่างสม่าเสมอ
ติดตามความเคลื่อนไหวของสภาพดินฟ้ าอากาศ
การประเมินประสิ ทธิภาพของศัตรู ธรรมชาติในการ
ควบคุมศัตรู พืช
วิเคราะห์สถานการณ์ศตั รู พืช
ข้ อมูลทีต่ ้ องใช้ ในการวิเคราะห์ และตัดสิ นใจ
เพิม่ เติมจากทีเ่ ตยปฏิบัติ
 อาการของพืช Symtom
 วงจรชีวติ ศัตรู พืช
 สภาพอากาศ
 ลักษณะการทาลายของแมลง
 สภาพพืช
 ปริ มาณศัตรู ธรรมชาติ (อัตราส่ วน P:NE)
 การปฏิบตั ิของเกษตรกร
การวิบคราะห์ ระบบนิบวศน์
 รู ้จกั แมลงว่าทาอะไรในแปลง
 รู ้นิเวศวิทยา ด้วยการสารวจ (ไม่ตอ้ งใช้ตารา ไม่ตอ้ งการ
ผูเ้ ชี่ยวชาญ ใช้เพียงการสังเกต และความรู ้เบื้องต้น)
 ไม่ตอ้ งใช้อุปกรณ์ที่ยงุ่ ยากซับซ้อน
 ได้ขอ้ มูลในการตัดสิ นใจปราบแมลงโดยไม่ตอ้ งรอ
ชนิดแมลงตามหน้าที่ในระบบนิเวศฯ
ศัตรู พืช ตัวที่ทาลายพืช แมลงปากดูด แมลงปากกัด
 ศัตรู ธรรมชาติ ทาลายศัตรู พืช ตัวห้ า ตัวเบียน จุลินทรี ย ์
 แมลงอื่นๆ ตัวที่ไม่เกี่ยวกับระบบนิ เวศนั้นๆ เช่น แมลงทีบ
่ ินมาเยีย่ มเยียน
จากแปลงข้างๆ, แมลงที่มาอยูอ่ าศัย, แมลงที่เป็ นตัวย่อยสลาย, แมลง
บินมาเยีย่ ม
 พิสูจน์ได้จากการสารวจสม่าเสมอ หากไม่ใช่แมลงในระบบนิ เวศน์จะไม่
อยูน่ าน
 ทุกองค์ประกอบในระบบนิ เวศน์มีความหมายทั้งสิ้ น

สังคมของแมลง
ศัตรูธรรมชาติ
ศัตรูพชื
แมลง
แมลงอืน่ ๆ
การจาแนกแมลงทางวิทยาศาสตร์
รู ้ชื่อวิทยาศาสตร์ Genus species
 ไม่เพียงพอที่จะปราบ
 ต้องมี Key, อุปกรณ์, ต้องมีผรู ้ ู ้ยน
ื ยัน
 ใช้ตารา ความจา
 ผูร้ ู ้มีจากัด ทาเป็ นกลุ่มๆแมลง กว่าจะรู ้ชา้ อาจเสี ยหายก่อน
 รู ้จกั แล้ว ก็ยงั ต้องหาวิธีปราบซึ่ งอาจไม่ใช่นกั Taxonomy

การจาแนกชนิดแมลง (identification)
เพือ่ รู้ จกั ชื่อ
 ต้องเรี ยน
 มี Key
 รู ้วช
ิ าการมาก/มีตารา
เพือ่ การกาจัด
 ลงมือปฏิบตั ิ
 สารวจ/ศึกษา/ทดสอบ
 ทา insect zoo
ข้ อเสี ยของการดูแมลงอย่ างเดียว
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
พบแมลงอยูท่ ี่อาการผิดปกติ – ไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริ ง (แพะ)
แมลงคล้ายกันจากการดูดว้ ยตาเปล่า – เกิดการปรักปรา
วินิจฉัยที่ลกั ษณะ ต้องมีความรู ้มาก
- นักอนุกรมวิธาน
- นักกีฏวิทยาก็วินิจฉัยไม่ได้หมด
รู ้จกั ชื่อ ก็ไม่สามารถกาจัดแมลงได้
การกาจัดบางครั้งก็ดูที่พฤติกรรม ไม่ใช่ลกั ษณะ
การจาแนกโรคและแมลง
มีความหลากหลายมาก เป็ นล้านชนิด
 ลักษณะใกล้เคียงกัน หลายชนิ ดแตกต่างกันที่อวัยวะ หรื อองค์ประกอบ
เล็กๆ ในอวัยวะ
 มีขนาดเล็ก ต้องดูดว้ ยกล้อง จึงจะบอกได้ชดั เจนว่าเป็ นชนิ ดไหน
 ต้องมีความรู ้พ้น
ื ฐานด้านแมลง และโรคอย่างดี
 รู ้แล้วก็ยงั ปราบไม่ได้
 ต้องมีบางอย่างที่เรายังรู ้ไม่เพียงพอที่จะทาการกาจัด

การจาแนกชนิดแมลงเพือ่ การกาจัด
จาแนกแมลงทุกชนิดในระบบนิเวศ
จาแนกตามหน้าที่ในระบบนิเวศ
ศัตรู พืช
- ศัตรู ธรรมชาติ
- แมลงอื่นๆ
-
ตัดสิ นใจโดยใช้อตั ราส่ วนระหว่างศัตรู พืชและศัตรู ธรรมชาติ
ไม่ได้ใช้ระดับ ETL ในการตัดสิ นใจ
IPM สู่การปฏิบตั ิจริ ง
ระดับ ETLที่ตอ้ งมีมูลด้านเศรษฐกิจ ด้านอื่นๆ ไม่ใช่เลขตายตัว
 ระดับที่ใช้สารเคมี

 ไม่ได้พดู ถึงอายุพืช
 ไม่ได้พดู ถึงสภาพอากาศ
 ไม่ได้พดู ถึงปั จจัยอื่นๆเลย

ที่สาคัญไม่ได้เคยคานึงถึงศัตรู ธรรมชาติที่เป็ นการบริ การฟรี จาก
ธรรมชาติ
 แปลงที่มีศตั รู พืช 100 ตัว มีศตั รู ธรรมชาติ 40
 แปลงที่มีศตั รู พืช 50ตัว ไม่พบศัตรู ธรรมชาติเลย
ตัว
 ระดับ ETL เป็ นระดับเศรษฐกิจที่นบ
ั ปริ มาณศัตรู พืชเพื่อ
ตัดสิ นใจพ่นสารเคมี
- ไม่ได้ใช้ปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้อง เช่น ไม่ได้ใช้ปริ มาณศัตรู
ธรรมชาติ ไม่ใช้อายุพืช ไม่ใช้สภาพอากาศ
- การตัดสิ นใจดูที่ปริ มาณศัตรู พืชเท่านั้น จึงทาให้มีการพ่น
สารเคมีเกินสถานการจริ ง
ศัตรูพชื 100 ตัว
ศัตรูพชื 200 ตัว
ไม่ พบศัตรูธรรมชาติ
ศัตรูธรรมชาติ
100 ตัว
การใช้ระดับเศรษฐกิจ
ระดับเศรษฐกิจ เป็ นระดับที่ใช้จานวนศัตรู พืชเป็ นเกณฑ์ในการจัดการ
 ข้อจากัด
ต้องรู ้จกั ศัตรู พืชอย่างดี (มีแมลงหลายชนิดหน้าตา
เหมือนกันแต่ไม่ใช่ศตั รู พืช)
ต้องนับจานวนให้ใกล้เคียงที่สุด (เพราะเป็ นระดับที่ตอ้ ง
ใช้สารเคมี)
ไม่ได้เอาปัจจัยอื่นๆมาช่วยในการตัดสิ นใจ (เช่นสภาพ
อากาศ อายุพืช อายุศตั รู พืช ศัตรู ธรรมชาติ ฯลฯ.

พืน้ ฐาน IPM
- ปริมาณศัตรู พชื เกีย่ วข้ องกับปัจจัยหลายปัจจัย
-ปัจจัยเหล่ านั้น เกีย่ วข้ องมีความสั มพันธ์ กนั ในระบบนิเวศ
-ปัจจัยต่ างๆในระบบนิเวศ สั มพันธ์ กบั การปฏิบัติของเกษตรกร
-ปริมาณศัตรู พชื จึง มีสาเหตุจากการปฏิบัตขิ องเกษตรกรด้ วย
-การปฏิบัติ IPM สามารถลดปริมาณศัตรู พชื ได้
- ประกอบกับการจัดการ IPM จึงจะสามารถลดปริมาณ ศัตรู พชื ได้
- วิธีนา IPM สู่ การปฏิบัตขิ องเกษตรกร เป็ นความจาเป็ นเร่ งด่ วน
- FFS เป็ นกระบวนการถ่ ายทอดเทคโนโลยีทนี่ ามาใช้
IPM based on Ecological concept
ทุกปัจจัยในระบบนิเวศมีความสาคัญ
ั
 ทุกปั จจัยมีความสัมพันธ์กน
 มีผลซึ่ งกันและกัน
 จึงต้องดูระบบนิ เวศทั้งระบบเพื่อการตัดสิ นใจ

 เช่นแมลงที่พบในระบบนิ เวศมีความสาคัญต่อการตัดสิ นใจทุกตัว ทุกชนิ ด
 แมลงที่ไม่ใช่แมลงในระบบนิ เวศนั้น จะอยูไ่ ม่นาน จะอพยพออก
่ านและขยายพันธุ์ได้
 หากเป็ นแมลงในระบบนิ เวศจะอยูน

จึงต้องมีการสารวจเรี ยนรู ้อย่างต่อเนื่อง
ระบบนิเวศเกษตร
พลังงาน
CO2
ผู้บริโภค
O2
อินทรีย์วตั ถุ
นา้
ธาตุอาหาร
ผู้ย่อยสลาย:จุลนิ ทรีย์
แมลงระบาด
Exist
Colonization
Establish
(อยู่ได้ )
(ยึดพืน้ ที่)
(ตัง้ รกราก
=ระบาด)
แมลงแวะเยีย่ ม
แมลงหลงทาง
แมลงอาศัยชั่วคราว
แมลงระบาด
Exist
Colonization
Establish
ปั จจัยที่เกี่ยวข้ องกับการระบาด
พืช
แมลง
สภาพแวดล้ อม
การปฏิบัติ
พันธุ์, อายุ, ความสมบูรณ์ ความแข็งแรง
ศัตรู พชื , ศัตรู ธรรมชาติ, อื่นๆ
อากาศ ดิน นา้ ธาตุ
ที่มีผลต่ อช่ วงเวลา ระบาด
ส่ วนใหญ่ เราจะดูตอน Establish
ควรเปลี่ยนมาดูตอน Exist หรื อ Colonization
ข้ อมูลที่เราคุ้นคือ
- ข้ อมูลเป็ นส่ วนๆ
- การตัดสินใจจึงไม่ ใช่ เป็ น ไอพีเอ็ม
ข้ อมูลที่ใช้ จริง - ข้ อมูลที่มีผลต่ อปริมาณแมลงทัง้ หมด
- เพื่อหาความสัมพันธ์ / สถานการณ์
- จึงตัดสิ นใจ เลือกกาจัดด้ วยวิธีไหน
จะต้องใช้หลายวิธีผสมผสานกัน ตามสถานการณ์
เขตกรรม
ชีววิธี
วิธีกล
วิธีฟิสิ กส์
เคมี
วิธีอื่นๆ
สมุนไพรกาจัดศัตรู พืช
การควบคมุ ศัตรูพชื โดยชีววิธี
การใช้ สิ่งมีชีวิตทีเ่ ป็ นศัตรูธรรมชาติของ
ศัตรูพชื ได้ แก่ ตัวห้า ตัวเบียน และเชื้อโรคไป
ควบคมุ ศัตรูพชื
ตัวหา้ คือหา้ คือ สิ่ งมีชีวติ ที่กนิ ตัตรู พชื
เป็ นอาหาร
มักมีขนาดใหญ่
กว่ าเหยือ่
ทาให้ เหยื่อตาย
อย่ างรวดเร็ว
ตัวเบียน คือ สิ่ งมีชีวติ ที่ดารงชีวติ อยู่
ด้ วยการเบียดเบียนอยู่บน
หรือในตัตรู พชื เพือ่ การ
เจริญเติบโตหรือดารงอยู่
จนครบวงจรชีวติ ทาให้
เหยือ่ อ่ อนแอและตายในทีส่ ุ ด
จุลินทรี ย ์ (Micro – organism)
คือ สิ่ งมีชีวติ เล็กๆที่เป็ นเชื้อโรคของศัตรู พืช
ทาให้ศตั รู พืชเป็ นโรคและตายในที่สุด
ชีววิธีสนับสนุนการผลิตพืชปลอดภัยจากสารพิษ
ทางานได้ทนั ทีที่มีศตั รู พืช
โดยไม่ตอ้ งซื้อ ไม่ตอ้ งจ้าง
ไม่มีพิษ ไม่มีฤทธิ์ตกค้าง ไม่เป็ นอันตราย
ขยายพันธุ์ มีชีวิตในแปลงได้นาน
วิธีสุดท้าย
ใน IPM
คือการใช้
สารเคมี
วิธีที่เลือกต้องเหมาะสมต่อ
สถานการณ์
สภาพสังคม
เศรษฐกิจ
การตลาด
ต้ องรวบรวม สำรวจ วิเครำะห์
โดยเกษตร
การติดตามสถานการณ์ของศัตรู พืช
สารวจ ตรวจนับศัตรู พืช ศัตรู ธรรมชาติ และส่ วนของพืช
ที่ถูกทาลายอย่างสม่าเสมอ
ติดตามความเคลื่อนไหวของสภาพดินฟ้ าอากาศ
การประเมินประสิ ทธิภาพของศัตรู ธรรมชาติในการ
ควบคุมศัตรู พืช
วิเคราะห์สถานการณ์ศตั รู พืช
แม่ ผีเสือ้ ศัตรู พชื มักเป็ นผีเสือ้ กลางคืน
ขนาดเล็ก. บินเร็ว อายุสัน้ วางไข่ ได้ มาก
ศัตรูพชื
ตัวเต็มวัย
ไข่
ตัวอ่อน
ดักแด้
-
แต่ ละวัยอยู่ในทีต่ ่ างกัน
กินอาหารต่ างกัน
สภาพที่เหมาะสมต่ างกัน
ขึน้ กับชนิดพืช, ระยะพืช, ส่ วนของพืช
ภายใต้ สภาวะอากาศที่เหมาะสมเท่ านั้น
เป็ นศัตรู พชื
การเกิดโรคของพืชหรือของแมลง
เชื้อ
สภาพแวดล้ อม
* ความชื้น / อุณหภูมิ
* ความรุนแรงของเชื้อ
* แมลง / อายุ (วัย)
แมลง(พืช)
อันตรายของสารเคมี สารเคมีทางการเกษตร -
ต่ อผู้ใช้
ต่ อผู้บริโภค
ทาให้ เจ็บป่ วย
นาเข้ า 500 ชนิด
15000 ชื่อ
กว่ า 8000 ร้ านค้ า
หาซื้อได้ ง่าย
จุดวิกฤติของการกาจัดศัตรู พชื ในปัจจุบัน
 สิ่ งแวดล้ อมเป็ นพิษ
 อันตรายต่ อคนสั ตว์ และสิ่ งแวดล้ อม
 เป็ นอุปสรรคต่ อการทาเกษตรอินทรีย์
 นโยบายปี
2547 อาหารปลอดภัย
 มาตรการลดการใช้ สารเคมี 96 ชนิด
 ส่ งสิ นค้ าออกไม่ ได้
ระบบนิเวศเกษตร
พลังงาน
CO2
ผู้บริโภค
O2
อินทรีย์วตั ถุ
นา้
ธาตุอาหาร
ผู้ย่อยสลาย:จุลนิ ทรีย์
ผลกระทบจากการใช้สารเคมี
- ใช้สารเคมีมานาน แต่ศตั รู พืชยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง และมี
-
-
แนวโน้มรุ นแรงมากยิง่ ขึ้น
ผลผลิตมีสารเคมีตกค้าง ส่ งออกไม่ได้
เกษตรกรผูใ้ ช้ได้รับสารพิษ เป็ นอันตรายทั้งตาย และทาให้เจ็บป่ วย
มีพิษตกค้างในสิ่ งแวดล้อมเป็ นอันตรายต่อ คน สัตว์
ต้นทุนการผลิตสูง สารเคมีนาเข้าจากต่างประเทศ ราคาแพง ทาให้
ได้กาไรน้อยหรื อขาดทุน กรณี ที่ราคาผลผลิตตกต่า
ทาให้ศตั รู พืชต้านทานต่อสารเคมี ต้องใช้มากและบ่อยครั้งขึ้น
แนวทางการควบคุมศัตรู พืช ลดการใช้สารเคมี
การบริหารศัตรู พชื โดยวิธีผสมผสาน หรือ ไอพีเอ็ม คือ การควบคุมศัตรู พืชโดยใช้วธิ ีการหลายๆวิธี
เพื่อควบคุมศัตรู พืชไม่ให้ระบาดจนถึงขั้นเสี ยหาย
 หลักการสาคัญของไอพีเอ็ม คือหลักการจัดการเพื่อให้เกิดสมดุลทางธรรมชาติไม่มีศตั รู พืชระบาด
 หากเกิดการไม่ สมดุล เกษตรกรช่วยให้เกิดสมดุลโดยใช้วธิ ี ต่างๆในไอพีเอ็ม
 แต่ละวิธีเหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ แต่ละชนิ ดศัตรู พืช และแต่ละระยะของพืช
 เช่นกับดักกาวเหนี ยว หรื อ แสงไฟ ใช้ทาลายแมลงในระยะตัวแก่ที่มีปีกบินได้เท่านั้น
ั แมลงในวัยที่เป็ นตัวอ่อน หากใช้สารเคมีตอ้ งใช้อย่างถูกต้อง ทั้งชนิด เวลา
 การใช้สารเคมีมกั ใช้กบ
และวิธีการฉี ดพ่น
 การใช้พน
ั ธุ์ตา้ นทาน เป็ นการป้ องกันไม่ให้มีศตั รู พืชระบาดด้วยการปลูกพันธุ์ที่ศตั รู พืชไม่ชอบ
 วิธีหนึ่ งใน ไอพีเอ็ม ที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสิ ทธิ ภาพ ประหยัด และปลอดภัยที่สุด คือการควบคุม
ศัตรู พืชโดยชีววิธีใช้วธิ ีการป้ องกันก่อนการระบาด มากกว่ารอเพื่อกาจัด
 เลือกใช้วธิ ี ที่ไม่ขดั ต่อกระบวนการทางธรรมชาติ หรื อไม่ไปขัดขวางหรื อลบล้างวิธีควบคุมศัตรู พืชวิธี
อื่นๆ
 ใช้วธิ ี ที่ไม่เป็ นอันตรายต่อสิ่ งแวดล้อม ต้นทุนต่า

กำรควบคุมศัตรู พืชโดยชี ววิธี
คือกำรควบคุมปริ มำณศัตรู พืชโดยใช้ สิ่งมีชีวิต
Stink bug
0.5
0.5
มม.
Lace wings
แตนเบียนอะซี
25/3/2005
แตนเบียนอะซี
25/3/2005
15
15
ทาไมตองใช
ี สมผสาน
้
้วิธผ
ลักษณะของเพลีย
้ แป้งทีย
่ ากตอการ
่
กาจัดดวยวิ
ธอ
ี น
ื่
้
ดูดกินน้าเลีย
้ งอยูใต
ในใบและ
่ ใบ
้
ยอดทีห
่ งิก
ตัวมีผงแป้งคลุมตัวยากทีส
่ ารอืน
่ จะ
เขาท
้ าลาย
ขยายพันธุรวดเร็
วมาก บางทีไ่ ม่
์
ตองผสมพั
นธุ ์
้
สารเคมีทใ
ี่ ชไดผลมีขอจากัด
การควบคุมศัตรู พชื โดยวิธีผสมผสาน
(Integrated Pest Management)
 การควบคุมศัตรู พืชโดยวิธีผสมผสาน (Integrated Pest
คือการควบคุมศัตรูพชื
โดยใช้ หลายๆวิธีร่วมกันอย่ างเหมาะสมใน การ
ควบคุมปริมาณศัตรูพชื ให้ อยู่ในระดับทีไ่ ม่ ก่อให้ เกิด
ความเสี ยหาย เพือ่ ให้ การควบคุมศัตรูพชื มี
ประสิทธิภาพสูงสุเ ประหยัเและปลอเภัยทีส่ ุ เ
Management หรื อ IPM)
วิธีการขึน้ กับสถานการณ์ ศัตรู พชื ขณะนั้น
ชีววิธี
 วิธีเขตกรรม
 วิธีกล วิธีกายภาพ
 วิธีฟิสิ กส์
 วิธีพน
ั ธุกรรม
 และสารธรรมชาติจากพืช
 และสารเคมี

(ETL) ม
ระดับที่ตอ้ งจัดการควบคุ
จานวนศัตรู พชื
ชีววิธีแบบธรรมชาติ
ชีววิธีแบบเพิม่ พูน
ชีววิธีแบบท่ วมท้ น
ป้ องกันไม่ ให้ ระบาด
- เขตกรรม
- ฟิ สิ กส์
- กล
- กับดัก
- ชีววิธี
- IPM อืน่ ๆ เช่ น สมุนไพร
- ชีววิธี
อายุพชื
- สารเคมี
- จุลนิ ทรีย์
การบริ หารศัตรู พืช
Exist
Colonize
Establish
มีชีวติ รอด
ยึดพืน้ ที่
ตั้งรกราก
IPM
ป้องกันการตั้งรกราก
BIO
ป้องกันการยึดพืน้ ที่
การเขตกรรม
ป้องกันการมีชีวติ รอด/ยึดพืน้ ที/่ ตั้งรกราก
ป้องกันการระบาด กาจัดเมือ่ เกิดการระบาด
ยุทธวิธีในการบริหารศัตรูพชื แบบผสมผสาน
สถานการณ์ ศัตรูพชื ศัตรู
ธรรมชาติและพืช
การบริหารศัตรูพชื แบบผสมผสาน
- ศัตรู พชื ปริมาณต่า
ชีววิธีแบบธรรมชาติ + วิธีเขตกรรม
- ศัตรู ธรรมชาติมปี ริมาณสมดุล
กับศัตรู พชื
- พืช+สภาพดินฟ้ าอากาศปกติ
-ศัตรู พชื มีแนวโน้ มเพิม่ ปริมาณสู งมากขึน้
- ชีววิธีแบบธรรมชาติ+วิธีเขตกรรม+ชีววิธีแบบขยายเพิม่ พูน
(หรือ+วิธีการอืน่ ๆ) หรือ
-ศัตรู ธรรมชาติปริมาณต่า
-ชีววิธีแบบธรรมชาติ+วิธีเขตกรรม+วิธีการอืน่ ๆ (กรณีทไี่ ม่ มชี ีววิธี
แบบขยายพิม่ พูน)
-พืชถูกทาลายในระดับทีท่ นทานได้
-สภาพดินฟ้ าอากาศไม่ ปกติ
-ศัตรู พชื ปริมาณสู งมาก
(พิจารณาจากชนิดและความซับซ้ อนของศัตรู พชื )
-ชีววิธีแบบธรรมชาติ+วิธีเขตกรรม+สารเคมี หรือ
-ศัตรู ธรรมชาติปริมาณต่า
-ชีววิธีแบบธรรมชาติ+วิธีเขตกรรม+สารเคมี+วิธีอนื่ ๆ
-พืชถูกทาลายในระดับทีไ่ ม่ สามารถ
ทนทานได้
(พิจารณาจากชนิดและความซับซ้ อนของศัตรู พชื )
- สภาพดินฟ้ าอากาศไม่ ปกติ
ประเมินผล
-ประสิทธิภาพในการควบคุมศัตรูพชื
- ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ สังคม และ
วิธีปฏิบตั ิในการควบคุมศัตรู พืชโดยไอพีเอ็ม
1.ปลูกพืชอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ เช่นพันธุ์ดี ปุ๋ ยถูกต้อง ให้น้ าดูแล
รักษาอย่างเหาะสม เพื่อให้พืชแข็งแรง ทนทานต่อศัตรู พืช
 2.สารวจแปลงปลูกอย่างสม่าเสมอเพื่อประเมินสถานการณ์ศตั รู พชื
 3.หากมีศตั รู ธรรมชาตินอ้ ย และศัตรู พืชมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นใช้การ
ควบคุมศัตรู พืชโดยวิธีผสมผสานเช่นใช้แสงไฟ วิธีกล ใช้ความร้อนหรื อใช้
ศัตรู ธรรมชาติ
 4.หากศัตรู พืชยังคงเพิ่มปริ มาณขึ้นให้ตดั สิ นใจใช้ ศัตรู ธรรมชาติหรื อ
เชื้อจุลินทรี ย ์
 5.หากยังไม่สามารถควบคุมปริ มาณศัตรู พืชได้ ให้ใช้สารเคมี เป็ นลาดับ
สุ ดท้าย การใช้สารเคมีตอ้ งใช้ให้ถูกต้อง ทั้งชนิด ปริ มาณ เวลา และวิธีการ
ในการปล่อย หรื อฉีดพ่น รวมทั้งการป้ องกัน ผูฉ้ ีดพ่นด้วย
