การสัมภาษณ์ Interview

Download Report

Transcript การสัมภาษณ์ Interview

การพัฒนาหัวข้อวิจยั จาก
คาถามเจ็ดประการ
ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. สงครามชัย ลีทองดี
คณะสาธารณสุขศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
[email protected], 080-7429991
1
แนวคิดและนโยบาย นายแพทย์สาธารณสุ ขจังวัดยโสธร
• นักสาธารณสุ ขเป็ นนักวิชาชีพ ทาหน้าที่จดั บริ การ ยังไม่สามารถตอบ
คาถามเชิงวิชาการได้ไม่ดีนกั
• การให้บริ การและทางานควบคู่ไปการทางานวิชาการแบบง่ายๆ และเอา
งานประจามาทาให้เป็ นงานวิจยั
• กระทรวงและเขต กาลังอยูใ่ นช่วงปฏิรูป คณะกรรมการบริ หารเครื อข่าย
เป็ นแกนนาเชิงบริ หาร เพื่อรับผิดชอบมิติการจัดบริ การที่อยูใ่ นพื้นที่
เฉพาะในระดับเขต
• การทางานวิจยั แบบง่ายๆไม่ซบั ซ้อนเป็ นความสาคัญ เป็ นการนาวิชาการ
มาตอบคาถามเพื่อให้เกิดการบริ การที่ดี
2
• สสจ ยโสธร เน้นให้เกิด งานวิจยั ทุกแห่ง รพสต ๑๑๒ แห่ง เปิ ดเวทีการ
สนับสนุนให้เกิดการปรับไปสู่การปฏิบตั ิ และให้จดั กิจกรรมเป็ น
ขั้นตอน เป็ นการประชุมเชิงปฏิบตั ิการ ทาไปและจัดให้ครบกระบวนการ
• บางงานเป็ นงานที่ทาประจาอยูแ่ ล้ว มีมากมายหลากหลายนวัตกรรม เรา
จะต้องเรี ยนรู ้และนามาประยุกต์ใช้ จะเชื่อมโยงนโยบายไปสู่การปฏิบตั ิ
ควรเป็ นอย่างไร ทาให้เป็ นวิจยั ได้อย่างไร
• แต่ละขั้นตอนอยากให้เห็นการเปลี่ยนแปลงและมีความก้าวหน้า
• มิถุนายน ๕๗ ต้องมีงานนาเสนอที่ อาจจะเป็ น ศรี สะเกษ เป็ นเจ้าภาพ
หรื อเวทีอื่นๆที่เป็ นที่ยอมรับ
3
• ทาง สสจ ยโสธรพร้อมจะสนับสนุน และให้เกิดการพัฒนางาน
• การประชุมจะเป็ นประโยชน์ในการพัฒนางานประจาที่ทาให้ไม่ยงุ่ ยาก
ซับซ้อน อยากได้ผลงานเผยแพร่ ทั้งหมดยิง่ ดี พร้อมที่จะสนับสนุน
4
สรุ ปประเด็น
•
•
•
•
สนับสนุน
โอกาส
การใช้งานวิจยั ในการประเมินผลการทางาน
เป้ าหมายและความขาดหวัง
• Triangulation
5
วัตถุประสงค์ของหน่วยการเรี ยนรู้
• อธิบายหลักการวิจยั พื้นฐานได้
• อธิบายหลักการตั้งคาถามเพื่อการพัฒนาหัวข้อวิจยั ผ่านคาถาม
7R’s ได้
• ประยุกต์หลักการ 7R’s ในการพัฒนาหัวข้อวิจยั ได้
• เลือกประเด็นเพื่อพัฒนาไปสู่หวั ข้อวิจยั ได้
6
หัวข้อ
• หลักการวิจยั พื้นฐาน
• คาถาม 7R’s
• การประยุกต์ 7R’s
7
Data, Information, Knowledge, Learning
LEARNING/WISDOM
experiences in more applications
KNOWLEDGE
beliefs, assumptions, application
INFORMATION
meaning
DATA relationship
phenomena
Dimension of Wisdom
Wisdom
Knowledge
Information
Data
ลำดับกำรสร้ ำงควำมรู้ และปัญญำ
•
•
•
•
ข้อมูล data
สารสนเทศ information
ความรู ้ knowledge
ปัญญา wisdom การเรี ยนรู ้ Learning
• จริ ยธรรม ethic
• ปรัชญา philosophy
ต ัวแปร (Variable)
ั
สญล
ักษณ์ทน
ี่ ักวิจ ัยกำหนดค่ำเป็นต ัวเลข
แทนเหตุกำรณ์ พฤติกรรม ล ักษณะ หรือสงิ่
ึ ษำ ซงึ่ แปรค่ำได้
ทีต
่ อ
้ งกำรศก
สำมำรถว ัดข้อมูลของต ัวแปรได้ทงเช
ั้
งิ ปริมำณ
และคุณภำพ Quantitative data and
Qualitative data
ระด ับกำรว ัดของต ัวแปรเชงิ ปริมำณ
•
•
•
•
มำตรำนำมบ ัญญ ัติ (nominal scale)
มำตรำเรียงอ ันด ับ (ordinal scale)
มำตรำอ ันตรภำค (interval scale)
่ น (ratio scale)
มำตรำอ ัตรำสว
วิธีกำรวัดข้ อมูลเชิงคุณภำพ
• กำรทบทวนเอกสำร Documentation
• กำรสั มภำษณ์ Interview
• กำรสนทนำกลุ่มย่ อย Focus group
• กำรสั งเกต Observation
13
การทบทวนข้อมูลเอกสาร Documentation
• การทบทวนจากแหล่งข้อมูลทั้งปฐมภูมิและทุติยภูมิ
• รวบรวม
• วิเคราะห์
• สังเคราะห์
• สร้างเป็ นเรื่ องราว
14
วิธีการทบทวนวรรณกรรม
• ทบทวนแนวคิดหรื อทฤษฎีเกี่ยวกับเรื่ อง
นั้นที่เกี่ยวข้อง
• ทบทวนงานวิจยั ที่เกี่ยวข้องกับเรื่ องนั้นๆ
• ทบทวนสถานการณ์น้ นั ๆในปัจจุบนั
15
กำรสั มภำษณ์ Interview
• สัมภาษณ์เชิงลึกเชิงโครงสร้าง
• สัมภาษณ์เชิงลึกแบบกึ่งโครงสร้าง
• สัมภาษณ์เชิงลึกแบบไม่มีโครงสร้าง
16
กำรสนทนำกลุ่มย่ อย Focus group
•
•
•
•
•
•
คล้ายกับการสัมภาษณ์แต่ทาเป็ นกลุ่ม
กลุ่มประมาณ แปดถึง สิ บสองคน
มีผดู ้ าเนินการ Moderator
มีผใู ้ ห้ขอ้ มูลหลัก Key Informant
มีประเด็น
มีระบบการบันทึก
17
การสังเกต Observation
• สังเกตแบบมีส่วนร่ วม insider
• สังเกตแบบเป็ นคนนอก Outsider
18
ระดับของการวิจยั
• Descriptive research
• Analytical Research
• Prediction Research
X and Y
XxY
X predict Y
Level of Research
X
XxY
X and Y
Explanation
descriptive
Y
Prediction
and Control
กำรพัฒนำหัวข้ อวิจัยผ่ ำนคำถำม
7 R’s
กรอบกำรพิจำรณำเกีย่ วกับกำรสร้ ำงกรอบแนวคิดวิจัย
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
แนวคิดวิจยั Research Idea
ปัญหาวิจยั Research Problem
การออกแบบวิจยั Research Design
คาถามวิจยั Research Question
วัตถุประสงค์วิจยั Research Objective
กรอบแนวคิดวิจยั Research Framework
หัวข้อวิจยั Research Topic
1. Research Idea
• เป็ นการระบุวา่ การศึกษาครั้งนี้สนใจในประเด็นใด เรื่ องใด เป็ นสาคัญ
วิจยั ในคราวนี้
• หลักการสาคัญเป็ นการบอกให้ทราบว่าจะใช้หลักการแนวคิดใดเป็ น
สาคัญในการศึกษาครั้งนี้
• แนวคิดที่กล่าวถึงนั้นเป็ นเรื่ องที่อยูใ่ นการรับรู ้ทวั่ ๆไปในวงวิชาการหรื อ
การทางานในสาขาที่ตนเกี่ยวข้อง
ตัวอย่าง
•
•
•
•
•
•
•
แนวคิดการกระจายอานาจ
แนวคิดการปฏิรูประบบสุ ขภาพ
การจัดการมูลฝอย
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุ ขภาพ
การควบคุมและป้ องกันโรค
การคลังสุ ขภาพ
การพัฒนาคุณภาพ
2. Research Problem
• ปัญหาคือช่องว่างระหว่างความคาดหวังกับความจริ งที่เป็ นอยู่
• ต้องบอกให้ได้วา่ ปัญหาวิจยั คืออะไร
• ปัญหาวิจยั คือปัญหาที่เกิดขึ้นจริ ง ที่มีหลักฐานประกอบอย่างชัดเจนและ
ต้องการจะหาคาตอบให้ได้ในการศึกษาคราวนี้
• การสนับสนุนข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาวิจยั นั้นอาจจะต้องใช้ขอ้ มูลทั้ง
ทางตรงและทางอ้อมมาประกอบการอธิบายหรื อเรี ยกอีกอย่างว่ามีขอ้ มูล
เชิงประจักษ์มาประกอบ
Evidence based =EB
Problem Statement
Expectation
Gap
Actual
ตัวอย่าง
• มีอุบตั ิการณ์ของโรคไข้เลือดออกในพื้นทีส่ ูง
• ผลการดาเนินงานยังไม่ผา่ นเกณฑ์
• การไม่บรรลุเป้ าหมายของ.....
• What
• Why
• how
28
3. Research Design
• ตัดสิ นใจว่าจะออกแบบการศึกษาแบบไหน
– การวิจยั เชิงพรรณนาหรื อสารวจ
– การวิจยั เชิงทดลอง
– การวิจยั กึ่งทดลอง
– การวิจยั เชิงคุณภาพ
• ต้องเข้าใจความต่างในการวิจยั แต่ละรู ปแบบ
รู ปแบบการวิจยั
• วิจยั เชิงปริ มาณ
– การสารวจ
– การพรรณนา
• วิจยั กึ่งทดลอง
• วิจยั เชิงทดลอง
• วิจยั เชิงคุณภาพ
Survey Research pattern
• อธิบาย และหรื อ วิเคราะห์ X และ Y
• หาความสัมพันธ์ระหว่าง X และ Y
X
Y
Qua-si Exp. Research Pattern
X as an
Intervention
Y as an
Indication
or KPIs
Qualitative Research Pattern
• No have fixed Pattern
• Based on research method
– Documentation
– Interview
– Focus group
– Observation
• the main question are How and Why
• To be find out for Phenomenal of situation
Action Research
Reflect
Plan
วงรอบที่ 2
Reflect
Plan
Observe
Act
Observe
Act
Reflect
Plan
วงรอบที่ 1
วงรอบที่ 3
Observe
Act
Mixed method
• QuaNtitative method
• QuaLitative method
Parsimonious Designs (Creswell & Plano Clark, 2007)
Concurrent Mixed Methods Designs
Triangulation Design
QUAN
Data &
Results
Interpretation
QUAL
Data &
Results
Embedded Design
QUAN
Pre-test
Data &
Results
Intervention
qual
Process
QUAN
Post-test
Data &
Results
Interpretation
Sequential Designs Mixed Methods Designs
Explanatory Design
QUAN
Data &
Results
Following up
qual
Data &
Results
Interpretation
Exploratory Design
QUAL
Data &
Results
Building to
quan
Data &
Results
Interpretation
Sequential Embedded Design
Beforeintervention
qual
QUAN
Intervention
Trial
Afterintervention
qual
Interpretation
4. Research Question
•
•
•
•
คาถามที่ตอ้ งการหาคาตอบในการศึกษาคราวนี้คืออะไร
อาจจะมีท้ งั คาถามเชิงกว้างและแคบ
เป็ นการกาหนดอย่างเป็ นนามธรรมหรื อภาพรวมที่ผวู ้ ิจยั สนใจที่อยากรู ้
นัน่ คือการสร้างสมมติฐานในการวิจยั นัน่ เอง
ตัวอย่าง สนใจจะหาคาตอบใด
•
•
•
•
จะปรับระบบบริ การผูป้ ่ วยเบาหวานในสถานีอนามัยได้อย่างไร
ปัจจัยใดเป็ นสาเหตุการมีพฤติกรรมไม่ถูกต้อง
จะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร
จะสร้างขวัญกาลังใจได้อย่างไร
เทคนิค ตั้งคาถาม
• Intervention
– การประยุกต์โปรแกรม.....เพื่อปรับเปลี่ยน....ได้หรื อไม่อย่างไร
• Process
– กระบวนการในการพัฒนา.....ควรเป็ นอย่างไร
40
5. Research Objective
• เป็ นการบอกความประสงค์ที่ตอ้ งการค้นหาความจริ งหรื อความรู ้ใน
การศึกษาคราวนี้
• เป็ นการกาหนดอย่างเป็ นรู ปธรรมว่าอยากทราบคาตอบ
• อธิบายอย่างง่ายคือการค้นหาคาตอบตามตัวแปรที่กาหนดไว้
ตัวอย่าง
•
•
•
•
การศึกษาครั้งนี้อยากรู ้เรื่ องอะไร
ประสิ ทธิผลของโปรแกรมเป็ นอย่างไร
จะพัฒนาระบบบริ การใหม่ได้อย่างไร
ระบบที่ออกแบบมาจะแก้ปัญหาได้หรื อไม่
6. Research Framework
• การตัดสิ นเลือกตัวแปรที่จะศึกษาในคราวนี้
• วางกรอบความเชื่อมโยงแต่ละตัวแปรที่จะศึกษา
• มีความสัมพันธ์กบั การเลือกรู ปแบบการวิจยั
กำรสร้ ำงกรอบแนวคิด
• เป็ นการสร้างขอบเขตความเชื่อมโยงแนวคิดที่สาคัญของงานวิจยั ในแต่
ละเรื่ อง ตามที่ระบุปัญหาไว้
• เป็ นภาพรวมที่สาคัญที่ทาให้ผอู ้ ื่นเข้าใจงานวิจยั ที่จะดาเนินการ ว่ามี
แนวคิดสาคัญอย่างไร มีการเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันอย่างไร มี
ความสัมพันธ์กนั อย่างไร
• แหล่งข้อมูลที่สาคัญคือ ทฤษฎี ข้อสรุ ปเชิงประจักษ์ สมมติฐาน และ
งานวิจยั ที่เกี่ยวข้อง
• ผูว้ ิจยั จาเป็ นต้องศึกษาทบทวนแหล่งข้อมูลสาคัญให้ครบถ้วน
กรอบควำมคิด
(Research Conceptual Framework)
ั ันธ์เชงิ สำเหตุ
แผนภำพแสดงควำมสมพ
ระหว่ำงต ัวแปรในกำรวิจ ัย ซงึ่ น ักวิจ ัยสร้ำงโดย
้ วำมรูจ
ึ ษำเอกสำรและงำนวิจ ัยที่
ใชค
้ ำกกำรศก
ั
้ ด
เกีย
่ วข้อง สญล
ักษณ์ทใี่ ชม
ี ังนี้
= ต ัวแปรในกำรวิจ ัย X and Y
= อิทธิพล
ั ันธ์
= ควำมสมพ
ื เนือ
= ผลสบ
่ ง
7. Research Topic
• เป็ นการระบุชื่อเรื่ องที่จะเป็ นการศึกษา
• แสดงความเกี่ยวข้องตัวแปรเหตุ ตัวแปรผล ของเรื่ องราวอะไร ทีไ่ หน
• การตั้งชื่อจะบอกการออกแบบและระดับการวิจยั กลายๆ
กรอบกำรพิจำรณำเกีย่ วกับกำรสร้ ำงกรอบแนวคิดวิจัย
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
แนวคิดวิจยั Research Idea
ปัญหาวิจยั Research Problem
การออกแบบวิจยั Research Design
คาถามวิจยั Research Question
วัตถุประสงค์วิจยั Research Objective
กรอบแนวคิดวิจยั Research Framework
หัวข้อวิจยั Research Topic
48
สภำพกำรแข่ งขันของสถำบันอุดมศึกษำด้ ำนสำธำรณสุ ข ในพืน้ ทีภ่ ำคอีสำน
มรฏ เลย ว พชบ
มรฏ อด.
มรฏ สก
มก.
ม บรพ.
มข
มรฏ ชย. ม บรพ. มมส.
ว นม. ม วชก
มม.มรฏ นม
มรฏ บร. มรฏ สร
มรฏ ชย.
มรฏ อบ
ม ฉก
มอบ.
จากประเด็นสนใจสู่หวั ข้อวิจยั
• Large
• Middle
• Specific
• Problem
• Intervention or Process
• KPIs
50
จากประเด็นสนใจสู่หวั ข้อวิจยั
• Large ภาพใหญ่ บอกแนวคิดหลักการและ
• Middle ภาพกลาง สถานการณ์ในระดับเขต
• Specific ภาพเล็ก เจาะจงพื้นที่
• Problem บอกประเด็นที่เป็ นปัญหา ให้เห็นช่องว่าง มีหลักฐาน
• Intervention or Process บอกวิธีการแก้ไขปัญหา
• KPIs บอกตัวชี้วดั ทั้งระดับ Out put และ Outcome
51
Intervention
• X1
– 1.1
– 1.2
• X2
Y1
Y2
– 2.1
– 2.1
• X3
– 3.1
52
Action Research process
• P
• A
• O
• R
• P
– P1
– P2
– P3
• A
– A1
– A2
• ผล
• Output
• KSFs
Model
• Outcome
• O
– O1
– O2
• R
– R1
53
ขั้นตอนการดาเนินงานต่อไป
• การวิจยั เชิงเอกสาร เพื่อ
• ความเป็ นมาและความสาคัญของปัญหา
– ภาพใหญ่
– ภาพกลาง
– ภาพเล็ก
• การทบทวนวรรณกรรม
– แนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
– งานวิจยั ที่ผา่ นมา
– สถานการณ์น้ นั ๆ
54
การได้มาซึ่งข้อมูล
• ข้อมูลเชิงปริ มาณ
– ข้อมูลมือหนึ่ง primary data
– ข้อมูลมือสอง secondary data
• ข้อมูลเชิงคุณภาพ
– การวิเคราะห์เอกสาร
– การสัมภาษณ์
– การสนทนากลุ่ม
– การสังเกต
55
การผสมผสานการวิจยั Mixed Method
• ข้อมูลเชิงปริ มาณ
• วิธีการเชิงปริ มาณ
• หลักฐานเชิงปริ มาณ
• ข้อมูลเชิงคุณภาพ
• ข้อมูลเชิงคุณภาพ
• หลักฐานเชิงคุณภาพ
ข้ อสรุปผลกำรวิจยั
56
ความน่าเชื่อถือของงานวิจยั
ข้อมูล
วิธีการ
แหล่ง
Trianglulation
57
หลักการเขียนความเป็ นมาและความสาคัญของปัญหา
• เขียนภาพใหญ่ไปหาเล็ก Narrative
description
• มีขอ้ มูลหลักฐาน Evidenced-based
• มุ่งตรงไปสู่ปัญหา Problem statement
58
การเขียนคาถามวิจยั
• กำรวิจัยปฏิบัติกำร
–กระบวนหรือรู ปแบบนั้น เป็ นอย่ ำงไร
• กำรวิจัยกึง่ ทดลอง
–โปรแกรมหรือรู ปแบบนั้นได้ ผลหรือไม่ เป็ นอย่ ำงไร
59
การเขียนวัตถุประสงค์
• กำรวิจัยปฏิบัติกำร
– ศึกษำกระบวนหรือรู ปแบบ
• กำรวิจัยกึง่ ทดลอง
– ศึกษำผลของโปรแกรมหรือรู ปแบบ
60