สไลด์ชุดที่ 1

Download Report

Transcript สไลด์ชุดที่ 1

วัชริ นทร์ ผ่องศรี
0806218918
http://watcharinph.tatc.ac.th
พื้นฐานการสื่ อสารข้อมูลและเครื อข่าย
องค์ประกอบการสื่ อสารข้อมูล
ชนิดของการสื่ อสารขอมู
้ ล
แบงได
เป็
่
้ น 3 ประเภท คือ
1. การสื่ อสารขอมู
้ ลทิศทางเดียว (Simplex Trans
2. การสื่ อสารขอมู
้ ลสองทิศทางสลับกัน (Half
Duplex Transmission)
3. การสื่ อสารขอมู
น (Full
้ ลสองทิศทางพรอมกั
้
Duplex Transmission)
การสื่ อสารขอมู
้ ลทางคอมพิวเตอร ์
หมายถึง การโอนถาย
(Transmission) ขอมู
่
้ ล
หรือการแลกเปลีย
่ นขอมู
ส
บ
้ ลระหวางผู
่
้ ่ งตนทางกั
้
ผูรั
้
้ ลประเภท ขอความ
้ บปลายทาง ทัง้ ขอมู
รูปภาพ เสี ยงหรือขอมู
้ ลสื่ อผสม โดยผูส
้ ่ งต้น
ทางส่งขอมู
ปกรณอิ
้ ลผานอุ
่
์ เล็กทรอนิกส์หรือ
คอมพิวเตอร ์ ซึง่ มีหน้าทีแ
่ ปลงขอมู
้ ลเหลานั
่ ้นให้
อยูในรู
ปสั ญญาณทางไฟฟ้า (Electronic data)
่
จากนั้นถึงส่งไปยังอุปกรณหรื
์ อคอมพิวเตอร ์
ปลายทาง
ประเภทของสั ญญาณ
- สั ญญาณแบบดิจต
ิ อล (Digitals signal) เป็ น
สั ญญาณทีถ
่ ก
ู แบงเป็
ต
่ นช่วงๆ อยางไม
่
่ อเนื
่ ่อง
(Discrete) โดยลักษณะของสั ญญาณจะแบง่
ออกเป็ นสองระดับเพือ
่ แทนสถานะสองสถานะ
คือ สถานะของบิต 0 และสถานะของบิต 1
โดยแตละสถานะคื
อ การให้แรงดันทางไฟฟ้าที่
่
แตกตางกั
น การทางานในคอมพิวเตอรใช
่
์ ้
สั ญญาณดิจท
ิ ล
ั
สั ญญาณอนาลอก
Signal)
เป็ นสั ญญาณคลื
น
่ แมเหล็
กไฟฟ(Analog
่ ค
ี วามต
อเนื
่
้ าทีม
่ ่อง
ของสั ญญาณ โดยไมเปลี
่ นแปลงแบบทันที่
่ ย
ทันใดเหมือนกับสั ญญาณดิจต
ิ อลเช่น เสี ยงพูด
หรืออุณหภูมใิ นอากาศเมือ
่ เทียบกับเวลาที่
เปลีย
่ นแปลงอยางต
อเนื
่
่ ่อง
ความหมายของเครือขายคอมพิ
วเตอร ์
่
เครื อข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) คือ
ระบบที่มีคอมพิวเตอร์ อย่างน้ อยสองเครื่ องเชื่อมต่อกันโดยใช้ สื่อกลาง
และสามารถสื่อสารข้ อมูลกันได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ซึง่ ทาให้ ผ้ ใู ช้
คอมพิวเตอร์ แต่ละเครื่ องสามารถแลกเปลี่ยนข้ อมูลซึง่ กันและกันได้
นอกจากนี ้ยังสามารถใช้ ทรัพยากรที่มีอยูใ่ นเครื อข่ายร่วมกันได้
ประโยชนของเครื
อขายคอมพิ
วเตอร ์
่
์
1. สามารถแลกเปลี่ยนข้ อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ
2. สามารถแชร์ ทรัพยากร
3. ประหยัดเนื่องจากสามารถแชร์ ทรัพยากรร่วมกันได้
4. สามารถแชร์ เอกสาร เช่น ตารางข้ อมูลต่างๆ ใบส่งของ ใบรายการ
สินค้ า เป็ นต้ น
5. สามารถใช้ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรื ออีเมล ในการติดต่อผู้ที่อยู่
ห่างไกลได้ อย่างรวดเร็ว
ประโยชนของเครื
อขายคอมพิ
วเตอร ์
่
์
(ตอ)
่
6. การสนทนาผ่ านเครือข่ าย หรือการแชต
(Chat)
7. การประชุมระยะไกล
(Videoconference)
8. การแชร์ ไฟล์ ต่าง ๆ เช่ น รูปภาพ วีดโิ อ เพลง เป็ นต้ น
9. การแชร์ ซอฟต์ แวร์ ต่างๆ
องค์ ประกอบพืน้ ฐานของเครือข่ าย
ประเภทของระบบเครื อข่าย
ประเภทของระบบเครื อข่าย
• ระบบเครือข่ ายแบ่ งขนาดทางกายภาพของเครือข่ ายออกเป็ น 3
ประเภท ดังนี ้
– LAN (Local Area Network)
– WAN (Wide Area Network)
– MAN (Metropolitan Area Network)
ประเภทของระบบเครื อข่าย
LAN (Local Area Network)
• การเชื่อมต่อระบบเครื อข่ายที่เครื่ องคอมพิวเตอร์ อยูใ่ นพื ้นที่ใกล้ กนั เช่น
การเชื่อมต่อในตึกเดียวกัน การเชื่อมต่อในมหาวิทยาลัย การเชื่อมต่อใน
หน่วยงานต่างๆ โดยการเชื่อมต่อสามารถผ่านระบบ Ethernet, Fast
Ethernet, FDDI, Token Ring
ประเภทของระบบเครื อข่าย
WAN (Wide Area Network)
• การเชื่อมต่อ Lan เข้ าด้ วยกันในกรณีที่ระยะทางในการเชื่อมต่อระหว่าง
วง Lan ทังสองห่
้
างกันมาก โดยการเชื่อมต่อสามารถทาได้ โดยการใช้
ATM, DSL, ISDN อื่นๆ แต่การเชื่อมต่อจะมีความเร็วในการเชื่อมต่อต่า
กว่าการเชื่อมต่อแบบ Lan
ประเภทของระบบเครื อข่าย
Man (Metropolitan Area Network)
• เป็ นการเชื่อมต่อเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ บนพื ้นที่ขนาดใหญ่เช่นเดียวกับ
Wan แต่การเชื่อมต่อนัน้ จะเป็ นการเชื่อมต่อด้ วยความเร็วสูง
เช่นเดียวกับการเชื่อมต่อแบบ Lan
ประเภทของเครื อข่ายแบ่งตามหน้าที่ของคอมพิวเตอร์
2.1 Peer-to-Peer Network หรื อเครื อข่ายแบบเท่าเทียม
2.2 Client-Server Network หรื อเครื อข่ายแบบผู้ใช้ บริการและผู้ให้ บริการ
ประเภทของเครื อข่ายแบ่งตามความปลอดภัย
Network Interface Card : NIC
• ติดตัง้ บนเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ สามารถเชื่อมต่ อเข้ ากับระบบเครื อข่ ายผ่ านทาง
Switch หรือ Hub
• Bandwidth 10/100/1000 Mbps
องค์ประกอบพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
สื่ อกลางสาหรับการรับส่ งข้ อมูล
แบ่ งเป็ นแบบมีสายกับไร้ สาย
สายสัญญาณ
ปัจจุบน
ั มีสายสั ญญาณทีใ่ ช้เป็ นมาตรฐานในระบบ
เครือขายคอมพิ
วเตอร ์
่
อยู่ 3 ประเภท คือ
1. สายคูเกลี
่ ยวบิด (Twisted Pairs)
2. สายโคแอ็กเชียล (Coaxial Cable)
3. สายใยแกวน
้ าแสง (Fiber Optic)
สายคู่บิดเกลียว Twisted Pair
สาย UTP
สาย UTP เป็ นสายที่ใช้ เชื่อมโยง คอมพิวเตอร์ ไปยังอุปกรณ์สื่อสารตามมาตรฐาน
กาหนดความยาวได้ ไม่เกิน 100 เมตร
เป็ นสายแบบที่มีตวั นาทองแดง 4 คูโ่ ดย ทัว่ ไปเป็ นสายที่ใช้ ลวดตัวนาที่มีขนาดเส้ น
ผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5 มิลลิเมตร
สาย 4 คูท่ ี่ตีเกลียวสลับกันดังนันจึ
้ งจาเป็ นต้ องมีสีเพื่อกาหนดสายเพื่อให้ การเลือก
ต่อสายที่ปลายทังสองได้
้
ถกู ต้ อง จึงมีการกาหนดสีให้ เป็ นรหัส บ่งบอกสาย สีที่ปรากฏ
ที่สาย UTP ที่ใช้ ในมาตรฐานนี ้มีดงั นี ้
สายคูท่ ี่ 1 ใช้ สีขาว - ฟ้า ตัวย่อ (W-BL)
สายคูท่ ี่ 2 ใช้ สีขาว - ส้ ม ตัวย่อ (W-O)
สายคูท่ ี่ 3 ใช้ สีขาว - เขียว ตัวย่อ (W-G)
สายคูท่ ี่ 4 ใช้ สีขาว - น ้าตาล ตัวย่อ (W- BR)
Category ของสาย UTP
STP (Shield Twisted Pair)
เป็ นสายคูล่ กั ษณะคล้ ายกันกับสาย UTP แต่มีฉนวนป้องกันสัญญาณรบกวน
สายคูต่ ีเกลียวหุ้มฉนวนที่เป็ นโลหะถักเป็ นร่างแหโลหะหรื อฟอยส์
ซึง่ ร่างแหนี ้จะมีคณ
ุ สมบัติเป็ นเกราะในการป้องกันสัญญาณรบกวนต่างๆ
ภาษาเทคนิคเรี ยกเกราะนี ้ว่า ชิลด์ (Shield) จะใช้ ในกรณีที่เชื่อมต่อเป็ น
ระยะทางไกลเกินกว่าระยะทางที่จะใช้ สาย UTP
หัวต่อ (Connector)
ที่ใช้กบั สาย Twisted pair เรี ยกว่า หัวต่อ RJ-45
ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื อข่ายคอมพิวเตอร์
• สาย UTP (Unshielded Twisted Pair)
• ใช้ ในการเชื่อมระหว่ างเครื่อง
คอมพิวเตอร์ และ Ethernet Switch
หรือ Hub
• Bandwidth 10/100/1000 Mbps
• ความเร็วในการเชื่อมต่ อขึน้ อยู่กับการ
เข้ าหัวสาย และอุปกรณ์ ท่ ใี ช้ ในการ
เชื่อมต่ อ
•ระยะทางในการเชื่อมต่ อ < 100m
ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื อข่ายคอมพิวเตอร์
• สาย UTP และหัว RJ-45
– สาย UTP ที่ใช้ ใน Ethernet Lan จะเข้ าหัวแบบ RJ-45
– ภายในสาย UTP จะมีสายทองแดงย่อยอีก 8 เส้ น โดยถูกจัดกลุม่ เป็ น
คูๆ่ ทังหมด
้
4 คู่
UTP
RJ45
ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื อข่ายคอมพิวเตอร์
• การเข้ าหัว RJ-45 มีได้ 2 แบบ คือ
– แบบ A (Standard 568A) มีการเรี ยงสายจากซ้ ายไปขวา ดังนี ้
•
•
•
•
•
•
•
•
ขาว/เขียว
เขียว
ขาว/ส้ ม
น ้าเงิน
ขาว/น ้าเงิน
ส้ ม
ขาว/น ้าตาล
น ้าตาล
ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื อข่ายคอมพิวเตอร์
– แบบ B (Standard 568B) เป็ นแบบที่นิยมใช้ กนั มาก มีการเรี ยงสายจาก
ซ้ ายไปขวา ดังนี ้
•
•
•
•
•
•
•
•
ขาว/ส้ ม
ส้ ม
ขาวเขียว
น ้าเงิน
ขาว/น ้าเงิน
เขียว
ขาว/น ้าตาล
น ้าตาล
ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื อข่ายคอมพิวเตอร์
• สาย UTP มี 2 แบบ ตามการเข้ าหัว RJ-45 ดังนี ้
– สายตรง (UTP Straight Cable) เป็ นสายที่ใช้ ทวั่ ไป และพบมาก โดยใช้ ใน
การเชื่อมเครื่ องคอมพิวเตอร์ เข้ ากับอุปกรณ์เครื อข่ายจาพวก Hub และ
Switch โดยการเข้ าหัวทัง้ 2 ปลายจะเป็ นแบบเดียวกัน (A หรื อ B ก็ได้ )
– สายครอส (UTP Cross-over Cable) ใช้ ในการเชื่อมต่อระหว่างเครื่ อง
คอมพิวเตอร์ 2 เครื่ องโดยตรง ไม่ผ่านอุปกรณ์ประเภท Hub และ Switch
นอกจากนี ้ยังใช้ เชื่อมระหว่างเครื่ องคอมพิวเตอร์ และ Router (ซึง่ ถือว่า
เป็ นคอมพิวเตอร์ อีกรูปแบบหนึง่ ) โดยการเข้ าหัวที่ปลายทัง้ 2 จะไม่
เหมือนกัน กล่าวคือ ปลายข้ างหนึง่ เข้ าหัวแบบ A อีกปลายจะเข้ าหัวแบบ
B
ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื อข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื อข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื อข่ายคอมพิวเตอร์
• สายตรง (UTP Straight Cable)
ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื อข่ายคอมพิวเตอร์
• สายครอส (UTP Cross-over Cable)
ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื อข่ายคอมพิวเตอร์
• วิธีการเข้ าหัวสาย UTP
– 1. ปลอกที่ห้ มุ สายออกประมาณ 2-3 ซม.
ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื อข่ายคอมพิวเตอร์
– 2. เรี ยงสายทัง้ 4 คูใ่ ห้ ถกู ต้ องตามรูปแบบที่ต้องการ (A หรื อ B) แล้ วตัดให้
สายทุกเส้ นยาวเท่ากัน โดยให้ ยาวออกจากที่ห้ มุ สายประมาณ 1.7 ซม.
ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื อข่ายคอมพิวเตอร์
– 3. สอดสายที่จดั เรี ยงเรี ยบร้ อยแล้ ว เข้ าไปยังหัว RJ-45 โดยใส่เข้ าไปให้ สดุ
และแน่นแล้ วจึงใช้ ที่เข้ าหัวสายหนีบ เพื่อดันให้ เข้ าที่
ระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื อข่ายคอมพิวเตอร์
•
สาย STP (Shielded Twisted Pair)
• คล้ ายกับสาย UTP แต่ มีชนวน และ
ตัวนาหุ้ม จึงป้องกันสัญญาณรบกวนได้ ดี
นิยมใช้ แทนสาย UTP ในที่ๆ มี
สัญญาณรบกวนมาก เช่ น โรงงาน
อุตสาหกรรม ฯลฯ
• มีราคาแพงกว่ าสาย UTP
สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable)
โครงสร้ างของสายโคแอคเชี่ยล
สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable)
สายโคแอ็กซ์จะถูกแยกเป็ นประเภทต่าง ๆ โดยใช้ มาตรา RG
(Radio Grade Scale) เช่น สายโคแอ็กซ์แบบ RG-58 จะใช้ ได้ กบั เครื อข่าย
อีเธอร์ เน็ตแบบ 10Base2 ซึง่ มีคา่ ความต้ านทานที่ 50 โอห์ม
ประเภทของสายโคแอ็กซ์เชี่ยล
สายโคแอ็กซ์แบ่งออกเป็ น 2 ประเภท คือ
1. สายโคแอ็กซ์แบบบาง (Thin Coaxial Cable)
2. สายโคแอ็กซ์แบบหนา (Thick Coaxial Cable)
สายโคแอ็กซ์แบบบาง (Thin Coaxial Cable)
เป็ นสายที่มีขนาดเล็ก เส้ นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.64 cm
มีความยืดหยุน่ สูงจึงสามารถใช้ ได้ กบั การติดตังเครื
้ อข่ายเกือบทุกประเภท
สามารถนาสัญญาณได้ ไกลถึง 185 เมตร
สายโคแอ็กซ์แบบบางได้ ถกู รวมไว้ ในสายประเภท RG-58
มีความต้ านทาน (Impedance) ที่ 50 โอห์ม
สายโคแอ็กซ์แบบหนา (Thicknet Cable)
เป็ นสายโคแอ็กซ์ที่คอ่ นข้ างแข็ง และขนาดใหญ่กว่าสายโคแอ็กซ์
แบบบาง โดยมีเส้ นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.27 cm
เป็ นสายสัญญาณประเภทแรกที่ใช้ กบั เครื อข่ายแบบอีเธอร์ เน็ต
ส่วนแกนกลางที่เป็ นสายทองแดงของสายโคแอ็กซ์แบบหนาจะมี
ขนาดใหญ่กว่า จึงนาสัญญาณได้ ดีกว่าแบบบาง
สามารถนาสัญญาณได้ ไกลถึง 500 เมตร
สมัยก่อนใช้ เป็ นแบ็คโบนของเครื อข่าย ปั จจุบนั ไม่นิยมใช้ แล้ ว
หัวเชื่อมต่ อทีใ่ ช้ กบั สายโคแอ็กซ์
สายแบบ Thinnet และ Thicknet จะใช้ หวั เชื่อมต่อชนิดเดียวกัน ที่เรี ยกว่าหัว BNC
1. หัวเชื่อมสาย BNC (BNC Cable Connector)
2. หัวเชื่อมสายรูปตัว T (BNC T-Connector)
3. หัวเชื่อมสายแบบ Barrel (BNC Barrel Connector)
4. ตัวสิ ้นสุดสัญญาณ (BNC Terminator)
สายโคแอ็กซ์ยงั แบ่งออกเป็ น 2 เกรดแล้วแต่การใช้งาน
1. สายโคแอ็กซ์เกรด PVC
จะใช้ พลาสติกเป็ นวัสดุหอ่ หุ้ม
ใช้ ในสานักงาน เพราะเป็ นสายที่มีความยืดหยุน่ มาก
แต่เมื่อติดไฟจะทาให้ เกิดแก๊ สที่เป็ นอันตรายต่อมนุษย์
2. สายโคแอ็กซ์เกรด Plenum
ใช้ ติดตังเพดานหรื
้
อระหว่างชันหรื
้ อพื ้นที่มีอณ
ุ หภูมิตา่ งจาก
อุณหภูมิห้อง
ทนไฟและถ้ าไฟไหม้ สายแก๊ สที่เกิดขึ ้นก็ไม่เป็ นอันตรายมาก
สายใยแก้ วนาแสง (Fiber-Optic)
ชนิดของ Fiber Optic
Single Mode Fiber Optic
Multimode Fiber Optic
Fiber Optic Connector
FC - Telephone
ST-นิยมใช้ มาก
SC - ใช้ ง่าย
ข้อดีของ Fiber optic
1. ทนทานต่อคลื่นรบกวนด้วยฉนวนชัน้ นอก
2. สัญญาณคงที่ในการส่งข้อมูลแม้ในระยะทางไกลๆ ไม่ตอ้ ง
อาศัยอุปกรณ์ เพิ่มสัญญาณหรื อทวนสัญญาณ
3. แบนด์วิดท์สูง รองรับความเร็วในการส่งข้อมูลประมาณ 500
Mbps ขึ้นไป
ข้อจำกัดของสำยใยแก้วนำแสง
1. มีราคาแพงเนื่ องจากต้นทุนการผลิต
2. การติดตัง้ และการบารุ งรักษา
3. ความเปราะและแตกหักง่าย
การสื่ อสารข้ อมูลแบบไร้ สาย
1) คลื่นวิทยุ (Radio Wave)
2) สั ญญาณไมโครเวฟ (Microwave)
3) แสงอินฟราเรด (Infrared)
4) ดาวเทียม (satilite)
5) บลูทธู (Bluetooth)
คลื่นวิทยุ
วิธก
ี ารสื่ อสารประเภทนี้จะใช้การส่งคลืน
่ ไปในอากาศ เพือ
่ ส่งไปยังเครือ
่ ง
ทีเ่ ป็ นรูปแบบของคลืน
่ ไฟฟ้า
ดังนั้นการส่งวิทยุกระจายเสี ยงจึงไมต
่ องใ
้
และยังสามารถส่งคลืน
่ สั ญญาณไปไดระยะไกล
ซึง่ จะอยูในช
้
่
่ วงความถ
ดังนั้นเครือ
่ งรับวิทยุจะตองปรั
บช่องความถีใ่ ห้กับคลืน
่ วิทยุทส
ี่ ่ งมา ทาให
้
56
ระบบไมโครเวฟ
(Microwave System)
57
ระบบไมโครเวฟ
(Microwave System)
ไมโครเวฟ คือ ช่วงสัญญาณคลื่นวิทยุ นามาใช้ในการรับส่งข้อมูล
ด้วยความเร็วสู งทัง้ สัญญาณเสียงและข้อมูล
มีจานส่งและรับข้อมูลตัง้ อยูบ่ นเสาสู ง ยอดตึก หรื อภู เขา
ส่งสัญญาณเป็นเส้นตรง และจะไม่มอี ะไรมาขวางกัน้ (แต่มกี าร
ลดทอนของสัญญาณ)
ระยะทางของจานรับ/ส่งประมาณ 30-50 กม.
04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขัน
้ พืน
้ ฐาน
ระบบไมโครเวฟ
(Microwave System)
58
59
ระบบดำวเทียม (Satellite System)
60
ระบบดำวเทียม (Satellite System)
ดาวเทียม มีหน้าที่ขยายและทบทวนสัญญาณข้อมูล, รับและส่ง
สัญญาณข้อมูลกับสถานีดาวเทียมภาคพื้นโลก
ดาวเทียมอยูห่ า่ งจากพื้นโลกประมาณ 36,000 ก.ม.
การส่งสัญญาณข้อมูลขึ้นไปยังดาวเทียมเรียกว่า
“สัญญาณอัป-ลิงค์” (Uplink)
การส่งสัญญาณข้อมูลกลับมายังพื้นโลกเรียกว่า
“สัญญาณดาวน์-ลิงค์” (Downlink)
61
ระบบดำวเทียม (Satellite System)
36,000 km
04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขัน
้ พืน
้ ฐาน
62
อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ำย (ขัน้ พื้นนำน)


การ์ดเชื่อมโยงเครื อข่าย (Network interface card)
ฮับ/สวิทซ์ (Hub/Switch)
เราเตอร์ (Router)
โมเด็ม (Modem)

Access Point

Wireless Card


กำร์ดเชื่อมโยงเครือข่ำย
(Network interface card)
63
64
กำร์ดเชื่อมโยงเครือข่ำย
(Network interface card)
การ์ดเชื่อมโยงเครื อข่าย (Network interface card)
เป็ นอุปกรณ์ท่ ที าหน้าที่ เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับสาย
เคเบิลของเครื อข่าย และควบคุมการรับส่งข้อมูลระหว่าง
คอมพิวเตอร์กบั เครื อข่าย บางครั้งเรียกว่า Lan Card
ฮับ/สวิทซ์ (Hub/Switch)
65
ฮับ/สวิทซ์ (Hub/Switch)
66
ฮับ/สวิทซ์ (Hub/Switch) เป็ นอุปกรณ์ท่ ที าหน้าที่
เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่ องเข้าด้วยกัน และเป็ น
อุปกรณ์ท่ ชี ว่ ยในการกระจายสัญญาณ โดยที่ฮบั จะมีการ
แบ่งช่องสัญญาณตามจานวนผูใ้ ช้ แต่ Switch ไม่มกี ารแบ่ง
67
กำรทำงำนของ Hub
Com1
Com2
Server
Hub
Printer
Com4
Com3
68
ควำมแตกต่ำงระหว่ำง Hub และ Switch
Hub เป็ นเพียงตัวขยายสัญญาณข้อมู ล
/ จัดการ
สัญญาณที่สง่ มาจากคอมพิวเตอร์และกระจายสัญญาณ
ไปยังคอมพิวเตอร์เครื่ องอื่นๆ
หากมีการส่งสัญญาณพร้อมๆกัน ความเร็วจะลดลง
ไม่เหมาะที่จะนามาใช้กบั เครื อข่ายขนาดใหญ่
69
ควำมแตกต่ำงระหว่ำง Hub และ Switch
Switch จะมีการทางานที่ซบั ซ้อนกว่า
การรับ-ส่งข้อมู ลจากพอร์ทหนึ่ งของอุปกรณ์ ไปยัง
พอร์ทปลายทางที่เชื่อมอยูก่ บั อีกเครื่ องที่ตอ้ งการส่ง
ข้อมูลเท่านั้น
ส่งข้อมู ลได้พร้อมกันในเวลาเดียวกัน
เป็ นที่นิยมใช้งานในระบบเครื อข่ายมากกว่าฮับ
70
เรำเตอร์ (Router)
04000102 คอมพิวเตอร์สารสนเทศขัน
้ พืน
้ ฐาน
71
เรำเตอร์ (Router)
เราเตอร์ (Router) เป็ นอุปกรณ์ท่ ที าหน้าที่ เชื่อมต่อ
เครื อข่ายแต่ละประเภทเข้าด้วยกัน โดยค้นหาเส้นทางที่ดี
ที่สุดในการส่งผ่านข้อมูล
72
โมเด็ม (Modem)
73
โมเด็ม (Modem)
โมเด็ม (Modem) เป็ นอุปกรณ์ท่ ที าหน้าที่ แปลงสัญญาณ
ดิจิตอลของคอมพิวเตอร์ให้สามารถวิ่งบนสายโทรศัพท์
(สัญญาณอนาลอก) เพื่อทาการติดต่อสื่ อสารได้
มี 2 ชนิ ด คือแบบติดตัง้ ภายใน และแบบติดตัง้ ภายนอก
74
โมเด็ม (Modem)
Internal Modem
External Modem
75
ลักษณะกำรเชื่อมต่อโมเด็ม
The analog signal
(audible)
is sent through
telephone lines.
011010001
Digital signal
This modem converts
digital to analog.
MODEM
MODEM
011010001
Digital signal
This modem converts
analog to digital.
76
Access Point
• ใช้ ในการเชื่อมต่อกับเครื่ องคอมพิวเตอร์
กับระบบเครื อข่ายแบบไร้ สาย (wireless)
• Access Point หรื อเรี ยกกันสันๆ
้ ว่า AP
(เอ-พี) ซึง
่ จะทาหน้ าที่เป็ น “จุดกระจายและ
เชื่อมต่อสัญญาณ ไร้ สาย เพื่อเชื่อมต่อ
อุปกรณ์ไร้ สายทุกชนิด เข้ า
Wireless Card
• ติดตัง้ บนเครื่อง
คอมพิวเตอร์เพื่อเชื่ อมต่อ
กับระบบเครือข่ำยแบบไร้
สำย
PCMCIA
USB
77
PCI for PC
เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเครื อข่าย
• รูปแบบการเชื่อมต่อแบบ Ethernet
ชนิด
ระยะทางสู งสุ ด
ชนิดของสาย
ความเร็ว
10BaseT
100 m
UTP
10 Mbps
100BaseTX
100 m
UTP
100 Mbps
100BaseFX
400 m (half duplex)
2000 m (full duplex)
Fiber Optic
100 Mbps
1000BaseSX
220 m
Fiber Optic
(MMF)
1000 Mbps
1000BaseLX
3-10 Km
Fiber Optic
(SMF)
1000 Mbps
เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเครื อข่าย
• ตัวอย่างอุปกรณ์ Ethernet
UTP
Ethernet Card
Fiber Optic
เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเครื อข่าย
Wireless Lan
รูปแบบการเชื่อมต่อระบบเครื อข่ายผ่านคลื่นวิทยุ โดยใช้ คลืน่ ความถี่ที่
จัดไว้ สาหรับระบบอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ และการแพทย์ (ISM
band)
เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเครื อข่าย
• มาตรฐานการใช้ งาน Wireless ในประเทศไทย
– IEEE 802.11 b
• Bandwidth 11 Mb/s
• ระยะทางในที่โล่ง 100 m.
– IEEE 802.11 g
• Bandwidth 54 Mb/s
• ระยะทางในที่โล่ง 50 m.
เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเครื อข่าย
•
วิธีการเชื่อมต่อเครื อข่ายไร้สาย
– การเชื่อมต่อแบบแอดฮอค (Ad-Hoc) คือ การเชื่อมต่อ
ระหว่างอุปกรณ์สองตัวขึ ้นไปโดยไม่จาเป็ นต้ องใช้
Access Point
เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเครื อข่าย
– การเชื่อมต่อแบบเป็ นโครงสร้ าง คือ การติดต่อสื่อสารโดยมีสถานี
ฐาน (Access Point) เป็ นศูนย์กลาง โดยแต่ละเครื่ องสามารถ
เชื่อมต่อสูเ่ ครื อข่ายภายนอกได้ ผา่ นทาง Access Point
วิธีการตั้งค่าเครื่ องคอมพิวเตอร์เพื่อการใช้งานระบบเครื อข่ายอย่าง
ปลอดภัย
วิธีการตั้งค่าเครื่ องคอมพิวเตอร์เพื่อการใช้งานระบบเครื อข่ายอย่างปลอดภัย
• การตังค่
้ า IP Address บนเครื่ อง
– Automatic
• ง่ายในการใช้ งาน และสะดวกในการดูแล
• จาเป็ นต้ องมี DHCP Server ในระบบ
– Static
• จาเป็ นต้ องมีความรู้เรื่ อง IP Address
• ไม่จาเป็ นต้ องติดตัง้ DHCP Server ในระบบ
วิธีการตั้งค่าเครื่ องคอมพิวเตอร์เพื่อการใช้งานระบบเครื อข่ายอย่างปลอดภัย
• การตังค่
้ า Windows Update
– ช่วยป้องกันการโจมตีจากไวรัสหรื อเวิร์มต่างๆ
– ช่วย Update Driver สาหรับอุปกรณ์ใหม่ๆ
– เพิ่มประสิทธิภาพการทางานของ Windows
วิธีการตั้งค่าเครื่ องคอมพิวเตอร์เพื่อการใช้งานระบบเครื อข่ายอย่างปลอดภัย
• การติดตังโปรแกรม
้
Ad-aware
Ad-aware เป็ นโปรแกรมที่ช่วยตรวจสอบว่ามีการติดตังโฆษณาที
้
่
ไม่ต้องการลงบนเครื่ องคอมพิวเตอร์ ของเราหรื อไม่ หรื อโปรแกรมที่
ติดตัง้ Toolbar ที่มี link ไปยังเว็บไซต์ตา่ งๆ บนเครื่ องคอมพิวเตอร์ ของ
เรา
การตรวจสอบระบบเครื อข่ายเบื้องต้น
การตรวจสอบระบบเครื อข่ายเบื้องต้น
• การตรวจสอบการเชื่อมต่อกับระบบเครื อข่าย
มีการเชื่อมต่ อระบบเครือข่ าย
ไม่ มีการเชื่อมต่ อกับระบบเครื อข่ าย
การตรวจสอบระบบเครื อข่ายเบื้องต้น
•
การตรวจสอบ IP Address ของเครื่ องคอมพิวเตอร์
1.
ดับเบิลคลิก๊ ที่
จะเกิดหน้ าต่างดังรูป
การตรวจสอบระบบเครื อข่ายเบื้องต้น
•
การตรวจสอบ IP Address ของเครื่ องคอมพิวเตอร์
2.
คลิ๊กที่ “Support”
การตรวจสอบระบบเครื อข่ายเบื้องต้น
• กรณีที่ไม่ได้ IP Address
การตรวจสอบระบบเครื อข่ายเบื้องต้น
• การตรวจสอบระบบเครื อข่ายด้ วยคาสัง่ ต่างๆ
– Ping -> ใช้ ในการตรวจสอบการเชื่อมต่อระหว่างโฮสต์
– Nslookup -> ใช้ ในการตรวจสอบชื่อโดเมน
– Traceroute -> ใช้ ในการตรวจสอบเส้ นทางในการเชื่อมต่อ
การตรวจสอบระบบเครื อข่ายเบื้องต้น
• ขันตอนในการใช้
้
คาสัง่
– Start Menu -> Run
การตรวจสอบระบบเครื อข่ายเบื้องต้น
• ขันตอนในการใช้
้
คาสัง่
– พิมพ์ cmd
การตรวจสอบระบบเครื อข่ายเบื้องต้น
• ขันตอนในการใช้
้
คาสัง่
การตรวจสอบระบบเครื อข่ายเบื้องต้น
• Ping
– Ping IP address ที่ต้องการทดสอบ Ex ping 158.108.1.1
การตรวจสอบระบบเครื อข่ายเบื้องต้น
• Traceroute
– Tracert IP Address ที่ต้องการ Ex tracert 158.108.50.5
การตรวจสอบระบบเครื อข่ายเบื้องต้น
• Nslookup
– Nslookup ชื่อที่ต้องการตรวจสอบ Ex nslookup www.google.com
เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเครื อข่าย
– Ethernet/Fast Ethernet/Gigabit Ethernet Lan
– Wireless Lan
เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเครื อข่าย
Ethernet
• การเชื่อมต่อที่ใช้ ในการเชื่อมต่อระบบ LAN ในปั จจุบนั โดยมีอตั รา
รับส่งข้ อมูลสูงสุดถึง 10Gbps โดยเชื่อมต่อผ่านสาย UTP หรื อ สาย
Fiber optic
เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเครื อข่าย
• รูปแบบการเชื่อมต่อแบบ Ethernet
ชนิด
ระยะทางสู งสุ ด
ชนิดของสาย
ความเร็ว
10BaseT
100 m
UTP
10 Mbps
100BaseTX
100 m
UTP
100 Mbps
100BaseFX
400 m (half duplex)
2000 m (full duplex)
Fiber Optic
100 Mbps
1000BaseSX
220 m
Fiber Optic
(MMF)
1000 Mbps
1000BaseLX
3-10 Km
Fiber Optic
(SMF)
1000 Mbps
เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเครื อข่าย
• ตัวอย่างอุปกรณ์ Ethernet
UTP
Ethernet Card
Fiber Optic
เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเครื อข่าย
Wireless Lan
รูปแบบการเชื่อมต่อระบบเครื อข่ายผ่านคลื่นวิทยุ โดยใช้ คลืน่ ความถี่ที่
จัดไว้ สาหรับระบบอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ และการแพทย์ (ISM
band)
เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเครื อข่าย
• มาตรฐานการใช้ งาน Wireless ในประเทศไทย
– IEEE 802.11 b
• Bandwidth 11 Mb/s
• ระยะทางในที่โล่ง 100 m.
– IEEE 802.11 g
• Bandwidth 54 Mb/s
• ระยะทางในที่โล่ง 50 m.
เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเครื อข่าย
•
วิธีการเชื่อมต่อเครื อข่ายไร้สาย
– การเชื่อมต่อแบบแอดฮอค (Ad-Hoc) คือ การเชื่อมต่อ
ระหว่างอุปกรณ์สองตัวขึ ้นไปโดยไม่จาเป็ นต้ องใช้
Access Point
เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเครื อข่าย
– การเชื่อมต่อแบบเป็ นโครงสร้ าง คือ การติดต่อสื่อสารโดยมีสถานี
ฐาน (Access Point) เป็ นศูนย์กลาง โดยแต่ละเครื่ องสามารถ
เชื่อมต่อสูเ่ ครื อข่ายภายนอกได้ ผา่ นทาง Access Point
รู ปแบบของระบบเครื อข่าย Topology
รู ปแบบของระบบเครื อข่าย
– Mesh
– Bus
– Star
– Tree
– Ring
ระบบเครื อข่ายรู ปแบบ Mesh
(Full Mesh)
ระบบเครื อข่ายรู ปแบบ Mesh
– ข้ อดี
• ในกรณีสายเคเบิ ้ลบางสายชารุด เครื อข่ายทังหมดยั
้
งสามารถใช้ ได้
ทาให้ ระบบมีเสถียรภาพสูง นิยมใช้ กบั เครื อข่ายที่ต้องการเสถียรภาพ
สูง และเครื อข่ายที่มีความสาคัญ
– ข้ อเสีย
• สิ ้นเปลืองค่าใช้ จ่าย และสายเคเบิ ้ลมากกว่าการต่อแบบอื่นๆ
• ยากต่อการติดตัง้ เดินสาย เคลื่อนย้ ายปรับเปลี่ยน และบารุงรักษา
ระบบเครื อข่าย
ระบบเครื อข่ายรู ปแบบ Bus
ระบบเครื อข่ายรู ปแบบ Bus
– ข้ อดี
• ง่ายต่อการนาอุปกรณ์เชื่อมต่อเข้ ากับระบบเครื อข่าย
• ใช้ สายเคเบิลน้ อยกว่าการต่อแบบ Star
– ข้ อเสีย
• ระบบเครื อข่ายทังหมดจะไม่
้
สามารถใช้ การได้ ถ้ าสายหลักชารุ ด
• จาเป็ นต้ องมี Terminator ที่ปลายทัง้ 2 ข้ างของสายหลัก เพื่อป้องกัน
สัญญาณสะท้ อนกลับไปมาภายในสาย
• ค้ นหาจุดที่เกิดปั ญหาได้ ยาก ถ้ าระบบเครื อข่ายทังหมดไม่
้
สามารถใช้
การได้
ระบบเครื อข่ายรู ปแบบ Star
ระบบเครื อข่ายรู ปแบบ Star
– ข้ อดี
• ง่ายต่อการต่ออุปกรณ์และการเดินสาย
• สามารถเพิ่มเติมอุปกรณ์ หรื อถอดอุปกรณ์ออกได้ ง่าย และไม่รบกวนส่วนอื่น
• ง่ายต่อการตรวจสอบจุดที่เกิดปั ญหา และการแยกอุปกรณ์บางส่วนออกจาก
ระบบ
– ข้ อเสีย
• เปลืองสายเคเบิ ้ลมากกว่าการต่อแบบ Bus
• ถ้ า hub หรื อ switch ที่เชื่อมอยูต่ รงกลางมีปัญหา จะทาให้ ระบบเครื อข่ายทังหมด
้
มีปัญหาไปด้ วย
• ค่าใช้ จ่ายสูงกว่าการต่อแบบ Bus เนื่องจากจาเป็ นต้ องมี Hub หรื อ Switch เชื่อม
ตรงกลาง
ระบบเครื อข่ายรู ปแบบ Tree
– เป็ นการผสมผสานกัน
ระหว่างการต่อแบบ Bus
และ Star หรื อเป็ นการ
ต่อ Star ซ้ อนกันหลาย
ชัน้
ระบบเครื อข่ายรู ปแบบ Tree
– ข้ อดี
• ในแต่ละส่วนย่อยๆ จะต่อถึงกันแบบ Star ทาได้ รับข้ อดีของการต่อ
แบบ Star มาด้ วย
– ข้ อเสีย
• ระยะทางในแต่ละส่วนย่อยๆ จะถูกจากัดโดยชนิดของสาย
• ถ้ าสายหลักหรื อ Hub ตัวกลางหลักเสีย ระบบเครื อข่ายทังหมดจะไม่
้
สามารถใช้ การได้
• ยากต่อการติดตังและเดิ
้
นสาย
ระบบเครื อข่ายรู ปแบบ Ring
ระบบเครื อข่ายรู ปแบบ Ring
– ข้ อดีของระบบเครื อข่ ายรู ปแบบ Ring
• การเพิ่มเติมขนาดของระบบเครื อข่าย ส่งผลต่อประสิทธิภาพไม่มาก
• ลดจานวนตัวรับและส่งสัญญาณลงครึ่งนึง (ในกรณี Ring ทางเดียว)
• ทุกๆ อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อจะช่วยขยายสัญญาณ ทาให้ สามารถต่อเป็ น
วงใหญ่ได้
– ข้ อเสียของระบบเครื อข่ ายรู ปแบบ Ring
• ประสิทธิภาพต่ากว่าแบบอื่น เนื่องจากต้ องผ่านอุปกรณ์ หลายตัว
• ถ้ าอุปกรณ์บางตัวหรื อสายเคเบิ ้ลชารุด จะทาให้ เครื อข่ายทังหมดไม่
้
สามารถใช้ การได้ (ในกรณี Ring ทางเดียว)
12
0
แบบฝึ กหัดบทที่ 6
1.
2.
3.
4.
5.
จงอธิบายองค์ประกอบของการสื่อสารข้ อมูล
จงอธิบายรูปแบบของสัญญาณแบบอนาล็อก และดิจิตอล
จงบอกประโยชน์ของระบบเครื อข่ายมา 6 ข้ อ
จงอธิบายระบบเครื อข่ายระยะใกล้ และจุดประสงค์ของการติดตัง้
จงอธิบายลักษณะโครงสร้ างเครื อข่ายแบบดาว, แบบผสม พร้ อม
ระบุข้อดี และข้ อเสีย
12
1
แบบฝึ กหัดบทที่ 6 (ต่ อ)
6.
7.
จงบอกข้ อดีของสายใยแก้ วนาแสง
สื่อที่ใช้ ในการสื่อสารข้ อมูลประเภทไร้ สายมีอะไรบ้ าง แต่ละชนิดมี
ข้ อแตกต่างกันอย่างไร จงอธิบาย
8. จงบอกอุปกรณ์เครื อข่ายมา 4 ชนิด พร้ อมอธิบายหน้ าที่การทางาน
ของแต่ละชนิด
9. จงอธิบายลักษณะการเชื่อมต่อและการสื่อสารแบบโมเด็ม
10. จงบอกและอธิบายการนาเครื อข่ายไปใช้ ในด้ านต่างๆ มา 5 ตัวอย่าง
งาน