ความรู้เบื้องต้นเทคโนโลย

Download Report

Transcript ความรู้เบื้องต้นเทคโนโลย

หลักการสร้ างเว็บเพจและภาษา
HTML
ศศิวมิ ล สุขพัฒน์
ภาควิชาคณิตศาสตร์
คณะวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
1
หัวข้ อบรรยาย
หลักการสร้ างเว็บเพจ
 ความรู้ เบือ
้ งต้ นเกี่ยวกับเว็บเพจ
 ภาษา HTML
 ความรู้ เบือ
้ งต้ นเกี่ยวกับ HTML
 แนะนา Tag พืน
้ ฐาน
 การออกแบบสไตล์ ของเว็บเพจด้ วย CCS
 การผนวกเว็บเพจเข้ าด้ วยกันด้ วย Include Page

2
หลักการสร้ างเว็บเพจ
3
ความรู้เบือ้ งต้ นเกี่ยวกับเว็บเพจ

เว็บเพจคือ
 แฟ้มประเภทข้ อความ (text file)
 ใช้ ชุดคาสั่งที่เป็ น HTML (HTML tag)
เพื่อจัดรูปแบบของเอกสารเว็บเพจ
 แสดงผลออกทางโปรแกรมประเภท browser
(เช่ น Internet Explorer, Netscape
Navigator และ Opera เป็ นต้ น)
4
ความรู้ เบือ้ งต้ นเกีย่ วกับเว็บเพจ(ต่ อ)

ส่ วนประกอบของเว็บเพจ
 ข้ อความ (text)
คือข้ อความต่ างๆ ที่พมิ พ์ จากแป้นพิมพ์ ลงไปในแฟ้ม
เว็บเพจ
 แฟ้มภาพ (image)
เป็ นส่ วนที่ช่วยเสริมเนือ้ หาที่เป็ นข้ อความ ให้ เกิดความ
ชัดเจน เข้ าใจ และน่ าสนใจมากขึน้
แบ่ งออกเป็ น
ภาพนิ่ง
ภาพเคลื่อนไหว
5
ความรู้ เบือ้ งต้ นเกีย่ วกับเว็บเพจ(ต่ อ)

ส่ วนประกอบของเว็บเพจ
 ลิงค์ (link) / ไฮเปอร์ ลิงค์ (hyperlink)
 เป็ นส่ วนที่ช่วยให้ ผ้ ูอ่านเชื่อมโยงไปยังตาแหน่ งอื่น
ภายในเว็บเพจนัน้ หรือ ไปยังเว็บเพจอื่น หรือ ไปยัง
แฟ้มอื่น (เช่ น Word, PowerPoint,
Excel, PDF เป็ นต้ น)
 อาจกาหนดให้ ข้อความ หรื อ ภาพเป็ นตัวลิงค์ ก็ได้
 การระบุตาแหน่ งที่อยู่รวมทัง้ ชื่อแฟ้มจะต้ องถูกต้ อง
จึงจะสามารถเปิ ดเอกสารได้
6
ภาพกราฟิ กซงึ่ นิยม
เป็ นไฟล์รป
ู ภาพ
ชนิด GIF
ข ้อความล ้วนทีเ่ ป็ น
text ของเว็บเพจ
ข ้อความทีเ่ ป็ น
ลิงค์สาหรับ
ติดต่อสง่ เมล์
ภาพถ่ายซงึ่
นิยมเป็ นไฟล์
รูปภาพชนิด
JPEG
ภาพทีเ่ ป็ น
ลิงค์สาหรับ
ื่ มโยงไป
เชอ
ยังเอกสาร
อืน
่
ภาพแสดงองค์ประกอบของเว็บเพจ
ภาษา HTML
8
ความรู้เบือ้ งต้ นเกีย่ วกับ HTML

HTML
-> Hyper Text Markup Language
คุณสมบัตใิ นการ
ื่ มโยง (link) ไป
เชอ
ยังทีต
่ า่ งๆ ได ้

เป็ นภาษาคอมพิวเตอร์
ใชก้ าหนดรูปแบบการจัดวาง
ตาแหน่งของสงิ่ ต่างๆ ที่
ปรากฎในเอกสาร
HTML รองรับระบบมัลติมีเดีย (Multimedia)
ได้ นั่นคือสิ่งที่ ให้ เว็บมีความแตกต่ างจากสื่ออื่นๆ
9
ความรู้เบือ้ งต้ นเกีย่ วกับ HTML (ต่ อ)

สามารถที่จะใช้ โปรแกรมเท็กซ์ เอดิเตอร์ เช่ น
Notepad สร้ างหรือแก้ ไขได้ และบันทึกเป็ น file
นามสกุล htm หรือ html
10
องค์ ประกอบของเอกสาร HTML
ประกอบด้ วย 2 ส่ วนใหญ่ ๆ คือ
 ส่ วนที่เป็ นคาสั่งในการกาหนดรู ปแบบของข้ อมูลซึ่งเรี ยกว่ า
HTML Tag
่
จะอยูใ่ นเครือ
่ งหมาย “<” และ “>” เชน
<HTML> หรือ <BODY> ซงึ่ โดยมากแล ้วจะ
่
มี Tag ปิ ด “</…>” ตามท ้ายเชน
<HTML>...</HTML> และ
<BODY>…</BODY> เป็ นต ้น

ส่ วนที่เป็ นเนือ้ หาของเอกสาร
11
รูปแบบของเอกสาร HTML
 <html>
แจ้ งให้ บราวเซอร์ ร้ ูว่า
เอกสารนีเ้ ป็ นเอกสาร

<head>
บอกคุณสมบัตโิ ดยทั่วๆ ไปของ
HTML
ซึ
่
ง
จะอยู
่
ใ
น
เอกสารนี
้ เช่ นเอกสารนีม้ ีช่ ือ
<title>เอกสาร HTML
</title>
บรรทัด(title)
แรกของเอกสาร
เอกสาร
ว่ าอะไร
Note</head>
การเขียนคาสั่ง HTML สามารถเขียนเป็ นตั
วพิมพ์ เล็ก
เป็เสมอ
นต้ นSensitive)
และมี Tag
หรือตัวพิมพ์ ใหญ่ ก็ได้ (Not Case

<body>
</HTML>
บอกกั
บบราวเซอร์ ว่าหรืข้ อมูลหรือ
Tag
Tagที่อปิยูด่ ระหว่
อยู่ทา่ ที ง้ ายเอกสาร
</body>
<BODY>และ
เสมอเช่ นกัน
</html>
</BODY> จะเป็ นส่ วนที่
แสดงต่ อผู้ชมเว็บเพจ
12
แนะนำ Tag พื้นฐำน
13
รูปแบบโดยทัว่ ไปของ Tag
<Tag Attribute=”value”> … </Tag>
Tag ระบุลักษณะการแสดงผลบนบราวเซอร์ เช่ น
ต.ย. <HR> เป็ นการตีเส้ นแนวนอนบนเว็บเพจ
 Attribute ระบุคุณลักษณะต่ างๆของการแสดงผลนัน
้
ต.ย. <HR WIDTH= “80%”>

14
การจัดรูปแบบย่ อหน้ า
15
การขีน้ บรรทัดใหม่ : <BR>
ในการเขียน HTML การกดปุ่ ม Enter เพื่อขึน้
บรรทัดใหม่ นัน้ จะไม่ มีผลใดๆกับข้ อมูลที่แสดงต่ อผู้ชมเว็บ
เพจ ถ้ าต้ องการให้ ข้อความขืน้ บรรทัดใหม่ ให้ ใช้ <BR>
แทนที่การกดปุ่ ม Enter
รูปแบบคาสั่ง
ข้ อความ.... <BR> ข้ อความ
16
<html>
<head>
<title>My first page...</title>
</head>
<body>
Hello....<BR>This is my first
HTML page.
</body>
</html>
การขึน้ ย่ อหน้ าใหม่ : <P>
ถ้ าต้ องการให้ ขนื ้ ย่ อหน้ าใหม่ ใช้ <P> ผลลัพธ์ ท่ ไี ด้ จาก
การใช้ <P> นัน้ เสมือนการกดปุ่ ม Enter 2 ครัง้
รูปแบบคาสั่ง
ข้ อความใน Paragraph… <P> ข้ อความใน
Paragraph...
19
<html>
<head>
<title>My first page...</title>
</head>
<body>
This is the first paragraph. It will show up in the first
paragraph..... It will show up in the first
paragraph.....It will show up in the first paragraph
<p>This is the second paragraph. Does it show in
the second paragraph?.... Does
it show in the second paragraph?.... Does it show
in the second paragraph?
</body>
</html>
การจัดรูปแบบย่ อหน้ าในลักษณะของหัวข้ อ (Heading)

การจัดรูปแบบให้ กับหัวเรื่องจะมีทงั ้ หมด 6 รูปแบบด้ วยกันเรียง
ตามลาดับขนาดใหญ่ ไปหาเล็กดังนี ้
 Heading 1
รูปแบบ
 Heading 2
<H1>ข้ อความ</H1>
 Heading 3
 Heading 4
 Heading 5
 Heading 6
22
<html>
<head>
<title>Heading</title>
</head>
<body>
<h1>Heading 1</h1>
<h2>Heading 2</h2>
<h3>Heading 3</h3>
<h4>Heading 4</h4>
<h5>Heading 5</h5>
<h6>Heading 6</h6>
</body>
</html>
การจัดรูปแบบย่ อหน้ าในลักษณะ List
รูปแบบของ List นัน้ แบ่ งออกเป็ น 3 ประเภท
Unordered List
 Ordered List
 Definition List

25
การจ ัดรูปแบบย่อหน้าในล ักษณะ List

(ต่ อ)
Unordered List
Unordered List เป็ นการแบ่ งหัวข้ อต่ างๆ ด้ วยปุ่ ม
กลมๆ เล็กๆ หน้ าหัวข้ อย่ อ โดย
 <UL> เป็ นตัวระบุว่ารายการต่ างๆ ต่ อไปนีจ
้ ะแสดงผล
เป็ นแบบ Unordered List และ
 <LI> เป็ นตัวระบุหว
ั ข้ อย่ อยแต่ ละหัวข้ อ
รูปแบบ
<UL> <Li>ข้ อความ </Li> </UL>
26
<html>
<head>
<title>Unnumbered List</title>
</head>
<body>
<p>List of Fruits:</p>
<ul>
<li>Apple</li>
<li>Banana</li>
<li>Mango</li>
</ul>
</body>
</html>
การจัดรูปแบบย่ อหน้ าในลักษณะ List (ต่ อ)

Ordered List
Ordered List เป็ นการแบ่ งหัวข้ อต่ างๆ ด้ วย
ลาดับของตัวเลข หน้ าหัวข้ อย่ อย โดย
 <OL>
เป็ นตัวระบุว่ารายการต่ างๆ ต่ อไปนีจ้ ะแสดงผลเป็ น
แบบ Ordered List
 <LI> เป็ นตัวระบุหว
ั ข้ อย่ อยแต่ ละหัวข้ อ
รูปแบบ
<OL> <Li>ข้ อความ </Li> </OL>
29
<html>
<head>
<title>Unnumbered List</title>
</head>
<body>
<p>List of Fruits:</p>
<ol>
<li>Apple</li>
<li>Banana</li>
<li>Mango</li>
</ol>
</body>
</html>
การจัดรูปแบบย่ อหน้ าในลักษณะ List (ต่ อ)
Definition List
Definition List เป็ นการบอกแสดงหัวข้ อและคาจากัด
ความของหัวข้ อเหล่ านัน้ โดย
 <DL> เป็ นตัวระบุว่ารายการต่ างๆ ต่ อไปนีจ
้ ะแสดงหัวข้ อ
และคาจากัดความ
 <DT> เป็ นตัวระบุหว
ั ข้ อต่ างๆ
 <DD> เป็ นตัวระบุคาจากัดความของหัวข้ อนัน
้ ๆ
รู ปแบบ <DL>
<DT>หัวข้ อ</DT>

<DD>คาจากัดความ</DD>
</DL>
32
<html>
<head>
<title>Definition List</title>
</head>
<body>
<dl>
<dt>HTML:</dt>
<dd>HyperText Markup Language</dd>
<dt>HTTP:</dt>
<dd>HyperText Transfer Protocol</dd>
<dt>WWW:</dt>
<dd>World Wide Web</dd>
</dl>
</body>
</html>
การปรับแต่ งตัวอักษร
35
ี องต ัวอ ักษร
การกาหนด font, ขนาด และสข


ระบุด ้วย Tag font
<font>...ข ้อความ...</font>
ปรับรูปแบบ font โดยการระบุ attribute ดังนี้
่
 face =“x” โดย x คือรูปแบบ font ทีต
่ ้องการเชน
“Tahoma”
ี ต
 color = “x” โดย x คือสท
ี่ ้องการ สามารถระบุได ้ 2
ื่ ส ี เชน
่ “red” หรือระบุด ้วย RGB
แบบคือระบุด ้วยชอ
่ “#c41200”
color เชน
 size =“x” โดย x คือขนาดตัวอักษรทีต
่ ้องการ
สามารถกาหนดขนาดตัวอักษรได ้ 7 ระดับ (ตัง้ แต่ 1
ถึง 7) เพิม
่ / ลดขนาดได ้ ตัง้ แต่ -4 ถึง + 4
36
Tag อื่นๆ ที่ใช้ ปรับแต่ งตัวอักษร



ตัวเอียง (italic)
 <I> ตัวเอียง (Italic) </I>
ตัวหนา (Bold)
 <B> ตัวหนา (Bold)</B>
ขีดเส้ นใต้
 <U> ขีดเส้ นใต้ ตัวอักษร (Underline) </U>
37
Tag อื่นๆ ที่ใช้ ปรับแต่ งตัวอักษร
ตัวอักษรกระพริบ(Blink) ->ใช้ ได้ เฉพาะ
Netscape Navigator
 <BLINK> ตัวอักษรกะพริ บ
(Blink)</BLINK>
 ตัวอักษรวิ่ง (Marquee) -> ใช้ ได้ เฉพาะ
Internet Explorer เท่ านัน้
 <MARQUEE> ตัวอักษรวิ่ง
(Marquee)</MARQUEE>

38
<html>
<head>
<title>Font</title>
</head>
<body>
<FONT FACE=“Tahoma” COLOR="Red"
SIZE=“5” >อักษรสีแดง ขนาด 5</FONT><br>
<b><u><i><FONT FACE=“Tahoma”
COLOR="Red" SIZE=“5” >อักษรขีดเส้ นใต้ ตัวหนา,
เอียง</FONT></i></u></b>
<MARQUEE> ตัวอักษรวิ่ง(Marquee)</MARQUEE>
</body>
</html>
40
การใส่ รูปภาพ (image)
41
การใสร่ ป
ู ภาพ
ระบุด้วย Tag img
<img scr=“x”> โดยที่ x คือไฟล์ รูปภาพที่ต้องการ
แสดง เช่ น
<img scr=“mypic01.jpg”>
 หากไฟล์ รูปภาพไม่ ได้ เก็บไว้ ท่ ี path (ตาแหน่ ง)เดียวกับเอกสาร
html จะต้ องระบุ path ของรูปภาพไว้ หน้ าไฟล์ ด้วยเช่ น
<img scr=“http://facstaff.swu.ac.th/
sasivimo/images/mypic01.jpg”>

42
<html>
<head>
<title>Font</title>
</head>
<body>
รูปกระต่ าย <br>
<img src="rabbit.jpg"><br>
Banner มศว <br>
<img
src="http://www/images/head_title.gif">
</body>
</html>
การปรับพื ้นหลัง (background)
45
้ หล ัง (background)
การปร ับพืน
สามารถกาหนดพืน้ หลังได้ 2 รูปแบบ
 กาหนดด้ วยสี
 กาหนดด้ วยรู ป ซึ่งเป็ น image ไฟล์ (gif,jpg)
 รู ปแบบของ Tag
<body bgcolor=“x”>
โดยที่ x คือไฟล์ รูปภาพ, ชื่อสี หรือ RGB color เช่ น

<body bgcolor=“myBG.gif">
<body bgcolor=“pink">
<body bgcolor="#008000">
46
้ หล ัง (background)
การปร ับพืน
47
การสร ้างลิงค์ (link)
48
การสร้างลิงค์ (link)



้ นไฮเปอร์ลงิ ค์นัน
รูปแบบของตาแหน่งทีจ
่ ะใชเป็
้
จะเป็ นไปได ้ 2 ลักษณะคือ
ใชรู้ ปภาพเป็ นไฮเปอร์ลงิ ค์
ใชข้ ้อความเป็ นไฮเปอร์ลงิ ค์
49
ื่ มโยงลิงค์
การเชอ
•
ื่ มโยงระหว่าง Web Page หรือ
การเชอ
ระหว่าง Web Site
รูปแบบ
ื่ แฟ้มทีต
<a href="ชอ
่ อ
้ งการอ้าง
ถึง">คาทีแ
่ สดงให ้ผู ้ชมเห็นและปรากฏ
ของลิงค์</a>
<a href="URL ทีต
่ อ
้ งการอ้างถึง">คา
ทีแ
่ สดงให ้ผู ้ชมเห็นและปรากฏของลิงค์
</a>
50
ื่ มโยงลิงค์
การเชอ
•
ลิงค์ ไปยัง Email Address
รูปแบบ
<a href="mailto:email address">
คาทีแ
่ สดงให ้ผู ้ชมเห็นและปรากฏของลิงค์
</a>
51
<HTML>
<HEAD><TITLE>links</TITLE></HEAD>
<BODY>
<A HREF="lesson05.ppt">Download ประกอบการ
เรี ยน</A><BR>
<A HREF="http://www.swu.ac.th">กลับสู่โฮมเพจ
มศว</A><BR>
<A HREF="mailto:[email protected]">ส่ ง mail
ถึงข้ าพเจ้ า</A>
</BODY>
</HTML>
การขีดเส้ นคั่นตามแนวนอน
54
การขีดเส้ นคั่นตามแนวนอน hr
Hr หรื อ Horizontal line
ใช้ เพื่อแบ่งพื ้นที่ของเอกสารให้ ดเู ป็ นสัดส่วน
 รู ปแบบ
<hr width=“x” size=“y”>

โดยที่
x คือความกว้ างของ Horizontal line
สามารถระบุทงแบบ
ั้
pixel หรื อเป็ น
เปอร์ เซ็นต์(percent of window) ก็ได้
y คือความสูงของ Horizontal line ระบุเป็ น pixel
เท่านัน้
55
<html>
<head>
<title>My first page...</title>
</head>
<body>
This is the first paragraph. It will show up in
the first paragraph.....
<hr width="60%" size="3">
<p>This is the second paragraph. Does it
show in the second paragraph?....
</body>
</html>
การสร ้างตาราง
58
ทาไมต้ องสร้ างตาราง?
ถ้ าเกิดปั ญหาเหล่ านีจ้ ะทาอย่ างไร?
 ต้ องการแสดงข้ อความเป็ นคอลัมน์
 ตาแหน่ งของข้ อความหรื อรู ปภาพที่ไม่ ได้ อยู่ในแนวบรรทัด
ปกติหรืออยู่ในตาแหน่ งที่แปลกๆ
-> ใช้ ตารางช่ วยในการจัดตาแหน่ งข้ อความและรูปภาพ
59
เริ่มสร้ างตาราง


ออกแบบตารางบนกระดาษเปล่าเพื่อให้ ทราบจานวนแถวและ
คอลัมน์ที่ต้องการ
เขียน Tag ที่เกี่ยวข้ องกับการสร้ างตาราง ซึง่ มีดงั นี ้
 <TABLE> ระบุวา่ สิ่งที่อยูภ
่ ายใน <TABLE> และ
</TABLE> จะอยูใ่ นตาราง
 <TR> ระบุวา่ สิ่งที่อยูภ
่ ายใน <TR> และ </TR>
จะอยูใ่ นแถวเดียวกัน
 <TD> ระบุวา่ สิ่งที่อยูภ
่ ายใน <TD> และ
</TD> จะแสดงอยูใ่ นเซลล์เดียวกัน
60
<html>
<head>
<title>Table 2*2
</title>
</head>
<body>
<table>
<tr>
<td>ประเทศ</td>
<td>เมืองหลวง</td>
</tr>
<tr>
<td>ไทย</td>
<td>กรุงเทพ</td>
</tr>
<tr>
<td>จีน</td>
<td>ปักกิง่ </td>
</tr>
</table>
</body>
</html>
การปรับแต่ งตาราง
สามารถปรั บแต่ งตารางให้ มีขนาด และลักษณะตามต้ องการโดย
กาหนด attribute ดังนี ้
 align=“x"
 ใช้ เพื่อกาหนดตาแหน่ งของตาราง โดยที่ค่า "x" มีค่าเป็ น
left, right หรื อ center
 โปรแกรม web browser มีค่า default เป็ น left
63
การปรับแต่ งตาราง (ต่ อ)


border="x"
เมื่อ "x" มีค่าได้ ตงั ้ แต่ ศูนย์ ขึน้ ไป ใช้ กาหนดขนาดของเส้ น
ขอบตาราง
width="x"
 ใช้ กาหนดความกว้ างของตาราง กาหนดค่ า x ในรู ปของ
เปอร์ เซ็นต์ ของขนาดพืน้ ที่ท่ โี ปรแกรม web browser
สามารถจะแสดงได้
 หรื อกาหนดค่ าเป็ นตัวเลข เพื่อให้ web browser แปลงค่ า
ไปเป็ นค่ าของ pixels
64
การปร ับแต่งตาราง (ต่อ)
จากตัวอย่างทีแ
่ ล ้ว
<body>
<table border=1 width=80%
align="center">
<tr>
<td>ประเทศ</td>
<td>เมืองหลวง</td>
</tr>
65
การออกแบบสไตล์ของเว็บเพจด ้วย CCS
67
CCS คืออะไร




CCS -> Cascading Style Sheet
มีหน ้าทีห
่ ลักในการออกแบบสไตล์ของเว็บเพจ
่ สอ
ี ก
เชน
ั ษร ระยะห่างบรรทัด ชนิดฟอนท์ เสน้
ขอบตาราง ฯลฯ
ทาหน ้าทีแ
่ ทนคาสงั่ บางคาสงั่ ของ HTML
ทาไมต ้อง CCS
68
ต ัวอย่างการใช ้ CCS
<HTML>
<HEAD>
<TITLE>ตัวอย่างการใช้ CSS</TITLE>
<STYLE TYPE="text/css">
BODY {background:black;
color:white;
}
H1 { font-size:24pt;
font-family:Comic Sans Ms,Cursive;
text-align :center
}
</STYLE>
</HEAD>
<BODY>
<H1>CSS <B
style="color:black;backgroundcolor:#ff9999">Example</B></H1>
CSS Cool!
</BODY>
</HTML>
69
การผนวกเว็บเพจเข ้าด ้วยกันด ้วย
Include Page
70
Include Page คืออะไร


Include คือการผนวกเว็บเพจอืน
่ ๆ ให ้เข ้ามารวม
ในเว็บเพจทีเ่ ราต ้องการ
ทาไมต ้อง Include Page?
้ อ
กรณีทม
ี่ ก
ี ารใชเนื
้ หาร่วมกันหลายๆ เว็บเพจ
่ navigation bar (สว่ นนาทาง) ทีใ่ ช ้
เชน
ื่ มโยงไปยังเอกสารต่างๆ เราจะสร ้าง
เชอ
navigation bar ไว ้เป็ นเอกสาร HTML ไว ้
้
ต่างหาก และใชการ
include page เพือ
่ ดึง
navigation bar นัน
้ ไปแทรกไว ้ในเอกสารอืน
่ ๆ ที่
ต ้องการ
71
Navigation Bar ทีจ
่ ะถูก Include
ไปไว ้ในเว็บเพจอืน
่ ๆ
ต ัวอย่างการ Include Page

รูปแบบ
<!--#include virtual=“x" -->
ื่ ไฟล์ทต
่
โดย x คือชอ
ี่ ้องการ include เชน
<!--#include virtual=“navigation.htm" -->
หากไม่ได ้เก็บเว็บเพจไว ้ใน directory เดียวกัน
จะต ้องระบุ path ของไฟล์ทจ
ี่ ะนามา include ด ้วย

ไฟล์หลักจะต ้องบันทึกด ้วยนามสกุล .shtml
73
ต ัวอย่างการ Include Page (ต่อ)

่ื navigation.html
ไฟล์ทจ
ี่ ะนามา include ชอ
74
ต ัวอย่างการ Include Page (ต่อ)

ื่ myhome.html
ไฟล์เอกสารหลักชอ
75
ต ัวอย่างการ Include Page (ต่อ)
<!--#include virtual="/navigation.html" -->
<html>
<head>
<title>My first page...</title>
</head>
<body>
This is the first paragraph. It will show up in the first paragraph..... It will show
up in the first paragraph.....It will show up in the first
paragraph
<p>This is the second paragraph. Does it show in the second paragraph?....
Does
it show in the second paragraph?.... Does it show in the second paragraph?
</body>
</html>
บันทึกเอกสาร myhome.htm นีด
้ ้วยนามสกุล .shtml
76
ต ัวอย่างการ Include Page (ต่อ)
77