รู้ทันรู้เลี่ยงไม่เสี่ยงภัยสิ่งเสพติด

Download Report

Transcript รู้ทันรู้เลี่ยงไม่เสี่ยงภัยสิ่งเสพติด

ยาเสพติดให้ โทษ
อวยพร ศุภศจี
พยาบาลวิชาชีพชานาญการพิเศษ
สถาบันบาบัดรั กษาและฟื ้ นฟูผ้ ูตดิ ยาเสพติดแห่ งชาติบรมราชชนนี
(สถาบันธัญญารักษ์ )
ประเภทยาเสพติดที่แพร่ ระบาดในประเทศต่ างๆ
แหล่งผลิตร ัฐฉานเหนือ
(ยาบ้า เฮโรอีน ไอซ)์
ว้า
อดีต
่
ขุนสา
ว้าใต้
โกกงั้
สามเหลีย
่ มทองคา
ผลิตฝิ่ นประมาณ 469 ต ัน
ไทย
ใหญ่
ปะโอ
ข.ไชยบุร ี
แหล่งพ ักยาเสพติด
- ชร. 27 แห่ง
- ชม. 24 แห่ง
- มส. 13 แห่ง
- นน. 6 แห่ง
- พย. 5 แห่ง
ข.บอลิคาไช
้ ทีป
พืน
่ ลูกก ัญชา
ใน สปป.ลาว
ข้อมูลจาก สานักงาน ปปส.
ความหมายของยาเสพติด คือ
-สารใดก็ตาม – ธรรมชาติ,กึ่งสงเคราะห์ , ผลิต
-นาเข้ าสู่ร่างกาย ไม่ ว่าวิธีใด
-ออกฤทธิ์ต่อร่ างกาย และจิตใจ
-มีการเสพเป็ นประจาและมีลักษณะที่สาคัญ
4 ประการ คือ
1. มีอาการดือ้ ยา ต้ องเสพเพิ่มมากขึน้
2. มีอาการขาดยา เมื่อเสพเท่ าเดิม, ลดหรือหยุด
3. มีความต้ องการอย่ างสูงที่จะต้ องหามาเสพให้ ได้
4. เกิดผลเสียต่ อตนเองและสังคม
การแยกประเภทของยาเสพติดให้ โทษ
ทางกฎหมาย
แบ่ งเป็ น 5 ประเภทตามพรบ.ยาเสพติดให้ โทษ พ.ศ.2522
ประเภท1 เช่ น เฮโรอีน, แอมเฟตามีน (ยาม้ า) และอนุพันธุ์,เมทแอมเฟตามีน
(ยาบ้ า), เอ็มดีเอ็มเอ(ยาอี), เอ็มดีเอ (ยาเลิฟ) และ แอล เอส ดี เป็ นต้ น
ประเภท2 เช่ นฝิ่ น, โคเคน, มอร์ ฟีน,เมทาโดนและโคเดอีน เป็ นต้ น
ประเภท3 เป็ นยาสาเร็จรู ปที่ได้ รับอนุญาตให้ จาหน่ ายตามร้ านขายยาได้ เช่ น
ยาแก้ ไอที่มีโคเดอีน,ยาแก้ ท้องเสียที่มีไดเฟนอกซีน, ยาระงับปวดทัง้ กินและ ฉีดที่มี
สารกลุ่มฝิ่ นผสมอยู่ เช่ น มอร์ ฟีนฉีด เป็ นต้ น
การแยกประเภทของยาเสพติดให้ โทษ
ทางกฎหมาย
ประเภท 4 เป็ นนา้ ยาเคมีท่ นี ามาใช้ ในการผลิตยาเสพติดให้ โทษประเภท 1
และ 2 ได้ แก่ นา้ ยาเคมีอาเซติดแอนไฮไดรด์ , อาเซติลคลอไรด์ ใช้ เปลี่ยนมอร์ ฟีน
เป็ นเฮโรอีน, สารเออร์ โกเมทรี นและคลอซูโดอีเฟดรี น และสารตัวอื่นๆที่นามา
ผลิตยาอีและยาบ้ า
ประเภท 5 ได้ แก่ พืชกัญชา,พืชกระท่ อม,พืชฝิ่ น และพืชเห็ดขีค้ วาย เป็ นต้ น
การแยกประเภทของยาเสพติดให้ โทษ
ทางการแพทย์ แบ่ งสารเสพติด เป็ น 7 ประเภท
1. สารกลุ่มฝิ่นหรือออกฤทธ์ ิ คล้ายฝิ่น ได้แก่ ฝิ่น,เฮโรอีน,มอร์ฟีน,โคเด
อีน, เมทาโดน รวมทัง้ ยาที่มีสารกลุ่มฝิ่นผสมอยู่ เช่น ยาเมา(แก้ไอ) เป็ นต้น
2. ยานอนหลับและยากล่อมประสาท เช่น แวเลี่ยม, ดอร์มิก้มุ ,
ซาแนกส์ เป็ นต้น
3. ยากระตุ้นประสาทได้แก่ยากลุ่มแอมเฟตามีน (เช่นเมทแอมเฟตามีน
หรือยาบ้า),กระท่อม, โคเคน,บุหรี่,กาแฟและเครื่องดื่มชูกาลังฯลฯ
การแยกประเภทของยาเสพติดให้ โทษ
ทางการแพทย์ แบ่ งสารเสพติด เป็ น 7 ประเภท
4. ยาหลอนประสาท ได้ แก่ แอลเอสดี, พีซีพี , เมสคารี น,ยาเค,เห็ดเมา
และลาโพง ฯลฯ
5. ยาที่ออกฤทธิ์หลายอย่ าง เช่ น กัญชา,ยาอี
6. สารระเหยต่ าง ๆ ได้ แก่ สารไฮโดรคาร์ บอนที่ใช้ ในอุตสาหกรรมหรื อ
งานไม้ เช่ น อาซีโทน,โทลูอีน ฯลฯ และ ผลิตภัณฑ์ ต่างๆเช่ น ทินเนอร์ , แลค
เกอร์ และกาวปะยาง เป็ นต้ น
7. แอลกอฮอล์ ได้ แก่ บรั่ นดี,VSOP,วิสกี,้ เหล้ า, เบียร์ , กระแช่ , อุ
และข้ าวหมาก เป็ นต้ น
วิธีการเสพสารเสพติด
1.ทางปาก
- กิน เช่ น ยาอี, ยานอนหลับ,ยาม้ า
- เคีย้ วกลืน กัดกลืน เช่ น ใบกระท่ อม
- อม เช่ น เหล้ าแห้ ง
- อมใต้ ลนิ ้ เช่ น เฮโรอีน,โคเคน
- แตะลิน้ เช่ น ยาหลอนประสาทแอลเอสดี
- ซุกไว้ ตามซอกเหงือก เช่ น ฝิ่ น
- ดื่ม เช่ น แอลกอฮอล์ ,กระท่ อม,กัญชา
- ดิ่ง(ทิง้ ดิ่ง) ปั ้นฝิ่ นเป็ นก้ อนกลมแล้ วกลืน
2.จมูก
- สูด,นัตถุ์เช่ น โคเคน,ยาเค
- ดม เช่ น สารระเหย
วิธีการเสพสารเสพติด
3. สูบ
- คลุกบุหรี่ สูบ เช่ น ฝิ่ น,กัญชา,เฮโรอีน,โคเคน
- สูบบ้ อง หรื อพาชนะที่ดัดแปลงมาจากบ้ องผ่ านนา้ ,ไม่ ผ่านนา้ เช่ น
ฝิ่ น,กัญชา
- สูบควัน ได้ แก่ ยาบ้ า โคเคน เป็ นต้ น
4. ฉีด
- ฉีดเข้ าใต้ ผิวหนัง เช่ น เฮโรอีน
- ฉีดเข้ ากล้ าม เช่ น มอร์ ฟีน
- ฉีดเข้ าเส้ นเลือดดา เช่ น เฮโรอีน,ยาบ้ า
5. อื่นๆ เช่ น สอดทวารหนัก,ซุกใต้ หนังตา,ลิปสติก,ผิวหนัง,พ่ นทางสเปรย์ ,
ใส่ หัวแหวนดม ฯลฯ
อุปกรณ์การเสพยา
สาเหตุของการเสพด้ วยวิธีแตกต่ างกัน
1. ข้ อจากัดของวิธีเสพ
2. ความประสงค์ ของการออกฤทธิ์
3. พฤติกรรมของผู้เสพ,การแสวงหาวิธีการเสพใหม่ ๆ
สาเหตุของการติดยาเสพติด
1. ตัวสารเสพติด
- ออกฤทธิ์เร็ว, แรง, สัน้ จะติดง่ าย
- อาการดือ้ ยาเกิดขึน้ เร็ว จะติดง่ าย
- อาการอยากยามาก ติดง่ าย
- ออกฤทธิ์ทดแทนสารเคมีท่ ผี ้ ูป่วยขาด ทาให้ ตดิ ง่ าย
- เสพแล้ วมีผลข้ างเคียงน้ อย ทาให้ กล้ าเสพจะติดง่ าย
- โรคแทรกเกิดไม่ ชัดเจน ไม่ กลัวจึงเสพบ่ อยจะติดง่ าย
2. ตัวผู้เสพ
ทางร่ างกาย
- แนวโน้ มทางกรรมพันธุ์, บุคลิกภาพ
- ความพิการทางร่ างกาย ความด้ อยทางสติปัญญา
- ความเจ็บป่ วยเรื อ้ รั ง ความเจ็บปวดเรื อ้ รั ง
ทางจิตใจ
- โรคประสาท,โรคจิต,โรคซึมเศร้ า
- การเลีย้ งดูไม่ ถูกต้ องในวัยเด็ก
- การถูกทาร้ ายทางร่ างกายและจิตใจในวัยเด็ก
- ปั ญหาทางบุคลิกภาพ ต่ อต้ านสังคม,พึ่งพา
สรุ ปสาเหตุตวั ผู้เสพ
- ความอยากรู้ อยากลอง ด้ วยความคึกคะนอง
- เพื่อนชวน หรื อต้ องการให้ เป็ นที่ยอมรั บจากกลุ่มเพื่อน
- มีความเชื่อในทางที่ผิด เช่ น เชื่อว่ ายาเสพติดบางชนิดอาจช่ วยให้ สบายใจ
ลืมความทุกข์ หรื อช่ วยให้ ทางานได้ มาก อ่ านหนังสือได้ มาก
- ถูกหลอกให้ ใช้ ยาเสพติดโดยรู้ เท่ าไม่ ถงึ การณ์ เพื่อหนีปัญหา เมื่อมีปัญหา
และไม่ สามารถแก้ ได้
- ใช้ เพื่อลดความเจ็บปวดทางกาย อันเนื่องมาจากโรคภัยไข้ เจ็บจนเกิดการ
ติดยา เพราะใช้ เป็ นประจา
18
3. สิ่งแวดล้ อม
- ขาดความใกล้ ชดิ ผูกพันในครอบครั ว และสังคม
- มีการใช้ สารเสพติดในครอบครั ว
- คบเพื่อนที่เสพยา สูบบุหรี่ ตงั ้ แต่ เด็ก
- ทางานใกล้ ชดิ กับยาโอกาสหาใช้ ,หาซือ้ ง่ าย
- ความกดดันทางเศรฐกิจ,สังคม ใช้ ยาจนติด
- มั่วสุมในแหล่ งบันเทิงหรื อที่ท่ ีมียาเสพติด
- ความเชื่อโบราณทางศาสนากับการใช้ ยาเสพติด
อันตรายจากสารเสพติดให้ โทษ
1. สารกลุ่มฝิ่ น และ เมทาโดน
ได้ แก่ ฝิ่ น มอร์ ฟีน เฮโรอีน (ผงขาว) ยาเมา (ยาแก้ ไอ) และ เมทาโดน
เมื่อเสพ
- มีอาการมึนงง เฉื่อยชา ง่ วงนอน
- ม่ านตาหรี่ หายใจ
- หัวใจเต้ นช้ าลง
- ความดันเลือดลดลง
เมื่อได้ ไม่ เสพ - หงุดหงิด กระสับกระส่ าย ปวดกระดูก ปวดท้ อง ลงแดง
- ม่ านตาขยาย ความดันเลือดสูง ไข้ ขนึ ้
โรคแทรกซ้ อนจากการเสพสารกลุ่มฝิ่ น
พิษเฉียบพลัน กดการหายใจ หรื อ ติดเชือ้ ในกระแสเลือดถึงเสียชีวติ ได้
สูบ
- หลอดลม,ปอดอักเสบโอกาสเกิดมะเร็งสูงกว่ าปกติ
ฉีด
- ติดเชือ้ แบคทีเรี ย
- ฝี ตามร่ างกาย ผิวหนัง ปอด สมอง
- ติดเชือ้ ตับอักเสบ เชือ้ เอดส์ และติดเชือ้ โรคอื่นๆ
- กระเพาะอาหารอักเสบ
- วัณโรคปอด
- กระตุ้นให้ โรคจิต, โรคประสาทกาเริบ
- เส้ นประสาทเสื่อม จากการถูกกดทับ หรื อถูกเข็มทาลาย
23
2. กลุ่มยานอนหลับและยากล่ อมประสาท
เมื่อเสพ
- เดินเซ พูดเสียงอ้ อแอ้ ควบคุมตนเองไม่ ได้ คลุ้มคลั่ง อาละวาด
- ในขนาดสูงจะหลับ และกดการหายใจ
เมื่อไม่ ได้ เสพ - หงุดหงิด กระวนกระวาย ชัก
การนาไปผสมแอลกอฮอลล์ ออกฤทธิ์เสริมกดการหายใจ ถึงตายได้
ผู้ตดิ ยานอนหลับ อาการจะดูคล้ ายๆ คนเมาสุรา แต่ ไม่ มีกลิ่นสุราทางลมหายใจ
3. กลุ่มยากระตุ้นประสาท, ยาบ้ า,กระท่ อม,โคเคน
กาแฟ,บุหรี่ ,เครื่ องดื่มชูกาลังและนา้ อัดลม
เมื่อเสพ
- ครื น้ เครง กระวนกระวาย แน่ นหน้ าอก, ใจสั่น,ปวดหัว,ม่ านตา
ขยาย, หัวใจวาย
- หายใจเร็ว
- หัวใจเต้ นเร็ว ความดันเลือดสูง
- ไข้ ขนึ ้
- อาการประสาทหลอน หวาดกลัว หลงผิด
เมื่อไม่ ได้ เสพ - จะหงุดหงิด กระสับกระส่ ายง่ วงนอน ซึมเศร้ า ฆ่ าตัวตาย
พิษจากสารเมทแอมเฟตามีน
- หัวใจเต้ นเร็ว ผิดจังหวะ ภาวะหัวใจล้ มเหลว
- ความดันโลหิตสูง ทาให้ เส้ นเลือดแตกในสมองได้
- ชัก
- ไข้ สูง
- หวาดกลัวอย่ างรุ นแรง หูแว่ ว ประสาทหลอน
อาการพิษเฉียบพลันรุ นแรงถึงตายได้
พิษจากการสูบควันยาบ้ า
เกิดโรคหลอดลม, ปอดอักเสบ , มะเร็งช่ องปาก,คอและปอด สูงกว่ าการ
สูบบุหรี่ , วัณโรคปอด
พิษจากสารอันตรายในยาบ้ า
ได้ แก่ ฟอร์ มอรี น, ยาฆ่ าหญ้ า, สตริ๊กนีน และสารอื่นๆ
พิษจากส่ วนผสมในยาบ้ า
ได้ แก่ คาเฟอีน, เอฟริดีน เสริมฤทธิ์กระตุ้นประสาท
พิษจากสารโลหะหนักที่เจือปนในยาบ้ า
ได้ แก่ สารปรอท, ตะกั่ว, ทองแดง และสารอื่นๆ
การสูบยาบ้ าไปนานๆ สมองและร่ างกายจะได้ สะสมสารพิษ ต่ างๆที่
เจือปนอยู่ เป็ นการตายผ่ อนส่ ง
ยาบ้า ทาให้เกิดโรคจิต รักษาไม่หาย
กระท่ อม
ขยันทางาน ทนแดด แต่ กลัวอากาศครึม้ ฝน
เสพนานๆ ผิวหน้ า จะดา เมื่อไม่ เสพจะปวดเมื่อย
กล้ ามเนือ้ อ่ อนเพลีย ไม่ มีแรง
28
กระท่ อมเป็ นยาเสพติดชนิดหนึ่ง
อาการขาดยา :
ถ้ าติดยาแล้ วหยุดทันที จะมีอาการนา้ ตาไหล
นา้ มูกไหล ก้ าวร้ าว ปวดเมื่อยตามตัว และกล้ ามเนือ้
แขนขากระตุก ใจสั่น เหนื่อย และฟุ้งซ่ าน
29
กระท่ อม ภัยเงียบ...ร้ ายแรง...คร่ าชีวิต!
กระท่ อม... ยาเสพติดประเภท 5
เมื่อเสพเบือ้ งต้ น จะทาให้ ร้ ูสึกสบาย ว่ องไว ทางานได้ เมื่อเสพต่ อเนื่อง
จนติด จะเกิดโทษมหันต์ ต่อร่ างกายและจิตใจ
ประสาทหลอน นอนไม่ หลับ กระสับกระส่ าย สับสน
ผิวหนังดาเกรียม โดยเฉพาะใบหน้ า โหนกแก้ มทัง้ สองข้ าง
เช่ นเดียวกับโรคมะเร็งตับ หรือตับวาย
ปากแห้ ง คอแห้ ง ช่ องปากอักเสบติดเชือ้
ใจสั่น หัวใจเต้ นเร็ว เหนื่อยมาก หัวใจวาย เสียชีวิต
ปวดเมื่อยตามร่ างกาย ปวดตามข้ อ แขน ขา กระตุกและชักเกร็งได้
เบื่ออาหาร นา้ หนักลด ร่ างกายซูบผอม
ปวดท้ อง ท้ องผูกเรือ้ รั ง อุจจาระดาเป็ นก้ อนคล้ ายมูลแพะ
กระเพาะอาหารและลาไส้ อุดตัน แตก
ทะลุ
กระท่ อม! ยาเสพติดร้ ายแรงกว่ าที่คิด เปลี่ยนความเชื่อผิดๆ
เลิกคิด เลิกลอง เลิกเสพ
30
“4x100 สูตรผสมมหันตภัย”
4x100 =นา้ พืชกระท่ อมต้ ม+โค้ ก+ยาแก้ ไอ+
เครื่องดื่มบารุ งกาลัง+ยากันยุง+อัลปราโซแลม
ไม่ แน่ นอนขึน้ อยู่กับความนิยม
และการสามารถจัดหาวัตถุดบิ ในแต่ ละพื้นที่
บางแห่ งใช้ กัญชาร่ วมด้ วย
31
4. กลุ่มยาหลอนประสาท
ได้ แก่ LSD ยาเค เห็ดเมา พี ซี พี และเมสคาลีน
เมื่อเสพ
- มีอาการเคลิบเคลิม้ จินตนาการต่ างๆ นานา
- มีอาการทางจิต หูแว่ ว ประสาทหลอน
- ใช้ นานๆเกิดการเสพติด และเป็ นโรคจิตได้
เมื่อไม่ ได้ เสพ
- หงุดหงิด กระสับกระส่ าย
แสตมป์ หรื อ เมจิกเปเปอร์ คือ กระดาษเคลือบ LSD
ยาเค หรื อ ยาส่ าย(หัว) ทาจากการ เอายาสลบเคตามีนมาอบให้ แห้ ง เมื่อ
สูดเข้ าไปจะเมา เคลิบเคลิม้ ส่ ายหัวไปมา
5. สารออกฤทธิ์หลายอย่ าง ได้ แก่ กัญชา ยาอี
กัญชา
เมื่อเสพ ปริมาณน้ อย
- กระตุ้นประสาท ร่ าเริง
ปริมาณมาก
- เสพมากขึน้ จะซึม หลับ
- เสพขนาดสูงจะมีอาการประสาทหลอน
- กดการหายใจเสียชีวติ ได้
อาการพิษเฉียบพลันจากการสูบกัญชา
ตาแดง ใจสั่น แน่ นหน้ าอก กระวนกระวาย หวาดกลัว
อาการพิษเรื อ้ รั ง
การเสพในระยะเวลานานเกิดอาการซึมเฉย - โรคจิตที่ถาวรได้
ยาอี
เมื่อเสพ
เมื่อไม่ ได้ เสพ
- จะกระตุ้นประสาทรุ นแรง ขยับขาตามเสียงเพลง
- หลอนประสาท เกิดความรั กไว้ วางใจกัน
- หัวใจเต้ นเร็ว,ผิดจังหวะ ความดัน เลือดไข้ ขนึ ้
- กล้ ามเนือ้ -กราม เกร็ง กระตุก ทาลายเซลล์ สมอง
- ซึมเศร้ ารุ นแรง ฆ่ าตัวตายได้
อันตรายจาก ยาอี
กระตุ้นให้ เกิดการหลั่งสารเคมีในสมองมากจนทาให้ เซลล์ สมองตาย
สมองเสื่อม
ปาร์ ตี ้ ยาอี
การเสียชีวติ ใน “ปาร์ ตยี ้ าอี” เนื่องจาก
- การเคลื่อนไหวกล้ ามเนือ้ ตลอดเวลา ร่ างกาย
- เกิดการสะสมสารพิษ การเสียสารนา้ และเกลือแร่ ในร่ างกายมาก
เกินไป
- การใช้ ยาเสพติดหลายชนิดโดยขาดการควบคุม ร่ วมกันออกฤทธิ์ท่ ี
เป็ นอันตรายรุ นแรง
- หลังปาร์ ตจี ้ ะซึมเศร้ ารุ นแรงจนถึงฆ่ าตัวตายได้
6. สารระเหย
เมื่อเสพ
- สูดดมแล้ วเมาเคลิบเคลิม้ เดินเซ
- ประสาทหลอน เห็นดาวเห็นเดือน หูแว่ วได้
- ทาท่ าทางแปลกประหลาด ไม่ ได้ เสพ จะมีอาการหงุดหงิด
วิตกกังวล กระวนกระวาย
พิษจากการสูดดมสารระเหย
- ทางเดินหายใจ เยื่อบุโพรงจมูก- หลอดลม
- ปอดอักเสบ
- ทางเดินอาหาร หลอดอาหารอักเสบ, กระเพาะอักเสบ
- กล้ ามเนือ้ หัวใจอักเสบ, ตับ, ไต อักเสบ
พิษจากการสูดดมสารระเหย
- ทาลายไขกระดูก เกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาว, เม็ดเลือดต่า
- ทาลายระบบประสาททัง้ ส่ วนปลายและส่ วนกลาง
- กล้ ามเนือ้ แขนขาลีบ
- ทาลายสมองแบบถาวร ทาให้ มีอาการสั่น, เดินเซ
- ทาลายเซลล์ สืบพันธุ์ ทาให้ กาเนิดบุตทิ ่ ีพกิ ารได้
- ทาให้ เกิดโรคสมองเสื่อมเกิดโรคจิตแบบถาวรได้
ทาลายทุกระบบในร่ างกาย
25
30
7. แอลกอฮอล์
เมื่อเสพ
- ดื่มแล้ วเกิดอาการเมา ควบคุมตัวเองไม่ ได้
- กดประสาท กดการหายใจ
- เป็ นสาเหตุอันดับหนึ่งในการเกิดอุบัตเิ หตุ
เมื่อไม่ ได้ เสพ - เมื่อเสพติดแล้ ว เกิดภาวะพิษสุราเรื อ้ รั ง
การหยุดดื่มกระทันหันจะมีอาการชัก หูแว่ ว ประสาทหลอน
การดื่มแอลกอฮอล์ ร่วมกับการใช้ ยาอื่น อาจเป็ นอันตรายถึงชีวติ
โรคแทรกซ้ อนจากการดื่มแอลกอฮอล์
- เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคทาง ระบบหลอดเลือดและหัวใจ ความ
ดันโลหิตสูง เส้ นเลือดในสมองแตก,ตีบ
- หลอดอาหาร
-กระเพาะอาหารอักเสบกระเพาะ อาหารทะลุ, มะเร็งกระเพาะอาหาร
ลาไส้ อักเสบ
- ภาวะทุโภชนาการ โรคผิวหนังเรื อ้ รั ง วัณโรคปอด
- ตับอักเสบ ตับแข็ง ตับวาย ท้ องมานอัณฑะฝ่ อ
- ตับอ่ อนอักเสบ เบาหวาน
- สมองเสื่อม
- โรคซึมเศร้ า วิตกกังวล
- โรคจิตหวาดระแวง หูแว่ ว ประสาทหลอนรั กษาไม่ หาย
เครื่ องดื่มชูกาลัง
สาเหตุของการเสพสารเสพติด
ทฤษฎี BIO-PSYCHO-SOCIAL ของการเสพติด
ตัวบุคคล (พันธุกรรม)
ตัวสาร
สิ่งแวดล้ อม
“ต่ากว่ า 18 ห้ ามดื่ม”
สาร
ระเหย
ยาเค
โคล่ า จากโคเคนเป็ นคาเฟอีน
GHB
ยากล่ อมประสาท
อายุและสาเหตุท่ เี ริ่มสูบบุหรี่
พบว่ าอายุระหว่ าง15 - 19 ปี เป็ นอายุท่ เี ริ่มสูบบุหรี่ มากที่สุด
(55.9%) อยากทดลองสูบ
(37.5%) ตามอย่ างเพื่อนหรื อเพื่อนชวนสูบ
(34.8%) สาเหตุอ่ ืนๆ เพื่อเข้ าสังคม คลายเครี ยด ตามอย่ างสมาชิกในครั วเรื อน
แพ้ ท้อง ที่บ้านปลูกยาสูบ
แต่ ละคนที่สูบไม่ คดิ ว่ าตนเองจะติดบุหรี่
สมอง
ผิวหนัง
สายตา
ปากและฟั น
เล็บ
กล่ องเสียง
ผิวหนัง
หัวใจและหลอดเลือด
ปอด
ทางเดินอาหาร
ผลเสียบางส่วนของการสูบบุหรี่ต่ออวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
บุหรี่ กับเยาวชน
แอลกอฮอล์ ทาลายอวัยวะต่ างๆในร่ างกาย
มอร์ ฟีน
เห็ดขีค้ วาย
ยาไอซ์
กัญชา
โคเคน
ฝิ่ น มอร์ ฟีน โคเดอีน เฮโรอีน
ยาอี
CLUB DRUGS
Rohypnol
LSD
ยาเค
กัญชา
โคเคน
GHB
ICE
เสพยาบ้ ามีอาการทางจิต หวาดระแวง
การตรวจปั สสาวะเป็ นสีม่วง
ผลของการเสพยาบ้ าในระยะยาว
กัญชา
กระท่ อม
กระท่ อม
LSD (Lysergic acid diethylamide)
73
74
75
76
77
78
79
รูปผ่ าขวาสมองของมนุษย์ ท่ ตี ดิ ยา
การเสพยาบ้ าจะกระตุ้นให้ สมองทางานมากกว่ าปกติ เมื่อเสพไปเรื่อย ๆ
จนกระทั่งติด สมองจะถูกทาลาย การทางานก็จะเสื่อมถอยลง
80
81
82
83
สมองติดยา
1. ยาเสพติดเลิกไม่ ยาก ขึน้ อยู่กับความตัง้ ใจท่ านัน้
2. เซลล์ สมองติดต่ อกันโดยใช้ สารเคมีส่ ือสารระหว่ างกัน
3. ผู้หญิงกับผู้ชาย ติดยาไม่ แตกต่ างกัน
4. การเสพยาโดยการสูดสาร ทาให้ ตดิ ง่ ายกว่ าการกิน
5. ติดยาเมื่ออายุน้อย มีผลเสียน้ อยกว่ าติดยาเมื่ออายุมาก
6. คนไข้ โรคซึมเศร้ า มีโอกาสติดยาง่ ายกว่ าคนทั่วไป
7. การติดยา ทาให้ สมองทางานผิดปกติอย่ างถาวรได้
8. วิธีท่ ีดีท่ สี ุดสาหรั บการติดยาเสพติด คือการป้องกันการเริ่มต้ นไปใช้ ยา
เพิม
่
ความสุข
ลดความ
ทุกข์
ทดลอง
เพิม
่ พล ัง
ผูเ้ สพ
สาร
สงิ่ แวด
ล้อม
บุคคล
สงิ่ แวดล้อม
การเลีย้ งดู
พันธุกรรม
สภาพครอบครั ว
เพศ
กลุ่มเพื่อน
ความเจ็บป่ วย
โรงเรี ยน
อายุท่ ีเริ่มใช้
ผลของยา สารเสพติด หาง่ าย ชุมชน
ราคา
วิธีใช้
สมอง
การติดยา
การสร้ างแรงจงู ใจ ผ้ ูบาบัดควรร้ ู จกั เรื่ อง
สมองติดยา คืออะไร
ั ัสต่างๆ
ประสาทสมผ
สว่ นคิดและ
ิ ใจ
ต ัดสน
สว่ นอารมณ์
ึ
ความรูส
้ ก
สว่ นควบคุมการทางานของร่างกาย
สมาธิ
ความตื่นตัว
ความกังวล
อารมณ์
ความจดจ่ อ
ความคิด
ความจา
เพศ
ความก้ าวร้ าว
ความสุข
แรงจูงใจ
99
ปั จจัยที่มีอิทธิพลต่ อการเสพซา้
ปั จจัยส่ วนบุคคล
1.ปั จจัยด้ านกายภาพ
2.การขาดแรงจูงใจในการเลิกยา
3.การขาดทักษะในการเผชิญกับสถานการเสี่ยงต่ อการใช้ ยา
ปั จจัยด้ านสิ่งแวดล้ อม
1.มีแหล่ งยาในชุมชน
2.อยู่ในสิ่งแวดล้ อมที่คุกคาม
100
เงื่อนไขนำ
พฤติกรรม
ผลกรรม
101
1. มนุษย์ มีคุณค่ า และมีศักดิ์ศรีในตนเอง
2. เป็ นคนดีมาแต่ กาเนิด
3. มีแนวโน้ มในการพัฒนาตนเอง
4. มีความเชื่อในสิ่งที่เหนือกว่ าตน
102
ตนเองรู้
ตนเองไม่รู้
บานที่ 1
บานที่ 2
เปิดเผย
จุดบอด
บานที่ 3
บานที่ 4
ความลับ
อวิชชา
ผูอ้ ื่นรู้
ผูอ้ ื่นไม่รู้
103
ผู้กล่ าวหา
เหยื่อ
ผู้ช่วยเหลือ
104
1. เพื่อกำรพัฒนำตนเอง
2. เพื่อเสพสุขอย่ ำงรู้เท่ ำทันธรรมชำติ
3. เผชิญปั ญหำ แก้ ปัญหำอย่ ำงถูกวิธี
4. แบ่ งปั นควำมโชคดีของตนเองที่มีอยู่ให้ กับคนที่ด้อยโอกำสกว่ ำเรำ
105
1.
2.
3.
4.
5.
อย่ าคิดเล็กคิดน้ อยกับเรื่องเล็กน้ อย
อย่ าต่ อว่ าองค์ กร
อย่ าเลือกงานที่รัก
อย่ าให้ ร้ายหัวหน้ า
อย่ าดูถูกเพื่อนร่ วมงานหรือคนรอบข้ าง
106
1.
2.
3.
4.
5.
ทบทวนจิต
คิดจัดการ
สานเป้าหมาย
สายใยรัก
ทักสังคม
107
1.ทบทวนหาสาเหตุของความเครี ยด
2.ยอมรั บสภาพความเป็ นจริงของชีวติ และพร้ อมที่จะปรั บเปลี่ยน
เท่ าที่ทาได้ เพื่อให้ ชีวติ ดีขนึ ้
3.เต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองก่ อนเป็ นอันดับแรก
4.ออกกาลังกายเป็ นประจาสม่าเสมอ โดยเลือกออกกาลังกายที่
เหมาะสมกับตัวเอง
5.นอนหลับให้ เพียงพอ
6.ปรั บปรุ งสถานที่ให้ เหมาะสม ทัง้ บ้ าน ที่ทางาน ให้ บรรยากาศดีขนึ ้
รวมทัง้ เสริมสร้ างความสัมพันธ์ อันดีภายในบ้ าน
7.มองโลกในแง่ดี คิดทางบวกเป็ นความคิดทีน่ าความสุขมาสูต่ น มีสติอยู่
กับปจั จุบนั รูว้ า่ ตัวเองทาอะไร เพือ่ อะไร มองว่าคนอื่นเป็ นมิตรให้ความรัก
108
8.พักหย่ อนใจ โดยหางานอดิเรกทา โดยการปลูกต้ นไม้ ดอกไม้ ฟั ง
เพลง อ่ านหนังสือ ดูทีวี ดูหนังตลกมีอารมณ์ ขัน ท่ องเที่ยวตามสถานนะ
การเงิน ของแต่ ละบุคคล งดบุหรี่ สุรา สารเสพติด การพนัน การสาส่ อนทาง
เพศ
9.คุยกับเพื่อน หรื อบุคคลที่เราไว้ วางใจ ศรั ทธา นับถือ เพื่อ
แลกเปลี่ยนแนวทางการแก้ ไขร่ วมกัน
10.ไม่ ท้อถอย สร้ างความเชื่อในตนเอง มองตนเองมีคุณค่ ามี
ความสามารถ มีศักดิ์ศรี มีความภาคภูมใิ จในตนเอง สร้ างงานที่เป็ นผลสาเร็จ
11.มีหลักยึดเหนี่ยวทางจิตใจ มีหลักศาสนา รู้ จักปล่ อยวาง การทา
สมาธิ แผ่ เมตตา การกาหนดลมหายใจเข้ าออก การฝึ กเกร็งและผ่ อน
กล้ ามเนือ้
12.มีปรั ชญา และเป้าหมายชีวติ เช่ น มีความเชื่อว่ าทาดีได้ ดี ทาชั่วได้
109
ชั่ว ตนเป็ นที่พ่งึ แห่ งตน
1.ต้ องทราบจุดอ่อน จุดแข็งของตนเอง
2.มีเป้าหมายที่ชดั เจน
3.สังเกตพฤติกรรมตนเองอย่างสม่าเสมอ
4.ประเมินตนเองและเตือนตนเองได้ ตามความเป็ นจริง
5.ให้ รางวัล / ลงโทษตนเอง
6.มีความรับผิดชอบต่อการกระทา มีความพยายามอดทน อย่างต่อเนื่อง
ที่จะทาให้ เป้าหมายชีวิตของเราประสบความสาเร็จ
110
1.
2.
3.
4.
5.
หาปั ญหาที่แท้ จริงที่เกิดขึน้
ค้ นหาสาเหตุของปั ญหา
หาแนวทางการแก้ ไข
วิเคราะห์ แนวทางการแก้ ไข
นาไปปฏิบัติ ทบทวนทาต่ อไป
111
1.สารวจอารมณ์หรือความรูส้ กึ ขณะนัน้ เช่น ใจสัน้ ตัวสัน้ กัดฟนั กามือ
2.คาดการณ์ผลดี ผลเสีย ของการแสดงอารมณ์นนั ้ ออกมา
3.ควบคุมอารมณ์ดว้ ยวิธตี ่าง ๆ
หายใจเข้าออกยาว ๆ
นับเลข 1-10 ช้า ๆ
ขอเวลานอกโดยหนีออกจากสถานการณ์นนั ้ ๆ
กาหนดลมหายใจเข้าออก
4.สารวจความรูส้ กึ ตนเองอีกครัง้ ชืน่ ชมกับการทีต่ นเองควบคุมอารมณ์ได้การรับรูอ้ ารมณ์ของ
ตนเอง
ทาให้เข้าใจตนเองมากขึน้ และส่งผลให้มกี ารแสดงอารมณ์ออกได้อย่างเหมาะสม การรับรูอ้ ารมณ์
ของ
ผูอ้ ่นื ก็เป็ นสิง่ จาเป็ น เนื่องจากการทีเ่ ราสามารถคาดคะเนสภาวะอารมณ์ของผูอ้ ่นื ได้จะทาให้เข้าใจ
ผูอ้ ่นื
และสามารถทีจ่ ะหลีกเลีย่ งหรือมีวธิ กี ารทีจ่ ะช่วยเหลือตนเองได้เมือ่ ได้รบั ผลจากอารมณ์ทไ่ี ม่พงึ
ประสงค์ของผูอ้ ่นื ดังนัน้ เราจะต้องรูอ้ ารมณ์ตนเอง บอกอารมณ์ตนเองได้เมือ่ ได้ รูเ้ หตุ รูป้ จั จัย รู้
ผลต่อร่างกายและจิตใจ รูท้ างแก้ไข นันคื
่ อ การมีสติอารมณ์
112
1.
2.
3.
4.
5.
ความรู้สึก หรือความสัมพันธ์ ท่ ดี กี ับตนเอง
ความรู้สึก หรือความสัมพันธ์ ท่ ดี กี ับธรรมชาติ
ความรู้สึก หรือความสัมพันธ์ ท่ ดี กี ับบุคคล
ความรู้สึก หรือความสัมพันธ์ ท่ ดี กี ับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ความรู้สึก หรือความสัมพันธ์ ท่ ดี กี ับศาสนา
113
สังคหวัตถุ 4
- ทำน
- ปิ ยวำจำ
- อัตถจริยำ
- สมำนัตตตำ
114
115
การป้องกัน
1. เกี่ยวกับตนเอง
- ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับโทษและพิษภัยขอยาเสพติด
- มีความภูมิใจโดยนับถือตนเอง
- สานึกในบทบาทหน้ าที่ของตน
- ทาจิตใจให้ ร่าเริงแจ่มใส
- เลือกคบเพื่อนที่ดี
- ใช้ เวลาว่างให้ เป็ นประโยชน์
- รู้จกั แก้ ไขปั ญหาชีวิตไปในทางที่ถกู
- ปรึกษาผู้ใหญ่เมื่อมีปัญหา
116
2.เกี่ยวกับครอบครัว
- สร้ างความสัมพันธ์อนั ดีระหว่างสมาชิกในครอบครัว
- รู้จกั บทบาทหน้ าที่ของตนเองในการเป็ นสมาชิกของครอบครัว
117
อย่ อู ย่ างไรเมื่อคนใกล้ ตัวติดยา
ผู้ตดิ ยา/สารเสพ
ติด
คน
สิ่งแวดล้ อม
119
ผู้ตดิ ยา/สารเสพติด
คน
- ครอบครั ว
- ผู้ตดิ ยา
- ผู้ใกล้ ชดิ
สิ่งแวดล้ อม
- สถานบันเทิง
- แหล่ งอบายมุข
- ชุมชน
120
ครอบครัว
ผู้ตดิ ยา/สารเสพติด
ผู้ใกล้ ชิด
121
ความรู้สึกของคนใกล้ ชดิ /ครอบครัวต่ อคนใกล้ ตัวติดยา
- กลัว
- เสียหน้ า
- อาย
- สับสน
- เครียด
- โกรธ
- ไม่ ต้องการให้ คนอื่นทราบ
- เศร้ า
- กลัวถูกจับ
- กลุ้มใจ
- ต้ องการให้ เขาบาบัด
- ไม่ ต้องการให้ เข้ าบาบัด
ปั ญหาที่เกิดขึน้ จากครอบครั ว
- ขาดความอบอุ่น
- ไม่ มีเวลาใกล้ ชิด
- ขาดความรู้ ความเข้ าใจ
- สิ่งแวดล้ อมที่อยู่ไม่ ดี
- ขาดการดูแล เลีย้ งดู
- ปั ญหาครอบครัว
ประตูวัด
มีชัน้ เดียว
ต้ องเคี่ยวเข็ญ
ทาไม่ เห็น
ไม่ อยากมอง ไม่ ปองหา
ประตูคุก
ตัง้ หลายชัน้
ขยันมา
ทัง้ แน่ นหนา
แย่ งกันเข้ า
โธ่ เศร้ าใจ
อยู่เรื อนพังยังดีไม่ มีทุกข์
ดีกว่ าคุกหลายเท่ าไม่ เศร้ าหมอง
จนยังดีมีธรรมคา้ ประคอง
ดีกว่ าปองทุจริตคิดร่ ารวย
124
เขามีส่วนเลวบ้ างช่ างหัวเขา
เป็ นประโยชน์ ต่อโลกบ้ างยังน่ าดู
ช่ วยตนให้ เป็ นคนมีศักดิ์ศรี
ช่ วยผู้ป่วยเลิกเสพยาให้ ฟ้ายล
ผู้เสพคือผู้ป่วย
จงเลือกเอาส่ วนดีเขามีอยู่
ส่ วนที่ช่ ัวอย่ าไปรู้ ของเขาเลย
ช่ วยคนอื่นให้ ได้ ดีทวีผล
นี่แหละคนเต็มค่ าราคาคน
เราต้ องช่ วยกันดูแล
ชุมชนและพ่ อแม่
อีกเพื่อนแท้ ในสังคม
สิ่งเหล่ านีค้ ือความหวัง
คือพลังและโอกาส
ที่จะช่ วยประเทศชาติ
เป็ นเอกราชจากยาเสพติด
125
วัว ควาย ตายเหลือไว้ แต่ เขาหนัง ช้ างตายยังเหลืองาไว้ เป็ นศักดิ์ศรี
คนเราตาย เหลือไว้ แต่ ช่ ัวดี
อยากได้ ดีไม่ ทาดีนัน้ มีมาก
เป็ นสิ่งที่ประดับไว้ ในโลกา
ดีแต่ อยากหากไม่ ทาน่ าขาหนอ
อยากได้ ดีต้องทาดี อย่ ารี รอ
ดีแต่ ขอ รอแต่ ดี ไม่ ดีเลย
จงอย่ าทาในสิ่งที่ไม่ มีสิทธิ
จงอย่ าคิดในสิ่งที่ไม่ มีค่า
จงอย่ ารอในสิ่งที่ไม่ มีมา
จงอย่ าคว้ าในสิ่งที่ไม่ มีทาง
ถ้ าเราได้ ทุกอย่ างที่คดิ
ได้ บ้างเสียบ้ างช่ างปะไร
ชั่วชีวติ จะเอาของกองที่ไหน
จงตัง้ ใจทาดีเท่ านีพ้ อ
126
จงเก็บความรู้ สกึ ที่มีค่า
จงจดจาทุกถ้ อยคาของเพื่อนไว้
ความร่ วมมือ คืออะไร ใครจะรู้
เห็นพร่ าเพรียกเรียกหากันทุกคน
ถ้ าหากอยากได้ จากใครเขา
ยืนหนืดเหนียวเคี่ยวข้ นจนคนลือ
เพื่อเดินทางฝ่ าคืนวันอันหวั่นไหว
เป็ นแรงใจอันยิ่งใหญ่ เมื่อจากกัน
มันแฝงอยู่ตรงไหนน่ าฉงน
ต่ างดิน้ รนขอช่ วยให้ ร่วมมือ
แล้ วตัวเราให้ ใครบ้ างแล้ วหรื อ
ผลก็คือต้ องรอคอยไปร้ อยปี
127