Transcript 23322-4

แนะนำวิจัยกำรปฏิบัตกิ ำร
Introduction to Operations Research
น.ท. ชัยรัตน์ นภำศักดิ์ศรี
อำจำรย์ กวอก.ฝวก.สรส
กำรศึกษำ
ป.ตรี Marine engineering รร.นร
M. Eng (System engineering) AIT
D. Eng (System engineering) AIT
ผลงำนวิจัย
Reliability and Risk assessment
 Reliability based Selective maintenance
(European Journal of Operation Research)

ประวัติกำรรับรำชกำร
พ.ศ. 2535-2537 รองต้ นกล ร.ล. วิทยำคม
พ.ศ. 2538 ต้ นกล เรือ ต.98
พ.ศ. 2538-2539 ศึกษำต่ อ ป.โท AIT โดยทุน RTG
พ.ศ. 2540 ต้ นกล ร.ล. ช้ ำง
พ.ศ. 2541-2542 อำจำรย์ กองวิชำวิศวกรรมอุตสำหกำร สรส.
พ.ศ. 2542-2544 ประจำแผนกโครงกำรและงบประมำณ อร.
พ.ศ. 2545 ศึกษำต่ อ ป.เอก AIT โดยทุน รัฐบำลไทย RTG
ประสพกำรณ์

อำจำรย์พเิ ศษ ม.เอกชน และ ม.รัฐบำล
- Production Management
- Quality Control and Management

ทีป่ รึกษำ และ ผู้ประเมิน ระบบมำตรฐำน ISO9000, TQM,



HACCP, GMP.
ทีมทีป่ รึกษำ โครงกำรก่ อสร้ ำงสนำมบินสุ วรรณภูมิ ในส่ วนของ
Traffic control
Reliability and Risk Assessment
ทีป่ รึกษำ APEC-IBIZ
- Business planning
ทีป่ รึกษำคณะกรรมำธิกำรด้ ำนกำรศึกษำ สภำผู้แทนรำษฎร รัฐสภำ
หัวข้ อกำรบรรยำย
วัตถุประสงค์
 ความเป็ นมา
 ลักษณะและความมุ่งหมาย
 ขั้นตอนของการวิจยั ปฏิบตั ิการ
 การแก้ปัญหาโดยใช้แนวทางการวิจยั ปฏิบตั ิการ
 เทคนิ คและวิธีที่ใช้แก้ปัญหาการวิจยั ปฏิบตั ิการ
 สรุ ป

วัตถุประสงค์
 เพื่อให้ นทน.ทราบหลักการเบื้องต้นของการวิจยั ปฏิบตั ิการ
และประโยชน์ของการนาเทคนิคการวิจยั ปฏิบตั ิการมาใช้ใน
การบริ หารงาน
 เป็ นประโยชน์ในการศึกษาใน หัวข้อวิชาอื่นๆ เช่น การ
พิจารณาข้อพิจารณาของฝ่ ายอานวยการ การวิเคราะห์และ
ข้อตกลงใจทางทหาร และหัวข้ออื่นๆ
ควำมเป็ นมำ
ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษได้นาเอาเทคนิคการวิจยั
ปฏิบตั ิการมาใช้ในวงการทหาร อาทิเช่น
- ปัญหาเกี่ยวกับการใช้ระบบเรดาร์
- ปัจจัยระยะบินของเครื่ องบินข้าศึก
- สงครามต่อต้านเรื อดาน้ า
 1943 สหรัฐได้ก่อตั้งกลุ่มวิจยั เชิงปฏิบตั ิการเพื่อวิเคราะห์
การทาสงครามโดยใช้เรื อดาน้ า

ควำมเป็ นมำ
- Operations Analysis
- Management Science
- Systems Analysis
- Systems Engineering
- Industrial System Engineering
- Decision Science
- Quantitative Analysis
ควำมหมำย
“เป็ นการใช้หลักการทำงวิทยำศำสตร์ ในการตัดสิ นใจให้ได้
รู ปแบบระบบทีด่ ที สี่ ุ ด ภายใต้เงื่อนไขในการใช้ทรัพยำกรที่
มีอยู่อย่ ำงจำกัดให้ ได้ ผลดีทสี่ ุ ด”
คุณลักษณะและควำมมุ่งหมำย
เป็ นเรื่ องของการแก้ปัญหาการตกลงใจ
 เป็ นเรื่ องของการเลือกหนทางปฏิบตั ิ
 ใช้แนวทางการวิเคราะห์เชิงปริ มาณ (Quantitative Approach)
 ช่วยเพิ่มความมัน
่ ใจในการตัดสิ นใจ
 เพื่อให้คำแนะนำ ที่ตรงประเด็นและทันเวลา แก่ผต
ู ้ ดั สิ นใจ

แบบจำลองมีหลำกหลำยประเภทตำมลักษณะของปัญหำหรือระบบที่ทำกำรวิเครำะห์
แบบจำลองทำงกำยภำพ (Physical model)
แบบจำลองทำงคณิตศำสตร์ (Mathematical model)
แบบจำลองที่กำหนดค่ ำได้ (Deterministic model)
แบบจำลองที่ใช้ ค่ำควำมน่ ำจะเป็ น (Probabilistic model)
แบบจำลองกำรยุทธ์ (Combat model)
แบบจำลองระบบ (Simulation System)
ขั้นตอนของกำรวิจัยปฏิบัติกำร
กระบวนการหลักที่เกี่ยวข้อง 5 ขั้นตอน
1. การวิเคราะห์และกาหนดปั ญหา(Analysis and Define the problem)
2. การพัฒนาตัวแบบ(Develop a Model)
3. คัดเลือกข้อมูลนาเข้าที่เหมาะสม(Select Appropriate Data Input)
4. หาผลลัพธ์ ทดสอบและการประเมินผลลัพธ์(Provide Test &

Evaluate Solution)
5.
นาผลลัพธ์ไปใช้งาน(Implement Solution)
วงรอบกำรวิจยั ปฏิบัตกิ ำร
Defining the problem
Developing the model
-Objective
-Constraints
-Variables
Acquiring Input Data
Validation
Implementation
กำรวิจัยปฏิบัตกิ ำรเปรียบเทียบกับข้ อพิจำรณำฝ่ ำย
อำนวยกำร



OR กำหนดปัญหำในลักษณะ
วัตถุประสงค์ /เป้ ำหมำยที่ต้องกำรบรรลุ
OR ศึกษำปัญหำ / ปัจจัยทีเ่ กีย่ วข้ อง /
ตัวแปร และแจกแจงรำยกำรหนทำง
ปฏิบตั ิ
OR เปรียบเทียบ หป. ด้ วยกำรคำนวณ
เชิงตัวเลข วัดระดับกำรบรรลุ
วัตถุประสงค์ ตำมมำตรวัดประสิ ทธิผล



SS กำหนดปัญหำในรู ปข้ อแถลง
ปัญหำ (กิจ + ควำมมุ่งประสงค์ )
SS ศึกษำข้ อเท็จจริงประกอบปัญหำ
แล้ วอภิปรำยสรุ ปประเด็นทีเ่ กีย่ วข้ อง
นำไปสู่ หนทำงปฏิบตั ิทจี่ ะแก้ปัญหำ
SS เปรียบเทียบ หป. จำกกำร
พิจำรณำ ควำมเหมำะสม ควำมเป็ นไป
ได้ และกำรยอมรับได้
กำรแก้ ปัญหำโดยใช้ แนวทำงกำรวิจัยปฏิบัติกำร
 การกาหนดปั ญหา
 การหาคาตอบ
 การรายงานผล
กำรกำหนดปัญหำ
เริ่ มจากมีการพิสูจน์ทราบปัญหา
 กาหนดปั ญหาให้อยูใ่ นรู ปแบบที่สามารถใช้แนวทางเชิงปริ มาณได้
(สร้างแบบจาลอง) โดยการพิจารณา
– กาหนดเป้ าหมายหรื อวัตถุประสงค์ (Objective)
– กาหนดทางเลือกหรื อหนทางปฏิบตั ิ (Alternatives)
– กาหนดตัวแปรหรื อปั จจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง (Factors)

กำรหำคำตอบ
ทุกวิธีตอ้ งใช้การคานวณทางคณิ ตศาสตร์
 การวิเคราะห์ทางสถิติ (Statistical Analysis)
 การจาลองค่า (Simulation)

กำรรำยงำนผล
ต้องเป็ นลักษณะที่ช่วยให้ผตู ้ ดั สิ นใจสามารถเลือก หป. ได้
 ต้องแสดงผลการพิจารณารายละเอียดทางเทคนิ ค และคานึ งถึง
ลักษณะเฉพาะตัวของผูต้ ดั สิ นใจด้วย
 ต้องมีการแปลงผลลัพธ์ทางคณิ ตศาสตร์ เป็ นถ้อยคาแสดง หป. ที่
เข้าใจง่าย แสดงหลักการหรื อข้อยุติที่เป็ นเหตุเป็ นผล ที่นาไปสู่การ
ตกลงใจ

เทคนิคและวิธีทใี่ ช้ แก้ ปัญหำกำรวิจัยปฏิบัติกำร









ทฤษฎีการตัดสิ นใจ(Decision Theory)
เทคนิคการประเมินผลและการตรวจสอบโครงการ(PERT/CPM)
การโปรแกรมเชิงเส้น (Linear Programming)
ปั ญหาการขนส่ ง (Transportation Problem) การวิเคราะห์โครงข่าย
การมอบหมายงาน (Assignment Problem)
ตัวแบบของคงคลัง (Inventory Model)
ทฤษฎีแถวคอย (Queueing Theory)
การวิเคราะห์ทางสถิติ (Statistical Analysis)
การพยากรณ์ (Forecasting)
(Network Analysis)
ตัวอย่ ำง
ในการปฏิบตั ิการทิ้งระเบิดครั้ง
หนึ่ง มีเครื่ องบิน ๒ แบบ ที่
สามารถใช้ในการปฏิบตั ิการ
ซึ่งจานวนระเบิดนั้นมีไม่จากัด
แต่เครื่ องบิน น้ ามัน และ
ความสามารถในการซ่อมทามี
ข้อจากัด
แบบ
เครื่องบิน
จำนวน
นน.
อัตรำ
บรรทุก สิ้นเปลือง
(ton)
A
26
2
100
B
15
3
200
ตัวอย่ ำง
มีจานวน 4000 แกลลอนที่สามารถให้การสนับสนุนได้
ไม่สามารถซ่อมบารุ งก่อนปฏิบตั ิการได้มากกว่า 30 เครื่ อง
อยากทราบว่าจะใช้เครื่ องบินในแต่ละแบบอย่างไรถึงจะทาให้
สามารถบรรทุกระเบิดให้ได้มากที่สุดในการปฏิบตั ิการในครั้งนี้
ตัวอย่ ำง
กาหนดปัญหา
- วัตถุประสงค์
- ตัวแปรและปั จจัยที่เกี่ยวข้อง
วัตถุประสงค์
- จานวนเครื่ องบินแต่ละแบบสามารถบรรทุกระเบิด
ให้มากที่สุดภายใต้ขอ้ จากัดต่างๆ
ตัวอย่ ำง
ตัวแปรและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
- จานวนเครื่ องบิน
- ความสามารถในการซ่อมบารุ ง
- น้ ามัน
ตัวอย่ ำง
วัตถุประสงค์
T = 2A+3B
S.T.
100A+200B<= 4000 น้ ามัน
A+B<= 30
ซ่อมบารุ ง
A <= 26
B <= 15
จานวนเครื่ องบิน
ตัวอย่ ำง
การหาคาตอบ
- Graph, Simplex Method and software
- คาตอบที่ดีที่สุด คือ ใช้เครื่ องบินแบบ A 20 ลา และเครื่ องบิน
แบบ B 10 ลา สามารถบรรทุกระเบิดได้ 70 ตัน
สรุป
การวิจยั ปฏิบตั ิการคือการใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหา
การตกลงใจที่ยงุ่ ยากซับซ้อน
 การวิจยั ปฏิบตั ิการเป็ นเพียงเครื่ องมือช่วยผูต้ ดั สิ นใจ
 แนวทางการแก้ปัญหาคือการสร้างแบบจาลองระบบ โดยแบ่งเป็ น
๓ ขั้นตอนคือ การกาหนดปัญหา การหาคาตอบ และการรายงานผล
 การกาหนดปั ญหา ประกอบด้วยการกาหนดวัตถุประสงค์ หนทาง
ปฏิบตั ิ ปัจจัยหรื อตัวแปรที่เกี่ยวข้อง

สรุป
การหาคาตอบอาจใช้วิธีการวิเคราะห์ทางทฤษฎี การวิเคราะห์ทาง
สถิติ การทดสอบและประเมินค่า หรื อการจาลองค่า วิธีใดวิธีหนึ่ง
หรื อร่ วมกันหลายวิธี
 การรายงานผลต้องเป็ นรู ปแบบที่ช่วยให้ผต
ู ้ ดั สิ นใจเข้าใจการ
วิเคราะห์ สมมติฐาน และการประเมินค่า ในทุกขั้นตอน
