ภาพนิ่ง 1

Download Report

Transcript ภาพนิ่ง 1

ปร ัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
้ งแนวการดารงอยู ่
เศรษฐกิจพอเพียง เป็ นปร ัชญาชีถึ
้
และปฏิบต
ั ต
ิ นของประชาชนในทุกระดับ
ตังแต่
ระดับ
้
ครอบคร ัว ระดบ
ั ชุมชน จนถึงระดบ
ั ร ัฐ ทังในการพั
ฒนาและ
บริหารประเทศให้ดาเนิ นไปใน ทางสายกลาง โดยเฉพาะการ
่
พัฒนาเศรษฐกิจเพือให้
กา้ วทันต่อโลกยุคโลกาภิวต
ั น์ ความ
พอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึง
ความจ าเป็ นที่จะต้อ งมีร ะบบภู ม ิคุ ม
้ กน
ั ในต วั ที่ดีพอสมควร
ต่ อ การมี ผ ลกระทบใดๆ อ น
ั เกิด จากการเปลี่ยนแปลงทัง้
้ ้ จะต้อ งอาศ ย
ภายนอกและภายใน ทังนี
ั ความรอบรู ้ ความ
่
รอบคอบ และความระมัดระวงั อย่างยิงในการน
าวิชาการต่างๆ
้
มาใช้ใ นการวางแผนและการด าเนิ น การทุ ก ขันตอน
และ
้
ขณะเดียวกน
ั จะต้องเสริมสรา้ งพืนฐานจิ
ตใจของคนในชาติ
โดยเฉพาะเจ้าหน้ า ที่ ของร ัฐ นักทฤษฎี และนักธุ รกิจในทุ ก
1
่ ต ย ์สุ จ ริต และให้
ระด บ
ั ให้ม ีสานึ กในคุ ณธรรมความซือสั
มี
ปร ัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง
เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง เ ป็ น
้ ง แนวการด ารงอยู ่
ปร ช
ั ญาชีถึ
และปฏิบต
ั ต
ิ นของประชาชนใน
้ั
ทุกระดบ
ั ตงแต่
ระดบ
ั ครอบคร ัว
ระดบ
ั ชุมชน จนถึงระดบ
ั ร ัฐ ทัง้
ใ น ก า ร พั ฒ น า แ ล ะ บ ริ ห า ร
2
เป้ าประสงค ์
• เป็ นแนวทางการปฏิบต
ั ต
ิ น
• ประชาชนทุกระดับ
• “ทางสายกลาง”
• ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวต
ั น์
3
ปร ัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง
ความพอเพีย ง หมายถึง
ความพอประมาณ ความมี
เหตุผล รวมถึงความจาเป็ น
่
ทีจะต้
องมีระบบภู มค
ิ ุม
้ กน
ั ใน
่ พอสมควร ต่อการมี
ตัวทีดี
หลักคว
พอเพีย
4
พอประมาณ
• พอดีพอเหมาะต่อความ
จาเป็ น
• พอประมาณตามอ ัตภาพ
• ไม่มากเกิน
• ไม่น้อยเกิน
5
ความมีเหตุผล
• ตามหลักวิชา
• ตามหลักกฎหมาย
• ตามหลักศีลธรรม
• ตามกฎเกณฑ ์สังคม (รวม
ประเพณี -วัฒนธรรม)
6
ระบบภู มค
ิ ม
ุ ้ กันตัว
่
• เหตุปัจจัย  การเปลียนแปลง

เกิดผลกระทบ
(1) ด้านวัตถุ
(2) ด้าน
สังคม
(3) ด้าน
7
ระบบภู มค
ิ ม
ุ ้ กันด้าน
วั
ต
ถุ
ภู มค
ิ ม
ุ ้ กันเข้มแข็ง
• มีเงินออม
• มีการประกัน
่
ความเสียง
ในอนาคต
่
• มีการลงทุนเพือ
พัฒนา
ภู มค
ิ ม
ุ ้ กันบกพร่อง
้ กอ
• มีหนี ไม่
่ รายได้
• ขาดการประกัน
่
ความเสียงใน
อนาคต
• ขาดการลงทุน
่ ฒนา
เพือพั
8
ภู มค
ิ ม
ุ ้ กันในตัว (reserve ; safety
net)
1. การออม (saving)
2. ลดหนี ้ / ลบหนี ้ (reduce or wipe out
debt)
3. กองทุนป้ องกันวิกฤติ (stabilization
fund)
่ ยงน้
่
4. การลงทุนทีเสี
อย (low-risk
investment)
9
ระบบภู มค
ิ ม
ุ ้ กันด้าน
สั
ง
คม
ิ ม
ุ ้ กันบกพร่อง
ภู มค
ิ ม
ุ ้ กันเข้มแข็ง ภู มค
• รู ้-ร ัก-สามัคคี
• ร่วมมือร่วมใจกัน
• มีคุณธรรม-ใฝ่
ศาสนาธรรม
• “สังคมสีขาว”
• “อยู ่เย็นเป็ นสุข”
• ระแวง-ทะเลาะ
เบาะแว้ง
• ต่างคนต่างอยู ่
• ทุศล
ี -ห่างไกลศา
สนธรรม
่
• เยือแห่
งอบายมุข
10
วิธส
ี ร ้างภู มค
ิ ม
ุ ้ กันทาง
ธรรมแก่
ล
ู กหลาน
ภู มค
ิ ศี
ม
ุ้ ล
ก ันทางศี
ลธรรม
คุม
้ กันต่อสิง่
่ ั ้ายทางศีลธรรม อ ันได้แก่ โลภะ
ชวร
โทสะ และโมหะ
่
1. ฐานเครือญาติทมั
ี่ นคง
2. คาสอนของครอบคร ัว / คุณธรรม
ประจาตระกู ล
3. พาลู กเข้าวัด / ศึกษาและปฏิบต
ั ิ
ธรรม
4. สอนลู กให้ออมและทาบุญ
11
ระบบภู มค
ิ ม
ุ ้ กันด้าน
่
สิ
งแวดล้
อ
ม
ภู มค
ิ ม
ุ ้ กันเข้มแข็ง ภู มค
ิ ม
ุ ้ กันบกพร่อง
• มีความรู ้ – สานึ ก
และหวงแหนใน
่
สิงแวดล้
อม
• มีนโบบายด้าน
่
สิงแวดล้
อมจาก
ฝ่ายบริหาร
• สร ้าง “สุขนิ สย
ั ”
• ขาดความรู ้ –
ขาดสานึ ก
• ขาดนโยบาย –
ผู บ
้ ริหารไม่สนใจ
• เต็มไปด้วย
“ทุกขนิ สย
ั ”
• สกปรก – ขาด
12
ระบบภู มค
ิ ม
ุ ้ กันด้าน
วัฒนธรรม
ภู มค
ิ ม
ุ ้ กัน
ภู มค
ิ ม
ุ ้ กัน
เข้มแข็ง
บกพร่อง
่
• มันคงใน
• ย่อหย่อน – ไม่
วัฒนธรรมไทย ใส่ใจ – รู ้สึก
และเชิดชู
เป็ นปมด้อยใน
วัฒนธรรม
วัฒนธรรมไทย
่
ท้องถิน
– วัฒนธรรม
13
สามองค ์ประกอบ
ความ
พอเพียง
ความพอประมาณ
ความมีเหตุผล
มีภูมค
ิ ม
ุ ้ กันในตัว
4 ด้าน
14
กลไกในการสร ้างระบบ
ภู มค
ิ ม
ุ ้ กัน แผนมิต ิ
้
ต ัวชีวัด
เป้ าหมาย
ปฏิบต
ั -ิ
ประเมิน
1. ด้านวัตถุ
2. ด้านสังคม
3. ด้าน
่
สิงแวดล้
อม
4. ด้าน
15
เศรษฐกิจพอเพียง
้ ้ จะตอ้ งอาศัยความ
1. เงื่อนไขหลักวิชา ทังนี
รอบรู ้ ความรอบคอบ และความระมัด ระวัง
่
อย่างยิงในการน
าวิชาการต่างๆ มาใช ้ในการ
้
วางแผนและการดาเนิ นการทุกขันตอน
และ
2. เงื่อนไขคุณธรรม ขณะเดียวกันจะต ้อง
้
เสริมสร ้างพืนฐานจิ
ตใจของคนในชาติ
่
ัฐ นักทฤษฎี และ
โดยเฉพาะเจ ้าหน้าทีของร
นักธุรกิจในทุกระดับ ให ้มีสานึ กในคุณธรรม
่ ตย ์สุจริต และ
ความซือสั
3. เงื่อนไขการดาเนิ นชีวต
ิ ให ้มีความรอบรู ้
่
ทีเหมาะสม
ดาเนิ นชีวต
ิ ด ้วยความอดทน
ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ
สาม
เงื่อนไ
ข
16
่
เงือนไขหลักวิชาความรู ้
• นาหลักวิชาและความรู ้
เทคโนโลยีทเหมาะสมมาใช้
ี่
้
้
้
• ทังในขั
นวางแผนและขั
น
ปฏิบต
ั งิ าน
• ด้วยความรอบรู ้
17
การจัดการความรู ้ใน
เศรษฐกิจพอเพียง
ข้อมู ล
สารสนเทศ ความรู ้
(Information)
(knowledge)
ปั ญญา
(wisdom)
่
ความรู
้ที
ถ
่ าน
- ข่าวสาร
- สารสนเทศทีผ่
- ข้อเท็จจริง
ตามจริง
่
- ข้อมู ลทีถู กจ ัดรู ปการถอดความ
ใช้ในการสืบค้นความจริง
- ปราศจาก
่
่
เพือการแสดงหรื-อข้อมู ลทีถู กจดจาในรู ป
หรือในการคานวณ
และความค
้
การชีแจง
ของประสบการณ์
- ยังไม่ผ่านการวิเคราะห ์
- มีความเท
- นาไปวิเคราะห ์ - ผ่านกระบวนการคิด
่
ไม่เปลียนแ
และคานวณ
และเข้าใจ
ตามกาลเว
(Data)
18
่
เงือนไขคุณธรรม
้
• เสริมสร ้างพืนฐานจิ
ตใจ แก่
ทุกคนในชาติ
• ให้มค
ี ณ
ุ ธรรม
่
• “ซือสัตย ์สุจริต”
19
่
เงือนไขการดาเนิ น
ชีวต
ิ• อดทน มีความเพียร
• มีสติ
• ใช้ปัญญา
• มีความรอบคอบ
20
สาม
่
เงือนไข
่อนไขหลักวิชา
เงื
เงื่อนไขคุณธรรม
ความรู ้
เงื่อนไขการดาเนิ นชีวต
ิ
21
เศรษฐกิจพอเพียง
่
เพือให้
ส มดุล และพร อ
้ ม
ต่ อ ก า ร ร อ ง ร ั บ ก า ร
เปลี่ยนแปลงอย่ า งรวดเร็ว
้ า นวัต ถุ
และกว้า งขวางทังด้
สั ง ค ม สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม แ ล ะ
ผลที่
คาด
ว่าจะ
ได้ร ับ
22
ผลการปฏิบต
ั ิ
ตามแนวทาง “เศรษฐกิจ
พอเพีย่ ง”
(1) ชีวต
ิ – หน้าทีการงาน เกิด
“สมดุล”
(2) บุคคล – ครอบคร ัว –
องค ์การ – ชุมชน และ
ประเทศชาติ มีความเข้มแข็ง
23
ปร ัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
- ทางสายกลาง ความพอเพียง
พอประมา
ณ
มีเหตุผล
มี
ภู มค
ิ ม
ุ ้ กั
ชา
เงื่อนไขคุณธรรม เงื่อนไขหลักวิน
่
่ ตย ์-มี
(ใช้หลักวิชในตัวที
าวางแผน-ดี
(ซือสั
คุณธรรม)
ปฏิบต
ั )ิ
นาไป
สู ่
1. วัตถุ
2. สังคม
3.
่
สิงแวดล้
อม
4. วต
เงื่อนไขชี
ิ
(ขยัน-อดทน-สติวัฒนธรรม
ปั ญญา)
สมดุล/พร ้อมร ับต่อการ
24
ปร ัชญาของ
เศรษฐกิ
จ
พอเพี
ย
ง
เป็ นกลไกนาไปสู ่...
1. ระบบเศรษฐกิจและระบบ
สังคมฐานความรู ้
2. ระบบเศรษฐกิจแลระบบสังคม
คุณธรรม
3. ระบบเศรษฐกิจและระบบ
25
“เศรษฐกิจพอเพียง แปลว่า Sufficiency
Economy”
้ มใี น
...คาว่า Sufficiency Economy นี ไม่
ตาราเศรษฐกิจ
จะมีได้อย่างไร เพราะว่าเป็ นทฤษฎี
ใหม่
้ ไม่มใี นตารา
... Sufficiency Economy นัน
เพราะหมายความว่าเรามีความคิด
ใหม่
่ านผู เ้ ชียวชาญสนใจ
่
และโดยทีท่
ก็
หมายความว่า
26
พอมีพอกิน
้
“สมัยก่อนนี พอมี
พอกิน สมัย
นี ้ชก
ั จะไม่พอมีพอกิน จึงต้อง
่
มี นโ ย บ า ย ที จ ะ ท า เ ศ ร ษ ฐ กิ จ
่
่ จะให้
ทุ ก คนมี
พอเพีย ง เพือที
ความพอเพียงได้ ให้ พอเพียง
นี ้ ก็ ห มายความว่ า มี ก ิ น มี อ ยู ่
27
้ งความหมาย
ในหลวงทรงเน้นยาถึ
ของเศรษฐกิจ พอเพี ย ง ( sufficiency
่ นคาใหม่ของพระองค ์
economy) ซึงเป็
้ั
ท่านอีกครงในปี
พ.ศ. 2543
"ห ม า ย ค ว า ม ว่ า ป ร ะ ห ยัด แ ต่
้
ไม่ ใ ช่ข ีเหนี
ย ว ท าอะไรด้ว ยความ
อะลุม
้ อล่วยกัน ทาอะไรด้วยเหตุและ
ผล จะเป็ นเศรษฐกิจพอเพียง แล้ว
28
ฟุ่ มเฟื อย
่
ตระหนี
เหนี ยว
สุดโต่งมาก
ประหยัด
ขี ้
ปานกลาง
29
การประหยัด
่
่
“การประหยัด เป็ นสิงที
่
พึง ประสงค ์อย่ า งยิงในทุ
ก
่
แห่ง และในกาลทุกเมือ
่
ขอให้ค านึ งถึ ง ผลได้ท ี
เ กิ ด ขึ ้ น จ า ก
การ
30
อี ก ทั้ ง ยั ง มี พ ร ะ ร า ช ด า ร ัส ถึ ง
แนวทาง 'อยู ่อย่างประหยัด' ด้วย
"การใช้จ่ า ยโดยประหยัด นั้ น จะ
เป็ นหลัก ประกันความสมบู รณ์พู น
สุ ข ของผู ป
้ ระหยัด เอง
และ
ครอบคร วั ช่ว ยป้ องกัน ความขาด
แคลนในวันข้างหน้า การประหยัด
ดังกล่าวนี ้ จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู ้
้ ยังจะเป็ นประโยชน์
ประหยัดเท่านัน
31
ฟุ่ มเฟื อย
่
ตระหนี
ประหยัด
้
ขีเหนี
ยว
• เป็ นประโยชน์ตอ
่ ผู ป
้ ระหยัด
• เป็ นประโยชน์ตอ
่ ประเทศชาติ
32
่
"การกู ้เ งิ น ที น ามาใช้
่
่
้
ในสิงทีไม่ ท ารายได้นั น
้
ไม่ด ี อ น
ั นี เป็ นข้อ สาคญ
ั
เพราะว่าถ้ากู เ้ งิ นแล้วทา
ให้มร
ี ายได้ ก็เท่ากับจะ
้
้
ใช้ห นี ได้ ไม่ ต อ
้ งติด หนี
33
ก. กู เ้ งิน
ลงทุน
มีรายได้
ใช้หนี ้
ข. กู เ้ งิน
้
ซือของไม่
จาเป็ น
้ ม
่
หนี เพิ
34
ในด้า นพู ด จาและความคิด ก็ตอ
้ ง
พอเพี ย งด้ว ย เพื่ อมิ ใ ห้เ กิ ด การ
ท ะ เ ล า ะ กั น ค ว า ม พ อ เ พี ย งใ น
ค ว า ม ห ม า ย นี ้ ก็ คื อ ค ว า ม
พอประมาณ และความมี เ หตุ ผ ล
นั่นเอง
"ความพอเพี ย งในความคิ ด ก็ ค ื อ
แสดงความคิด ของตัว ความเห็ น
ของตัว และปล่อยให้อก
ี คนพู ดบ้าง
35
ทรงเน้ น ย ้าว่ า พอเพีย ง คือ ไม่ โ ลภ
มาก ไม่เบียดเบียน
"... คนเราถ้าพอในความต้องการ ก็
่ ค วามโลภน้ อ ย
มีค วามโลภน้ อ ย เมือมี
่ อย ถ้าทุกประเทศ
ก็เบียดเบียนคนอืนน้
มีความคิด - อน
ั นี ้ไม่ใช่เศรษฐกิจ - มี
ค ว า ม คิ ด ว่ า ท า อ ะ ไ ร ต้ อ ง พ อ เ พี ย ง
หมายความว่าพอประมาณ ไม่สุดโต่ง
ไม่ โ ลภอย่ า งมาก คนเราก็ อ ยู ่ เ ป็ นสุ ข
36
พอประมาณ + มี
เหตุผล
(1) พอเพียงใน
ความคิด
(2) พอเพียงในการ
37
พระราชดาร ัสเนื่ องในวโรกาสคล้ายวัน
เฉลิมพระชนมพรรษา
4 ธ ันวาคม 2548 ณ ศาลาดุสด
ิ าลัย
สวนจิตรลดา
“ . . . พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ
้
เจ้าอยู ่หวั
ทรงเน้นยาว่า คา
ที่ส าคัญ ที่สุ ด คือ ค าว่ า “พอ”
่
ต้ อ ง ส ร ้ า ง ค ว า ม พ อ ที
สมเหตุสมผลให้กบ
ั ตัวเองให้ได้
38
ความสุข
่ องอาศ ัย “วัตถุ = อามิส”
1. สุขทีต้
มาบารุงบาเรอความต้องการของ
้ กาย ใจ (สา
ตา หู จมู ก ลิน
มิสสุข)
่ มข
“เกิดความอยากทีไม่
ี อบเขต”
่ าในจิ
่
2. สุขจากความดืมด
ตใจที่
สะอาด / สว่าง / สงบ ไม่ตอ
้ ง
39
ผลกระทบจากกระแส
โลกาภิ
ว
ฒ
ั
น์
“วิถ ีท างด าเนิ นของบ้า นเมื อ งและ
ข อ ง ป ร ะ ช า ช นโ ด ย ทั่ วไ ป มี ค ว า ม
เปลี่ยนแปลงมาตลอด เนื่ องมาจาก
ค ว า ม วิ ป ริ ต ผั น แ ป ร ข อ ง วิ ถี แ ห่ ง
่
เศรษฐกิจ สัง คม การเมือ ง และอืนๆ
่
่
ของโลก ยากยิ่งทีเราจะหลี
ก เลียงให้
พ้ น ไ ด้ จึ ง ต้ อ ง ร ะ มั ด ร ะ วั ง
ป ร ะ คั บ ป ร ะ ค อ ง ตั ว เ ร า ม า ก ขึ ้ น
40
ธรรมชาติของการ
่
เปลียนแปลง
่ กอย่างมีการ
(1) ทุกสิงทุ
่
เปลียนแปลง
่
(2) การเปลียนแปลงเกิ
ดจากเหตุปั จจัย
•เหตุปัจจัยภายนอก / เหตุ
ปั จจัยภายใน
41
ธรรมชาติของการ
่
เปลี
ยนแปลง
่
(3) การเปลียนแปลงมี
ลก
ั ษณะเป็ น
วงจร
้ั
้
• มีทงขาขึ
นและขาลง
้ – ต้องไม่ประมาท
• ขาขึน
• ขาลง – ต้องรีบยับยัง้
่
(4) ผลกระทบจากการเปลียนแปลงมี
ทัง้
42
After the cold war (1990 )
• Peter Drucker : the “Age of Discontinuity”
(it will not be the same as before)
• Joseph Schumpeter : the world will feel
the forces of creative destruction.
• Rowan Gibson : the journey ahead is
going to be like an off-road experience
bumpy, uncertain and full of surprises.
(“Asean Heart Journal” Jan-Jun 2005, p.57)
43
Megatrends – Megachanges
since 1990
1. New world political order
2. New world security order
3. International trade and finance
4. Communication – transportation
and telecommunication
44
Megatrends – Megachanges
since 1990
5. Knowledge an technology
6. Cultural and language dominance
7. Terrorism
8. New viral diseases
45
สังคมไทยแต่เดิม
• เสาหลัก (pillars)
(1) สถาบันพระมหากษัตริย ์
(2) สถาบันพระศาสนา
(3) สถาบันประชาชน
(ครอบคร ัว-ชุมชน)
46
หลัง ค.ศ.
1990 โลกาภิวฒั น์
ทุนนิ ยมเสรี
ความรู ้
ความเป็ นไทย
และเทคโนโลยี วัฒนธรรมไทย
อาชญากรรม
ข้ามชาติ
ตลาดเสรี
เทคโนโลยีสารส
่
และสือมวลชน
การเมือง
วัฒนธรรม ระหว่างประเทศ
่
ต่างถิน
47
สังคมวิกฤติ
• สังคมสุดขัว้ – แยกขัว้
• วัตถุนิยม – บริโภคนิ ยม –
ประชานิ ยม
• ฉ้อราษฎร ์บังหลวง
• เล่นการพนัน – อบายมุขเต็ม
เมือง
48
่
คุณธรรม คือ สิง
กากับจิตใจ
และเกิดผลเป็ น
พฤติกรรม
49
่ สงิ่
• คนมีคณ
ุ ธรรม คือ คนทีมี
่ ความดี
กากับจิตใจในเรือง
ความจริง และความงาม
่ สงิ่
• คนไร ้คุณธรรม คือ คนทีมี
่ ความชวั ่
กากับจิตใจในเรือง
ความเท็จ และความอัปลักษณ์
50
่
้
สังคมมีเครืองชี
ในคุ
ณธรรม ดังนี ้
1. ศาสนาธรรม - ศีลธรรม
2. จริยธรรม
่
จริยธรรมทัวไป
จริยธรรมเฉพาะกลุ่ม - เฉพาะ
วิชาชีพ
3. นิ ตธ
ิ รรม : กฎเกณฑ ์ทางกฎหมาย
4. หลักธรรมาภิบาล - บรรษัทภิบาล
5. เกณฑ ์ทางสังคม (ขนมธรรมเนี ยม
51
กระบวนการ
ยุตธ
ิ รรม
ศาสนา
ระบบการศึกษา
สังคมคุณธรรม
องค ์กร
ทุกประเภท
่
สือมวลชน
ครอบคร ัว
52
คุณธรรมกับความรู ้
1. มีความรู ้ แต่ไร ้
คุณธรรม
2. มีความรู ้ คู ่
คุณธรรม
3. มีคณ
ุ ธรรมนา
53
กระแสพระราชดาร ัสในการเสด็จ
ออกมหาสมาคม
ในงานพระราชพิธฉ
ี ลองสิรริ าช
สมบัตค
ิ รบ 60 ปี
่ ่งอนันต
ณ พระทีนั
สมาคม
วันศุกร ์ที่ 9 มิถุนายน
พ.ศ. 2549
54
้
่
นที่ตังของ
“...คุ ณ ธรรมซึงเป็
่ าให้
ความร ัก ความสามัคคี ทีท
คนไทยสามารถร่ ว มมื อ ร่ ว มใจ
ร ักษาและพัฒนาชาติบา้ นเมืองให้
เจริญรุง่ เรืองสืบต่อกันมาได้ตลอด
รอดฝั่ ง”
ประการแรก คือ การทีทุ ก คน
55
่
่ ละ
ประการทีสอง
คือ การทีแต่
ค น ต่ า ง ช่ ว ย เ ห ลื อ เ กื ้อ กู ล กัน
ประสานงาน ประสานประโยชน์
่ าสาเร็จผลทังแก่
้
กัน ให้ง านทีท
ตน แก่ผูอ
้ น
ื่ และแก่ประเทศชาติ
(เจริญสามัคคีธรรม)
56
่
่ กคน
ประการทีสาม
คือ การทีทุ
ประพฤติปฏิบต
ั ต
ิ นอยู ่ในความ
สุจริต ในกฎกติกา และใน
ระเบียบแบบแผนโดยเท่าเทียม
เสมอกัน
(เจริญสุจริตธรรม)
57
ประการที่สี่ คือ การที่ต่ า งคน
ต่ า งพยายามท าความคิด เห็ น
่
ของตนให้ถู ก ต้องเทียงตรง
และ
่
มันคงอยู
่ในเหตุในผล
่
(เจริญในความเทียงธรรม)
58
คุณธรรมพระราชทาน
4 ประการ
9 มิถน
ุ ายน 2549
1. เมตตาธรรม
2. สามัคคีธรรม
3. สุจริตธรรม
่
4. เทียงธรรม
59
3
0
พระบรมราโชวาท
ในพิธพ
ี ระราชทานธงประจารุน
่ ลู กเสือชาวบ้าน
จังหวัดเชียงใหม่
๒๔ กุมภาพันธ ์ ๒๕๒๒
“...ในจิตใจของคนไทยทุกคน มี
้
่
เชือของความดี ทีได้นาพวกเรา
้
่ นคง
่
ทังหลายมาอยู
่ ใ นฐานะทีมั
่
่ า วหน้ า ทีเจริ
ญ จนทุ ก วัน นี ้
ทีก้
ถ้า เราไม่ ม ี ค วามดี อ ยู ่ ใ นตัว ก็
60
การให้
“ข้าพเจ้าจึงปรารถนาอย่าง
ยิ่ ง ที่ จ ะ เ ห็ น ช า วไ ท ย มี
ความสุ ข ถ้ว นหน้ า กัน ด้ว ย
การให้ คือให้ค วามร กั ความ
เมตตากัน ให้น้ าใจไมตรีก น
ั
ให้อ ภัยไม่ ถ ือโทษโกรธเคือ ง
61
พระบรมราโชวาทในพิธ ี
พระราชทานปริญญาบัตร
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 25
กรกฎาคม 2506
้ รูจ้ ก
่
ทรงชีให้
ั ทาดีเพือความดี
ทา
์ ทรงอุ ป มา
ด้ว ยความบริสุ ท ธิใจ
เหมือนกับการปิ ดทองหลังพระ ดัง
ความตอนหนึ่ งว่า “คนโดยมากไม่
ชอบปิ ดทองหลังพระนัก เพราะนึ ก
ว่ า ไม่ ม ีใ ครเห็ น แต่ ถ า
้ ทุ ก คนพา
62
หลักการทรงงาน
ในพระบาทสมเด็จพระ
เจ้าอยู ่หวั
(“60 ปี ครองราชย ์ ประโยชน์สุข
ประชาราษฎร ์”
สานักงานคณะกรรมการพิเศษ
่
เพือประสานงานโครงการอ
ัน
เนื่ องมาจากพระราชดาริ, 2549)
63
1. ศึกษาข้อมู ลอย่าง
เป็
นระบบ
่
การทีจะพระราชทานโครงการ
ใดโครงการหนึ่ ง จะทรงศึก ษา
ข้อ มู ล ร า ย ล ะ เ อี ย ด อ ย่ า ง เ ป็ น
้
ระบบ ทังจากข้
อ มู ลเบื ้องต้น
จากเอกสาร แผนที่ สอบถาม
จากเจ้าหน้าที่ นักวิชาการ และ
ร า ษ ฎ ร ใ น พื ้ น ที่ ใ ห้ ไ ด้
64
2. ระเบิดจากข้างใน
หมายความว่ า ต้อ งสร า้ งความ
่
เข้ม แข็ งให้ค นในชุม ชนทีเราเข้
า
่
ไปพัฒนาให้มส
ี ภาพพร ้อมทีจะร
ับ
ก า ร พัฒ น า เ สี ย ก่ อ น มิ ใ ช่ ก า ร
นาเอาความเจริญหรือบุคคลจาก
สัง คมภายนอกเข้า ไปหาชุ ม ชน
ห มู ่ บ้ า น ที่ ยังไ ม่ ทันไ ด้ ม ี โ อ ก า ส
65
่
3. แก้ปัญหาทีจุดเล็ก
ทรงมองปั ญหาในภาพรวม
(macro) ก่อนเสมอ แต่การ
่
แก้ปัญหาจะเริมจากจุ
ดเล็กๆ
(micro) คือ การแก้ไขปั ญหา
่
เฉพาะหน้าทีคนมั
กจะมองข้าม
“...ถ้าปวดหัวคิดอะไรไม่ออก...
66
้
4. ทาตามลาดับขัน
่ น จากสิ่งที่จ าเป็ นที่สุ ด
ทรงเริมต้
ข อ ง ป ร ะ ช า ช น ก่ อ น ไ ด้ แ ก่
ส า ธ า ร ณ สุ ข ต่ อไ ป จึ ง เ ป็ น เ รื่ อ ง
้
้
สาธารณู ปโภค ขันพื
นฐาน
และ
่ าเป็ นสาหร ับประกอบอาชีพ
สิงจ
ก า ร พั ฒ น า ป ร ะ เ ท ศ ต้ อ ง ส ร ้า ง
พื ้ น ฐ า น คื อ ค ว า ม พ อ มี พ อ กิ น
67
5. ภู มส
ิ งั คม
การพัฒนาใดๆ ต้องคานึ งถึง
้
(1) ภู มป
ิ ระเทศของบริเวณนัน
(ดิน, น้ า, ป่ า, เขา
ฯลฯ)
(2) สังคมวิทยา (นิ สย
ั ใจคอของ
ผู ค
้ น ตลอดจน
68
6. องค ์รวม
ทรงมีวธ
ิ ค
ี ด
ิ อย่างองค ์รวม
(holistic) หรือมองอย่างครบ
วงจร
้
ทรงมองเหตุการณ์ทเกิ
ี่ ดขึน
และแนวทางแก้ไขอย่าง
่
เชือมโยง
69
7. ไม่ตด
ิ ตารา
การพัฒนาตามแนวพระราชดาริ
่ โลม
มีลก
ั ษณะของการพัฒนาทีอนุ
และรอมชอมกับ สภาพธรรมชาติ
่
อ ม และสภาพของสัง คม
สิงแวดล้
จิตวิทยาแห่งชุมชน
“ ไ ม่ ติ ด ต า ร า ” ไ ม่ ผู ก มั ด กั บ
70
8. ประหยัด เรียบง่ าย ได้
ประโยชน์
ส
ู
ง
สุ
ด
ทรงใช้ห ลักในการแก้ไ ขปั ญหา
ด้ว ยความเรีย บง่ ายและประหยัด
ราษฎรสามารถทาได้เอง หาได้ใน
่ และประยุกต ์ใช้สงที
่ อยู ่ใน
ท้องถิน
ิ่ มี
ภู ม ิภ าพนั้นๆ มาแก้ไ ขปั ญ หา โดย
ไม่ตอ
้ งลงทุนสู ง หรือใช้เทคโนโลยีท ี่
ไม่ยุ่งยากนัก
71
9. ทาให้ง่าย –
simplicity
ทรงคิด ค้น ดัด แปลง ปร บ
ั ปรุ ง
และแก้ไขงานการพัฒนาประเทศ
ตามแนวพระราชดาริโดยง่ าย ไม่
ยุ่งยากซ ับซ ้อน
ท ร งโ ป ร ด ที่ จ ะ ท า สิ่ ง ย า กใ ห้
ก ล า ย เ ป็ น ง่ า ย ท า สิ่ ง ที่
สลับซ ับซ ้อนให้เข้าใจง่ าย
72
10. การมีส่วนร่วม
ทรงเป็ นนักประชาธิปไตย เปิ ดโอกาสให้
สาธารณชน ประชาชน หรือ เจ้า หน้ า ที่
ทุกระดบ
ั ได้มาร่วมกันแสดงความคิดเห็ น
่
่
่ องคานึ งถึงความคิดเห็น
เกียวก
บ
ั เรืองที
ต้
ของประชาชน หรือ ความต้อ งการของ
สาธารณชน
“...ต้องหัดทาใจให้กว้างขวางหนักแน่ น
่
รู จ้ ก
ั ร ับฟั งความคิดเห็น แม้กระทังความ
วิ พ ากษ ว
์ ิ จ ารณ์ จ ากผู ้อ ื่ นอย่ า งฉลาด
73
11. ประโยชน์
ส่
ว
นรวม
“...ใครต่ อใครก็ ม าบอกว่ า ขอให้
คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมอาจมานึ กใน
่
ใจว่า ให้ๆ อยู ่เรือยแล้
วส่ว นตัวจะได้
อะไร
ขอให้ค ิด ว่ า คนที่ให้เ พื่อส่ ว นรวม
นั้ น มิ ไ ด้ใ ห้แ ต่ ส่ ว นรวมอย่ า งเดีย ว
เป็ นการให้เ พื่ อตัว เองสามารถที่ มี
่
ส่วนรวมทีจะอาศ
ัยได้...” (มข. 2514)
74
่
12. บริการทีจุดเดียว
ท ร งใ ห้ “ ศู น ย ศ
์ ึ ก ษ า ก า ร พัฒ น า อ ัน
เนื่ องมาจากพระราชดาริ” เป็ นต้นแบบใน
่ ดเดียว เพือประโยชน์
่
การบริหารรวมทีจุ
ต่ อ ป ร ะ ช า ช น ที่ จ ะ ม า ใ ช้ บ ริ ก า ร จ ะ
ป ร ะ ห ยั ด เ ว ล า แ ล ะ ค่ า ใ ช้ จ่ า ย โ ด ย มี
ห น่ ว ย ง า น ร า ช ก า ร ต่ า ง ๆ ม า ร่ ว ม
ดาเนิ นการและให้บริการประชาชน ณ ที่
แห่งเดียว
75
13. ใช้ธรรมชาติชว
่ ย
ธรรมชาติ
ก า ร เ ข้ า ใ จ ถึ ง ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ
ต้อ งการให้ป ระชาชนใกล้ช ิด กับ
ธรรมชาติ ทรงมองอย่ า งละเอีย ด
ถึง ปั ญ หาของธรรมชาติ หากเรา
ต้องการแก้ไขธรรมชาติ จะต้องใช้
ธรรมชาติเข้าช่วยเหลือ เช่น การ
แก้ไ ขปั ญหาป่ าเสื่ อมโทรมโดย
76
14. ใช้อธรรมปราบ
อธรรม
่
ทรงน าความจริงในเรืองความ
เ ป็ นไ ป แ ห่ ง ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ
กฎเกณฑ ข
์ องธรรมชาติม าเป็ น
่ าคัญ
หลัก การ และแนวปฏิบ ต
ั ท
ิ ีส
ใ น ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า แ ล ะ ป ร บ
ั ป รุ ง
่
่ ปกติเข้าสู ่
เปลียนแปลงสภาวะที
ไม่
่
77
15. ปลู กป่ าในใจคน
“...เจ้า หน้ า ทีป่่ าไม้ค วรจะปลู ก
ต้นไม้ลงในใจคนเสียก่อน แล้วคน
เหล่านั้นก็จะพากันปลู กต้นไม้ลง
บนแผ่ น ดิน และร ก
ั ษาต้นไม้ด ว
้ ย
ตนเอง...”
่
้
78
16. ขาดทุนคือกาไร
“...ขาดทุนคือกาไร Our loss is our
gain…การเสี ย คื อ การได้ ประเทศก็ จ ะ
ก้า วหน้ า และการที่คนจะอยู ่ ด ีม ีสุ ข นั้ น
่ นมู ลค่าเงินไม่ได้...”
เป็ นการนับทีเป็
ห ลั ก ก า ร คื อ “ ก า รใ ห้ ” แ ล ะ “ ก า ร
เสี ย สละ” เป็ นการกระท าอ น
ั มี ผ ลเป็ น
กาไรคือ ความอยู ่ดม
ี ส
ี ุขของราษฎร
่
่ ดที่
“...ถ้าเราทาอะไรทีเราเสี
ย แต่ในทีสุ
เราเสีย นั้ นเป็ นการได้ท างอ้อ ม ตรงก บ
ั
79
่
17. การพึงตนเอง
การพัฒนาตามแนว
่
พระราชดาริเพือแก้
ไขปั ญหาใน
้
เบืองต้
นด้วยการแก้ไขปั ญหา
่
เฉพาะหน้า เพือให้
เขาแข็งแรง
่
พอทีจะด
ารงชีวต
ิ ได้ตอ
่ ไป
้ อไปก็คอ
แล้วขันต่
ื การพัฒนาให้
เขาสามารถอยู ่ในสังคมได้ตาม
80
18. พออยู ่พอกิน
ส าหร บ
ั ประชาชนที่ตกอยู ่ ใ น
้ ได้
วงจรแห่งความทุกข ์เข็ญนัน
พระราชทานความช่วยเหลือให้
้ “พออยู ่
เขาสามารถอยู ่ ใ นขัน
พอกิน ” เสีย ก่ อ น แล้ว จึง ค่ อ ย
ขยับ ขยายให้ม ีข ีด สมรรถนะที่
ก้าวหน้าต่อไป
“... ถ้า โค รง การดี ในไม่ ช ้า
81
19. เศรษฐกิจพอเพียง
เป็ นแนวทางการด าเนิ น ชีว ิต
เพื่ อสร า้ งความเข้ม แข็ ง หรือ
ภู มิ คุ ้ ม กั น ทุ ก ด้ า น ซึ่ ง จ ะ
สามารถทาให้อยู ่ได้อย่างสมดุล
่
ในโลกแห่งการเปลียนแปลง
ปร ัชญานี ้ได้มก
ี ารประยุกต ์ใช้
้
82
่
20. ความซือสัตย ์ สุจริต
จริ
ง
ใจต่
อ
ก
ัน
่
์
“...ผู ท
้ มี
ี ค วามสุ จ ริต และบริสุ ท ธิ
ใจ แม้จ ะมีค วามรู น
้ ้ อ ยก็ ย่ อ มท า
ป ร ะ โ ย ช น์ ใ ห้ แ ก่ ส่ ว น ร ว มไ ด้
มากกว่า ผู ท
้ มี
ี่ ค วามรู ม
้ ากแต่ไ ม่ ม ี
์
ความสุ จ ริต ไม่ มค
ี วามบริสุ ท ธิใจ
...”
83
21. ทางานอย่างมี
ความสุข
พระบาทสมเด็ จ อยู ่ ห ว
ั ทรงพระ
เกษมส าราญและทรงมีค วามสุ ข
่
ทุกคราทีจะช่
วยเหลือประชาชน
“...ทางานกับฉัน ฉันไม่มอ
ี ะไรจะ
ให้นอกจากการมีความสุขร่วมกัน
่
84
22. ความเพียร : พระ
มหาชนก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู ่หวั ทรง
ริ เ ริ่ ม ท า โ ค ร ง ก า ร ต่ า ง ๆ ใ น
ระยะแรกที่ไม่ ม ีค วามพร อ
้ มมาก
นัก และทรงใช้พระราชทร ัพย ์ส่ว น
้ั น
้ แต่ พ ระองค ก
พระองค ท
์ งสิ
์ ็ ม ิไ ด้
่
ท้อ พระราชหฤทัย มุ่ ง มันพั
ฒ นา
85
23. รู ้-ร ัก-สามัคคี
่
่
้น
รู ้ :
การทีเราจะลงมื
อทาสิงใดนั
้
จะต้องรู ้เสียก่อน รู ้ถึงปั จจัยทังหมด
รู ้
ถึงปั ญหาและรู ้ถึงวิธแ
ี ก้ปัญหา
่
ร ัก : เมือเรารู
้ครบกระบวนความแล้ว
จะต้อ งเห็ น คุ ณ ค่ า เกิด ศร ท
ั ธา เกิด
ค วา ม ร ก
ั ที่ จ ะ เ ข้า ไ ป ลง มื อ ป ฏิ บ ัต ิ
้
แก้ปัญหานันๆ
่ งขันลงมื
้
สามัคคี : เมือถึ
อปฏิบต
ั ต
ิ อ
้ ง
86