Transcript ภาพนิ่ง 1
ปร ัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ้ งแนวการดารงอยู ่ เศรษฐกิจพอเพียง เป็ นปร ัชญาชีถึ ้ และปฏิบต ั ต ิ นของประชาชนในทุกระดับ ตังแต่ ระดับ ้ ครอบคร ัว ระดบ ั ชุมชน จนถึงระดบ ั ร ัฐ ทังในการพั ฒนาและ บริหารประเทศให้ดาเนิ นไปใน ทางสายกลาง โดยเฉพาะการ ่ พัฒนาเศรษฐกิจเพือให้ กา้ วทันต่อโลกยุคโลกาภิวต ั น์ ความ พอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึง ความจ าเป็ นที่จะต้อ งมีร ะบบภู ม ิคุ ม ้ กน ั ในต วั ที่ดีพอสมควร ต่ อ การมี ผ ลกระทบใดๆ อ น ั เกิด จากการเปลี่ยนแปลงทัง้ ้ ้ จะต้อ งอาศ ย ภายนอกและภายใน ทังนี ั ความรอบรู ้ ความ ่ รอบคอบ และความระมัดระวงั อย่างยิงในการน าวิชาการต่างๆ ้ มาใช้ใ นการวางแผนและการด าเนิ น การทุ ก ขันตอน และ ้ ขณะเดียวกน ั จะต้องเสริมสรา้ งพืนฐานจิ ตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้ า ที่ ของร ัฐ นักทฤษฎี และนักธุ รกิจในทุ ก 1 ่ ต ย ์สุ จ ริต และให้ ระด บ ั ให้ม ีสานึ กในคุ ณธรรมความซือสั มี ปร ัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง เ ป็ น ้ ง แนวการด ารงอยู ่ ปร ช ั ญาชีถึ และปฏิบต ั ต ิ นของประชาชนใน ้ั ทุกระดบ ั ตงแต่ ระดบ ั ครอบคร ัว ระดบ ั ชุมชน จนถึงระดบ ั ร ัฐ ทัง้ ใ น ก า ร พั ฒ น า แ ล ะ บ ริ ห า ร 2 เป้ าประสงค ์ • เป็ นแนวทางการปฏิบต ั ต ิ น • ประชาชนทุกระดับ • “ทางสายกลาง” • ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวต ั น์ 3 ปร ัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ความพอเพีย ง หมายถึง ความพอประมาณ ความมี เหตุผล รวมถึงความจาเป็ น ่ ทีจะต้ องมีระบบภู มค ิ ุม ้ กน ั ใน ่ พอสมควร ต่อการมี ตัวทีดี หลักคว พอเพีย 4 พอประมาณ • พอดีพอเหมาะต่อความ จาเป็ น • พอประมาณตามอ ัตภาพ • ไม่มากเกิน • ไม่น้อยเกิน 5 ความมีเหตุผล • ตามหลักวิชา • ตามหลักกฎหมาย • ตามหลักศีลธรรม • ตามกฎเกณฑ ์สังคม (รวม ประเพณี -วัฒนธรรม) 6 ระบบภู มค ิ ม ุ ้ กันตัว ่ • เหตุปัจจัย การเปลียนแปลง เกิดผลกระทบ (1) ด้านวัตถุ (2) ด้าน สังคม (3) ด้าน 7 ระบบภู มค ิ ม ุ ้ กันด้าน วั ต ถุ ภู มค ิ ม ุ ้ กันเข้มแข็ง • มีเงินออม • มีการประกัน ่ ความเสียง ในอนาคต ่ • มีการลงทุนเพือ พัฒนา ภู มค ิ ม ุ ้ กันบกพร่อง ้ กอ • มีหนี ไม่ ่ รายได้ • ขาดการประกัน ่ ความเสียงใน อนาคต • ขาดการลงทุน ่ ฒนา เพือพั 8 ภู มค ิ ม ุ ้ กันในตัว (reserve ; safety net) 1. การออม (saving) 2. ลดหนี ้ / ลบหนี ้ (reduce or wipe out debt) 3. กองทุนป้ องกันวิกฤติ (stabilization fund) ่ ยงน้ ่ 4. การลงทุนทีเสี อย (low-risk investment) 9 ระบบภู มค ิ ม ุ ้ กันด้าน สั ง คม ิ ม ุ ้ กันบกพร่อง ภู มค ิ ม ุ ้ กันเข้มแข็ง ภู มค • รู ้-ร ัก-สามัคคี • ร่วมมือร่วมใจกัน • มีคุณธรรม-ใฝ่ ศาสนาธรรม • “สังคมสีขาว” • “อยู ่เย็นเป็ นสุข” • ระแวง-ทะเลาะ เบาะแว้ง • ต่างคนต่างอยู ่ • ทุศล ี -ห่างไกลศา สนธรรม ่ • เยือแห่ งอบายมุข 10 วิธส ี ร ้างภู มค ิ ม ุ ้ กันทาง ธรรมแก่ ล ู กหลาน ภู มค ิ ศี ม ุ้ ล ก ันทางศี ลธรรม คุม ้ กันต่อสิง่ ่ ั ้ายทางศีลธรรม อ ันได้แก่ โลภะ ชวร โทสะ และโมหะ ่ 1. ฐานเครือญาติทมั ี่ นคง 2. คาสอนของครอบคร ัว / คุณธรรม ประจาตระกู ล 3. พาลู กเข้าวัด / ศึกษาและปฏิบต ั ิ ธรรม 4. สอนลู กให้ออมและทาบุญ 11 ระบบภู มค ิ ม ุ ้ กันด้าน ่ สิ งแวดล้ อ ม ภู มค ิ ม ุ ้ กันเข้มแข็ง ภู มค ิ ม ุ ้ กันบกพร่อง • มีความรู ้ – สานึ ก และหวงแหนใน ่ สิงแวดล้ อม • มีนโบบายด้าน ่ สิงแวดล้ อมจาก ฝ่ายบริหาร • สร ้าง “สุขนิ สย ั ” • ขาดความรู ้ – ขาดสานึ ก • ขาดนโยบาย – ผู บ ้ ริหารไม่สนใจ • เต็มไปด้วย “ทุกขนิ สย ั ” • สกปรก – ขาด 12 ระบบภู มค ิ ม ุ ้ กันด้าน วัฒนธรรม ภู มค ิ ม ุ ้ กัน ภู มค ิ ม ุ ้ กัน เข้มแข็ง บกพร่อง ่ • มันคงใน • ย่อหย่อน – ไม่ วัฒนธรรมไทย ใส่ใจ – รู ้สึก และเชิดชู เป็ นปมด้อยใน วัฒนธรรม วัฒนธรรมไทย ่ ท้องถิน – วัฒนธรรม 13 สามองค ์ประกอบ ความ พอเพียง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล มีภูมค ิ ม ุ ้ กันในตัว 4 ด้าน 14 กลไกในการสร ้างระบบ ภู มค ิ ม ุ ้ กัน แผนมิต ิ ้ ต ัวชีวัด เป้ าหมาย ปฏิบต ั -ิ ประเมิน 1. ด้านวัตถุ 2. ด้านสังคม 3. ด้าน ่ สิงแวดล้ อม 4. ด้าน 15 เศรษฐกิจพอเพียง ้ ้ จะตอ้ งอาศัยความ 1. เงื่อนไขหลักวิชา ทังนี รอบรู ้ ความรอบคอบ และความระมัด ระวัง ่ อย่างยิงในการน าวิชาการต่างๆ มาใช ้ในการ ้ วางแผนและการดาเนิ นการทุกขันตอน และ 2. เงื่อนไขคุณธรรม ขณะเดียวกันจะต ้อง ้ เสริมสร ้างพืนฐานจิ ตใจของคนในชาติ ่ ัฐ นักทฤษฎี และ โดยเฉพาะเจ ้าหน้าทีของร นักธุรกิจในทุกระดับ ให ้มีสานึ กในคุณธรรม ่ ตย ์สุจริต และ ความซือสั 3. เงื่อนไขการดาเนิ นชีวต ิ ให ้มีความรอบรู ้ ่ ทีเหมาะสม ดาเนิ นชีวต ิ ด ้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ สาม เงื่อนไ ข 16 ่ เงือนไขหลักวิชาความรู ้ • นาหลักวิชาและความรู ้ เทคโนโลยีทเหมาะสมมาใช้ ี่ ้ ้ ้ • ทังในขั นวางแผนและขั น ปฏิบต ั งิ าน • ด้วยความรอบรู ้ 17 การจัดการความรู ้ใน เศรษฐกิจพอเพียง ข้อมู ล สารสนเทศ ความรู ้ (Information) (knowledge) ปั ญญา (wisdom) ่ ความรู ้ที ถ ่ าน - ข่าวสาร - สารสนเทศทีผ่ - ข้อเท็จจริง ตามจริง ่ - ข้อมู ลทีถู กจ ัดรู ปการถอดความ ใช้ในการสืบค้นความจริง - ปราศจาก ่ ่ เพือการแสดงหรื-อข้อมู ลทีถู กจดจาในรู ป หรือในการคานวณ และความค ้ การชีแจง ของประสบการณ์ - ยังไม่ผ่านการวิเคราะห ์ - มีความเท - นาไปวิเคราะห ์ - ผ่านกระบวนการคิด ่ ไม่เปลียนแ และคานวณ และเข้าใจ ตามกาลเว (Data) 18 ่ เงือนไขคุณธรรม ้ • เสริมสร ้างพืนฐานจิ ตใจ แก่ ทุกคนในชาติ • ให้มค ี ณ ุ ธรรม ่ • “ซือสัตย ์สุจริต” 19 ่ เงือนไขการดาเนิ น ชีวต ิ• อดทน มีความเพียร • มีสติ • ใช้ปัญญา • มีความรอบคอบ 20 สาม ่ เงือนไข ่อนไขหลักวิชา เงื เงื่อนไขคุณธรรม ความรู ้ เงื่อนไขการดาเนิ นชีวต ิ 21 เศรษฐกิจพอเพียง ่ เพือให้ ส มดุล และพร อ ้ ม ต่ อ ก า ร ร อ ง ร ั บ ก า ร เปลี่ยนแปลงอย่ า งรวดเร็ว ้ า นวัต ถุ และกว้า งขวางทังด้ สั ง ค ม สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม แ ล ะ ผลที่ คาด ว่าจะ ได้ร ับ 22 ผลการปฏิบต ั ิ ตามแนวทาง “เศรษฐกิจ พอเพีย่ ง” (1) ชีวต ิ – หน้าทีการงาน เกิด “สมดุล” (2) บุคคล – ครอบคร ัว – องค ์การ – ชุมชน และ ประเทศชาติ มีความเข้มแข็ง 23 ปร ัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง - ทางสายกลาง ความพอเพียง พอประมา ณ มีเหตุผล มี ภู มค ิ ม ุ ้ กั ชา เงื่อนไขคุณธรรม เงื่อนไขหลักวิน ่ ่ ตย ์-มี (ใช้หลักวิชในตัวที าวางแผน-ดี (ซือสั คุณธรรม) ปฏิบต ั )ิ นาไป สู ่ 1. วัตถุ 2. สังคม 3. ่ สิงแวดล้ อม 4. วต เงื่อนไขชี ิ (ขยัน-อดทน-สติวัฒนธรรม ปั ญญา) สมดุล/พร ้อมร ับต่อการ 24 ปร ัชญาของ เศรษฐกิ จ พอเพี ย ง เป็ นกลไกนาไปสู ่... 1. ระบบเศรษฐกิจและระบบ สังคมฐานความรู ้ 2. ระบบเศรษฐกิจแลระบบสังคม คุณธรรม 3. ระบบเศรษฐกิจและระบบ 25 “เศรษฐกิจพอเพียง แปลว่า Sufficiency Economy” ้ มใี น ...คาว่า Sufficiency Economy นี ไม่ ตาราเศรษฐกิจ จะมีได้อย่างไร เพราะว่าเป็ นทฤษฎี ใหม่ ้ ไม่มใี นตารา ... Sufficiency Economy นัน เพราะหมายความว่าเรามีความคิด ใหม่ ่ านผู เ้ ชียวชาญสนใจ ่ และโดยทีท่ ก็ หมายความว่า 26 พอมีพอกิน ้ “สมัยก่อนนี พอมี พอกิน สมัย นี ้ชก ั จะไม่พอมีพอกิน จึงต้อง ่ มี นโ ย บ า ย ที จ ะ ท า เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ่ ่ จะให้ ทุ ก คนมี พอเพีย ง เพือที ความพอเพียงได้ ให้ พอเพียง นี ้ ก็ ห มายความว่ า มี ก ิ น มี อ ยู ่ 27 ้ งความหมาย ในหลวงทรงเน้นยาถึ ของเศรษฐกิจ พอเพี ย ง ( sufficiency ่ นคาใหม่ของพระองค ์ economy) ซึงเป็ ้ั ท่านอีกครงในปี พ.ศ. 2543 "ห ม า ย ค ว า ม ว่ า ป ร ะ ห ยัด แ ต่ ้ ไม่ ใ ช่ข ีเหนี ย ว ท าอะไรด้ว ยความ อะลุม ้ อล่วยกัน ทาอะไรด้วยเหตุและ ผล จะเป็ นเศรษฐกิจพอเพียง แล้ว 28 ฟุ่ มเฟื อย ่ ตระหนี เหนี ยว สุดโต่งมาก ประหยัด ขี ้ ปานกลาง 29 การประหยัด ่ ่ “การประหยัด เป็ นสิงที ่ พึง ประสงค ์อย่ า งยิงในทุ ก ่ แห่ง และในกาลทุกเมือ ่ ขอให้ค านึ งถึ ง ผลได้ท ี เ กิ ด ขึ ้ น จ า ก การ 30 อี ก ทั้ ง ยั ง มี พ ร ะ ร า ช ด า ร ัส ถึ ง แนวทาง 'อยู ่อย่างประหยัด' ด้วย "การใช้จ่ า ยโดยประหยัด นั้ น จะ เป็ นหลัก ประกันความสมบู รณ์พู น สุ ข ของผู ป ้ ระหยัด เอง และ ครอบคร วั ช่ว ยป้ องกัน ความขาด แคลนในวันข้างหน้า การประหยัด ดังกล่าวนี ้ จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู ้ ้ ยังจะเป็ นประโยชน์ ประหยัดเท่านัน 31 ฟุ่ มเฟื อย ่ ตระหนี ประหยัด ้ ขีเหนี ยว • เป็ นประโยชน์ตอ ่ ผู ป ้ ระหยัด • เป็ นประโยชน์ตอ ่ ประเทศชาติ 32 ่ "การกู ้เ งิ น ที น ามาใช้ ่ ่ ้ ในสิงทีไม่ ท ารายได้นั น ้ ไม่ด ี อ น ั นี เป็ นข้อ สาคญ ั เพราะว่าถ้ากู เ้ งิ นแล้วทา ให้มร ี ายได้ ก็เท่ากับจะ ้ ้ ใช้ห นี ได้ ไม่ ต อ ้ งติด หนี 33 ก. กู เ้ งิน ลงทุน มีรายได้ ใช้หนี ้ ข. กู เ้ งิน ้ ซือของไม่ จาเป็ น ้ ม ่ หนี เพิ 34 ในด้า นพู ด จาและความคิด ก็ตอ ้ ง พอเพี ย งด้ว ย เพื่ อมิ ใ ห้เ กิ ด การ ท ะ เ ล า ะ กั น ค ว า ม พ อ เ พี ย งใ น ค ว า ม ห ม า ย นี ้ ก็ คื อ ค ว า ม พอประมาณ และความมี เ หตุ ผ ล นั่นเอง "ความพอเพี ย งในความคิ ด ก็ ค ื อ แสดงความคิด ของตัว ความเห็ น ของตัว และปล่อยให้อก ี คนพู ดบ้าง 35 ทรงเน้ น ย ้าว่ า พอเพีย ง คือ ไม่ โ ลภ มาก ไม่เบียดเบียน "... คนเราถ้าพอในความต้องการ ก็ ่ ค วามโลภน้ อ ย มีค วามโลภน้ อ ย เมือมี ่ อย ถ้าทุกประเทศ ก็เบียดเบียนคนอืนน้ มีความคิด - อน ั นี ้ไม่ใช่เศรษฐกิจ - มี ค ว า ม คิ ด ว่ า ท า อ ะ ไ ร ต้ อ ง พ อ เ พี ย ง หมายความว่าพอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่ โ ลภอย่ า งมาก คนเราก็ อ ยู ่ เ ป็ นสุ ข 36 พอประมาณ + มี เหตุผล (1) พอเพียงใน ความคิด (2) พอเพียงในการ 37 พระราชดาร ัสเนื่ องในวโรกาสคล้ายวัน เฉลิมพระชนมพรรษา 4 ธ ันวาคม 2548 ณ ศาลาดุสด ิ าลัย สวนจิตรลดา “ . . . พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ ้ เจ้าอยู ่หวั ทรงเน้นยาว่า คา ที่ส าคัญ ที่สุ ด คือ ค าว่ า “พอ” ่ ต้ อ ง ส ร ้ า ง ค ว า ม พ อ ที สมเหตุสมผลให้กบ ั ตัวเองให้ได้ 38 ความสุข ่ องอาศ ัย “วัตถุ = อามิส” 1. สุขทีต้ มาบารุงบาเรอความต้องการของ ้ กาย ใจ (สา ตา หู จมู ก ลิน มิสสุข) ่ มข “เกิดความอยากทีไม่ ี อบเขต” ่ าในจิ ่ 2. สุขจากความดืมด ตใจที่ สะอาด / สว่าง / สงบ ไม่ตอ ้ ง 39 ผลกระทบจากกระแส โลกาภิ ว ฒ ั น์ “วิถ ีท างด าเนิ นของบ้า นเมื อ งและ ข อ ง ป ร ะ ช า ช นโ ด ย ทั่ วไ ป มี ค ว า ม เปลี่ยนแปลงมาตลอด เนื่ องมาจาก ค ว า ม วิ ป ริ ต ผั น แ ป ร ข อ ง วิ ถี แ ห่ ง ่ เศรษฐกิจ สัง คม การเมือ ง และอืนๆ ่ ่ ของโลก ยากยิ่งทีเราจะหลี ก เลียงให้ พ้ น ไ ด้ จึ ง ต้ อ ง ร ะ มั ด ร ะ วั ง ป ร ะ คั บ ป ร ะ ค อ ง ตั ว เ ร า ม า ก ขึ ้ น 40 ธรรมชาติของการ ่ เปลียนแปลง ่ กอย่างมีการ (1) ทุกสิงทุ ่ เปลียนแปลง ่ (2) การเปลียนแปลงเกิ ดจากเหตุปั จจัย •เหตุปัจจัยภายนอก / เหตุ ปั จจัยภายใน 41 ธรรมชาติของการ ่ เปลี ยนแปลง ่ (3) การเปลียนแปลงมี ลก ั ษณะเป็ น วงจร ้ั ้ • มีทงขาขึ นและขาลง ้ – ต้องไม่ประมาท • ขาขึน • ขาลง – ต้องรีบยับยัง้ ่ (4) ผลกระทบจากการเปลียนแปลงมี ทัง้ 42 After the cold war (1990 ) • Peter Drucker : the “Age of Discontinuity” (it will not be the same as before) • Joseph Schumpeter : the world will feel the forces of creative destruction. • Rowan Gibson : the journey ahead is going to be like an off-road experience bumpy, uncertain and full of surprises. (“Asean Heart Journal” Jan-Jun 2005, p.57) 43 Megatrends – Megachanges since 1990 1. New world political order 2. New world security order 3. International trade and finance 4. Communication – transportation and telecommunication 44 Megatrends – Megachanges since 1990 5. Knowledge an technology 6. Cultural and language dominance 7. Terrorism 8. New viral diseases 45 สังคมไทยแต่เดิม • เสาหลัก (pillars) (1) สถาบันพระมหากษัตริย ์ (2) สถาบันพระศาสนา (3) สถาบันประชาชน (ครอบคร ัว-ชุมชน) 46 หลัง ค.ศ. 1990 โลกาภิวฒั น์ ทุนนิ ยมเสรี ความรู ้ ความเป็ นไทย และเทคโนโลยี วัฒนธรรมไทย อาชญากรรม ข้ามชาติ ตลาดเสรี เทคโนโลยีสารส ่ และสือมวลชน การเมือง วัฒนธรรม ระหว่างประเทศ ่ ต่างถิน 47 สังคมวิกฤติ • สังคมสุดขัว้ – แยกขัว้ • วัตถุนิยม – บริโภคนิ ยม – ประชานิ ยม • ฉ้อราษฎร ์บังหลวง • เล่นการพนัน – อบายมุขเต็ม เมือง 48 ่ คุณธรรม คือ สิง กากับจิตใจ และเกิดผลเป็ น พฤติกรรม 49 ่ สงิ่ • คนมีคณ ุ ธรรม คือ คนทีมี ่ ความดี กากับจิตใจในเรือง ความจริง และความงาม ่ สงิ่ • คนไร ้คุณธรรม คือ คนทีมี ่ ความชวั ่ กากับจิตใจในเรือง ความเท็จ และความอัปลักษณ์ 50 ่ ้ สังคมมีเครืองชี ในคุ ณธรรม ดังนี ้ 1. ศาสนาธรรม - ศีลธรรม 2. จริยธรรม ่ จริยธรรมทัวไป จริยธรรมเฉพาะกลุ่ม - เฉพาะ วิชาชีพ 3. นิ ตธ ิ รรม : กฎเกณฑ ์ทางกฎหมาย 4. หลักธรรมาภิบาล - บรรษัทภิบาล 5. เกณฑ ์ทางสังคม (ขนมธรรมเนี ยม 51 กระบวนการ ยุตธ ิ รรม ศาสนา ระบบการศึกษา สังคมคุณธรรม องค ์กร ทุกประเภท ่ สือมวลชน ครอบคร ัว 52 คุณธรรมกับความรู ้ 1. มีความรู ้ แต่ไร ้ คุณธรรม 2. มีความรู ้ คู ่ คุณธรรม 3. มีคณ ุ ธรรมนา 53 กระแสพระราชดาร ัสในการเสด็จ ออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธฉ ี ลองสิรริ าช สมบัตค ิ รบ 60 ปี ่ ่งอนันต ณ พระทีนั สมาคม วันศุกร ์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2549 54 ้ ่ นที่ตังของ “...คุ ณ ธรรมซึงเป็ ่ าให้ ความร ัก ความสามัคคี ทีท คนไทยสามารถร่ ว มมื อ ร่ ว มใจ ร ักษาและพัฒนาชาติบา้ นเมืองให้ เจริญรุง่ เรืองสืบต่อกันมาได้ตลอด รอดฝั่ ง” ประการแรก คือ การทีทุ ก คน 55 ่ ่ ละ ประการทีสอง คือ การทีแต่ ค น ต่ า ง ช่ ว ย เ ห ลื อ เ กื ้อ กู ล กัน ประสานงาน ประสานประโยชน์ ่ าสาเร็จผลทังแก่ ้ กัน ให้ง านทีท ตน แก่ผูอ ้ น ื่ และแก่ประเทศชาติ (เจริญสามัคคีธรรม) 56 ่ ่ กคน ประการทีสาม คือ การทีทุ ประพฤติปฏิบต ั ต ิ นอยู ่ในความ สุจริต ในกฎกติกา และใน ระเบียบแบบแผนโดยเท่าเทียม เสมอกัน (เจริญสุจริตธรรม) 57 ประการที่สี่ คือ การที่ต่ า งคน ต่ า งพยายามท าความคิด เห็ น ่ ของตนให้ถู ก ต้องเทียงตรง และ ่ มันคงอยู ่ในเหตุในผล ่ (เจริญในความเทียงธรรม) 58 คุณธรรมพระราชทาน 4 ประการ 9 มิถน ุ ายน 2549 1. เมตตาธรรม 2. สามัคคีธรรม 3. สุจริตธรรม ่ 4. เทียงธรรม 59 3 0 พระบรมราโชวาท ในพิธพ ี ระราชทานธงประจารุน ่ ลู กเสือชาวบ้าน จังหวัดเชียงใหม่ ๒๔ กุมภาพันธ ์ ๒๕๒๒ “...ในจิตใจของคนไทยทุกคน มี ้ ่ เชือของความดี ทีได้นาพวกเรา ้ ่ นคง ่ ทังหลายมาอยู ่ ใ นฐานะทีมั ่ ่ า วหน้ า ทีเจริ ญ จนทุ ก วัน นี ้ ทีก้ ถ้า เราไม่ ม ี ค วามดี อ ยู ่ ใ นตัว ก็ 60 การให้ “ข้าพเจ้าจึงปรารถนาอย่าง ยิ่ ง ที่ จ ะ เ ห็ น ช า วไ ท ย มี ความสุ ข ถ้ว นหน้ า กัน ด้ว ย การให้ คือให้ค วามร กั ความ เมตตากัน ให้น้ าใจไมตรีก น ั ให้อ ภัยไม่ ถ ือโทษโกรธเคือ ง 61 พระบรมราโชวาทในพิธ ี พระราชทานปริญญาบัตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 25 กรกฎาคม 2506 ้ รูจ้ ก ่ ทรงชีให้ ั ทาดีเพือความดี ทา ์ ทรงอุ ป มา ด้ว ยความบริสุ ท ธิใจ เหมือนกับการปิ ดทองหลังพระ ดัง ความตอนหนึ่ งว่า “คนโดยมากไม่ ชอบปิ ดทองหลังพระนัก เพราะนึ ก ว่ า ไม่ ม ีใ ครเห็ น แต่ ถ า ้ ทุ ก คนพา 62 หลักการทรงงาน ในพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู ่หวั (“60 ปี ครองราชย ์ ประโยชน์สุข ประชาราษฎร ์” สานักงานคณะกรรมการพิเศษ ่ เพือประสานงานโครงการอ ัน เนื่ องมาจากพระราชดาริ, 2549) 63 1. ศึกษาข้อมู ลอย่าง เป็ นระบบ ่ การทีจะพระราชทานโครงการ ใดโครงการหนึ่ ง จะทรงศึก ษา ข้อ มู ล ร า ย ล ะ เ อี ย ด อ ย่ า ง เ ป็ น ้ ระบบ ทังจากข้ อ มู ลเบื ้องต้น จากเอกสาร แผนที่ สอบถาม จากเจ้าหน้าที่ นักวิชาการ และ ร า ษ ฎ ร ใ น พื ้ น ที่ ใ ห้ ไ ด้ 64 2. ระเบิดจากข้างใน หมายความว่ า ต้อ งสร า้ งความ ่ เข้ม แข็ งให้ค นในชุม ชนทีเราเข้ า ่ ไปพัฒนาให้มส ี ภาพพร ้อมทีจะร ับ ก า ร พัฒ น า เ สี ย ก่ อ น มิ ใ ช่ ก า ร นาเอาความเจริญหรือบุคคลจาก สัง คมภายนอกเข้า ไปหาชุ ม ชน ห มู ่ บ้ า น ที่ ยังไ ม่ ทันไ ด้ ม ี โ อ ก า ส 65 ่ 3. แก้ปัญหาทีจุดเล็ก ทรงมองปั ญหาในภาพรวม (macro) ก่อนเสมอ แต่การ ่ แก้ปัญหาจะเริมจากจุ ดเล็กๆ (micro) คือ การแก้ไขปั ญหา ่ เฉพาะหน้าทีคนมั กจะมองข้าม “...ถ้าปวดหัวคิดอะไรไม่ออก... 66 ้ 4. ทาตามลาดับขัน ่ น จากสิ่งที่จ าเป็ นที่สุ ด ทรงเริมต้ ข อ ง ป ร ะ ช า ช น ก่ อ น ไ ด้ แ ก่ ส า ธ า ร ณ สุ ข ต่ อไ ป จึ ง เ ป็ น เ รื่ อ ง ้ ้ สาธารณู ปโภค ขันพื นฐาน และ ่ าเป็ นสาหร ับประกอบอาชีพ สิงจ ก า ร พั ฒ น า ป ร ะ เ ท ศ ต้ อ ง ส ร ้า ง พื ้ น ฐ า น คื อ ค ว า ม พ อ มี พ อ กิ น 67 5. ภู มส ิ งั คม การพัฒนาใดๆ ต้องคานึ งถึง ้ (1) ภู มป ิ ระเทศของบริเวณนัน (ดิน, น้ า, ป่ า, เขา ฯลฯ) (2) สังคมวิทยา (นิ สย ั ใจคอของ ผู ค ้ น ตลอดจน 68 6. องค ์รวม ทรงมีวธ ิ ค ี ด ิ อย่างองค ์รวม (holistic) หรือมองอย่างครบ วงจร ้ ทรงมองเหตุการณ์ทเกิ ี่ ดขึน และแนวทางแก้ไขอย่าง ่ เชือมโยง 69 7. ไม่ตด ิ ตารา การพัฒนาตามแนวพระราชดาริ ่ โลม มีลก ั ษณะของการพัฒนาทีอนุ และรอมชอมกับ สภาพธรรมชาติ ่ อ ม และสภาพของสัง คม สิงแวดล้ จิตวิทยาแห่งชุมชน “ ไ ม่ ติ ด ต า ร า ” ไ ม่ ผู ก มั ด กั บ 70 8. ประหยัด เรียบง่ าย ได้ ประโยชน์ ส ู ง สุ ด ทรงใช้ห ลักในการแก้ไ ขปั ญหา ด้ว ยความเรีย บง่ ายและประหยัด ราษฎรสามารถทาได้เอง หาได้ใน ่ และประยุกต ์ใช้สงที ่ อยู ่ใน ท้องถิน ิ่ มี ภู ม ิภ าพนั้นๆ มาแก้ไ ขปั ญ หา โดย ไม่ตอ ้ งลงทุนสู ง หรือใช้เทคโนโลยีท ี่ ไม่ยุ่งยากนัก 71 9. ทาให้ง่าย – simplicity ทรงคิด ค้น ดัด แปลง ปร บ ั ปรุ ง และแก้ไขงานการพัฒนาประเทศ ตามแนวพระราชดาริโดยง่ าย ไม่ ยุ่งยากซ ับซ ้อน ท ร งโ ป ร ด ที่ จ ะ ท า สิ่ ง ย า กใ ห้ ก ล า ย เ ป็ น ง่ า ย ท า สิ่ ง ที่ สลับซ ับซ ้อนให้เข้าใจง่ าย 72 10. การมีส่วนร่วม ทรงเป็ นนักประชาธิปไตย เปิ ดโอกาสให้ สาธารณชน ประชาชน หรือ เจ้า หน้ า ที่ ทุกระดบ ั ได้มาร่วมกันแสดงความคิดเห็ น ่ ่ ่ องคานึ งถึงความคิดเห็น เกียวก บ ั เรืองที ต้ ของประชาชน หรือ ความต้อ งการของ สาธารณชน “...ต้องหัดทาใจให้กว้างขวางหนักแน่ น ่ รู จ้ ก ั ร ับฟั งความคิดเห็น แม้กระทังความ วิ พ ากษ ว ์ ิ จ ารณ์ จ ากผู ้อ ื่ นอย่ า งฉลาด 73 11. ประโยชน์ ส่ ว นรวม “...ใครต่ อใครก็ ม าบอกว่ า ขอให้ คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมอาจมานึ กใน ่ ใจว่า ให้ๆ อยู ่เรือยแล้ วส่ว นตัวจะได้ อะไร ขอให้ค ิด ว่ า คนที่ให้เ พื่อส่ ว นรวม นั้ น มิ ไ ด้ใ ห้แ ต่ ส่ ว นรวมอย่ า งเดีย ว เป็ นการให้เ พื่ อตัว เองสามารถที่ มี ่ ส่วนรวมทีจะอาศ ัยได้...” (มข. 2514) 74 ่ 12. บริการทีจุดเดียว ท ร งใ ห้ “ ศู น ย ศ ์ ึ ก ษ า ก า ร พัฒ น า อ ัน เนื่ องมาจากพระราชดาริ” เป็ นต้นแบบใน ่ ดเดียว เพือประโยชน์ ่ การบริหารรวมทีจุ ต่ อ ป ร ะ ช า ช น ที่ จ ะ ม า ใ ช้ บ ริ ก า ร จ ะ ป ร ะ ห ยั ด เ ว ล า แ ล ะ ค่ า ใ ช้ จ่ า ย โ ด ย มี ห น่ ว ย ง า น ร า ช ก า ร ต่ า ง ๆ ม า ร่ ว ม ดาเนิ นการและให้บริการประชาชน ณ ที่ แห่งเดียว 75 13. ใช้ธรรมชาติชว ่ ย ธรรมชาติ ก า ร เ ข้ า ใ จ ถึ ง ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ ต้อ งการให้ป ระชาชนใกล้ช ิด กับ ธรรมชาติ ทรงมองอย่ า งละเอีย ด ถึง ปั ญ หาของธรรมชาติ หากเรา ต้องการแก้ไขธรรมชาติ จะต้องใช้ ธรรมชาติเข้าช่วยเหลือ เช่น การ แก้ไ ขปั ญหาป่ าเสื่ อมโทรมโดย 76 14. ใช้อธรรมปราบ อธรรม ่ ทรงน าความจริงในเรืองความ เ ป็ นไ ป แ ห่ ง ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ กฎเกณฑ ข ์ องธรรมชาติม าเป็ น ่ าคัญ หลัก การ และแนวปฏิบ ต ั ท ิ ีส ใ น ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า แ ล ะ ป ร บ ั ป รุ ง ่ ่ ปกติเข้าสู ่ เปลียนแปลงสภาวะที ไม่ ่ 77 15. ปลู กป่ าในใจคน “...เจ้า หน้ า ทีป่่ าไม้ค วรจะปลู ก ต้นไม้ลงในใจคนเสียก่อน แล้วคน เหล่านั้นก็จะพากันปลู กต้นไม้ลง บนแผ่ น ดิน และร ก ั ษาต้นไม้ด ว ้ ย ตนเอง...” ่ ้ 78 16. ขาดทุนคือกาไร “...ขาดทุนคือกาไร Our loss is our gain…การเสี ย คื อ การได้ ประเทศก็ จ ะ ก้า วหน้ า และการที่คนจะอยู ่ ด ีม ีสุ ข นั้ น ่ นมู ลค่าเงินไม่ได้...” เป็ นการนับทีเป็ ห ลั ก ก า ร คื อ “ ก า รใ ห้ ” แ ล ะ “ ก า ร เสี ย สละ” เป็ นการกระท าอ น ั มี ผ ลเป็ น กาไรคือ ความอยู ่ดม ี ส ี ุขของราษฎร ่ ่ ดที่ “...ถ้าเราทาอะไรทีเราเสี ย แต่ในทีสุ เราเสีย นั้ นเป็ นการได้ท างอ้อ ม ตรงก บ ั 79 ่ 17. การพึงตนเอง การพัฒนาตามแนว ่ พระราชดาริเพือแก้ ไขปั ญหาใน ้ เบืองต้ นด้วยการแก้ไขปั ญหา ่ เฉพาะหน้า เพือให้ เขาแข็งแรง ่ พอทีจะด ารงชีวต ิ ได้ตอ ่ ไป ้ อไปก็คอ แล้วขันต่ ื การพัฒนาให้ เขาสามารถอยู ่ในสังคมได้ตาม 80 18. พออยู ่พอกิน ส าหร บ ั ประชาชนที่ตกอยู ่ ใ น ้ ได้ วงจรแห่งความทุกข ์เข็ญนัน พระราชทานความช่วยเหลือให้ ้ “พออยู ่ เขาสามารถอยู ่ ใ นขัน พอกิน ” เสีย ก่ อ น แล้ว จึง ค่ อ ย ขยับ ขยายให้ม ีข ีด สมรรถนะที่ ก้าวหน้าต่อไป “... ถ้า โค รง การดี ในไม่ ช ้า 81 19. เศรษฐกิจพอเพียง เป็ นแนวทางการด าเนิ น ชีว ิต เพื่ อสร า้ งความเข้ม แข็ ง หรือ ภู มิ คุ ้ ม กั น ทุ ก ด้ า น ซึ่ ง จ ะ สามารถทาให้อยู ่ได้อย่างสมดุล ่ ในโลกแห่งการเปลียนแปลง ปร ัชญานี ้ได้มก ี ารประยุกต ์ใช้ ้ 82 ่ 20. ความซือสัตย ์ สุจริต จริ ง ใจต่ อ ก ัน ่ ์ “...ผู ท ้ มี ี ค วามสุ จ ริต และบริสุ ท ธิ ใจ แม้จ ะมีค วามรู น ้ ้ อ ยก็ ย่ อ มท า ป ร ะ โ ย ช น์ ใ ห้ แ ก่ ส่ ว น ร ว มไ ด้ มากกว่า ผู ท ้ มี ี่ ค วามรู ม ้ ากแต่ไ ม่ ม ี ์ ความสุ จ ริต ไม่ มค ี วามบริสุ ท ธิใจ ...” 83 21. ทางานอย่างมี ความสุข พระบาทสมเด็ จ อยู ่ ห ว ั ทรงพระ เกษมส าราญและทรงมีค วามสุ ข ่ ทุกคราทีจะช่ วยเหลือประชาชน “...ทางานกับฉัน ฉันไม่มอ ี ะไรจะ ให้นอกจากการมีความสุขร่วมกัน ่ 84 22. ความเพียร : พระ มหาชนก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู ่หวั ทรง ริ เ ริ่ ม ท า โ ค ร ง ก า ร ต่ า ง ๆ ใ น ระยะแรกที่ไม่ ม ีค วามพร อ ้ มมาก นัก และทรงใช้พระราชทร ัพย ์ส่ว น ้ั น ้ แต่ พ ระองค ก พระองค ท ์ งสิ ์ ็ ม ิไ ด้ ่ ท้อ พระราชหฤทัย มุ่ ง มันพั ฒ นา 85 23. รู ้-ร ัก-สามัคคี ่ ่ ้น รู ้ : การทีเราจะลงมื อทาสิงใดนั ้ จะต้องรู ้เสียก่อน รู ้ถึงปั จจัยทังหมด รู ้ ถึงปั ญหาและรู ้ถึงวิธแ ี ก้ปัญหา ่ ร ัก : เมือเรารู ้ครบกระบวนความแล้ว จะต้อ งเห็ น คุ ณ ค่ า เกิด ศร ท ั ธา เกิด ค วา ม ร ก ั ที่ จ ะ เ ข้า ไ ป ลง มื อ ป ฏิ บ ัต ิ ้ แก้ปัญหานันๆ ่ งขันลงมื ้ สามัคคี : เมือถึ อปฏิบต ั ต ิ อ ้ ง 86