การดูแลเยียวยาเด็กจากความรุนแรง

Download Report

Transcript การดูแลเยียวยาเด็กจากความรุนแรง

โดย
พญ. พรรณพิมล วิปุลากร
ผู อ
้ านวยการสถาบันราชานุ กูล
้
“เด็กได้ร ับผลกระทบตังแต่
วน
ิ าที
่ ดภัยพิบต
แรกทีเกิ
ั ”ิ
่ อยกว่า เพราะ
เด็กมักได้ร ับการดู แลทีน้
• คิดว่าเด็กไม่คด
ิ มาก เด็กยังไม่รู ้
่
เรือง
• ไม่รู ้จะช่วยเหลือเด็กอย่างไร
่ ร ับ
• มองข้ามเด็กบางกลุ่มทีได้
ผลกระทบ
เป้ าหมาย : ป้ องก ันผลกระทบต่อเนื่ อง
: ผสมผสานการดู แลทาง
สังคมจิตใจ
สาระสาคัญ
• สาเหตุทท
ี่ าให้เด็กเกิดความ
กดดันด้านจิตใจ
• ลักษณะปฏิก ิรย
ิ าด้านจิตใจ
ของเด็กช่วงวัย 0-5 ปี 6-12
ปี และ 13-18 ปี
• แนวทางการการเยียวยา
้ ก ับเด็ก
ผลกระทบทีเ่ กิดขึน
ี พ่อแม่
การสูญเสย
ี พ่อ หรือแม่ หรือ
เด็ก ๆ ทีส
่ ญ
ู เสย
ิ จะมีความรู ้สก
ึ เสย
ี ใจ หวาดกลัว
ญาติใกล ้ชด
มีความกังวลสูง กังวลการใชช้ วี ต
ิ ในอนาคต
ี ความเชอ
ื่ มั่น ต ้องการทีพ
สูญเสย
่ งึ่ ทางจิตใจ
่ เศร ้าโศก งอแง
แสดงปฏิกริ ย
ิ าด ้านจิตใจ เชน
ิ คลอเคลีย กอด หรือ
ถดถอย หรือเข ้ามาใกล ้ชด
ั ผัสเพือ
ึ ทีด
สม
่ ให ้ได ้ความรู ้สก
่ จ
ี ากผู ้ใหญ่ท ี่
ิ
ใกล ้ชด
้ ก ับเด็ก
ผลกระทบทีเ่ กิดขึน
การบาดเจ็บของพ่อแม่
เด็กมีความกังวลใจ ไม่สบายใจต่อการ
บาดเจ็บ และอาจกระทบต่อความเป็ นอยู่ การ
ดูแลเด็กในชวี ต
ิ ประจาวัน รวมทัง้ ปฏิกริยาของ
ผู ้ใหญ่ในครอบครัวต่อการบาดเจ็บ พิการ สง่ ผล
ต่อความกังวลใจของเด็ก
้ ก ับเด็ก
ผลกระทบทีเ่ กิดขึน
• การบาดเจ็บของตัวเด็กเอง
ิ กับการเปลีย
เด็กต ้องเผชญ
่ นแปลงทัง้ ด ้าน
ร่างกายและจิตใจ เนือ
่ งจากการบาดเจ็บ การเข ้า
รับการรักษาในโรงพยาบาล ขึน
้ กับความรุนแรง
ี อวัยวะ และวัยของเด็กต่อการรับรู ้
การสูญเสย
ภาพลักษณ์ด ้านร่างกายของตนเอง
้ ก ับเด็ก
ผลกระทบทีเ่ กิดขึน
ี ทร ัพย์สน
ิ
การสูญเสย
สง่ ผลต่อความตึงเครียดของพ่อแม่
และกระทบต่อการดูแลเด็ก รวมทัง้ การต ้อง
ปรับตัวต่อการเปลีย
่ นแปลงของสภาพความ
เป็ นอยู่ ปั จจัยในการดารงชวี ต
ิ ประจาวัน
้ ก ับเด็ก
ผลกระทบทีเ่ กิดขึน
ิ ก ับสถานการณ์ทรี่ น
การเผชญ
ุ แรง
เด็กสามารถรับรู ้ปฏิกริ ย
ิ าความรุนแรงที่
เกิดขึน
้ แต่เด็กอาจไม่สามารถเข ้าใจ
ึ
สถานการณ์ทเี่ กิดขึน
้ ได ้ กระทบต่อความรู ้สก
มั่นคงปลอดภัยทางจิตใจ เกิดอาการตกใจ
ื่ มั่นในสภาพแวดล ้อม บางราย
หวาดผวา ไม่เชอ
ึ หวาดกลัวต่อเหตุการณ์อย่าง
อาจฝั งความรู ้สก
รุนแรง แสดงอารมณ์หวั่นไหว หวาดวิตก นอน
ไม่หลับ ฝั นร ้าย เหม่อลอยหรือเฉื่อยชา ซงึ่ หาก
่ ารเกิดบาดแผล
ไม่ได ้รับการเยียยาจะนาไปสูก
เด็กทีไ่ ด้ร ับผลกระทบ
•
•
•
•
•
เด็กทีป
่ ระสบเหตุโดยตรง
ี บุคคลอ ันเป็นทีร่ ัก
เด็กทีส
่ ญ
ู เสย
เด็กทีค
่ รอบคร ัวได้ร ับผลกระทบ
ี หาย
เด็กทีโ่ รงเรียนเสย
ิ เหตุการณ์ (ร ับรู ้
เด็กทีใ่ กล้ชด
เหตุการณ์)
การบาดเจ็บด้านจิตใจ
ิ เหตุการณ์ทส
เด็กทีเ่ ผชญ
ี่ ะเทือนขว ัญ ประกอบด้วย
ิ เหตุการณ์ทเี่ กีย
1. พบเห็นหรือเผชญ
่ วข้องก ับการ
ี ชวี ต
เสย
ิ หรือคุกคามต่อชวี ต
ิ หรือบาดเจ็ บสาห ัส
หรือคุกคามต่อสภาพร่างกายของตนเองและผูอ
้ น
ื่
2. มีปฏิกริ ย
ิ าตอบสนอง ประกอบด้วยอาการตืน
่
ึ สน
ิ้ หว ัง
ตระหนก หวาดกล ัวอย่างรุนแรง ความรูส
้ ก
หรือความหวาดผวา ซงึ่ เด็กอาจแสดงออกด้วย
ั
พฤติกรรมทีส
่ บสน
หรือกระวนกระวาย
สาเหตุความกดด ัน
ี ความมน
• สูญเสย
่ ั คงใน
ชวี ต
ิ
ั ันธภาพ
ี สมพ
• สูญเสย
ี สภาพแวดล้อม
• สูญเสย
ทีป
่ ลอดภ ัยและคุน
้ เคย
• ปฏิกริ ย
ิ าทางอารมณ์ และการแสดงออก
ของเด็กทีป
่ ระสบหายนะภ ัยตามว ัย
่ งอายุตา่ ง ๆ
• ความเข้าใจของเด็กในชว
เกีย
่ วก ับเรือ
่ งของความตาย
ี
• อารมณ์ทเี่ ด็กม ักแสดงออกต่อการสูญเสย
คนทีร่ ัก
• ขนตอนของความเศร้
ั้
าโศก
ั
• สญญาณของการจ
ัดการก ับปัญหาทีม
่ /ี ไม่
ิ ธิภาพ
มีประสท
ปฏิก ิรย
ิ าทางอารมณ์ และการ
แสดงออก
่
ของเด็
ก
ที
ประสพหายนะภั
ย ่
ี หายที
ปฏิกริ ย
ิ าของเด็กขึน
้ อยูก
่ บ
ั ระดับความเสย
ิ ใน
เด็กได ้ประสพพบเห็นด ้วย หากเพือ
่ น หรือสมาชก
ี ชวี ต
ครอบครัวได ้รับบาดเจ็บ เสย
ิ พลัดหลง หรือหาย
ี่ งต่อการเกิดปั ญหา
สาบสู
ญข
ไป
เด็ก
กเป็
ก็จนอี
ะมีกคปัวามเส
อายุ
องเด็
จจัย ย
ทางจิ
น
้ อการ
หนึง่ ทีตม
่ ใจมากขึ
อ
ี ท
ิ ธิพลต่
่ เด็กอายุหก
แสดงออก เชน
ขวบ อาจแสดงความกังวลใจ
โดยการไม่ยอมไปโรงเรียน
ในขณะทีเ่ ด็กวัยรุน
่ อาจแกล ้ง
ทาเป็ นไม่เดือดร ้อนใจ แต่อาจ
โต ้เถียง หรือขัดแย ้งกับพ่อแม่
ปัจจ ัยทีเ่ กีย
่ วข้องก ับปฎิกริยา
ด้านจิตใจ
•
•
•
•
ปัจจ ัยจากเหตุการณ์
ปัจจ ัยจากต ัวเด็ก
ปัจจ ัยจากครอบคร ัว
ั
ปัจจ ัยจากสงคม
ว ัฒนธรรม
สงิ่ แวดล้อม
ปัจจ ัยทีเ่ กีย
่ วข้องก ับปฎิกริยา
ด้านจิตใจ
•
•
•
•
•
•
ความรุนแรงของเหตุการณ์
ความถีข
่ องเหตุการณ์
ิ ก ับเหตุการณ์
ความใกล้ชด
ิ ก ับความน่ากล ัว
การเผชญ
ี คนในครอบคร ัว
การสูญเสย
่ ขาด
ผลกระทบจากการเกิดเหตุการณ์ เชน
ั ต้องแยกจากครอบคร ัว ความ
ทีอ
่ ยูอ
่ าศย
ี หายของโรงเรียน
เสย
•
ปฏิก ิรย
ิ าทางอารมณ์ และการ
แสดงออก
่
ของเด็กทีประสพหายนะภั
ยของเด็กวัย
มีอาการกลัว เช่น กลัว1
ความมื
- 5 ดปี กลัว
่ อยู
่ ่ใน
คนแปลกหน้า กลัวสิงที
จินตนาการของเขา กลัวเสียงดัง
่
• แอบหลบอยู ่ในมุมทีเขารู
้สึกปลอดภัย
• เด็กจะมีอาการโยเย วุน
่ วาย กวนมาก
้ ดือ้ บางคนอาจลุกลีลุ
้ กลน อยู ่ไม่
ขึน
นิ่ ง บางคนอาจกลายเป็ นเด็กเงียบ ไม่
ยอมพู ด และบางคนอาจเล่าถึง
้
้ า
เหตุการณ์ทประสบแบบซ
ี่
าแล้
วซาเล่
้
ติดผู ใ้ หญ่มากขึน
• เด็กบางคนอาจมีอาการหงุ ดหงิด โมโห
ง่ าย ก้าวร ้าว
ตีพ/น้
ี่ อง หรือ
ถกเถียงตะโกนใส่ผูใ้ หญ่
ปฏิก ิรย
ิ าทางอารมณ์ และการ
แสดงออก
่
ของเด็กทีประสพหายนะภั
ย
• กลัวการอยู ่คนเดียว พยายามเกาะติด
่ กทิงให้
้
แจอยู ่ก ับผู ป
้ กครอง ร ้องไห้เมือถู
่ั
อยู ่คนเดียวแม้เพียงชวครู
่
่
• หยุดคิด หรือแสดงออกเกียวก
บ
ั
้ั
เหตุการณ์นนไม่
ได้
• การนอนผิดปกติไปจากเดิม รวมทัง้
เวลาเข้านอน และพฤติกรรมก่อนเข้า
่ อย
นอน กลัวการเผลอหลับไป ตืนบ่
หรือนอนมากในเวลากลางว ัน
้ั
• ฝั นร ้าย บางครงอาจกรี
ดร ้องในขณะ
่
หลับ หรือตกใจตืนแล้
วร ้องไห้
• พฤติกรรมคล้ายถดถอยไปเป็ นเด็ก
ปฏิก ิรย
ิ าทางอารมณ์ ของเด็กวัย 6 –
11
ปี
่
้
ปฏิก ิรย
ิ าทีเกิดขึนถือเป็ นการตอบสนองอย่างปกติของเ
่
• เด็กจะแยกตัวจากกลุ่มเพือน
ๆ
• ต้องการให้พ่อแม่อยู ่ใกล้ชด
ิ และให้ความสนใจแทบ
•ตลอดเวลา
ขาดสมาธิ
• มีพฤติกรรมกลับไปเป็ นเด็ก ๆ อีก เช่น
ร ้องไห้ให้แม่ป้อนข้าว
ช่วยแต่งตัว พาเข้าห้องน้ า อิจฉาน้องเล็ก
ๆ
• เด็กบางคนจะมีพฤติกรรมก้าวร ้าว ไม่
อยากไปโรงเรียน ไม่
อยากทากิจกรรมต่าง ๆ แม้แต่กจ
ิ กรรมที่
เคยทาให้รู ้สึกสนุ กสนาน
• กลัวการนอนคนเดียว กลัวความมืด มี
ปั ญหาการนอน เช่น
นอนไม่หลับ ฝั นร ้าย
่
• เด็กจะรู ้สึกสู ญเสียอย่างลึกซึง้ ถ้าเพือน
่
เล่นทีเขาผู
กพันพลัดพรากจากไป
ปฏิก ิรย
ิ าทางอารมณ์ ของเด็กวัย 12 –
ปี
่ ดขึนถื
้ อเป็ 14
ปฏิก ิรย
ิ าทีเกิ
นการตอบสนองอย่
างปกติของเ
่ เขาเคยท
่
• เด็กจะไม่สามารถจัดการกบ
ั สิงที
า
ได้ ไม่วา
่ จะเป็ นงานบ้าน
่ เคยร
่
การเรียน หรือสิงที
ับผิดชอบมาก่อน
่
• มีพฤติกรรมแยกตัว ไม่สนใจทีจะท
ากิจกรรม
ร่วมกับคนในครอบคร ัว
่
่
หรือเพือน
ๆ เลิกสนใจในกิจกรรมทีเคยชอบ
• มีพฤติกรรมก่อกวน ต่อต้านผู ใ้ หญ่ เด็กบาง
คนเป็ นเด็กดีทบ้
ี ่ าน
เพราะไม่อยากเป็ นภาระของพ่อแม่ แต่
่
กลับไปสร ้างปั ญหาทีโรงเรี
ยน
่
่
เช่น มีเรืองทะเลาะวิ
วาทกบ
ั เพือน
ลักขโมย
่ เช่น ทดลองดืมสุ
่ รา หรือ
• มีพฤติกรรมเสียง
่ ดการก ับ
ใช้ยาเพือจั
ความรู ้สึกสู ญเสีย ความกลัว และความกังวล
่ ดขึน
้
ทีเกิ
่
่ งอายุตา่ ง ๆ
ความเข้าใจของเด็กในชว
เกีย
่ วก ับเรือ
่ งของความตาย
• ช่วงอายุ 3 – 5 ขวบ
ในช่วงอายุนี้ เด็กจะคิดถึงความ
ต้องการของตนเองก่อน (หนู จะอยู ่
่
กับใคร?) เด็กอาจมีแนวโน้มทีจะ
ปฏิเสธความสู ญเสียค่อนข้างมาก
๋
และอาจพู ดแบบไร ้เดียงสาว่า “เดียว
เขาก็กลับมา”
• ช่วงอายุ 5 – 9 ขวบ
่
ในช่วงอายุนี้ เด็กสามารถทีจะเข้
า
ใจความตายในทางกายภาพได้ จึง
มักจะถามคาถามต่าง ๆ หลาย
ประการ หรืออาจมีอารมณ์รุนแรง
้ั อาจดู เหมือนไม่
แต่ในบางครงก็
้ ้อนใจ หรือยังคงเล่นสนุ ก
เดือดเนื อร
้
ต่อไปเหมือนก ับว่าไม่มอ
ี ะไรเกิดขึน
่ งอายุตา่ ง ๆ
ความเข้าใจของเด็กในชว
เกีย
่ วก ับเรือ
่ งของความตาย
อายุ 9 ขวบ หรือมากกว่า
้
เด็กในช่วงอายุนีจะสามารถพั
ฒนาความเข้าใจถึง
่ จะเกิ
่
้ ดตามมาภายหลัง
ผลกระทบ และสิงที
ดขึนติ
้ าให้ความตาย
ความตาย และความเข้าใจเช่นนี ท
่ น่
่ ากลัวยิงขึ
่ นส
้ าหร ับเขา
เป็ นสิงที
ขนตอนของความเศร้
ั้
าโศก
้ อไปนี อาจไม่
้
ลาดับขันต่
เรียงตามลาดับเสมอไป
้ั
และบางครงอาจ
่
้ ้อนกันได้
คาบเกียวกัน
หรือ เกิดซาซ
• ปฏิเสธ (Denial) เด็กจะ
พยายามสร ้างจินตนาการว่า
่
คนทีตายไปแล้
วจะกลับมาอีก
• ความโกรธ (Anger) เด็กอาจ
่
โกรธคนทีตายไป
หรืออาจ
่ ๆ โดยไม่ม ี
โกรธคนอืน
เหตุผล
• การต่อรอง (Bargain) เด็ก
ขนตอนของความเศร้
ั้
าโศก
• ความรู ้สึกผิด และซึมเศร ้า (Guilt / Depression)
้ั กจะรู ้สึกว่าต ัวเองมีส่วนร ับผิดชอบ
บ่อยครงเด็
่
่ ัวเองร ักต้องตายจากไป หรือ
ในการทีคนที
ต
่
่
รู ้สึกแย่ทเคยปฏิ
ี่
บต
ั ต
ิ ัวไม่ดต
ี อ
่ เขาเมือตอนที
เขายังมีชวี ต
ิ อยู ่
• การยอมร ับ (Acceptance) หรือการทาใจได้แล้ว
่ ได้หมายความว่า จะไม่มค
ซึงไม่
ี วามเศร ้าโศก
เสียใจ แต่ในทางกลับกัน ความเศร ้าโศก
้ อเนื่องกันไปนานถึง
“อย่างปกติ” อาจเกิดขึนต่
้
หนึ่ง หรือสองปี ทังในเด็
ก และผู ใ้ หญ่ และความ
เศร ้าโศกจากการสู ญเสียคนทีร่ ักอาจไม่มวี ัน
้
สัญญาณของการจัดการกับปั ญหา
่ ประสิทธิภาพ
ทีมี
่
• ระด ับความเครียดตา
 จะต้องไม่สบ
ั สน หรือหมดความรู ้สึกทาง
อารมณ์
(emotion
numbing)
่
• ความทรงจาทีรบกวนลดน้
อยลง
้
่ เกิ
่ ด
• บุคคลนันสามารถพู
ดถึงสิงที
่
้
อย่างเป็ นเรืองเป็
อ
้ นได้
ื่
ขึนกับผู
นราว
่
่ น
้
และมีมุมมองอืนๆเพิ
มขึ
้
่
• บุคคลนันสามารถสื
อสารได้
อย่าง
บุคคลนนย
ั้ ังสามารถ :
• ทากิจกรรม / ทางานต่าง ๆ
ต่อไปได้หรือไม่?
• ควบคุมอารมณ์ของตนเอง
ได้หรือไม่?
ั
• ตอบสนองต่อสงคมหรื
อไม่
ปั จจัยจากตัวเด็ก
• อายุของเด็ก
• เพศ ไม่พบความแตกต่าง
ิ ก ับความ
• ท ักษะการปร ับต ัว ความสามารถในการเผชญ
กดด ันและการจ ัดการก ับอารมณ์และเครียด
ี่ งก่อนเกิดเหตุการณ์
• ความเสย
ล ักษณะอารมณ์และพฤติกรรม
ี ด้อยโอกาส
ความสูญเสย
• ความเข้มแข็งทางจิตใจ
ั ันธ์การสน ับสนุนจากคนรอบข้าง
ความสมพ
ื่ มน
ความสามารถ เชอ
่ ั ในตนเอง
ปั จจัยจากครอบครัว
ปฎิกริยาของพ่อแม่
• ความสามารถของพ่อแม่ในการดุแลเด็ก
ระหว่างและหลังเกิดเหตุการณ์
• ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ เป็ น
่ งผลต่อเด็ก
ปั จจัยหลักทีส่
่
• ความสามารถในการสือสารกับลู
กให้เข้าใจ
สถานการณ์
การทาหน้าทีข
่ องครอบคร ัว
• การร ักษาขอบเขตของครอบคร ัว
ั
ปัจจ ัยจากสงคม
ว ัฒนธรรม
สงิ่ แวดล้อม
ั ันธ์
เครือข่ายความสมพ
• ชว่ ยสนับสนุนเด็ก ลดความตึงเครียดให ้เด็กและ
ครอบครัว
ึ ถึงความผูกพันธ์ทม
• รักษาความรู ้สก
ี่ ี
ชุมชน
• ภาวะผู ้นา ความเหนียวแน่นของชุมชน การ
สนับสนุนครอบครัว บริการในชุมชน การ
เตรียมพร ้อมต่อสถานการณ์
ว ัฒนธรรม
Psycho-Social Support
Psychiatrist
Peer or Group
Support
programmes
Normal Reaction
to grief and loss
Services by mental
Health professionals
Routine created
Mourning expressed
Economic recovery
Healthy Coping
Mechanisms
Encouraged
Volunteers involved
สภาวะจิตใจ
• ปฏิกริ ย
ิ าตอบสนองต่ออันตราย
ความหวาดกลัวต่ออันตราย กลัวจะเกิด
เหตุการณ์ ไวต่อการรับรู ้ข่าวสาร กลัวทีจ
่ ะแยก
ิ ในครอบครัวและคนคุ ้นเคย
จากสมาชก
• ปฏิกริ ย
ิ าความโศกเศร ้า
ี คน
ผู ้ทีร่ อดชวี ต
ิ จากเหตุการณ์ หรือสูญเสย
ิ นาไปสูค
่ วามรู ้สก
ึ เศร ้า ซงึ่ เป็ น
ทีร่ ัก ทรัพย์สน
ปฏิกริ ย
ิ าปกติ ทีม
่ ค
ี วามแตกต่าง และอาจคงอยู่
ระยะเวลาหนึง่
• ความโศกเศร ้าทีเ่ ป็ นบาดแผลทางใจ
เป็ นความเศร ้าโศกทีร่ น
ุ แรง ถูกรบกวนด ้วย
ภาพ การระลึกถึงอย่างเจ็บปวด ปฏิกริ ย
ิ าคงอยู่
สภาวะจิตใจ
ึ เศร ้า
• ภาวะซม
ี ร่วมกับอาการ
มีความหดหู่ เศร ้าใจจากการสูญเสย
นอนไม่หลับ เบือ
่ อาหาร หมดความสนใจในกิจกรรม
ึ ตนเองไม่มค
ิ้ หวัง คิดทาร ้ายตนเอง
รู ้สก
ี า่ สน
• ภาวะทางร่างกาย
เกิดอาการ ความเจ็บปวดทีไ่ ม่ปรากฏโรคด ้าน
่ ปวดหัว ปวดท ้อง หัวใจเต ้นเร็ว แน่น
ร่างกาย เชน
หน ้าอก เป็ นลม
• บาดแผลทางใจและความทรงจา
ปฏิกริ ย
ิ าด ้านจิตใจทีเ่ กิดจากความทรงจาทีเ่ ป็ น
ี ง ที่
บาดแผลทางใจ ยังต ้องเห็นสถานที่ ภาพ เสย
กระตุ ้นความทรงจา รวมทัง้ วันเวลา ข่าวสารทีก
่ ระตุ ้น
ั
สญญาณเตื
อน
• ปฏิก ิรย
ิ าทางอารมณ์ และการ
่
แสดงออกของเด็กทีประสบหายนะ
– ภาวะเครียดภายหลังเหตุการณ์ร ้าย
(Post Traumatic Stress
Disorder:PSTD)
• แบบประเมินสภาพจิตใจเด็ก และ
วัยรุน
่ ผู ป
้ ระสบภัย
– Pediatric Symptom
Checklist- Parent Form (PSCP)
– Strength and Difficulties
ั
สญญาณเตื
อน
• มีความเครียดอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มช
ี ว่ งเวลาที่
สงบ หรือไม่มเี วลาพักผ่อนเลย
 hyper arousal, inability to regulate feelings
ร ้องไห ้ตลอดเวลา หรือหวาดกลัวมาก
• มีอาการสับสนอย่างรุนแรง ซงึ่ ยังคงปรากฏหลัง
ปลอดภัยแล ้ว
ึ
มีความทรงจาทีน
่ ่ากลัว และต ้องการหลีกเลีย
่ ง, รู ้สก
ทรมาน,
หรือรบกวนการนอน

 numbing, flashbacks,
disturbing thoughts/ images
สัญญาณเตือน
่ ด
• หลีกหนี สงั คมอย่างทีสุ
 หลบเลีย
่ งผู ้อืน
่ อยูเ่ สมอ ไม่
ต ้องการติดต่อกับใคร
่
• ขาดความสามารถทีจะคิ
ด ต ัดสินใจ
ดาเนิ นชีวต
ิ มากกว่าประสบการณ์
ทางอารมณ์ เป็ นบาดแผลทางจิตใจ
 ถูกครอบงาด ้วยอารมณ์อย่างฝั ง
แน่น
่
• ดืมแอลกอฮอล
์ หรือใช้ยามากเกิน
่
จาเป็ น มีพฤติกรรมเสียง
้ งต้น
หล ักเบือ
• ลักษณะบาดแผลทางจิตใจ
 คุกคามความปลอดภัย หวาดกลัว
 ควบคุมไม่ได้
 รู ้สึกว่า ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
่
• การตอบสนองทางจิตใจต้องพยายามทีจะ
่
 เพิมความรู
้สึกปลอดภัย
่
 เพิมความรู
้สึกว่า สามารถควบคุมได้
่
 เพิมความสามารถในการโต้
ตอบ และ
่
ติดต่อสือสาร
 ลดความรู ้สึกว่า ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ระยะเตรียมการ
• มอบหมายคณะทางานเยียวยาจิตใจ ให ้มี
ผู ้รับผิดชอบการเยียวยาจิตใจเด็ก
่
• ประสานการดาเนินงาน กับบุคลากรในพืน
้ ที่ เชน
จิตแพทย์เด็กและวัยรุน
่ กุมารแพทย์
นักจิตวิทยา พยาบาลจิตเวชเด็กและวัยรุน
่ เป็ น
ต ้น
• เตรียมความพร ้อมในการพัฒนาความรู ้และ
ทักษะเกีย
่ วกับการชว่ ยเหลือด ้านสุขภาพจิต
สาหรับเด็กทีไ่ ด ้รับผลกระทบ
Psychological First Aids
E : Engagement
ในการจัดกิจกรรมผู ้จัดต ้องอยูใ่ นระดับเดียวกับ
ระดับสายตาของเด็ก
ึ ความ
ชว่ ยให ้เด็กสามารถบอกเล่าความรู ้สก
ั ไม่มั่นใจผ่านกิจกรรมการเล่น
กังวล ความสงสย
หลีกเลีย
่ งการกระตุ ้นด ้วยคาพูดทีน
่ ่าหวาดกลัว
่ ควรท
่
่ วยเหลือเด็กในการ
สิงที
าเพือช่
เผชิญกับ
ประสบการณ์
ห
ายนะภั
ย
• ฟั งเมือ
่ เด็กพูดถึงความ
กลัวของเขา
• เปิ ดโอกาสให ้เด็กบอก
ึ อย่างไร และ
ว่าเขารู ้สก
คิดอย่างไรกับเรือ
่ งที่
เกิดขึน
้
• พยายามให ้ผู ้ปกครอง
้
ได ้มีโอกาสใชเวลาอยู
่
กับเด็กมากขึน
้
โดยเฉพาะเวลานอน
ื่ สารก ับเด็ก ได้แก่
สงิ่ สาค ัญในการสอ
•
•
•
•
•
•
การสนับสนุ นให้กาลังใจ
่ กรู ้สึกไว้วางใจ
คนทีเด็
ความรู ้สึกผ่อนคลาย
ก้าวผ่านประสบการณ์
่
การสือสารในกลุ
่ม
่
การสือสารด้
วยวิธอ
ี น
ื่ ๆ
ื่ สารขนพื
้ ฐาน 12 ท ักษะ
ท ักษะการสอ
ั้ น
่ ยเหลือเด็ก ๆ
ซงึ่ สามารถนาไปใชเ้ พือ
่ ชว
ี ง
1. น้ าเสย
ี น ้า
2. การแสดงสห
3. การพูดคุยทีผ
่ อ
่ นคลาย
4. การสบตา
ึ ผูกพัน (ความเอือ
5. การสร ้างความรู ้สก
้ อาทร)
6. การสร ้างบรรยากาศ และการจัดทีน
่ ั่ง
ื่ สารขนพื
้ ฐาน 12 ท ักษะ
ท ักษะการสอ
ั้ น
่ ยเหลือเด็ก ๆ
ซงึ่ สามารถนาไปใชเ้ พือ
่ ชว
7. คาถามปิ ด
8. คาถามเปิ ด
้
9. การใชภาษาง่
าย ๆ
10. การดูผลสะท ้อนกลับ
ิ ธิภาพ
11. การฟั งอย่างมีประสท
12. การพูดคุยในภาษาท ้องถิน
่
่ มล
ผู ฟ
้ ั งทีดี
ี ก
ั ษณะดังต่อไปนี ้
่ าลังพู ดตลอดการสนทนา
• มองเด็กทีก
้
• แสดงความใส่ใจด้วยการพยักหน้า ยิม
้ ๆ
• ท่าทีให้กาลังใจ และการใช้เสียงในลาคอสัน
ให้เด็กรู ้ว่า คุณฟั งเขาอยู ่ เช่น อืม
• เห็นอกเห็นใจ มีความอดทนในการฟั ง และ
่ เด็
่ กเล่า
ยอมร ับสิงที
่
่ กเล่า ฟั งอย่างตังใจ
้
• ให้ความสนใจเรืองที
เด็
และ
่
ท่าทีการฟั งทีเหมาะสม
่
่
่ กเล่า
• ถามเด็กเพือให้
เข้าใจเรืองที
เด็
• บางครง้ั ถ้าเห็นว่าจาเป็ นต้องให้คาแนะนา
่ กกาลังเล่าเรืองอยู
่
• ไม่ขด
ั จังหวะขณะทีเด็
่
่ ่
•
•
•
•
•
•
•
•
่ ดม
ในทางตรงข้าม ผู ฟ
้ ั งทีไม่
ี ี
ลักษณะดัง่ ต่อไปนี ้
ไม่มอง ไม่ใส่ใจเด็กทีกาลังพู ดอยู ่
ไม่มค
ี วามเห็นอกเห็นใจ
่ เด็
่ กพู ด
ไม่ฟังสิงที
่
ขัดจังหวะการเล่าเรืองของเด็
กบ่อย ๆ ด้วย
คาถาม หรือคาวิจารณ์
่ ่
วิจารณ์ พู ดกระทบกระเทียบ หรือตัดสินสิงที
เด็กเล่า
่
การพู ดมากเกินไปแทนทีการฟั
ง
โต้แย้งเด็ก
่ ๆ ไปด้วย เช่น การพู ด
ทากิจกรรมอืน
ั ันธภาพและการสอ
ื่ สาร
สมพ
• เข ้าหาเด็กด ้วยท่าทางทีอ
่ อ
่ นโยน ไม่จโู่ จม หาก
ั พันธ์หรือพูดเล่า ก็ไม่
เด็กไม่พร ้อมทีจ
่ ะมีปฏิสม
ควรผลักดันบังคับ
• ควรเริม
่ ต ้นโดยการฟั งเด็กก่อน เพือ
่ ประเมิน
ึ ต่อเหตุการณ์ของเขา เชน
่
ความเข ้าใจ ความรู ้สก
ถามคาถามต่อไปนี้ “หนูอยูท
่ ไี่ หน หรือทาอะไร
อยูต
่ อนทีเ่ กิด …..” “มันเป็ นยังไง” “หนูวา่ ทาไม
มันถึงเกิดขึน
้ ” “ตอนนีห
้ นูคด
ิ ถึงมันว่ายังไง หรือ
ึ ยังไง” “เวลาทีห
ึ อย่างนัน
รู ้สก
่ นูรู ้สก
้ หนูทายังไง”
เป็ นต ้น
ั ันธภาพและการสอ
ื่ สาร
สมพ
• ให ้ความมั่นใจกับเด็ก โดยบอกว่า ตอนนีเ้ ขา
ปลอดภัยแล ้ว เราจะมาชว่ ยเขาเพราะเราคือ ….
(บอกลักษณะงานของตน)
• ให ้คาตอบข ้อมูลกับเด็กตามความจริง แต่หากมี
ี ชวี ต
การบาดเจ็บรุนแรงหรือเสย
ิ ของคนใน
ครอบครัวหรือเพือ
่ น คนทีเ่ ด็กรัก ควรประเมิน
ก่อนว่า เด็กอยูใ่ นสภาพพร ้อมทีจ
่ ะรับทราบข่าว
นัน
้ ได ้
ื่ อย่างเหมาะสม
• ดูแลให ้เด็กได ้รับข่าวสารจากสอ
ภายใต ้คาแนะนาของพ่อแม่
ั ันธภาพและการสอ
ื่ สาร
สมพ
• อธิบายให ้เด็กทราบว่าอาการต่างๆ ทีเ่ กิดขึน
้ เกิดจาก
ความกลัว ความวิตกกังวลเป็ นเรือ
่ งปกติ และผู ้ใหญ่
จะสามารถเข ้าใจเขาได ้
ึ ของตนต่อเหตุการณ์ โดยการ
• ให ้เด็กกล่าวถึงความรู ้สก
พูด การวาดรูป หรือการเล่น ซงึ่ เป็ นการระบาย
ึ ของเด็กทางหนึง่ และแสดงความเข ้าใจ เห็น
ความรู ้สก
ึ เชน
่ นั น
ใจทีเ่ ด็กรู ้สก
้
ิ ปั ญหา และการแก ้ปั ญหาทีผ
• รับฟั งถึงการเผชญ
่ า่ นมา
ของเด็ก และชใี้ ห ้เด็กเห็นถึงความเข ้มแข็ง และกล ้า
ิ กับการสูญเสย
ี
หาญของเขาในการเผชญ
ั ันธภาพและการสอ
ื่ สาร
สมพ
• ให ้เด็กมีสว่ นร่วมในชุมชนตามกาลัง เพือ
่ สง่ เสริมให ้เด็ก
ั ยภาพของตนว่ายังคงมีอยูแ
ตระหนั กถึงศก
่ ละเป็ น
ประโยชน์ตอ
่ ชุมชน
• ชใี้ ห ้เห็นว่าเหตุการณ์ทเี่ กิดขึน
้ ไม่ได ้เกิดจากความผิด
่ กติโดยเร็ว
ของใคร สงิ่ ทีค
่ วรทาคือการนาชวี ต
ิ กลับสูป
การตาหนิตนเอง หรือบุคคลอืน
่ เป็ นอุปสรรคสาคัญ
่ กติ
ในการนาชวี ต
ิ กลับสูป
• เปิ ดโอกาสให ้วัยรุน
่ ได ้รวมกลุม
่ กันพูดคุย แสดง
ึ ทัง้ ความกลัว ความรู ้สก
ึ สูญเสย
ี ความวิตก
ความรู ้สก
ึ เห็น
กังวล ให ้กลุม
่ ได ้แสดงความเข ้าใจ และความรู ้สก
ิ อยู่
ใจซงึ่ กันและกัน และตระหนักว่า สงิ่ ทีต
่ นเผชญ
ิ
่
Psychological First Aids
S : Skill
ใชกิ้ จกรรมทีเ่ หมาะกับวัยของเด็ก ต.ย. เรียนรู ้
ิ ความเครียด การผ่อน
ปฏิกริ ย
ิ าร่างกายเมือ
่ เผชญ
คลาย การยอมรับและจัดการกับอารมณ์ การ
สร ้างความคิดเชงิ บวก สร ้างอนาคต
ขณะทากิจกรรมต ้องตัง้ ใจฟั งและสงั เกตเด็กที่
เข ้าร่วมกิจกรรม
สาหรับวัยรุน
่ ต ้องคานึงถึงการยอมรับ การ
ตอบสนองโดยไม่มองว่าเขาเป็ นแค่เด็ก
หลักในการจัดกิจกรรม
• ผู ้จัดกิจกรรมต ้องประสานงานเพือ
่ ขอข ้อมูลสว่ น
บุคคลของเด็กทีจ
่ ะเข ้ากลุม
่ ทาความเข ้าใจก่อน
ี้ จงวัตถุประสงค์ แนะนา
เริม
่ กิจกรรม มีการชแ
ทีมงานและแจ ้งกาหนดการ พืน
้ ฐานของเด็กให ้
ครูและนักเรียนได ้ทราบ
์ ละ
• กิจกรรมทีจ
่ ัดขึน
้ ไม่ใชเ่ พียงการเล่นเกมสแ
ไม่ได ้เน ้นเฉพาะความสนุกสนานเท่านัน
้
ิ ธิเด็ก
• ในการดาเนินกิจกรรมต ้องคานึงถึงสท
(Child right)
ื่ เรือ
ความเชอ
่ งศาสนา,คาสอนของครอบครัว
หลักในการจัดกิจกรรม
• ผู ้ดาเนินกิจกรรม ควรเน ้นถึง ควรเป็ นโอกาส
ึ (expression of
ให ้เด็กได ้ระบายความรู ้สก
felling) , การผ่อนคลาย (relaxation) , การ
เสริมแรรงทางบวก (positive reinforcement)
และเพือ
่ นชว่ ยเพือ
่ น (peer support)
ิ้ สุดกิจกรรม ในทุก session ผู ้จัด
• ก่อนสน
กิจกรรมต ้อง balance อารมณ์ของเด็ก ชว่ ย
ิ
เด็กหาทางออกให ้ได ้ อย่าปล่อยให ้เด็กเผชญ
กับความว ้าวุน
่ ใจ
• การจัดกิจกรรมผู ้รับผิดชอบกลุม
่ ต่างๆ ควร
หลักในการจัดกิจกรรม
• ควรทาการ Screening ถึงภาวะสุขภาพของเด็ก
ิ้ สุด
สงั เกตพฤติกรรมและสง่ ต่อเด็กเมือ
่ สน
กิจกรรมหรือในรายทีเ่ ด็กต ้องการความ
ชว่ ยเหลืออย่างเร่งด่วนควรประสานงานในการ
สง่ ต่อเด็กไปยังหน่วยงานเพือ
่ รับการชว่ ยเหลือ
อย่างเหมาะสม
ึ
• การเตรียมการสาหรับการป้ องกันความรู ้สก
separation anxiety โดยการแจ ้งกาหนดการ
ปฏิบัตงิ านของผู ้จัดกิจกรรมให ้เด็กและครอบครัว
ได ้ทราบตัง้ แต่แรก และจัดให ้มีชว่ งของการสรุป
กิจกรรม “แต่งหน้าแต่งตัวตุก
๊ ตา
ตามอารมณ์ของฉัน
ึ ของเด็กเกีย
แนวคิด : การแสดงความรู ้สก
่ วกับ
ตนเองสาหรับเด็กอนุบาล สามารถประเมินได ้
จากการเล่นของเด็ก การแต่งหน ้าแต่งตัวให ้
ตุก
๊ ตา
วัตถุประสงค ์ :
ึ ต่อตนเองออกมา
• เพือ
่ ให ้เด็กได ้ระบายความรู ้สก
ึ นึกคิดของ
พร ้อมทัง้ ตระหนักรู ้ถึงความรู ้สก
ตนเอง
่
สือการจัดกิ
จกรรม
• รูปหน ้าคนทีว่ า่ งเปล่า
้
ขันตอนการจัดกิ
จกรรม
• ผู ้นากลุม
่ อธิบาย ถึงการทากิจกรรม “แต่งหน ้า
แต่งตัวตุก
๊ ตาตามอารมณ์ฉัน”
• มอบหมายให ้ทุกคนแต่งหน ้าตุก
๊ ตา ดินสอส ี
ต่างๆ
ึ ต่อการแต่งหน ้าตุก
• ให ้บอกความรู ้สก
๊ ตา แล ้ว
ื่ มโยงมาสูอ
่ ารมณ์ความรู ้สก
ึ ของเด็กแต่ละคน
เชอ
ให ้เด็กอธิบายภาพทีแ
่ ต่งตามความสมัครใจ
• ให ้การเสริมแรงทางบวก โดยการให ้คาชมแก่
ื่ ตนเองไว ้มุมขวา
เด็กทุกคน และให ้เด็กเขียนชอ
กิจกรรม “บ้านของฉัน”
ิ
แนวคิด : ความหวังและจินตนาการชว่ ยให ้สามารถเผชญ
ต่อปั ญหาต่างๆ ได ้ การใชจิ้ นตนาการ สร ้างสรรค์จาก
การขีดเขียนวาดภาพจะทาให ้เกิดความหวัง
วัตถุประสงค ์
ี การ
• เพือ
่ เปิ ดโอกาสให ้เด็กๆ ได ้ตระหนั กถึงการสูญเสย
เปลีย
่ นแปลงทีเ่ กิดขึน
้ ในชวี ต
ิ ประจาวัน
• เพือ
่ ให ้เด็กได ้เรียนรู ้ความจริงและค ้นหาวิธท
ี จ
ี่ ะนาไปสู่
ิ กับการเปลีย
การเผชญ
่ นแปลงภายในครอบครัว
ั พันธภาพและความเข ้มแข็งให ้กับ
• เพือ
่ เสริมสร ้างสม
ิ ในกลุม
สมาชก
่ โดยการสง่ ใจไปยังคนทีจ
่ ากไป การ
ึ เศร ้าเสย
ี ใจ ความโกรธและความ
ระบายถึงความรู ้สก
้
ขันตอนการจ
ด
ั กิจกรรม :
• ผู ้นากลุม
่ อธิบายวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมทีต
่ ้องการให ้
เด็กๆ ทุกคนได ้คิด เกีย
่ วกับการเปลีย
่ นแปลงทีเ่ กิดขึน
้ หลัง
เหตุการณ์ตอ
่ ตัวเด็กและครอบครัว บ ้านของเด็ก
ิ
• ผู ้นากลุม
่ อธิบายให ้เด็กๆ เข ้าใจในกฏกติกาเบือ
้ งต ้นว่า สมาชก
ึ ของ
ทุกคนในกลุม
่ จะต ้องยอมรับความคิดเห็นและความรู ้สก
ิ ด ้วยกัน ทุกคนแลกเปลีย
ึ
เพือ
่ นสมาชก
่ นความคิดและความรู ้สก
ิ ด ้วยกัน ทุกคนและเปลีย
ของเพือ
่ นสมาชก
่ นความคิดและ
ประสบการณ์เพือ
่ ให ้ชุมชน หมูบ
่ ้านหรือโรงเรียนสวยงามตาม
ความฝั นและจินตนาการของทุก ๆ คน
ิ กลุม
• ให ้สมาชก
่ วาดภาพระบายส ี “บ ้านของฉัน”
• สร ้างจินตนาการถึงกิจวัตรประจาวันทีเ่ ปลีย
่ นแปลงไปหาก
ิ มีความคับข ้องใจ หรือมีสงิ่ ทีค
สมาชก
่ ้างอยูใ่ นใจ ผู ้นากลุม
่ ควร
้ั
อ่านนิ ทาน “ลาร ์สลู กหมีขวโลก”
แนวคิด : การผจญภัยของลูกหมีน ้อย จนเอาชนะ
อุปสรรคต่างๆ ให ้กลับมาอยูร่ ว่ มกับครอบครัวอีก
ครัง้ หนึง่ ชว่ ยสง่ เสริมความมั่นใจและสร ้าง
จินตนาการในแง่บวกให ้แก่เด็ก ทาให ้เด็กเกิด
ความหวัง
วัตถุประสงค ์ :
ิ เกิดความรู ้สก
ึ สนุกสนาน
• เพือ
่ ให ้สมาชก
ิ ปั ญหา
• เกิดความหวังและกาลังใจกล ้าทีจ
่ ะเผชญ
ต่างๆ
้
ขันตอนการจัดกิ
จกรรม :
• ผู ้นากลุม
่ จัดให ้เด็กนั่งรวมกันอยูห
่ น ้า Story –
board วางภาพเรือ
่ งราวลงบน story – board
ทีละภาพ
• พร ้อมกับอ่านเนือ
้ เรือ
่ งให ้ฟั ง
ิ ชว่ ยกันสรุปถึงความสาคัญ
• เมือ
่ จบเรือ
่ งให ้สมาชก
ของเพือ
่ นและการมีความหวัง
Psychological First Aids
E : Education
เข ้าถึงครอบครัว ผู ้ดูแลเด็ก ให ้คาแนะนาในการรับ
ั ผัส ให ้ความรู ้สก
ึ ปลอดภัยกับเด็ก
ฟั ง โอบกอด สม
และยอมรับสภาวะทางอารมณ์ของเด็ก ซงึ่ ต ้องมี
กิจกรรมเพือ
่ ชว่ ยลดความตึงเครียดให ้กับครอบครัว
ด ้วย
จัดให ้เด็กและครอบครัวได ้อยูด
่ ้วยกัน และให ้เด็ก
่ การ
ได ้มีวถ
ิ ช
ี วี ต
ิ ประจาวันแบบเดิมโดยเร็วทีส
่ ด
ุ เชน
ไปโรงเรียน การชว่ ยเหลืองานบ ้าน
ิ
ขอให ้คานึงถึงกลุม
่ ทีอ
่ าจต ้องการการดูแลทีใ่ กล ้ชด
่ เด็กทีส
ี พ่อแม่ คนทีเ่ ด็กรัก คนใน
เชน
่ ญ
ู เสย
ครอบครัวบาดเจ็บ แม่ทก
ี่ าลังตัง้ ครรภ์ เด็กทีม
่ ภ
ี าวะ
Psychological First Aids
E : Education
ชใี้ ห ้พ่อแม่เห็นว่าความเข ้มแข็งพร ้อมทีจ
่ ะ
ิ หน ้ากับความสูญเสย
ี และแก ้ปั ญหาที่
เผชญ
ติดตามมาของพ่อแม่ จะเป็ นกาลังใจและเป็ น
แบบอย่างทีด
่ ใี ห ้กับเด็ก
หากไม่มั่นใจในการดูแลเด็กและครอบครัวทีม
่ ี
ี่ ง ควรรีบสง่ ต่อหรือปรึกษาทีม
ความเสย
สุขภาพจิตเด็ก
่ ยปกป้องเด็ก
ปัจจ ัยทีช
่ ว
ั พันธภาพทีผ
• การมีสม
่ ก
ู พัน มั่นคง และปลอดภัย
อย่างต่อเนือ
่ งกับพ่อหรือแม่หรือผู ้ปกครอง การ
แยกเด็กจากคนทีเ่ ด็กคุ ้นเคยเป็ นสงิ่ ทีไ่ ม่ควรทา
• พ่อแม่/ผู ้ปกครองมีความสามารถในการควบคุม
จัดการสถานการณ์ในครอบครัวและมีการปรับตัว
ของครอบครัว
ิ จากคนในครอบครัว
• การดูแลเด็กอย่างใกล ้ชด
ระยะฟื้ นฟู
ี่ ง
• ทีมเยียยาจิตใจควรติดตามและค ้นหากลุม
่ เสย
เพือ
่ สง่ ต่อการรักษามีความสาคัญมาก ลักษณะ
ของเด็กเหล่านีค
้ อ
ื
• มีปัญหาพฤติกรรม และปั ญหาการปรับตัวคงอยู่
นานกว่า 1 เดือน
ึ เศร ้า โรควิตกกังวล ความ
• มีอาการโรคซม
ผิดปกติทางจิตใจภายหลังมหัตภัย
(Posttraumatic stress disorder)
• มีความคิดฆ่าตัวตาย
ี่ งภัยรุนแรง
• มีพฤติกรรมสย
•
่ ควรท
่
่ วยเหลือเด็กใน
สิงที
าเพือช่
การเผชิญกับ
ประสบการณ์
ห
ายนะภั
ย
่ กถาม และให้
พู ดคุยกับเด็ก ตอบคาถามทีเด็
่ กต้องในระด ับทีเด็
่ กจะเข้าใจได้ง่าย
ข้อมู ลทีถู
่
• คุยกับเด็กเกียวกับอารมณ์
ความรู ้สึกของท่าน
้
บอกให้เด็กรู ้ว่าการมีความรู ้สึกต่าง ๆ นันเป็
น
่
เรืองธรรมดา
แต่ควรแสดงให้เด็กเห็นด้วย ว่า
ท่านควบคุมอารมณ์ และสถานการณ์ได้ ช่วย
่
่
ให้เด็กรู ้สึกมันใจว่
่ก ับท่าน
าจะปลอดภัยเมืออยู
• พยายามให้สมาชิกครอบคร ัวอยู ่รว่ มกัน
่
• พยายามให้ความมันใจว่
าเขาจะปลอดภัย และ
ได้ร ับการดูแล แม้วา
่ จะอยู ่ในสถานการณ์ก็
ตาม
•
่ ควรท
่
่ วยเหลือเด็กใน
สิงที
าเพือช่
การเผชิญกับ
ประสบการณ์
หายนะภัย
ให ้โอกาสให
้เด็กได ้
แสดงออก โดยผ่านการ
เล่น และทากิจกรรมต่าง ๆ
่ การวาดรูป ระบายส ี
เชน
หรือแม ้กระทั่งเล่นละคร
เกีย
่ วกับเหตุการณ์ทเี่ กิดขึน
้
• ลดความคาดหวัง ต่อเด็ก
ลงชวั่ คราวทัง้ ทีบ
่ ้าน และที่
โรงเรียน เพราะในชว่ งนี้
เด็กอาจเรียนไม่ได ้ดี
เท่าทีค
่ วร หรือมีพฤติกรรม
่ ควรท
่
่ วยเหลือเด็กใน
สิงที
าเพือช่
การเผชิญกับ
ประสบการณ์หายนะภัย
• ควบคุมการรับรู ้ข่าวสาร
ื่ ต่าง ๆ
ของเด็กทางสอ
่ โทรทัศน์
เชน
ื พิมพ์ วิทยุ ไม่ให ้
หนังสอ
ื่
มากเกินไป บ่อยครัง้ สอ
ต่าง ๆ มักชอบแสดง
ภาพทีน
่ ่ากลัวซา้ ๆ
เพือ
่ ให ้คนสนใจ แต่เด็ก
อาจได ้รับความสะเทือนใจ
เหมือนถูกกระตุ ้นเตือนให ้
ปั จจัยปกป้ องเด็ก
่ นคง,
่
• สัมพันธภาพทีมั
ปลอดภัย และ
อบอุน
่ เอาใจใส่จากพ่อหรือแม่
• ความสามารถของพ่อแม่ในการเผชิญ
สถานการณ์
• การได้ร ับการดู แล สัมผัสจากพ่อแม่ คน
ในครอบคร ัว
Laor et al., 2001
ข้อแนะนาสาหร ับพ่อแม่
• ดูแลต ัวคุณเอง (Calm and Control)
ั
• สงเกตพฤติ
กรรมของลูก : การกิน การนอน
ั
้ วี ต
การปร ับต ัวทางสงคม
รบกวนการใชช
ิ
้
• คุยก ับลูกถึงสงิ่ ทีเ่ กิดขึน
• เริม
่ ต้นด้วยการฟังว่าลูกร ับรูอ
้ ย่างไร
้
• อธิบายสงิ่ ทีเ่ กิดขึน
• ลดการร ับข่าวสารทางโทรท ัศน์
American Academy of Pediatrics
ข้อแนะนาสาหร ับพ่อแม่
ั
กระตุน
้ การพูดคุย ซกถามของลู
ก
ไม่จาเป็นต้องเร่งเร้าให้พด
ู
เด็กอาจไม่พร้อมทีจ
่ ะคุยก ับผูใ้ หญ่
ให้ความมน
่ ั ใจเรือ
่ งความปลอดภ ัย
เป็นต้นแบบเรือ
่ งการแสดงออกของอารมณ์
่ ยให้ลก
่ ยเหลือเพือ
ชว
ู คิดเรือ
่ งการชว
่ น มากกว่าคิด
จะระง ับเหตุการณ์
• หาทีป
่ รึกษา
•
•
•
•
•
•
American Academy of Pediatrics