การจัดการทีมงานในองค์ การ โดย อาจารย์ ศุภกฤต ดิษฐสุ วรรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ความหมายของการทางานเป็ นทีม การทางานเป็ นกลุ่มบุคคล(work team) คือการทางานโดย บุคคลหลายคน โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน และมีการแบ่ งสรร หน้ าทีก่ นั แล้ วแต่ ละคนมีความพึงพอใจในหน้ าทีข่

Download Report

Transcript การจัดการทีมงานในองค์ การ โดย อาจารย์ ศุภกฤต ดิษฐสุ วรรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ความหมายของการทางานเป็ นทีม การทางานเป็ นกลุ่มบุคคล(work team) คือการทางานโดย บุคคลหลายคน โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน และมีการแบ่ งสรร หน้ าทีก่ นั แล้ วแต่ ละคนมีความพึงพอใจในหน้ าทีข่

การจัดการทีมงานในองค์ การ
โดย อาจารย์ ศุภกฤต ดิษฐสุ วรรณ
มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์
ความหมายของการทางานเป็ นทีม
การทางานเป็ นกลุ่มบุคคล(work team) คือการทางานโดย
บุคคลหลายคน โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน และมีการแบ่ งสรร
หน้ าทีก่ นั แล้ วแต่ ละคนมีความพึงพอใจในหน้ าทีข่ องตน
การทางานเป็ นทีม (team work) คือกลุ่มบุคคลทีม่ กี าร
ประสานงานกัน ร่ วมมือกัน สามัคคี มีเป้าหมายร่ วมกัน และเชื่อ
ใจกัน
วัตถุประสงค์ ของการสร้ างทีมงาน
• เพือ่ สร้ างความไว้ วางใจในสมาชิก
ทีมงาน
• เพือ่ หาวิธีการแก้ปัญหาร่ วมกัน
• เพือ่ เสริมสร้ างทักษะความ
เชี่ยวชาญมากขึน้
• เพือ่ ให้ ข้อมูลย้ อนกลับดีขึน้
• เพือ่ สนับสนุนการเรียนรู้ผู้อนื่
• เพือ่ พัฒนาทักษะในการแก้ปัญหาร่ วมกัน
• เพือ่ ช่ วยลดความขัดแย้ งระหว่ างบุคคล
• เพือ่ เสริมสร้ างความคิดริเริ่มสร้ างสรรค์
ให้ สมาชิกของทีม
• เพือ่ เสริมสร้ างขวัญและความพึงพอใจใน
การปฏิบัติงาน
• เพือ่ ปรับปรุงการทางานให้ เกิดประโยชน์
สู งสุ ดในภาพรวม
ความสาคัญของการทางานเป็ นทีม
1. งานบางชนิดไม่ สามารถทาสาเร็จเพียงคนเดียว
2. หน่ วยงานมีงานเร่ งด่ วนทีต่ ้ องการระดมกาลังคน
3. เป็ นงานทีต่ ้ องอาศัยความรู้ ความสามารถจากหลายฝ่ าย
4. งานบางชนิดเป็ นงานทีม่ หี ลายหน่ วยงานรับผิดชอบ
5. เป็ นงานที่ต้องการความคิดริเริ่มสร้ างสรรค์
6. หน่ วยงานต้ องการสร้ างบรรยากาศของความสามัคคีให้
เกิดขึน้
ส่ วนประกอบของทีม
 หัวหน้าทีม
 สมาชิกของทีมงาน
 เลขานุการ
 หัวหน้ าทีมมีคุณลักษณะดังนี้
1.
2.
3.
4.
เป็ นทีย่ อมรับนับถือของสมาชิกในกลุ่ม
เปิ ดเผย จริงใจ ซื่อสั ตย์ และเป็ นกันเอง
ไม่ ใช้ อทิ ธิพลครอบงากลุ่ม
มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ในการทางานสู ง
ส่ วนประกอบของทีม(ต่ อ)
 หัวหน้ าทีมมีคุณลักษณะดังนี(้ ต่ อ)
5. สามารถดาเนินการประชุ มได้ อย่ างมีประสิ ทธิภาพ
6. ไม่ ผูกขาดการเป็ นผู้นากลุ่มตลอดเวลา
7. พร้ อมให้ ความช่ วยเหลือกลุ่ม
8. สามารถสื่ อสารผลงานของทีมให้ สาธารณชนเข้ าใจได้
9. มีวุฒิภาวะทางสั งคม
10. มีแรงจูงใจและแรงขับทางด้ านความสาเร็จสู ง
ส่ วนประกอบของทีม(ต่ อ)
 บทบาทและหน้ าที่สาคัญของหัวหน้ าทีม
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
รับนโยบายจากองค์ การ
กาหนดเป้าหมาย แนวทางและขั้นตอนในการปฏิบัติได้
มอบหมายงานแก่สมาชิก
สร้ างบรรยากาศด้ วยการจูงใจ เสริมแรง ให้ กาลังใจ
ใช้ เทคนิคเผชิญความขัดแย้ งไม่ ว่าเรื่องงานหรือเรื่องส่ วนตัว
อานวยความสะดวกให้ ความช่ วยเหลือแก้ปัญหาต่ างๆ
ประเมินผลงานและผู้ร่วมงาน
ส่ วนประกอบของทีม(ต่ อ)
 สมาชิกของทีมงาน
 คุณลักษณะของสมาชิกของทีมงาน
1. สามารถรับผิดชอบงานในหน้ าทีข่ องตนและของกลุ่ม
2. เป็ นผู้รู้จักฟัง รู้จักพูด และแสดงความคิดเห็นทีเ่ ป็ นประโยชน์ ต่อ
กลุ่ม
3. ยอมรับฟังและเคารพความคิดเห็นของเพือ่ นสมาชิก
4. เคารพมติของกลุ่ม และป้องกันมิให้ เบี่ยงเบนมติของกลุ่มออกไป
5. เป็ นผู้เสี ยสละ อาสาช่ วยทางานทุกด้ าน
6. กล้าแสดงความคิดเห็น
ส่ วนประกอบของทีม(ต่ อ)

สมาชิกของทีมงาน
 บทบาทและหน้ าที่สาคัญของสมาชิก
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
รับมอบหมายงานจากหัวหน้ าทีม
ปฏิบัตงิ านด้ วยความรับผิดชอบให้ บรรลุเป้ าหมายของทีมงาน
ให้ ความร่ วมมือในการแก้ปัญหาต่ างๆ
เป็ นผู้ตามทีด่ ี
ตั้งใจจริงในการทางาน
คานึงถึงผลประโยชน์ ของส่ วนรวม
คานึงถึงความสาคัญของทีมงาน
ส่ วนประกอบของทีม(ต่ อ)
 เลขานุการ
 คุณลักษณะของเลขานุการกลุ่ม
1.
2.
3.
4.
5.
มีความสามารถในการเขียนหนังสื อดี
สามารถจับประเด็นการพูด การปรึกษาหารือของกลุ่มได้ ดี
สามารถสรุปผลการประชุ มและทารายงานให้ สมาชิกได้ ทราบ
มีความรู้และประสบการณ์ ในการเสนอรายงานอย่ างมีแบบแผน
สามารถเขียนแผนผัง กราฟ ชาร์ ท ได้
ส่ วนประกอบของทีม(ต่ อ)
 เลขานุการ
 บทบาทและหน้ าทีส่ าคัญของเลขานุการ
1. รับคาสั่ งจากหัวหน้ าหรือผู้เกีย่ วข้ อง
2. ส่ งข่ าวสารทีร่ ับมาไปยังบุคคลหรือหน่ วยงานทีเ่ กีย่ วข้ อง
3. ประสานงานระหว่ างผู้บังคับบัญชาและถ่ ายทอดสิ่ งที่
ผู้ใต้ บังคับบัญชาเสนอให้ นายได้ รับรู้
4. มีมนุษยสั มพันธ์ ทดี่ ีแบบสร้ างสรรค์ต่อทุกๆคน
(Team Management)
ท่ านรู้ สึกอย่ างไรกับคากล่าวนี้
สามัคคีน้ันดีอยู่ แต่ ตวั กูต้องเป็ นใหญ่
ทางานคนเดียวดีและเก่ ง ทางานหลายคนเจ๊ งระนาว
ต่ างคนต่ างอยู่ ธุระไม่ ใช่
มากคนก็มากความ
ทาอะไรตามใจคือไทยแท้
โลกแห่ งอนาคต
โลกแห่ งอนาคต มิอาจปฏิเสธรู ปแบบการทางานเป็ นทีม
องค์ กรใดมีทมี งานที่แข็งแกร่ งเปรียบเสมือนมี
ป้อมปราการอันมั่นคงทีย่ ากแก่ การทาลาย
แต่ ง่ายต่ อการพัฒนา สร้ างสรรค์ นาความเจริญสู่ ทนี่ ้ัน
อย่ างยิง่
ถึงเวลาของการปรับตัวและก้ าวสู่ การเรียนรู้ เรื่อง
“ทีมงาน” พร้ อมกันแล้ ว
ความหมายของ ทีม
พัฒนาจนสามารถทางานต่ างๆ
ได้ อย่ างประสิ ทธิภาพ
กลุ่ม
ระบบทีม
ผลตอบแทน
ความต้ องการส่ วนบุคคล
จุดร่ วมของทัศนคติ
และความคาดหวัง
การประเมิน
ความสาเร็จ
ความเข้ าใจร่ วมกัน
กิจกรรม
เหตุใดต้ องทางานเป็ นทีม
ทางานเก่งคนเดียว เก่งได้ ไม่ นาน
รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย
( เอาความเก่งของแต่ ละคนมารวมกัน )
หลายหัวดีกว่ าหัวเดียว
นกไม่ ขน คนไม่ มีเพือ่ น ขึน้ สู่ ทสี่ ู งไม่ ได้
การสร้ างทีมงาน
ขั้นตอนในการสร้ างทีมงาน
เปิ ดรับการเรียนรู้ เรื่องทีม
เตรียมความพร้ อมส่ ู การทางานเป็ นทีม
เปิ ดรับทัศนคติในการทางานเป็ นทีม
เปิ ดรับความคิด
เปิ ดรับการเรียนรู้ใหม่ ๆ
เปิ ดรับประสบการณ์ ใหม่ ๆ
เราไม่ ร้ ู คนอืน่ รู้
(ยิง่ ขยายยิง่ หลงทาง)
เรารู้ คนอืน่ รู้
(ยิง่ ขยาย ยิง่ กว้ างขวาง)
เราไม่ ร้ ู คนอืน่ ไม่ ร้ ู
(ยิง่ ขยาย ยิง่ ไม่ ร้ ู จักตนเอง)
เรารู้ คนอืน่ ไม่ ร้ ู
(ยิง่ ขยายยิง่ โดดเดีย่ ว)
Johari Windows
เตรียมความพร้ อมสู่ การทางานเป็ นทีม
2.เปิ ดตัว
ปรับตัว สร้ างตนเองสามารถดาเนินชีวติ ให้ เข้ ากับ
สภาพแวดล้อมอย่ างเหมาะสม
หนี ถ่ วงเวลา
อุปสรรค
หันหน้ าสู้ แก้ ไข
กระบวนการพัฒนาทีมงาน
3.เปิ ดรับการเรียนรู้เรื่องทีม
สร้ างความเชื่อมัน่ ในสมาชิกกลุ่ม และมัน่ ใจกับทีมของตน
ฝึ กทักษะในการทางานเป็ นทีม มีการวางแผนประสานงาน
ช่ วยเหลือซึ่งกันและกัน
สร้ างบรรยากาศในการทางานเป็ นทีม
ช่ วยกลุ่มสื่ อสาร
ช่ วยกลุ่มรวมตัวกัน
ขั้นที่ 1 ศึกษาศักยภาพของทีม
ขั้นที่ 2 สร้ างเป้ าหมายและปรับสภาพการทางานของทีม
ขั้นที่ 3 มุ่งมัน่ เพือ่ พัฒนาทีมงาน
ขั้นที่ 4ประเมิน ติดตาม และปรับปรุง
องค์ ประกอบพืน้ ฐานทีส่ ่ งผลต่ อประสิ ทธิผลสู งสุ ดของทีม
ขนาดของทีมงาน
ความเป็ น
ปึ กแผ่ นของ
ทีมงาน
ประสิ ทธิผลสู งสุ ด
ของทีมงาน
ปทัสถานของ
ทีมงาน
สถานภาพ
ของสมาชิกใน
ทีมงาน
พฤติกรรมที่ส่งเสริมการทางานของทีมงาน
การริเริ่ม
การแสวงหาข้ อมูล
การชี้แจงให้ กระจ่ าง
การสรุป
ทีมงานทีม่ ีประสิ ทธิภาพ
1. มีเป้าหมายชัดเจนและเป็ นทีย่ อมรับ
2. ปฏิบัติงานได้ ผลสาเร็จตามเป้าหมาย
3. มีระบบการบริหารและการจัดการในทีม
4. สมาชิกรวมกันทางด้ านความคิดและการริเริมสร้ างสรรค์
5. ความสั มพันธ์ ของสมาชิกภายในทีมเป็ นไปอย่ างเข้ าใจกัน
พฤติกรรมที่ธารงรักษาความสั มพันธ์ ของทีม
การสนับสนุนให้ กาลังใจ
การผสมผสาน
การกาหนดมาตรฐาน
การปฏิบัติตาม
การคุ้มครอง
พฤติกรรมที่ขัดขวางการทางานของทีมงาน
การก้าวร้ าว
การถอยหนี
การขุดคุยเรื่องจุกจิกหยุมหยิม
การเรียกร้ องยกย่ อง
การเรียกร้ องความเห็นใจ
การขัดขวาง
ทีมงานที่มีประสิ ทธิภาพ
6. มีการทบทวนและประเมินผล ปรับปรุงงานให้ ดขี นึ้
7. ภาวะผู้นาของทีมงานเป็ นอย่ างเหมาะสม
8. มีการพัฒนาประสิ ทธิภาพของสมาชิกตลอดเวลา
9. มีสวัสดิการและสร้ างขวัญกาลังใจแก่ สมาชิก
10. มีการควบคุมตัวแปรต่ าง ๆ ในการทางาน เช่ น
บรรยากาศในการทางาน การประสานงาน การเผชิญหน้ ากัน
การบริหารทีมงาน
ผู้บังคับบัญชา
ให้ ข้อมูล แนะนา ชักชวน
ขอความเห็นให้ การสนับสนุน
ขอความร่ วมมือการทางาน
เป็ นทีม
ผู้ใต้ บังคับบัญชา
เข้ าร่ วมงาน
ภารกิจของผู้นาในทีมงาน
สิ่ งทีท่ ้ าทายผู้นา คือ ทาอย่ างไรจึงจะ
หล่ อหลอมความแตกต่ างของความเชื่อ
ค่ านิยม ความคิด หรือ อัตตา (ME) ของ
แต่ ละคนให้ เป็ นหนึ่งเดียว (WE)
ME
WE
เงื่อนไขสร้ างความสาเร็จของทีม
1. นโยบาย
2. ทัศนคติ
ถูกต้ อง เกือ้ กูล
แน่ นอน มี
ทิศทางชัดเจน
ความสาเร็จ
3. ความสามารถ
4. การยอมรับ
เฉพาะตัว
ทั้งภายในและ
ความสนใจร่ วมกัน
ภายนอก
การสร้ างพลังความสาเร็จของทีม
1.สร้ างความเชื่อมั่น
2. สร้ างเป้ าหมายร่ วมกัน
3. สร้ างความภูมิใจและความเป็ นเจ้ าของ
4. สร้ างการยอมรับซึ่งกันและกัน
5.สร้ างความศรัทธาและความไว้ วางใจ
เคล็ดลับการพัฒนาทีมงาน
ช่ วยกันทา
ช่ วยกันคิด
รู้สึกผูกพัน
เคล็ดลับการพัฒนาทีมงาน
รู ้สึก
ผูกพัน
I
U
WE
She/Me
เคล็ดลับการพัฒนาทีมงาน
ร่ วมกันก่ อ ร่ วมกันคิด
ต่ อรอง
มองตรงกัน
เคล็ดลับการพัฒนาทีมงาน
ช่ วยกันทา
ปฏิบัตกิ าร
“จงรู ้จกั สามัคคี ”
หนึ่งในพระราชดารัสขององค์พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย
มนุษยสั มพันธ์
กับการทางานเป็ นทีม
แนวทางในการศึกษามนุษยสั มพันธ์
 การเข้ าใจตัวเอง
 การเข้ าใจผู้อนื่
 การเข้ าใจสั งคม
 การเข้ าใจโครงสร้ างของหมู่คณะ
 การเข้ าใจหลักการและวิธีการสร้ างมนุษยสั มพันธ์
การร้ ู จกั ตนเอง
ความแตกต่ างของมนุษย์ เกิดจาก
1. ค่ านิยม ( Values)
2. การรับรู้ (Perception )
3. ทัศนคติ (Attitudes)
4. บุคลิกภาพ (Personality)
การเข้ าใจผ้ ูอนื่
วิธีการศึกษาบุคคล
1. การสื บประวัติ
2. ค้ นคว้ าจากตารา แลวนามาเป็ นหลักวิจยั บุคคล
3. การสั มภาษณ์ ปราศรัย และสนทนา
4. การสั งเกต
5. จากผลงานที่ผ่านมา และการปฏิบัตงิ านร่ วมกัน
นิสัยสามัญของมนุษย์
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
ทุกคนไม่ ชอบให้ ใครตาหนิ
ทุกคนอยากมีชื่อเสี ยงเป็ นทีย่ อมรับ
ทุกคนจะทาอะไรสาเร็จเมื่อมีความต้ องการ
ทุกคนสนใจตนเองมากกว่ าสนใจผู้อนื่
ทุกคนชอบคนยิม้ แย้ มแจ่ มใสมากว่ าหน้ าบึง้
ทุกคนมีความสนในชื่อของตนเอง
ทุกคนต้ องการให้ ผู้อนื่ ฟังเมื่อตนพูด
นิสัยสามัญของมนุษย์(ต่ อ)
8. ทุกคนชอบให้ ผู้อนื่ พุดเรื่องทีน่ ่ าสนใจ
9. ทุกคนไม่ ชอบให้ ใครโต้ เถียง
10. ทุกคนอยากให้ ผู้อนื่ ยอมรับความคิดของตน
11. ทุกคนชอบเห็นการยอมรับเมื่อทาผิด
12. ทุกคนต้ องการความเป็ นกันเอง
13. ทุกคนคิดว่ าความคิดของตนเป็ นสิ่ งทีด่ ี
เทคนิคการชนะใจผู้อนื่
1.
2.
3.
4.
5.
6.
อย่ าตาหนิ ประณาม หรือพร่าบ่ น
จงยกย่ องสรรเสริญอย่ างจริงใจ
จงเอาใจใส่ อย่ างแท้ จริงต่ อผู้อนื่
ยิม้
จงจาชื่อผู้อนื่ และเรียกให้ ถูก
จงเป็ นนักฟังที่ดี
เทคนิคการชนะใจผู้อนื่ (ต่ อ)
7.สนทนาในเรื่องที่อกี ฝ่ ายหนึ่งสนใจ
8. ระงับ หรือหลีกเลีย่ งการโต้ เถียง
9. จงเคารพความคิดเห็นของผู้อนื่
10. จงพูดถึงความผิดของท่ านก่ อนทีจ่ ะตาหนิผ้ ูอนื่
11. จงสนับสนุนให้ กาลังใจ ไม่ ซ้าเติม
การสร้ างความสั มพันธ์
ระหว่ างบุคลากรในทีมงาน
ในการทางานเป็ นทีมจะมีบุคคลเกีย่ วข้ องอยู่ 4 กลุ่ม ได้ แก่
1. ผู้บังคับบัญชา
2. ผู้ใต้ บังคับบัญชา
3. เพือ่ นร่ วมงาน
4. บุคคลภายนอก หรือสั งคม
การสร้ างมนุษยสั มพันธ์ กบั
ผู้ใต้ บังคับบัญชา
1.
2.
3.
4.
5.
6.
รุ้จกั ควบคุมอารมณ์ ของตนเอง
รู้ จกั ส่ งเสริมให้ กาลังใจแก่ ผู้ใต้ บงั คับบัญชา
รู้ จกั ยกย่ องชมเชยให้ บาเหน็จความชอบ
หลีกเลีย่ งการขู่บังคับ
ชี้แจงความเคลือ่ นไหวในวงงานให้ ทราบ
รักษาผลประโยชน์ ของผู้ใต้ บังคับบัญชา
การรสร้ างมนุษยสั มพันธ์ กบั
ผู้บังคับบัญชา
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
เรียนรู้นิสัยผู้บังคับบัญชา
ทางานให้ ดี หลีกเลีย่ งการประจบสอพลอ
หาทางทาให้ ความคิดของผู้บังคับบัญชาบังเกิดผล
ให้ ความเคารพยกย่ องผู้บังคับบัญชาตามฐานะ
อย่ าให้ มีเรื่องกับเพือ่ นร่ วมงาน
อย่ ารบกวนผู้บังคับบัญชาในเรื่องเล็กน้ อย
เข้ าหาผู้บังคับบัญชาให้ เหมาะสมกับโอกาสและเวลา
การสร้ างมนุษยสั มพันธ์ กบั ผู้บังคับบัญชา
7. อย่ านินทาผู้บังคับบัญชา
8. แสดงความขอบคุณเมื่อผู้บังคับบัญชาปฏิบัตดิ ดี ้ วย
9.สรรเสริญคุณความดีของผู้บังคับบัญชาในโอกาสอันควร
10. อย่ าบ่ นถึงความยากลาบากในการปฏิบัติงานต่ อหน้ า
ผู้บังคับบัญชา
11. อย่ าโกรธผู้บังคับบัญชาเมื่อท่ านไม่ เห็นด้ วยกับความคิด
ของเรา
การทางานเป็ นทีม
(ต่ อ)
การทางานเป็ นทีม
(ต่ อ)
การทางานเป็ นทีม
28 พ.ย.52
ประโยชน์ ของการทางานเป็ นทีม
1. ผลงานย่ อมสู งกว่ าคนเดียวทา
2. ผลสาเร็จเป็ นของทีมงาน
3. มีความรู้ สึกทีด่ ี
4. เกิดพลัง
ลักษณะที่ดีของการทางานเป็ นทีม
1. บรรยากาศภายในกลุ่มควรอบอุ่นและเป็ นมิตรต่ อกัน
2. สมาชิกทุกคนเข้ าใจวัตถุประสงค์ ของกลุ่มตรงกัน
3. สมาชิกสนทนาและปรึกษาในสิ่ งทีเ่ ป็ นประโยชน์ ต่อกลุ่ม
4. สมาชิกโต้ แย้ งกันด้ วยเหตุผลและหลักการ ไม่ นาความรู้ สึก
ส่ วนตัวและอคติมาเกีย่ วข้ อง
5. แม้ มกี ารขัดแย้ งกันในด้ านความคิด แต่ สมาชิกทุกคนยังเต็ม
ใจทีจ่ ะเป็ นส่ วนรวมของกลุ่ม
ลักษณะที่ดีของการทางานเป็ นทีม(ต่ อ)
6. การพิจารณาความ มุ่งสร้ างสรรค์ และแก้ ปัญหาในการ
ทางาน ไม่ เป็ นการวิจารณ์ เรื่องส่ วนตัว
7. การตัดสิ นใจดาเนินการของกลุ่มเป็ นไปโดยความเห็น
ร่ วมกันเป็ นส่ วนใหญ่ บนพืน้ ฐานของความถูกต้ องและความดี
8. ทุกคนยอมรับในความสามารถของกันและกัน
9. ผู้นาและผู้ร่วมงานไม่ บีบบังคับซึ่งกันและกัน
10. มีการตรวจสอบการทางานของทีมเป็ นระยะ ๆ
ความแตกต่ างของมนุษย์ ทตี่ ้ องคานึงถึง
1. เพศ
2. วัย
3. การศึกษา ความสามารถ ประสบการณ์
4. ความเชื่อ
5. รสนิยม
6. รู ปร่ าง
7. สิ่ งแวดล้ อม
องค์ ประกอบของทีม
1. วัตถุประสงค์ (objective)
2. ระบบทีม(team organization)
3. สมาชิกทีม(team member)
4. ผู้นาทีม(team leader)
5. อานาจความรับผิดชอบ(authorization)
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่ อทีม
1. ความขัดแย้ ง
2. ความจริงใจ
3. ผลประโยชน์
4. การมีส่วนร่ วม
5. การนาเสนอ
6. การเสี ยสละ
7. ความแตกต่ าง
8. เรื่องส่ วนตัว
9. ประสบการณ์
10. การใช้ คาพูด
สาเหตุของการเกิดข้ อขัดแย้ งของทีม
1. ประสบการณ์ ส่วนบุคคล
2. การเปลีย่ นแปลงไปจากปกติวสิ ั ย
3. ศักดิ์ศรีแห่ งตน(เสี ยหน้ า/ไม่ กลัวเสี ยหาย)
4. การถกเถียง
5. ขาดข้ อมูลสนับสนุน
การขจัดข้ อขัดแย้ งของทีม
1. เปิ ดโอกาสให้ แสดงความคิดเห็นเต็มที่
2. หลีกเลีย่ งการพูดเรื่องส่ วนตัว
3. มุ่งประเด็นไปทีข่ ้ อขัดแย้ ง
4. อย่ าใช้ ภาษาดูถูก หลีกเลีย่ งการเสี ยดสี
5. เคารพความคิดเห็นและประสบการณ์
6. ยึดหลักเหตุผล ใช้ หลักฐานข้ อมูล
ความขัดแย้ งกับการทางานเป็ นทีม
•
•
•
•
•
เพราะคนแตกต่ างกัน จึงทาให้ เกิด ความขัดแย้ งกัน
ความขัดแย้ งเป็ นเรื่องธรรมดาทีเ่ กิดขึน้ ในทีม
ความขัดแย้ งจะสู งเมื่อทีมอยู่ในระยะของการเปลีย่ นแปลง
ปฏิกริ ิยาตอบสนองต่ อความขัดแย้ งอาจ สู้ หรือ หนีกไ็ ด้
ผลของความขัดแย้ งอาจสร้ างสรรค์ หรือทาลายก็ได้
อุปสรรคการทางานเป็ นทีมจากผู้นาทีม
1. ขาดการวางแผน/แนวทางปฏิบัติ
2. ไม่ มกี ารแบ่ งงาน/กระจายงานทีช่ ัดเจน
3. คาสั่ งทีไ่ ม่ ชัดเจน/เปลีย่ นแปลงบ่ อยๆ
4. ขาดการติดตามงานทีด่ ี
5. ขาดการสอนงาน การแนะแนวทาง
6. ไม่ ได้ แบ่ งงานตามความถนัด
7. ขั้นตอนปฏิบัตงิ านไม่ ชัดเจน
อุปสรรคการทางานเป็ นทีมจากผู้นาทีม(ต่ อ)
8. ขาดการประสานงานหรือผู้รับผิดชอบ
9. ขาดการควบคุมคุณภาพระหว่ างปฏิบัตงิ าน
10. ไม่ ได้ คานึงถึงความพร้ อมหรือปัจจัยสาคัญ
อุปสรรคการทางานเป็ นทีมจากสมาชิกในทีม
1. ขาดความร่ วมมือร่ วมใจ
2. ไม่ ตระหนักถึงการวางแผนร่ วมกัน
3. รับคาสั่ งปราศจากการทบทวน
4. ไม่ ถามเมือ่ สงสั ย
5. ขาดการเรียงลาดับขั้นตอนการปฏิบัติงาน
6. ขาดความชานาญ ผู้ชานาญในทีม
7. ไม่ กาหนดเวลางานแล้ วเสร็จ/บรรลุ
อุปสรรคการทางานเป็ นทีมจากสมาชิกในทีม(ต่ อ)
8. ขาดการสอนงานกันเอง
9. ไม่ ยอมรับกันภายในกลุ่ม
10. ไม่ เพิม่ พูนความรู้ ภายในทีม
• 1. การมีปฏิสัมพันธ์ ทางสั งคมของบุคคล หมายถึง การทีส่ มาชิก
ตั้งแต่ 2 คนขึน้ ไปมีความเกีย่ วข้ องกันในกิจการของกลุ่ม / ทีม
ตระหนักในความสาคัญของกันและกัน แสดงออกซึ่งการยอมรับ
การให้ เกียรติกนั สาหรับกลุ่มขนาดใหญ่ มักมีปฏิสัมพันธ์ กนั เป็ น
เครือข่ ายมากกว่ าการติดต่ อกันตัวต่ อตัว
บทบาทของกล่ มุ ในองค์ การ
• 1. ผลดีของกลุ่มต่ อองค์ การ
• 2. ผลดีของกลุ่มต่ อสมาชิกของกลุ่ม
ผลดีของกล่ ุมต่ อองค์ การ
งานประสบความสาเร็จ
เพิม่ ความมั่นคง
ทางานยุ่งยากซ้ บซ้ อนได้
การตัดสิ นใจมีคุณภาพ
มีความผูกพันธ์ ต่อ
ภารกิจขององค์ การ
ผลดีของกล่ ุมต่ อสมาชิก
เรียนรู้ องค์ การดีขนึ้
รับความช่ วยเหลือ
จากสมาชิกอืน่
รู้จักตนเองมากขึน้
รู้เทคนิคและ
ทักษะใหม่ ๆ
บรรลุ
Social need , esteem need
Group & Team
• เน้ นทีห่ ัวหน้ ากลุ่ม
• งานรับผิดชอบแต่ ละคน
• เป้าหมายเดียวกับองค์ การ
• ผลงานเกิดจากแต่ ละคน
• เน้ นทีห่ ัวหน้ าและลูกทีมทุกคน
• งานรับผิดชอบแต่ ละคนและ
ร่ วมกัน
• เป้าหมายทีมกาหนดแยกออก
ต่ างหาก
• ผลงานเป็ นของทุกคนเท่ ากัน
Group & Team
• มุ่งประสิ ทธิภาพ
• ผลงานวัดในทางอ้ อม
• อธิปราย ตัดสิ นใจ และ
มอบหมายงาน
• ส่ งเสริมเปิ ดกว้ างและ
แก้ ปัญหาอย่ างรวดเร็ว
• ผลงานวัดทางตรง
• อธิปราย ตัดสิ นใจ และ
ร่ วมกันทางานอย่ างแท้ จริง
19 ธ้ นวาคม 2552
ประเภทของทีม
• 1. ทีมงานทาหน้ าที่เดียวกัน (functional team)
–เป็ นงานทีเ่ กีย่ วข้ องกับการปรับปรุงกิจกรรมในงาน
หรือการแก้ ปัญหาภายในหน่ วยงานเดียวกันให้ ดีขนึ้
–ผู้บังคับบัญชาเป็ นหัวหน้ าทีม ผู้ใต้ บังคับบัญชาของ
หน่ วยงานเป็ นสมาชิกของทีม
ทีม
• แบ่ งเพือ่
• 1. ให้ คาปรึกษาแนะนาหรือช่ วยเหลืองาน
• 2. เพิม่ ผลผลิต
• 3. เพือ่ ทาโครงการ
• 4. เพือ่ ปฏิบัติการ
• 2. ทีมงานข้ ามหน้ าที่ (cross - functional team)
– เป็ นงานคนละหน่ วยงานกันทาหน้ าทีแ่ ตกต่ างกัน
– รวมทีมกันเฉพาะกิจ เกิดขึน้ ชั่วคราว
– ทีมงานประกอบด้ วยสมาชิกทีม่ คี วามเชี่ยวชาญ
หลายสาขาหลายหน่ วยงาน
• 3. ทีมงานบริหารตัวเอง
• (self - managed team)
–ทีมงานกากับตัวเอง
–ทีมงานทีด่ าเนินงานโดยไม่ มผี ้ ูจัดการมาควบคุม
และต้ องรับผิดชอบงานร่ วมตั้งแต่ ต้นจนงานเสร็จ
Self-direct team
วางแผน
การตัดสิ นใจ
และแก้ ปัญหาทุกอย่ าง
จัดตาราง
การทางาน
การควบคุมงาน
การบริหารทีมของตัวเอง
• ตัดสิ นใจแบ่ งงานภายในทีม
• ตัดสิ นใจกาหนดตารางการทางานของทีม
• สามารถทางานให้ กบั ทีมมากกว่ างานเดียว
• ฝึ กอบรมให้ ทีมงานสามารถทางานได้
• ประเมินผลการปฏิบัตงิ านของทุกคนในทีม
• ต้ องรับผิดชอบร่ วมกันในผลสาเร็จของงาน
ความสาเร็จของทีมงานบริหารตนเอง
• ประกอบด้ วย 2 อย่ าง
• 1. การให้ อานาจ (Empowerment)
• 2. การใช้ ทกั ษะทีห่ ลากหลาย (Multiskilling)
ประโยชน์ ของทีมบริหารตนเอง
• 1. เพิม่ ผลผลิตและคุณภาพของผลผลิต
• 2. มีความหยืดหยุ่นในการทางานสู ง
• 3. ตอบสนองการเปลีย่ นแปลงทางด้ านเทคโนโลยีได้ เร็ว
• 4. การจัดจาแนกงานมีน้อย
• 5. สายการบังคับบัญชามีน้อยชั้น
• 6. ทัศนคติในการทางานดีขน
ึ้
ลักษณะของทีมทีม่ ีประสิ ทธิภาพ
ความไว้ วางใจ
การสร้ างความไว้ วางใจ
ความเป็ น
มืออาชีพ
การสื่ อสาร
การ
สนับสนุน
การให้ เกียรติ
และนับถือ
ความ
ยุตธิ รรม
ปัจจัยเกีย่ วกับตัวบุคคล
•ความพอใจในงาน
•ความไว้ วางใจซึ่งกันและกัน
•การสื่ อสารทีด่ ี
•การขัดแย้ งและใช้ อานาจมีน้อย
•การคุกคามต่าความมัน่ คงสู ง
ปัจจัยเกีย่ วกับองค์ การ
•ความมั่นคงขององค์การ
•การบริหารเน้ นให้ มีส่วนร่ วม
•ระบบจูงใจเหมาะสม
•การจัดลาดับความสาคัญของเป้าหมาย
ปัจจัยเกีย่ วกับงาน
•เป้ าหมาย แผนงาน ชัดเจน
•การใช้ ทักษะความเป็ นผู้นาที่เหมาะสม
•งานมีความเป็ นอิสระสู ง
•ทีมมีคุณภาพ
•โครงการชัดเจน
ผลงานของทีมมีประสิ ทธิภาพ
•สร้ างสรรค์์ ความคิดใหม่ ๆ
•งานบรรลุเป้ าหมาย
•มีการปรับตัวสู ง
•มีการเปลีย่ นแปลงทีด่ ี
•ทีมงานมีความผูกพันสู ง
•ผลงานสู งขึน้
แนวคิดและหลักการเกีย่ วกับการทางานร่ วมกันของบุคคล
“No two persons are alike”
ไม่ มีคนสองคนที่เหมือนกัน
1. การยอมรับความแตกต่ างของบุคคล
ความเชื่อถือ
ค่ านิยม
ทางด้ านร่ างกาย
จิตใจ
อารมณ์
ความรู้ สึก
บุคลิกภาพ
ด้ านการรับรู้
ด้ านประสบการณ์
อืน่ ๆ
2. แรงจูงใจของมนุษย์
5. ความต้ องการความสมหวังในชีวติ
4. ความต้ องการทีจ่ ะมีชื่อเสี ยง
3. ความต้ องการทางสั งคม
2. ความต้ องการด้ านความมัน่ คง
1. ความต้ องการด้ านร่ างกาย
3. ธรรมชาติมนุษย์
3.1 มนุษย์ พฤติกรรม
(การแสดงออกทางวาจา สี หน้ า ท่ าทาง)
3.2 มนุษย์ มคี วามรู้ สึกนึกคิด
(เหตุทมี่ นุษย์ มคี วามรัก เกลียด กลัว โกรธ ชิงชัง ชอบ)
3.3 มนุษย์ มปี ัญญา ( ฉลาด โง่ ในตัวเอง )
ก. ชอบแสดงตัว (EXTROVERT)
ข. ชอบเก็บตัว (INTROVERT)
ค. หัวรุนแรง (AMBIVERT)
การแก้ ปัญหาข้ อ วัตถุประสงค์
และเป้ าหมาย
ขัดแย้ ง
การสร้ าง
กิ
จ
กรรม
ความร่ วมมือ องค์ ประกอบการ
ทางานเป็ นทีม
วิ
ธ
ี
ท
างาน
ผลงานสู ง
การติดต่ อสื่ อสาร
ความพอใจ
หน้ าที่และบทบาท
ความเข้ าใจซึ่ง
กันและกัน
ผู้นา
กฎ
ระเบียบ
ยทุ ธวิธีเสริ มสร้ างตัวเราให้ ผ้ อู ื่น
อยากร่ วมงานด้ วย
มีอารมณ์ มั่นคง
มีความเป็ นประชาธิปไตย
มีความรับผิดชอบสู ง
มีความมุ่งมัน่ ทีจ่ ะทาให้ สาเร็จ
ไม่ จู้จจี้ ุกจิกเจ้ าระเบียบเกินไป
ยุทธวิธี (ต่ อ)
ไม่ เป็ นคนดูถูกดูหมิน่ ผู้อนื่
มีความสุ ภาพ อ่ อนโยน เมตตา
เห็นประโยชน์ ส่วนรวม
มีความซื่อสั ตย์ สุ จริต
รู้ จกั ชมเชยให้ กาลังใจเพือ่ นร่ วมงาน
• 2. มีจุดมุ่งหมายและเป้าหมายร่ วมกัน หมายถึง การทีส่ มาชิก
กลุ่มจะมีส่วนกระตุ้นให้ เกิดกิจกรรมร่ วมกันของทีม / กลุ่ม
โดยเฉพาะจุดประสงค์ ของสมาชิกกลุ่มทีส่ อดคล้ องกับองค์ การ
มักจะนามาซึ่งความสาเร็จของการทางานได้ ง่าย
• 3. การมีโครงสร้ างของทีม / กลุ่ม หมายถึง ระบบพฤติกรรม ซึ่งเป็ น
แบบแผนเฉพาะกลุ่มสมาชิกกลุ่มจะต้ องปฏิบตั ติ ามกฏหรือมติของ
กลุ่ม ซึ่งอาจจะเป็ นกลุ่มแบบทางการ (Formal Group) หรือกลุ่ม
แบบไม่ เป็ นทางการ (Informal Group) ก็ได้ สมาชิกทุกคนของกลุ่ม
จะต้ องยอมรับและปฏิบัตติ ามเป็ นอย่ างดี สมาชิกกลุ่มย่ อย อาจจะมี
กฎเกณฑ์ แบบไม่ เป็ นทางการ มีความสนิทสนมกันอย่ างใกล้ ชิด
ระหว่ างสมาชิกด้ วยกัน
• 4. สมาชิกมีบทบาทและมีความรู้ สึกร่ วมกัน การรักษาบทบาทที่
มั่นคงในแต่ ละทีม / กลุ่ม จะมีความแตกต่ างกันตามลักษณะของ
กลุ่ม รวมทั้งความรู้ ความสามารถของสมาชิก โดยจีการจัดแบ่ ง
บทบาทและหน้ าที่ ความรับผิดชอบ กระจายงานกันตามความรู้
ความสามารถ และความถนัดของสมาชิก
คุณลักษณะ
ของทีม
• เป็ นนักคิด
สมาชิกประเภทนีอ้ าจเรียกว่ าเป็ น " คนเจ้ าความคิด " เขามักเข้ าไป
ยุ่งเกีย่ วกับสิ่ งทีจ่ ะต้ องกระทาและมักจะมีความคิดความอ่านและมี
ข้ อเสนอแนะต่ าง ๆ มากมาย นักคิดมักไม่ ค่อยสนใจในรายละเอียดมากนัก
โดยปกติแล้วสมาชิกของทีมประเภทนีจ้ ะต้ องถูกจัดการอย่ างระมัดระวัง ให้
เกียรติ ให้ กาลังใจและแม้ แต่ การยกย่ องให้ เกิดความภาคภูมิใจ เพือ่ ป้องกัน
ไม่ ให้ เขาถอนตัวออกไปจากทีมเสี ยก่อน
คุณลักษณะ
ของทีม
• เป็ นนักจัดองค์ กร
การทางานร่ วมกับนักคิดที่สร้ างสรรค์ยงิ่ ขึน้ ซึ่งอาจเป็ นนักจัดองค์กร
ผู้ซึ่งชอบเข้ าไปยุ่งเกีย่ วกับการทางานของทีมงานเสมอ เพือ่ ไปจัดการและ
จัดสรรงานและหน้ าทีต่ ่ าง ๆ เป็ นคนเจ้ าหลักการและเจ้ าระเบียบ แต่ ก็เป็ นผู้
ทางานทีม่ ีประสิ ทธิภาพดี นักจัดองค์ กรบางครั้งก็ได้ รับการยอมรับว่ าเป็ นผู้มี
ความคิดกว้ างไกล แต่ ไม่ ค่อยยืดหยุ่นนัก ในการทางานเขามักจะประสบกับ
ปัญหาสภาพแวดล้อมที่เปลีย่ นแปลงและและมีความไม่ แน่ นอน ท่ านจะต้ องมี
แผนการฏิบัติงานทีช่ ัดเจนเพือ่ ประสานงานกับเขาอย่ างสม่าเสมอ
คุณลักษณะ
ของทีม
• เป็ นนักปฏิบัตกิ าร
สมาชิกประเภทนีเ้ ป็ นนักสร้ างงาน และมีทศั นคติที่จะตั้งใจ
ทางานเพือ่ ให้ มีผลงานเกิดขึน้ เป็ นคนเปิ ดเผย หุนหันพลันแล่ น ไม่
อดทนหากการตัดสิ นใจล่ าช้ าหรือถูกดูแลควบคุมการปฏิบตั งิ านอย่ าง
ใกล้ ชิด และมักจะผิดหวังเมื่อทุกสิ่ งทุกอย่ างไม่ เป็ นไปตามที่ต้งั ใจ ท่ าน
จะต้ องใช้ ความพยายามควบคุมหน่ วงเหนี่ยวเขาไว้ เพือ่ ไม่ ให้ รับ
ผลกระทบจากความรุนแรงทีเ่ กิดขึน้
คุณลักษณะ
ของทีม
• เป็ นสมาชิกของทีม
ไม่ น่าแปลกใจนักทีส่ มาชิกของทีมจะเป็ นผู้ทกี่ ระตือรือร้ นในการ
ทางานเพือ่ ให้ ทีมงานประสบความสาเร็จ และมีการกระทาที่สนับสนุนและ
สามัคคีกลมเกลียวต่ อเพือ่ นร่ วมทีมเป็ นอันดี พยายามทีจ่ ะพัฒนาและเสนอ
แนวความคิดของกลุ่มมากกว่ าแนวความคิดของตัวเอง สมาชิกของทีมมักไม่
ชอบการเผชิญหน้ าและการทะเลาะเบาะแว้ งกัน ไม่ ต้องการต่ อต้ านใครคนใดคน
หนึ่ง บางครั้งสมาชิกของทีมก็ไม่ ค่อยได้ รับความสนใจ 91 เท่ าทีค่ วรจึงพยายาม
ปลีกตนเองออกจากคนอืน่ ๆ ท่ านจะต้ องกระตุ้นและชักจูงให้ เขาเสนอความ
คิดเห็น หรือให้ ข้อแนะนาและมองในด้ านบวกอยู่เสมอ
คุณลักษณะ
ของทีม
• เป็ นนักตรวจสอบ
ก็เป็ นไปตามชื่อนั่นแหละ นักตรวจสอบหรือนักตรวจซ้า มักชอบจับตาดู
ว่ ามีงานอะไรบ้ างทีก่ ้าวหน้ า เขามักคิดว่ าตนเองเป็ นคนยุติธรรมและมีความ
พิถีพถิ ัน แต่ คนอืน่ ๆ อาจมองว่ าเขาเป็ นคนชอบใช้ อานาจและและเป็ นพวก
เผด็จการ นักตรวจสอบมีบทบาททีต่ ้ องคอยเตือนให้ ทมี งานรู้สึกถึงความ
จาเป็ นต้ องใช้ ความรีบด่ วนปฏิบัตงิ านอย่ างจริงจัง เพือ่ ให้ งานก้าวหน้ าและ
บรรลุเป้าหมายทันเวลา ท่ านอาจต้ องเข้ าไปประสานกับนักตรวจสอบหรือทา
หน้ าที่ประนีประนอมเมื่อเขามีความขัดแย้ งกับเพือ่ นร่ วมทีมคนอืน่ ๆ
คุณลักษณะ
ของทีม
• เป็ นนักประเมินผล
สมาชิกประเภทนีเ้ ป็ นผู้ทสี่ ร้ างสมดุลอย่ างดียงิ่ ระหว่ างนักคิดและนัก
ปฏิบัติการ ชอบความเป็ นอิสระและมักจะแยกตัวออกจากทีม มีความ
ระมัดระวังและรอบคอบในการเข้ าไปประเมินหรือวิเคราะห์ ข้อมูลหรือ
สถานการณ์ ถึงแม้ ว่านักประเมินผลจะไม่ เป็ นที่ชื่นชอบของสมาชิ กบางคน แต่
ทัศนะของเขาก็ได้ รับการยอมรับนับถือจากสมาชิกร่ วมทีมคนอืน่ ๆ
กลยุทธ์ ในการสร้ างทีมงาน
• สร้ างทีมย่ อย ๆ ขึ้นมา
เห็นได้ ชัดว่ าท่ านสามารถช่ วยได้ ในการกระตุ้นให้ ทมี ทีป่ ระสบ
ความสาเร็จสามารถพัฒนาสมาชิกอันมีจากัดได้ เมื่อต้ องการ บางทีกส็ ั ก 5 คน
ซึ่งอาจเป็ นตัวเลขทีด่ ีทสี่ ุ ดสาหรับสภาพแวดล้อมทัว่ ๆ ไป ท่ านจาเป็ นต้ อง
คิดถึงบุคคลซึ่งประกอบกันเข้ าเป็ นทีม คงไม่ เหมาะสมนักทีจ่ ะให้ มีพนักงาน
สองคนซึ่งเป็ นนักคิดเข้ าร่ วมทีมจะทาให้ เกิดกรณีพพิ าทขึน้ ภายในทีมเพราะ
การริเริ่มและทัศนะที่ไม่ สอดคล้องกัน ฉันใดก็ฉันนั้นเราไม่ ควรมีนัก
ปฏิบัติการมากนัก เพราะแต่ ละคนจะทางานไปคนละทางสองทาง ดังนั้นจึง
ควรนาเอาอัตราส่ วนผสมทีเ่ หมาะสมเข้ ามาใช้ ในการสร้ างทีม ให้ มี นักคิด นัก
จัดองค์ กร นักปฏิบัติการ และอืน่ ๆ ซึ่งจะสนับสนุนซึ่งกันและกันและ
ตรวจสอบกันเองเป็ นไปตามความเหมาะสม
กลยุทธ์ ในการสร้ างทีมงาน
• เห็นชอบในเป้ าหมาย
ให้ แน่ ใจว่ าสมาชิกทุกคนรู้ว่างานของตนคืออะไร มาตรฐานและเป้าหมาย
คืออะไร และจะก้าวไปในทิศทางใด บุคลากรแต่ ละหน่ วยงานจะต้ องพยายาม
รวมกลุ่มเข้ าด้ วยกันเพือ่ ทางานในหน้ าทีอ่ ย่ างดีทสี่ ุ ดและให้ อยู่ในทีมเดียวกัน
สิ่ งเหล่านีจ้ ะกระตุ้นให้ สมาชิกทุกคนจัดรูปงานของตนเข้ ากับงานของคนอืน่ ๆ
เพือ่ ให้ บรรลุเป้าหมายรวมอย่ างมีประสิ ทธิภาพและทันเวลา ต้ องให้ สมาชิกทุก
คนเห็นด้ วยกับสิ่ งทีต่ นกระทาอยู่ว่ากาลังทาอะไร ทาเมื่อใด ทาอย่ างไร เพราะ
จะช่ วยให้ เกิดการประสานงานและทางานด้ วยกันอย่ างสามัคคีกลมเกลียว
กลยุทธ์ ในการสร้ างทีมงาน
• ร้ ูจักสมาชิกเป็ นรายตัว
เป็ นทีก่ ระจ่ างชัดว่ าท่ านจะต้ องรู้จักสมาชิกแต่ ละคนในทีมเป็ นอย่ างดี
ทีส่ ุ ดเท่ าทีจ่ ะเป็ นไปได้ เพือ่ ทีจ่ ะสามารถระบุได้ ว่าสมาชิกแต่ ละคนมีลกั ษณะ
สาคัญและองค์ ประกอบอย่ างใด ทราบจุดแข็งและจุดอ่อนของแต่ ละคน ท่ าน
จะต้ องติดต่ อกับแต่ ละคนในลักษณะทีแ่ ตกต่ างกัน ยกตัวอย่ างเช่ น นัก
ปฏิบัติการจะต้ องถูกกระตุ้นให้ ทางานช้ าลง รอคอย คิดและรับฟังคนอืน่
ก่อนที่จะทางานต่ อ ในบางครั้งท่ านจะต้ องเข้ าไปไกล่เกลีย่ สมาชิ กของท่าน
เช่ น ระหว่ างนักปฏิบัติการกับนักตรวจสอบ ให้ ท้งั สองฝ่ ายนั่งลงเจรจากัน รับ
ฟังความคิดเห็นของแต่ ละฝ่ ายและยอมรับทัศนะของอีกฝ่ ายหนึ่งบ้ าง
กลยุทธ์ ในการสร้ างทีมงาน
• รั กษาไว้ ซึ่งการติดต่ อสื่อสารที่ดี
การติดต่ อสื่ อสารระหว่ างท่ านและทีมงานและระหว่ างทีมด้ วยกันเองมี
ความสาคัญในการพัฒนาเพือ่ นาไปสู่ การเป็ นทีมทีจ่ ะประสบความสาเร็จใน
การทางาน การติดต่ อสื่ อสารสองทางอย่ างต่ อเนื่องและผลที่ได้ รับกลับมาจะ
ช่ วยหยุดการซุบซิบนินทา ลดความสั บสน ระงับปัญหาต่ าง ๆ ได้ อย่ างรวดเร็ว
และฟื้ นฟูสัมพันธภาพโดยรวม นับเป็ นความจาเป็ นทีท่ ุกคนในองค์ กรจะต้ อง
พูดจากับคนอืน่ ๆ ทั้งในการประชุ มปกติทเี่ ป็ นทางการและอย่ างไม่ เป็ น
ทางการ เพือ่ ก้าวไปข้ างหน้ า ยอมรับคาแนะนาต่ าง ๆ รับฟังและแลกเปลีย่ น
ความคิดเห็นระหว่ างกัน แบบสอบถามต่ อไปนีจ้ ะช่ วยให้ ท่านตัดสิ นใจได้ ว่า
ท่ านและทีมงานมีการติดต่ อสื่ อสารกันดีพอหรือไม่ อย่ างใดที่จะต้ องปรับปรุง
บ้ าง
ปัจจัยสู่ ความสาเร็จในการทางานเป็ นทีม
• 1. บรรยากาศของการทางานมีความเป็ นกันเอง อบอุ่น มีความ
กระตือรือร้ น และสร้ างสรรค์ ทุกคนช่ วยกันทางานอย่ างจริงจัง และ
จริงใจ ไม่ มีร่องรอยทีแ่ สดงให้ เห็นถึงความเบื่อหน่ าย
• 2. ความไว้ วางใจกัน (Trust) เป็ นหัวใจสาคัญของการทางานเป็ น
ทีม สมาชิกทุกคนในทีมควรไว้ วางใจซึ่งกันและกันได้ ซื่อสัตย์ ต่อกัน
สื่ อสารกันอย่ างเปิ ดเผย ไม่ มีลบั ลมคมใน
ปัจจัยสู่ ความสาเร็จในการทางานเป็ นทีม(ต่ อ)
• 3. มีการมอบหมายงานอย่ างชัดเจน สมาชิกทีมงานเข้ าใจวัตถุประสงค์
เป้าหมาย และยอมรับภารกิจหลักของทีมงาน
• 4. บทบาท(Role) สมาชิกแต่ ละคนเข้ าใจและปฏิบัติตามบทบาทของตน
และเรียนรู้เข้ าใจในบทบาทของผู้อนื่ ในทีม ทุกบทบาทมีความสาคัญ
รวมทั้งบทบาทในการช่ วยรักษาความเป็ นทีมงานให้ มนั่ คง เช่ น การ
ประนีประนอม การอานวยความสะดวก การให้ กาลังใจ เป็ นต้ น
ปัจจัยสู่ ความสาเร็จในการทางานเป็ นทีม(ต่ อ)
• 5. วิธีการทางาน (Work Procedure) สิ่ งสาคัญทีค่ วรพิจารณา คือ
5.1 การสื่ อความ (Communication) การทางานเป็ นทีมอาศัยบรรยากาศ
การสื่ อความทีช่ ัดเจนเหมาะสม ซึ่งจะทาให้ ทุกคนกล้าทีจ่ ะเปิ ดใจ แลกเปลีย่ น
ความคิดเห็น และแลกเปลีย่ นเรียนรู้ซึ่งกันและกัน จนเกิดความเข้ าใจ และ
นาไปสู่ การทางานทีม่ ีประสิ ทธิภาพ
5.2 การตัดสิ นใจ (Decision Making) การทางานเป็ นทีมต้ องใช้ การตัดสิ นใจ
ร่ วมกัน เมื่อเปิ ดโอกาสให้ สมาชิกในทีมแสดงความคิดเห็น และร่ วมตัดสิ นใจ
แล้ว สมาชิกย่ อมเกิดความผูกพันทีจ่ ะทาในสิ่ งทีต่ นเองได้ มีส่วนร่ วมตั้งแต่ ต้น
ปัจจัยสู่ ความสาเร็จในการทางานเป็ นทีม(ต่ อ)
6. การมีส่วนร่ วมในการประเมินผลการทางานของทีม ทีมงานควรมีการ
ประเมินผลการทางาน เป็ นระยะ ในรูปแบบทั้งไม่ เป็ นทางการ และเป็ น
ทางการ โดยสมาชิกทุกคนมีส่วนร่ วมในการประเมินผลงาน ทาให้ สมาชิก
ได้ ทราบความก้าวหน้ าของงาน ปัญหา อุปสรรคทีเ่ กิดขึน้ รวมทั้งพัฒนา
กระบวนการทางาน หรือการปรับปรุงแก้ไขร่ วมกัน ซึ่งในทีส่ ุ ดสมาชิกจะ
ได้ ทราบว่ าผลงานบรรลุเป้าหมาย และมีคุณภาพมากน้ อยเพียงใด
ปัจจัยสู่ ความสาเร็จในการทางานเป็ นทีม(ต่ อ)
7. การพัฒนาทีมงานให้ เข้ มแข็ง
7.1 พัฒนาศักยภาพทีมงาน ด้ วยการสร้ างแรงจูงใจทางบวก สมาชิกมี
ความสั มพันธ์ ที่ดีต่อกัน มีการจัดกิจกรรมสร้ างพลังทีมงาน เกิดความมุ่งมั่นทีจ่ ะ
ทางานให้ ประสบผลสาเร็จ
7.2 การให้ รางวัล ปัจจุบันการพิจารณาผลการปฏิบัตงิ านของหน่ วยงานไม่
เอือ้ ต่ อการทางานเป็ นทีม ส่ วนใหญ่ จะพิจารณาผลการทางานเป็ นรายบุคคล
ดังนั้นระบบรางวัลทีเ่ อือ้ ต่ อการทางานเป็ นทีม คือ การทีท่ ุกคนได้ รางวัลอย่ าง
ยุติธรรมทุกคน คือ ควรสนับสนุนการให้ รางวัลแก่การทางานเป็ นทีมในลักษณะ
ทีว่ ่ างอยู่บนพืน้ ฐานการให้ รางวัลกับกลุ่ม (Group base reward system)
กลยุทธ์ ในการทางานเป็ นทีม
• ร่ วมใจ (Heart) หมายถึง ความรู้ สึกของสมาชิกทีร่ ักและศรัทธา
ในหัวหน้ าทีม งานที่ทา และเพือ่ น ๆ ร่ วมทีมว่ าเป็ นพวกเดียวกัน
หรือทีเ่ รียกว่ า Feel like a team มีความเอือ้ เฟื้ อห่ วงใยซึ่งกันและ
กัน มีความเคารพให้ เกียรติซึ่งกันและกัน และเกิดความไว้ วางใจ
ต่ อกัน
ปัจจัยสู่ ความสาเร็จในการทางานเป็ นทีม(ต่ อ)
5.3 ภาวะผู้นา (Leadership) คือ บุคคลทีไ่ ด้ รับการยอมรับ
จากผู้อนื่ การทางานเป็ นทีมควรส่ งเสริมให้ สมาชิกทุกคนได้ มโี อกาสแสดง
ความเป็ นผู้นา (ไม่ ใช่ ผลัดกันเป็ นหัวหน้ า) เพือ่ ให้ ทุกคนเกิดความรู้สึกว่ า
ได้ รับการยอมรับ จะได้ รู้สึกว่ าการทางานเป็ นทีมนั้นมีความหมาย
ปรารถนาทีจ่ ะทาอีก
5.4 การกาหนดกติกา หรือกฎเกณฑ์ ต่าง ๆ ที่จะเอือ้ ต่ อการทางาน
ร่ วมกันให้ บรรลุเป้าหมาย ควรเปิ ดโอกาสให้ สมาชิกได้ มีส่วนร่ วม ในการ
กาหนดกติกา หรือกฎเกณฑ์ ทจี่ ะนามาใช้ ร่วมกัน
กลยุทธ์ ในการทางานเป็ นทีม(ต่ อ)
• ร่ วมคิด (Head) หมายถึง การใช้ ความคิด เหตุผลให้ เพือ่ น
ร่ วมงานเชื่อมั่นว่ า ทาแล้ วดี มีประโยชน์ ต่อตัวเขาเอง ต่ อ
องค์ กร โดยช่ วยกันระดมสมอง กาหนดเป้าหมาย วางแผน
แบ่ งงาน แบ่ งหน้ าที่ หรือทีเ่ รียกว่ า Think like a team การ
ทางานจะราบรื่น ถ้ าสมาชิกในทีมมีความรู้ สึกทีด่ ตี ่ อกัน
กลยุทธ์ ในการทางานเป็ นทีม(ต่ อ)
• ร่ วมทา (Hand) หมายถึง การร่ วมมือ ลงมือทางานซึ่งได้มีการ
วางแผนไว้ หน้ าที่ใครก็รับไปทา หรือทีเ่ รียกว่ า Work like a
team ซึ่งทุกคนมีพนั ธะสั ญญาทีจ่ ะต้ องทาแผนทุกคน เนื่องจาก
ได้ มีส่วนร่ วมในการคิดร่ วมกัน