สื่อกลางส่งข้อมูลแบบไร้สาย (Wireless Media)

Download Report

Transcript สื่อกลางส่งข้อมูลแบบไร้สาย (Wireless Media)

การสื่ อสารข้ อมูลและเครือข่ ายคอมพิวเตอร์
Data Communication and Networks
บทที่ 4 สื่ อการส่ งข้ อมูล
อาจารย์ ผู้สอน : ดร.วีรพันธุ์ ศิริฤทธิ์
E-Mail : siririth @ gmail.com
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อการส่ งข้ อมูล
สื่ อกลางที่นามาใช้ในการส่ งผ่านข้อมูล จะทางานอยูบ่ นชั้นสื่ อสารฟิ สิ คลั ใน
แบบจาลอง OSI โดยที่อุปกรณ์ใน ระดับชั้นสื่ อสารฟิ สิ คลั จะไม่สามารถเข้าใจถึง
. ความหมายของ ข้อมูล มีหน้าที่เพียงแค่แปลงข้อมูลให้อยูใ่ นรู ปของสัญญาณที่ เหมาะสม
และส่ งสัญญาณจากต้นทางไปยังปลายทาง เมื่อปลายทางได้รับก็จะแปลงสัญญาณให้
สื่ ออไปการส่ งข้ อมูล
กลับมาเป็ นข้อมูลเพื่อ นาไปใช้งานต่
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ อความเร็วและระยะทางบนสื่ อกลาง
คุณภาพของข้อมูลที่ส่งผ่านในระบบสื่ อสาร จะพิจารณาสิ่ งสาคัญ คือ
คุณลักษณะของสื่ อกลาง และสัญญาณ การส่ งผ่านข้อมูลในระบบสื่ อสาร สิ่ งสาคัญที่ตอ้ ง
. พิจารณา เป็ นพิเศษ คือ อัตราความเร็ วในการส่ งข้อมูล (Data Rate) และระยะทาง
(Distance) โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้สามารถส่ งข้อมูลด้วยความเร็ วสู ง และส่ งได้ระยะไกล
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ อความเร็วและระยะทางบนสื่ อกลาง ?
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ อความเร็วและระยะทางบนสื่ อกลาง
ตัวอย่างปั จจัยที่ส่งผลกระทบในด้านความเร็ ว และระยะทางที่มีต่อสื่ อกลางซึ่ งประกอบด้วย
1. แบนด์วิดธ์ (Bandwidth) คือ ย่านความถี่ของช่องสัญญาณ หากมี
. ช่องสัญญาณขนาดใหญ่ จะส่ งผลให้ในหนึ่ งหน่วยเวลา สามารถเคลื่อนย้ายปริ มาณข้อมูล
ได้จานวนมากขึ้น
2. ความสู ญเสี ยต่อการส่ งผ่าน (Transmission Impairments) คือ การอ่อนตัวของ
สัญญาณ ซึ่ งจะเกี่ยวข้องกับระยะทางในการส่ งผ่านข้อมูล หากระยะทางยิง่ ไกล สัญญาณ
ก็ยงิ่ เบาบางลง ไม่มีกาลังส่ ง
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ อความเร็วและระยะทางบนสื่ อกลาง
3. การรบกวนของสัญญาณ (Interference) การรบกวนของสัญญาณที่คาบเกี่ยวกัน
ในย่านความถี่ อาจทาให้เกิดการบิดเบือนสัญญาณได้ โดยไม่วา่ จะเป็ นสื่ อกลางแบบมีสาย
. หรื อแบบไร้สาย เช่น การรบกวนกันของคลื่นวิทยุ สัญญาณครอสทอร์กที่เกิดขึ้นใน
สายคู่บิตเกลียวชนิดไม่มีฉนวน ที่ภายในประกอบด้วยสายทองแดงหลายคู่มดั อยูร่ วมกัน
วิธีแก้ไขคือ เลือกใช้สายคู่บิตเกลียวชนิ ดที่มีฉนวนหรี อชีลด์เพื่อป้ องกันสัญญาณรบกวน
4. จานวนโหนดที่เชื่อมต่อ (Number of Receivers) สื่ อกลางส่ งข้อมูลแบบใช้สาย
สามารถนามาเชื่อมต่อเครื อข่ายในรู ปแบบ จุดต่อจุด หรื อแบบหลายจุด เพื่อแชร์การใช้
งานสายส่ งข้อมูลร่ วมกัน สาหรับเครื อข่ายที่ใช้สายส่ งข้อมูลร่ วมกัน จะมีขอ้ จากัดด้าน
ระยะทางและความเร็ วที่จากัดดังนั้น หากเครื อข่ายมีโหนดและอุปกรณ์เชื่อมต่อเป็ นจานวน
มาก ย่อมส่ งผลให้ความเร็ วลดลง
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
สื่ อกลางแบบใช้สาย เปรี ยบเสมือนกับท่อส่ ง ทาหน้าที่ส่งข้อมูลผ่านท่อไปยัง
อุปกรณ์ต่างๆ เช่น สายเคเบิล ไม่วา่ จะเป็ นสายคู่บิดเกลียวสายโคแอกเชียล หรื อสายไฟ
. เบอร์ออปติก โดยสัญญาณจะเดินทางไปตามสื่ อกลางที่เชื่อมต่อโดยตรงสื่ อกลางแต่ละชนิ ด
จะมีขอ้ จากัดทางกายภาพ เช่น ในเครื อข่ายท้องถิ่น สายไฟเบอร์ ออปติกจะสามารถ
สื่ อกลางส่
งข้โลเมตรในขณะที
อมูลแบบใช้่สายคู
สาย
(Conducted
่บิดเกลี
เชื่อมโยงได้
ไกลหลายกิ
ยว สามารถเชื่อมต่Media)
อได้แค่ 100 ?เมตร
เท่านั้น หากต้องการเชื่อมระยะทางไกลขึ้น ต้องใช้อุปกรณ์ทวนสัญญาณ
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
1. สายคู่บิดเกลียว (Twisted-Pair Cable)
สายคู่บิดเกลียว จะประกอบด้วย สายทองแดงที่หุม้ ด้วยฉนวนป้ องกันที่มีหลายสี
. และนามาถักกันเป็ นเกลียวคู่ จานวนรอบของการถักเป็ นเกลียวต่อหนึ่ งหน่วยความยาว
(1 เมตร หรื อ 1 ฟุต) จะเรี ยกว่า Twist Ratio โดยถ้ามีรอบถักเกลียวกันหนาแน่นเท่าไร
หมายถึง จะช่วยลดสัญญาณรบกวนได้ดีข้ ึน ทาให้การส่ งข้อมูลมีคุณภาพดียงิ่ ขึ้น
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
ปั จจุบนั สายคู่บิดเกลียวถูกออกแบบมาหลายชนิ ด ให้เลือกใช้งานตามลักษณะ
งาน โดยสายภายในสามารถมีได้ต้ งั แต่ 1-4200 คู่ สาหรับสายคู่บิดเกลียวที่นามาใช้งานบน
. เครื อข่ายแลน ภายในประกอบด้วยสายจานวน 4 คู่
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
เหตุผลสาคัญในการนาสายมาถักเป็ นเกลียว คือ ช่วยลดการแทรกแซงจาก
สัญญาณรบกวน โดยลดระดับของสัญญาณรบกวนลงให้มากที่สุด
.
จากรู ปแสดงให้เห็นถึงสัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นบนสาย 2 เส้นที่วางแบบขนาน
ปกติสายคู่บิดเกลียว 1 คู่ จะมีเส้นหนึ่งเป็ นสายตัวนาสัญญาณ และอีกเส้นเป็ นสายกราวด์
ซึ่ งมักมีแรงดันคงที่ ส่ วนสายที่ใช้เป็ น
ตัวนาสัญญาณอาจถูกรบกวนทาให้
แรงดันลดลง ทาให้เกิดค่าต่างศักย์ไฟฟ้ า
ที่ไม่สมดุลขึ้น
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
.
จากรู ป เป็ นสายที่นามาถักเป็ นเกลียวคู่ เมื่อสายสัญญาณเส้นหนึ่งถูกรบกวนทา
ให้แรงดันเปลี่ยนแปลงไป แต่ดว้ ยการบิดเกลียวของสายสัญญาณ ทาให้เกิดการเหนี่ยวนา
ให้สายอีกเส้นมีค่าเปลี่ยนแปลงตาม ทาให้เกิดการหักล้างกันเสมือนไม่มีสัญญาณรบกวน
เกิดขึ้นwww.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
สาย UTP (Unshielded Twisted-Pair)
ภายในประกอบด้วยจานวนลวดตัวนา (Copper Wire) ที่หุม้ ด้วยฉนวน
. (Insulation) ตั้งแต่ 1 คู่ข้ ึนไป โดยแต่ละคู่จะบิดกันเป็ นเกลียว และถูกห่อหุม้ ด้วยเปลือก
พลาสติก (Plastic Jacket) ข้อสังเกตของสาย UTP
คือ จะไม่มีชีลด์ห่อหุ ม้ สายสัญญาณส่ งผลให้
สายชนิดนี้ถกู สัญญาณรบกวนได้ง่าย
แต่กเ็ ป็ นสายที่ถกู นามาใช้งานมากที่สุด
เนื่องจากมีราคาถูก
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
มาตรฐาน ANSI/TIA/EIA 568 เป็ นมาตรฐานที่ช่วยสร้างความมัน่ ใจด้าน
ประสิ ทธิ ภาพแก่ผลิตภัณฑ์สายสัญญาณรุ่ นต่างๆ โดยปั จจุบนั ได้ผนวกประเภทของสาย
. UTP ไว้ 7 ประเภท ใช้คาย่อว่า CAT (Category) แล้วตามด้วยหมายเลขที่แสดงระดับ
คุณภาพของสาย ซึ่ งประกอบด้วย
1. CAT 1 (Category 1) เป็ นสาย UTP มาตรฐานที่นามาใช้กบั ระบบโทรศัพท์
ได้รับการออกแบบ เพื่อนาส่ งข้อมูลเสี ยงหรื อข้อมูลดิจิตอลด้วยความเร็ วต่า สามารถใช้งาน
ได้ดีกบั การส่ งข้อมูลเสี ยงหรื อข้อมูลดิจิตอลที่มอดูเลตเป็ นสัญญาณแอนะล็อก ซึ่ งสามารถ
ส่ งผ่านบนระยะทางหลายไมล์จากบ้านไปยังชุมสายโทรศัพท์ แต่สาย CAT 1 จะไวต่อ
สัญญาณรบกวนและการอ่อนตัวของสัญญาณ
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
2. CAT 2 (Category 2) เป็ นสาย UTP ที่นามาใช้กบั วงจรโทรศัพท์ ภายในมี
สายสัญญาณจานวน 4 คู่ แต่คุณภาพดีกว่าสาย CAT 1 ด้วยการลดสัญญาณรบกวนลง และ
. เรื่ องการ เบาบางของสัญญาณ สายประเภทนี้พบได้ในสายชนิด T-1 และ ISDN (Internet
Services Digital Network) T-1 ออกแบบมาสาหรับโทรศัพท์ดิจิตอลที่สามารถส่ งผ่านเสี ยง
หรื อข้อมูลได้ที่ความเร็ ว 1.544 Mbps ISDN เป็ นเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถส่ งผ่านเสี ยง
ข้อมูล หรื อทั้งสองด้วยความเร็ ว 64 Kbps ถึง 1.511 Mbps โดยสาย CAT 2 จะใช้
ลวดทองแดงและฉนวนที่หุม้ ลวดทองแดงที่มีคุณภาพสู งกว่าแบบ CAT 1
* T-1 www.pcbc.ac.th
คือ การเชื่อมต่อข้อมูลแบบดิจิตอล ในระบบเครื อข่ายความเร็ วสู ง
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
3. CAT 3 (Category 3) เป็ นสาย UTP ที่ภายในมีสายสัญญาณจานวน 4 คู่ โดยมี
ข้อกาหนดระบุไว้วา่ สายแต่ละคู่จะต้องนามาบิดเกลียวอย่างน้อย 3 รอบต่อ 1 ฟุต รองรับ
. ความเร็ ว ในการส่ งข้อมูลที่ 10 Mbps สายชนิดนี้นามาใช้กบั เครื อข่ายอีเทอร์ เน็ต
(10 Mbps) โทเคนริ ง (4 Mbps) ที่ใช้งานบนเครื อข่ายยุคเก่า ปั จจุบนั สายประเภทนี้
ถูกทดแทนด้วยสาย CAT 5 เนื่องจากมีประสิ ทธิ ภาพเหนือกว่า
4. CAT 4 (Category 4) เป็ นสาย UTP ที่ภายในมีสายสัญญาณจานวน 4 คู่
รองรับความเร็ วสูงสุ ดที่ 20 Mbps ถูกออกแบบให้ป้องกันสัญญาณรบกวนได้ดีกว่า CAT1,
CAT 2 และ CAT 3 รวมถึงส่ งข้อมูลได้เร็ วกว่า
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
5. CAT 5 (Category 5) เป็ นสาย UTP ที่ภายในมีสายสัญญาณจานวน 4 คู่
รองรับความเร็ วสูงถึง 100 Mbps นิยมนามาใช้กบั เครื อข่ายท้องถิ่น โดยสายสัญญาณทั้ง 4 คู่
. (8 เส้น) จะ ถูกหุ ม้ ด้วยฉนวนพลาสติกที่มีสีต่างๆ กากับอยูจ่ ดั เป็ นสายสัญญาณที่ป้องกัน
สัญญาณ รบกวนได้ดี เนื่องจากการบิดเกลียวของสายที่มี Twist Ratio จานวนมากถึง
12 รอบต่อ ความยาว 1 ฟุต ปัจจุบนั สาย CAT 5 จัดเป็ นมาตรฐานขั้นต่าที่นามาใช้บน
เครื อข่าย ท้องถิ่น
6. CAT 5e (Enhanced Category 5) เป็ นสาย UTP ที่มีคุณภาพสูง โดยใช้ลวด
ตัวนาสัญญาณคุณภาพสู ง และมีการบิดเกลียวของ Twist Ratio ที่เพิม่ ขึ้น จึงสามารถ
ป้ องกันสัญญาณรบกวนแบบครอสทอล์ก ได้เป็ นอย่างดี สาย CAT 5e สามารถนามาใช้
งานบนเครื อข่ายท้องถิ่น รองรับความเร็ ว สู งสุ ดที่ 100 Mbps
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
7. CAT 6 (Category 6) เป็ นสาย UTP ที่รองรับความเร็ วสูงถึง 1 Gbps เป็ นสายคู่
บิดเกลียวที่เพิ่มส่ วนของฉนวนที่เรี ยกว่า ฟอยล์ (Foil) ซึ่ งเป็ นแผ่นโลหะบางๆ ใช้ป้องกัน
. สัญญาณรบกวนได้ดียงิ่ ขึ้น รองรับอัตราความเร็ วที่ 250 MHz
8. CAT 6e (Enhanced Category 6) เป็ นสายที่พฒั นามาจาก CAT 6 เพื่อให้มี
ประสิ ทธิ ภาพมากยิง่ ขึ้น โดยสามารถรองรับอัตราความเร็ วได้สูงถึง 550 MHz และส่ งผ่าน
ข้อมูลได้หลายกิกะบิตต่อวินาที
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
9. CAT 7 (Category 7) เป็ นสายคุณภาพสู งโดยสายแต่ละคู่นอกจากจะมีฉนวน
ฟอยล์ป้องกันสัญญาณรบกวนแล้ว ยังมีชีลด์ที่เป็ นเส้นใยโลหะถักห่อหุ ม้ เพิ่มเข้าไปอีก
. อย่างไรก็ตาม CAT 7 ยังไม่ได้รับรองเป็ นมาตรฐานที่ชดั เจน แต่ได้มีการผลิตและจาหน่าย
บ้างแล้วข้อดีของสาย CAT 7 คือ รองรับความเร็ วสูงสุ ดที่ 1 GHz แต่จะใช้คอนเน็กเตอร์ ที่
แตกต่างจากสาย UTP (ปกติคือ RJ-45) เนื่องจากภายในมีฉนวนฟอยล์พร้อมชีลด์ห่อหุม้ จึง
ทาให้ขนาดของสายใหญ่ข้ ึนกว่าเดิม
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
สาย STP (Shielded Twisted-Pair)
เพื่อเป็ นการลดสัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นในสาย UTP สามารถทาได้ดว้ ยการ
. เพิม่ ชีลด์เข้าไปอีกชั้นหนึ่ งก่อนที่จะหุ ม้ ด้วยเปลือกนอก เรี ยกว่า สาย STP แต่สาย STP บาง
รุ่ นจะมีฉนวนฟอยล์ซ่ ึ งเป็ นแผ่นโลหะบางๆ หุ ม้ เปลือกของลวดตัวนาแล้วจะหุม้ ด้วยเส้นใย
โลหะถักที่เรี ยกว่า ชีลด์ก่อนหุ ม้
ด้วยเปลือกนอกช่วยป้ องกันสัญญาณ
รบกวนแบบครอสทอร์กได้เป็ นอย่างดี
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
ข้อดีของสายคู่บิดเกลียว
1. มีราคาถูก
.
2. ง่ายต่อการนาไปใช้งาน
ข้อเสี ยของสายคู่บิดเกลียว
1. มีความเร็ วจากัด
2. เหมาะกับระยะทางที่ส้ ัน
3. กรณี ที่เป็ นสายแบบไม่มีชีลด์ จะไวต่อสัญญาณรบกวนจากภายนอก
www.pcbc.ac.th
LOGO
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable)
สายโคแอกเชียล หรื อสายโคเอกซ์ (Coax) จะรองรับแบนด์วิดธ์ที่สูงกว่าสายคู่บิด
. เกลียว สาหรับโครงสร้างของสายโคแอกเชียลจะมีตวั นาที่มกั ทาด้วยทองแดงอยูแ่ กนกลาง
ซึ่ งสายทองแดงจะถูกห่อหุ ม้ ด้วยพลาสติก และมีชีลด์ที่เป็ นเส้นใยโลหะถักห่อหุ ม้ อีกชั้น
ก่อนที่จะหุ ม้ ด้วยเปลือกนอก ทาให้
สายโคแอกเชียลเป็ นสายที่ป้องกัน
สัญญาณรบกวนจากคลื่นแม่เหล็ก
ไฟฟ้ าได้เป็ นอย่างดี
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
.
สายโคแอกเชียลถูกจัดประเภทโดยองค์กร Radio Government (RG) ดังนั้น
ประเภทของสายโคแอกเชียลจึงใช้รหัส RG นาหน้าแล้วตามด้วยตัวเลข
www.pcbc.ac.th
LOGO
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
สาหรับคอนเน็กเตอร์ ที่นามาเชื่อมต่อกับสายโคแอกเชียล เรี ยกว่า หัวเชื่อมต่อ
แบบ BNC (Beyone-Neill-Concelman) ซึ่ งประกอบด้วยชิ้นส่ วนสาคัญ 3 ชิ้นที่ตอ้ งนาามา
. ใช้งานร่ วมกัน คือ BNC Connector, T-Connector และ Terminator
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
ข้อดีของสายโคแอกเชียล
1. เชื่อมต่อได้ระยะทางไกล
.
2. ป้ องกันสัญญาณรบกวนได้ดี
ข้อเสี ยของสายโคแอกเชียล
1. มีราคาแพง
2. สายมีขนาดใหญ่
3. การติดตั้งหัวเชื่อมต่อ ค่อนข้างยุง่ ยาก
www.pcbc.ac.th
LOGO
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
สายไฟเบอร์ออปติก (Optical Fiber)
สายไฟเบอร์ออปติกหรื อสายเส้นใยแก้วนาแสง เป็ นสายที่มีลกั ษณะโปร่ งแสง
. มีรูปทรงกระบอก ภายในตัน ขนาดเล็กกว่าเส้นผมของมนุษย์ โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลาง
ประมาณ 125 ไมครอน เส้นใยแก้วนาแสงจะเป็ นแก้วบริ สุทธิ์ ซึ่ งนาวัตถุดิบมาจากทราย
และปนด้วยสารบางอย่างเพื่อให้แก้วมีค่าดัชนีหกั เหของแสงตามต้องการโดยแกนกลางของ
เส้นใยแก้ว จะเรี ยกว่า คอร์ (Core) และถูกห่อหุ ม้ ด้วยแคลดดิ้ง (Cladding) จากนั้นจะมีวสั ดุ
หุ ม้ เปลือกนอกอีกชั้นซึ่ งคอร์ และแคลดดิ้งเป็ นส่ วนที่ทาหน้าที่ส่งสัญญาณแสง
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
.
www.pcbc.ac.th
LOGO
Data Communication and Networks
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
.
www.pcbc.ac.th
LOGO
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
แสงเป็ นรู ปแบบหนึ่งของพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ า สามารถเดินทางได้อย่าง
รวดเร็ วในสูญญากาศ โดยความเร็ วของแสงจะขึ้นอยูก่ บั ความเข้มของสื่ อกลางที่ใช้ในการ
. เดินทาง หากสื่ อกลางมีความเข้มสู งก็จะทาให้ความเร็ วลดต่าลงเครื อข่ายคอมพิวเตอร์
สามารถนาสายไฟเบอร์ออปติกมาใช้ในการส่ งข้อมูลได้ แต่เนื่องจากข้อมูลที่เดินทางผ่าน
สายไฟเบอร์ออปติกจะอยูใ่ นรู ปแบบของแสง ดังนั้น ข้อมูลที่เป็ นสัญญาณไฟฟ้ าจะต้อง
แปลงให้อยูใ่ นรู ปของแสงก่อน จากนั้นก็จะส่ งออกไปเป็ นพัลส์ของแสงผ่านสายไฟเบอร์
ออปติก
www.pcbc.ac.th
Fiber Optic Converter
Data Communication and Networks
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
.
www.pcbc.ac.th
LOGO
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
ประเภทของสายไฟเบอร์ออปติก
1. แบบมัลติโหมด (Multimode Fiber Optic : MMF)
.
สายแบบมัลติโหมด เป็ นสายที่ถกู นามาใช้งานในช่วงแรก ภายในจะมีเส้นใยแก้ว
อยูห่ ลายเส้น และส่ งข้อมูลแบบหลายลาแสง แต่ละลาแสงที่วงิ่ ผ่านท่อจะมีการสะท้อนอยู่
ภายใน ด้วยมุมองศาที่แตกต่างกัน ใช้แหล่งกาเนิดแสงแบบเลด (LED) สายแบบมัลติโหมด
สามารถแบ่งได้ 2 ชนิด ตามลักษณะการหักเหของแสง
1.1 ชนิด Step Index มีขอ้ เสี ยคือ ความเบาบางของสัญญาณ และการแตก
กระจายของสัญญาณแสง ส่ งผลต่อความเร็ วของแต่ละสัญญาณซึ่ งอาจถึงที่หมายด้วย
ความเร็ วที่แตกต่างกัน และทาให้มีขอ้ จากัดด้านระยะทางอยูท่ ี่ 500 เมตร
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
1.2 ชนิด Grade Index ช่วยลดปั ญหาการเปลี่ยนแปลงการหักเหของแสง ซึ่ ง
วิธีของ Grade Index ทาให้สัญญาณแสงเดินทางอยูก่ ่ ึงกลางของใยแก้ว ส่ งผลให้สัญญาณ
. แสงต่างๆ เดินทางถึงปลายทางได้พร้อมกัน ทาให้ส่งสัญญาณได้ไกลกว่า 1 กิโลเมตร
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
2. แบบซิ งเกิลโหมด (Single Mode Fiber : SMF)
ภายในจะมีสายใยแก้วส่ งข้อมูลเพียงลาแสงเดียว ข้อดีของสายประเภทนี้ คือ
. สามารถส่ งสัญญาณบนระยะทางที่ไกลกว่า เนื่องจากไม่มีปัญหาเรื่ องการแตกกระจายของ
สัญญาณ และด้วยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางที่ลดลงของแกนเหลือ 5-10 ไมครอน ปกติ
50 ไมครอน ดังนั้นแสงที่ส่งผ่านจะมีความเข้มสู งขึ้นส่ งผลให้สามารถส่ งข้อมูลได้รวดเร็ ว
และส่ งได้ระยะทางไกลสู งสุ ดกว่า 100 กิโลเมตร แหล่งกาเนิดแสงจะต้องมีความสมบูรณ์
และต้องมีลาแสงตรงจากภายในท่อส่ ง ดังนั้นจึงใช้แหล่งกาเนิ ดแสงเป็ นชนิ ดแสงเลเซอร์
(Laser) ทาให้สายซิ งเกิลโหมดมีราคาค่อนข้างสู งสายไฟเบอร์ ออปติกยังถูกออกแบบให้
เลือกใช้งานตามความแตกต่างของวัตถุดิบที่ห่อหุ ม้ เปลือกนอก เช่น สายสาหรับใช้เดิน
ภายในอาคารทัว่ ไป สายที่ใช้เดินใต้พ้นื ดิน ใต้ทะเลหรื อสายที่ใช้เดินตามสถานที่ที่มีความ
ร้อนสูwww.pcbc.ac.th
ง เพื่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานของสาย
Data Communication and Networks
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
.
www.pcbc.ac.th
LOGO
Data Communication and Networks
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
ข้อดีของสายไฟเบอร์ออปติก
1. มีอตั ราการลดทอนของสัญญาณต่า
.
2. ไม่มีการรบกวนของสัญญาณไฟฟ้ า
3. มีแบนด์วิดธ์สูงมาก
4. มีขนาดเล็กและน้ าหนักเบา
5. มีความเป็ นอิสระทางไฟฟ้ า
6. มีความปลอดภัยในข้อมูล
7. มีความทนทานและอายุการใช้งานยาวนาน
www.pcbc.ac.th
LOGO
Data Communication and Networks
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบใช้ สาย (Conducted Media)
ข้อเสี ยของสายไฟเบอร์ออปติก
1. เส้นใยแก้วมีความเปราะบาง แตกหักง่าย
.
2. ต้องระวังในการเดินสาย ไม่ให้มีการโค้งงอมากเกินไป
3. มีราคาสู ง เมื่อเทียบกับสายเคเบิลทัว่ ไป
4. ต้องใช้ผเู ้ ชี่ยวชาญโดยเฉพาะในการติดตั้ง
www.pcbc.ac.th
LOGO
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบไร้ สาย (Wireless Media)
การสื่ อสารแบบไร้สาร (Wireless Communication) เป็ นการส่ งข่าวสารใน
รู ปแบบของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ าไปยังอากาศ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ ามีหน่วยวัดความยาวเป็ น
. นาโนเมตรหรื อไมโครเมตร ส่ วนความถี่ของคลื่นมีหน่วยวัดเป็ นเฮิรตซ์ ลักษณะสาคัญของ
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ า คือ มีความถี่แบบต่อเนื่องกันเป็ นช่วงแนวกว้าง เรี ยกว่า
ข้ อามู(Electromagnetic
ลแบบไร้ สาย
(Wireless
? ชื่อ
สเปกตรัสืม่ อคลืกลางส่
่นแม่ เหล็กงไฟฟ้
Spectrum)
โดยแต่ละย่Media)
านความถี่จะมี
เรี ยกแตกต่างกันตามแหล่งกาเนิ ด
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบไร้ สาย (Wireless Media)
วิธีการแพร่ สัญญาณ (Propagation Method)
1. คลื่นดิน (Ground Wave Propagation) เป็ นคลื่นวิทยุความถี่ต่าที่แพร่ กระจาย
. ออกมาทุกทิศทางจากสายอากาศเคลื่อนที่ตามความโค้งของเปลือกโลก โดยระยะทางจะ
ขึ้นอยูก่ บั กาลังส่ งของสัญญาณ คือ หากกาลังส่ งมาก จะส่ งได้ระยะไกล
2. คลื่นฟ้ า (Sky Wave Propagation) เป็ นคลื่นวิทยุความถี่สูงที่แพร่ กระจายสู งขึ้น
ไปบนบรรยากาศชั้นไอโอโนสเฟี ยร์ (Ionosphere) ซึ่ งเต็มไปด้วยอนุภาคของอิออน โดย
คลื่นสัญญาณจะสะท้อนกลับมายังโลกสามารถส่ งได้ระยะไกล แม้จะมีกาลังส่ งไม่มาก
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบไร้ สาย (Wireless Media)
3. คลื่นอวกาศ (Space Wave Propagation) เป็ นคลื่นวิทยุความถี่สูงมากสัญญาณ
จะส่ งเป็ นแนวเส้นตรงระดับสายตาระหว่างเสาอากาศรับส่ งด้วยกัน และเนื่องจาก
. คลื่นสัญญาณชนิดนี้จะไม่เคลื่อนที่ไปตามส่ วนโค้งของเปลือกโลก ระยะทางจึงจากัดด้วย
ความโค้งของเปลือกโลก ดังนั้นเสาอากาศที่นามาใช้เพื่อการรับส่ งจะต้องหันหน้าชนกัน
รวมถึงต้องมีระดับ
ความสูงพอและ
ปรับแหงนให้
ตรงแนว
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบไร้ สาย (Wireless Media)
การสื่ อสารแบบไร้สายที่รับส่ งข้อมูลผ่านอากาศจาเป็ นต้องมีอุปกรณ์ที่ไว้คอย
จัดการกับคลื่น ซึ่ งมีอยู่ 2 ชนิด คือ
.
1. แบบแพร่ สัญญาณรอบทิศทาง (Omnidirectional) เป็ นรู ปแบบการกระจาย
คลื่นสัญญาณรอบทิศทาง เช่น คลื่นวิทยุ (ความถี่ 3 MHz – 1 GHz) โดยสัญญาณที่ส่งหรื อ
แพร่ ออกไป จะกระจายไปทัว่ ทิศในอากาศ ทาให้สามารถรับสัญญาณได้ดว้ ยการตั้งเสา
อากาศ หรื อติดตั้งเสาอากาศทีวีเพื่อรับภาพสัญญาณโทรทัศน์ที่แพร่ มาตามอากาศ
ข้อดีของคลื่นวิทยุ คือ เป็ นสัญญาณที่สามารถทะลุ
สิ่ งกีดขวางได้ดีส่วน ข้อเสี ยคือ เนื่องจากคลื่นมี
การแพร่ กระจายทัว่ ทิศทาง จึงไม่สามารถควบคุม
การแพร่ สัญญาณให้จากัดอยูเ่ ฉพาะบริ เวณได้
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบไร้ สาย (Wireless Media)
2. แบบกาหนดทิศทาง (Directional) เป็ นแบบกาหนดทิศทางของสัญญาณด้วย
การโฟกัสคลื่นนั้นๆ เช่น คลื่นไมโครเวฟ (ความถี่ 1 - 300 GHz) ในการสื่ อสารด้วยคลื่น
. ไมโครเวฟ อุปกรณ์รับส่ งสัญญาณนาเป็ นต้องปรับให้อยูใ่ นแนวระนาบเดียวกันหรื อเป็ น
แนวเส้นตรงระดับสายตา โดยคลื่นที่สามารถกาหนดทิศทางของสัญญาณได้ดีทาให้
สามารถสื่ อสารในลักษณะแบบจุดต่อจุดได้
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบไร้ สาย (Wireless Media)
คลื่นวิทยุ (Radio Frequency : RF)
คลื่นวิทยุ คือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ า ซึ่ งมีความเร็ วเท่ากับความเร็ วของแสง คลื่นวิทยุ
. มีช่วงความถี่อยูท่ ี่ 3 KHz - 1 GHz สามารถนาไปใช้ในการส่ งข่าวสารการสื่ อสารโดยอาศัย
คลื่นวิทยุ จะทาด้วยการส่ งคลื่นไปยังอากาศ เพื่อเข้าไปยังเครื่ องรับวิทยุ ใช้เทคนิคการมอดู
เลต ด้วยการรวมกับคลื่นเสี ยง ที่เป็ นคลื่นไฟฟ้ าความถี่เสี ยงรวมกัน ทาให้การสื่ อสารด้วย
วิทยุกระจายเสี ยง ไม่จาเป็ นต้องใช้สายและยังสามารถส่ งคลื่น
ได้ในระยะไกลออกไปได้ รวมถึงการผสมคลื่นจะใช้เทคนิค
ที่แตกต่างกันโดยเครื่ องรับวิทยุจาเป็ นต้องปรับให้ตรงกับชนิ ด
ของคลื่นที่ส่งมาด้วย
www.pcbc.ac.th
James clerk maxwell
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบไร้ สาย (Wireless Media)
ไมโครเวฟ (Terrestrial Microwave Transmission)
มีช่วงความถี่ต้ งั แต่ 1- 300 GHz เป็ นช่วงความถี่ของคลื่นโทรทัศน์และ
. ไมโครเวฟ โดยคลื่นสามารถทะลุผา่ นชั้นบรรยากาศไปยังนอกโลก คลื่นไมโครเวฟ
สามารถส่ งสัญญาณได้ไกล 20 ไมล์ ถ้าต้องการส่ งข้อมูลให้ไกลออกไป จาเป็ นต้องมี
จานรับส่ งที่ทาหน้าที่ทวนสัญญาณเพื่อส่ งต่อในระยะไกลออกไป
ข้ อเสี ยคือ ถูกรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ าได้ง่าย และสภาพภูมิอากาศส่ งผล
ต่อระบบการสื่ อสารข้อจากัดด้านภูมิประเทศที่มีภูเขาบดบังสัญญาณ และความโค้งของ
เปลือกโลก
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบไร้ สาย (Wireless Media)
.
www.pcbc.ac.th
LOGO
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบไร้ สาย (Wireless Media)
โทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Telephones)
ยุค 3G (Third-Generation) มีการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่ อสารของระบบ
. โทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยไม่ใช่แค่เพียงใช้ งานเพื่อสื่ อสารพูดคุยเท่านั้น แต่สามารถเชื่อมต่อ
เข้าระบบเครื อข่ายได้ตลอดเวลา เช่น เชื่อมต่อเข้าสู่ เครื อข่ายอินเตอร์ เน็ต รับส่ งอีเมล์
ด้วยความเร็ วในการดาวน์โหลดข้อมูลถึง 7.2 Mbps
ยุค 4G (Fourth-Generation) เป็ นระบบสื่ อสารไร้สายแบบบรอดแบนด์ดว้ ย
ความเร็ วสูงถึง 75 Mbps เร็ วกว่า ยุค 3G 10 เท่าทาให้โทรศัพท์ในยุคนี้สามารถชมรายการ
ทีวผี า่ นโทรศัพท์ และยังครอบคลุมพื้นที่กว้างกว่า 3G ถึง 10 เท่า (48 กิโลเมตร) โดย
เทคโนโลยีที่ใช้งาน คือ WiMAX (Worldwide Interoperability for Microwave Access)
ซึ่ งยังไม่สมบูรณ์ ความถี่ที่ใช้ในบางประเทศเป็ นย่านความถี่ที่ควบคุม หากต้องการใช้ตอ้ ง
ได้รับwww.pcbc.ac.th
การอนุญาตก่อน
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบไร้ สาย (Wireless Media)
อินฟราเรด (Infrared Transmission)
แสงอินฟราเรดจะมีช่วงความถี่อยูท่ ี่ 300 GHz – 400 THz มักนามาใช้ควบคุม
. อุปกรณ์ไฟฟ้ า เช่น วิทยุ โทรทัศน์ ด้วยการใช้รีโมตคอนโทรล ลาแสงอินฟราเรดจะเดินทาง
ในแนวเส้นตรง สามารถสะท้อนวัตถุผวิ เรี ยบได้ สาหรับการใช้รีโมตคอนโทรลในการ
ควบคุมปรับเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ ระยะห่างที่สามารถควบคุมใช้งานได้ปกติจะอยูใ่ นช่วง
ระยะเพียงไม่กี่เมตร แต่วา่ แสงอินฟราเรดก็สามารถมีกาลังส่ งในระยะทางไกลกว่า 1 – 1.5
ไมล์
ข้อเสี ยคือ ไม่สามารถสื่ อสารทะลุวตั ถุทึบแสงหรื อกาแพงที่กีดขวางได้
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบไร้ สาย (Wireless Media)
บลูทูธ (Bluetooth)
ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็ นวิธีการเชื่อมต่อหูฟังเข้ากับโทรศัพท์มี ข้อดีตรงที่ลงทุน
. ต่าและใช้พลังงานต่า บลูทูธสามารถสื่ อสารระหว่างอุปกรณ์หลายๆ อุปกรณ์ดว้ ยกัน เช่น
คอมพิวเตอร์ แฟกซ์ โดยเครื อข่ายขนาดเล็กที่มีการเชื่อมต่ออุปกรณ์ 7 ชิ้นหรื อน้อยกว่า
เรี ยกว่า Piconet หรื อเครื อข่าย PAN (Personal Area Network) และยังสามารถนา
เครื อข่าย Piconet หลายๆ เครื อข่ายมาเชื่อมต่อระหว่างกันในรู ปแบบที่เรี ยกว่า Scatternet
ปั ญหาของบลูทูธมีในเรื่ องของการสื่ อสารกับอุปกรณ์หลายๆ อุปกรณ์พร้อมกัน ในด้าน
ของการซิ งโครไนซ์ขอ้ มูลกับอุปกรณ์แต่ละตัวที่ ยังคงทางานได้ไม่ดีนกั
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบไร้ สาย (Wireless Media)
.
www.pcbc.ac.th
LOGO
Data Communication and Networks
LOGO
สื่ อกลางส่ งข้ อมูลแบบไร้ สาย (Wireless Media)
WAP (Wireless Application Protocol)
WAP เป็ นมาตรฐานสากลที่ใช้สาหรับการสื่ อสารข้อมูลแบบไร้สายโดย WAP
. เป็ นโปรโตคอลที่ใช้งานบนอุปกรณ์พกพาต่างๆ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ ปาล์ม และพีดีเอ
เพื่อให้สามารถเข้าสู่ เครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตได้ แต่มีขอ้ จากัดด้านจอภาพที่มีขนาดเล็กมีหน่วย
ประมวลผลและหน่วยความจาที่นอ้ ยกว่า หน้าจอมีขนาดจากัดในการแสดงผลข้อมูล และมี
ขนาดแบนด์วดิ ธ์ที่จากัด ทาให้ไม่สามารถนาโปรโตคอลและเบราเซอร์ ที่ใช้งานบนพีซีมา
ใช้ได้ จึงมีการพัฒนาภาษา WML (Wireless Markup Language) เพื่อแสดงผลใน รู ปแบบ
ของ WAP Browser ข้อเสี ยคือ ข้อจากัดของขนาดจอภาพซึ่ งมีขนาดเล็ก และมีความเร็ วใน
การเชื่อมต่อที่ยงั ต่าอยู่
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
การพิจารณาสื่ อกลางส่ งข้ อมูล
1. ต้นทุน (Cost) การพิจารณาเลือกสรรสื่ อกลางส่ งข้อมูลถือเป็ นสิ่ งสาคัญที่
นาไปสู่ ความล้มเหลวของโครงการเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ได้ หากเลือกสื่ อกลางไม่
. เหมาะสม ดังนั้นมีความจาเป็ นอย่างยิง่ ที่ตอ้ งพิจารณาถึงเทคโนโลยีที่รองรับในอนาคต
รวมถึงปั จจัยด้านอื่นๆ ดังนี้ตน้ ทุนเกี่ยวข้องกับสื่ อกลางทุกชนิด โดยราคาของสื่ อกลางจะมี
การพิ
จตารณาสื
อมูล ?้ ยงั ต้องพิจารณา
ความแตกต่างกันตามชนิ
ดของวั
ถุดิบและวั่ อ
สดุกลางส่
ที่นามาผลิงตข้นอกจากนี
- ต้นทุนของอุปกรณ์สนับสนุนของสื่ อกลางชนิ ดนั้นๆ
- ต้นทุนการติดตั้งอุปกรณ์
- ราคาและประสิ ทธิ ภาพ มีอตั ราส่ วนที่เหมาะสมหรื อคุม้ ค่าเพียงใด
นอกจากนี้ยงั ต้องพิจารณาต้นทุนด้านการบารุ งรักษา โดยพิจารณาจากอายุ
การใช้งาน และคุณภาพของสายสัญญาณ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ติดตั้งสายนั้นๆ
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
การพิจารณาสื่ อกลางส่ งข้ อมูล
2. ความเร็ ว
2.1 ความเร็ วในการส่ งผ่านข้อมูล (Data Transmission Speed)
.
เป็ นความเร็ วในการส่ งผ่านข้อมูล คานวนได้จากจานวนบิตต่อวินาที (bps) ซึ่ ง
จานวนบิตต่อวินาทีจะขึ้นอยูก่ บั แบนด์วิดธ์ที่เหมาะสมของสื่ อกลาง รวมถึงระยะทางที่
ข้อมูลจะต้องเดินทางบนสภาพแวดล้อมที่สื่อกลางนั้นจะต้องลากสายผ่าน เช่น สื่ อกลาง
อาจถูกลากไปยังพื้นที่ที่เต็มไปด้วยสัญญาณรบกวน นอกจากนี้ควรคานึงถึงสื่ อกลางที่
สามารถขยายแบนด์วดิ ธ์สูงได้ เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอนาคต
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
การพิจารณาสื่ อกลางส่ งข้ อมูล
2.2 ความเร็ วในการเดินทางของข้อมูล (Propagation Speed)
เป็ นความเร็ วของสัญญาณที่มีการเคลื่อนที่ผา่ นสื่ อกลาง สาหรับสาย
. ไฟเบอร์ ออปกติจะมีความเร็ วใกล้เคียงกับความเร็ วแสง สื่ อกลางไร้สายจะมีความเร็ วที่
3x108 เมตรต่อวินาที และสื่ อกลางที่ส่งสัญญาณไฟฟ้ าอย่างสายโคแอกเชียลและสายคู่บิด
เกลียวจะมีความเร็ วที่ประมาณ 2x10 8 เมตรต่อวินาที
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
การพิจารณาสื่ อกลางส่ งข้ อมูล
3. ระยะทางและการขยาย (Distance and Expandability)
ปกติสื่อกลางส่ งข้อมูลชนิดมีสายสามารถขยายระยะทางได้ แต่จะจากัดตามชนิด
. ของสื่ อกลาง เช่น สาย UTP สามารถเชื่อมต่อระยะทางได้ไม่เกิน 100 เมตร หากต้องการ
ขยายระยะทางไปอีก ต้องมีอุปกรณ์ในการทวนสัญญาณเพื่อให้สัญญาณสามารถส่ งทอด
ออกไปในระยะทางไกลได้อีกสายโคแอกเชียลจะสามารถเชื่อมโยงได้ในระยะทางมากกว่า
หนึ่งร้อยเมตร และสายโคแอกเชียลบางชนิดสามารถเชื่อมโยงในระยะทางได้ไกล
กว่าหนึ่งกิโลเมตร
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
การพิจารณาสื่ อกลางส่ งข้ อมูล
4. สภาพแวดล้อม (Environment)
เป็ นปัจจัยสาคัญในการพิจารณาสื่ อกลาง โดยสภาพแวดล้อมบางสถานที่เต็มไป
. ด้วยสัญญาณรบกวน เช่น โรงงานอุตสาหกรรม บริ เวณเครื่ องจักรกล ซึ่ งเต็มไปด้วยคลื่น
แม่เหล็กไฟฟ้ า และรังสี ต่างๆ ดังนั้นสื่ อกลางที่นามาใช้งานจาเป็ นต้องมีความทนทานต่อ
สัญญาณรบกวนได้เป็ นอย่างดี เช่น หากใช้สายคู่บิดเกลียว จาเป็ นต้องเลือกใช้สายชนิดที่มี
ชีลด์อย่างสาย STP เนื่องจาก ป้ องกันสัญญาณรบกวนได้ดีกว่าสาย UTP หากใช้สายไฟ
เบอร์ ออปติก จะต้องเลือกวัสดุที่ทนทานต่อความร้อนส่ วนสื่ อกลางส่ งข้อมูลแบบไร้สาย
เช่น คลื่นวิทยุ หรื อคลื่นไมโครเวฟ ไม่ควรนามาใช้กบั สภาพแวดล้อมดังกล่าว เนื่องจาก
คลื่นความถี่จะถูกรบกวนด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ า และรังสี ต่างๆ ทาให้สัญญาณสื่ อสาร
ต่าลงอย่างเห็นได้ชดั เจน
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
การพิจารณาสื่ อกลางส่ งข้ อมูล
5. ความปลอดภัย (Security)
ความปลอดภัยในการเดินทางของข้อมูลระหว่างการส่ งจนถึงจุดหมายปลายทาง
. ถือเป็ นสิ่ งสาคัญ เนื่องจากอาจมีบุคคลไม่หวังดีพยายามดักฟั งสัญญาณหรื อลักลอบนา
ข้อมูลไปใช้งานในทางมิชอบ สาหรับสื่ อกลางที่นามาใช้เพื่อการส่ งผ่านข้อมูลแต่ละชนิ ด
จะมีความยากง่ายต่อการดักฟั งข้อมูลที่แตกต่างกัน โดยสื่ อกลางทั้งหมดยกเว้นสายไฟเบอร์
ออปติกจะมีการดักฟั งสัญญาณได้ง่ายการสื่ อสารแบบไร้สายนั้น สัญญาณอาจถูกสกัดกั้น
ได้ง่ายเนื่องจากคลื่นได้แพร่ ไปในอากาศแบบวงกว้าง ดังนั้นในปั จจุบนั จึงมีเทคนิคการ
เข้ารหัสข้อมูลด้วยซอฟต์แวร์ ก่อนส่ งสัญญาณไปตามสื่ อกลาง ทั้งนี้หากฝ่ ายรับไม่มี
โปรแกรมถอดรหัส หรื อไม่รู้รหัสผ่าน จะไม่สามารถนาข้อมูลเหล่านั้นไปใช้งานได้
www.pcbc.ac.th
Data Communication and Networks
LOGO
ทดสอบท้ ายบทเรียน
.ซ
1. การนาสายมาบิดเกลียวเป็ นคู่ ส่ งผลดีในด้ านใดบ้ าง เพราะอะไร
2. ให้ สรุปคุณลักษณะของสาย UTP ประเภท CAT 1 – CAT 7 มาพอเข้ าใจ
3. วิธีการแพร่ สัญญาณ มีอะไรบ้ าง อธิบายมาพอเข้ าใจ
4. จงสรุปเทคโนโลยีโทรศัพท์ เคลือ่ นที่ 3G, 4G อธิบายมาพอเข้ าใจ
www.pcbc.ac.th