การเสริมสร้างศักยภาพและสมรรถภาพความเป็นครู

Download Report

Transcript การเสริมสร้างศักยภาพและสมรรถภาพความเป็นครู

การเสริมสร้ างศักยภาพและ
สมรรถภาพความเป็ นครู
จาก สมาชิกกลุ่ม 9
คาสาคัญ
• สร้ างเสริม หมายถึง ทาให้ เกิดมีขนึ ้ และเพิ่มพูนให้ มากยิ่งขึน้
เช่ น การศึกษาสร้ างเสริมคนให้ เป็ นพลเมืองดี.
คาสาคัญ (ต่ อ)
• ศักยภาพ หมายถึง ความสามารถทีย่ งั ไม่ พฒ
ั นา หรือยังไม่ พฒ
ั นาเต็มที่ ศักยภาพเป็ นพลัง
ภายใน พลังทีซ่ ่ อนไว้ หรือพลังแฝงทีย่ งั ไม่ ได้ แสดงออกมาให้ ปรากฏ หรือออกมาบ้ างแต่ ยงั ไม่
หมด เช่ น เมล็ดมะม่ วงมีศักยภาพทีจ่ ะโตเป็ นต้ นมะม่ วงถ้ าหากได้ ดนิ ดี นา้ ดี แดดดี ปุ๋ ยดี เด็ก
จานวนมากทีม่ ศี ักยภาพทีจ่ ะเป็ นผู้ใหญ่ ทดี่ แี ละเก่ งถ้ าหากได้ รับการ เลีย้ งดูทดี่ ี การศึกษาทีด่ ี
สิ่ งแวดล้ อมทีด่ ี
ทางปรัชญา ศักยภาพ ( potential-potentiality ) ตรงกันข้ ามกับคาว่ า กรรตุ
ภาพ หรือภาวะทีเ่ ป็ นจริง ( actual-actuality ) หรือเรียกกันด้ วยภาษาง่ ายๆว่ า ภาวะแฝง
( potential ) กับภาวะจริง ( actuality ) ศักยภาพ (ภาษาละติน potentia ) เป็ น
ภาวะทีเ่ ปลีย่ นแปลงได้ เป็ นไปได้ เกิดขึน้ ได้ ตรงข้ ามกับภาวะจริง( actus ) ซึ่งในปรัชญา
ตะวันตกตั้งแต่ อริสโตเติล พูดถึงความสมบูรณ์ ( perfection ) ว่ าเป็ นภาวะความจริงที่
บริสุทธิ์ actus purus ( pure action ) เปลีย่ นแปลงไม่ ได้
คาสาคัญ (ต่ อ)
•สมรรถภาพ (Competence หรือ
Efficiency) หมายถึง ความรู้ ความสามารถ ทักษะ เจต
คติ อุปนิสัย หรื อ บุคลิกภาพของบุคคลเพื่อที่จะนาไป
ประยุกต์ ใช้ ในการปฏิบัตงิ านให้ เกิดผลสาเร็จอย่ างมี
ประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ฉะนัน้ “การพัฒนาศักยภาพและสมรรถภาพของครู ” จึงหมายถึง
การส่ งเสริมพัฒนาครูให้ แสดงความสามารถสูงสุดอันเป็ น
คุณสมบัตทิ ่ แี ฝงอยู่ในตัวให้ ปรากฏออกมาเป็ นที่ประจักษ์ แก่
นักเรียนและต่ อสังคม
การพัฒนาศักยภาพและสมรรถภาพของครูให้ เป็ นครูท่ ดี ี
และประสบความสาเร็จในวิชาชีพครูอาจดาเนินการได้ อย่ างน้ อย
3 ทางคือ
1. การพัฒนาศักยภาพ
และสมรรถภาพตนเอง
ของครู 206
2. การพัฒนาศักยภาพ
และสมรรถภาพของครู
โดยสถานศึกษา 210
3. การพัฒนา
ศักยภาพและ
สมรรถภาพของครู โดย
หน่ วยงานกลาง 216
สานักงานเลขาธิการคุรุสภา ได้ สรุ ปว่ า การพัฒนาวิชาชีพครู
เพื่อยกระดับคุณภาพครูส่ ูมาตรฐานวิชาชีพควรเป็ นการพัฒนาที่
ครูได้ ฝึกฝนตนเองในสภาวะของการปฏิบัตงิ านปกติ สร้ าง
โอกาสให้ ครูได้ ทากิจกรรมตามความถนัด ความสนใจ ด้ วย
วิธีการต่ างๆหลากหลาย
ครูจะแสดงบทบาทในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในลักษณะ
ต่ างๆ แตกต่ างกันตามระดับคุณภาพมาตรฐานวิชาชีพ ซึ่ง
สามารถวิเคราะห์ การแสดงออกของครูใน 3 มิติ ดังนี ้
• มิตทิ ่ ี 1 ระดับฝี มือของครู เป็ นระดับคุณภาพในการดาเนินงานการจัดทา
แผนการสอนการออกแบบกิจกรรมการเรี ยนรู้ที่ครูนามาใช้ โดยมีระดับฝี มือที่
กาหนดคุณภาพไว้ กว้ าง 3 ระดับ คือ
คุณภาพระดับต่า เป็ นการปฏิบตั ิตามแบบตามตัวอย่างที่ผ้ อู ื่นกาหนดไว้
หรื อปฏิบตั ิให้ เห็นแล้ วนามาใช้ โดยไม่คานึงถึงบริบทอื่น
คุณภาพระดับกลาง เป็ นการปฏิบตั ิที่ครูพฒ
ั นาขึ ้นเองสอดคล้ องกับผู้เรี ยน
ท้ องถิ่นศักยภาพและความถนัดของครู
คุณภาพระดับสูง เป็ นการปฏิบตั ิที่มีความชานาญแตกฉานจนสามารถเป็ น
ผู้แนะนาช่วยเหลือ เป็ นแบบอย่างหรื อเป็ นที่ปรึกษาร่วมพัฒนาให้ กบั ครูคนอื่นๆได้
• มิตทิ ่ ี 2 การเพิ่มบทบาทของผู้เรียน
เป็ นการพัฒนาผู้เรี ยนจากความสามารถขัน้ ต่าไปสู่ความสามารถขัน้
สูง จากผู้เรี ยนอธิบายด้ วยตนเองสู่ผ้ ูเรี ยนออกแบบการเรี ยนรู้ ด้วยตนเองสู่
ผู้เรี ยนสร้ างความรู้ ได้ เองเป็ นการพัฒนาคุณภาพสูงขึน้ โดยกิจกรรมการ
เรี ยนรู้ ท่ คี รู แสดงออก ครู จะต้ องเป็ นผู้นาทาง โดยการจัดขัน้ ตอนของ
กิจกรรมเป็ นลาดับ นาไปสู่การคิดได้ เอง และการสร้ างความรู้ ได้ เอง
• มิตทิ ่ ี 3 ผลที่เกิดกับผู้เรียน
นักเรี ยนจะต้ องได้ รับการพัฒนาความสามารถจากความจา สู่ ความคิด สู่
การกระทา สู่ ค่านิยม และสูก่ ารปฏิบตั ิเป็ นนิสยั ติดตัวด้ วยค่านิยมที่พงึ ประสงค์จงึ
จะเป็ นผลผลิตของครูมืออาชีพที่มีคณ
ุ ภาพระดับสูง
ขอบข่ ายสาระของการพัฒนาครู จงึ กาหนดแนวทางพัฒนาครู โดยเริ่ม
จากฝึ กฝนตนเองของครู การแสดงออกของครู และผลที่เกิดกับนักเรี ยน
การพัฒนาตนเองให้ เป็ นผู้ประสบความสาเร็จในอาชีพครู มืออาชีพนัน้
จะต้ องได้ รับการพัฒนาปรั บปรุ งด้ วยตัวเองมาเป็ นลาดับ
โดย
ผู้บังคับบัญชาได้ เสนอวิธีการพัฒนาตนเองบางประการเพื่อก้ าวไปสู่
ความสาเร็จ เช่ น ฝึ กตนเองให้ ตรงต่ อเวลา ทุกคนมีเวลาเท่ ากัน ผู้ท่ ีบริหาร
เวลาเก่ งจะต้ องยึดมั่นในหลักการพืน้ ฐาน ได้ แก่ มีความกระตือรื อร้ นและ
มีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาไม่ ผัดวันประกันพรุ่ งในการทางานทุกประเภท
ทัง้ งานเล็กงานใหญ่
ให้ ความสาคัญเท่ าเทียมกันเตรี ยมตัวให้ พร้ อมอยู่
เสมอ
เป็ นคนขยันขันแข็ง เป็ นคนทางานรวดเร็วลักษณะคนทางาน
รวดเร็ว ฝึ กตนให้ มีความเชื่อมั่นในตนเอง ทาให้ ตนเป็ นที่ต้องใจของผู้อ่ ืน
ทาตนให้ ร้ ู จักกาลเทศะ และทาให้ ตนเองเป็ นที่น่าเชื่อถือ
เกณฑ์ มาตรฐานวิชาชีพครูของคุรุสภา พ.ศ. 2537 ที่
กาหนดมาตรฐานสาหรับครูในการปฏิบัตเิ พื่อพัฒนาตนเองไว้
ดังนี ้
มาตรฐานที่ 1 ปฏิบัตกิ จิ กรรมทางวิชาการเกี่ยวกับการพัฒนาวิชาชีพ
ครู อยู่เสมอ
ปฏิบัตกิ จิ กรรมทางวิชาการเกี่ยวกับการพัฒนาวิชาชีพครู อยู่เสมอ
หมายถึง การศึกษาค้ นคว้ าเพื่อพัฒนาตนเอง การเผยแพร่ ผลงานทาง
วิชาการ
และการเข้ าร่ วมกิจกรรมทางวิชาการที่องค์ การหรื อหน่ วยงาน
หรื อสมาคมจัดขึน้ และ ต้ องมีผลงานหรื อรายงานอย่ างชัดเจน
มาตรฐานที่ 11 แสวงหาและใช้ ข้อมูลข่ าวสารในการพัฒนา
คือ การค้ นหา สังเกต จดจา และรวบรวมข้ อมูลข่ าวสารตาม
สถานการณ์ ของสังคมทุกด้ าน แล้ วสามารถวิเคราะห์ วจิ ารณ์ อย่ างมีเหตุผล
ใช้ ข้อมูลในการแก้ ปัญหา ใช้ ในการพัฒนาตนเองและสังคมได้
ทัง้ สองมาตรฐานดังกล่ าวจะเป็ นเกณฑ์ ท่ กี าหนดให้ ครูได้
พัฒนาตนเอง อันจะเป็ นการเพิ่มศักยภาพของตัวครูเองและเสริม
สมรรถนะความเป็ นครูมืออาชีพตามที่สังคมต้ องการและคาดหวัง
โดยแท้ จริง
ภาพ แสดงการพัฒนาตนเองของครูมืออาชีพ
กระบวนการ
พัฒนา
-พัฒนา
สถานศึกษา
-อบรมและพัฒนา
บุคลากร
การเปลี่ยนแปลง
-การเรี ยนรู้
-ความเชี่ยวชาญ (ผลรวม
ของความรู้ทกั ษะและ
ประสบการณ์ที่มผี ลให้
บุคลากรสามารถ
ปฏิบตั ิงานได้ อย่างมี
ประสิทธิภาพ)
ผลการ
ปฏิบตั ิงาน
-ระดับสถานศึกษา
-ระดับกระบวนการ
-ระดับบุคลากรครู
การพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาของ
ไทย
ระบบการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาใน
สถานศึกษาโดยทั่วไปของไทยมีลักษณะเฉพาะและซับซ้ อนกว่ า
องค์ กรอื่นๆ เพราะบุคลากรส่ วนใหญ่ ของสถานศึกษาคือ ครู ซึ่ง
เป็ นผู้มีวุฒทิ างการศึกษาในระดับปริญญาตรีขนึ ้ ไป และทา
หน้ าที่หลักในการพัฒนาเยาชนของสังคม ของประเทศ ครูผ้ ูสอน
และบุคลากรทางการศึกษาที่มีประสิทธิภาพย่ อมสร้ างทรัพยากร
บุคคลที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพในการพัฒนาให้ แก่ สังคม
การพัฒนาศักยภาพบุคคลหรื อการพัฒนาทรัพยากรบุคคล เป็ นกระบวนการ
เชิงระบบเป็ นการทาหน้ าที่จัดหาความรู้ และทักษะเพื่อพัฒนาบุคลากรของ
สถานศึกษาในการปฏิบัตงิ านเพื่อนาไปใช้ ในปั จจุบันและอนาคตโดยการ
เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้ มีความสามารถในทิศทางที่สอดคล้ องกับเป้าหมาย
และนโยบายของสถานศึกษานัน้ ๆ เพื่อให้ เป็ นสถานศึกษาที่มีความสามารถ
ในการพัฒนาด้ านการเรี ยนการสอนโดยแท้ จริงจึงเกิดแนวคิดเรื่อง “ องค์ กร
แห่ งการเรี ยนรู้ ” (Learning Organization) ขึน้ จุดมุ่งหมายของการ
ฝึ กอบรมและพัฒนาครู จงึ ได้ เปลี่ยนแปลงให้ สถานศึกษาและหน่ วยงานที่
เกี่ยวข้ องในพืน้ ที่มีความรั บผิดชอบต่ อการพัฒนาครู ทุกระดับและทุกเรื่องที่
ส่ งผลต่ อการพัฒนาคุณภาพครู
คุณภาพทางการศึกษาและคุณภาพ
สถานศึกษา
ดังนัน้ การพัฒนาบุคลากรของสถานศึกษา จึงมีองค์ ประกอบสาคัญคือ
การฝึ กอบรมพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาและการพัฒนาสถานศึกษา
ขั้นตอนในการฝึ กอบรมและพัฒนา
1. ศึกษาความต้ องการจาเป็ นในการฝึ กอบรม (Need
Assessment)
1.1. วิเคราะห์ รายละเอียดของงาน ใช้ สาหรั บการกาหนดความต้ องการ
ฝึ กอบรมของบุคลากรบรรจุใหม่ เพื่อพัฒนาและฝึ กทักษะด้ านความรู้
2.2. วิเคราะห์ ผลการปฏิบัตงิ าน โดยเปรี ยบเทียบหาความแตกต่ างกับ
มาตรฐานของงานพร้ อมทัง้ หาสาเหตุของปั ญหา
2. ขัน้ ออกแบบเนือ้ หาในการฝึ กอบรม (Instructional
Design)
2.1. รวบรวมวัตถุประสงค์ วิธีการสอนและสื่อการสอน คาอธิบาย
ลักษณะและการจัดเรี ยงลาดับของเนือ้ หา
2.2. จัดเตรี ยมอุปกรณ์ ต่างๆ ให้ พร้ อมสาหรั บการอบรม
2.3. ดาเนินการฝึ กอบรมด้ วยความรอบคอบ มีคุณภาพ และมี
ประสิทธิผล
3. ขัน้ ทาให้ เกิดความเที่ยงตรง (Validation)
ฝึ กซ้ อมการนาเสนอและทดสอบความถูกต้ องก่ อนนาเสนอจริงต่ อผู้เข้ า
อบรมเพื่อให้ แน่ ใจว่ าแผนงานมีความเรี ยบร้ อยและมีประสิทธิผล
4. ขัน้ ปฏิบัติ (Implementation)
ดาเนินการฝึ กอบรมและฝึ กปฏิบัติ ซึ่งมุ่งนาเสนอความรู้ และทักษะในการ
ปฏิบัตงิ าน
5. ขัน้ การประเมินผลและติดตามผล (Evaluation and
follow-up)
5.1. ปฏิกริ ิยา (Reaction) บันทึกปฏิกริ ิยาของผู้เข้ ารั บการฝึ กอบรมที่มี
ต่ อการฝึ กอบรม
5.2. การเรี ยนรู้ (Learning) ใช้ เครื่ องมือการป้อนกลับ
5.3. พฤติกรรม (Behavior) หัวหน้ าบันทึกปฏิกริ ิยาการปฏิบัติงาน
5.4. ผลลัพธ์ (Results) พิจารณาปรั บปรุ งผลการปฏิบัตงิ านและ
ประเมินความต้ องการฝึ กอบรมเพิ่ม
ประเภทของการฝึ กอบรม
1. แบ่ งตามลักษณะผู้เข้ ารับการอบรม
เพื่อความรู้ จักงาน ความคุ้นเคยและประโยชน์
2. แบ่ งตามลักษณะงาน
2. แบ่ งตามลักษณะงาน
2.1 ฝึ กอบรมก่อนเข้าทางาน ( Pre – service Training )
2.2 เรี ยนรู ้งานโดยทาไปด้วย ( On – the – job Training)
2.3 ฝึ กอบรมเพิ่มความรู ้ความชานาญ ( In - service Training)
2.4 ส่ งครู บุคลากรออกไปศึกษาดูงานข้างนอก ( Off – the job
Training)
การพัฒนาครู โดยหน่ วยงานกลางเป็ นการดาเนินการที่เป็ นระบบมาช้ า
นาน เนื่องจากระบบการศึกษาไทยมีความผูกพันกับระบบราชการ
เป็ นส่ วนหนึ่งของระบบราชการ กฎระเบียบและแนวปฏิบัตทิ งั ้ หลาย
ก็มักจะกาหนดโดยส่ วนราชการ ความคาดหวังของสังคมก็ยังเป็ น
ภารกิจที่สาคัญหน่ วยงานกลางตามนัยดังกล่ าวอาจแบ่ งได้ 2 ลักษณะ
คือ
3.1. หน่ วยงานกลางของกระทรวงต้ นสังกัดและที่เกี่ยวข้ อง
ในส่ วนที่เกี่ยวข้ องกับการผลิตและการพัฒนาครู นัน้
กระทรวงศึกษาธิการได้ กาหนดยุทธศาสตร์ ในการผลิตและพัฒนา
อย่ างชัดเจนโดยยกตัวอย่ างช่ วงระหว่ างปี 2549 – 2551 ดังนี ้
ยุทธศาสตร์ การปฏิรูปครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการ
ศึกษา พ.ศ.2549 – 2551
(218)
วิสัยทัศน์ ของยุทธศาสตร์ ฉบับนี ้ (คณะกรรมการข้ าราชการครูและ
บุคลากรทางการศึกษา 2546) คือ “ภาคในปี 2551 ครู
คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษามีศักยภาพ คุณภาพตาม
มาตรฐาน และการรับรองวิชาชีพสามารถใช้ รูปแบบและวิธีการ
จัดการเรียนรู้ท่ หี ลากหลาย และนาเทคโนโลยีมาใช้ ในการพัฒนา
ผู้เรียนให้ มีความรู้มีคุณภาพ มีจริยธรรม ทันต่ อการพัฒนาและ
การแข่ งขันและของประเทศ”
ยุทธศาสตร์ การปฏิรูปครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาฉบับนี ้
ประกอบด้ วย 3 ยุทธศาสตร์ หลักคือ
1.การฟื ้ นฟูศรั ทธาวิชาชีพครู จะมีการดาเนินการ ยกระดับมาตรฐาน
วิชาชีพครู พัฒนาระบบความก้ าวหน้ าในวิชาชีพ สร้ างและพัฒนาระบบ
ค่ าตอบแทน สวัสดิการ สวัสดิภาพ และสิทธิประโยชน์ เกือ้ กูล
2.การพัฒนาศักยภาพครู ให้ มีการดาเนินการ สร้ างเอกภาพการพัฒนา
การพัฒนาและฝึ กอบรมที่ยดึ โรงเรียนเป็ นฐานการพัฒนา (SBT / On-Site
Training/Whole School Approach) และเสริมพลังให้ ชมรม
วิชาการเครื อข่ ายวิชาชีพ มีบทบาทพัฒนาครู
3.การผลิตครู แนวใหม่ จะให้ มีการปรั บปรุ งโดยการ พัฒนาหลักสูตรการ
ผลิตและพัฒนาครู แนวใหม่
สภาพปั ญหาของครูในการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ
ในช่ วงเวลาที่สังคมกาลังมองวิชาชีพครู และผู้ประกอบวิชาชีพครู ด้วยความ
ไม่ แน่ ใจ ในคุณภาพกระทรวงศึกษาธิการให้ วเิ คราะห์ ปัญหาต่ าง ๆ แล้ ว
สรุ ปว่ า....
• ปั ญหาของวิชาชีพครู ได้ แก่
1) ปั ญหาทางการผลิตครู ได้ แก่ คุณภาพหลักสูตร คุณภาพสถาบันผลิต
ครู เอกภาพการผลิต คุณภาพเข้ าสู่วชิ าชีพ
2) ปั ญหาการพัฒนาครู ได้ แก่ การพัฒนาไม่ สนองความต้ องการ ขาด
แรงจูงใจครู ทงิ ้ ชัน้ เรี ยน ขาดเอกภาพ วิธีการพัฒนา
3) ปั ญหาการบริหารงานบุคคล ได้ แก่ ข้ อมูลการบริหารงานบุคคล
ระบบคุณธรรม การใช้ ครู (ครู ขาด, ครู สอนไม่ ตรงวุฒ)ิ ความก้ าวหน้ า
คุณภาพชีวติ (สภาพการปฏิบัตงิ าน , หนีส้ ิน)
4) ปั ญหามาตรฐานและจรรยาบรรณ ได้ แก่ การควบคุมจรรยาบรรณ
รั บรองมาตรฐาน พัฒนาการประกอบวิชาชีพ
แนวคิดหลักการพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษา แผนยุทธศาสตร์ การปฏิรูป
ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2549
– 2551 ฉบับนีไ้ ด้ กาหนดกรอบในการพัฒนาครูโดยกระทรวงศึกษาธิการไว้
ดังนี ้
1) การพัฒนาต้ องเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ตัวเด็ก (นักเรียน)
2) การพัฒนาต้ องเกิดจากความต้ องการของครู และบุคลากรทางการศึกษา
3) การพัฒนาควรเป็ นลักษณะ Site Based Development
(SBD)
4) การพัฒนาต้ องมีหลากหลายรู ปแบบให้ เลือกได้ ตามความเหมาะสม
5) การพัฒนาต้ องสอดคล้ องกับภารกิจ/หน้ าที่
6) การพัฒนาต้ องดาเนินการในรูปของเครือข่ าย
7) การพัฒนาต้ องสอดคล้ องกับนโยบายของหน่ วยงาน
8) การพัฒนาต้ องครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
• เป้าหมายและวิธีการพัฒนา แผนยุทธศาสตร์ การปฏิรูปครู คณาจารย์ และ
บุคลากรทางการศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการ 2549 – 2551 มีเป้าหมาย
และแนวทางในการพัฒนาที่ครอบคลุมศักยภาพของวิชาชีพครู ในภาพรวมคือ
1) ครู และบุคลากรทางการศึกษาทุกคนต้ องได้ รับการพัฒนาอย่ างน้ อยปี ละ
1 ครั ง้
2) การพัฒนามุ่งเน้ นที่สมรรถนะของครู และบุคลากรทางการศึกษา
3) รู ปแบบการพัฒนาเน้ นสร้ างเครือข่ าย
4) องค์ กรเครื อข่ าย : หน่ วยงานรั ฐ และเอกชน
5) บุคคลเครื อข่ าย : ผู้ทรงคุณวุฒ/ิ ปราชญ์ ชาวบ้ าน/ผู้ประสบความสาเร็จ
6) หลากหลายวิธีพฒ
ั นา
7) SBD : เพื่อนช่ วยเพื่อน / วิจัยในชัน้ เรี ยน / สื่อทางไกล
8) OSBD : อบรม / สัมมนา / แลกเปลี่ยนประสบการณ์
3.2. การพัฒนาวิชาชีพครู ของคณะกรรมการข้ าราชการครู
(ก.ค.ศ.)
คณะกรรมการข้ าราชการครู (ก.ค.ศ.) เป็ นองค์ กรที่มีหน้ าที่ด้านการ
บริหารบุคลากรที่เป็ นข้ าราชการครู โดยตรงและมีบทบาทต่ อการควบคุม
มาตรฐานวิชาชีพครู หลายด้ านได้ กาหนดนโยบายการพัฒนาวิชาชีพครู
ดังนี ้
1)ส่ งเสริมให้ มีการพัฒนาข้ าราชการครู ทุกคน ทุกระดับ โดยมีการพัฒนาอย่ างมี
ระบบและต่ อเนื่อง
2)การพัฒนาข้ าราชการครู ต้องมุ่งเน้ นให้ ข้าราชการครู มีความรู้ ทักษะ เจตคติท่ ี
ดี และเหมาะสมกับการเป็ นครู โดยเน้ นในการพัฒนาในเรื่ อง
3)ให้ มีการพัฒนาข้ าราชการครูทงั ้ ระบบ ตัง้ แต่ ครูบรรจุใหม่
4)ส่ งเสริมให้ มีการพัฒนาข้ าราชการครู ด้วยวิธีการที่เหมาะสมเพื่อยกระดับ
คุณภาพการศึกษาและการใช้ ข้าราชการครู ให้ เกิดประโยชน์ สูงสุด
5)การพัฒนาข้ าราชการครู ต้องมุ่งผลในทางปฏิบตั ิ เพื่อการพัฒนาคุณภาพทาง
การศึกษาและมีแนวทางที่จะนาความรู้ ท่ ไี ด้ รับไปปฏิบตั อิ ย่ างแท้ จริง
6)ส่ งเสริมให้ มีการระดมสรรพกาลัง ทรัพยากร ความร่ วมมือและประสานงาน
ระหว่ างส่ วนราชการในกระทรวงศึกษาธิการ สถาบันการศึกษาหน่ วยงานเอกชนและ
ระหว่ างองค์ กรกลาง ในการบริหารงานบุคคลเพื่อให้ การพัฒนาข้ าราชการครู มี
ประสิทธิภาพและประหยัด
7)ให้ ส่วนราชการจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรสนับสนุนการพัฒนา
ข้ าราชการครูให้ เป็ นไปตามนโยบาย
8)ให้ คณะกรรมการข้ าราชการครู (ก.ค.ศ.) เป็ นองค์ กรกลางทาหน้ าที่กาหนด
เป้าหมายแนวทาง และกลไกต่ าง ๆ ที่จาเป็ นสาหรั บการพัฒนาข้ าราชการครู ตลอดจน
ประสานงานกากับดูแลและส่ งเสริมสนับสนุนการพัฒนาข้ าราชการครู ตลอดจน
ประสานงานกากับดูแลและส่ งเสริมสนับสนุนการพัฒนาข้ าราชการครู ให้ เป็ นไปตาม
นโยบาย
3.3 การพัฒนาโดยแบ่ งหน่ วยต้ นสังกัด
3.4การพัฒนาศักยภาพโดยองค์ กรวิชาชีพ
องค์ กรที่เกี่ยวข้ องกับวิชาชีพครู ของไทยองค์ กรที่
เกี่ยวข้ องกับการพัฒนาศักยภาพและสมรรถภาพของครู และวิชาชีพ
ครู ไทยอาจแบ่ งได้ เป็ น 3 กลุ่มด้ วยกัน คือ
1)องค์ กรผลิตครู
2)องค์ กรใช้ ครู
3)องค์ กรพัฒนาวิชาชีพครู
ทัง้ 3 กลุ่มต่ างมีบทบาทและพันธะต่ อผู้ประกอบวิชาชีพครูในแต่
ละส่ วน องค์ กรที่ครู เกี่ยวพัน มีความเป็ นเจ้ าของนัน้ คือองค์ กรพัฒนา
ครู ทงั ้ หลาย ครู พงึ เป็ นสมาชิกที่ดีขององค์ กรเหล่ านี ้
องค์ กรผลิตครู
ในอดีตการผลิตครู เป็ นหน้ าที่ของรั ฐเท่ านัน้ แต่ ภายหลังการ
บังคับใช้ รัฐธรรมนูญแห่ งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540
สถาบันการศึกษาเอกชนที่สอนระดับปริญญาตรี ก็สามารถเปิ ดสอน
หลักสูตรเพื่อการผลิตครู ได้ การปฏิรูปการศึกษาภายใต้ การบังคับของ
พระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแห่ งชาติ พ.ศ.2542 รั ฐต้ องกาหนดระบบ
ผลิตครู และบุคลากรทางการศึกษาขึน้ ใหม่ ตามมาตร 52 นอกจากนี ้
การปฏิรูปการบริหารการศึกษา โดยให้ มีกระทรวงการศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรมเพียงกระทรวงเดียวทาให้ องค์ กรผลิตครูทงั ้ หลายของ
ประเทศแต่ เดิมต้ องมีการขยับขยายกันใหม่ องค์ กรผลิตครู ไทยใน
อนาคตน่ าจะมีหน่ วยงานเพียง 4 กลุ่ม คือ
1.คณะศาสตร์ และศึกษาศาสตร์ สังกัดมหาวิทยาลัยเดิม มีมหาวิทยาลัย
ของรั ฐ 16 แห่ ง มีคณะเปิ ดสอนสาขาวิชาชีพครู รวมทัง้ มหาวิทยาลัยเปิ ด 2
แห่ ง คือ มหาวิทยาลัยรามคาแหง และมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ทุก
สถาบันผลิตถึงระดับบัณฑิตศึกษา
2.กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฎ มีมหาวิทยาลัยราชภัฏ 41 แห่ ง ที่มีคณะ
ครุ ศาสตร์ หรื อหน่ วยงานที่เรี ยกชื่ออย่ างอื่นเป็ นหน่ วยงานผลิตครู เกือบทุก
แห่ งขยายการศึกษาสาขาวิชาชีพครู ถงึ ระดับบัณฑิตศึกษาเช่ นกัน
3.กลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ซึ่งมีทงั ้ หมด 9 แห่ ง
มหาวิทยาลัยกระจายอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศไทย จะเน้ นการผลิตบุคลากร
ครู วชิ าชีพช่ าง
กลุ่มมหาวิทยาลัยของรั ฐเดิมที่มีคณะครุ ศาสตร์ และศึกษาศาสตร์ เช่ น
จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่ น
มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยบูรพา เป็ นต้ น มหาวิทยาลัยเหล่ านีผ้ ลิต
ครู ระดับปริญญาเกือบทุกสาขา
4.มหาวิทยาลัยเอกชน มีหลายสถาบันที่เปิ ดสอนในระดับบัณฑิตศึกษา
สาขาการศึกษาไม่ มีการเปิ ดสอนในระดับปริญญาตรี
องค์ กรให้ ครู
ตามพระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแห่ งชาติ
พ.ศ.2542
พระราชบัญญัตสิ ภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
พ.ศ.2546
และพระราชบัญญัตริ ะเบียบข้ าราชการครูและบุคลากรทางการ
ศึกษา พงศ.2547 ผู้สอนในระดับการศึกษาขัน้ พืน้ ฐานทัง้ หมดจะ
มีตาแหน่ งเป็ นครู ฉะนัน้ องค์ กรใช้ ครูก็คือ สถานศึกษาที่จดั
การศึกษาขัน้ พืน้ ฐานระดับอุดมศึกษาที่ต่ากว่ าปริญญาอาจ
แบ่ งเป็ น 3 กลุ่ม คือ
1. สถานศึกษาสังกัดเขตพืน้ ที่การศึกษา
2. สถานศึกษาสังกัดองค์ กรท้ องถิ่น
3. สถานศึกษาเอกชนหรือหน่ วยงานพิเศษของรัฐอื่น ๆ
องค์ กรพัฒนาครู
องค์ กรพัฒนาครูมีหลายรูปแบบ อาจเป็ นองค์ กรที่ไม่ เป็ น
ทางการ เช่ น สหภาพครูทงั ้ หมด ชมรมครูต่าง ๆ ที่มีความสนใจ
ในเรื่องใดร่ วมกัน เป็ นต้ น
สาหรับองค์ กรพัฒนาครูท่ เี ป็ นทางการก็คือองค์ กรที่จัดตัง้ ขึน้
โดยมีกฎหมายรองรับหรือจัดตัง้ ขึน้ โดยมีการบังคับของกฎหมาย
คือ คุรุสภา องค์ กรนีค้ รูต้องเป็ นสมาชิกหรือเกี่ยวข้ องอย่ างไรก็
ตามการจัดตัง้ องค์ กรที่เป็ นทางการนัน้ ก็มีหลายองค์ กรที่ครูควร
ร่ วมกันจัดตัง้ ขึน้ เพื่อเป็ นองค์ กรพัฒนาครูเอง
คุรุสภากับบทบาทหน้ าที่ขององค์ กรวิชาชีพในการพัฒนา
ศักยภาพครู เพื่อให้ บรรลุเป้าหมายและหลักการขององค์ การวิชาชีพ
ครู ตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ ของการตัง้ องค์ กรวิชาชีพและความ
คาดหวังของมวลสมาชิกแห่ งองค์ กรดังกล่ าว จึงมีการกาหนดบทบาท
และหน้ าที่ขององค์ การวิชาชีพครู ไว้ คุรุสภา (2548 : 31-32) พอสรุ ป
ได้ ดังนี ้
1.เป็ นองค์ กรอิสระและมีอานาจที่จะปฏิบัตงิ านได้ โดยรวดเร็ว
และฉับพลันภายใต้ กฎหมายที่เกี่ยวข้ อง
2.ส่ งเสริมด้ านสวัสดิการและบริการให้ แก่ สมาชิกครูโดยทั่วถึง
3.สร้ างกฎหมายมาตรฐานทางจรรยาบรรณวิชาชีพครู เพื่อ
ควบคุมให้ ประพฤติตนอยู่ในขอบเขตอันเหมาะสมของวิชาชีพครู และ
ธารงไว้ ซ่ งึ เกียรติและมาตรฐานของวิชาชีพครู
4. ดาเนินการออกและถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
5. ส่ งเสริมให้ สมาชิกครูมีความก้ าวหน้ าและทันสมัยทางวิชาการ
ทัง้ นีเ้ พื่อรักษามาตรฐานในวิชาชีพครูตราบที่ยังประกอบวิชาชีพนี ้
อยู่
6. ควบคุมมาตรฐานวิชาชีพครูและปฏิบัตติ ามจรรยาบรรณแห่ ง
วิชาชีพครู
7. วิจัยและวางแผนเพื่อพัฒนาองค์ กรและวิชาชีพครู
8. ทาหน้ าที่ประสานงานระหว่ างสมาคมที่เกี่ยวข้ องทางวิชาชีพครู
อื่น ๆ ทัง้ ในและนอกประเทศ
นโยบายพัฒนาครูของคุรุสภา
ในการพัฒนาครูของคุรุสภานัน้ มีจุดมุ่งหมายสูงสุดหรื อ
อุดมการณ์ ในการ “ส่ งเสริมและพัฒนาให้ ครู เป็ นพลังแห่ งความดีงาม
และมีความคิดริเริ่มสร้ างสรรค์ เพื่อสังคม” ทัง้ นีม้ ีความคาดหวังว่ า
1.เพื่อพัฒนาวิชาชีพครู ให้ เป็ นวิชาชีพที่ม่ ุงสร้ างเยาวชนและ
ประชากรให้ เป็ นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพและมีศักยภาพในการพัฒนา
ประเทศชาติให้ เจริญก้ าวหน้ าไปสู่เป้าหมายที่รัฐกาหนดไว้
2.เพื่อเสริมสร้ างความมั่นคงให้ แก่ ครู ในการเป็ นผู้นาเพื่อพัฒนา
สังคมตลอดจนเสริมสร้ างความเป็ นอยู่ของครู ให้ มสี วัสดิภาพ มี
สวัสดิการ และมีรายได้ เหมาะแก่ เกียรติศักดิ์ศรี และสถานภาพของปู
ชนียบุคคลอย่ างแท้ จริง
3.เพื่อพัฒนางานของคุรุสภาพให้ เป็ นองค์ กรวิชาชีพครูท่ ี
เข้ มแข็งสามารถประสานงานและดาเนินงานพัฒนาครูและ
วิชาชีพครูให้ เป็ นวิชาชีพที่สามารถส่ งเสริมและเกือ้ หนุนให้ การจัด
การศึกษาของชาติบรรลุวัตถุประสงค์ ตามแผนที่กาหนดได้ อย่ างมี
ประสิทธิภาพ
4.เพื่อให้ บรรลุจุดประสงค์ ในแต่ ละข้ อจะมีแผนงานหลัก
รับรอง ได้ แก่ การพัฒนาวิชาชีพครู การส่ งเสริมความมั่นคงใน
วิชาชีพครู และการพัฒนาองค์ กรวิชาชีพครู
การพัฒนาวิชาชีพ
การพัฒนาวิชาชีพครูคุรุสภามีแผนงานในการยกระดับ
มาตรฐานวิชาชีพครู
เพื่อพัฒนามาตรฐานวิชาชีพครูให้ เป็ นที่
ยอมรับของทุกฝ่ าย
จัดให้ มีการจัดทาเอกสารและเครื่องมือที่
เกี่ยวกับมาตรฐานวิชาชีพครูพร้ อมให้ เกิดการปฏิบัติ ส่ งเสริมให้ มี
การออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูอย่ างรวดเร็วและทั่วถึง
พร้ อมกับจัดระบบทะเบียนข้ อมูลเกี่ยวกับครูท่ ไี ด้ รับใบอนุญาต
ประกอบวิชาชีพครูและครูผ้ ูได้ รับการอบรมเพิ่มเติมให้มี
ประสิทธิภาพ และให้ ครูได้ พัฒนาตนเองอย่ างต่ อเนื่อง โดยให้
ได้ รับค่ าตอบแทนและสิทธิพเิ ศษแก่ ครูท่ ไี ด้ รับใบอนุญาต
ประกอบวิชาชีพครู
เร่ งรั ดมาตรการที่จะก่ อให้ เกิดการพัฒนามาตรฐานวิชาชีพครู
อย่ างต่ อเนื่อง โดยการวิจัยเพื่อการปรับปรุ งกฎหมายที่กระตุ้นให้ ครู
ทุกคนกระตือรื อร้ นในการพัฒนาวิชาชีพครู จัดให้ มีการตอบแทนเป็ น
ขวัญกาลังใจแก่ ครู ท่ ไี ด้ พัฒนาตามมาตรฐานที่วางไว้
รวมทัง้
ค่ าตอบแทนแก่ ครู ผ้ ูเขียนตารา เอกสารประกอบการสอนหนังสือผลิต
สื่อการเรี ยนการสอนที่สอดคล้ องกับหลักสูตรและเหมาะสมกับสภาพ
ท้ องถิ่น
ดาเนินการให้ มีการยกย่ องเชิดชูเกียรติผ้ ูประกอบวิชาชีพครู โดย
ให้ มีการติดตามข่ าวสารการเคลื่อนไหวของผู้ประกอบวิชาชีพครู อย่ าง
ต่ อเนื่องจัดให้ มีทาเนียบนามของผู้ประกอบวิชาชีพครู ทุกคนให้ มีการ
ยกย่ องเชิดชูเกียรติผ้ ูท่ ที าคุณประโยชน์ ให้ แก่ การศึกษาของชาติอย่ าง
สูงยิ่งให้ การส่ งเสริมและยกย่ องเชิดชูเกียรติคุณครู ตลอดตลอดจน
นักเรี ยนที่มีผลการเรี ยนดีเด่ นอย่ างต่ อเนื่อง
การอบรมครูของคุรุสภา
เพื่อเป็ นการเพิ่มศักยภาพของครูให้ เป็ นไปตามมาตรฐาน
วิชาชีพครูของคุรุสภา พ.ศ.2537 คุรุสภามีแผนการในการอบรม
ครูอย่ างต่ อเนื่อง โดยการร่ วมมือองค์ กรผู้ผลิตและผู้ใช้ ครูในการ
กาหนดแผนหลักการฝึ กอบรม เช่ น จัดให้ มีคณะองค์ กรกลาง
ประสานงานฝึ กอบรมจัดให้ มีการแบ่ งความรับผิดชอบในการ
ฝึ กอบรมระหว่ างหน่ วยผลิตครู หน่ วยใช้ ครู และหน่ วยส่ งเสริมครู
คุรุสภา
และเร่ งรัดให้ มีการจัดทาหลักสูตรและสื่อเพื่อการ
ฝึ กอบรม ทัง้ นีจ้ ะมีการประสานงานกับ ก.ค.ศ. และหน่ วยงานที่
เกี่ยวข้ องเพื่อให้ ครูท่ ผี ่ านการฝึ กอบรมได้ ค่าตอบแทน
เพื่อเป็ นการพัฒนาผู้นาของครูผ้ ูสอนให้ มีศักยภาพสูงขึน้
และมีความรับผิดชอบในอาชีพมากขึน้ คุรุสภาจะดาเนินกล่ าว
ส่ งเสริมให้ ผ้ ูนาครูได้ เข้ ารับการอบรมเข้ มในหลักสูตรระดับสูง ให้
ผู้นาครูได้ รับการพัฒนารูปแบบต่ าง ๆ อย่ างต่ อเนื่อง โดยจัดให้ มี
การประชุมทางวิชาการอย่ างต่ อเนื่องและสม่าเสมอ
จัดให้ มี
การศึกษาดูงานในรูปแบบต่ าง ๆ และประชุมปฏิบัตกิ ารในเรื่ อง
ต่ าง ๆ สนับสนุนให้ ครูผ้ ูสอนในแต่ ละวิชาได้ รวมกลุ่มกันเพื่อ
พัฒนาคุณภาพของครูและเยาวชนของชาติ
การระดมทรัพยากรเพือ่ พัฒนาวิชาชีพครู
คุรุสภาพได้ ดาเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้ ได้ ทรัพยากรจาก
แหล่ งต่ าง ๆ มาพัฒนาวิชาชีพครูด้วยการ แสวงหาความร่ วมมือ
จากองค์ กรภาครัฐ เช่ นงบประมาณสนับสนุนจากงบประมาณ
แผ่ นดินด้ วยการประสานกับบุคลากรฝ่ ายต่ าง ๆ ที่มีบทบาทใน
การสนับสนุนในด้ านการเงินจากภาครัฐบาทประสานงานกับ
สถาบันหรือองค์ กรของรัฐ สนับสนุนการพัฒนาวิชาชีพครูจัด
กิจกรรมเพื่อระดมทรัพยากรสาธารณะ เพื่อแสวงหาความร่ วมมือ
จากองค์ กรและบุคคลจากต่ างประเทศ
งานส่ งเสริมองค์ กรวิชาชีพครูทเี่ กีย่ วข้ อง
นอกจากจะเพื่อสนับสนุนให้ องค์ กรครูท่ จี ดทะเบียนตาม
กฎหมายปฏิบัตแิ ละร่ วมมือกับคุรุสภาได้ อย่ างมีประสิทธิภาพ
ด้ วยการอานวยความสะดวกเกี่ยวกับการดาเนินงานของสมาคม
วิชาชีพต่ าง ๆ ให้ การสนับสนุนกิจกรรมของสมาคมที่เป็ น
ประโยชน์ แก่ มวลสมาชิก
ความเจริญของบุคคลในสังคม
ปั จจัยสาคัญย่ อมขึน้ อยู่กับ
คุณภาพของการฝึ กอบรมอย่ างมีประสิทธิภาพ
วิชาชีพครู และผู้
ประกอบวิชาชีพครู เป็ นกลุ่มที่สังคมฝากความหวังและมอบหมาย
ภารกิจดังกล่ าวให้ ปฏิบัตอิ ย่ างลุล่วง ดังนัน้ จึงเป็ นหน้ าที่ของครู
ทุกคนที่จะต้ องพัฒนาศักยภาพความเป็ นครูให้ มีคุณภาพตามที่สังคม
ต้ องการ
การพัฒนาศักยภาพและสมรรถภาพครู อาจทาได้ หลายวิธีได้ แก่
1. การพัฒนาตนเอง เช่ น การฝึ กอบรมการปฏิบตั งิ าน
การประชุมทางวิชาการ การจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ ร่วมกัน
การช่ วยเหลือเพื่อนครูในการทางาน การเสนอรายงานพัฒนาผู้เรียน
และกิจกรรมอื่นๆซึ่งเป็ นการฝึ กฝนที่ครู เลือกปฏิบัตดิ ้ วยตนเองตาม
ศักยภาพ จุดเด่ นจุดด้ อยและโอกาสของตน
2. การพัฒนาโดยองค์ กรหรือสถานศึกษา เป็ นการ
พัฒนาศักยภาพของบุคคลอย่ างเป็ นกระบวนการและเป็ นระบบ
มีกิจกรรมต่ างๆ เช่ น การส่ งเสริมให้ ไปศึกษาอบรม ดูงาน
สาขาวิชาที่ปฏิบัตงิ านอยู่
สนับสนุนให้ ไปศึกษาต่ อในระดับที่
สูงขึน้ ให้ ทุนการวิจัยให้ ไปเป็ นวิทยากรในหน่ วยงานอื่น การ
แลกเปลี่ยนบุคลากร ส่ งเสริมการเขียนตารา สนับสนุนให้ เป็ น
สมาชิกขององค์ กรวิชาชีพทัง้ ในและต่ างประเทศ และอนุญาตให้
ไปปฏิบัตงิ านด้ านวิชาการโดยไม่ ถือว่ าเป็ นการลา เหล่ านี ้ เป็ น
ต้ น
3. การพัฒนาครู โดยหน่ วยงานกลาง
อาจเป็ น
หน่ วยงานต้ นสังกัดการบริหารบุคคล เช่ น สานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขัน้ พืน้ ฐานหรือหน่ วยงานอื่น
ของกระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงมหาดไทย เป็ นต้ น ที่มีการพัฒนาทุกด้ านอย่ างต่ อเนื่อง
และการพัฒนาโดยองค์ กรวิชาชีพคือ คุรุสภา เพื่อให้ เป็ นไปตาม
เกณฑ์ มาตรฐานแห่ งวิชาชีพครู และการถือครองใบอนุญาตการ
ประกอบวิชาชีพครูอีกด้ วย นอกจากนัน้ อาจมีการพัฒนาโดยองค์ กร
ชมรม
สมาคมหรือกลุ่มวิชาชีพที่ผ้ ูประกอบวิชาชีพรวมตัวกันเพื่อ
ดาเนินการเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรื อหลายอย่ างเพื่อผลประโยชน์ แห่ ง
วิชาชีพครู ของพวกตนทัง้ ที่เป็ นทางการและไม่ เป็ นทางการ
ด้ วยการพัฒนาศักยภาพครูอย่ างต่ อเนื่องและเป็ นระบบด้ วย
วิธีการดังกล่ าวจะสร้ างความเชื่อมั่นแก่ ผ้ ูรับบริการคือ นักเรียน
ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไปว่ าครูได้ ทาหน้ าที่ของตนเองอย่ าง
สมบูรณ์ และมีคุณภาพสมควรให้ เป็ นผู้นาในการพัฒนาคนของ
ประเทศได้ ต่อไป
สมาชิกกลุ่มที่ 9
ขอขอบคุณค่ ะ / ครับ
สมาชิกในกลุ่ม
•
•
•
•
•
•
•
•
1. นายดนัย แสนทิวัง
2. นายสัชฌการ นันติ
3. นาย สุริยการต์ เนื่องพืช
4. นางสาวนงนุช บุตรดา
5. นางสาวผกามาศ ปั ญญาคา
6. นางสาววัชรี บนแท่ นทิพย์
7. นางสาวสุภาพรรณ นันตาเครื อ
8 นางสาวอนงค์ พรรณ สุวรรณกิจ
52741506
52741514
52741515
52741527
52741530
52741541
52741557
52741559
section 05
section 05
section 05
section 05
section 05
section 05
section 05
section 05