ระบบสารสนเทศและการพัฒนา

Download Report

Transcript ระบบสารสนเทศและการพัฒนา

INT1005
Information System and
Development
ระบบสารสนเทศและ
การพ ัฒนา
การจ ัดการสารสนเทศในองค์กร
*
การวางแผนและการพ ัฒนาระบบสารสนเทศ
(System Development)
ความจาเป็นในการพ ัฒนาระบบสารสนเทศ
การเปลีย
่ นแปลงกระบวนการการบริหาร
และการปฏิบ ัติงาน
การปร ับองค์การและสร้างความได้เปรียบ
ในการแข่งข ัน
กระบวนการธุรกิจ
บุคลากร
วิธก
ี ารและเทคนิค
เทคโนโลยี
งบประมาณ
้ ฐานภายในองค์การ
ข้อมูลและโครงสร้างพืน
การบริหารโครงการ
กระบวนการวางแผนระบบสารสนเทศ
ภารกิจขององค์การ
การประเมินสภาพแวดล้อม
แผนกลยุทธ์ขององค์การ
้ ฐานเดิมด้าน IT
โครงสร้างพืน
แผนกลยุทธ์ดา้ น IT
้ ฐานด้าน IT
โครงสร้างพืน
แผนปฏิบ ัติการด้าน IT
โครงการด้าน IT
การวางแผนระบบสารสนเทศในองค์การ
ั ัศน์และแผนกลยุทธ์ขององค์การ
1. วิสยท
ั ทัศน์ : องค์การกาลังมุง่ ไปในทิศทางใด

วิสย

แผนกลยุทธ์ : องค์การจะเดินไปตามทิศทางที่
กาหนดไว ้อย่างไร
ั ัศน์และ
2. ระบบสารสนเทศจะสน ับสนุนวิสยท
กลยุทธ์ขององค์การอย่างไร

ระบบสารสนเทศจะมีบทบาทในการสนับสนุน
ั ทัศน์ขององค์การอย่างไร
วิสย

ระบบสารสนเทศเดิมเป็ นอย่างไร

แผนระบบสารสนเทศในปั จจุบน
ั เป็ นอย่างไร

แผนระบบสารสนเทศในอนาคตจะพัฒนาใน
ลักษณะอย่างไร
การวางแผนระบบสารสนเทศในองค์การ
3. ระบบสารสนเทศในปัจจุบ ัน

ระบบปั จจุบน
ั ได ้สนับสนุนองค์การมากน ้อยเพียงไร

ระบบปั จจุบน
ั มีความเหมาะสมหรือไม่ มีจด
ุ อ่อนจุด
แข็งอย่างไร

ควรจะปรับปรุงระบบปั จจุบน
ั อย่างไร
4. ระบบสารสนเทศทีเ่ สนอแนะ

หลักการและเหตุผล

ความสามารถของระบบใหม่

ฮาร์ดแวร์

ซอร์ฟแวร์
ื่ สารข ้อมูล

ข ้อมูล และการสอ
การวางแผนระบบสารสนเทศในองค์การ
5. กลยุทธ์ทางการบริหาร
 แผนการจัดหา
่ งเวลาดาเนินการ
 ชว
 การจัดโครงสร ้างองค์การใหม่
 การปรับปรุงระบบงานภายในองค์การ
 การควบคุมทางการบริหาร
 การฝึ กอบรม
 กลยุทธ์ด ้านบุคลากร
การวางแผนระบบสารสนเทศในองค์การ
6. แผนปฏิบ ัติการ
 รายละเอียดแผนปฏิบต
ั ก
ิ าร
 ปั ญหาทีค
่ าดว่าจะเกิดขึน
้
 รายงานความก ้าวหน ้า
7. งบประมาณทีต
่ อ
้ งการใช ้
้ ายทัง้ หมด
 ค่าใชจ่
8. การพ ัฒนาระบบสารสนเทศ
ขนตอนการพ
ั้
ัฒนาระบบสารสนเทศ
• วิธก
ี าร เทคนิค และเครือ
่ งมือทีใ่ ชใ้ นการวิเคราะห์
• การวิเคราะห์ระบบสารสนเทศ
• การจ ัดการแฟ้มข้อมูลและฐานข้อมูล
• การออกแบบระบบสารสนเทศ
• การพ ัฒนาระบบสารสนเทศ
1. วิธก
ี าร เทคนิค และเครือ
่ งมือทีใ่ ชใ้ นการวิเคราะห์
1. แนวทางในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ ได ้แก่ วิธก
ี าร
(Methodology) เทคนิค (techniques) และเครือ
่ งมือ
แบบจาลองต่างๆ (Model Tools)
2. วิธก
ี ารใชวิ้ เคราะห์และออกแบบสารสนเทศ คือ SDLC
(System development lift cycle) และ RAD ( Rapid
application development)
1. วิธก
ี าร เทคนิค และเครือ
่ งมือทีใ่ ชใ้ นการวิเคราะห์
3. เทคนิคสาหรับการวิเคราะห์ ได ้แก่ เทคนิคการรวบรวมข ้อมูล
( Data gathering) และเทคนิคการจัดการโครงการ
(Project Management)
4. เครือ
่ งมือสาหรับวิเคราะห์ ได ้แก่ แบบกระบวนการ
(Modeling processes) แบบจาลองข ้อมูล (modeling
data) และแบบจาลองเชงิ วัตถุ (Modeling object)
2.การวิเคราะห์ระบบสารสนเทศ
1. วงจรการพ ัฒนาระบบ (SDLC) เป็นวิการแบบดง่ ั เดิม
2. ขนตอนวิ
ั้
เคราะห์ระบบสารสนเทศ ( System Analysis phase)
ึ ษาความเป็นไปได้ การ
ประกอบด้วยการวิเคราะห์ปญ
ั หา การศก
ิ ใจ
วิเคราะห์ความต้องการ การวิเคราะห์เพือ
่ การต ัดสน
3. การจ ัดการแฟ้มข้อมูลและฐานข้อมูล
1. การจ ัดการแฟ้มข้อมูลและโครงสร้าง
้ ฟ้ม ความรู ้
2. แฟ้มข้อมูลและฐานข้อมูล ประกอบด้วยการจ ัดแฟ้ม การใชแ
ด้านฐานข้อมูล การจ ัดการฐานข้อมูล ข้อดี ปัญหาและอุปสรรค
3. สถาปัตยกรรมฐานข้อมูลและแบบจาลองฐานข้อมูล
4. การออกแบบระบบสารสนเทศ
่ การกาหนดความต้องการผลล ัพธ์ อุปกรณ์ท ี่
1. การออกแบบผลล ัพธ์ เชน
แสดงผล วิธก
ี ารแสดงผล การออกแบบรายงาน
่ วิธก
2. การออกแบบข้อมูลนาเข้า เชน
ี ารนาเข้า อุปกรณ๋ ร ับข้อมูล
3. การออกแบบสว่ นติดต่อก ับผูใ้ ช ้
4. การออกแบบแฟ้มข้อมูล ฐานข้อมูล
่ั
5. การออกแบบแอฟพิเคชน
ื่ สาร
6. การพิจารณาฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และอุปกรณ์สอ
2.การพ ัฒนาและการใชร้ ะบบสารสนเทศ
่ ความต้องการซอฟต์แวร์ การเขียน
1. การพ ัฒนาระบบสารสนเทศ เชน
โปรแกรม การทดสอบ
2. การนาสารสนเทศไปใช ้ การปร ับเปลีย
่ นระบบ การจ ัดทาเอกสาร การ
ฝึ กอบรม
การพ ัฒนาระบบสารสนเทศ
การพ ัฒนาระบบสารสนเทศ (System
Development) เป็ นกิจกรรมทัง้ หมดทีจ
่ าเป็ นใน
้ อ
การนาระบบสารสนเทศมาใชเพื
่ แก ้ปั ญหาของ
องค์การหรือสร ้างโอกาสให ้กับองค์การ
่ แบบ
การพ ัฒนาระบบสารสนเทศมีหลายวิธ ี เชน
วงจรชวี ต
ิ (System Development Life Cycle),
การสร ้างต ้นแบบ(Prototyping), การเน ้นผู ้ใช ้
เป็ นหลัก(End-User Development), การจ ้าง
บุคคลภายนอก(Outsourcing), และการใช ้
โปรแกรมสาเร็จรูป(Application software
package)
วิธก
ี าร (methodologies) หมายถึง รูปแบบการ
ดาเนินงานทีใ่ ชส้ าหรับการวิเคราะห์ การออกแบบ และ
การพัฒนาระบบสารสนเทศ มี 2 วิธ ี คือ
1.วิธวี งจรพัฒนาระบบ (systems development life
cycle-SDLC) ปั จจุบน
ั เรียกว่าเป็ นวิธก
ี ารพัฒนาระบบ
้
แบบเดิม ต ้องใชระยะเวลานานและทรั
พยากรมาก
2.วิธพ
ี ัฒนาระบบงานแบบรวดเร็ว (rapid application
development- RAD) ปั จจุบน
ั มีเทคโนโลยีสมัยใหม่และ
เครือ
่ งมือต่าง ๆ ทีไ่ ด ้สร ้างขึน
้ มาเพือ
่ ชว่ ยในการพัฒนา
ระบบสารสนเทศ
เปรียบเทียบขัน
้ ตอนของวงจรพัฒนาระบบ และ
การพัฒนาระบบแบบรวดเร็ว
SDLC
•การวิเคราะห์ปัญหา
ึ ษาความเป็ นไปได ้
•การศก
•การวิเคราะห์ความต ้องการ
ของระบบ
ิ ใจ
•การวิเคราะห์เพือ
่ ตัดสน
•การออกแบบ
•การสร ้างระบบ
้
•การใชระบบ
RAD
1. การวางแผนกาหนดความต ้องการ
(requirement planning)
2. การออกแบบโดยผู ้ใช ้ (user design)
3. การสร ้างระบบ (construction)
4. การเปลีย
่ นระบบ (cutover)
วิธก
ี ารการพ ัฒนาระบบแบบรวดเร็ว จาแนกได ้เป็ น การ
้
พัฒนาระบบร่วมกัน การจัดทาต ้นแบบ การใชซอฟต์
แวร์เคส
และการวิเคราะห์ ออกแบบและเขียนโปรแกรมเชงิ วัตถุ
• การพัฒนาระบบร่วมกัน (joint application development – JAD)
การพัฒนาระบบร่วมกันหรือ เจเอดี เป็ นอีกวิธห
ี นึง่ ของการพัฒนาระบบ
้
้
อย่างรวดเร็ว ระหว่างผู ้ใชระบบและผู
้พัฒนา โดยผู ้ใชและผู
้พัฒนา
ระบบมีสว่ นร่วมในการกาหนดความต ้องการของระบบร่วมกัน (Joint
requirement planning – JRP) และออกแบบระบบร่วมกัน (joint
application design – JAD) เพือ
่ ลดเวลา ค่าใชจ่้ าย และขัน
้ ตอนการ
รวบรวมข ้อมูล เป็ นวิธท
ี บ
ี่ ริษัทไอบีเอ็มพัฒนาขึน
้ ในชว่ งปลายทศวรรษ
้ นเทคนิคในการรวบรวมข ้อมูลขององค์การ
1970 และเป็ นทีน
่ ย
ิ มใชเป็
ด ้านธุรกิจ ในการรวบรวมข ้อมูลร่วมกันผู ้ทีเ่ กีย
่ วข ้องจะต ้องมีการ
้
วางแผนดาเนินการทีด
่ เี พราะเป็ นกระบวนการทีต
่ ้องใชเวลา
และ
ค่าใชจ่้ าย แต่ผลทีไ่ ด ้ก็จะคุ ้มค่า
•การจ ัดทาต้นแบบ (prototyping)
การจัดทาต ้นแบบ คือ การจัดสร ้างระบบทดลองหรือระบบต ้นแบบ
้ าการทดสอบหา
ก่อนการพัฒนาระบบทัง้ หมด ขึน
้ มาแล ้วให ้ผู ้ใชท
ข ้อบกพร่องและประเมินค่าของระบบ นาไปปรับปรุง และทดสอบ
ประเมินใหม่วนซ้าไปเรือ
่ ย ๆ จนกว่าจะเป็ นทีย
่ อมรับของผู ้ใชจึ้ งนาไป
ปรับเปลีย
่ นเป็ นระบบจริง วิธน
ี ท
ี้ าให ้ผู ้ใชมี้ สว่ นร่วมในการพัฒนา
ระบบ เหมาะสมกับสงิ่ แวดล ้อมทีไ่ ม่สามารถกาหนดความต ้องการที่
ั เจน แน่นอนได ้ แม ้ว่าจะไม่รวมคุณสมบัตข
ชด
ิ องงานประยุกต์ไว ้
ทัง้ หมดเพราะยังเป็ นระบบทีย
่ งั ไม่ได ้รับการทดสอบอย่างสมบูรณ์ ไม่
มีข ้อมูลจานวนมากและครบถ ้วนเต็มระบบ จึงอาจมีข ้อบกพร่องได ้
แต่ก็สร ้างได ้อย่างรวดเร็ว และประหยัด (London and London
2001)
้ อฟต์แวร์เคส (computer-aided
การใชซ
software engineering – CASE)
่ ยสน ับสนุนการ
ซอฟต์แวร์เคส เป็นซอฟต์แวร์สาเร็จทีช
่ ว
่ ย พ ัฒนาโปรแกรม และสร้าง
พ ัฒนาระบบสารสนเทศ ทีช
่ ว
่ ย
แบบฟอร์มต่างๆ ให้มม
ี าตรฐาน ถือเป็นเครือ
่ งมือทีช
่ ว
ิ ธิภาพทาให้มม
อานวยความสะดวก เพิม
่ ประสท
ี าตรฐานและ
มีโครงสร้างทีด
่ ี อุปสรรคก็คอ
ื มีราคาสูง ต้องใชเ้ วลา
้ อ
่ นใหญ่ย ังไม่ม ี
ฝึ กอบรมในการใชค
่ นข้างมาก องค์การสว
้ ช
ั
มาตรฐานของการนามาประยุกต์ใชท
ี่ ดเจน
ซอฟต์แวร์เคส
่ Oracle’s Developer 2000, Rational ROSE, Visio
เชน
การวิเคราะห์ ออกแบบ และเขียนโปรแกรมเชงิ ว ัตถุ
หรือโอโอเอดี
(object-oriented analysis and design – OOAD)
มองระบบเป็ นกลุม
่ ของวัตถุ ในปั จจุบน
ั ใชวิ้ ธน
ี ม
ี้ ากทัง้ การ
วิเคราะห์ ออกแบบ และโปรแกรม การพัฒนาโปรแกรมเชงิ
้
วัตถุ เป็ นการใชแนวคิ
ดในการวิเคราะห์ ออกแบบ และเขียน
โปรแกรมเชงิ วัตถุ มีเครือ
่ งมืออัตโนมัตช
ิ ว่ ยสนั บสนุนมากใน
ทุกขัน
้ ตอน
System Development
Life Cycle (SDLC)
•
•
•
•
•
•
•
ึ ษาความเป็ นไปได ้
ศก
วิเคราะห์ระบบ
ออกแบบระบบ
เขียนโปรแกรม
ทดสอบระบบ
้
ติดตัง้ ใชงานระบบ
เปลีย
่ นระบบเข ้าสูร่ ะบบใหม่ และบารุงรักษา
24
ั
ข้อสงเกตเกี
ย
่ วก ับการใช ้ SDLC
้
• การพัฒนาระบบต ้องใชเวลานานมาก
• กว่าจะได ้ผลให ้ผู ้บริหารเห็น ผู ้บริหารก็อาจเปลีย
่ นเป็ น
คนใหม่ ซงึ่ มีความต ้องการต่างกันไป
้
• หากใชเวลานานมาก
แม ้แต่ เทคโนโลยี ก็เปลีย
่ นไป
้
• ต ้องใชงบประมาณค่
อนข ้างมาก
25
แนวทางการพ ัฒนาระบบสารสนเทศ
• ๑. พ ัฒนาระบบโดยพ ัฒนาต้นแบบ
ั ข ้อกาหนดความต ้องการของผู ้ใช ้
– จัดทาระบบทดลอง โดยอาศย
ิ ผู ้ใชมาพิ
้
จากนัน
้ เชญ
จารณาระบบทดลอง
ื้ ซอฟต์แวร์สาเร็จมาใช ้
• ๒. การจ ัดซอ
– ข ้อพิจารณาในการเลือกซอฟต์แวร์สาเร็จ
• มี function ครบถ ้วน
• ยืดหยุน
่ สามารถปรับเปลีย
่ นได ้
• ใชง่้ าย ติดตัง้ ง่าย ดูแลง่าย
• มีเอกสารต่าง ๆ พร ้อม
• ผู ้ขายมีคณ
ุ ภาพ และพร ้อมสนับสนุน
้ พยากรต่างๆ ไม่มาก เกินความจาเป็ น
• ใชทรั
• ราคาเหมาะสม
26
แนวทางการพ ัฒนาระบบสารสนเทศ (ต่อ)
• ๓. การว่าจ้างทีป
่ รึกษาบริษ ัทเอกชนหรือ ภาคร ัฐ
– ข ้อดี
ี่ วชาญด ้านนีอ
• มีความเชย
้ ยูแ
่ ล ้ว
• อุดหนุนคนไทย หากเป็ นสถาบันภาครัฐ
• มีความไว ้วางใจ หากเป็ นภาครัฐ
• ประหยัดเวลาในการจัดทาเอกสารการประกวดราคา
– ข ้อสงั เกต
• ทีป
่ รึกษาภาครัฐเหมาะกับโครงการขนาดเล็ก –
ี่ วชาญในการบริหาร
กลาง เนือ
่ งจากขาดความเชย
โครงการขนาดใหญ่
27
แนวทางการพ ัฒนาระบบสารสนเทศ (ต่อ)
• ๔. การพ ัฒนาระบบของผูใ้ ช ้
– ข ้อดี
ี ี อีกทัง้ ผู ้ใชได
้ ้ระบบ
• ชว่ ยทุน
่ เวลา และกาลังคนของศูนย์ไอซท
ทีต
่ ้องการรวดเร็วขึน
้ และตรงกับความต ้องการมากทีส
่ ด
ุ
ี
– ข ้อเสย
• ระบบทีไ่ ด ้อาจจะไม่ได ้มาตรฐาน ไม่สามารถทางานร่วมกับ
ระบบอืน
่ ได ้ ขาดเอกสารคูม
่ อ
ื ทาให ้อาจมีปัญหา หาก
ผู ้พัฒนาไม่อยูใ่ นองค์กรแล ้ว ถ ้าบุคลากรขาดความรู ้
ความสามารถทาให ้เปลืองเวลาและทรัพยากรและมีอต
ั รา
ี่ งสูง
เสย
28
แนวทางการพ ัฒนาระบบสารสนเทศ (ต่อ)
• ๕. การ Outsourcing
– มีได ้หลายความหมาย การว่าจ ้างให ้คนภายนอก
พัฒนาระบบงานให ้ก็เป็ นการ Outsource แต่ใน
ปั จจุบน
ั นิยมหมายถึง การให ้บริษัทมารับเหมางาน
ี ไี ปหมด ตัง้ แต่การพัฒนาระบบ การจัดหา
ด ้านไอซท
อุปกรณ์มาใช ้ รวมไปถึงการปฏิบต
ั ก
ิ ารระบบให ้ด ้วย
คนของบริษัทเอง
29
Outsourcing Development
• หมายถึง การจ ้างบริษัทภายนอกเข ้ามาดาเนินการพัฒนา
ระบบสารสนเทศให ้กับธุรกิจหรือองค์กร ซงึ่ รวมทัง้ การ
พัฒนาระบบ การจัดการระบบ และการบารุงรักษาระบบ
สารสนเทศให ้กับธุรกิจ และการให ้บริการอืน
่ ๆทีเ่ กีย
่ วข ้อง
่ การเชา่ ซอ
ื้ อุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์ตา่ งๆ โดยมีการ
เชน
ั ญา (Contract) ร่วมกัน
ทาสญ
้ การจากผู ้ให ้บริการภายนอก (Outsource)
• การใชบริ
– แหล่งภายนอกมากกว่า 80% ได ้แก่ การมอบหมายความ
ิ รวมทัง้ พนักงานให ้กับ
รับผิดชอบและโอนทรัพย์สน
Outsourcer
้ การอย่าง
– แหล่งภายนอกน ้อยกว่า 80% ได ้แก่ การเลือกใชบริ
่ การจ ้างเขียนโปรแกรม
ใดอย่างหนึง่ เป็ นการชวั่ คราว เชน
30
When to use outsourcing?
• ปั จจัยทีค
่ วรพิจารณา ได ้แก่
– ความจาเป็ นของระบบต่อการดาเนินงานขององค์กร
• ระบบทีม
่ ค
ี วามต ้องการรีบด่วน
• ระบบทีไ่ ม่เกีย
่ วกับระบบอืน
่ ในองค์กร
• ระบบทีม
่ ม
ี าตรฐานสูง
• ระบบทีจ
่ ะพัฒนานัน
้ ไม่ใชเ่ พือ
่ การทางานหลักทีส
่ าคัญทีส
่ ด
ุ ของ
องค์กร
้
– ผลกระทบของการใชงานระบบต่
อการแข่งขันขององค์กร
ั ยภาพในการแข่งขันด ้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
• เมือ
่ ต ้องการเพิม
่ ศก
แต่ธรุ กิจไม่มค
ี วามสามารถด ้านนี้
– ความต ้องการในการพัฒนาบุคลากรด ้าน IT ขององค์กร
31
ี ของ Outsourcing
ข้อดีและข้อเสย
• ข้อดี
– ทาให ้ต ้นทุนในการพัฒนาระบบ
สารสนเทศลดลง
– ได ้รับคุณภาพของบริการตามที่
ต ้องการ
– มีความยืดหยุน
่ ในการเปลีย
่ นแปลง
เทคโนโลยีทใี่ ช ้
– ทาให ้สามารถประมาณการ
ค่าใชจ่้ ายได ้
– ลดเวลาของคนในองค์กรทีจ
่ ะต ้อง
ไปทางานด ้านระบบสารสนเทศ
– ได ้ความรู ้ความชานาญจากภายนอก
– ทาให ้ผู ้บริหารสามารถมุง่ ความ
สนใจไปในเรือ
่ งทีเ่ น ้นกลยุทธ์ของ
องค์กรมากขึน
้
– ประหยัดงบประมาณ และกาลังคน
– ได ้บริการทีม
่ ค
ี ณ
ุ ภาพ
– กาหนดและพยากรณ์งานทีต
่ ้องการ
ได ้ง่าย
– ทาให ้ต ้นทุนคงที่ กลายเป็ น ต ้นทุน
แปรผัน
ี
• ข้อเสย
ี การควบคุม เพราะการ
– สูญเสย
ควบคุมการทางานของระบบ
สารสนเทศอยูท
่ บ
ี่ ริษัทภายนอก
– ทาให ้ต ้องพึง่ พาบริษัทภายนอกใน
การจัดการระบบสารสนเทศ
ี่ งต่อการรั่วไหลของข ้อมูลที่
– อาจเสย
สาคัญ
– ความล ้าสมัยในความรู ้ด ้าน
เทคโนโลยีสารสนเทศของบุคลากร
ภายใน
• ปัญหา
– ควบคุมการปฏิบต
ั งิ านไม่ได ้ ?
– ข ้อมูลสาคัญอาจรั่วไหล ?
– ไม่มค
ี วามเป็ นอิสระ ต ้องพึง่
บริษัทตลอดเวลา ?
– ขาดความยืดหยุน
่ ในการ
ปรับเปลีย
่ นระบบ ?
– ไม่มโี อกาสพัฒนาคนของ
หน่วยงาน?
32
ความล้มเหลวของ Outsourcing
• ผู ้บริหารไม่เข ้าใจในเทคโนโลยีทจ
ี่ ะต ้องบริหารว่า
มีผลต่อองค์กร อย่างไร ข ้อจากัดเป็ นอย่างไร
• องค์กรไม่สามารถระบุความต ้องการทีแ
่ ท ้จริงได ้
• องค์กรไม่มค
ี วามสามารถในการหาแหล่ง Outsource
• องค์กรไม่มค
ี วามสามารถในการเจรจาต่อรองกับ
Outsourcer
• องค์กรไม่มค
ี วามสามารถในการประสานงานกับ
Outsourcer
33
ขนตอนในการ
ั้
Outsourcing
•
•
•
•
•
•
จัดตัง้ คณะทางานกับแหล่ง Outsource
้ การทีแ
ระบุข ้อกาหนดความต ้องการใชบริ
่ ท ้จริง
ิ ชวนยืน
ดาเนินการจัดทาเอกสารเชญ
่ ข ้อเสนอ
ประเมินข ้อเสนอ
ประเมินผู ้เสนอให ้บริการ
ั ญา โดยในสญ
ั ญาควรพิจารณา
เจรจาต่อรองในการทาสญ
ั ญา วิธก
ในเรือ
่ งทีส
่ าคัญ คือ ระยะเวลาของสญ
ี ารวัดผล
งาน (ปริมาณ คุณภาพ ระยะเวลาการนาสง่ ) และการ
คาดการณ์ถงึ เหตุการณ์ทอ
ี่ าจจะเปลีย
่ นแปลง
34
การพัฒนาระบบ คือ
System development คือกลุม
่ ของ
้
กิจกรรมทีใ่ ชในการพั
ฒนาระบบสารสนเทศ
Information
system (IS) คือการ
รวมเอา hardware,
System คือกลุม
่ ของ software, data,
องค์ประกอบร่วมก ันใน people, and
procedures มา
เป้าหมายเดียวก ัน
ทางานร่วมก ันในการ
ผลิตสารสนเทศทีม
่ ี
คุณภาพ
Page 620
System
development
activities คือกลุม
่
ของเฟส(phases)
และเรียกว่า system
development life
cycle (SDLC)
35
การพ ัฒนาระบบ คือ
Pages 620 – 621
Figure 12-1
36
การพัฒนาระบบ คือ
• System development รวมถึงต ัวแทนจากฝ่ายต่างๆ
ซงึ่ มึจด
ุ ประสงค์เดียวก ันในระบบ
37
การพัฒนาระบบ คือ
• Project management คือกระบวนการวางแผน กาหนด
ตาราง และควบคุมกิจกรรมในระหว่างการพัฒนา
ิ ธิภาพขึน
• แผนและตารางการทางานจะมีประสท
้ อยูก
่ บ
ั
หัวหน ้าโครงการเป็ นผู ้กาหนด :
ขอบเขตโครงการ
Project scope
ประมาณต ้นทุนแต่ละ
กิจกรรม
Cost estimates for
each activity
กิจกรรมทีต
่ ้องการ
Required activities
งานของแต่ละ
กิจกรรม
Order of activities
ประมาณการเวลาแต่ละ
กิจกรรม
Time estimates for each
activity
กิจกรรมทีส
่ ามารถกาหนดทา
ในเวลาเดียวกัน
Activities that can take
place at the same time
38
การพัฒนาระบบ คือ
เครือ
่ งมือทีน
่ ย
ิ มใชใ้ นการวางแผนและจ ัดทาตารางเวลาและ
ั ันธ์ระหว่างกิจกรรมทีก
ความสมพ
่ าหนดใน Gantt chart
39
การพัฒนาระบบ คือ
A PERT chart ใชใ้ นการวางแผนและจ ัดทาตารางเวลา
40
การพัฒนาระบบ คือ
ึ ษาถึงความเหมาะสมใน
• Feasibility เป็นการศก
การพ ัฒนาระบบสารสนเทศขององค์กร
ึ ษาความ
การศก
เป็ นไปได ้ด ้าน
ปฏิบต
ั ก
ิ าร
Operational
feasibility
ึ ษาความ
การศก
เป็ นไปได ้ด ้าน
เวลา
Schedule
feasibility
ึ ษาความ
การศก
เป็ นไปได ้ด ้าน
เทคนิค
Technical
feasibility
ึ ษาความ
การศก
เป็ นไปได ้ด ้าน
เศรษฐศาสตร์
Economic
feasibility
41
การพัฒนาระบบ คือ
• Documentation คือการรวบรวมและรายงาน
สรุปข้อมูลและสารสนเทศ
– โครงการคือสมุดบันทึกเอกสารทัง้ หมดในแต่ละ
โครงการ
• Users และ IT professionals จะอ้างถึง
เอกสารเพือ
่ ปฏิบ ัติงานและเปลีย
่ นแปลงระบบ
ปัจจุบ ัน
42
การพัฒนาระบบ คือ
ิ ทีมโครงการจะต ้อง
• ระหว่างการพัฒนาระบบสมาชก
นาข ้อมูลและสารสนเทศมาด ้วยเทคนิคต่างๆได ้
หลายวิธ ี
Review
documentation
Observe
Survey
Interview
JAD Sessions
Research
43
ใครคือผูก
้ าหนดโครงการพ ัฒนาระบบ
User มีความต ้องการระบบใหม่หรือปรับปรุงระบบ
องค์กรจะต ้องการเปลีย
่ นเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใหม่
องค์กรในอนาคตทีต
่ ้องการควบคุมองค์กรทีเ่ ปลีย
่ นแปลง
การบริหารจัดการถึงจุดเปลีย
่ นแปลง
User จะต ้องการระบบใหม่หรือเปลีย
่ นแปลงสารสนเทศด ้านการบริการ
44
แนวทางการพ ัฒนาระบบสารสนเทศ
1.
2.
3.
4.
ั ผู ้เชย
ี่ วชาญด ้านคอมพิวเตอร์
จัดทาขึน
้ เองโดยอาศย
ว่าจ ้างบริษัททีป
่ รึกษาจัดทาระบบให ้
จัดหาซอฟต์แวร์สาเร็จรูป
ี่ วชาญภายนอก
จัดจ ้างผู ้เชย
วงจรการพ ัฒนาระบบ
(System Development Life Cycle (SDLC))
ระบบสารสนเทศทัง้ หลายมีวงจร
ชวี ต
ิ ทีเ่ หมือนกันตัง้ แต่เกิดจนตายวงจรนีจ
้ ะ
เป็ นขัน
้ ตอนทีเ่ ป็ นลาดับตัง้ แต่ต ้นจนเสร็จ
้
เรียบร ้อย เป็ นระบบทีใ่ ชงานได
้ ซงึ่
นักวิเคราะห์ระบบต ้องทาความเข ้าใจให ้ดี
ว่าในแต่ละขัน
้ ตอนจะต ้องทาอะไร และทา
อย่างไร ขัน
้ ตอนการพัฒนาระบบมีอยู่
ด ้วยกัน 7 ขัน
้ ด ้วยกัน คือ
วงจรการพ ัฒนาระบบ
(System Development Life Cycle (SDLC))
วงจรการพ ัฒนาระบบ
(System Development Life Cycle
(SDLC))
ึ ษาเบือ
้ งต้น (Preliminary study)
1. การศก
2. การวิเคราะห์ระบบ ( System Analysis)
3. การออกแบบระบบ ( System Design)
4. การพ ัฒนาระบบ (Construction)
5. การทดสอบระบบและการเปลีย
่ นระบบ (System
Testing and Conversion)
6. บารุงร ักษาระบบ (Maintenance)
วงจรการพ ัฒนาระบบ
(System Development Life Cycle (SDLC))
ึ ษาเบือ
้ งต้น (Preliminary study)
ขนที
ั้ ่ 1 : การศก
การทีจ
่ ะแก้ไขระบบเดิมทีม
่ อ
ี ยูแ
่ ล้วไม่ใชเ่ รือ
่ งทีง่ า
่ ยน ัก หรือแม้แต่
ึ ษาเสย
ี ก่อนว่าความต ้องการ
การสร ้างระบบใหม่ ดังนั น
้ ควรจะมีการศก
ึ ษาความเป็ นไป
ของเราเพีย งพอทีเ่ ป็ นไปได ้หรือ ไม่ ได ้แก่ "การศ ก
ได ้" (Feasibility Study)
ึ ษาเบือ
้ งต้น
สรุป ขนตอนที
ั้
่ 1: การศก
หน ้าที่ : ตระหนักว่ามีปัญหาในระบบ
ึ ษาความเป็ นไปได ้
ผลลัพธ์ : อนุมต
ั ก
ิ ารศก
เครือ
่ งมือ : ไม่ม ี
้ อผู ้บริหารชแ
ี้ จงปั ญหา
บุคลากรและหน ้าทีค
่ วามรับผิดชอบ : ผู ้ใชหรื
ต่อนักวิเคราะห์ระบบ
วงจรการพ ัฒนาระบบ
(System Development Life Cycle (SDLC))
ึ ษาความเป็ นไปได ้ (Feasibility Study)
การศก
ิ ใจว่า การพั ฒ นา
การก าหนดว่า ปั ญ หาคือ อะไรและตั ด ส น
สร ้างระบบสารสนเทศ หรือการแก ้ไขระบบสารสนเทศเดิมมีความ
ี ค่าใชจ่้ ายและเวลาน ้อยทีส
เป็ นไปได ้หรือไม่โดยเสย
่ ด
ุ และได ้ผล
เป็ นทีน
่ ่าพอใจ
นั กวิเคราะห์ระบบจะต ้องกาหนดให ้ได ้ว่าการแก ้ไขปั ญ หา
ดังกล่าวมีความเป็ นไปได ้ทางเทคนิคและบุคลากร ความเป็ นไปได ้
ทางด ้านบุคลากร คือ บริษัทมีบุคคลทีเ่ หมาะสมทีจ
่ ะพัฒนาและ
ติดตัง้ ระบบเพียงพอหรือไม่ ถ ้าไม่มจ
ี ะหาได ้หรือไม่ จากทีใ่ ด
ึ ษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study)
การศก
มีด ้วยกัน 5 ด ้านหลักๆ คือ
ึ ษาด ้าน
 ความเป็ นไปได ้ด ้านเทคนิค (technical feasibility) ศก
ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ว่าเหมาะสมหรือไม่
 ความเป็ นไปได ้ด ้านเศรษฐกิจ (economic feasibility)
เปรียบเทียบคงวามตุ ้มค่า ผลตอบแทน ค่าใชจ่้ าย
 ความเป็ นไปได ้ด ้านการปฏิบต
ั งิ าน (operational feasibility) การ
้
ทางานซ้าซอนหรื
อไม่ ตรงกับความต ้องการหรือไม่
 ความเป็ นไปได ้ด ้านเวลา ( Schedule feasibility) พิจารณาเวลา
้
ในการพัฒนาระบบ การใชเวลา
 ความเป็ นไปได ้ด ้านบุคลากร ( Human feasibility) ดูความ
พร ้อมของบุคลากร การพัฒนาบุคลากร
วงจรการพ ัฒนาระบบ
(System Development Life Cycle (SDLC))
ขนตอนที
ั้
่ 2: การวิเคราะห์ระบบ ( System Analysis )
ึ ษาว่าเป็ นไปได ้หรือไม่ทจ
หน้าที่ : กาหนดปั ญหา และศก
ี่ ะเปลีย
่ นแปลงระบบ
ผลล ัพธ์ : รายงานความเป็ นไปได ้
เครือ
่ งมือ : เก็บรวบรวมข ้อมูลของระบบและคาดคะเนความต ้องการของระบบ
้ บทบาทสาคัญในการศก
ึ ษา
บุคลากรและหน้าทีค
่ วามร ับผิดชอบ : ผู ้ใชจะมี
1. นักวิเคราะห์ระบบจะเก็บรวบรวมข ้อมูลทัง้ หมดทีจ
่ าเป็ นทัง้ หมดเกีย
่ วกับ
ปั ญหา
2. นักวิเคราะห์ระบบคาดคะเนความต ้องการของระบบและแนวทางการ
แก ้ปั ญหา
ั ซงึ่ จะใชส้ าหรับขัน
3. นักวิเคราะห์ระบบ กาหนดความต ้องการทีแ
่ น่ชด
้ ตอน
การวิเคราะห์ตอ
่ ไป
ิ ใจว่าจะดาเนินโครงการต่อไปหรือไม่
4. ผู ้บริหารตัดสน
วงจรการพ ัฒนาระบบ
(System Development Life Cycle (SDLC))
การวิเคราะห์ระบบ ( System Analysis)
ึ ษาระบบการทางานของ
การวิเคราะห์ระบบเริม
่ ตัง้ แต่การศก
ธุรกิจนั น
้
หลังจากนั น
้ กาหนดความต ้องการของระบบใหม่ ซ งึ่
้
นั ก วิเ คราะห์ ร ะบบจะต อ
้ งใช เทคนิ
ค ในการเก็ บ ข อ
้ มู ล (FactGathering
Techniques)
เมือ
่ จบขัน
้ ตอนการวิเคราะห์แล ้ว
นั ก วิเ คราะห์ร ะบบจะต ้องเขีย นรายงานสรุ ป ออกมาเป็ น ข ้อมู ล
เฉพาะของปั ญหา (Problem Specification)
1. ทบทวนวัตถุประสงค์และเป้ าหมายของการวิเคราะห์
ระบบ
ึ ษาแนวทางทีไ่ ด ้เสนอไว ้ในการศก
ึ ษาเบือ
2. ศก
้ งต ้น
ึ ษารวบรวมเอกสารต่างๆทีเ่ กีย
3. ศก
่ วข ้องกับระบบ
• ผังการจัดองค์กร
• แผนงานของหน่วยงาน
• เอกสารต่างๆและรายงาน
• กฎระเบียบต่างๆ
ึ ษาความต ้องการของผู ้บริหาร
4. ศก
ั ภาษณ์ผู ้บริหารและผู ้ปฏิบต
• สม
ั งิ าน
้
• สารวจความต ้องการโดยใชแบบสอบถาม
ึ ษาสภาพการปฏิบต
5. ศก
ั งิ านจริง
้
• ทาความเข ้าใจเนือ
้ หาของข ้อมูลทีใ่ ชในปั
จจุบน
ั
• ทาความเข ้าใจทางเดินของข ้อมูล
• ทาความเข ้าใจกระบวนการทางาน
• ทาความเข ้าใจการดูแลรักษาข ้อมูล
6. จาแนกปั ญหาในระบบปั จจุบน
ั
7. กาหนดแนวทางการแก ้ไขปั ญหา
8. กาหนดโครงร่างของระบบใหม่
9. การจัดสรรทรัพยากรต่างสาหรับการพัฒนา
10.จัดทารายงายงานการวิเคราะห์ระบบ
การวิเคราะห์ข ้อมูลทีร่ วบรวมมา ประกอบด ้วยการวิเคราะห์
โครงสร ้างและสงิ่ แวดล ้อมขององค์กร การบริหาร การ
ั พันธ์ในสว่ นต่างๆขององค์กร
ปฏิบต
ั ก
ิ าร ตลอดจนความสม
การวิเคราะห์กระบวนการ เป็ นการวิเคราะห์กระบวนการทางาน
ของระบบงานเดิม และจาลองการทางานของระบบงานใหม่ท ี่
ต ้องการ เพือ
่ ให ้ทราบว่าข ้อมูลใดเกิดกระบวนการทางธุรกิจ
การวิเคราะห์ลักษณะของผลลัพธ์ โดยพิจารณาว่าผู ้ใดเป็ น
้
้ ไ่ หน เพือ
ผู ้ใชผลลั
พธ์ ไปใชที
่ วัตถุประสงค์อะไร เมือ
่ ไร
ผลลัพธ์ตรงกับความต ้องการหรือไม่ มีความแน่นอนถูกต ้อง
้
ต่อการใชงานหรื
อไม่
การวิเคราะห์ข ้อมูลเข ้า วิเคราะห์การใชข้ ้อมูลในแต่ละ
ั พันธ์ระหว่างข ้อมูล และวิธก
หน่วยงานโดยคานึงถึงความสม
ี าร
จัดแฟ้ มข ้อมูล การประมวลผล และผลลัพธ์
วงจรการพ ัฒนาระบบ
(System Development Life Cycle (SDLC))
ขนตอนที
ั้
3
่ : การออกแบบระบบ ( System Design)
ในการออกแบบโปรแกรมต ้องคานึงถึงความปลอดภัย (Security)
่
ของระบบด ้วย เพือ
่ ป้ องกันการผิดพลาดทีอ
่ าจจะเกิดขึน
้ เชน
้ ม
ิ ธิส
"รหัส" สาหรับผู ้ใชที
่ ส
ี ท
์ ารองไฟล์ข ้อมูลทัง้ หมด เป็ นต ้น
นักวิเคราะห์ระบบจะต ้องออกแบบฟอร์มสาหรับข ้อมูลขา
เข ้า (Input Format) ออกแบบรายงาน (Report Format) และ
การแสดงผลบนจอภาพ (Screen Format) หลักการการออกแบบ
้
ฟอร์มข ้อมูลขาเข ้าคือ ง่ายต่อการ ใชงาน
และป้ องกันข ้อผิดพลาด
้
ทีอ
่ าจจะเกิดขึน
้ ถัดมาระบบจะต ้องออกแบบวิธก
ี ารใชงาน
Design the System
ขนตอนการออกแบบระบบสารสนเทศ
ั้
การออกแบบเชงิ ทางตรรกะ
ทบทวนรายงานการวิเคราะห์ระบบ
ออกแบบตามลาดับต่างๆของงาน
กาหนดสว่ นทีค
่ นและคอมพิวเตอร์ทางานประสานกัน
การออกแบบในรายละเอียด
ออกแบบรายละเอียดต่างๆของระบบ
ออกแบบข ้อมูลต่างๆ สาหรับการตรวจสอบความถูกต ้อง
ออกแบบเนือ
้ หาสาหรับการฝึ กอบรม
จัดทารายงานการออกแบบ
Design Phase
• Design phase ประกอบกิจกรรมหล ัก2 กิจกรรม
ความต้องการของ
hardware และ
software
Page 638
พ ัฒนารายละเอียด
ของระบบใหม่หรือ
ปร ับปรุงระบบ
สารสนเทศ
60
Design Phase
ึ ษาทางด้าน hardware และ software:
• การศก
Make a
decision
Solicit vendor
proposals
• Use
research
techniques
such as ezines technical
Identify
specifications
Pages 638 - 640
• RFQ, RFP, or
RFI is sent to
potential
vendors or
VARs
• Various
techniques are
used to
determine the
best proposal
Test and
evaluate vendor
proposals
• Systems analyst
makes
recommendation
to steering
committee
61
Design Phase
• ขัน
้ ตอนต่อไปในการกาหนดคุณสมบัตข
ิ องรายละเอียด
– บางครัง้ เราเรียกว่า physical design
Database
design
Page 640
Input
and
output
design
Program
design
62
Design Phase
• การวิเคราะห์ระบบมี 2 แบบคือการออกแบบ input และ
output
Layout chart การกาหนด
Mockup คือต ัวอย่างการ
เทคนิคและข้อมูลทีอ
่ า้ งอิงของ
ออกแบบอินพุตเอ้าพุตที่ SA
สมมุตก
ิ ารทางานของระบบ
ผูเ้ ขียนโปรแกรม
63
Design Phase
• Computer-aided software engineering (CASE)
tools คือเครือ
่ งมือทีส
่ นับสนุนกิจกรรมหนึง่ หรือ
มากกว่าของการพัฒนาระบบ
• CASE tools จะมีเครือ
่ งมือในการจัดการดังนี:้
Page 642
Project
repository
Graphics
Prototyping
Quality
assurance
Code
generator
Housekeeping
64
Design Phase
• บุคลากรสว่ นมากจะทบทวนการออกแบบ
รายละเอียดตามข ้อกาหนด
• การแนะนา คือจะต ้องมีแบบของการทบทวนทุก
ระบบการสง่ มอบ
– ทีมตรวจสอบจะต ้องรายงานข ้อผิดพลาด
Page 642
65
วงจรการพ ัฒนาระบบ
(System Development Life Cycle (SDLC))
สรุปขนตอนที
ั้
่ 3 : การออกแบบระบบ (Design)
หน้าที่ : ออกแบบระบบใหม่เพือ
่ ให ้สอดคล ้องกับความ
้
ต ้องการของผู ้ใชและฝ่
ายบริหาร
ผลล ัพธ์ : ข ้อมูลเฉพาะของการออกแบบ(System
Design Specification)
เครือ
่ งมือ : พจนานุกรมข ้อมูล Data Dictionary,
แผนภาพการไหลของข ้อมูล (Data Flow Diagram), ข ้อมูล
เฉพาะการประมวลผล (Process Specification ), รูปแบบ
ข ้อมูล (Data Model), รูปแบบระบบ (System Model), ผัง
งานระบบ (System Flow Charts), ผังงานโครงสร ้าง
(Structure Charts), ผังงาน HIPO (HIPO Chart),
แบบฟอร์มข ้อมูลขาเข ้าและรายงาน
บุคลากรและหน้าที่ :
ิ ใจเลือกคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์
1. นักวิเคราะห์ระบบ ตัดสน
และซอฟต์แวร์ (ถ ้าใช)้
2. นักวิเคราะห์ระบบ เปลีย
่ นแผนภาพทัง้ หลายทีไ่ ด ้จาก
ขัน
้ ตอนการวิเคราะห์มาเป็ นแผนภาพลาดับขัน
้
3. นักวิเคราะห์ระบบ ออกแบบความปลอดภัยของระบบ
4. นักวิเคราะห์ระบบ ออกแบบฟอร์มข ้อมูลขาเข ้า รายงาน
และการแสดงภาพบนจอ
5. นักวิเคราะห์ระบบ กาหนดจานวนบุคลากรในหน ้าทีต
่ า่ งๆ
และการทางานของระบบ
6. ผู ้ใชฝ่้ ายบริหาร และนักวิเคราะห์ระบบ ทบทวน เอกสาร
ข ้อมูลเฉพาะของการออกแบบเพือ
่ ความถูกต ้องและสมบูรณ์แบบ
ของระบบ
ขนตอนที
ั้
่ 4: การพ ัฒนา/จ ัดหาระบบ
(System development /acquisition):
โปรแกรมเมอร์จะเริม
่ เขียนและทดสอบโปรแกรมว่า ทางานถูกต ้อง
หรือ ไม่ โดยนั ก วิเ คราะห์ร ะบบต ้องเตรีย มสถานที่ส าหรั บ เครื่อ ง
คอมพิวเตอร์แล ้วจะต ้องตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ทางานเรียบร ้อย
ดี
หลังจากนัน
้ ต ้องควบคุมดูแลการเขียนคูม
่ อ
ื ซงึ่ ประกอบด ้วย
้
ข ้อมูลการใชงานสารบั
ญการอ ้างอิง "Help" บนจอภาพ เป็ นต ้น
้
นอกจากข ้อมูล การใชงานแล
้ว ต ้องมีก ารฝึ กอบรมพนั ก งานทีจ
่ ะ
้
เป็ นผู ้ใช งานจริ
ง ของระบบเพื่อ ให ้เข ้าใจและท างานได ้โดยไม่ม ี
ปั ญหาอาจจะอบรมตัวต่อตัวหรือเป็ นกลุม
่ ก็ได ้
การพ ัฒนาระบบสารสนเทศ
ขนตอนการพ
ั้
ัฒนาระบบสารสนเทศ
 การออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์
 การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
 การทดสอบโปรแกรมคอมพิวเตอร์
 การจัดทาเอกสารประกอบระบบ
การออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์
1. ขัน
้ ตอนการออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์
1.1 การกาหนดรายละเอียดในการแก ้ปั ญหาโดย
พิจารณาสว่ นประกอบ 3 สว่ นคือ
- สว่ นข ้อมูลนาเข ้า
- สว่ นประมวลผล
- สว่ นแสดงผล
1.2 การออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ นา
รายละเอียดมาพัฒนาเป็ นโปรแกรมคอมพิวเตอร์
การออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (ต่อ)
2. หลักการในการออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์
แบบโครงสร ้าง
2.1 การออกแบบโปรแกรมจากบนลงล่าง
ั ซอน
้ ควรแบ่งเป็ นสว่ น ๆ แล ้ว
กรณีปัญหาซบ
นาปั ญหาหลักมาพิจารณาออกแบบเป็ น
โปรแกรมก่อน จากนัน
้ จึงวิเคราะห์ตอ
่ ถึง การ
แก ้ปั ญหาย่อยลงไป
การออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (ต่อ)
2.2 โครงสร ้างการควบคุมโปรแกรมคอมพิวเตอร์
้
การออกแบบโปรแกรมโดยใชโครงสร
้างพ ้นฐาน
แสดงขัน
้ ตอน
 การทางานในโปรแกรม ได ้แก่
 การทางานตามลาดับ
 การทางานแบบทาซ้า (Do until / Do while)
 การทางานแบบเลือกทา (IF then else)
3. เครือ
่ งมือชว่ ยออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์
3.1 ผังงานโปรแกรม (program flowchart)
3.2 ชุดคาสงั่ จาลอง (psuedocode)
ิ ใจ (decision table)
3.3 ตารางการตัดสน
ิ ใจ (decision tree)
3.4 ต ้นไม ้การตัดสน
3.5 ผังแสดงลาดับขัน
้ ตอนการปฏิบต
ั งิ าน (HIPO
chart)
การทดสอบการทางานของโปรแกรม
คอมพิวเตอร์
1. ทดสอบการทางานของโปรแกรมแต่ละ
โปรแกรม(unit test)
2. ทดสอบการทางานร่วมกันของโปรแกรมทุก
โปรแกรมในระบบ(integration test)
3. ทดสอบกับข ้อมูลจริงเพือ
่ ยอมรับระบบโดย
้
ผู ้ใชระบบ
(acceptance test)
วงจรการพ ัฒนาระบบ
(System Development Life Cycle (SDLC))
สรุปขนตอนที
ั้
่ 4: การพ ัฒนาระบบ
หน้าที่ : เขียนและทดสอบโปรแกรม
ผลล ัพธ์ : โปรแกรมทีท
่ ดสอบเรียบร ้อยแล ้ว เอกสารคูม
่ อ
ื การใช ้ และการฝึ กอบรม
เครือ
่ งมือ : เครือ
่ งมือของโปรแกรมเมอร์ทัง้ หลาย Editor, compiler, Structure
้
Walkthrough, วิธก
ี ารทดสอบโปรแกรม การเขียนเอกสารประกอบการใชงาน
บุคลากรและหน้าที่ :
1. นักวิเคราะห์ระบบ ดูแลการเตรียมสถานทีแ
่ ละติดตัง้ เครือ
่ งคอมพิวเตอร์ (ถ ้า
ื้ ใหม่)
ซอ
2. นักวิเคราะห์ระบบ วางแผนและดูแลการเขียนโปรแกรม ทดสอบโปรแกรม
ื้
3. โปรแกรมเมอร์เขียนและทดสอบโปรแกรม หรือแก ้ไขโปรแกรม ถ ้าซอ
โปรแกรมสาเร็จรูป
4. นักวิเคราะห์ระบบ วางแผนทดสอบโปรแกรม
5. ทีมทีท
่ างานร่วมกันทดสอบโปรแกรม
้
6. ผู ้ใชตรวจสอบให
้แน่ใจว่า โปรแกรมทางานตามต ้องการ
้
7. นักวิเคราะห์ระบบ ดูแลการเขียนคูม
่ อ
ื การใชงานและการฝึ
กอบรม
ขนตอนที
ั้
่ 5: การติดตงระบบและการทดสอบ
ั้
้
ขัน
้ ตอนนี้บริษัทนาระบบใหม่มาใชแทนของเก่
า
ภายใต ้การดูแลของนั กวิเคราะห์ระบบ การป้ อนข ้อมู ล
้
ต ้องทาให ้เรียบร ้อย และในทีส
่ ุดบริษั ทเริม
่ ตน
้ ใช งาน
ระบบใหม่นไ
ี้ ด ้
การนาระบบเข ้ามาควรจะทาอย่างค่อยเป็ นค่อย
้
ไปทีละน ้อย ทีด
่ ท
ี ส
ี่ ด
ุ คือ ใชระบบใหม่
ควบคูไ่ ปกับ
ั ระยะหนึง่ โดยใชข้ ้อมูลชุดเดียวกันแล ้ว
ระบบเก่าไปสก
เปรียบเทียบผลลัพธ์วา่ ตรงกันหรือไม่ ถ ้าเรียบร ้อยก็
้
เอาระบบเก่าออกได ้แล ้วใชระบบใหม่
ตอ
่ ไป
เป็ นขัน
้ ตอนของการติดตัง้ ระบบ เพือ
่ ให ้การทางาน
ของระบบประสบผลสาเร็จด ้วยความเรียบร ้อยมีการ
ทางานดังต่อไปนี้
1. การเปลีย
่ นแปลงระบบใหม่ การเปลีย
่ นจาก
ระบบสารสนเทศเก่าเป็ นระบบสารสนเทศใหม่จะ
รวมถึง ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และแฟ้ มข ้อมูล
• การเปลีย
่ นฮาร์ดแวร์
• การเปลีย
่ นแปลงซอฟต์แวร์
• การเปลีย
่ นแปลงแฟ้ มข ้อมูลหรือข ้อมูล
Implementation Phase
• จุดประสงค์ของ implementation phase
คือนาโครงสร ้างใหม่หรือปรับปรุงระบบและสง่
มอบ
Develop
programs
Page 643
Install and test
the new
system
Train users
Convert to the
new system
78
Implementation Phase
• การทดสอบระบบใหม่มด
ี งั นี้
Unit test
Systems test
Integration
test
Acceptance
test
• ตรวจสอบ
ความถูกต ้อง
ของ
โปรแกรม
ต่างๆแต่ละ
โปรแกรม
• ตรวจสอบ
ความถูกต ้อง
ของ
โปรแกรม
ตัง้ แต่เริม
่ ต ้น
จนได ้ผล
ลัพธ์
• ตรวจสอบ
ความถูกต ้อง
ของการ
ื่ มโยง
เชอ
ของ
โปรแกรม
ประยุกต์
• ตรวจสอบ
ความถูก
ต ้องการใช ้
งานของผู ้ใช ้
ว่ายอมรับ
หรือไม่
Page 644
79
Implementation Phase
• การฝึ กอบรม (Training) เป็ นการแสดงให
้ ยนรู ้การทางานของฮาร์ดแวร์และ
ผู ้ใชเรี
ซอฟต์แวร์ใหม่
– One-on-one sessions
– Classroom-style lectures
– Web-based training
80
Implementation Phase
• กลยุทธ์ในการเปลีย
่ นแปลงจากระบบเก่าเป็ นระบบใหม่
Pages 644 – 645
Figure 12-22
81
วงจรการพ ัฒนาระบบ
(System Development Life Cycle (SDLC))
ขนตอนที
ั้
่ 6: บารุงร ักษาระบบ (Maintenance)
การบารุงรักษาได ้แก่ การแก ้ไขโปรแกรมหลังจาก
้
การใช งานแล
้ว การบ ารุง รั ก ษาระบบ ควรจะอยู่ภ ายใต ้
การดู แ ลของนั ก วิเ คราะห์ร ะบบ เมื่อ ผู ้บริห ารต ้องก าร
แก ้ไขสว่ นใดนั กวิเคราะห์ระบบต ้องเตรียมแผนภาพต่าง ๆ
ึ ษาผลกระทบต่อระบบ และให ้ผู ้บริหารตัดสน
ิ ใจ
และศก
ต่อไปว่าควรจะแก ้ไขหรือไม่
Operation, Support, and
Security Phase
• จุดประสงค์ของ operation, support, and security
่ ยในการ
phase คือเพือ
่ ให้ระบบสารสนเทศมีผช
ู้ ว
ดาเนินงานได้ดห
ี ล ังจากการติดตงระบบใหม่
ั้
แล้ว
Perform
maintenance
activities
Page 645
Monitor
system
performance
Assess system
security
83
ทีมงานพ ัฒนาระบบ
ในวงจรพัฒนาระบบ
นั ้น มี ขั ้น ตอนอยู่ ม ากมาย
กว่า จะได ้เป็ นระบบขึน
้ มา
้
ดังนั น
้ ทีมงานทีต
่ ้องใชใน
การพั ฒ นาระบบจึ ง มี อ ยู่
่ กัน
หลายสว่ นเชน
ทีมงานพ ัฒนาระบบ
1. คณะกรรมการดาเนินงาน เป็ นผู ้วางนโยบายและ
ก ล ยุ ท ธ์ ใ น ก า ร พั ฒ น า ร ะ บ บ ส า ร ส น เ ท ศ ใ ห เ้ ป็ น ไ ป ต า ม
เป้ าหมายขององค์กร
2. ผูจ
้ ัดการระบบสารสนเทศ (Project Manager)
เป็ นผู ้ควบคุมให ้ดาเนินการไปตามแผนของโครงการ
3. น ักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) เป็ นผู ้ที่
วิเคราะห์ และออกแบบระบบ
4. โปรแกรมเมอร์ (Programmer)
คือ ผู ้ทีเ่ ขียน
โปรแกรมตามระบบทีอ
่ อกแบบมา
ทีมงานพ ัฒนาระบบ
ี่ วชาญด ้านระบบ
5. วิศวกรระบบ (System Engineer) คือ ผู ้เชย
ื่ สาร และเครือข่ายคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ การสอ
6. ผูส
้ น ับสนุนฝ่ายเทคนิค(Technical Support) คือ ผู ้ทีช
่ ว่ ย
สนับสนุนในด ้านเทคนิค
7. เจ้าหน้าทีร่ วบรวมข้อมูล
8. ผูใ้ ชง้ านระบบ (End User)