Transcript GT. 502 Teaching Method

การจัดการเรียนรู ้วิชาคอมพิวเตอร ์ ๑
Learning Management in
Computer 1
คาอธิบายรายวิชา
๓(๒-๒-๕)
วิ เ ค ร า ะ ห ห
์ ลั ก สู ต ร ก ลุ่ ม ส า ร ะ ก า ร เ รี ย น รู ้
่ ยวข้
่
คอมพิว เตอร ์ทีเกี
อ งกับ กระบวนการทาง
เทคโนโลยีสารสนเทศ คอมพิวเตอร ์และระบบ
การท างานการติด ต่ อ สื่อสารและการค้น หา
ข้ อ มู ล ผ ล ก ร ะ ท บ จ า ก ก า รใ ช้เ ท คโ นโ ล ยี
Slide
ส า ร ส น เ ท ศ แ ล ะ ป ร ะ เ ด็ น ท า ง ก ฎ ห ม
า ย1
บทที่ ๑ หลักสู ตรและมาตรฐานการเรียนรู ้
ความหมายของหลักสู ตรและมาตรฐานการ
เรียนรู ้
้
• รายวิชา เนื อหาสาระ
หรือกิจกรรมการเรียน
่ สอน
การสอนทีใช้
• มวลประสบการณ์ทโรงเรี
ี่
ยนหรือ
สถานศึกษาจัดให้แก่ผูเ้ รีย
น้
้
หลักสู ตรแกนกลางการศึกษาขันพืนฐาน พุทธศ ักราช
่ สั
่ งคมคาดหมายหรือมุ่งหวังจะให้ผูเ้ รียน
• สิงที
๒๕๕๑
ได้ร ับ
Slide 2
บทที่ ๑ หลักสู ตรและมาตรฐานการเรียนรู ้
้ นฐาน
้
ตามหลักสู ตรการศึกษาขันพื
พุทธศ ักราช ๒๕๔๔
มาตรฐานกลาง
สถานศึกษา
๗๐%
๓๐%
โครงสร ้างหลักสู ตรและมาตรฐานการเรียนรู ้
แบ่งเป็ น
้
กลุ่มสาระการเรียนรู ้พืนฐาน
กลาง
่
กลุ่มสาระการเรียนรู ้เพิมเติ
ม
- มาตรฐาน
- สถานศึกษา
Slide 3
่
กลุ่มสาระการเรียนรู ้เพิมเติ
ม (๑)
่
กลุ่มสาระการเรียนรู ้เพิมเติ
มส่วนที่ ๑ เป็ นสาระการ
่ ดเพือเพิ
่
่ นความรู ้
เรียนรู ้ทีจั
มพู
และทักษะเฉพาะด้าน อันเป็ นประโยชน์ตอ
่ การศึกษาต่อ
โดยแบ่งสาระการเรียนรู ้
ออกเป็ น ๓ กลุ่มใหญ่ดงั นี ้
่ น วิทย ์ - คณิ ต
– กลุ่มสาระการเรียนรู ้ทีเน้
่ น ภาษา - คณิ ต
– กลุ่มสาระการเรียนรู ้ทีเน้
่ น ภาษา (ฝรงเศส,
่ั
– กลุ่มสาระการเรียนรู ้ทีเน้
เยอรมัน, ญีปุ่่ น)
่
กลุ่มสาระการเรียนรู ้เพิมเติ
มส่วนที่ ๒ เป็ นสาระการ
่ ดเพิมเพื
่
่
เรียนรู ้ทีจั
อตอบสนอง
ความสามารถ ความถนัด ความสนใจ ของผู เ้ รียนแต่ละ
Slide 4
้ านวิชาการและ
คนทังด้
่
กลุ่มสาระการเรียนรู ้เพิมเติ
ม (๒)
่
กลุ่มสาระการเรียนรู ้เพิมเติ
มส่วนที่ ๒ ได้แก่
๑. ภาษาต่างประเทศที่ ๒
่ั
๑) ภาษาฝรงเศส
๒) ภาษาเยอรมัน ๓)
ภาษาญีปุ่่ น
๒. วิทยาศาสตร ์-คณิ ตศาสตร ์ประยุกต ์
๓. คอมพิวเตอร ์
๔. การบริหารจัดการ
๕. คุณภาพชีวต
ิ
Slide 5
การวิเคราะห ์หลักสู ตรและมาตรฐานการ
เรียนรู ้
โครงสร ้าง
สาระการเรียนรู ้ + คาอธิบาย
หลักสู ตร +
รายวิชา +
่
มาตรฐานการ
ัง
• วิเคราะห ์หาจุดผลการเรี
ประสงค ์ ยนรู ้ทีคาดหว
เรียนรู ้ • จัดทาประสบการณ์การ
กระบวนก
เรียนรู ้
าร
้
• เลือกเนื อหา
วิเคราะห ์
• กิจกรรมการเรียนรู ้
• วิธก
ี ารสอน
• การวางแผนและ
เตรียมการสอน
• การจัดทาแผนการสอน
• การประเมินผล 
ข้อประมวลรายวิ
สอบ
ชา
(COURSE SYLLABUS)
Slide 6
กิจกรรมที่ ๑
ให้นิสต
ิ เลือกสาระการเรียนรู ้ จัดทาคาอธิบาย
่
รายวิชาและผลการเรียนรู ้ทีคาดหวั
ง สาหร ับ
นั ก เ รี ย น ช ้ั น ม . ๔ - ๖ ใ ห้ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ
้
มาตรฐานการเรี
ย
นรู
้และตัวชี
วัด
กาหนดส่ง
่
ยนรู ้ ๘ รายวิชา และคาอธิบาย
ชือสาระการเรี
รายวิชา
่
ผลการเรียนรู ้ทีคาดหว
ัง
้
มาตรฐานการเรียนรู ้และตัวชีวัด
ตัวอย่าง
Slide 7
บทที่ ๒ การสอน การเรียนรู ้ และการ
จัดการเรียนรู ้
ความหมายของการสอนและการเรียนรู ้
การสอน
่
การดาเนิ นการของผู ส
้ อน เพือให้
เกิด
การเรียนรู ้
การเรียนรู ้
่
เกิดจากการทากิจกรรมทีอาศ
ัย
กระบวนการฟั ง พู ด อ่าน เขียน โยง
ความสัมพันธ ์ มีการเปรียบเทียบ ฯลฯ
Slide 8
บทที่ ๒ การสอน การเรียนรู ้ และการ
จัดการเรียนรู ้
การดาเนิ นการของผู ส
้ อน
วิธก
ี ารสอน  บรรยาย, อธิบาย, สาธิต
้
หรือปฏิบต
ั ใิ ห้ดู, ให้อา
่ นเนื อหาสาระ,
ให้
อภิปราย, ให้ทาแบบฝึ กหัด, ให้ศก
ึ ษา
่ างๆ ฯลฯ
จากสื
อต่
การเลือกวิธผ
ี ูส
้ อน ควรพิจารณาจาก
• จุดประสงค ์ของบทเรียน
้
• ลักษณะเนื อหาสาระ
• ลักษณะของผู เ้ รียน
• เวลา / สถานที่ / จานวนผู เ้ รียน
Slide 9
กระบวนการเรียนรู ้
หมายถึง
่ การจัดกิจกรรม
1. กระบวนการของผู ส
้ อนทีมี
การเรียนรู ้
่ ดจากฟั ง พู ด
2. กระบวนการของผู ส
้ อนทีเกิ
อ่าน เขียน สามารถโยงความสัมพันธ ์ มีการ
ความสั
ม
พั
น
ธ
์ของกระบวนการเรี
ย
นรู
้
่
เปรียบเทียบได้ ตามความมุ่งหมายทีกาหนด
กับการสอน
ไว้
ผู ส
้ อน
การสอน
กระบวนการ
เรียนรู ้
ผู เ้ รียน
Slide 10
การสอนและความมุ่งหมายของการสอน
ความมุ่งหมายของการสอน คือ
ผลการเรียนรู ้
เกิดความเข้าใจ การคิดวิเคราะห ์ การ
คิดสังเคราะห ์
การประเมินผลฯ
ระบบการเรียนรู ้
ระบบการเรียนรู ้  ระบบการ
เรียนการสอน
Slide 11
ระบบการเรียนรู ้
ความหมาย
การจัดองค ์ประกอบของการเรียนรู ้ให้ม ี
่
ความสัมพันธ ์กัน เพือสะดวกต่
อ
การนาไปสู ่จด
ุ มุ่งหมายของการเรียนการสอน
่ ์ประกอบ
องค
ทีก
าหนดไว้
ตัว
ป้ อน
(Input)
กระบวนกา
ร
(Process)
ผลผลิต
(Outp
ut)
Slide 12
องค ์ประกอบระบบการเรียนรู ้
• ผู ส
้ อน
• ผู เ้ รียน
• หลักสู ตร
่ านวยความ
• สิงอ
สะดวก
• การดาเนิ นการสอน
• การตรวจสอบและเสริม
้
พืนฐาน
• การสร ้างความพร ้อมใน
การเรียน
• การใช้เทคนิ คการสอน
ต่างๆผลการเรียนรู ้
Slide 13
รู ปแบบระบบการเรียนรู ้
ติดตามผล
และ
ปร ับปรุง
ประเมิน
ผล
ดาเนิ นกา
รสอน
วางแผนการ
สอน ่
กาหนดหัวเรือง
เตรียม
กิจกรรม
่
เตรียมสือ
การเรียน
สร ้าง
่
เครืองมื
อ
ประเมินผล
กาหนด
ความคิด
รวบยอด
กาหนด
วัตถุประสงค ์
งพฤติจกกรรม
รรม
กเชิ
าหนดกิ
การเรียน
่
กาหนดสือการ
สอน
กาหนดแนว
ประเมินผล
วิเคราะ
ห์
ผู เ้ รียน
วิเคราะ
ห์
้
เนื อหา
กาหนด
วิธก
ี าร
สอน
Slide 14
กิจกรรมที่ ๒
ให้นิสต
ิ ออกแบบรู ปแบบระบบการเรียนรู ้ โดยการ
้
เขียนภาพแสดงขันตอน
และมีคาอธิบายประกอบ
้
สาระการเรียนรู ้ คือ เนื อหาวิ
ชาโครงงาน
มีคาอธิบายรายวิชา ดังนี ้
้
ศึก ษาขันตอนและแนวทางในการจั
ดท าโครงงาน
ทางคอมพิวเตอร ์ หลักการออกแบบและการจัดทา
โครงงาน
การน าเสนอผลงานและการจัดท า
เอกสารรายงาน
Slide 15
กิจกรรมที่ ๓
ให้นิสต
ิ นาเสนอบทความทาง “การจัดการเรียนรู ้”
จัดทาในรู ปแบบสไลด ์ powerpoint ใน 5 หัวข้อ
ดังนี ้
่
1. ปั ญหาและทีมาของงานวิ
จย
ั
่
่ ยวข้
2 ทฤษฎี เทคโนโลยี หรืองานวิจย
ั ทีเกี
อง
3 ส่วนประกอบของระบบหรือกระบวนการ
้
ทางาน และ/หรือขันตอนวิ
ธี
4 ข้อมู ลทดสอบและผลการทดสอบ (กรณี มี
การทดสอบ)
5 สรุปผล งานในอนาคต และข้อเสนอแนะ
Slide 16
บทที่ ๒ การสอน การเรียนรู ้ และการ
จัดการเรียนรู ้
คาอธิบายรายวิชา
จุดประสงค ์การเรียนรู ้
การจัดทาประสบการณ์การเรียนรู ้
การเลือก
้
เนื อหา
การจัด
กิจกรรม
การเรียนรู ้
วิธก
ี าร
สอน /
เทคนิ การ
สอน
Slide 17
จุดประสงค ์การเรียนรู ้
ความหม
่ คณ
ขอ
้ ความทีระบุ
ุ ลักษณะการเรียนรู ้ และ
าย
่ องการ
ความสามารถทีต้
้
่ ผ่านกิจกรรม
ให้เกิดขึนกับผู
เ้ รียนหลังจากทีได้
ความส
ญ
การเรียาคั
นการสอนแล้
ว
1. เป็ นจุดมุ่งหมายของการเรียนการสอน
2. ได้แนวทางมาจากความคิดรวบยอด
3. เป็ นแนวทางในการจัดกิจกรรม และการ
วัดผลการเรียนการสอน
Slide 18
จุดประสงค ์การเรียนรู ้ (ไตรยางค ์การเรียน
การสอน)
จุดประสงค ์การเรียนรู ้
กิจกรรมการเรียนการสอน
การประเมินผล
Slide 19
จุดประสงค ์การเรียนรู ้
ลักษณะหรือ
่
 จุดประสงค ์ทัวไป
(General Objective)
ประเภท
 อาจเรียกว่าเป็ นความมุ่งหมาย
 กาหนดในความหมายกว้างๆ
 ส่วนใหญ่ใช้ในการกาหนดวัตถุประสงค ์ของ
หลักสู ตร
โดยไม่ได้เน้นในสาระใดสาระหนึ่ ง
่
เช่น มีความรู ้ความเข้าใจในเรืองการ
โปรแกรม

จุดประสงค ์เฉพาะ (Specific Objective)
 กาหนดให้มค
ึ วามหมายเฉพาะเจาะจง
Slide 20
 สามารถแสดงให้เห็นได้ช ัดเจน
จุดประสงค ์การเรียนรู ้
ลักษณะหรือ
 จุดประสงค ์เฉพาะเชิงพฤติกรรม หรือ
ประเภท
จุดประสงค ์เชิงพฤติกรรม (Behavioral
Objective)
่
 กาหนดในความหมายเฉพาะทีแสดงถึ
งการ
กระทา
 ใช้กาหนดเฉพาะในสาระใดสาระหนึ่ ง
 ใช้ในการวัดหรือประเมินความสามารถของ
ผู เ้ รียนได้
เช่น บอกถึงประเภทของคอมพิวเตอร ์ได้
Slide 21
จุดประสงค ์เชิงพฤติกรรม
1
2
่
ัง สถานการณ์
พฤติกรรมทีคาดหว
(Expected Behavior) (Condition)
3
เกณฑ ์
(Criteria)
ภาพแสดงองค ์ประกอบของจุดประสงค ์เชิงพฤติกรรมที่
สมบู รณ์
Slide 22
จุดประสงค ์เชิงพฤติกรรม
่
พฤติกรรมทีคาดหวั
ง
่ ความหมาย
ใช้คากริยาเชิงพฤติกรรม ทีมี
เฉพาะอย่างเดียว ช ัดเจน ไม่กากวม สามารถ
สังเกตการกระทาได้โดยตรง
 ไม่ใช้คากริยาอย่างเดียว ต้องมีกรรมมา
รองร ับด้วย

 นักเรียนสามารถคานวณได้
่ น
 นักเรียนสามารถคานวณโจทย ์เลขทีเป็
เศษส่วนได้
Slide 23
จุดประสงค ์เชิงพฤติกรรม
สถานการ
ณ์ ใช้ขยายพฤติกรรม ว่าจะทาอะไร อย่างไร
มี 3 ลักษณะ
้
 เป็ นส่วนหนึ่ งของเนื อหา
เช่น เขียนโปรแกรม โดยใช้โครงสร ้างการ
้
ทาซาได้
่ ้า
 เป็ นสิงเร
เช่น เขียนโปรแกรม โดยเลือกใช้
โครงสร ้างการทาซา้
่
ทีเหมาะสมได้
 เป็ นเงื่อนไข
Slide 24
จุดประสงค ์เชิงพฤติกรรม
เกณฑ ์
้ าสุ
่ ดทีสามารถแสดง
่
ระด ับพฤติกรรมขันต
ได้ม ี 3 ลักษณะ

 เกณฑ ์ความเร็ว
 เกณฑ ์ปริมาณ
่
ตา
 เกณฑ ์คุณภาพ

วัดความชานาญ
้
ว ัดความสามารถขัน

วัดความถูกต้อง

Slide 25
ระด ับจุดประสงค ์เชิงพฤติกรรม

จุดประสงค ์ด้านพุทธิพส
ิ ย
ั

จุดประสงค ์ด้านจิตพิสย
ั

จุดประสงค ์ด้านทักษะพิสย
ั
ฟื ้ นคืนความรู ้, ประยุกต ์ความรู ้, ส่งถ่ายความ
่
ร ับรู ้, ตอบสนอง, ยึดมัน
่
ลอกเลียน, ฝึ กหัด, เชียวชาญ
Slide 26
ปั ญหาการเขียนจุดประสงค ์เชิงพฤติกรรม
จานวนไม่เหมาะสม
 เขียนในรู ปประโยคคาถาม
่ ดการกระทาไม่ได้
 ใช้คาทีวั
 ใช้ขอ
้ ความฟุ่ มเฟื อย หรือภาษาไม่
ช ัดเจน
 กาหนดหลายๆ พฤติกรรมในข้อ
เดียวกัน
่ จะต้องพิจารณาอย่าง
 เกณฑ ์ทีใช้
รอบคอบ
Slide 27

เทคนิ คการเขียนจุดประสงค ์เชิงพฤติกรรม
่
กาหนดจุดประสงค ์ทัวไปก่
อน
่
 กาหนดพฤติกรรมทีคาดหวั
ง
 กาหนดสถานการณ์หรือเงื่อนไข
 กาหนดเกณฑ ์
 กาหนดจุดประสงค ์พฤติกรรม
 พิจารณา / ทบทวนจุดประสงค ์
่ าหนด
ทีก

ต้องเหมาะสมกับระด ับผู เ้ รียน
Slide 28
้
้
ขันตอนการเลื
อกเนื อหา
่
1. เลือกหัวข้อเรือง
• สอดคล้องกับวิชา / ขอบเขตการศึกษา
(จุดประสงค ์)
• สามารถพัฒนาผู เ้ รียน
ตัวอย่าง
วิชา : ระบบปฏิบต
ั ก
ิ าร
้
่
สาระเนื อหา
: คาสังระบบปฏิ
บต
ั ก
ิ าร
่
่
่
จุดประสงค ์ทัวไป
: เพือให้
ผูเ้ รียนใช้คาสังของ
ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารได้
่ : คาสัง่ + ความหมาย
หัวข้อเรือง
Slide 29
้
้
ขันตอนการเลื
อกเนื อหา
้
2. การเลือกเนื อหา
่ นทีแนวคิ
่
้
จะเริมต้
ดพืนฐานก่
อน โดยมาก
่
มักจะเป็ นข้อเท็จจริงทัวไป
่ านการยอมร ับ และเป็ นเรืองที
่
่
ทีผ่
มี
ความสาคัญ
จากตัวอย่าง
่
่
่
จุดประสงค ์ทัวไป
: เพือให้
ผูเ้ รียนใช้คาสังของ
ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารได้
่ : คาสัง่ + ความหมาย
หัวข้อเรือง
้
เนื อหา
:
Slide 30
้
้
ขันตอนการเลื
อกเนื อหา
้
3. การเลือกเนื อหาเฉพาะ
• ต้องมีความเหมาะสมก ับระด ับผู เ้ รียน (ควร
้
ทราบพืนฐานของผู
เ้ รียน)
่ ท
่ าให้ให้เกิดการเรียนรู ้
• เป็ นสิงที
้
• ถ้าเนื อหาไม่
เหมาะสม
 ไม่เป็ นการพัฒนาผู เ้ รียน
่
เ้ รียน
 เป็ นการบันทอนความสนใจของผู
้
 สามารถแก้ไข โดยการปร ับเนื อหา
/ วิธก
ี าร
่
สอน / อืนๆ
้
เนื อหา
:
่
1. เรืองความหมาย
/ ความสาคัญ
่
2. เรืองความจ
าเป็ นในการเรียนรู ้
Slide 31
้
เกณฑ ์ในการเลือกเนื อหา
•
•
•
•
ความถูกต้องทันสมัย
ความสาคัญ
ความสนใจของผู เ้ รียน
ผู เ้ รียนสามารถเรียนรู ้ได้
้
การจัดเนื อหา
้
้ ง
• จากง่ ายไปยาก หรือ จากพืนฐานไปขั
นสู
• จัดให้มค
ี วามต่อเนื่อง
• จัดให้มค
ี วามสัมพันธ ์กัน  กิจกรรมการ
Slide 32
เรียนรู ้
กิจกรรมการเรียนรู ้
ความหมาย
่ เ้ รียนและผู ส
• การทีผู
้ อนมีการปฏิบต
ั ก
ิ าร
อย่างใดอย่างหนึ่งร่วมกันตามแนวทางที่
้
่
กาหนดในเนื อหาวิ
ชา เพือให้
เกิดการ
่ องการ
เรียนรู ้ ตามวัตถุประสงค ์ทีต้
่ ดขึนระหว่
้
• การกระทาใดๆ ทีเกิ
างบทเรียน
่ ส
่
โดยทีผู
้ อนทาการสือความหมายใน
้
เนื อหาสาระให้
ก ับผู เ้ รียน โดยการใช้สอ
ื่
การเรียนรู ้ต่างๆ
Slide 33
่
ลักษณะของการดาเนิ นกิจกรรมทีดี
1. ส่งเสริมให้ผูเ้ รียนมีส่วนร่วม
2. สอดคล้องกับวัตถุประสงค ์
 บอกชนิ ดของระบบเครือข่ายได้
้ั
 ติดตงและวางระบบเครื
อข่ายได้
่ างกัน  กิจกรรม
 ขอบเขตวัตถุประสงค ์ทีต่
จะต้องต่างกัน
3. กระตุน
้ ให้ผูเ้ รียนมีความสนใจ
4. เหมาะสมกับระยะเวลา
5. ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู ้ทัง้ 3 ด้าน
Slide 34
การวางแผนการจัดกิจกรรม
้ งใจนาเข้าสู ่บทเรียน
1. ขันจู
้
้
2. ขันการศึ
กษาเนื อหาสาระ
้
3. ขันการน
าความรู ้ไปใช้
้
าเร็จ
4. ขันตรวจสอบผลส
Slide 35
กิจกรรมการเรียนรู ้
่ ยมใช้
กิจกรรมทีนิ
• การรายงาน / การบรรยาย
่
่ ศก
 การพู ดในเรืองที
ได้
ึ ษามา ให้ผูอ
้ นฟั
ื่ ง
่
 ฝึ กให้รู ้จักแลกเปลียนความรู
้กัน
 ข้อจาก ัด คือ
o อาจจะเป็ นการอ่าน โดยไม่เข้าใจ
o ผู ฟ
้ ั ง อาจไม่สนใจฟั ง
 ผู ส
้ อนควรอธิบายถึงมาตรฐานสาหร ับผู ้
พู ดและผู ฟ
้ ัง
Slide 36
กิจกรรมการเรียนรู ้
• มาตรฐานสาหร ับผู พ
้ ู ดและผู ฟ
้ ัง
 ผู พ
้ ูด
o
o
o
o
พู ดเสียงดังช ัดเจน
เตรียมการพู ดมาอย่างดี
พู ดด้วยคาพู ดของตัวเอง
ใช้แผนภู มแ
ิ ละรู ปภาพประกอบการรายงาน
 ผู ฟ
้ ัง
้
o ฟั งอย่างตังใจ
o อย่าขัดจังหวะผู พ
้ ูด
Slide 37
กิจกรรมการเรียนรู ้
่ ยมใช้
กิจกรรมทีนิ
• การสอนปฏิบต
ั ิ
้
 เป็ นการแสดงให้เห็นขันตอนการปฏิ
บ ัติ
่ จะให้
่
่
 จัดเตรียมสิงที
ปฏิบต
ั แ
ิ ละคาถามทีจะ
ใช้ในการปฏิบต
ั ใิ ห้ช ัดเจน
 กาหนดเวลาและจ ัดลาด ับให้เหมาะสม
 ช่วยพัฒนา การฟั ง การสังเกตของ
ผู เ้ รียน
Slide 38
วิธก
ี ารและเทคนิ คการสอน
การสอนแบบบรรยาย
มีลก
ั ษณะดังนี ้
• ผู ส
้ อนถ่ายทอดความรู ้ โดยการบอก เล่า
หรืออธิบาย
• ผู เ้ รียนเป็ นฝ่ายฟั ง อาจจดบันทึก
สาระสาคัญ
• ผู ส
้ อนมุ่งถ่ายทอดความรู ้โดยผู เ้ รียนอาจจะ
ไม่มโี อกาสถามคาถาม
ข้อดี
• ประหยัด สามารถสอนกับผู เ้ รียนจานวน
Slide 39
การสอนแบบบรรยาย
ข้อด้อย
• บรรยายนานเกินไป ทาให้ผูฟ
้ ั งขาดสมาธิ
่
และเบือ
้ อการเรียนรู ้ในระด ับของการ
• ไม่เอือต่
่ นความสามารถขันสู
้ ง
วิเคราะห ์ ซึงเป็
ข้อเสนอแนะ
้
• ควรดาเนิ นการตาม 3 ขันตอน
คือ
้
 ขันเตรี
ยมการสอน
้
 ขันบรรยาย
้
 ขันสรุ
ปและประเมินผล
Slide 40
การสอนแบบอภิปราย
มีลก
ั ษณะดังนี ้
่
• ผู เ้ รียนสามารถแลกเปลียนความคิ
ดเห็นกัน
ได้
• การเสนอความคิดเห็น จะไม่อยู ่ในรู ป
สรุปผลว่าถูกหรือผิด
้ น
้ั
• มีหลายรู ปแบบ เช่น การอภิปรายทังช
การอภิปรายแบบโต้วาที การอภิปรายการ
กลุ่มใหญ่
Slide 41
การสอนแบบอภิปราย
ข้อดี
• ผู เ้ รียนสามารถคิดวิเคราะห ์โดยการ
ประยุกต ์ใช้ความรู ้ ทาให้เกิดการพัฒนาใน
่ งขึน
้
ระด ับทีสู
• ผู เ้ รียนมีโอกาสในการพัฒนาทักษะในการ
้ั าถาม คิดหาคาตอบอย่างเป็ นระบบ
ตงค
• ช่วยพัฒนาการร ับฟั งความคิดเห็นจาก
่ รู ้จักประเมินเหตุผลทีผู
่ อ
บุคคลอืน
้ นเสนอ
ื่
Slide 42
การสอนแบบอภิปราย
ข้อด้อย
้
• วิธส
ี อนแบบนี จะใช้
เวลามากกว่า
้
• ผู ส
้ อนมักขาดพืนฐาน
ทาให้การอภิปราย
เป็ นไปอย่างไม่ตอ
่ เนื่อง
ข้อเสนอแนะ
• ควรกาหนดหัวข้อไว้อย่างเหมาะสมและมี
ความช ัดเจน
• ส่งเสริมหรือสร ้างบรรยากาศของการ
อภิปรายให้ไม่เครียดเกินไป
Slide 43
การสอนแบบปฏิบต
ั ิ
มีลก
ั ษณะดังนี ้
่
• เป็ นวิธท
ี ผู
ี่ เ้ รียนลงมือปฏิบต
ั เิ พือให้
เกิดการ
เรียนรู ้
• ผู ส
้ อนอาจจะสาธิตหรือแนะนากระบวนการ
้
ขันตอนของการปฏิ
บต
ั ก
ิ อ
่ นให้ผูเ้ รียนลงมือ
ปฏิบต
ั ิ
Slide 44
การสอนแบบปฏิบต
ั ิ
ข้อดี
• ผู เ้ รียนได้เรียนรู ้จากประสบการณ์ตรงของ
การปฏิบต
ั ก
ิ ารหรือทดลอง
้ั
• ทาให้นก
ั เรียนมีความสนใจและตงใจเรี
ยน
เพราะได้ปฏิบต
ั จ
ิ ริงด้วยตนเอง
ข้อเสนอแนะ
่
• ผู เ้ รียนทุกคนต้องมีโอกาสใช้เครืองมื
อและ
อุปกรณ์เท่าๆ กันจึงจะได้ผลดี
Slide 45
ทักษะการสอน
่ เกิดจากการฝึ กใน
ทักษะการสอนทีดี
พฤติกรรมการสอนด้านต่างๆ เช่น
ลักษณะท่าทาง น้ าเสียงการอธิบาย หรือการ
บรรยาย เป็ นต้น
้ั ยน มีหลายทักษะ
พฤติกรรมการสอนในชนเรี
คือ
• การนาเข้าสู บ
่ ทเรียน
• การเร ้าความสนใจ / สร ้างแรงจู งใจ
• การเสริมกาลังใจ
การนาเข้าสู ่บทเรียน
Slide
46
่ าน
• ใช้คาถาม ให้มค
ี วามต่อเนื่ องก ับสาระในบทที
ผ่
การสร ้างแรงจู งใจ
่ าเข้าสู ่เนื อหา
้
1. การสร ้างแรงจู งใจเพือน
บทเรียน
่
เป้ าหมายคือ ผู เ้ รียนพร ้อมทีจะร
ับและ
ตอบสนองต่อบทเรียน
วิธก
ี ารคือ
่ และวัตถุประสงค ์ที่
่ วข้อเรือง
่ นทีหั
• เริมต้
ช ัดเจน
• ใช้เวลาอย่างกะทัดร ัด
้
• ให้ผูเ้ รียนทังหมดมี
สว
่ นร่วม
้
่ าเข้าสู ่เนื อหา
้ Slide 47
• สรุปแต่ละเนื อหา
เพือน
้
หลักสาค ัญในการสรุปเนื อหา
่
• ควรเป็ นข้อความทีจับใจความส
าค ัญได้
่ ความสาค ัญ
• ควรเน้นในส่วนทีมี
่
• ควรเป็ นข้อความทีกะทั
ดร ัด ไม่ใช้คา
ฟุ่ มเฟื อย
• สามารถใช้สญ
ั ลักษณ์ หรือสู ตรได้
• อาจจะให้ผูเ้ รียนมีส่วนร่วมในการสรุป
้
่
• โดยผู ส
้ อนต้องคอยตรวจปร ับเนื อหาที
ผู เ้ รียนสรุป
Slide 48
การสร ้างแรงจู งใจ
2. การสร ้างแรงจู งใจในระหว่างเรียน
่ ักษาระด ับความตงใจของ
้ั
เป้ าหมายคือ เพือร
ผู เ้ รียน
วิธก
ี ารคือ
่ เ้ รียนเกิดความเบือหน่
่
• เมือผู
าย หรือเกิด
ความล้าในการเรียน ผู ส
้ อนจะต้องหยุดสอน
ด้วยวิธก
ี ารเดิมทันที
้
่ านมาด้วยการ
• อาจใช้การทบทวนเนื อหาที
ผ่
่
่
ผูเ้ รียนเกิดการตืนตัว
ตอบคาถาม เพือให้
่
• หรือเปลียนวิ
ธก
ี ารสอนใหม่ โดยเน้น Slide 49
้
่ ร ับและความอิมต
่ ัว
ปริมาณเนื อหาที
ได้
่
่ =
ปริมาณเนื ้อหาทีให้
- ปริมาณเนื ้อหาทีได้
้
่ ญเสีย
ปริมาณเนื อหาที
สู
่
่ วใน
แนวทางปฏิบต
ั เิ พือลดความอิ
มตั
้
เนื อหา
้
• อย่าให้เนื อหาสาระติ
ดต่อกันเป็ นเวลานานๆ
• การเปลี่ยนกิจ กรรมการเรีย นรู ้ จะช่ ว ยดึง
้
ความสนใจผู เ้ รียนได้มากขึน
้ั
ยน ไม่ใ ห้เ กิด
• ควรสร า้ งบรรยากาศในช นเรี
ความตึงเครียด
Slide 50
้
การประยุกต ์เนื อหาสาระ
(Application)
้
่ ร ับไปใช้ในการ
• เป็ นการนาเนื อหาสาระที
ได้
แก้ปัญหา โดยการให้โจทย ์เชิงคิดวิเคราะห ์
เช่น บอกความสัมพันธ ์ ความแตกต่าง เน้น
การคิดวิเคราะห ์
• ประโยชน์ ท ี่ ได้ นอกจากช่ ว ยลดความ
อิ่มต ว
ั ในเนื ้ อหา คื อ ช่ ว ยทบทวนเนื ้ อหา
ป้ องกัน การเลือ นหายเป็ นการฝึ กฝน และ
พัฒนาสติปัญญา
Slide 51
กิจกรรมที่ ๔
ให้นิสต
ิ นาเสนอบทความภาอ ังกฤษทาง “การ
จัดการเรียนรู ้” จัดทาในรู ปแบบสไลด ์ powerpoint
ใน 5 หัวข้อดังนี ้
่
1. ปั ญหาและทีมาของงานวิ
จย
ั
่
่ ยวข้
2 ทฤษฎี เทคโนโลยี หรืองานวิจย
ั ทีเกี
อง
3 ส่วนประกอบของระบบหรือกระบวนการ
้
ทางาน และ/หรือขันตอนวิ
ธี
4 ข้อมู ลทดสอบและผลการทดสอบ (กรณี มี
การทดสอบ)
5 สรุปผล งานในอนาคต และข้อเสนอแนะ
Slide 52
่
บทที่ ๓ สือและวิ
ธก
ี ารจัดการการเรียนรู ้
่ หมายถึง
สือ
่
่งเดินทางจาก
1. ต ัวกลางทีจะให้
สงหนึ
ิ่
่ นไปยังจุดหมายปลายทาง
จุดเริมต้
่ อมต่
่
2. เป็ นสิงเชื
อระหว่างจุดหมาย 2 จุด
่
สือการเรี
ยนรู ้ หมายถึง
่
เครืองมื
อสาหร ับผู ส
้ อนใช้ในการถ่ายโยง
ความรู ้จากบทเรียนไปสู ่
ผู เ้ รียน และนักเรียน ใช้ในการถ่ายโยงความรู ้
เข้าสู ่ต ัวผู เ้ รียน ตาม
Slide 53
่
สือหนั
งสือเรียน
่
• ใช้ประกอบการเรียนการสอนและเป็ นสือ
พัฒนาการเรียนรู ้
รู ปแบบโครงร่างของหนังสือเรียน
1. ส่วนหน้า
้
2. ส่วนเนื อหา
้
3. ส่วนประกอบเนื อหา
4. ส่วนเสริมสร ้างทักษะและประสบการณ์
5. ส่วนการประเมินและการส่งผลย้อนกลับ
Slide 54
6. ส่วนท้าย
รู ปแบบโครงร่างของหนังสือเรียน
• ส่วนหน้า (Leading Part)
่ ชา
1. ชือวิ
รายวิชา
3. จุดประสงค ์
2. มโนทัศน์ หรือ คาอธิบาย
้
• ส่วนเนื อหา
(Mastery Part)
้
1. ปริมาณของเนื อหา
2. การจัดสัดส่วน
้
3. การลาดับเนื อหา
้
4. รายละเอียดเนื อหา
5. สรุปสาระสาคัญ
้
• ส่วนประกอบเนื อหา
(Content
Slide 55
รู ปแบบโครงร่างของหนังสือเรียน
• ส่วนเสริมสร ้างทักษะและประสบการณ์
(Skill & Experience)
้
1. กิจกรรมประกอบเนื อหา
2. แบบฝึ กหัด
/ แบบฝึ กทักษะ
่
3. เสนอแนะแหล่งวิชา และหนังสืออ่านเพิมเติ
ม
• ส่วนการประเมินและการส่งผลย้อนกลับ
(Evaluation & Feedback)
1. ประเมินผลการเรียนรู ้ของผู เ้ รียน
้
่
2. ประเมินเนื อหาจากผู
ท
้ เกี
ี่ ยวข้
องกบ
ั การใช้หนังสือ
• ส่วนท้าย (Ending Part)
1. ภาคผนวก
2. อภิธานศ ัพทSlide
์ 56
้
่
วิธก
ี ารนาเสนอเนื อหาสื
อหนั
งสือเรียน
เน้นความต่อเนื่อง (Consequent Approach)
• ความยากง่ าย
• ตามเวลา
• ตามพัฒนาการ
Slide 57
บทเรียนโปรแกรม
่
่ ่งให้ผูเ้ รียน เรียน
คือ สือการเรี
ยนการสอนทีมุ
้
ด้วยตนเอง โดยการแบ่งเนื อหาออกเป็
น
่ ่งให้เกิดการเรียนรู ้
หลาย ๆ กรอบทีมุ
ตามลาดับ
้
• ขันทดลองและปร
ับปรุง
้
ขันตอนการสร
้างบทเรี
ย
นโปรแกรม
7. ทดลองใช้เป็ นรายบุคคล
้
• ขันเตรี
ยมการ
8. ทดลองใช้ก ับกลุ่มเล็ก
9. ทดลองใช้ในห้องเรียน
1. ศึกษาหลักสู ตร
2. กาหนดจุดประสงค ์
้
•
ขั
นพิ
3. วิเคราะห ์ภารกิจการเรียน มพ ์บทเรียน
4. สร ้างแบบทดสอบ 10. พิมพ ์บทเรียนฉบับจริง
้ าเนิ นการเขียน
• ขันด
5. เขียนบทเรียน
Slide 58
บทเรียนโปรแกรม
• ข้อดี
1. สามารถตอบสนองความแตกต่างระหว่าง
บุคคล
่ สถานที่ และเวลา ทีเรี
่ ยน
2. ไม่จากัดในเรือง
่ นปั ญหา
• ข้อทีเป็
่
1. ขาดการแลกเปลียนการเรี
ยนรู ้ระหว่าง
กลุ่มผู เ้ รียน
2. บทเรียนโปรแกรมไม่สามารถตอบปั ญหา
หรือข้อสงสัยของผู เ้ รียนได้
Slide 59
กิจกรรมที่ ๕ : CAI / WBI / E – Learning
/ ITS
Define the characteristics of these
learning technologies
Characteristic
Technolog
Onlin Multimedi Interacti
y
LMS
e
a
ve
CAI
WBI
ELearning
ITS
Slide 60
่
บทที่ ๔ เครืองมื
อวัดและประเมินผลการ
เรียนรู ้
เป้ าหมายการประเมินผลการเรียนรู ้
่ ฒนาการเรียนการสอนให้ม ี
• เพือพั
่ น
้
ประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิงขึ
• ต้องอาศ ัยข้อสนเทศ (information) ที่
ได้จากการสอน => การประเมินผลการ
สอน
การประเมินผลการสอน
่ ในการตัดสินใจ
• เป็ นกระบวนการทีใช้
่
เกียวกับสภาพการเรี
ยนการสอน กับผล
Slide 61
่
วิธก
ี ารประเมินผลการสอน
่
่
เพือให้
มค
ี วามเทียงตรง
ต้องพิจารณาใน
องค ์ประกอบของระบบ
การเรียนการสอนทัง้ 3 ด้าน
 ต ัวป้ อน (Input)
 กระบวนการ (Process)
 ผลผลิต (Output)
่
่
่
องกับเรืองที
ต้องมีแบบประเมินทีสอดคล้
จะท
า
• ผู ส
้ อนการประเมิน
• การดาเนิ นการสอน
• ผู เ้ รียน
• หลักสู ตร
่ านวย
• สิงอ
ความสะดวก
• การตรวจสอบและเสริม
้
พืนฐาน
• การสร ้างความพร ้อมในการ
เรียน
• การใช้เทคนิ คการสอนต่างๆ
ผลการ
เรียนรู ้
Slide 62
การสร ้างแบบประเมิน
• มี 2 รู ปแบบ คือแบบมาตราส่วนประมาณค่า
และแบบปลายเปิ ด
แบบมาตราส่วนประมาณค่า
• จะต้องพิจารณาองค ์ประกอบ 3 ประการคือ
 ขอบเขตการประเมินผล
 ลักษณะของการประเมินผล
 ลักษณะของประโยค
• มี 2 รู ปแบบ คือ
่ ทงด้
้ั านสนับสนุ นและ
 ระดบ
ั ของความเห็นทีมี
ด้านปฏิเสธ
 ระดบ
ั ของความเห็นจากมากไปน้อย
Slide 63
การสร ้างแบบประเมิน
การสรุปผลประเมินแบบมาตราส่วน
ประมาณค่า
่ น
• ตรวจสอบคะแนนในการประเมินทีเป็
ประโยคนิ เสธ
่
• ผลประเมินรวม ให้ใช้คา
่ เฉลียโดยการรวม
คะแนนและหารด้วยจานวนข้อ
• ผลประเมินในแต่ละหัวข้อ นิ ยมใช้คา
่ มัธย
ฐาน หรือฐานนิ ยม
แบบประเมินชนิ ดปลายเปิ ด
• จะต้องให้ผูเ้ รียนเขียนแสดงความคิดเห็Slide
น 64
่ ัวป้ อน
การประเมินผลทีต
่
• ต ัวผู เ้ รียน ต้องหาข้อมู ลในเรืองความรู
้
้
พืนฐาน
• และระด ับสติปัญญาของผู เ้ รียน
• ตัวผู ส
้ อน ประเมินในส่วนข้อมู ลลาดับในการ
สอน บุคลิกภาพและประเมินพฤติกรรมการ
่
่
สอนด้วย ด้านทีควรประเมิ
น เรือง
ความกระตือรือร ้นในการสอน / ความมีใจกว้าง /
ความตรงต่อเวลา
และความสนใจในตัวผู เ้ รียน
• ผลการประเมินตัวผู ส
้ อนคือ ได้ขอ
้ มู ล
่
สะท้อนกลับ ซึงจะเป็
นประโยชน์ตอ
่ การSlide 65
่
การประเมินผลทีผลผลิ
ต: ผลการเรียนรู ้
• การประเมินผลทางอ้อม จากความ
คิดเห็นของผู เ้ รียน
่ ความคาดหว ังสู ง ประเมิน  ตา
่
o ผู เ้ รียนทีมี
่ ความคาดหว ังตา
่ ประเมิน  สู ง
o ผู เ้ รียนทีมี
oจากข้
ผู เ้ รียนประเมิ
น
แบบเอาใจผู
ส
้
อน
อจาก ัดข้างต้น จึงควรมีการสร ้าง
่
แบบประเมินทีมี
ความสอดคล้องและเหมาะสม
Slide 66
่
การประเมินผลทีกระบวนการ
• ประเมินวิธก
ี ารสอนว่าสอดคล้องกับ
จุดประสงค ์หรือไม่
่
• ผู ท
้ จะประเมิ
ี่
นผลคือ เพือนครู
หัวหน้า
ภาควิชา ผู เ้ รียน และ
ตัวผู ส
้ อน
• ประเมินจากการพิจารณาแผนการสอน และ
ประมวลการสอน
้ั ยน
• ประเมินโดยสังเกตการสอนในชนเรี
• การสังเกตในห้องเรียนควรทาสม่าเสมอจึง
่
จะเกิดผลลัพธ ์ทีดี
Slide 67
่
่
การประเมินผลทีผลผลิ
ต: ผลการเรียนรู ้
• การประเมินผลทางตรงจากผลสัมฤทธิ ์
ทางการเรียน
 พิจารณาความรอบรู ้ของผู เ้ รียน
่ านเกณฑ ์
 จานวนของผู ร้ อบรู ้ทีผ่
้ งประสิทธิภาพการสอนได้
• ไม่สามารถบ่งชีถึ
อย่างช ัดเจน เนื่องจาก มาตรฐานข้อสอบ /
่ ว ัด / สติปัญญาผู เ้ รียน /
เกณฑ ์ทีใช้
ธรรมชาติ
้
ของเนื อหาวิ
ชา
Slide 68
ข้อสอบกับการประเมินผล
่
่ ในการประเมินผล
• ข้อสอบเป็ นเครืองมื
อทีใช้
่
การเรียนรู ้ หรือ การประเมินผลทีผลผลิ
ต
• ประเภทของข้อสอบเช่น แบบอ ัตนัย แบบ
้ และแบบปรนัย (เลือกตอบ / ถูกตอบสัน
ผิด)
• ข้อสอบแบบอ ัตนัย ใช้ว ัดกระบวนการคิด 3
ระด ับ คือ
้
o ระดบ
ั การจาหลักการพืนฐาน
o ระดับการวิเคราะห ์
o ระดับการประเมินผล
Slide 69
ข้อสอบแบบอ ัตนัย
่ องการคาตอบตาม
• เขียนคาถามทีต้
วัตถุประสงค ์
• คาถามจานวนมากกับคาตอบข้อละหน้า
ดีกว่า
่
• คาถามจานวนน้อยกับคาตอบทียาวหลาย
หน้า
• เตรียมระบบการให้คะแนนไว้ให้พร ้อม
• ให้คะแนนโดยไม่ดูชอผู
ื่ ส
้ อบ
• พยายามให้คะแนนเสร็จเป็ นข้อๆ
Slide 70
้
ข้อสอบแบบตอบสัน
่ องการคาตอบแบบสัน
้ หรือ
• ข้อสอบทีต้
้
เป็ นการแสดงวิธท
ี าแบบสันๆ
• เป้ าหมายการประเมินคือ ให้ครอบคลุม
้
เนื อหาแบบกว้
างๆ เช่นเดียวกับข้อสอบ
แบบปรนัย แต่ดก
ี ว่า คือ ป้ องกันการเดา
ของผู ส
้ อบ
• การสร ้างคาถามควรให้มค
ี วามร ัดกุม มี
่ ัดเจน
คาตอบทีช
• การจัดทาเฉลยควรทาอย่างมีระบบ และ
่
เตรียมยอมร ับในคาตอบทีคาดไม่
ถงึ แต่Slide 71
ข้อสอบแบบปรนัย
่ นในคะแนนที
่
่ ได้
• สามารถเชือมั
ให้
• การประเมิน สามารถทาได้
้
ครอบคลุมในเนื อหากว้
าง เหมาะ
่ เนื อหามาก
้
กับรายวิชาทีมี
แต่ไม่
ซ ับซ ้อน
่
• ปริมาณข้อสอบทีมาก
ทาให้ตอ
้ งมี
การเลือกคาถามอย่างรอบคอบ
• ไม่สามารถวัดทักษะสติปัญญาใน
ระด ับสู ง
Slide 72
บทที่ ๕ การจัดทาแผนการจด
ั การเรียนรู ้
้
่
เป็ นการกาหนดขันตอนการสอนเพื
อให้
้
เกิดการเรียนรู ้ในเนื อหา
่ าหนด
ตามวัตถุประสงค ์ทีก
ประเภทแผนการเรียนรู ้
• แผนระยะยาว
สัปดาห ์
(กาหนดการสอน)
้
• แผนระยะสัน
เรียน

ภาคเรียน /

บทเรียน / คาบ
Slide 73
กาหนดการสอน
่ ในการ
• ยึดหน่ วยการสอนหรือบทเรียนทีใช้
สอนตลอดภาคเรียน
• เป็ นการเตรียมการสอนระยะยาวไม่เน้น
รายละเอียด
• กาหนดแผนการสอนให้สอดคล้องกับ
ระยะเวลา โดยพิจารณาถึง
o วันเปิ ด ปิ ดภาคเรียน วันหยุด
o กาหนดว ันสอบ (รวมถึงทดสอบย่อย)
Slide 74
ประโยชน์ของกาหนดการสอน
• ใช้เป็ นแนวทางในการทาแผนการสอน โดย
่
สามารถปร ับเปลียนได้
• ช่วยให้การเรียนการสอนเป็ นไปตามหลักสู ตร
• ทาให้การประเมินผลเป็ นไปตามจุดมุ่งหมาย
และว ัตถุประสงค ์
Slide 75
แผนการสอน
• เ ป็ น ก า ร ว า ง แ ผ น ก า ห น ด รู ป แ บ บ ข อ ง
่
บทเรียนแต่ละเรือง
• ใช้เ ป็ นแนวทางในการจัด การเรีย นการ
สอนให้เป็ นไปตาม
่ าหนดไว้
วัตถุประสงค ์ทีก
Slide 76
ข้อแนะนาในการเขียนแผนการสอน
่
• หัวเรือง
่
o กาหนดหัวข้อเรืองให้
ช ัดเจน
o สามารถจัดการเรียนการสอนภายใน 1
– 2 คาบ
• ความคิดรวบยอด
o อาจละไว้กไ็ ด้
่ เป็ นเนื อหาย่
้
o แยกจากหัวข้อเรือง
อย
้
แล้วเขียนขอบเขตของแต่ละเนื อหา
้ ้อนกัน
อย่างช ัดเจน ไม่ซาซ
Slide 77
ข้อแนะนาในการเขียนแผนการสอน
• วัตถุประสงค ์
o
o
o
o
่
กาหนดให้ครอบคลุมทุกหัวข้อเรือง
จัดเรียงลาดับตามความเหมาะสม
่
มีจานวนข้อทีเหมาะสม
่
กาหนดเป็ นเชิงพฤติกรรมทีสามารถ
ประเมินได้
้
• เนื อหาสาระ
o กาหนดให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค ์ เวลา
้
และความรู ้พืนฐาน
o จัดเรียงลาด ับอย่างเหมาะสม
Slide 78
ข้อแนะนาในการเขียนแผนการสอน
• กิจกรรมการเรียนรู ้
้
o แบ่งให้ช ัดเจนในแต่ละขันตอน
o จัดลาดับว่าจะใช้กจ
ิ กรรมอะไรในแต่ละ
้
่
ขันตอน
ให้สอดคล้องกับระยะเวลาทีมี
อยู ่
่
ยนรู ้
• สือการเรี
o กาหนดให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค ์
้
เนื อหาสาระ
และกิจกรรมการเรียนรู ้
o เขียนไว้ให้ช ัดเจนว่าจะใช้สออะไร
ื่
สาหร ับกิจกรรมหนึ่ง ๆ
Slide 79
ข้อแนะนาในการเขียนแผนการสอน
• การวัดและประเมินผล
้ั
่
o กาหนดจานวนครงและระยะเวลาที
ช ัดเจน
่
o กาหนดวิธก
ี ารทีเหมาะสม
่ อยู ่
o สอดคล้องกับระยะเวลาทีมี
Slide 80