เครือข่าย - สมาคมสุขศึกษา พลศึกษา และ สันทนาการแห่งประเทศไทย

Download Report

Transcript เครือข่าย - สมาคมสุขศึกษา พลศึกษา และ สันทนาการแห่งประเทศไทย

ยุทธศาสตร์การสร้างเครือข่าย
การออกกาล ังกายสุขภาพ
โดย
ดร.จรวยพร ธรณินทร์
กรรมการพิท ักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.)
ว ันศุกร์ 3 ธ ันวาคม 2553 เวลา 10.00-11.00น.
การประชุมวิชาการแห่งชาติ
ั
ึ ษา พลศก
ึ ษา และสนทนาการ
ของสมาคมสุขศก
แห่งประเทศไทย
ณ โรงแรมจอมเทียนปาล์มบีช เมืองพ ัทยา ชลบุร ี
ประเด็นที่ ๑.
้ งต้นของเครือข่าย
หล ักการเบือ
 ความหมาย
 ประโยชน์
 ระด ับของความร่วมมือ
พูดถึง “เครือข่าย” นึกถึง











ั ันธ์
ปฏิสมพ
ความร่วมมือ
การประสานงาน
ความสาม ัคคี
ความกว้างใหญ่
ื่ มโยงก ัน
การเชอ
เป้าหมาย
ว ัตถุประสงค์รว
่ ม
จุดประสงค์รว
่ มก ัน
ผลประโยชน์รว
่ ม
ื่ สาร
การสอ
• ความสามารถ/
ถนัดของคนใน
เครือข่าย
ั พันธ์ทด
• ความสม
ี่ ี
• การทางานเป็ น
กลุม
่
• การเรียนรู ้ร่วมกัน
• ขอบข่าย
กว ้างขวาง
• CRMการบริหาร
ั พันธ์
ลูกค ้าสม
• กติกา/ข ้อตกลง
ร่วมกัน
• ขายตรง
• UBC
• AIS/True
•
•
•
•
•
•
•
Internet
กิจกรรม
แชร์
หวยใต้ดน
ิ
ค่ายเทป
ื่ สารไร้สาย
การสอ
ึ ษาไร้
การศก
พรมแดน
• 7 eleven
• เครือญาติ
• เครดิตบูโร
• ฐานข้อมูล
ี และ
้ เอเซย
ทีม
่ า: นิพัทธ์ กานตอัมพร ศูนย์ฝึกอบรมและวิจ ัยเพือ
่ การพ ัฒนาภาคพืน
ิ ิก
แปซฟ
ความหมายของเครือข่าย
(Network)

ั
คือขบวนการทางสงคมอ
ันเกิดจากการสร้าง
ั พน
ความส ม
ั ธ์ร ะหว่า งบุ ค คล กลุ่ม องค์ก ร
สถาบน
ั ร่ ว ม ก น
ั ด า เ นิ น กิจ ก ร ร ม โ ด ย มี
ิ สม ค
เป้ าหมายร่ว มก น
ั โดยทีส
่ มาช ก
ั รใจ
แลกเปลีย
่ น มีการจ ัดระเบียบโครงสร้าง
ย ังคงความเป็นเอกเทศไม่ขน
ึ้ ต่อก ัน
์ ศ
(ทีม
่ า : เสรี พงศพ
ิ , 2548)
องค์การอนาม ัยโลกแนะใชเ้ ครือข่าย
่ เสริมสุขภาพ
เป็นยุทธศาสตร์สง
1.ต้องจ ัดทาแผน และยุทธศาสตร์ในระด ับชาติ
้ อ
 2.ใชข
้ มูลและประสบการณ์จากองค์กรระหว่าง
ประเทศ เพือ
่ ใชเ้ ป็นต ัวเปรียบเทียบมาตรฐานและ
ผล ักด ันให้เร่งพ ัฒนา
 3.สร้างพล ังเครือข่ายจากชุมชน
องค์กรเอกชน และหน่วยงานภาคร ัฐ
่ เสริมให้บค
 4.สง
ุ คลมีความรูส
้ ข
ุ ภาพ และมีโอกาส
ได้ฝึกปฏิบ ัติจริง
้
 5. เผยแพร่ความรูด
้ ว้ ยเทคโนโลยีสม ัยใหม่ รวมทงใช
ั้

ื่ สารมวลชนในเชงิ สร้างสรรค์
สอ
้ ท
ออสเตรเลียใชย
ุ ธศาสตร์เครือข่าย
เป็นมาตรฐานการสร้างเสริมสุขภาพ
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
การอุดหนุนทีเ่ พียงพอจากร ัฐทงเงิ
ั้ นและนโยบาย
การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ
การพ ัฒนายุทธศาสตร์แผนงานและกิจกรรม
หล ักความเสมอภาคและความหลากหลาย
ทีมงาน
การพ ัฒนาหล ักสูตรและการจ ัดการเรียนการสอน
การวิจ ัยและพ ัฒนาจ ัดการความรูใ้ หม่
การติดตามและประเมินผล
้ ท
ร ัฐไอโอวา สหร ัฐ ใชย
ุ ธศาสตร์ No Child Left
Behind โดยสร้างสุขภาพเพือ
่ ให้เรียนได้ดข
ี น
ึ้ 8 มาตรการ
มาตรการที่ 1. สร้างความเข้มแข็งหน่วยงานร ัฐทีร่ ับผิด
ชอบสุขภาพโดยให้ชุมชนสน ับสนุนงานสุขภาพ
มาตรการที่ 2. กาหนดยุทธศาสตร์หล ัก
1) ให้บริการแก่เด็กทุกคนไม่ทอดทิง้ ใคร
ึ ษา/บริการสุขภาพ/
2) จ ัดองค์ประกอบ 3 ด้าน สุขศก
จ ัดสงิ่ แวดล้อม
มาตรการที่ 3. จ ัดต้นแบบทีด
่ ข
ี องการดาเนินงาน 8 ด้าน
ึ ษา 2) ทีมงานสุขภาพของโรงเรียน
1) การสอนสุขศก
3) บริการแนะแนว
4) จ ัดสงิ่ แวดล้อมปลอดภ ัย
5) สร้างเครือข่ายผูป
้ กครองและชุมชน
ึ ษา 7) การบริการสุขภาพ
6) การสอนพลศก
8) การบริการอาหารโภชนาการ
้ ท
ร ัฐไอโอวา สหร ัฐใชย
ุ ธศาสตร์ No Child Left Behind
มาตรการที่ 4. มีเจ้าหน้าทีท
่ างานเต็มเวลา/ให้บริการเต็มที่
ึ ษา/บริการสุขภาพ/ สุขภาพจิต/สงเคราะห์
ด้านสุขศก
ครอบคร ัวยากจน
มาตรการที่ 5 .กาหนดกิจกรรม
- เลือกได้หลากหลายจากรูปแบบ ทีแ
่ นะนาไว้
- สร้างความตระหน ักว่าความสามารถทางการเรียนก ับสุขภาพ
้ กูลก ัน
เป็นปัจจ ัยเกือ
- มีระบบฐานข้อมูล
ึ ษา/การ
- สร้างความร่วมมือระหว่างบุคลากร สุขภาพ/การศก
บริการชุมชน
ั
มาตรการที่ 6. สร้างศกยภาพที
มงานพ ัฒนาสุขภาพชุมชน
และโรงเรียน
มาตรการที่ 7. จ ัดแหล่งบริการสุขภาพให้ทว
่ ั ถึง
มาตรการที่ 8. วิจ ัยและพ ัฒนาการจ ัดการความรู ้
ระด ับของความร่วมมือ
(Source : Health Canada 1996 in Torjman, S. (1998). Partnerships: the good, the bad and
the uncertain. Caledon Institute of Social Policy)
ตา
่ เครือข่าย แลกข้อมูลตามอ ัธยาศยั มีแหล่งข้อมูล
(Networking)
ใชเ้ วลาและความไว้ใจก ันในความ
ร่วมมือน้อย
ประสานงาน
(Coordination)
แลกข้อมูลจ ัดกิจกรรมตามเป้าหมายร่วมก ัน มี
กิจกรรมทีต
่ อ
้ งประสานตกลงก ัน มีขอ
้ จาก ัดใน
้ น
การทางานและบริการไม่ซา้ ซอ
ความ
ร่วมมือ
้ ร ัพยากรร่วมก ัน ต้องใช ้
แลกข้อมูล ใชท
เวลา และมีความไว้วางใจก ันมาก
(Cooperation)
ทางาน
ร่วมก ัน
สูง
(Collaboration)
ั
ทาทุกอย่างตามทุกข้อ แต่มก
ี ารสร้างศกยภาพผู
ท
้ างาน
สองฝ่ายเพือ
่ ให้บรรลุป้าหมาย มีระบบบริหารทีต
่ อ
้ งพึง่ พา
้ ร ัพยากรและมีเงือ
ก ันเพือ
่ ให้งานสาเร็จ มีการใชท
่ นไข
ผูกพ ันเท่าก ันทงสองฝ
ั้
่ าย
ประเด็นที่ ๒.
การบริหารจ ัดการเครือข่าย
- รูปแบบความร่วมมือ
- ล ักษณะเฉพาะการทางาน
เครือข่าย
- กระบวนการทางานแบบเครือข่าย
รูปแบบการรวมต ัวของเครือข่าย
 1.
รวมกลุม
่ สนใจ
(Community of Practice)
 2.
รวมกลุม
่ หน่วยงาน
(Networked Organization)
 3.
รวมกลุม
่ ทางอินเตอร์เน็ ตไม่เห็ น
ต ัวก ัน (Virtual Community)
45
รูปแบบเครือข่ายตามว ัตถุประสงค์
 4.เครือข่ายธรรมชาติ ก ับ เครื อข่ ายจัดตัง้
้ ที่ (Area Network) ก ับ เครื อข่ าย
 5.เครือข่ายพืน
กิจกรรม (Issue Network)

6.เครือข่ายทางการ ก ับ เครื อข่ ายไม่ เป็ น
ทางการ

7.เครือข่ายภาคร ัฐ ก ับ เครื อข่ ายภาคเอกชน
8.เครือข่ายการเรียนรู ้
 9. เครือข่ายผูผ
้ ลิตก ับลูกค้า

ล ักษณะธรรมชาติของ
กระบวนการทางานเครือข่าย





้ เอง ต้องมีผท
เครือข่ายไม่ได้เกิดขึน
ู ้ าให้เกิด
้ แล้วเลิกไป
เครือข่ายมีเกิดขึน
ื่ สารสองทาง
เครือข่ายมีการสอ
เครือข่ายทางานไประยะหนึง่ อาจติดยึดไม่อยาก
ให้เกิดการเปลีย
่ นแปลง
เครือข่ายขนาดใหญ่จะทาให้ยงยื
่ ั น ต้องมีความ
เป็นเจ้าของ มีขอ
้ ผูกพ ันและได้ร ับผลตอบแทนที่
คุม
้ ค่า
46
ล ักษณะธรรมชาติของกระบวนการ
ทางานเครือข่าย




เครือข่ายอาจเริม
่ เบีย
่ งเบนไม่เป็นทีส
่ นใจ
ิ
ของสมาชก
ั ัศน์
เครือข่ายอาจเริม
่ ก่อตงโดยไม่
ั้
มวี ส
ิ ยท
ั
ต้องการไม่ตรงก ัน ทาให้ภารกิจไม่ชดเจน
เครือข่ายอาจยุง
่ ยากภายหล ัง หากไม่ได้
ั
กาหนดบทบาททุกฝ่ายไว้ชดเจน
กลุม
่ ผูร้ บ
ู ้ างคนหรือบางหน่วยอาจเข้มแข็ งมี
อิทธิพลเหนือผูอ
้ น
ื่ ซงึ่ อาจทาลายบรรยากาศ
ความร่วมมือ
47
กระบวนการร่วมมือก ันจะเป็นไป
อย่างสร้างสรรค์
 1.ทุกคนทีเ่ กีย
่ วข้องมีสว่ นร่วม
ตงแต่
ั้
เริม
่ ต้น
 2.ทาให้ “เห็ น” ข้อมูลข่าวสาร
 3.ข้อมูลข่าวสารต้องเคลือ
่ นย้ายได้
 4. เพลินและสนุกก ับการคิดและทา
ร่วมก ัน
กระบวนการร่วมมือก ันจะเป็นไป
อย่างสร้างสรรค์
 4. มีจด
ุ มุง
่ หมายร่วมก ัน
ิ เครือข่ายมีอส
 5. สมาชก
ิ ระ
ื่ มโยงก ันตามความสม ัครใจ
 6. เชอ
 7. มีผน
ู ้ าหลายคน
ั ันธ์ตด
 8. มีความสมพ
ิ ต่อก ันทุก
ระด ับ
ล ักษณะหน่วยงานทีม
่ ค
ี วามร่วมมือทีด
่ ี
ก ับหน่วยงานอืน
่
แม้วา
่ ขนาดใหญ่แต่ก็ทาอะไรรวดเร็ว
 มีการพูดคุยถกแถลงทีเ่ ปิ ดเผย
ื่ ตรงเพือ
ซอ
่ ขจ ัดความคิดเห็นทีไ่ ม่
เข้าท่า
 มีการคิดร่วมก ันและยอมร ับน ับถือการ
ทาดีของบุคคลแก่หน่วยงาน

ประเด็นที่ ๓.
ยุทธศาสตร์การสร้างเครือข่าย
 เท็ คนิคการสร้างความร่วมมือ
 ยุทธศาสตร์การเสริมสร้าง
ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน
การจ ัดทาข้อตกลง
มารยาท
กติกา
8 เท็คนิคของการจ ัดการสร้างความร่วมมือ

ึ ถึงความเร่งด่วนที่
1. ทาให้รส
ู้ ก
จาเป็นต้องมีเครือข่าย
- ประเมินสถานการณ์ดา้ นต่างๆทีม
่ ผ
ี ลกระทบต่อ
ความสาเร็จตามว ัตถุประสงค์ของเครือข่ายความ
ร่วมมือ
- ชใี้ ห้เห็นวิกฤตและโอกาสทางเลือกของ
ความสาเร็จ
2. ก่อรูปกลุม
่ แกนนาเครือข่าย
- การรวมต ัวก ันของคนและกลุม
่ ทีม
่ พ
ี ล ังพอทีจ
่ ะ
ข ับเคลือ
่ นความร่วมมือ
- ทากิจกรรมร่วมก ันของแกนนาในล ักษณะทีม
8 เท็คนิคของการสร้างความร่วมมือ


ั ัศน์และกลยุทธ์
3.สร้างวิสยท
่ วามสาเร็จ
- เขียนเป็นข้อกาหนดไปสูค
ั ัศน์ใหม่
ื่ สารขยายการร ับรูแ
4. สอ
้ ละยอมร ับในวิสยท
้ ก
ั ัศน์ใหม่
่ งทางในการสอ
ื่ วิสยท
- ใชท
ุ ชอ
้ ลยุทธ์กลุม
- ใชก
่ แกนนาทาเป็นต ัวอย่าง


5.ข ับเคลือ
่ นการกระทาระหว่างหน่วยงาน
- ลดอุปสรรค
- เปลีย
่ นระบบและโครงสร้างทีบ
่ น
่ ั ทอนการเปลีย
่ นแปลง
่ เสริม “ความคิดใหม่ การกระทาใหม่ทด
- สง
ี่ ”ี
ื่ ชมความสาเร็จทีละเล็ กละน้อย
6.ชน
ื่ ชมการปร ับปรุงผลงานทีเ่ ริม
้
-ชน
่ เกิดขึน
-สรรเสริญคนทีป
่ ร ับปรุงตนเอง
ื่ มน
- สร้างกระแสเชอ
่ ั ในความสาเร็จแม้เป็นเรือ
่ งเล็ก
8 เท็คนิคของการสร้างความร่วมมือ

7. ผนึกกาล ังผลความสาเร็จ
- ก่อต ัวเป็นคลืน
่ ของการเปลีย
่ นแปลง
- รีบปร ับระบบโครงสร้างและนโยบายให้คล้อยตาม
ื่ มน
- ตอกยา้ ความเชอ
่ ั ด้วยโครงการใหม่
้ กนนาใหม่ ให้เกิดการเปลีย
-ใชแ
่ นแปลงใหม่

8. ปลูกฝังว ัฒนธรรมทางานแบบเครือข่าย
- ให้ระบุ ผลงานทีด
่ ม
ี าจากความร่วมมือทีด
่ ี
- มีภาวะผูน
้ าทีด
่ แ
ี ละการจ ัดการทีด
่ ี
-ให้เห็นว่าพฤติกรรมความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน
่ วามสาเร็จของว ัตถุประสงค์
นาไปสูค
- ร่วมก ันคิดค้นหนทางทีพ
่ ัฒนาภาวะผูน
้ า
-สร้างผูน
้ าเครือข่ายความร่วมมือรุน
่ ใหม่
ยุทธศาสตร์การเสริมสร้าง
ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน






่ นร่วมของผูป
บริหารงานแบบทุกคนมีสว
้ ฏิบ ัติงาน
ผูบ
้ ริหารมีหน้าทีใ่ นการเป็นผูอ
้ านวยความสะดวก
ั ัศน์ของกลุม
สร้างวิสยท
่ ผูป
้ ฏิบ ัติงาน
่ นร่วมแข็งข ันในกระบวนการ
ผูป
้ ฏิบ ัติงานมีสว
ทางาน
ทุกคนเป็นกาล ังสาค ัญของกลุม
่
ั ันธ์ระหว่าง
ผูป
้ ฏิบ ัติงานเห็นและเข้าใจความสมพ
งาน
การสร้างเครือข่ายการทางานร่วมก ัน
ควรจ ัดทาข้อตกลงให้เป็นลายล ักษณ์อ ักษร
่ งเวลาใด
้ ฐาน :ใคร,ทาอะไร,ชว
I. ข้อมูลพืน
II. หน้าทีข
่ องเครือข่าย
III. เงิน/ทร ัพยากรทีใ่ ช ้
IV. ระบบบริหารจ ัดการ
ิ ใจ
A. การวางแผนและต ัดสน
ื่ สาร
B. การติดต่อสอ
C. การกาก ับติดตาม
D. การจ ัดทารายงานและการจ ัดทาฐานข้อมูล
V. งานบริหารทว่ ั ไป
48
๔.การประเมินความสาเร็จของ
เครือข่าย
 อุปสรรคอยูท
่ ไี่ หน
 ความสาเร็ จอยูท
่ ไี่ หน
 ทาอย่างไรให้เครือข่ายยง
่ ั ยืน
อุปสรรคของการจัดการความร่วมมือ





ึ ว่าเป็นเรือ
1.ผูค
้ นรูส
้ ก
่ งยาก ขาดพล ังพอทีจ
่ ะทา
ให้เครือข่ายความร่วมมือเป็นไปอย่างต่อเนือ
่ ง
2.ไม่เห็นความก้าวหน้า ไม่ได้กาหนดการ
ทางานและความสาเร็จทีละขนตอน
ั้
3.ขาดความวิรย
ิ ะในการผล ักด ันให้มค
ี วาม
ร่วมมืออย่างต่อเนือ
่ ง
4.ไม่ได้ปลูกฝัง “ความร่วมมือก ัน”ให้เป็น
ว ัฒนธรรมของหน่วยงาน
ึ ถูกชุบมือเปิ บ
5. แย่งผลงานก ัน หรือรูส
้ ก
อุปสรรคของการจัดการความร่วมมือ
6.ผูค
้ นนิง่ นอนใจ เห็นว่าเครือข่ายความ
ร่วมมือเป็นเรือ
่ งทีไ่ ม่จาเป็นเร่งด่วน
 7.ขาดแรงผล ักด ันทีม
่ ากพอจากกลุม
่
ผูบ
้ ริหารระด ับสูง
ั ัศน์ทม
ี้ าการ
 8. ขาดวิสยท
ี่ พ
ี ล ังชน
เปลีย
่ นแปลง
ั ัศน์ให้รแ
ื่ สารวิสยท
 9. ไม่สามารถสอ
ู ้ ละ
ยอมร ับร่วมก ันระหว่างหน่วยงาน

ห ัวใจสาค ัญของความสาเร็จของ
เครือข่ายคือการถอดบทเรียน
 ๑.การสรุปบทเรียน
(Lesson learned)
 ๒.การถอดบทเรียน
(Lesson distilled)
 ๓.การถอดรห ัสการพ ัฒนา
(Development decoded)
๑.การสรุปบทเรียน (Lesson learned)
ทีม
่ า:ประชาสรรค์ แสนภ ักดี (www.prachasan.com)
สรุปข้อมูลทีไ่ ด้ทางานทงหมดออกมา
ั้
ื่ อืน
 อาจสรุปเป็นเอกสาร หรือสอ
่ ๆ
โดยผูร้ ว่ มโครงการร่วมก ันสรุป
 ห ัวใจสาค ัญของการสรุปบทเรียนอยูท
่ ี่
ผูเ้ ข้าร่วมการสรุปบทเรียนจะต้องตก
ผลึกความคิดจึงจะได้บทเรียนที่
สมบูรณ์

๒.การถอดบทเรียน (Lesson distilled)
เกิดขึน
้ ต่อจากการสรุปบทเรียน
ิ่ ออกมาจากบทเรียน
 โดยดึงเอาบางสง
ให ้ได ้งานหรือความสาเร็จ (Best Practice)
รวมทัง้ ความล ้มเหลวทีเ่ กิดขึน
้ (Bad Practice)
 หลักในการถอดบทเรียนอยูท
่ ก
ี่ รอบแนวคิดทีใ่ ชจั้ บ
ประเด็น
่ บทเรียนการบริหารการพัฒนาองค์กร จะเลือก
 เชน
ทา SWOT ANALYSIS
 หรือบทเรียนในการทางานของทีม จะสรุปเป็ นคูม
่ อ
ื
ปฏิบัตใิ นแต่ละขัน
้ ตอน

FORD BEST PRACTICE REPLICATION PROCESS
(http://www.ikmagazine.com/)
1. สะสมแผนปฏิบ ัติทพ
ี่ ส
ิ จ
ู น์ดแ
ี ล้ว
คณะทางานเสนอแนวปฏิบ ัติ
ต่อผูป
้ ระสานงานกลาง
ื่ สารสงิ่ ทีต
2. สอ
่ อ
้ งปฏิบ ัติ
จ ัดทาเกณฑ์ค ัดเลือก
เสนอทุกหน่วยเกีย
่ วข้อง
แจ้งสงิ่ ทีเ่ ลือกปฏิบ ัติให้ทก
ุ หน่วยโดย
คณะทางานแต่ละจุด
วิเคราะห์
สงิ่ ทีต
่ อ
้ งปฏิบ ัติ
้ เี มล์และเว็บ
มีผป
ู ้ ระสานและใชอ
3. จ ัดการกระบวนการทางาน
TO
DO
ิ ใจเลือกแนว
ต ัดสน
ปฏิบ ัติ/ เพชร
ิ ใจ หากตกลงจะ
คณะต ัดสน
ทาเมือ
่ ไร หากไม่เพราะเหตุใด
JAN
FEB
MAR
IN
RECOGNITION
OF
REPLICATING
HIGH VALUE
IDEAS
30
Days!
ผูป
้ ระสานงานแจ้งกล ับการด ัด
ิ ใจผ่านอีเมล์และเว็บ ต ัด
สน
ข้อด้อยทิง้ ไป
คณะทางานสรุปข้อมูลให้คณะ
ผูบ
้ ริหารเพือ
่ สรุปภาพรวมและลง
มือปฏิบ ัติ
ทุกคนยอมร ับ
ผลงาน
๓.การถอดรห ัสการพ ัฒนา
(Development decoded)




คือ การเปิ ดกุญแจรห ัสทีห
่ ากไม่ตรงก็ไม่สามารถจะ
เปิ ดได้
หล ักการถอดรห ัส อยูท
่ น
ี่ าBest หรือ Bad Practice ที่
ได้จากการถอดบทเรียนมาวิเคราะห์เชงิ ลึกเพือ
่ หา
้ ทนหรือ
คา(word) หรือประเด็น(issue) หล ัก ทีใ่ ชแ
อธิบายสงิ่ นน
ั้
่ ศ.นพ. ประเวศ วะส ี ได้ถอดรห ัสการพ ัฒนาของ
เชน
ในหลวง
- ความดี(Goodness)
- ว ัฒนธรรมชุมชน(Community) และ
- ความรู(้ Knowledge)
่ หากจะ
นารห ัสการพ ัฒนาไปใสใ่ นกระบวนการ (coding) เชน
ทาโครงการ หรือการบริหารองค์กร ก็ใสร่ ห ัส ความดี
(G)ชุมชน (C ) และ ความรู(้ K) เข้าไปด้วย
รห ัสการพ ัฒนาคนยุคใหม่แบบ
เศรษฐกิจพอพียงของในหลวง
(ทีม
่ า : ศ.นพ.ประเวศ วะส)ี
๑.พล ังความดี นโยบาย
/
๒.พล ัง
ความรู ้
รห ัสการ
พ ัฒนาคนตาม
กระแสเศรษฐกิจ
พอพียง
๓.พล ัง
ชุมชน
54
ถอดรห ัส7บริษ ัท กลุม
่ ปตท.
The Code to Growth การถอดรห ัสสู่
การเติบโตอย่างยง่ ั ยืน
้ ระเมินผล
คาถามคาตอบทีใ่ ชป
การทางานของเครือข่าย
1. การร่วมมือก ัน อยูใ่ นรูปแบบใด
2. ความร่วมมือ อยูใ่ นระด ับใด
3.ความคิดของทงสองฝ
ั้
่ ายตรงก ับสภาพและปัญหา
ของหน่วยงานหรือไม่
4. การทางานในรูปแบบความร่วมมือมีความสาค ัญ
ต่อองค์กรในระด ับสูงเพียงใด
5. นอกจากร่วมมือก ันแล้วทงสองฝ
ั้
่ ายย ังไปทา
ข้อตกลงก ับหน่วยอืน
่ ๆอีกหรือไม่
ิ ใจในกระบวนการทางาน
6. มีบทบาทในการต ัดสน
ของเครือข่ายหรือไม่
้ ระเมินผล
คาถามคาตอบทีใ่ ชป
การทางานของเครือข่าย




7. มีพ ันธะหรือแสดงความมุง
่ มน
่ ั ทีจ
่ ะทางานร่วมก ัน
หรือไม่
ึ เป็นเจ้าของเข้าไปแก้ไขชว
่ ยให้
8. มีความรูส
้ ก
งานสาเร็จบ้างหรือไม่
9. มีการแสดงความร ับผิดชอบในการระบุและแก้ไข
ปัญหาทีเ่ กิดจากความไม่เท่าเทียมก ันในปัญหาสุขภาพ
จากหน่วยทีเ่ กีย
่ วข้องหรือไม่
10. มีกระบวนการให้บค
ุ คลได้ร ับความสนใจเข้าไปร่วม
แก้ปญ
ั หาด้วยหรือไม่
้ ระเมินผลการ
คาถามคาตอบทีใ่ ชป
ทางานของเครือข่าย
11. มีหน่วยงานอาสาสม ัครเข้าไปร่วมทางานด้วย
หรือไม่
้ ทีเ่ ข้ามามีบทบาทมาก
 12. จะให้เจ้าหน้าทีใ
่ นพืน
้ ได้อย่างไร
ขึน
่ ยให้ทก
 13.ทาอย่างไรจะชว
ุ ฝ่ายร ับผิดชอบร่วมทางาน
่ ยผูด
เพือ
่ ชว
้ อ
้ ยโอกาส
้ ทีไ่ ด้ร ับอุปกรณ์การ
 14. ทาอย่างไรให้หน่วยงานในพืน
่ ยผูด
้
สน ับสนุนให้ทางานชว
้ อ
้ ยโอกาสได้มากขึน
ี น ักวิชาการ ผูท
 15. ทาอย่างไรให้น ักวิชาชพ
้ รงคุณวุฒ ิ
่ ยแก้ปญ
มีบทบาทชว
ั หา
27

้ ระเมินผลการ
คาถามคาตอบทีใ่ ชป
ทางานของเครือข่าย



16. ทาอย่างไรการผล ักด ันให้เป็นวาระ
แห่งชาติเป็นปัญหาทีแ
่ ท้จริงและได้ร ับการ
สน ับสนุนแก้ไขได้จริง
่ ารปฏิบ ัติ
17. จะร่วมมือก ันจ ัดทาโครงการสูก
จริงได้อย่างไร
่ ยแก้ไขความไม่เท่าเทียมขอ
18. จะชว
เครือข่ายได้อย่างไร
29
ประเด็นที่ ๕.
ต ัวอย่างการสร้างเครือข่าย
- ต ัวอย่างเครือข่ายทางแนวคิด
- ต ัวอย่างเครือข่ายระด ับกระทรวง/กรม
- ต ัวอย่างหน่วยงานก ับชุมชน
ั ันธ์ระหว่าง
ต ัวอย่างเครือข่ายความสมพ
ึ ษาก ับสุขภาพ
แนวคิดการศก
(ทีม
่ า Jack T. Jones, WHO, Geneva)
ึ ษาเป็นรากฐานในการสร้างสุขภาพ
-การศก
-เด็กสุขภาพดีทาให้เรียนดี
ั้ ยนเป็นผลจากภาวะสุขภาพ หากป่วยทา
-การเข้าชนเรี
ให้ขาดเรียน
-ภาวะทีเ่ กิดจากตงครรภ์
ั้
กอ
่ นว ัยอ ันควร
ถูกทาร้าย
รุนแรง ถูกกระทาละเมิดทางเพศ ป่วยจากโรคติดต่อมี
ผลกระทบต่อการเรียนรู ้
ึ ษาและนโยบายของสถานศก
ึ ษามี
-สภาพการจ ัดการศก
ผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของน ักเรียน
4
ึ ษาต่อ
มุมมองด้านการศก
การสร้างเสริมสุขภาพน ักเรียน
่ นใหญ่มท
1. ครูสว
ี ักษะการสอน รูว้ ธ
ิ ส
ี อน แต่ม ัก
สอนสุขภาพภาคทฤษฎี
ี ต
 การเรียนการสอนท ักษะชว
ิ เป็นนว ัตกรรมทีด
่ ี
้ านานกว่า10ปี แล้ว
ทีส
่ ด
ุ แต่ใชม
 ครูอยากได้วธ
ิ ป
ี ร ับการเรียนเปลีย
่ นการสอนจะมี
อะไรใหม่ๆอีกหรือไม่
 ครูเองก็ มส
ี ข
ุ ภาพไม่ด ี ควรได้ร ับการดูแลจาก
ผูบ
้ ริหารด้วย
10
ึ ษาต่อ
มุมมองด้านการศก
การสร้างเสริมสุขภาพน ักเรียน
2.โรงเรียนต้องการการสน ับสนุนจากกระทรวง
สาธารณสุขในการจ ัดกิจกรรมบริการ
สุขภาพ และกิจกรรมเสริมหล ักสูตรเพือ
่ สร้าง
ั
สุขนิสย


ปัญหาคือใครควรริเริม
่ ระหว่างกระทรวง
ึ ษาธิการหรือกระทรวงสาธารณสุข
ศก
ทาอย่างไรโครงการร่วมข้ามกระทรวงจะอยู่
ยืดยง่ ั ยืน
11
ึ ษาต่อ
มุมมองด้านการศก
การสร้างเสริมสุขภาพน ักเรียน
ึ ษาจะต้อง
3.นโยบายสุขภาพของกระทรวงศก
มาจากนโยบายของร ัฐมนตรีและร ัฐบาล
 ต้องข ับเคลือ
่ นให้เป็นวาระชาติจงึ จะได้ร ับ
ความสนใจและเงินอุดหนุนจากร ัฐ
ั้ สนใจโครงการที่
 น ักการเมืองม ักอยูส
่ น
ได้ร ับผลเร็วดีในสายตาคนทว่ ั ไป ทาให้
งานไม่ยง่ ั ยืน
12
ึ ษาต่อ
มุมมองด้านการศก
การสร้างเสริมสุขภาพน ักเรียน
4.ในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง
ึ ษาก ับหน่วยสาธารณสุข
หน่วยงานการศก
ี
ต้องการทีมทางานมืออาชพ
 ทีมควรประกอบด้วยผูป
้ ระสานงาน
ผูอ
้ านวยการหรือผูจ
้ ัดการโครงการ
ั ันธ์
ผูป
้ ฏิบ ัติงาน และเจ้าหน้าทีส
่ มพ
ต่างประเทศ จึงจะทาให้โครงการเดินหน้า
 ปัญหาคือจะหาทีมดีทงสองฝ
ั้
่ ายได้จากที่
ไหน
14
ึ ษาต่อ
มุมมองด้านการศก
การสร้างเสริมสุขภาพน ักเรียน
5.การสร้างเครือข่ายความร่วมมือจาก
้ ก ับฝี มือของผูบ
ชุมชนขึน
้ ริหาร
ึ ษาและทีมงาน
สถานศก
 จาเป็นต้องพ ัฒนาบุคลากรให้ทางานได้
 ผูบ
้ ริหารต้องเป็นผูน
้ าการเปลีย
่ นแปลง
ั ันธ์
และมีท ักษะมนุษยสมพ
15
การสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน



่ หน่วยการศก
ึ ษา
ต ัวอย่างเชน
ก ับหน่วยงานสาธารณสุข
1. พ ัฒนาความร่วมมือในกลุม
่ ผูก
้ าหนดนโยบาย
ึ ษา
สุขภาพก ับนโยบายการศก
2.กาหนดเจ้าหน้าทีผ
่ ป
ู ้ ระสานงานประจาเพือ
่
ึ ษาธิการ
ติดตามการทางานระหว่างกระทรวงศก
ก ับกระทรวงสาธารณสุข
3.แต่งตงคณะกรรมการประสานงาน
ั้
หรือ
กรรมการระด ับชาติร ับผิดชอบการทางานร่วมก ัน
21
การสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน
ึ ษาก ับหน่วยงานสาธารณสุข
การศก
4. กาหนดเป็นวาระแห่งชาติให้เกิดการผล ักด ันจาก
ี จากหน่วยงานเกีย
ฝ่ายการเมืองและทีมวิชาชพ
่ วข้อง
 5.หากเป็นไปได้ในกฎหมายของหน่วยงานด้านสุขภาพ
ึ ษาธิการร่วมเป็น
ให้กาหนดมีผแ
ู ้ ทนกระทรวงศก
กรรมการบริหารด้วย
 6. ให้มก
ี ารจ ัดทาบ ันทึกข้อตกลงร่วมก ันระหว่าง
หน่วยงานและมีระบบกาก ับติดตามให้ทางาน
ก้าวหน้าตามข้อตกลง

22
การสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน
ึ ษาก ับหน่วยงานสาธารณสุข
การศก
ิ หน่วยงานเกีย
7. ค้นหาและเชญ
่ วข้องเข้า
่
มาร่วมมือ เชน
-ทุกหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข
-องค์กรเอกชนด้านสุขภาพ
ึ ษา เชน
่ : สมาคม
-หน่วยงานทางการศก
ผูป
้ กครอง, สมาคมวิชาการ,
มหาวิทยาล ัย
23
การสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน
ึ ษาก ับหน่วยงานสาธารณสุข
การศก
8. ความร่วมมือก ันควรให้เครดิตเป็น
ผลงานและมีคณ
ุ ค่าต่อองค์กร
 เป้าหมายบรรลุได้จริง
 มีรป
ู แบบการทางานร่วมก ันเชงิ
ทางการ
 มีผร
ู ้ ับผิดชอบและบริหารทีเ่ ป็นมือ
ี
อาชพ
24
กรณีต ัวอย่างการสร้างเครือข่าย
การทางานระหว่างศธ ก ับสธ
ริเริม
่ โดยศธ.





ศธ.ตระหน ักเป็นปัญหา
ของกระทรวง
่ ยเหลือ
มองหาความชว
จากภายนอก
ใชง้ บทงหมดหรื
ั้
อ
่ นจากศธ.
บางสว
มีหน่วยงานและ
ผูร้ ับผิดชอบของศธ.
ดาเนินการ
เป็นผูย
้ กร่างข้อบ ันทึก
ริเริม
่ โดยสธ.





ตระหน ักปัญหาแก้ไขได้จาก
ี สาธารณสุข
คนในวิชาชพ
่ ยโดยไม่
บางครงเข้
ั้ ามาชว
ถามหรือไม่มก
ี ารร้องขอ
ใชง้ บของสธ.ทงหมดหรื
ั้
อ
่ น
บางสว
กาหนดประเด็นให้เป็นวาระ
ชาติเพือ
่ ได้เงินจากร ัฐ
เจ้าหน้าทีส
่ ธ.เป็นผูร้ ับผิดชอบ
โครงการ
37
ววามร่ วมมือระหว่ าง สพฐ.กับกรมอนามัย ปี 2553
่ เสริมสุขภาพ
1. พ ัฒนาโรงเรียนผ่านเกณฑ์มาตรฐานโรงเรียนสง
ระด ับเพชร โดยกรมอนาม ัย เพือ
่ เป็นศูนย์การเรียนรู ้ 36 แห่ง
2. สพฐ.ขยายสู่โรงเรี ยนในฝั น ให้ ครอบคลุม 185 เขตๆ ละ 1 แห่ ง
3. เฝ้ าระวังเด็กวัยเรียน ไม่ ให้ มีเพศสั มพันธ์ ก่อนวัยอันววร
เพือ่ ลดปัญหาวลอดบุตรก่ อนอายุ 20 ปี
4. ส่ งเสริมให้ โรงเรียนจัดกิจกรรมแปรงฟั นหลังอาหาร
กลางวันทุกวัน เพื่อให้ นักเรียนอายุ 12 ปี มีฟันผุ
ไม่ เกินร้ อยละ 45
50
ววามร่ วมมือระหว่ าง สพฐ. กับกรมอนามัย ปี 2553
5. ส่ งเสริมสนับสนุนให้ เด็กอายุ 6-18 ปี มีภาวะโภชนาการดี
มีส่วนสูงตามเกณฑ์ (ไม่ เตีย้ ) ไม่ น้อยกว่ าร้ อยละ 83 และ
รูปร่ างสมส่ วน (ไม่ อ้วนไม่ ผอม) ไม่ น้อยกว่ าร้ อยละ 76
6. ส้ วมได้ มาตรฐาน ร้ อยละ 60
51
ปัญหาการทางานร่วมก ันข้ามกระทรวง




1. สธ.ติดต่อโรงเรียนโดยตรงไม่ผา่ นศธ ทาให้
ั ัด
ไม่ร ับรูแ
้ ละไม่ได้ร ับการสน ับสนุนจากต้นสงก
ึ ษาทาให้
2. หลายหน่วยงานสง่ ั ตรงไปทีส
่ ถานศก
้ น
ึ ษาต้องทางานหน ัก บางครงซ
สถานศก
ั้ า้ ซอ
้ ก ับความสนใจของ
3. งานบางโครงการขึน
หน่วยงานผูส
้ น ับสนุน เมือ
่ หมดเงินจบโครงการ
ึ ษา
โดยไม่ตรงความต้องการของสถานศก
4. หน่วยงานใชเ้ ป็นผลงานของตนโดยไม่คานึง
ว่าเป็นผลงานร่วมก ัน
การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ
ระหว่างหน่วยงานก ับชุมชน
้ ทีใ่ น
1.ค้นหาความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในพืน
ชุมชน : ผูม
้ อ
ี ท
ิ ธิพลทางความคิด/น ักการเมืองท้องถิน
่ /
ผูน
้ าศาสนา/ภูมป
ิ ญ
ั ญาชาวบ้านผูน
้ าชนกลุม
่ น้อย/ผูน
้ า
เชงิ ว ัฒนธรรม ฯลฯ
ี่ วชาญเฉพาะเรือ
่
2. หาความร่วมมือจากหน่วยเชย
่ งเชน
่
อาสาสม ัคร หน่วยเอกชน มูลนิธจ
ิ ัดกิจกรรมร่วมก ันเชน
- โรงเรียนจ ัดหล ักสูตรพิเศษให้บริการบุคคลภายนอกเข้ามาเรียนรู ้
เรือ
่ งสุขภาพ
- สารวจความต้องการของน ักเรียนและบุคลากร
- ฝึ กอบรมพ ัฒนาบุคลากร
- ทางานร่วมก ับผูป
้ กครอง
- ร่วมก ันดูแลสภาพแวดล้อมรอบโรงเรียน
25
ข้อเสนอการสร้างเครือข่ายความ
ร่วมมือระหว่างหน่วยงานก ับชุมชน
้ งานทีเ่ ป็นทีส
3. สารวจประเด็นเนือ
่ นใจของ
หน่วยงานและชุมชน
4. จ ัดกิจกรรมทีเ่ น้นการร่วมมือก ันทงหน่
ั้
วยงาน
5. พ ัฒนาให้ทม
ี และบุคลากรมีความรูท
้ ักษะใหม่ๆ
ั ันธ์ก ับชุมชนและเป็น
6. หน่วยงานสร้างความสมพ
ทีย
่ อมร ับของชุมชน
ื่ มโยงเป็นเครือข่าย
7. มีการทางานทีเ่ ป็นระบบเชอ
ก ับกลุม
่ ชุมชน
8.มีทศ
ิ ทางและเป้าหมายการทางานร่วมก ันที่
ั
ชดเจนและให้
รายงานความก้าวหน้าเพือ
่ ให้ม ี
การสน ับสนุนจากฝ่ายบริหาร
28
ข้อเสนอการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ
ระหว่างหน่วยงานก ับชุมชน
9.ค้นหาแหล่งสน ับสนุนทร ัพยากรให้
ได้มาเพือ
่ การทางานให้เกิดผล
่ นร่วมใน
10.สร้างการทางานแบบมีสว
แบบประชาธิปไตยระหว่าง
หน่วยงานก ับชุมชน
30
ประเด็นที่ ๖.
ึ ษาเครือข่าย
กรณีศก
การออกกาล ังกายทีม
่ อ
ี ยูจ
่ ริง
- สสส. แม่ขา่ ยผูอ
้ ด
ุ หนุนทางการ
เงินผ่านโครงการก ับภาคีเครือข่าย
- สปสช. แม่ขา่ ยก ับภาคีผู ้
ให้บริการ(Service Providers)
- สช. แม่ขา่ ยทางนโยบาย ก ับภาคี
การเรียนรู,้ ภาคีขอ
้ มูล
- กระทรวงการท่องเทีย
่ วและกีฬา
- กระทรวงสาธารณสุข
้ ท
ต ัวอย่างการใชย
ุ ธศาสตร์การทางานขององค์กร
ทีป
่ ระสบความสาเร็จในการสร้างเครือข่าย
สาน ักงานกองทุนสน ับสนุนและ
สร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
่ นร่วมจากทุกภาค
- ยุทธศาสตร์สร้างเครือข่ายการมีสว
่ ยทา
- ไม่ทาเอง ให้เงินคนอืน
่ มาชว
ั
- กาหนดประเด็นงานสุขภาพชดเจน
เพือ
่ ให้มาทาตรง
ความต้องการ
้ ฎหมายมี พ.ร.บ.ทาให้ได้เงิน 2% จากภาษีการ
- ใชก
จาหน่ายสุรา
- มีระบบคณะกรรมการ 2 ชุด ถ่วงดุลก ันคือ
คณะกรรมการบริหาร + คณะประเมิน และมีการ
ประเมินโครงการทีอ
่ ด
ุ หนุนไป
สสส.ก ับภาคีเครือข่ายสุขภาพ











http://www.accident.or.th/
http://www.familynetwork.or.th/
http://www.rdh.psu.ac.th/
http://www.sponsorship-thaihealth.com/
http://www.hiso.or.th/
http://www.trc.or.th/th/index.php
http://www.inetfoundation.or.th/
http://www.dekthaidoodee.com/
http://www.thainhf.org/
http://www.thaigreenmarket.com/
http://www.noviolenceinschools.net/
สาน ักงานคณะกรรมการสุขภาพ
แห่งชาติ http://www.nationalhealth.or.th







้ าณาบริเวณที่
้ ที:่ ใชอ
๑) สม ัชชาสุขภาพเฉพาะพืน
แสดงขอบเขตเป็นต ัวตงในการด
ั้
าเนินการ
้ ระเด็นเป็น
๒) สม ัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น : ใชป
ต ัวตงในการด
ั้
าเนินการ
๓) สม ัชชาสุขภาพแห่งชาติ : เป็นกระบวนการใน
ระด ับชาติ (ต้องจ ัดอย่างน้อยปี ละ ๑ ครง)
ั้
http://www.hmusic.org/โครงการดนตรีสร ้างปั ญญา
http://healthnet.md.chula.ac.th
http://www.hpp-hia.or.th/เวปไซต์เพือ
่ สุขภาพทีด
่ ข
ี อง
คนไทย
http://www.thaihealth.info/
สมัชชาสุขภาพ
เครือข่ายการออกกาล ังกายทีม
่ อ
ี ยู่
จริงในประเทศไทย
1. เครือข่ายการออกกาลังกายเพือ
่ สุขภาพจังหวัด
นครสวรรค์ http://www.nsm.go.th/
ี งใหม่
2. เครือข่ายชมรมจักรยานเชย
http://www.cmcycling.org
3. เครือข่ายชมรมออกกาลังกายเพือ
่ สุขภาพ ๒๕๓
ึ ษา http://www.osrd.go.th/
ชมรม กรมพลศก
โครงการนากีฬาไทเก็กสร้างเครือข่ายในกลุม
่ เยาวชน
http://www.pcuinnovation.com/pcu/546




่ ยดูแลและสร้างเสริม
กลุม
่ เกิดแนวคิดในการชว
สุขภาพใกล้บา้ น ซงึ่ ก ันและก ัน จากชมรมสู่
่ ุมชน สูต
่ าบล และสูอ
่ าเภอ จึงเกิด
ชมรม สูช
่ เสริมการออกกาล ังกายแบบไทเก็ก
โครงการสง
ชมรมกีฬาออกกาล ังกายเพือ
่ สุขภาพไทเก็กจ ังหว ัด
่ นร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ของเทศบาล
สตูล ได้มส
ี ว
และจ ังหว ัด ตลอดจนองค์กรเอกชนอืน
่ ๆ อย่าง
สมา
่ เสมอ ได้ร ับรางว ัลชมรมออกกาล ังกาย
ดีเด่น ระด ับเขต
่ มาลี นาตบรรพต
ผูร้ ับผิดชอบโครงการ : นางชอ
ชุมชน : 150/1 ถ.สถิตยุตธ
ิ รรม อ.เมือง จ.สตูล
โครงการทีด
่ าเนินงานปี งบประมาณ 2553
ื่ หน่วยงาน: กองออกกาล ังกายเพือ
ชอ
่
สุขภาพ กรมอนาม ัย
http://doc.anamai.moph.go.th/project
ั
 จ ัดประชุมเชงิ ปฏิบ ัติการพ ัฒนาศกยภาพ
เครือข่ายออกกาล ังกายเพือ
่ สุขภาพให้ก ับ
จนท.ศูนย์อนาม ัยที่ 1-12 และสาน ักงาน
สาธารณสุข 75 จ ังหว ัด ทีร่ ับผิดชอบงาน
ออกกาล ังกาย
่ ท้าย :ข้อเสนอสมาคมสุขศก
ึ ษา พลศก
ึ ษาและ
บทสง
น ันทนาการแห่งประเทศไทย สวมบทบาทแม่ขา
่ ย





1.แม่ขา่ ยบูรณาการ CONCEPTS สุขภาพ+ กีฬา +
นันทนาการ
สร ้างเครือข่ายระหว่างหน่วยงานทุกระดับ ตัง้ แต่ระดับ
โลก,ทวีป,ประเทศ ในการบูรณาการ สุขภาพ+ กีฬา +
นันทนาการ
แม่ขา่ ยจัดการองค์ความรู ้เรือ
่ งทีไ่ ด ้บูรณาการสุขภาพ+
กีฬา +นันทนาการ
สร ้างเครือข่ายผ่านอินเตอร์เน็ ต ซงึ่ ทางานได ้เร็ว
ประหยัด ทันสมัย ทั่วถึง
ถอดบทเรียนจากการเรียนรู ้จากภาคีเครือข่าย
ึ ษา พลศก
ึ ษา
่ ท้าย :ข้อเสนอสมาคมสุขศก
บทสง
และน ันทนาการแห่งประเทศไทย
สวมบทบาทแม่
ข่าย







๒.เป็นผูเ้ สนอแนะให้บรรจุเรือ
่ งการออก
กาล ังกายให้อยูใ่ นใสไ่ ว้ในแผนอืน
่ ๆ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ,
แผนสุขภาพแห่งชาติ,
ึ ษา,
แผนปฎิรป
ู การศก
แผนท่องเทีย
่ วแห่งชาติ,
แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ
แผนพัฒนาจังหวัด,เทศบาล,อบจ,อบต.
่ ท้าย : ข้อเสนอการสร้างเครือข่าย
บทสง
ั ันธ์สว
่ นบุคคล
สายสมพ






ิ ของสมาคมทางวิชาชพ
ี เพือ
เข้าไปสม ัครเป็นสมาชก
่
ได้ร ับข่าวสารทางอีเมลฟรี
http://www.vichealth.vic.gov.au/ Vic health
http://www.healthway.wa.gov.au/ The Western
Australian Health Promotion Foundation
http://www.dsr.wa.gov.au/ Department of Sport and
Recreation , Australia
http://www.aahperd.org/ American Alliance for Health,
Physical education, Recreation
http://www.ichpersd.org/ International Council for
Health, Physical education, Recreation, Sport and Dance
ั ันธ์สว
่ นบุคคล
การสร้างเครือข่าย สายสมพ





http://www.worldleisure.org/ World Leisure
Organization
http://www.who.int/ World Health Origination
http://www.olympic.org The International
Olympic Committee (IOC)
http://www.unesco.org/cigeps
Intergovernmental Committee for Physical
Education and Sport (CIGEPS)
http://hivaidsclearinghouse.unesco.org/
HIVAIDS Clearinghouse
่ ท้าย : ข้อเสนอการสร้างเครือข่าย
บทสง
ั ันธ์สว
่ นบุคคล
สายสมพ







ี
เข้าร่วมกิจกรรมชมรม สมาคมสายวิชาชพ
เข้าร่วมเป็นกรรมการ คณะทางาน
ร ักษากิจกรรมก ับกลุม
่ เพือ
่ นอย่างน้อยปี ละครงั้
เมือ
่ เปลีย
่ นงานหรือทีอ
่ ยูค
่ วรบอกกล่าวไปให้ทว่ ั
สะสมนามบ ัตร, บ ันทึกข้อมูลหล ังนามบ ัตรทุก
ใบ และแจกนามบ ัตรของเรา
ฝึ กใช ้ Internet, Twitter, Face Book เพือ
่ การ
แลกเปลีย
่ นเรียนรู ้
้ ักษะมนุษยสมพ
ั ันธ์ การเป็นผูร้ ับและผูใ้ ห้
ใชท
ต ัวอย่างฝึ กบูรณาการแนวคิด(Concepts)
ปร ัชญาด้านกีฬาของข้าพเจ้า
คือ________________
ปร ัชญาด้านสุขภาพของข้าพเจ้า
คือ________________
ปร ัชญาด้านน ันทนาการของข้าพเจ้า
คือ________________
ปร ัชญาด้านการท่องเทีย
่ วของข้าพเจ้า
คือ________________
ปร ัชญาด้านกีฬา สุขภาพ น ันทนาการและการ
ท่องเทีย
่ วของข้าพเจ้าคือ______________
ึ ษา พลศก
ึ ษา
สมาคมสุขศก
ั
และสนทนาการแห่
งประเทศไทย