ระบบมัลติโปรแกรมมิ่ง (Multiprogramming System) Memory Layout for a Simple Batch System 1
Download ReportTranscript ระบบมัลติโปรแกรมมิ่ง (Multiprogramming System) Memory Layout for a Simple Batch System 1
ระบบมัลติโปรแกรมมิ่ง (Multiprogramming System) Memory Layout for a Simple Batch System Multiprogrammed Batch Systems 1 ระบบมัลติโปรแกรมมิ่ง (Multiprogramming System) • หมายถึงระบบที่เครื่ องคอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลได้ มากกว่า 1 งานพร้อม ๆ กัน • ดังนั้นผูใ้ ช้เครื่ องคอมพิวเตอร์กส็ ามารถที่จะทางานพร้อม ๆ กันได้ โดยไม่ตอ้ งรอ • แต่อย่างไรก็ตามเทคนิคที่ใช้ในระยะแรกก็เป็ นแบบ Multiprogrammed Batch Systems คือหน่วยประมวลผลก็จะยัง ทางานทีละงานเรี ยงกันไป • CPU จะประมวลผลเฉพาะงานที่บรรจุอยูใ่ นหน่วยความจาเท่านั้น 2 ระบบแบ่ งเวลา (Time-Sharing System) • หมายถึงระบบมัลติโปรแกรมมิ่งที่มีการแบ่งเวลาการทางานให้กบั งานแต่ ละงาน • โดยที่แต่ละงานจะมีการสลับเข้า/ออกระหว่างหน่วยความจากับดิสก์ • สาเหตุที่งานจะต้องถูกสลับออกไปเก็บไว้ที่ดิสก์ – งานนั้นจาเป็ นต้องติดต่อกับอุปกรณ์ภายนอก ซึ่ งไม่จาเป็ นต้องใช้ CPU – งานนั้นหมดเวลาในการครอบครอง CPU • OS จะต้องควบคุมการจัดเวลา CPU, ควบคุมการนางานเข้า/ออกจาก หน่วยความจา 3 ระบบมัลติโปรเซสเซอร์ (Multiprocessor System) • ระบบส่ วนมากจะใช้ CPU เพียงตัวเดียว แต่สาหรับระบบมัลติ โปรเซสเซอร์หมายถึงระบบที่มีการใช้ CPU มากกว่า 1 ตัว • ข้อดี – เพิ่มประสิ ทธิภาพของเอาต์พตุ – ประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเปรี ยบเทียบกับระบบ CPU เดี่ยวหลายระบบ – เพิม่ ความน่าเชื่อถือของระบบ • OS จะมีความซับซ้อนมากกว่าระบบมัลติโปรแกรมมิ่งแบบ CPU 1 ตัว 4 ระบบแบบกระจาย (Distributed System) • หมายถึงระบบที่มีการนาเครื่ องคอมพิวเตอร์มาต่อกันเป็ นเครื อข่าย แล้วกระจายการทางานในแต่ละงานไปให้กบั เครื่ องคอมพิวเตอร์ที่ อยูใ่ นเครื อข่ายร่ วมกันประมวลผล • ตัวอย่างระบบแบบกระจาย – ระบบ Peer-to-Peer – ระบบ Client-Server 5 ระบบ Peer-to-Peer • เป็ นระบบแบบกระจาย โดยมีเครื่ องคอมพิวเตอร์ต่อเชื่อมอยูบ่ น เครื อข่าย โดยที่เครื่ องคอมพิวเตอร์ทุกตัวสามารถกาหนดการเชื่อมต่อ เองได้โดยไม่ตอ้ งมีตวั กลางทาหน้าที่ควบคุม เครื่ อง 1 เครื่ อง 2 เครื่ อง 3 เครื่ อง 4 6 ระบบ Client-Server • เป็ นระบบแบบกระจาย โดยมีเครื่ องคอมพิวเตอร์ 2 แบบ – เครื่ องคอมพิวเตอร์ที่ทาหน้าที่ให้บริ การ (Server) – เครื่ องคอมพิวเตอร์ที่ทาหน้าที่ขอรับบริ การ (Client) – ระหว่างเครื่ อง Server และ Client ต้องมีการต่อเชื่อมกันอยูบ่ นเครื อข่าย 7 เหตุผลในการสร้ างระบบแบบกระจาย • เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรร่ วมกัน เช่น เครื่ องพิมพ์ ไฟล์ขอ้ มูล ดิสก์ และอุปกรณ์อื่น ๆ (Share Resource) • เพื่อเพิ่มความเร็ วในการประมวลผล (Speed) • เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของระบบ (Reliablity) • เพื่อการติดต่อแลกเปลี่ยนข่าวสาร (Communication) 8 ระบบงานแบตซ์ • คอมพิวเตอร์จะทางานได้ครั้งละ 1 งาน • การสัง่ งานคอมพิวเตอร์ทาได้โดยการรวมงานที่ คล้ายกันเป็ นกลุ่ม แล้วส่ งให้เครื่ องคอมพิวเตอร์ ประมวลผล • โดยจัดเรี ยงตามความสาคัญและตามลักษณะของ โปรแกรมจัดเป็ นกลุ่มงานแล้วส่ งให้คอมพิวเตอร์ ประมวลผล 9 ระบบบัฟเฟอร์ • การทางานเพื่อขยายขีดความสามารถของระบบ ทาให้หน่วย รับ – แสดงผลสามารถทางานไปพร้อม ๆ กันกับการ ประมวลผลของ CPU • ในขณะที่ประมวลผลคาสัง่ ที่ถูกโหลดเข้าซี พียนู ้ นั จะมีการ โหลดข้อมูลเข้าไปเก็บในหน่วยความจาก่อน เมื่อถึงเวลา ประมวลผลจะสามารถทางานได้ทนั ที และโหลดข้อมูล ต่อไปเข้ามาแทนที่ • หน่วยความจาที่ทาหน้าที่เก็บข้อมูลที่เตรี ยมพร้อมนี้เรี ยกว่า 10 บัฟเฟอร์ (Buffer) ระบบสพูลลิง่ • เป็ นมัลติโปรแกรมมิ่งพื้นฐาน ทาให้ซีพียทู างานเต็ม ประสิ ทธิภาพ เพราะทาให้สามารถทางานได้ 2 งานพร้อมกัน • งานแรกคือประมวลผลในส่ วนของซีพียู • งานที่สองคือการรับ – แสดงผลข้อมูล • ซึ่งต่างกับ buffer ที่ซีพียู และหน่วยรับ – แสดงผลทางาน ร่ วมกัน • ส่ วนสพูลลิ่งสามารถเลือกการประมวลผลตามลาดับ 11 ก่อนหลังได้ โดยคานึงถึง priority เป็ นสาคัญ ระบบเรียลไทม์ • ระบบเวลาจริ ง หมายถึง การตอบสนองทันที เช่น ระบบ ควบคุมโรงงานอุตสาหกรรม ระบบแขนกล ระบบภาพทาง การแพทย์ ระบบหัวฉี ดในรถยนต์ • Real – time แบ่งได้ 2 ระบบ • Hard real – time system เป็ นระบบที่ถูกรับรองว่าจะได้รับ การตอบสนองตรงเวลา และหยุดรอไม่ได้ • Soft real – time system เป็ นระบบที่สามารถรอให้งานอื่นทา ให้เสร็ จก่อนได้ 12 ระบบคู่ขนาน • คือ ระบบมัลติโปรเซสเซอร์ ที่มีซีพียมู ากกว่า 1 ตัว ในการ ติดต่อสื่ อสาร และมีการแชร์เมโมรี ในการติดต่อสื่ อสารจะ ผ่านทางช่องติดต่อ(ส่ งข้อมูล) • เช่น ถ้ามีโปรเซสเซอร์ 10 ตัว แล้วเสี ยไป 1 ตัว ที่เหลือก็ยงั คง ทางานได้ แต่อาจช้าลงหน่อย สิ่ งนี้เป็ นการช่วยระดับของ ความอยูร่ อดของฮาร์ดแวร์ 13