Chapter 5 การประเมินผลโครงการ

Download Report

Transcript Chapter 5 การประเมินผลโครงการ

CHAPTER 5
PROJECT EVALUATION
การประเมินผลโครงการ
1
ความหมาย

การประเมิ น ผลโครงการ หมายถึ ง กระบวนการที่มุ งแสวงหา
คําตอบว่านโยบาย/แผนงาน/โครงการบรรลุตามวัตถุประสงค และเป า
หมายทีก่ าํ หนดไว หรือไม เพียงใด โดยมีมาตรฐานและเครื่องมือในการ
วัดทีเ่ ทีย่ งตรงและเชือ่ ถือได
2
แนวความคิดของการประเมิน
หมายถึง การวัด เน้นความเป็ นปรนัย/ความถูกต้องทีเ่ ป็ น
จริ ง ความเที่ย งตรงของการวัด มาตรฐานของเครื่ อ งมื อ ที่ใ ช้ว ดั การ
วิเคราะห์เชิงปริมาณจากคะแนนที่วดั ได้ การค้นหาเกณฑ์มาตรฐานเพื่ อ
นํามาใช้เปรียบเทียบกับผลการดําเนินงานโครงการสําหรับการตัด สินและ
การวินิจฉัยคุณค่า
 การประเมินเป็ นการวิจยั กล่าวคือการประเมินเป็ นการประยุกต์ใช้ระเบียบ
วิธี วิจ ยั ทางด้า นสัง คมศาสตร์ เพื่ อ นํา ผลการวิจ ยั มาตัด สิน และพัฒ นา
โครงการทางด้านการวางแผนให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมถึ ง
ศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงทีเ่ กิดจากการนําโครงการไปปฏิบตั ิ
 การประเมิน
3
แนวความคิดของการประเมิน (ต่อ)
 การประเมินเป็ นการตรวจสอบและการติดตามผลงานทีไ่ ด้ประเมินแล้ว
เพื่อดูวา่ เป็ นไปตามมาตรฐานหรือไม่ โดยมีกระบวนการและเทคนิควิธี
สําหรับอ้างอิงผลการประเมินอย่างเป็ นระบบ
4
จุดมุ งหมายของการประเมินผลโครงการ
 เพื่อสนับสนุนหรือยกเลิก
 เพื่อทราบถึงความก้าวหน้าของการปฏิบต
ั งิ านตามโครงการ
 เพื่อปรับปรุงงาน
 เพื่อศึกษาทางเลือก
 เพื่อขยายผล
5
องค์ประกอบในการประเมินผล
 งาน
หรือสิง่ ทีจ่ ะวัด
 วัตถุประสงค์ของสิง่ ทีจ่ ะวัด และประเมิน
 กฎเกณฑ์หรือมาตรฐานของการวัดและการประเมิน
 วิธีการวัด
 การเปรียบเทียบผลทีว่ ดั ได้
6
ผลการเปรียบเทียบ
1.
ผลทีค่ าดหวังและปรารถนาให้เกิด
(EXPECTED AND DESIRED RESULT)
2. ผลทีค่ าดหวังและไม่พึงปรารถนา
(EXPECTED AND UNDESIRED RESULT)
3. ผลทีไ่ ม่คาดหวังว่าจะเกิดและน่าพึงปรารถนา
(UNEXPECTED AND DESIRED RESULT)
4. ผลทีไ่ ม่คาดหวังว่าจะเกิดและไม่พึงปรารถนา
(UNEXPECTED AND UNDESIRED
RESULT)
7
ขอบเขตความต้องการในการประเมินผล
 SYSTEM
ASSESSMENT AREA เป็ นการพยากรณ์ความ
ต้องการ (DEMAND PROJECTION) คือศึกษาขอบเขต
ความต้องการเกี่ยวกับโครงการว่าสภาพการทีเ่ ป็ นปั ญหาอยูน่ นั้ มีเหตุผลที่
เชือ่ ถือได้เพียงใดว่าต้องการโครงการหนึ่งโครงการใดเพื่อการเปลี่ยนแปลง
 PROGRAM PLANNING AREA เป็ นการหาข้อมูลเพื่อ
วิเคราะห์ให้ผมู ้ ีอาํ นาจตัดสินใจได้พิจารณาทางเลือกต่างๆว่าควรเลือกจัดทํา
โครงการใด
8
ขอบเขตความต้องการในการประเมินผล (ต่อ)
 PROGRAM IMPLEMENTATION
AREA เป็ นขอบเขต
ความต้องการเพื่อการดําเนินงานตามแผน กล่าวคือ ขณะปฏิบตั ิตามแผน การ
ประเมินผลจะช่วยชี้แนะข้อบกพร่องของการดําเนินงานได้
 PROGRAM IMPROVEMENT AREA เป็ นขอบเขตความ
ต้อ งการเพื่ อ ปรับ ปรุ ง แผน กล่ า วคื อ ขณะที่ ป ฏิ บ ัติ ง านอยู่ อ าจมี ก าร
เปลี่ยนแปลงสิ่งหนึ่งสิ่งใด การประเมินผลจะชี้ให้เห็นและช่วยให้ผูเ้ กี่ยวข้องได้
ปรับปรุงแผนงานให้ตรงกับสถานการณ์อยูต่ ลอดเวลา
9
ขอบเขตความต้องการในการประเมินผล (ต่อ)
 PROGRAM
CERTIFICATION AREA เป็ นขอบเขต
ความต้อ งการประเมิ น ผลเมื่ อ โครงการแล้ว เสร็ จ เพื่ อ ดู ถึ ง ผลงาน
เปรียบเทียบกับวัตถุประสงค์วา่ ประสบผลสําเร็จ หรือมีปัญหาอุ ปสรรค์ และ
ข้อบกพร่องหรือไม่อย่างไร ซึง่ จะเป็ นประโยชน์ตอ่ การพิจารณาโครงการ และ
สถานการณ์ทใี่ กล้เคียงกันในโอกาสต่อไป
10
พัฒนาการของการประเมินผล
 EFFORT
EVALUATION เป็ นการประเมินดู INPUT
ของโครงการ เช่นดูว่าโครงการนี้ ใช้ คน เงิ น วัสดุ ตลอดจนเวลาในการ
ปฏิบตั งิ านมากน้อยเพียงใด เมื่อเปรียบเทียบกับโครงการอืน่ ๆ
 PERFORMANCE
EVALUATION เป็ นการศึกษาดู
ผลผลิตของโครงการ หรือดูผลลัพธ์ของ EFFORT ทีใ่ ช้ไป
 ADEQUACY OF PERFORMANCE เป็ นการวัดผล
สัมฤทธิ์ตามเป้ าหมายของโครงการ คือดูว่าผลผลิตที่ได้จากโครงการนัน้
สามารถตอบสนองความต้องการ หรือบรรลุวตั ถุประสงค์มากน้อยเพียงใด
11
พัฒนาการของการประเมินผล (ต่อ)
 EFFICIENCY
EVALUATION เป็ นการประเมินเพื่อดู
ประสิ ท ธิ ภ าพในการปฏิ บ ัติ ง านของโครงการ ซึ่ ง อาจออกมาในรู ป ของ
BENEFIT-COST RATIO เป็ นต้น
 PROCESS EVALUATION เป็ นการวิเคราะห์กระบวนการ
ปฏิบตั ิงานของโครงการ และคุณสมบัติของตัวโครงการเพื่อแยกแยะให้เห็น
สาเหตุของความสําเร็จหรือความล้มเหลวของโครงการ และจะต้องศึกษา
ความเหมาะสมในด้านสถานที่ และเวลารวมถึงวิเคราะห์ให้เห็นผลกระทบของ
โครงการในด้านต่างๆด้วย เพื่อปรับปรุงการปฏิบตั งิ านให้เหมาะสมยิง่ ขึ้น
12
เกณฑ์สาหรับพิจารณาในการประเมินผล
เ ก ณ ฑ์ พิ จ า ร ณ า ก า ร วั ด ค ว า ม สํ า เ ร็ จ ด้ า น เ ป้ า ห ม า ย ( TARGET
ACHIEVEMENT ) พิจารณาในประเด็นต่างๆดังนี้
 ผลงาน (PRODUCT) ทีเ่ สร็จแล้วของโครงการ
่ รู ้ บั บริการใช้เนื่องจากโครงการนัน้
 กิจกรรม (ACTIVITY) ทีผ
 การให้ประโยชน์ของโครงการ
 ผลผลิตทีใ่ ห้เปรียบเทียบกับปั จจัยการผลิต
 ประสิทธิผลของโครงการ
13
เกณฑ์สาหรับพิจารณาในการประเมินผล (ต่อ)
เ ก ณ ฑ์ พิ จ า ร ณ า ด้ า น เ ศ ร ษ ฐ กิ จ (ECONOMIC
JUSTIFICATION)
เป็ นการพิจารณาดูว่าโครงการนัน้ มีส่วน
เสริมสร้างให้เศรษฐกิจของสังคม ชุมชน หรือประเทศดีข้ ึนหรือไม่ เพียงใด โดย
อาจพิจารณาจากกิจกรรมเศรษฐกิจ 5 ด้าน
 การเพิ่มผลผลิต
 การบริโภคมากขึ้น
 การแจกจ่ายทัว่ ถึง
 สร้างความเป็ นตัวของตัวเองทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ
 ส่งเสริมสิทธิ์และตอบสนองความต้องการของประชาชน
14
เกณฑ์สาหรับพิจารณาในการประเมินผล (ต่อ)
การวิเคราะห์ทางด้านการเงิน (FINANCIAL ANALYSIS) เป็ น
การวิเคราะห์วา่ โครงการได้ใช้จา่ ยเงินไปคุม้ กับผลประโยชน์ทไี่ ด้หรือไม่
 แหล่งเงิน
 COST-BENEFIT ANALYSIS วิเคราะห์ผลประโยชน์
ของโครงการเทียบกับเงินทีจ่ า่ ยไป
 COST EFFECTIVENESS เป็ นการวิเคราะห์ถึงการใช้
เงินให้ได้รบั ประโยชน์สูงสุด
 บัญชีการใช้จา่ ยเงิน
่ๆ
 ปั ญหาด้านการเงินอืน
15
เกณฑ์สาหรับพิจารณาในการประเมินผล (ต่อ)
เ ก ณ ฑ์ ก า ร พิ จ า ร ณ า ท า ง ด้ า น เ ท ค นิ ค (TECHNICAL
SOUNDNESS) เป็ นการประเมินดูเทคนิคการดําเนินงานโครงการว่า
ถูกต้องหรือไม่ ผลของงานมีลกั ษณะตรงตามกําหนดไว้หรือไม่
 พิจารณาด้าน SPECIFICATION ของผลงานว่าได้ผลงานตามที่
กําหนดไว้หรือไม่
 พิจารณาด้านคุณภาพของงาน
16
เกณฑ์สาหรับพิจารณาในการประเมินผล (ต่อ)
เ ก ณ ฑ์ พิ จ า ร ณ า ด้ า น ก า ร บ ริ ห า ร (MANAGEMENT
CAPABILITY) พิจารณาถึงกระบวนการบริหารว่าโครงการนัน้ ได้มี
ระบบการบริหารที่เกื้อกูล หรือเป็ นอุปสรรคต่อความสําเร็จของโครงการมาก
น้อยเพียงใด
 การวางแผน
 การร่วมมือประสานงาน
 การงบประมาณ
 การควบคุมและติดตามผล
 ประสิทธิภาพและการประหยัด
 การบริหารงานบุคคล การสร้างขวัญ และกําลังใจในการปฏิบต
ั งิ าน
17
 การจัดองค์การ
ประเภทของการประเมินผล

การประเมินแบบซิป (CIPP EVALUATION)
แบบจําลองของ สตัฟเฟิ ลบีม (STUFFLEBEAM)
18
การประเมินแบบซิป
CIPP ย่อมาจาก
 CONTEXT EVALUATION
 INPUT EVALUATION
 PROCESS EVALUATION
 PRODUCT EVALUATION
การประเมินสภาวะแวดล้อม
การประเมินปั จจัยนําเข้า
การประเมินกระบวนการ
การประเมินผลผลิต
การประเมินผลแบบซิป หมายถึง เป็ นกระบวนการของการวิเคราะห์
เพื่อให้ได้มาซึง่ ข้อมูลทีเ่ ป็ นประโยชน์ตอ่ การตัดสินใจในทางเลือกต่างๆ ทีม่ ีอยู่
19
การประเมินแบบซิป
การประเมินสภาพแวดล้อม (CONTEXT EVALUATION )
 เป็ นการศึ ก ษาปั จ จัย พื้ น ฐานที่ นํา ไปสู่ก ารพัฒ นาเป้ าหมายของโครงการ
ได้แก่ บริบทของสภาพแวดล้อม นโยบาย วิสยั ทัศน์ ปั ญหา แหล่ งทุน
สภาพความผันผวนทางด้านสังคม เศรษฐกิ จ และการเมือ ง ตลอดจน
แนวโน้มการก่อตัวของปั ญหาที่อาจจะเป็ นอุปสรรคต่อการดําเนินโครงการ
เป็ นต้น

หรือเป็ นการประเมินก่อนการดําเนินการโครงการ เพื่อพิจารณาหลักการและ
เหตุ ผ ล ความจํา เป็ นที่ ต อ้ งดํา เนิ น โครงการ ประเด็ น ปั ญ หา และความ
เหมาะสมของเป้ าหมายโครงการ เช่น โครงการอาหารเสริมแก่เด็กวัยก่อน
เรียน เราจะต้องวัดส่วนสูง และชัง่ นํา้ หนัก ตลอดจน ดู หิด เหา กลากเกลื้อน
ของเด็กก่อน
20
การประเมินแบบซิป
บริบท/สภาวะแวดล้อม (CONTEXT EVALUATION)
เหตุผล
กําหนดวัตถุประสงค์ของโครงการ
ความสัมพันธ์ทเี่ กี่ยวกับสภาพแวดล้อม
ความต้องการและเงื่อนไขทีเ่ ป็ นจริง
21
การประเมินแบบซิป
Contingency Mode
สิ่ งที่อาจจะเกิดขึ้น
บริบท/สภาวะแวดล้ อม (Context Evaluation)
Congruence Mode
เหมาะสม, ตรงกัน
หาโอกาสและแรกผลักดันจาก
ภายนอกระบบ
เปรียบเทียบระหว่ าง
ปฏิบตั ิจริงกับวัตถุประสงค์
ประโยชน์ ของการวางแผน
โครงการในอนาคต
วัตถุประสงค์ ใดบ้ างทีไ่ ม่ บรรลุ
วัตถุประสงค์
เพือ่ การปรับปรุง
ตรวจสอบความถูกต้ อง
22
การประเมินแบบซิป
(INPUT
EVALUATION) เพื่ อค้นหา
ประสิทธิภาพขององค์ประกอบที่นํามาเป็ นปั จจัยนําเข้า ซึ่งในด้านการท่องเที่ยว
อาจจะจําแนกเป็ นบุ คคล สิ่งอํานวยความสะดวก เครื่องมือ อุปกรณ์ ครุภณ
ั ฑ์
ศักยภาพการบริหารงาน ซึ่งแต่ละปั จจัยก็ยงั จําแนกย่อยออกไปอีก เช่น บุ คคล
อาจพิจารณาเป็ น เพศ อายุ มีสถานภาพทางสังคมและเศรษฐกิจ ความพึง พอใจ
ความคาดหวัง ทัศ นคติ ศักยภาพ ความสามารถ ประสบการณ์ ความรู ้
คุณวุฒทิ างการศึกษา ถิ่นทีอ่ ยูแ่ ละลักษณะกระบวนการกลุม่ เป็นต้น
 การประเมินปั จจัยนําเข้า
23
การประเมินแบบซิป
ปั จจัยนําเข้า (INPUT EVALUATION)
1. ความสามารถของหน่วยงานหรือตัวแทนในการจัดโครงการ
2. ยุทธวิธีทใ่ี ช้ในการบรรลุวตั ถุประสงค์ของโครงการ
3. การได้รบั ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ
24
การประเมินแบบซิป
(PROCESS EVALUATION)
เป็ นการศึกษาต่อจากการประเมินบริบทและปั จจัยป้ อนว่า กระบวนการ
เป็ นไปตามแผนทีว่ างไว้ เป็ นการศึกษาค้นหาข้อบกพร่อง จุดอ่อน หรือ
จุด แข็ ง ของกระบวนการบริหารจัด การโครงการที่จะนําโครงการบรรลุ
วัตถุประสงค์ทวี่ างไว้วา่ มีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
 การประเมินกระบวนการ
25
การประเมินแบบซิป
กระบวนการ (PROCESS EVALUATION)
1. เพื่อหาและทํานายข้อบกพร่องของกระบวนการหรือการดําเนินการตาม
ขัน้ ตอนทีว่ างไว้
2. เพื่อรวบรวมสารสนเทศสําหรับผูต้ ดั สินใจวางแผนงาน
3. เพื่อเป็ นรายงานสะสมถึงการปฏิบตั ติ า่ งๆ ทีเ่ กิดขึ้น
26
การประเมินแบบซิป
(PRODUCT EVALUATION) เป็ นการ
ตรวจสอบประสิทธิผลของโครงการ โดยเฉพาะความสอดคล้องระหว่าง
วัตถุประสงค์กบั ผลลัพธ์ที่ได้แล้วนําเกณฑ์ที่กาํ หนดไว้ไปตัดสิน
เกณฑ์
มาตรฐานนัน้ อาจจะกําหนดขึ้นเองหรืออาศัยเกณฑ์ทบี่ ุคคลหรือหน่วยงานอืน่
กําหนดไว้ก็ได้
 การประเมินผลิตผล
27
การประเมินแบบซิป
ผลผลิต (PRODUCT EVALUATION)

เพื่อวัดและแปลความหมายของความสําเร็จ

บรรลุวตั ถุประสงค์ไปแล้วหรือกําลังจะบรรลุ
28
การประเมินแบบซิป
29
การประเมินแบบซิป
เกณฑ์ และตัวชี้วดั ความสาเร็จ
การประเมินผลโครงการนัน้ ต้องมีเกณฑ์และตัวชี้วดั
(INDICATOR) ระดับความสําเร็จของโครงการให้ทราบ ซึง่ โดยทัว่ ไปแล้ว
เกณฑ์ทใี่ ช้ในการประเมินผลโครงการมีดงั นี้
1. บรรลุ เกณฑ์ประสิทธิภาพ (EFFICIENCY) มีตวั ชี้วดั เช่น
สัดส่วนของผลผลิตต่อค่าใช้จา่ ย ผลิตภาพต่อหน่วยเวลา ผลิ ตภาพต่อ
กําลังคน ระยะเวลาในการให้บริการผูป้ ่ วย
30
การประเมินแบบซิป
1. เกณฑ์และตัวชี้วดั ความสําเร็จ (ต่อ)
1. เกณฑ์ประสิทธิผล (EFFECTIVENESS) มีตวั ชี้วดั เช่น ระดับการ
บรรลุ เ ป้ าหมาย ระดับการบรรลุ ตามเกณฑ์มาตรฐาน ระดับการมีส่วนร่ว ม
ระดับความเสีย่ งของโครงการ
2. เกณฑ์ความพอเพียง (ADEQUACY) มีตวั ชี้วดั เช่น ระดับความพอเพียง
ของทรัพยากร
3. เกณฑ์ความพึงพอใจ (SATISFACTION) มีตวั ชี้วดั เช่น ระดับความ
พึงพอใจ
4. เกณฑ์ความเป็ นธรรม (EQUITY)
มีตวั ชี้วดั คือ การให้โอกาสกับ
31
ผูด้ อ้ ยโอกาส ความเป็ นธรรมระหว่างเพศ ระหว่างกลุม่ อาชีพ ฯลฯ
การประเมินแบบซิป
เกณฑ์ และตัวชี้วดั ความสาเร็จ (ต่ อ)
6. เกณฑ์ความก้าวหน้า (PROGRESS) มีตวั ชี้วดั เช่น ผลผลิตเปรียบเทียบกับ
เป้ าหมายรวมกิจกรรมทีท่ าํ แล้วเสร็จ ทรัพยากร และเวลาทีใ่ ช้ไป
7. เกณฑ์ความยัง่ ยืน ( SUSTAINABILITY ) ตัวชี้วดั เช่น ความอยู่รอด
ของโครงการด้านเศรษฐกิจสมรรถนะด้านสถาบัน ความเป็ นไปได้ในด้านการขยาย
ผลของโครงการ
8. เกณฑ์ความเสียหายของโครงการ ( EXTERNALITIES ) มีตวั ชี้วดั เช่น
ผลกระทบด้านสิง่ แวดล้อม ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ผลกระทบด้านสังคมและ 32
วัฒนธรรม เป็ นต้น
การประเมินแบบซิป
เกณฑ์และตัวชี้วดั ความสาเร็จ (ต่อ)
ตัวชี้วดั (INDICATORS) ความสําเร็จของโครงการหมายถึง ข้อความ
ทีแ่ สดงหรือระบุประเด็นทีต่ อ้ งการจะวัดหรือประเมิน หรือตัวแปรทีต่ อ้ งการจะศึกษา โดย
จะมีการระบุลกั ษณะทีค่ อ่ นข้างเป็นรูปธรรม ทัง้ ส่วนทีม่ ีลกั ษณะเชิงปริมาณ และส่วนที่
แสดงลักษณะเชิงคุณภาพ
33
การประเมินแบบซิป
หลักการสร้ างตัวชี้วดั ทีด่ ี
ในการสร้างตัวชี้วดั ทีด่ ี จําเป็นจะต้องมีหลักการทีใ่ ช้เป็นเป้ าหมายในการ
ดําเนินการดังนี้
1. เลือกใช้ / สร้างตัวชี้วดั ทีเ่ ป็นตัวแทนทีส่ าํ คัญเท่านัน้
2. คําอธิบาย หรือการกําหนดตัวชี้วดั ควรเป็นวลีทมี่ ีความชัดเจน
3. ตัวชี้วดั อาจจะกําหนดได้ทงั้ เชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพก็ได้
4. ควรนําจุดประสงค์ของโครงการ หรือประเด็นการประเมินมากําหนดตัวชี้วดั
5. การเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วดั ควรรวบรวมข้อมูลทัง้ จากแหล่งปฐม34
ภูมิ และทุติยภูมิ
การประเมินแบบซิป
ยกตัวอย่ างตัวชี้วดั ตามลักษณะของสิ่ งทีไ่ ด้ รับการประเมิน
ตัวชี้วดั ด้านบริบท ( CONTEXT ) : ตัวชี้วดั สามารพิจารณาได้ดงั นี้
1. สภาวะแวดล้อมก่อนมีโครงการ (ปั ญหาวิกฤต)
2. ความจําเป็ น หรือความต้องการขณะนัน้ และอนาคต
3. ความเข้าใจร่วมกันของทุกฝ่ ายทีเ่ กี่ยวข้องกับโครงการ
35
การประเมินแบบซิป
ยกตัวอย่ างตัวชี้วดั ตามลักษณะของสิ่ งทีไ่ ด้ รับการประเมิน (ต่ อ)
ตัวชี้วดั ด้านปั จจัยนําเข้า ( INPUT ) : ตัวชี้วดั สามารถพิจารณาได้ดงั นี้
1. ความชัดเจนของวัตถุประสงค์ของโครงการ
2. ความพร้อมของทรัพยากร เช่น งบประมาณ คน วัสดุอุปกรณ์ เวลา กฎระเบียบ
3. ความเหมาะสมของขัน้ ตอนระหว่างปั ญหา สาเหตุของปั ญหา และกิจกรรม
36
การประเมินแบบซิป
ยกตัวอย่ างตัวชี้วดั ตามลักษณะของสิ่ งทีไ่ ด้ รับการประเมิน (ต่ อ)
1.
2.
3.
4.
ตัวชี้วดั ด้านกระบวนการ ( PROCESS ) : ตัวชี้วดั สามารถพิจารณาได้ดงั นี้
การตรวจสอบกิจกรรม เวลา และทรัพยากรของโครงการ
ความยอมรับของประชาชนและหน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้องกับโครงการในพื้นที่
การมีสว่ นร่วมของประชาชน และหน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้องกับโครงการ
ภาวะผูน้ าํ ในโครงการ
37
การประเมินแบบซิป
ยกตัวอย่ างตัวชี้วดั ตามลักษณะของสิ่ งทีไ่ ด้ รับการประเมิน (ต่ อ)
ตัวชี้วดั ด้านผลผลิต ( PRODUCT ) : ตัวชี้วดั สามารถพิจารณาได้ดงั นี้
1. อัตราการมีงานทําของประชาชนทีย่ ากจน
2. รายได้ของประชาชนทีเ่ ข้าร่วมโครงการ
3. ความพึงพอใจของประชาชนทีเ่ ข้าร่วมโครงการ
38
การประเมินแบบซิป
ยกตัวอย่ างตัวชี้วดั ตามลักษณะของสิ่ งทีไ่ ด้ รับการประเมิน (ต่ อ)
ตัวชี้วดั ด้านผลลัพธ์ ( OUTCOMES ) : ตัวชี้วดั สามารถพิจารณาได้ดงั นี้
1. คุณภาพชีวติ ของตนเอง และครอบครัวตามเกณฑ์มาตรฐาน
2. การไม่อพยพย้ายถิ่น
3. การมีสว่ นร่วมในการพัฒนาชุมชน
39
การประเมินแบบซิป
ยกตัวอย่ างตัวชี้วดั ตามลักษณะของสิ่ งทีไ่ ด้ รับการประเมิน (ต่ อ)
ตัวชี้วดั ด้านผลกระทบ( IMPACT ) : ตัวชี้วดั สามารถพิจารณาได้ดงั นี้
1. ผลกระทบทางบวก / เป็นผลทีค่ าดหวังจากการมีโครงการ
2. ผลกระทบทางลบ / เป็นผลทีไ่ ม่คาดหวังจากโครงการ
40
การประเมินแบบซิป
ยกตัวอย่ างตัวชี้วดั ตามลักษณะของสิ่ งทีไ่ ด้ รับการประเมิน (ต่ อ)
เกณฑ์ และตัวชี้วดั ดังกล่าวนี้ สามารถใช้เป็นเครือ่ งมือในการประเมินผลโครงการ
ได้ดี ซึง่ จะครอบคลุม มิตดิ า้ นเศรษฐกิจ สังคม ด้านบริหารจัดการ ด้านทรัพยากร และด้าน
สิง่ แวดล้อม เป็นต้น
นอกจากนัน้ ยังสามารถวัดถึงความสําเร็จ และความล้มเหลวของโครงการพัฒนา
ต่างๆ ของรัฐได้ ซึง่ ในทางปฏิบตั นิ กั ประเมินผล จะต้องนําเกณฑ์ และตัวชี้วดั ดังกล่าวมาปรับ
ใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะ และบริบทของโครงการ
41
การประเมินแบบซิป (CIPP MODEL)
ตัวอย่ างการประเมินโครงการโดยใช้
CIPP MODEL
การประเมินหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทาง
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
42
การประเมินแบบซิป (CIPP MODEL)
วัตถุประสงค์ของการประเมิน
 เพื่อวิเคราะห์และประเมินหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทาง ซึง่ เป็ นหลักสูตร
การศึกษาอบรมระยะสัน้ ของคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
กลุ่มตัวอย่างของการประเมิน
กลุม่ ตัวอย่างของการประเมินแบ่งได้เป็ น 2 ตอน คือ
ตอนที่ 1 กลุม่ ตัวอย่างสําหรับการประเมินหลักสูตรปี การศึกษา 2523 ได้แก่
ผูเ้ กี่ยวข้องกับหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทาง ปี การศึกษา 2523 ทัง้ หมด
ตอนที่ 2 ติดตามผลการปฏิบตั งิ านของผูส้ าํ เร็จการอบรมทุกรุน่ กลุม่ ตัวอย่าง
43
คือ ผูส้ าํ เร็จการอบรมทุกรุน่ และผูบ้ งั คับบัญชา
การประเมินแบบซิป (CIPP MODEL)
เครือ่ งมือที่ใช้ในการประเมิน
เครือ่ งมือทีใ่ ช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม ซึง่ แบ่งออกเป็ น 5 ส่วน
ดังนี้
ส่วนที่ 1 แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว และความคิดเห็นทัว่ ไปของผูส้ าํ เร็จ
การอบรมทัง้ ก่อนเข้ารับการอบรม และภายหลังสําเร็จการอบรมแล้ว
ส่วนที่ 2 แบบสอบถามเพื่อประเมินการบริหารและการจัดดําเนินหลักสูตร
ส่วนที่ 3 แบบสอบถามเพื่อประเมินเนื้อหาวิชาของหลักสูตร
ส่วนที่ 4 แบบประเมินความสามารถในการปฏิบตั กิ ารพยาบาลเฉพาะทาง 44
ส่วนที่ 5 แบบสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการสอน
การประเมินแบบซิป (CIPP MODEL)
วิธีการประเมิน
ในการประเมินผลนี้ ได้ใช้โมเดล ซิป (CIPP MODEL) เป็ นรูปแบบใน
การกําหนดโครงสร้างการประเมิน ดังแผนภูมิตอ่ ไปนี้
การประเมินสภาวะแวดล้อม
การประเมินวัตถุประสงค์ของ
หลักสู ตร
การประเมินเนื้อหาสาระของ
หลักสู ตร
การประเมินปัจจัยเบื้องต้น
การประเมินปัจจัย
เบื้องต้นต่างๆของ
หลักสู ตร ได้แก่ ผูเ้ รี ยน
ผูส้ อน บุคลากร และ
ทรัพยากรอื่นๆ รวมทั้ง
แผนการดาเนินงาน
การประเมินกระบวนการ
การประเมินการจัดการ
บริ หารหลักสู ตร และ
กระบวนการเรี ยนการ
สอน
การประเมินผลผลิต
การประเมินสัมฤทธิผลทาง
การศึกษาของผูส้ าเร็จหลักสู ตร
การติดตามผลการปฏิบตั ิงาน
ของผูส้ าเร็จหลักสู ตร
45
การประเมินแบบซิป (CIPP MODEL)
การวิเคราะห์ขอ้ มูล
รวบรวมข้อมูลจากการวิเคราะห์เอกสาร
วิเคราะห์ขอ้ มูลทีไ่ ด้จากแบบสอบถามด้วยการแจกแจงความถี่
วิเคราะห์เนื้อเรือ่ ง
 คํานวณค่ามัชฌิมเลขคณิต ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และหาค่าสถิตทิ ขี อง
คะแนนทีไ่ ด้จากการทําแบบประเมินความสามารถในการปฏิบตั กิ ารพยาบาลของ
ผูส้ าํ เร็จการอบรม และผูบ้ งั คับบัญชาในส่วนทีเ่ ป็ นมาตราส่วนประเมินค่า
46
การประเมินแบบซิป (CIPP MODEL)
 ผลการประเมินสภาวะแวดล้อม พบว่า
1.
การประเมินวัตถุ ประสงค์ของหลักสูตร ในด้านลักษณะที่ ดีของ
วัตถุประสงค์ทางการศึกษา ซึง่ ควรประกอบด้วยลักษณะ 3 ประการ แต่จากการวิเคราะห์
หลัก สู ต ร พบว่ า ลัก ษณะของจุ ด มุ่ ง หมายทั่ว ไปของหลัก สู ต รมี ล ัก ษณะที่ ดี ข อง
จุดมุ่งหมายทางการศึกษาเพียง 2 ประการ คือ ในส่วนทีแ่ สดงถึงความสามารถ และส่วน
ของการเป็ นผูม้ คี วามรูท้ างวิชาการของผูส้ าเร็จหลักสูตร โดยทีม่ ิได้มีสว่ นใดแสดงออกให้
เห็นถึงทัศนคติทคี่ วรจะเป็ นของผูส้ าํ เร็จหลักสูตร แต่ก็มีความสอดคล้องและสัมพันธ์กนั
กับปรัชญาการศึกษาของคณะพยาบาลศาสตร์ ส่วนวัตถุประสงค์ของแต่ละสาขาวิชา เป็ น
วัตถุประสงค์ทชี่ ดั เจนและขยายความเกี่ยวกับจุดมุ่งหมายทัว่ ไปของหลักสูตรเป็ นอย่างดี
47
การประเมินแบบซิป (CIPP MODEL)
2. การประเมินเนื้อหาสาระของหลักสูตร พบว่า เนื้อหาวิชาในหลักสูตรมีความ
สอดคล้องกันกับวัตถุประสงค์เฉพาะสาขาของหลักสูตรและประสบการณ์ของผู ้
เข้ารับการอบรม เนื้อหาสาระทางวิชาการส่วนใหญ่มีความเหมาะสมกับ
หลักสูตร มีเพียงบางส่วนทีค่ วรปรับปรุงเพื่อลดความซํา้ ซ้อนของเนื้อหาวิชาที่
เกี่ยวข้องกัน
48
การประเมินแบบซิป (CIPP MODEL)
ผลการประเมินปั จจัยเบื้องต้น พบว่า
1.
การประเมินปั จจัยด้านผูเ้ ข้ารับการอบรม พบว่า หลักเกณฑ์
คุ ณ สมบัติ ข องผู ส้ มัค รเข้า รับ การอบรมที่ ห ลัก สู ต รกํา หนดไว้ เป็ น
หลักเกณฑ์คุณสมบัติที่จะทําให้เลือกผูม้ ีความเหมาะสมเข้ารับการอบรม
เป็ นอย่างดี
2. การประเมินปั จจัยด้านบุคลากร พบว่า ในหลักสูตรการพยาบาล
เฉพาะทางมีบุคลากรทัง้ ในด้านคณะกรรมการจัดดําเนินงานหลัก สูตรที่
เหมาะสม รวมทัง้ มีคณาจารย์ผูส้ อนเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญตรงต่อสาขาวิชาและ
มีความเข้าใจในจุดประสงค์ของหลักสูตร
49
การประเมินแบบซิป (CIPP MODEL)
ผลการประเมินปั จจัยเบื้องต้น (ต่อ) พบว่า
3. การประเมินปั จจัยด้านอุปกรณ์และสิง่ แวดล้อมประกอบการเรียน
การสอน พบว่าอุปกรณ์ตา่ งๆ มีเพียงพอ
4. การประเมินปั จจัยด้านการวางแผนการดําเนินงานตลอดหลักสูตร
พบว่า คณะกรรมการดําเนินงานหลักสูตรได้มีการวางแผนตลอดหลักสูตร
พบว่า คณะกรรมการดําเนินงานหลักสูตรได้มีการวางแผนการดําเนินงาน
ตลอดระยะเวลาการอบรมไว้อย่างมีระเบียบแบบแผน
50
การประเมินแบบซิป (CIPP MODEL)
ผลการประเมินกระบวนการ พบว่า
1. การจัดดําเนินงานตลอดหลักสูตรส่วนใหญ่เป็ นไปตามแผนทีก่ าํ หนดไว้
2. การประเมินด้านกระบวนการเรียนการสอนในทัศนะของผูเ้ ข้ารับการ
อบรมและผูส้ อน พบว่า
- ทัศนะของผูเ้ ข้ารับการอบรมในด้านกระบวนการเรียนการ
สอนและการจัดดําเนินหลักสูตรส่วนใหญ่อยูใ่ นระดับเป็ นทีพ่ อใจ
- ทัศนะของอาจารย์ผสู ้ อน พบว่า อาจารย์สว่ นใหญ่ยงั ใช้
วิธีการบรรยายในการสอน
51
การประเมินแบบซิป (CIPP MODEL)
ผลการประเมินผลิตผล พบว่า
ผูส้ าํ เร็จการอบรมในปี การศึกษา 2523 เป็ นผูม้ ีความรูท้ างวิชาการ การ
พยาบาลเฉพาะทางเป็ นอย่างดี และมีความสามารถมากในการปฏิบตั กิ ิจกรรม
การพยาบาลเฉพาะทางด้านต่างๆ เป็ นส่วนใหญ่
52