Transcript COPD
80 66.67 70 70.53 60 50 40 30 26.87 19.23 20 22.73 20 10 10.33 7.58 1.15 0 0 เม.ย.-ก.ย. 2555 Admit Re-admit ปี 2556 Re-visit 12 2.1 ปี 2557 Respiratory failure Definition of COPD Dyspnea (Progressive, not fully reversible airflow limitation) Chronic cough Chronic sputum production History of exposure to risk factors : tobacco smoke, smoke frome home cooking&heating fuels, occupationa dusts& chemicals โรคที่มีการอุดกั้นทางเดินหายใจที่ไม่สามารถทาให้กลับมาเป็ นปกติได้ มีอาการเหนื่อย ไอเรื้ อรัง มีเสมหะ โดยมีอาการเป็ นๆ หายๆ ปี ละอย่างน้อย 3 เดือน และเป็ นติดต่อกันอย่างน้อย 2 ปี Pathogenesis & Pathophysiology Noxious Gases Lung inflammation Oxidative stress Proteinases COPD pathology Small Airway Disease Parenchymal Destruction - Airway inflammation - Airway fibrosis, luminal plugs - Increased airway resistance -Loss of aveolar attachments -Decrease of elastic recoil Reversible airflow obstruction Irreversible airflow obstruction Diagnosing COPD มีประวัติเสี่ ยงต่อการเกิดโรค เช่น สูบบุหรี่ มีอาการไอ มีเสมหะ และ หอบเหนื่อย ตรวจสมรรถภาพปอดด้วย spirometry หลังได้ยาพ่นขยายหลอดลม แล้ว ค่า FEV1 / FVC < 0.7 • FEV1 (force expiratory volume in 1 second) คือ ปริ มาตรของลมที่เป่ าออกได้ในวินาทีแรก ของการหายใจออกอย่างเร็วและแรงเต็มที่ หน่วยเป็ นลิตร • FVC (force vital capacity) คือ ปริ มาตรของลมที่เป่ าออกได้ท้ งั หมดของการหายใจออกอย่าง รวดเร็ว และแรงเต็มที่ หน่วยเป็ นลิตร การตรวจสมรรถภาพปอด Spirometry Peak Flow meter (เครือ ่ งว ัดความเร็วสูงสุด) Management of COPD เป้าหมายของการรักษา บรรเทาอาการ โดยเฉพาอาการหอบเหนื่อย ทาให้ exercise tolerance ดีข้ ึน ทาให้คุณภาพชีวิตดีข้ ึน ป้ องกันหรื อชะลอการดาเนิ นโรค ป้ องกันและรักษาภาวะแทรกซ้อน ป้ องกันและรักษาภาวะอาการกาเริ บ ลดอัตราการเสี ยชีวิต REDUCE SYMPTOMS REDUCE RISK Assessment of COPD Assess Symptoms : COPD Assessment Test (CAT) เป็ นการประเมินผลกระทบของ COPD ต่อผูป้ ่ วย ประกอบด้วยคาถาม 8 ข้อๆละ 5 คะแนน คะแนนเต็ม 40 คะแนน < 10 มีผลกระทบน้อย, ถ้า > 10 มีผลกระทบมาก Modifies British Medical Reserch Council (mMRC) ระดับ 0 : ปกติ ไม่มีเหนื่อยง่าย ระดับ 1 : มีอาการเหนื่อยง่าย เมื่อเดินเร็ วๆ ขึ้นทางชัน ระดับ 2 : เดินในพื้นราบไม่ทนั เพื่อนที่อยูใ่ นวัยเดียวกัน เพราะเหนื่อยหรื อต้องหยุดเดินเป็ นพักๆ ระดับ 3 : เดินได้นอ้ ยกว่า 100 เมตร ระดับ 4 : เหนื่อยง่ายเวลาทากิจวัตรประจาวัน เช่นแต่งตัว อาบน้ า จนไม่สามารถออกนอกบ้านได้ Assessment of COPD COPD Assessment Test (CAT) Assessment of COPD Assess Degree of Airflow Limitation Using Spirometry : ( Based on Post-Bronchodilator FEV1 ) GOLD 1 : Mild GOLD 2 : Moderate GOLD 3 : Severe GOLD 4 : Very Severe FEV1 ≥ 80% 50% ≤ FEV1 < 80% 30% ≤ FEV1 < 50% FEV1 < 30% GOLD guideline 2013 (Global Initiative for Chronic Obstructive Lung Disease) GOLD guideline 2013 (Global Initiative for Chronic Obstructive Lung Disease) Patient characteristic Spirometric classification Exacerbation per year mMRC CAT A อาการน้อย โอกาสกาเริ บน้อย GOLD 1-2 ≤1 0-1 < 10 B อาการมาก โอกาสกาเริ บน้อย GOLD 1-2 ≤1 ≥2 ≥ 10 C อาการน้อย โอกาสกาเริ บมาก GOLD 3-4 ≥2 0-1 < 10 D อาการมาก โอกาสกาเริ บน้อย GOLD 3-4 ≥2 ≥2 ≥ 10 Management การเลือกใช้ยาตามกลุ่มผูป้ ่ วย Group การรักษา A อาการน้อย โอกาสกาเริบน้อย • Short acting B2 agonist (SABA) B อาการมาก โอกาสกาเริบน้อย • Long acting B2 agonist (LABA) • SABA as needed C อาการน้อย โอกาสกาเริบมาก D อาการมาก โอกาสกาเริบมาก • Long acting B2 agonist (LABA) • SABA as needed • considered inhaled corticosteroid if frequent exacerbation • • • • Long acting B2 agonist (LABA) SABA as needed inhaled corticosteroid Consider Long term oxygen therapy Management การรักษาตามความรุนแรง ความรุนแรง FEV1 การรักษา GOLD 1 : Mild ≥ 80% • Short acting B2 agonist (SABA) GOLD 2 : Moderate 50-79% • Long acting B2 agonist (LABA) • SABA as needed GOLD 3 : Severe 30-49% • Long acting B2 agonist (LABA) • SABA as needed • considered inhaled corticosteroid if frequent exacerbation GOLD 4 : Very severe <30% • • • • Long acting B2 agonist (LABA) SABA as needed inhaled corticosteroid Consider Long term oxygen therapy ยาทีใ่ ชใ้ นการร ักษา Bronchodilator Short-acting B2 agonists (SABA) Inhaled, oral จับกับ B2 receptor ทาให้หลอดลมขยาย ยาพ่นออกฤทธิ์เร็ วภายใน 2-3 นาที อาการข้างเคียงน้อยกว่ายากินหรื อฉีด แต่ ฤทธิ์ยาสั้น 4-6 ชัว่ โมง ใช้เฉพาะช่วงอาการกาเริบ Salbutamol (MDI, DPI, solution และ oral) Terbutaline (oral และ parenteral ) ขนาดยา salbutamol nebulizer solution (0.5%, 5 mg/ml) 0.03 ml/kg/dose ผลข้างเคียง : skeletal muscle tremor, ปวดหัว, ใจสัน่ Bronchodilator Long-acting B2 agonists (LABA) เป็ นยาขยายหลอดลมที่ออกฤทธิ์ ยาวอย่างน้อย 12 ชัว ่ โมงขึ้นไป โดยจับกับ B2 receptor นาไปใช้เป็ นตัวควบคุมอาการ Salmeterol (serevent®), Formeterol Fixed combination : Seretide® (salmeterol + fluticasone) Symbicort® (formeterol + budesonide) Inhaled Long-Acting 2-Agonists (LABA) Salmeterol (serevent®) Symbicort® (formeterol + budesonide) Seretide® (salmeterol + fluticasone) Bronchodilator Anticholinergics ได้แก่ Ipratropium bromide ออกฤทธิ์โดยจับกับ muscarinic receptor ยับยั้งการทางานของ acetylcholine ทาให้หลอดลมขยายได้ ประสิ ทธิภาพน้อยกว่า SABA ออกฤทธิ์ชา้ กว่า ไม่ใช่เป็ นยาเดี่ยวๆ onset 30 นาที, duration 6-8 ชม. แนะนาให้ใช้ร่วมกับ inhaled SABA Combivent® (ipratropium bromide+ salbutamol) Berodual® (Ipratropium bromide + fenoterol) Relievers Salbutamol Ventolin® Combivent® (ipratropium bromide + salbutamol) Berodual® (Ipratropium bromide + fenoterol) Bronchodilator Theophylline เป็ นยากลุ่ม nonselective phosphodiesterase inhibitor ออกฤทธิ์ขยายหลอดลม มีฤทธิ์ตา้ นการอักเสบของหลอดลมหากให้ในขนาด ต่าๆ อาการข้างเคียง ; คลื่นไส้ ปวดท้อง ใจสัน่ มือสัน่ นอนไม่หลับ Inhaled corticosteroids ; ICS ประสิ ทธิภาพไม่ชดั เจนเท่ากับในโรคหอบหื ด ไม่ใช่เป็ นยาเดี่ยวในการรักษา COPD ออกฤทธิ์ตา้ นการอักเสบของหลอดลม ใช้ร่วมกับ LABA ใน COPD case severe ช่วยลดอาการหอบเหนื่อย เพิม่ สมรรถภาพปอด ลดความถี่ในการกาเริ บ และเพิ่ม คุณภาพชีวิต Budesonide, Beclomethasone diproprionate ผลข้างเคียง ; เสี ยงแหบ, มีเชื้อราในปาก Inhaled corticosteroids Fluticasone Budesonide Beclomethasone Nebulizer : เป็ นวิธีการทาความชื้นแบบทาให้น้ ากลายเป็ น ละอองเล็กๆแขวนไปกับอากาศ อากาศที่มีละอองน้ าแขวนลอยอยูน่ ้ ี เรี ยกว่า aerosol ซึ่งสามารถมองเห็นเป็ นควันขาวๆ JET Nebulizer : อุปกรณ์ที่ใช้ –> กระเปาะใส่ ยาที่ต่อไปยังท่อนาก๊าซ (อาจเป็ นถัง ออกซิเจน หรื อ air compressor) และอุปกรณ์พน่ ยา, mouthpiece หรื อ face mask - ยาเข้าสู่ปอดได้ 9-12 % ใส่ ยาลงในกระเปาะ nebulizer ใส่ NSS เพือ่ เจือจาง ให้ได้ปริ มาตรรวมประมาณ 4 ซีซี เปิ ดก๊าซให้ได้อตั ราไหลที่ 6-8 L/min ต่อกับ mouthpiece หรื อ facemask หายใจเข้าออกปกติ ผ่าน facemask หรื อ mouthpiece ถือกระเปาะ nebulizer ในแนวตั้ง เคาะกระเปาะด้านข้างเป็ นระยะๆ ี ข้อเสย ข้อดี 1. ไม่ตอ้ งอาศัยความร่ วมมือจากผูป้ ่ วย ขนาดเล็ก พกพาง่าย 2. สามารถให้ยาหลายชนิ ดรวมกันได้ 3. ใช้ได้ทุกช่วงอายุ และใช้ได้กบั ผูป้ ่ วยใส่ ท่อช่วยหายใจ 1. 2. 3. 4. 5. ต้องมี compressor เพื่อใช้พน่ ก๊าซ ราคาแพง ระยะเวลาในการพ่นนาน สูญเสี ยยามาก ยาเข้าปอดน้อย อาจปนเปื้ อนได้ ถ้าล้างไม่สะอาด ตกค้างที่หลอดลมและปอด 9-12% ตกค้างที่ oropharynx 80% อีก 10% ตกค้างอยูใ่ น MDI Ventolin (salbutamol) Berodual (Ipratopium bromide+ Fenoterol) ถ้ามีเสมหะควรกาจัดเสมหะก่อนพ่นยา กรณีที่กระเปาะพ่นยาเย็นให้อุ่นในฝ่ ามือก่อน เขย่ายาแรงๆ ในแนวดิ่ง 4-5 ครั้ง เพื่อเพิ่มการกระจายยา และเพิ่มแรงดันยา เปิ ดฝาออกจาก mouth piece ตั้ง canister ในแนวตรงโดยให้ปากกระบอกยาอยูด่ า้ นล่าง วางปากพ่นยาอยูใ่ นปากแล้วปิ ดให้สนิ ท เงย MDI ขึ้ น เพื่อให้ยาตกลงไปที่เพดานอ่อน หายใจออกตามปกติจนสุด สูดหายใจเข้าช้าๆ ลึกๆ พร้อมกับกด MDI เอา MDI ออก กลั้นหายใจ อย่างน้อย 10วินาทีเพื่อให้ละอองยาที่ลอยอยู่ ตกลงไปสู่หลอดลมส่วนล่าง ตามแรงโน้มถ่วงมากขึ้ น ถ้าหายใจออกเร็วละอองยาก็จะออกตามมาด้วย ค่อยๆ หายใจออกช้าๆ ควรเว้นระยะเวลาอย่างน้อย 30-60 วินาที ก่อนพ่นยาครั้งต่อไป ถ้าเป็ นยาพ่นสเตียรอยด์ ให้บว้ นปากทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดเสียงแหบ การมีเชื้ อราในปาก กรณีที่ใช้ยาพ่นร่วมกัน 2 ชนิ ด ต้องเว้นระยะในการพ่นยาแต่ละชนิ ด ประมาณ 5 นาที ควรพ่นยาที่มีฤทธิ์ขยายหลอดลมก่อน ข้อดี 1. ระยะเวลาในการพ่นยาสั้น 2. ขนาดเล็ก พกพาง่าย 3. ราคาไม่แพง ี ข้อเสย 1. พ่นยาต้องอาศัยความสัมพันธ์ ระหว่างการหายใจและกดยา 2. ทาได้ยากในเด็กเล็กและผูส้ ู งอายุ 3. มีปริ มาณยาตกสะสมในช่องปากและ คอมาก 4. บางรุ่ นไม่มีที่นบั ปริ มาณยาที่เหลืออยู่ เป็ นยาผงประกอบด้วยผงยาขนาดเล็กที่เส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 5 micron ใช้ไม่ยุง่ ยากเหมือน MDI เพราะไม่ตอ้ งอาศัยความสัมพันธ์ระหว่างการกด ยากับการหายใจเข้า ต้องอาศัยแรงสูดที่เร็วและแรงอย่างน้อย 30-60 L/sec เพื่อให้ยาแตกตัวเป็ นผงเล็กๆ ชนิ ดของ DPI : accuhaler, turbuhaler, easyhaler Symbicort คลายเกลียวและเปิ ดฝาออก จับขวด Turbuhaler ให้อยูใ่ นแนวตั้ง โดยให้ ฐานที่จบั อยูด่ า้ นล่าง เตรี ยมยาให้พร้อมที่จะสู ด 1 dose โดยหมุนฐานที่ใช้จบ ั ไปทางขวาจนสุ ด แล้วหมุนกลับที่เดิมจนได้ยนิ เสี ยง “คลิก” หายใจออกจนหมดปอด ห้ามหายใจออกขณะที่ปากยังอม mouthpiece ของ Turbuhaler อยู่ ่ ะหว่างฟัน และปิ ดปากสนิท อมส่ วนที่เป็ น mouthpiece ให้อยูร สูดลมหายใจเข้าเร็ วๆ แรงๆ ทางปากจนสุ ด เอาขวด turbuhaler ออกจากปาก ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออก ตรวจสอบปริ มาณยาที่เหลือ ปิ ดฝาครอบให้แน่น Seretide การเปิ ด เปิ ดเครื่อง Accuhaler โดยใช้มือด้านหนึ่ งจับตัวเครื่องด้านนอกไว้ แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือของอีกมือหนึ่ งวางลงที่ร่อง ดันนิ้ วหัวแม่มือในทิศ ทางออกจากตัวไปจนสุด การเลือ ่ น เตรี ยมยาให้พร้อมที่จะสูด 1 dose โดยถือเครื่ องไว้ให้ดา้ นปากกระบอก หันเข้าหาตัว ดันแกนเลื่อนออกไปจนสุ ด จนได้ยนิ เสี ยง “ คลิก ” การสูด ถือเครื่ อง Accuhaler ให้ห่างจากปากไว้ก่อนแล้วหายใจออกให้สุด อย่าพ่นลมหายใจเข้าไปในปอด ถือเครื่ อง Accuhaler โดยให้ส่วนปากกระบอกทาบกับริ มฝี ปาก อมส่ วนที่เป็ น mouthpiece ให้อยูร่ ะหว่างฟัน และปิ ดปากสนิท สูดลมหายใจเข้าทางปากโดยผ่าน ทางเครื่ องมือให้เร็ วๆ แรงๆ ที่สุด เอาเครื่ อง Accuhaler ออกจากปาก และกลั้นหายใจไว้ 5-10 วินาที การปิ ด ปิ ดเครื่ อง Accuhaler โดยวางนิ้วหัวแม่มือลงบนร่ องแล้วเลื่อนกลับเข้า หาตัวจนสุ ด เมื่อเครื่ องถูกปิ ด จะมีเสี ยงดัง “คลิก” ตัวแกนจะเลื่อนคืน กลับที่ตาแหน่งเดิม และจะถูกตั้งเครื่ องใหม่โดยอัตโนมัติเพื่อพร้อมใช้ งานครั้งต่อไป Pursed lip breathing - หายใจเข้าผ่านจมูก ให้หน้าท้องโป่ ง - หายใจออกทางปาก พร้อมกับการทาปากจู๋ หรื อห่อปาก เพื่อค่อยๆ เป่ าลมออกทางปาก - หายใจออกยาวประมาณ 2 เท่าของหายใจเข้า - โดยทัว่ ไป หายใจเข้า 4 วินาที หายใจออก 6-8 วินาที Early warning sign อาการทีต ่ อ ้ งเฝ้าระว ัง - อาการหอบเหนือ ่ ย ี งปอด - เสย ี จร - ชพ - O2 sat ึ ตัว - ระดับการรู ้สก Early warning signs - RR > 26/min ้ ้ามเนือ - ใชกล ้ ชว่ ยหายใจ - Lung : Wheezing, Decrease breath sound - ปริมาณเสมหะมากไม่สามารถขับ ออกเองได ้ - SBP > 180 mmHg - PR > 120/min - SpO2 <90 %ขณะได ้รับออกซเิ จน ึ ตัวเปลีย - ระดับการรู ้สก ่ นแปลง Early warning sign Action point - จัดท่านั่งศรี ษะสูง - On O2canula 3-5 LMP keep O2 sat ≥ 90% - พ่นยาขยายหลอดลม - ดูแลทางเดินหายใจให ้โล่ง ดูดเสมหะ - วัด V/S SpO2 ทุก 15 นาที 30 นาที และทุก 1 ช.ม. จน อาการคงที่ - รายงานแพทย์