2.การเขียนบทความวิจัยที่มีคุณภาพ ศ.ดร สุขสันต์ หอพิบูลสุข

Download Report

Transcript 2.การเขียนบทความวิจัยที่มีคุณภาพ ศ.ดร สุขสันต์ หอพิบูลสุข

การเขียนบทความวิจย
ั ทีม
่ ี
คุณภาพ
ศาสตราจารยสุ
ู สุข,
์ ขสั นติ ์ หอพิบล
Ph.D., P.E.
สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
บทความวิจย
ั ทีม
่ ค
ี ุณภาพ (1)




บทความทีเ่ ขียนโดยนักเขียนมืออาชีพ
(Professional author)
นนักวิจย
นักเขียนมืออาชีพตองเป็
ั ทีด
่ ี
้
(Researcher)
นักเขียนมืออาชีพเป็ นเพียงบทบาทหนึ่ง
ของหัวหน้าทีมวิจย
ั (Research team
leader)
นักวิจย
ั
นักเขียนมืออาชีพ
หัวหนาทีมวิจย
ั
บทความวิจย
ั ทีม
่ ค
ี ุณภาพ (2)

นักเขียนมืออาชีพตองมี
้






ความรูทางวิ
ชาการดีเยีย
่ ม
้
ทักษะในการใช้อุปกรณและเครื
อ
่ งมือทดสอบ
์
ทักษะดานการวิ
เคราะหผลทดสอบ*
้
์
ทักษะดานการเขี
ยน*
้
ผลการศึ กษาทีด
่ ี
ไมสามารถตี
พม
ิ พได
่
้
์ เสมอไป
หากขาดการวิเคราะหผลและการเขี
ยนทีด
่ ี
์
หน้าสวย หุ่นดี
ทาไมตองเป็
นนักเขียนมืออาชีพ?
้







กาวหน
้
้ าในสายงาน (ตาแหน่งวิชาการ)
แสดงความรูให
ใช้เป็ น
้ ้ทุกคนไดรู้ ้
เอกสารอางอิ
งสาหรับตนเองและผูอื
่
้
้ น
In trend
คาตอบแทน
่
เขียนหนังสื อ/ตาราทีเ่ ป็ นความคิดของตนเองได้
หัวหน้าทีมวิจย
ั
---ปราศจากแรงบันดาลใจ/ศรัทธา
ไม่
นักเขียนมืออาชีพ (โดยสรุป)


เป็ นทักษะเฉพาะตัว
ทีไ่ มมี
่ ใคร
ลอกเลียนแบบได้
แตพั
่ ฒนาได้
ทุกคนเป็ นนักเขียนมืออาชีพได้
หากมี
ศรัทธาและความเพียร (ฝึ กฝน)
ดวยตนเอง
้
 ดวยค
าแนะนาผูเขี
้
้ ยนมืออาชีพ (Mentor)
เป็ นทักษะทีค
่ วรคาแก
การพั
ฒนา? (ดาน
่
่
้
วิชาการ):



เป็ นทีย
่ อมรับในวงการวิชาชีพ (ระดับชาติ/
การเตรียมพรอมเพื
อ
่ เป็ นนักเขียน
้
มืออาชีพ


ใช้อุปกรณและเครื
อ
่ งมือทีต
่ นเองมี
์
มีองคความรู
ของตนเอง
(ตกผลึกความรู)้
้
์
มีตนแบบ:
วารสารทีอ
่ ยูในฐานข
อมู
้
่
้ ล ISI
และสมาคมวิชาชีพ
 วิเคราะหและสั
งเคราะหงานวิ
จย
ั ตนแบบ
์
์
้
 สรางองค
ความรู
ของตนเอง---มี
ทก
ั ษะในการ
้
์
้
วางแผนการทดสอบและวิเคราะหผลทดสอบ
์
ทีไ่ มเหมื
อนใคร
่


มี style การเขียนเป็ นของตนเอง
บทสรุป
ทุกคนเป็ นนักเขียนมืออาชีพได้
ถ้ามีศรัทธาและความเพียร
ส่วนประกอบของบทความ









ชือ
่ บทความ
บทคัดยอและค
าสาคัญ
่
บทนา*
วิธก
ี ารทดสอบ
ผลทดสอบ/ผลการศึ กษา
การวิเคราะหและอภิ
ปรายผลทดสอบ*
์
บทสรุป
กิตติกรรมประกาศ
เอกสารอางอิ
ง
้
ลาดับการเขียน






ผลทดสอบ
>>> รูป
ตาราง
และ
เนื้อหา
การวิเคราะหและอภิ
ปรายผลทดสอบ
์
บทสรุป
วิธก
ี ารทดสอบ
>>> เฉพาะทีเ่ กีย
่ วของ
้
กับผลทดสอบ
บทนา
บทคัดยอและค
าสาคัญ
่
ผลการศึ กษา/ผลทดสอบ

ผลการศึ กษา/ผลทดสอบคือความจริง


ผูอ
มี
้ านไม
่
่ คาถามกับผลทดสอบ
ไดผลทดสอบเช
้
่ นเดียวกัน
ใครทาก็
การนาเสนอ
 ใช้ตารางและรูปแสดงผลทดสอบ
 ความสั มพันธระหว
างตั
วแปรตามและตัว
่
์
แปรอิสระ
 รูปตองบรรจุ
ผลทดสอบทีจ
่ าเป็ นและเป็ น
้

การนาเสนอ (ตอ)
่


ควรเปรียบเทียบผลทดสอบทีไ่ ดกั
ั
้ บงานวิจย
ในอดีต
อาจเหมือนหรือแตกตาง
เพือ
่
่
เพิม
่ ความน่าเชือ
่ ถือของผลทดสอบ
อธิบายเฉพาะการเปลีย
่ นแปลงของผลทดสอบ
โดยภาพรวม (ไมใช
เป็ นพระรอง)
่ ่ พระเอก

รูปและตาราง



อยาแสดงผลซ
า้ ซ้อน
ตารางและรูปควรมี
่
ขอมู
่ างกั
น
้ ลทีต
่
ปดีกวาตาราง
นาเสนอดวยรู
่
้
รูป: สั ญลักษณต
พอ---ดู
งาย
์ องใหญ
้
่
่
 รูป: ไมมี
่ จุดผลทดสอบมากเกินไป
ตัวอยางรู
่ ป
21
Silty clay 1 (CL)
L L = 39.7%
P L = 7.7%
G s = 2.70
3
19
Ze
E=
3
2693.3 kJ/m
a ir
18
ro
vo
E=
1346.6 kJ/m3
cu
17
id
rv
e(
S
16
3
E = 296.3 kJ/m
%
65% 75%
S = 55%
87% S =93%
14
13
)
3
.3
0%
15
81
10
E = 592.5 kJ/m
=
Dry unit weight, d (kN/m )
20
0
4
8
12
16
20
Water content, w (%)
24
28
32
การวิเคราะหและอภิ
ปราย
์
ผลทดสอบ





เป็ นอัตลักษณและพระเอกของบทความ
์
เป็ นศิ ลปะเฉพาะบุคคล
ผลทดสอบทีเ่ หมือนกัน
อยูในมื
อ
่
นักเขียนคนละคน
สรางความน
้
่ าสนใจ
ไดต
น---งานวิจย
ั ไม่มีซา้ กับผู้อืน
่ *
้ างกั
่
อางอิ
งและเปรียบเทียบกับงานวิจย
ั ในอดีต
้
(เฉพาะบางส่วน)
ผลการวิเคราะหต
อยู
วขอผลการ
้
่ ในหั
่
้
์ องไม
ตัวอยางการวิ
เคราะหผลทดสอบ
่
์
25
E
E
E
E
w = 26.0S 2.11
= 296.3 kJ/m3
= 592.5 kJ/m3
= 1346.6 kJ/m3
= 2693.3 kJ/m3
w = 22.9S 2.14
w = 17.1S 2.10
15
w = 20.1S 0.70
10
w = 15.2S 2.16
w = 17.6S 0.73
Optimum
degree of
saturation
Water content, w (%)
20
Silty clay 12 (CL)
L L = 39.7%
P L = 7.7%
G s = 2.70
w = 13.3S 0.73
w = 11.6S 0.72
5
0.3
0.4
0.5
0.6
0.7
0.8
Degree of saturation, S
0.9
1.0
1.1
การวิเคราะหและอภิ
ปราย
์
ผลทดสอบ

ระบุจุดแข็งและจุดออนของงานวิ
จย
ั
่


จุดออน:
ขอบเขตของกลุมตั
จานวน
่
่ วอยาง
่
ตัวอยางทดสอบ
เงือ
่ นไขการทดสอบ
่
การนาไปใช้ประโยชน์

Stepwise procedure
ตัวอยางผลทดสอบ
่




9+9 = 18
9+9+9 = 27
9+9+9+9 = 36
9+9+9+9+9 = 45
การวิเคราะหผลทดสอบ
์




9+9 = 9*2 = 18
9+9+9 = 9*3 = 27
9+9+9+9 = 9*4 = 36
9+9+9+9+9 = 9*5 = 45
บทสรุป
9+9+9+9+…. = 9*n
การวิเคราะหผลทดสอบ
์
9*2 = 18
>>> 8+1 = 9
 9*3 = 27
>>> 2+7 = 9
 9*4 = 36
>>> 3+6 = 9
 9*5 = 45
>>> 4+5 = 9
 9*6 = 54
>>> 5+4 = 9
 9*7 = 63
>>> 6+3 = 9
บทสรุป: มหัศจรรยเลข
9
์

บทสรุป




เป็ นส่วนทีท
่ าให้ผูอ
วสิ นใจวาจะเริ
ม
่
้ านตั
่
่
อานบทความหรื
อไม่
่
กระชัด
แสดงเฉพาะผลการศึ กษาที่
จาเป็ น
ประโยชนที
จย
ั
รวมทัง้ ผู้ที่
้
์ ไ่ ดจากงานวิ
ไดรั
้ บผลประโยชน์
การแสดงเป็ นขอๆ
อาจเหมาะสมกับงานที่
้
มีจุดเดนย
่ อย
่
วิธก
ี ารทดสอบ

ส่วนทีแ
่ สดงให้เห็ นถึงความน่าเชือ
่ ถือและ
ความถูกตองของผลทดสอบ---ไม
ต
ยน
้
่ องเขี
้
มาก
ถามี
ง
้ แหลงอ
่ างอิ
้




อางอิ
งมาตรฐานการทดสอบ ASTM, ACI, JIS
้
ระบุจานวนตัวอยางและความแปรปรวนตามหลั
ก
่
สถิต ิ
การคานวณเชิงตัวเลข---ระบุโปรแกรมทีใ่ ช้
ตอง
้
เป็ นโปรแกรมน่าเชือ
่ ถือและใช้กันอยางแพร
หลาย
่
่
ตองเขี
ยนมาก
หากวิธก
ี ารทดสอบเสนอเองโดย
้
ผู้เขียน
บทนา*


เป็ นเคาโครงที
ส
่ าคัญของบทความ (ผู้
้
กากับ)
ทาให้อานและติ
ดตามบทความไดง้ าย
่
่



เป็ นตัวเชือ
่ มโยงผลทดสอบและผลการวิเคราะห ์
ผลทดสอบ
ดึงดูดความน่าสนใจของผูอ
้ าน
่
เขาใจเนื
้อหาภาพรวมของบทความ
้
บทนา-ส่วนประกอบ


กลาวถึ
งปัญหา
และความสาคัญของปัญหา
่
กลาวถึ
งทฤษฎี/แนวความคิดทีเ่ กีย
่ วของ---ภาพ
่
้
กวาง
้



อธิบายให้ชัดเจน
กระชัด
และครอบคลุม
เฉพาะเนื้อหาทีท
่ าวิจย
ั
ช่วยให้ผู้อานเข
าใจเรื
อ
่ งราวของงานวิจย
ั
และ
่
้
อยากอานต
อ
่
่
กลาวถึ
งทฤษฎี/แนวความคิดทีจ
่ ะใช้ใน
่
การศึ กษา*---ภาพลึก

ช่วยให้ผู้อานทราบทฤษฎี
ทจ
ี่ ะใช้ในการแกปั
่
้ ญหา
บทนา-ทฤษฎีทค
ี่ าดวาจะใช
่
้
ทฤษฎีท ี่
เกีย
่ วขอ
้
ง/ทฤษฎี
ทีจ
่ ะใช้
Your reader
Your idea
The power relationship between the water content and degree of
saturation (Horpibulsuk et al., 2008) is extended as a fundamental
for this development.
บทนา

กลาวถึ
งวัตถุประสงค ์
ขอบเขต
และ
่
ประโยชนของงานวิ
จย
ั ในยอหน
์
่
้ าสุดทาย
้

The present paper attempts to examine the state
parameters for both coarse- and fine-grained soils
so as to develop sets of possible compaction curves
under various compaction energies for rapid
assessment of the compaction curves using one
water content – dry unit weight data point.
บทนา-การให้เครดิตผูอื
่
้ น
ความหลงผิด เพือ
่ ให้งานวิจย
ั ของฉัน
มีคุณคา่
ฉันตองท
าให้
้
งานวิจย
ั คนอืน
่ ดอยค
าลง
้
่
บทนา-การให้เครดิตผูอื
่
้ น

นาขอดี
เกามาเป็
น
้ /จุดเดนของทฤษฎี
่
่
พืน
้ ฐานในการวิเคราะหผลการศึ
กษา
์
อยาใช
่ โดยไมอ
ง
่
้ทฤษฎีของผูอื
้ น
่ างอิ
้
่ เป็ นของตนเอง
างทฤษฎี
ของผูอื
 อยาแอบอ
้ น
้
่


นาขอด
จย
ั ในอดีตไปตอยอด
้ อยของงานวิ
้
่
เป็ นงานวิจย
ั ใหม่
แตต
่ องแสดงความ
้
เลือ
่ มใสงานวิจย
ั นั้น
บทนา







I wish I
knew how
to solve
that!
นี่คอ
ื ปัญหา
มันเป็ นปัญหาทีส
่ าคัญมาก
I see how
ยังไมมี
ใ
ครแก
ปั
ญ
หานี
ไ
้
ด
่
้
้
that
works.
ทฤษฎี/แนวคิดทีน
่ ่ าจะเป็ นไปได้
Ingenious!
นี่ไงแนวความคิดของฉัน
ความคิดของฉันสามารถแกปั
้ ญหาได้
ภายใตเงื
่ นไข...
้ อ
ความคิดของฉันสามารถเปรียบเทียบกับแนวคิด
อืน
่ ไดอย
้ างไร
่
บทคัดยอ
่



เจอกอน
แตเขี
ด
่
่ ยนทายสุ
้
เป็ นส่วนสาคัญเช่นเดียวกับบทสรุป
สั้ นกวา่
มี 3 รูปแบบ

Informative


แต่
วัตถุประสงค ์
บทสรุป
วิธก
ี ารทดสอบ
ผลทดสอบ
Indicative

ปัญหาและความสาคัญของปัญหา
แนวทางการ
แกปั
บทสรุป
ประโยชนที
้ ญหาแนวใหม่
้ บจาก
์ ไ่ ดรั
ชือ
่ บทความ


ตองกว
างและครอบคลุ
มเนื้อหาทัง้ หมดของ
้
้
บทความ
ลักษณะของชือ
่ บทความ
ไมเป็
่ นประโยค
 อาจเป็ นคาถาม

ปัจจัยทีท
่ าให้ตีพม
ิ พได
์ ้ (โดย
สรุป)

เนื้อหาเฉพาะเจาะจง




ถามี
้ เนื้อหามาก
ก็ควรเขียนหลายบทความ
ผลทดสอบน่าเชือ
่ ถือ
ทักษะในการวิเคราะหผลทดสอบ
์
ทักษะในการเขียนและนาเสนอ
การเขียนบทความ: model 1
Ide
a
ทาวิจย
ั
เขียน
บทความ
การเขียนบทความ: model 2
Idea

ทาวิจย
ั
เขียน
บทความ
เขียน
เขียน
บทความ
Ide
บทความ
+ ทาวิจย
ั
a
ฉบับ
(Do
สมบูรณ ์
loop)
ทาใหการทางานวิ
จย
ั มีประสิ ทธิภาพ
้
ช่วยลดการทดสอบทีไ่ มจ
่ าเป็ น
 เพิม
่ การทดสอบทีม
่ ป
ี ระโยชนต
เคราะห ์
์ อการวิ
่
ผลทดสอบ
 คิดแนวทางทดสอบใหมอยู
เมือ
่
่ เสมอ
่

อยากลั
วกับการเริม
่ ตน
่
้
ความหลงผิด: คุณตองมี
ผลทดสอบ/
้
่ ี
แนวคิด/ผลการวิเคราะหที
์ ด
เยีย
่ มกอน
จึงจะสามารถ
่
เขี
ย
นบทความได
้
(Do loop) ทาการทดลอง
เขียน
บทความ
วิเคราะหผลทดสอบ
์
ทายสุ
ด = เขียนบทความฉบับ
้
สมบูรณ์
อยากลั
ว/ลังเลทีจ
่ ะลงมือเขียน
่





การเขียนบทความเป็ นกระบวนการสราง
้
กรอบความคิดในการทางานเบือ
้ งตน
้
เริม
่ ตนจากการเขี
ยนกราฟ/ตาราง
้
เขียนอธิบายผลทดสอบ
หาแนวทางการวิเคราะหปั
์ ญหา
ทาการทดสอบเพิม
่ เติม
ขัน
้ ตอนการเขียนบทความฉบับ
สมบูรณ์
ตรวจความสมบูรณของบทความ
์
(1)

บทความตองสมบู
รณที
่ ุดกอนส
้
์ ส
่
่ งออก (ไมได
่ ้
แปลวาใช
่
้เวลาในการเขียนนาน)


บทความทีไ่ มสมบู
รณ ์ (ภาษา
การวิเคราะหผล
่
์
และการลาดับเนื้อหากอนหลั
ง) มักไดรั
่
้ บการปฏิเสธ
บทความเหมือนกับ wine:
บม
่
ซึง่ ตองการเวลาเพาะ
้
ตรวจความสมบูรณของบทความ
์
(2)

อานตรวจทานเนื
้อหาในช่วงเวลาทีต
่ างกั
น
่
่
(ช่วงความถีข
่ องคลืน
่ สมองตางกั
น)
่




ช่วยเพิม
่ และปรับปรุงการวิเคราะหได
ึ้
้ ขน
์ ดี
ช่วยในการจัดเรียงลาดับเนื้อหาให้ดีขน
ึ้
ช่วยปรับแตงรู
่ ปและตารางให้กระชัดและครอบคลุม
มากขึน
้
อานตรวจทานแก
ไขค
าผิด
่
้

และไวยากรณ ์
อาจใช้บริษท
ั /หน่วยงานตรวจสอบภาษาอังกฤษช่วย
ให้ผู้เชีย
่ วชาญ/ผู้แตงร
จารณ ์
่ วมวิ
่



เมือ
่ คุณคิดวา่
คุณทางานไดดี
้ แลว
้
ลองส่งบทความนั้นให้ผูเชี
่ วชาญ
้ ย
“ช่วยเพิม
่ ความมัน
่ ใจวาผมบรรยายได
ดี
่
้
แลว”
้
ตรวจสอบขอบกพร
องที
ผ
่ เขี
้
่
ู้ ยนอาจ
มองขาม
้
่ วชาญ/ผูแต
ตรวจสอบวาผู
่
้ ย
่ วม
่ เชี
้ งร
เขาใจอย
างที
ผ
่ เขี
่ อหรือไม่
้
่
ู้ ยนตองการสื
้
ใช้ภาษา the active voice
หลีกเลีย
่ งการใช้ Passive voice
NO
YES
It can be seen that...
We can see that...
34 tests were run
We ran 34 tests
These properties were
thought desirable
We wanted to retain these
properties
It might be thought that
this would be a type error
You might think this would
be a type error
“You” = the
reader
“We” = you
and the
reader
“We” = the
authors
ใช้ภาษาทีง่ าย
่
NO
YES
The object under study was
displaced horizontally
The ball moved sideways
On an annual basis
Yearly
Endeavour to ascertain
Find out
It could be considered that the
speed of storage reclamation
left something to be desired
The garbage collector was really
slow
การตรวจสอบสุดทายก
อนส
้
่
่ง
บทความ


บทความตองมี
เพียง 1 เปรีย
้ งเทานั
้
่ ้น :
ชัดเจน
และเฉี ยบแหลม
เมือ
่ อานบทความซ
า้
ยังคงไดยิ
่
้ นเสี ยง
“เปรีย
้ ง” อยูหรื
่ อเปลา?
่
ส่งบทความและรับฟังผลประเมิน
คิดวาทุ
่ กคาประเมินมีคุณคา่
รูสึ้ กชืน
่ ชมกับคาวิจารณและค
าชม
์
ส่งบทความและรับฟังผลประเมิน



อานทุ
ม
่ ี
กคาวิจารณราวกั
บวาเป็
่
์
่ นขอเสนอแนะที
้
คุณคา่
และโตตอบและแสดงเหตุ
ผลกลับให้
้
ชัดเจน
อยาโต
ฉัน
ตอบในท
านอง “คุณโงจั
่
่ ง
้
หมายถึง x” แตจงแก
บทความ
เพือ
่ ให้ x
่
้
ปรากฏอยูในบทความ
่
ขอบคุณผูประเมิ
น
เพราะพวกเขาเสี ยสละเลา
้
ให้คุณ
ขอดี
้ ของการเป็ นนักเขียนมือ
อาชีพ





ประณีต
รับฟังความคิดเห็ นของผูอื
่
้ น
ถอมตน
(เหนือฟ้า
ยังมีฟ้า)
่
รูว
อปัญหา
เมือ
่ พบปัญหา
้ าอะไรคื
่
แกปั
และรูว
าอะไร
้ ญหาไดถู
้ กจุด
้ าควรท
่
กอนหลั
ง
่
ตัวอยางบทคั
ดยอ---งานทดสอบ
่
่
Compaction curves of soils are essential for establishing practical
and reliable criteria for an effective control of field compaction.
This paper deals with the development of a practical method of
assessing laboratory compaction curves of fine-grained soils. It is
found that for a given fine-grained soil compacted at a particular
compaction energy, the relationships between water content (w)
and degree of saturation (S) are represented by power function,
which are and for the dry and the wet sides of optimum,
respectively (where Ad, Aw, Bd and Bw are constant). The Bd and
Bw values and optimum degree of saturation (ODS) are mainly
dependent upon soil type and irrespective of compaction energy.
The Ad and Aw values decrease with the logarithm of compaction
energy and the decrease rates are practically the same for any
compacted fine-grained soil. This leads to a simple and rational
method to assess the compaction curve wherein the compaction
energy varies over a wide range using a one point test (a single
ตัวอยางบทคั
ดยอ---Constitutive
่
่
model
This paper presents a generalised critical state model with the
bounding surface theory for simulating the stress-strain behaviour
of overconsolidated structured clays. The model is formulated
based on the framework of the Structured Cam Clay (SCC) model
and is designated as the Modified Structured Cam Clay with
Bounding Surface Theory (MSCC-B) model. The hardening and
destructuring processes for structured clays in the overconsolidated
state can be described by the proposed model. The image stress
point defined by the radial mapping technique is used to determine
the plastic hardening modulus, which varies along loading paths. A
new proposed parameter h, which depends on the material
characteristics, is introduced into the plastic hardening modulus
equation to take the soil behaviour into account in the
overconsolidated state. The MSCC-B model is finally evaluated in
light of the model performance by comparisons with the measured
You hear, you forget
You see, you remember
You do, you understand
ขอบคุณครับ