Buddhist Psychology

Download Report

Transcript Buddhist Psychology

Buddhist
Psychology
Tayat Sriplung
1
Agenda
– พุทธจิตวิทยา
– พุทธศาสนา สอนอะไร
– วีดท
ี ศ
ั น์
– กรณี ศก
ึ ษา
2
วิชา พุทธจิตวิทยา
๑.แนวคิดเกีย
่ วกับจิต-โครงสร ้าง
กระบวนการทางาน ของจิต และ
พฤติกรรมทีส
่ ะท ้อนมาจากจิต
๒. หลักการวิธก
ี ารพัฒนาจิต
๓. หลักการวิธก
ี ารประยุกต์แนวคิดเกีย
่ วกับ
จิตมาเพือ
่ การบริหารจัดการชวี ต
ิ
ธรรม:
“ธรรม” คืออะไร ?
จิต, เจตสิก,
รู ป คือ ขันธ ์ ๕
รู ปคือรู ป, เจตสิก
คือเวทนา,สัญญา,
สังขาร, จิตคือวิญญาณ
ปรมัตถธรรม
จิต, เจตสิก,
รู ป, นิ พพาน
นิ พพาน
คือขันธวิมุตติ
เทียบกลุ่มแนวคิด
ทางจิตวิทยา
-Psychoanalysis
จิตวิทยาจิตวิเคราะห ์
-Behaviorism
จิตวิทยาพฤติกรรมนิ ยม
-Structuralism
จิตวิทยาโครงสร ้างนิ ยม
-Functionalism
่ ยม
จิตวิทยาหน้าทีนิ
อายตนะภายใน
-ตา+รู ป
-หู +เสียง
่
-จมู ก+กลิน
้
-ลิน+รส
-กาย+โผฏฐ ัพพะ
-ใจ+ธ ัมมารมณ์
อายตนะภายนอก
สติ เกิดการร ับรู ้
-จักขุวญ
ิ ญา
-โสตวิญญาณ
-ฆานวิญญา
-ชิวหาวิญญ
-กายวิญญาณ
-มโนวิญญาณ
สติ เกิดการร ับรู ้
รู ป
ตา
เสียง
หู
สติ(นึ ก)
่
กลิน
จมู ก
รส
้
ลิน
สัมผัส
กาย
ธรรม
จิต วิญญาณ(รู ้)
ผัสสะ
(กระตุ ้น)
เวทนา
สัญญา
มีราคะ
ไม่มรี าคะ
มีโทสะ
ไม่มโี ทสะ
มีโมหะ
ไม่มโี มหะ
หดหู ่
ฟุ้ งซ่าน
จิต
หลุดพ้น
ไม่หลุดพ้น
เป็ นสมาธิ
ไม่เป็ นสมาธิ
่ งกว่
่
มีจต
ิ อืนยิ
า
่ งกว่
่
ไม่มจ
ี ต
ิ อืนยิ
า
โลกธรรม
อิฏฐารมณ์:
ลาภ ยศ
สรรเสริญ
สุข
ชีวต
ิ
สมดุล
หรือไม่สมดุล
อนิ ฏฐารมณ์:
่
เสือมลาภ
่
เสือมยศ
นิ นทา ทุกข ์
เหตุผล
ปั ญญา
บู รณา
การ
อารมณ์
ศร ัทธา
Agenda
–
–
–
–
–
–
พุทธศาสนา สอนอะไร
วิวฒ
ั นาการของการบาบัดด้วยสติ
สติคอ
ื อะไร
ฝึ กสติอย่างไร
ผลจากการฝึ กสติ
การนาไปใช้ ในเวชปฏิบต
ั ิ
• กรณี ศก
ึ ษา / ตัวอย่างผู ป
้ ่ วย
13
14
ประวัติพระพุทธศาสนา
พระสมณโคดม หรือ พระพุทธเจ้า ประกาศ
คาสอน
่
เมือกว่
า ๒,๕๐๐ ปี ณ ประเทศอินเดีย
ก่อนจะค้นพบพุทธธรรม เจ้าชายสิทธ ัตถะทรงใช้เวลา
่ ๆ
ศึกษาและค้นหาหนทางจากอาจารย ์อืน
อาจารย ์ ๒ คนแรก
ของเจ้าชายสิทธ ัตถะ คือ
พระอาฬารดาบส
และ พระอุทกดาบส
(ภาพโดย ครูเหม เวชกร)
15
ประวัติพระพุทธศาสนา
่ กษาจบจากพระดาบสทังสองแล้
้
เมือศึ
ว
แต่ยงั ไม่สามารถบรรลุโมกขธรรมได้
จึงทรงบาเพ็ญทุกรกิรย
ิ ากบ
ั ปั ญจวัคคีย
(ภาพโดย ครูเหม เวชกร)
ตัดสินใจ เลิกบาเพ็ญทุกรกิรย
ิ า แล้ว
กลับมา ฉันอาหารตามเดิม เดินตาม
ทางสายกลาง คือไม่ย่อหย่อน และไม่
เคร่งตึงจนเกินไป
และบรรลุธรรม
่ ด
ในทีสุ
(ภาพโดย ครูเหม เวชกร)
16
ประวัติพระพุทธศาสนา
้ ทรงประกาศคาสอนครงแรกแก่
้ั
หลังจากนัน
พระปั ญจวัคคีย ์ทัง้ ๕
พระโกณฑัญญะ
ได้มด
ี วงตาเห็นธรรม
เป็ นพยานบุคคลแรก
ในพระพุทธศาสนา
(ภาพโดย ครู เหม เวชกร)
17
พระพุทธเจ้าสอนอะไร
•
• ปฏิจจสมุปอริยสั•จมหาสติปัฏ
๔
บาท
• อานาปานสติ ฐานสู ตร
•
สู ตร
ไตรสิกขา
• ไตร
ฯลฯ
ลักษณ์
18
พระพุทธเจ้าสอนอะไร
้ั
้
"ดู กรภิกษุทงหลาย
ข้อนี แลเป็
นทุก
ขอริยสัจ คือ ความเกิดก็เป็ นทุกข ์ ความ
แก่ ก็เป็ นทุกข ์ ความเจ็บไข้กเ็ ป็ นทุกข ์
ความตายก็เป็ นทุกข ์ ความประจวบด้วย
่ ไม่
่ เป็ นทีร่ ักก็เป็ นทุกข ์ ความพลัด
สิงที
่ นทีร่ ักก็เป็ นทุกข ์
พรากจากสิงเป็
่
้ เป็ นทุกข ์
ปรารถนาสิงใดไม่
ได้สงนั
ิ่ นก็
โดยย่นย่อ อุปาทานขันธ ์ ๕ เป็ น
ทุกข ์”
19
พระพุทธเจ้าสอนอะไร
้ั
้
"ดู กรภิกษุทงหลาย
ข้อนี แลเป็
นทุกข
สมุทย
ั อริยสัจ คือตัณหาอันทาให้เกิดอีก
ประกอบด้วยความกาหนัดด้วยอานาจ
ความเพลิน มีปกติเพลิดเพลินในอารมณ์
้ คือ กามตัณหา ภวตัณหา
นันๆ
วิภวตัณหา
้ั
้
"ดู กรภิกษุทงหลาย
ข้อนี แลเป็
น
ทุกขนิ โรธอริยสัจ คือ ตัณหานั่นแลดับ
โดยไม่เหลือ ด้วยมรรคคือวิราคะ สละ
สละคืน ปล่อยไป ไม่พวั พัน“
20
พระพุทธเจ้าสอนอะไร
อริยสัจ ๔
ความจริงอ ันประเสริฐ ๔ ประการ
• ทุกข ์
• สมุทย
ั
• นิ โรธ
• มรรค
่
สภาพทีทนอยู
่ได้ยาก
เหตุแห่งทุกข ์
ความดับทุกข ์ ความ
พ้นทุกข ์
วิธแ
ี ห่งการดับทุกข ์
21
อริยสัจ ๔
ทุก
ข์
• ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย
• ความไม่สบายกาย ไม่
สบายใจ
่ ไม่
่ ร ัก
• ประสบกับสิงที
่ ร่ ัก
• พลัดพรากจากสิงที
โดยย่อคือ • ความไม่สมปรารถนา
การยึด ถือ ขันธ ์ ๕ (กายกับใจ)
เป็ นทุกข ์
22
อริยสัจ ๔
่
เป็ นหลักธรรมทีหมายถึ
ง
ความติดใจอยาก ความยินดี ยิน
ร ้าย หรือติดในรสอร่อยของโลก
ประกอบด้วย ความกาหนัดด้วย
อานาจความพอใจ เพลิดเพลิน
้ั และ
่ กในอารมณ์นนๆ
ยิงนั
ตัณหาย่อมเจริญแก่ผูป
้ ระพฤติ
้ ความทุ
้ อยๆ เมื
่ งๆ
ประมาท
นไปในอารมณ์
ตา
่อ
ดังนัน
กข ์ย่ซ่อามเกิ
ดขึนบ่
้
บุคคลยังถอนเชือตัณหาไม่
ได้
ตัณหา
23
อริยสัจ ๔
ตัณหา
ตัณหาแบ่งออกเป็ น 3 อย่าง
1.กามตัณหา คือ ความอยาก
หรือไม่อยาก ใน สัมผัสทัง้ 5
2.ภวตัณหา คือ ความอยาก
่ สงนั
้
ทางจิตใจ เมือได้
ิ่ นมาแล้
ว
่
ไม่ตอ
้ งการให้มน
ั เปลียนแปลง
3.วิภวตัณหา คือ ความไม่อยาก
ทางจิต ความอยากดับสู ญ
24
อริยสัจ ๔
ขันธ ์ ๕
กาย
ใจ
๑.รู ป: ร่างกาย
๒.เวทนา: ความรู ้สึกสุข ทุกข ์
หรือ เฉย ๆ
๓.สัญญา : ความจาได้ หมาย
รู ้
๔.สังขาร : ความคิดนึ ก ปรุง
แต่ง
๕.วิญญาณ : การร ับรู ้ทางตา
25
อริยสัจ ๔
สมุท ั
ยกามตัณ
ภวตัณห
วิภวตัณ
ความไม่
า
ความต้
หา องการ ความอยากมี
หา อยาก
ใน รู ป รส
่
กลิน
เสียง สัมผัส
อยากเป็ น
อยากได้
มี
ไม่อยากเป็ น
ไม่อยากได้
26
อริยสัจ ๔
นิ โรธ
ความดับทุกข ์
• ดับทุกข ์
่ั
ชวขณะ
• พ้นทุกข ์ ถาวร
27
อริยสัจ ๔
มรรค (วิธแี ห่งการดับ)
๑. เห็นถู ก (สัมมาทิฎฐิ)
ปั ญ
๒. คิดถู ก (สัมมาสังกัปปะ)
ญา
๓. วาจาชอบ (สัมมาวาจา)
๔. อาชีพชอบ (สัมมาอาชีวะ)
ศีล
๕. การงานชอบ
(สัมมากัมมันตะ)
จิต
๖. ความเพียรชอบ
(สัมมาวายามะ)
28
พระพุทธเจ้าสอนอะไร
ไตร
ษณ์วมของสรรพสิง่ ๓ อย่าง
ลัลั
กก
ษณะร่
ได้แก่
• อนิ จจัง
• ทุกขัง
• อนัตตา
่ ต้อง
ความไม่เทียง
่ บคน
้ั ทนอยู ่ในสภาพ
เปลี
ยนแปลง
ความบี
เดิงม
ไม่ได้
บั
คับให้
เป็ นอย่างต้องการ
ไม่ได้
ไม่มต
ี ัวตนถาวร
29
สรุปแล้ว พระพุทธเจ้า
สอน...
่
่
เรืองที
สอน
การพ้นทุกข ์
อุปกรณ์
(๑) กาย (๒) ใจ
วิธท
ี ดลอง
มรรค ๘ (หรืออริยสัจ๔ สติปัฏ
ฐาน ๔ ไตรสิกขา ฯลฯ)
โดยย่อคือ
่
“มีสติระลึกรู ้ ทีกายและใจตามความ
เป็ นจริง”
่ างๆ ที่
ผลการทดลอง เห็นลักษณะร่วมของสิงต่
เกิดกับกายและใจ
(ไตรลักษณ์) 30
การนาหลักพุทธ
จิตไปใช้ใน
ชีวต
ิ ประจาว ัน
31
พระพุทธเจ้าสอนอะไร
• อานาปานสติ
มีสติระลึกรู ้ลมหายใจเข้า ออก
• มหาสติปัฏฐาน
มีสติ รู ้ กาย เวทนา จิต และ ธรรม
• ไตรสิกขา
่ ศีล จิต และปั ญญา
การศึกษาเรือง
32
วิวฒ
ั นาการของการทา
จิจิตตบบาบัาบั
ด
ด :
จิตบาบัดโดยพระพุทธเจ้า 2500 ปี ก่อน
: พระกีสาโคตมี อดีตหญิงบ้า
เคยมีคนตาย
อุม
้ ลู กตายไปกราบพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าเตือนสติ
่
ให้อบ
ุ ายไปหาเมล็ดผักกาดในบ้านทีไม่
ได้สติกลับคืนมา
ผ่านไปสองพันกว่าปี
จึงกาเนิ ดจิตบาบัดจิตแบบจิตวิเคราะห ์
้
ขึน
33
วิวฒ
ั นาการของการทา
จิจิตตบบาบัาบั
ด
ด :
 Freud : จิตวิเคราะห ์
 ลู กศิษย ์ของ Freud : จิตบาบัดแบบ
จิตวิเคราะห ์
 การบาบัดแบบ client center
 การบาบัดแบบ counseling
 การบาบัดแบบ Behavior Therapy
 การบาบัดแบบ Cognitive Therapy
 การบาบัดแบบ Cognitive Behavior
Therapy
 การบาบัดแบบ mindfulness
34
การบาบัดแบบ
mindfulness
therapy
- MBSR (Mindfulness Based Stress
Reduction)
- MBCT (Mindfulness Based Cognitive
Therapy)
- ACT (Acceptance and Commitment
Therapy)
- DBT (Dialectical Behavior Therapy)
- Mindfulness Therapy
หลักการสาคัญของการทาจิตบาบัดแบบอิง
การฝึ กสติ
35
การบาบัดแนวพุทธใน
ประเทศไทย
- ใช้หลักการบาบัดตามแนวอริยสัจ ๔
-
แบ่งเป็ น ๔ เทคนิ กได้แก่
การบาบัดด้วยการนึ กคิดแบบพุทธ
(Buddhist Cognitive Therapy)
่
- การบาบัดด้วยการปร ับเปลียนพฤติ
กรรม
(Buddhist Behavior Modification)
- การบาบัดด้วยการฝึ กสมาธิ
(Concentration Meditation
Therapy)
- การบาบัดด้วยการฝึ กสติ
(Mindfulness Based Therapy)
-
36
การบาบัดด้วยการ
ฝึ กสติ
37
กรณี ศก
ึ ษาที่ ๑
คานา
ึ ษาที่ ๑ เป็ นชายไทยโสดทางานในตาแหน่งเเจ ้า
กรณีศก
ึ ษา
หน ้าทีธ
่ รุ การอายุ 35 ปี ภูมล
ิ าเนาเป็ นคนจังหวัดพิจต
ิ ร กรณีศก
มีข ้อมูลประวัตก
ิ ารเจ็บป่ วยระบุวา่ มีอาการป่ วยทางจิตอย่างอ่อน
ี งคน
ประมาณ 1 ปี กล่าวคือ บางเวลามีอาการหูแว่วได ้ยินเสย
ื้
นินทาแต่ไม่บอ
่ ยนัก และบางครัง้ หลงผิดโดยคิดว่าตนเองมีเชอ
สายเจ ้า บางวันไม่ยอมอาบน้ า หัวหน ้างานอายุ 55 ปี เป็ นอดีต
พยาบาลเริม
่ ให ้เวลาดูแลผู ้ใต ้บังคับบัญชาผู ้นีม
้ านาน 2 เดือน
ี งแว่วลดลงไปกว่าเดิม
อาการเสย
ึ ษาที่ ๑ มักแยกตัว ในชว่ งพักตอนกลางวัน บางทีพด
กรณีศก
ู พร่า
ั ถาม กรณีศก
ึ ษามักนิง่ ไม่ยอมตอบ
บ่นคนเดียว ถ ้ามีคนซก
38
กรณี ศก
ึ ษาที่ ๑
ึ ษายังมีพฤติกรรมขาด
จากการประเมินสภาพจะเห็นว่ากรณีศก
ความไว ้วางใจ แยกตัวเอง การวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพของ
ึ ษารายนีอ
ึ ษายังมีภาวะหวาดระแวงมี
กรณีศก
้ ธิบายว่า กรณีศก
อาการหลงผิดในบางครัง้ อารมณ์และพฤติกรรมจะสอดคล ้องกับ
ึ ษาจะขาดความไว ้วางใจเพราะความรู ้สก
ึ มี
ความหลงผิด กรณีศก
ึ ษาจะทาให ้
คุณค่าในตนเองลดลง ความหลงผิดของกรณีศก
แสดงออกถึงความขลาดกลัว ลังเลไม่แน่ใจแต่ยงั ไม่ถงึ ขัน
้ แยกตัว
ออกจากสงั คม
39
กรณี ศก
ึ ษาที่ ๑
สาเหตุ
ึ ษาที่ ๑ ได ้รับความกดดันเรือ
ในวัยเด็กกรณีศก
่ งการเรียน
เนือ
่ งจากผลการเรียนไม่เป็ นทีน
่ ่าพอใจของบิดาและมารดา จึง
เกิดความเครียดจากการไปเรียน เพือ
่ ไม่ให ้ความเครียดเพิม
่ มาก
ึ ษาจะตัดการรับฟั งและการทาความเข ้าใจคนและ
ขึน
้ กรณีศก
สภาวะรอบข ้างออกไป โดยอยูก
่ บ
ั ตนเองและโลกจินตนาการของ
ึ ษาพบว่าการมีชวี ต
ื้ เจ ้าทางเหนือเป็ นที่
ตนเอง กรณีศก
ิ ทีม
่ เี ชอ
ึ ษาได ้
ใฝ่ ฝั นของเด็กๆทีช
่ อบฟั งนิยายหรือตานานและเมือ
่ กรณีศก
ื้ เจ ้าแล ้วทาให ้กรณีศก
ึ ษามีความสุขมาก
จินตนาการตนเป็ นเชอ
และพอใจกับการทีต
่ นเป็ นอย่างนัน
้
40
กรณี ศก
ึ ษาที่ ๑
ึ ษาที่ ๑ พบว่าเมือ
อีกประการหนึง่ กรณีศก
่ ตนเรียนไม่ด ี
บิดามารดาจะตาหนิและเพือ
่ นๆก็จะซ้าเติม จึงมีความ
หวาดระแวงในมิตรภาพจากคนรอบข ้าง เพราะคนรอบข ้างมัก
คาดหวังให ้ตนเป็ นบางอย่างแต่การให ้ความเข ้าใจหรือ
ชว่ ยเหลือมีน ้อย เมือ
่ ไม่ได ้อย่างทีบ
่ ค
ุ คลรอบข ้างคาดหวัง ตน
ึ ษาจึงขาดความไว ้ใจผู ้อืน
กลับถูกตาหนิดงั นัน
้ กรณีศก
่ และ
หวาดระแวงในคนอืน
่ ว่าจะมากล่าวตาหนิและทาร ้ายจิตใจตน
อย่างไรก็ตามการทีต
่ นทาตัวแบบนัน
้ ในปั จจุบน
ั ระหว่าง
ึ ษาทางานไม่เสร็จในบางครัง้ และมี
การทางาน ก็ทาให ้กรณีศก
ึ ษาเห็นความสาคัญของการทางาน
เพือ
่ นไม่คอ
่ ยมาก กรณีศก
และการมีเพือ
่ นในทีท
่ างาน จึงต ้องการลดหรือขจัดอาการจิต
นาการออกไป
41
กรณี ศก
ึ ษาที่ ๑
การปรึกษา
ึ ษานีแ
การวางแผนการพยาบาลในกรณีศก
้ บ่งออกเป็ น 2
ระยะ กล่าวคือ
ึ ษาต ้องการ
ระยะแรกเป็ นการกาหนดเป้ าหมายคือ กรณีศก
ปลอดจากภาวะหวาดระแวงและขจัดการจิตนาการเพือ
่ การ
ั พันธภาพเมือ
ึ เป็ นมิตร กิจกรรมในระยะแรก
สร ้างสม
่ มีความรู ้สก
นีจ
้ งึ มุง่ แก ้ไขปั ญหาดังต่อไปนี้
1) ขจัดการจิตนาการ และ
2) ขจัดภาวะหวาดระแวง
42
กรณี ศก
ึ ษาที่ ๑
่
ระยะทีสอง
เน ้นการชว่ ยเหลือดูแลให ้มีการป้ องกันการกาเริบ
และการลดขนาดของอาการเพือ
่ คงไว ้ซงึ่ ภาวะสุขภาพในระดับ
ทีท
่ าหน ้าทีข
่ องตนได ้อย่างเหมาะสมกับสภาพ และพัฒนาการ
มีสว่ นร่วมของเพือ
่ นๆในทีท
่ างานได ้อย่างถูกต ้อง
ดังนัน
้ กิจกรรมการปรึกษาในระยะนีจ
้ งึ ประกอบด ้วย
ึ ษาสามารถรับรู ้ความเป็ นจริง
๑) การสง่ เสริมให ้กรณีศก
่ งั คมได ้
และปรับตัวเข ้าสูส
๒) การสอนและฝึ กทักษะเพือ
่ นร่วมทางานเพือ
่ สง่ เสริมให ้
ึ ษาอย่างถูกต ้อง
มีการทางานร่วมกับกรณีศก
ึ ษาพบว่า กรณีศก
ึ ษาสามารถ
ผลลัพธ์ทเี่ กิดขึน
้ กับกรณีศก
ั พันธภาพกับผู ้อืน
สร ้างสม
่ ได ้ โดยมีพฤติกรรมแสดงออกถึง
ความมัน
่ ใจทีด
่ ข
ี น
ึ้ กว่าเดิม
43
กรณี ศก
ึ ษาที่ ๑
บทเรียนจากกรณี ศก
ึ ษาที่ ๑
ึ ษาที่ ๑ นัน
กรณีศก
้ มีความทรงจาไม่ดใี นวัยเด็กทีต
่ นเรียน
่ นัน
ไม่ดถ
ี ก
ู กดดันจากผู ้อืน
่ เมือ
่ ตนรับสภาพเชน
้ ไม่ได ้ตนจึง
สร ้างจิตนาการเพือ
่ หนีความจริงว่าตนนัน
้ มีความสุขเป็ นเจ ้าคน
ึ ษาที่ ๑ อยูใ่ นสมาธิ
นายคน การย ้อนรอยอดีตโดยให ้กรณีศก
และการทีผ
่ ู ้บังคับบัญชาสร ้างความเป้ นมิตรและแสดงความ
เข ้าใจยอมรับทีจ
่ ะชว่ ยเหลือทัง้ ทางจิตใจและการทางาน ทา
ึ ษาที่ ๑ สามารถย ้อนรอยอดีตไปถึงต ้นเหตุของ
ให ้กรณีศก
ปั ญหาได ้ การทีห
่ วั หน ้าใชค้ าพูดทีเ่ ป้ นการให ้อภัยกับ
ึ ษาที่ ๑ และให ้กาลังใจอยูเ่ สมอเป็ นเหตุให ้การย ้อน
กรณีศก
รอยอดีตเป็ นผลสาเร็จ
44
กรณี ศก
ึ ษาที่ ๑
ึ ษาที่ ๑
เมือ
่ ย ้อนถึงเหตุการณ์ทเี่ ป็ นวิกฤตคือครัง้ ทีก
่ รณีศก
สอบได ้คะแนนตา่ มากจากนัน
้ ก็ได ้รับการตาหนิจากบิดามารดา
ึ ษาคาดหวังว่า เมือ
อย่างมาก ในขณะนัน
้ กรณีศก
่ ตนได ้คะแนน
น ้อยบิดามารดาจะแสดงความเห็นอกเห็นใจพูดจาอ่อนโยน
และชว่ ยตนเรียนมากขึน
้ แต่ความเป็ นจริงนัน
้ ตนกลับได ้รับสงิ่
ทีต
่ รงกันข ้ามจากบิดาและมารดา ในการย ้อนรอยอดีตครัง้ ที่ ๒
ึ ษาที่ ๑ ได ้ย ้อนรอยโดยไม่ตงั ้ ความหวังใดจากบิดา
กรณีศก
มารดา จะพบว่าบิดามารดาก็ตาหนิเหมือนเดิมแต่ตนนัน
้ ไม่ม ี
อารมณ์ผด
ิ หวังใดๆจากการกระทาของบิดามารดา
ึ ษาที่ ๑ ได ้ถอยกลับนาความทรงจาพร ้อมอารมณ์ใหม่
กรณีศก
นีม
้ าเป็ นความทรงจาปั จจุบน
ั และเรียนรู ้ทีจ
่ ะไม่คาดหวังสงิ่ ใด
มากเกินไปกว่าทีต
่ นจะรับได ้
45
กรณี ศก
ึ ษาที่ ๑
ึ ษาที่ ๑
สว่ นในเรือ
่ งของการสร ้างจิตนาการนัน
้ เมือ
่ กรณีศก
ตัง้ สติได ้ดีเขาพบว่า หลักการทีส
่ าคัญคือต ้องทาให ้
ึ ษามีความภูมใิ จในตัวเองจากความเป็ นตัวตนในวันนี้
กรณีศก
ึ ษาที่ ๑
และผลงานในอดีตก็ได ้ หัวหน ้างานสามารถนากรณีศก
ค ้นพบจุดเด่นของตนเองหลายประการทัง้ ในชวี ต
ิ ปั จจุบน
ั และ
ึ ษาที่ ๑ ได ้รู ้ว่าตนนัน
ในวัยเด็ก กรณีศก
้ มีความสาคัญมากกว่า
ทีต
่ นเคยคิดและการเป้ นตัวตนในสงิ่ ทีด
่ น
ี ัน
้ มีคา่ กับตนเองและ
คนอืน
่ มาก การทีต
่ งั ้ จิตนาการว่าตนเองเป้ นคนอืน
่ อาจทาให ้
ตนมีความสุขในการเป็ นคนอืน
่ แต่ตนก็สามารถมีความสุขจาก
การเป้ นตัวของตัวเอง อีกทัง้ หัวหน ้าและผู ้ร่วมงานจะมี
ความสุขกับตนเมือ
่ ตนเป็ นตัวของตัวเอง
46
การบาบัดด้วยการฝึ กสติ
การบาบัดตามทฤษฎีแบบจิต
วิเคราะห ์
(Analytic
View)
การบาบัดตามทฤษฎี
Cognitive
(Cognitive View)
47
พุทธศาสนา ใน
มุมมองของ
นักบาบัด และ
นักAnalytic
วิทยาศาสตร
์
View
Cognitive View
48
Analytic view
ในอดีต
•
•
•
•
Sigmund Freud
Carl Jung
Franz Alexander
Eric Fromm
ร่วมสมัย
• Mark Epstein
49
พระพุทธศาสนา
ในมุมมองของนัก
บาบัด
Sigmund Freud
Alexander Franz
Carl Jung
Eric Fromm
50
Sigmund Freud
ได้ร ับอิทธิพลในการฝึ กสมาธิภาวนา จากโรแมน
โรลแลนด ์
ผู ซ
้ งเป็
ึ่ นศิษย ์ของอาจารย ์ฮินดู ท่านวิเวกนันทะและ
ท่านรามกฤษณะ
“Oceanic feeling” เป็ น
Sigmund Freud
ความรู ้สึกอ ันไร ้ขอบเขต
และกลืนรวมเป็ นหนึ่ ง
เดียวกับจักรวาล
เหมือนกับการได้ยอ
้ นกลับ
่ งช่วยเหลือ
ไปยังว ัยเด็กทียั
ตัวเองไม่ได้
1856 - 1939
51
Carl Jung
ผู ท
้ ให้
ี่ ความสนใจกับปร ัชญาตะวันออก
โดยเฉพาะพุทธศาสนานิ กายเซน
มีทศ
ั นะการทาจิตบาบั
า รู่ ้ก ันว่า ชาว
“เป็ดว่นที
Carl Jung
1842-1896
ตะวันออกมีวธ
ิ ก
ี ารจัดการก ับ
้
จิตร ้าย ๆ เหล่านี มานาน
่ ธก
กว่า 2000 ปี แล้ว ซึงวิ
ี าร
้ น
้ เป็ นวิธท
เหล่านี นั
ี น่
ี่ าสนใจ
และก้าวหน้าเกินกว่าวิธท
ี ี่
ชาวตะวันตกใช้ก ันอยู ่ ” 52
Eric Fromm
่
ผู ท
้ พยายามเชื
ี่
อมโยงจิ
ตวิทยาตะว ันตกและตะว ันออก
เข้าด้วยกัน ในประเด็นการเข้าใจตนเองตามความเป็ น
่
จริง (Self-Realization) ให้ความเห็นเกียวก
บ
ั สติวา
่ :
Eric Fromm
1900-1980
“...มันเป็ นการร ับรู ้
สภาวะขณะปั จจุบน
ั ตาม
ความเป็ นจริง โดยไม่ได้
บิดเบือนหรือปนเปื ้ อนไป
ด้วยความคิดเลย...”
53
Mark Epstein
่
มีทศ
ั นะว่า สติโดยต ัวมันเอง ก็เป็ นเครืองมื
อใน
การบาบัดอยู ่แล้ว …
Mark Epstein
“...ถ้าคุณสามารถ
่ น
กลับมามีสติ ซึงเป็
่
วิถท
ี างทีจะปลดปล่
อยให้
คุณเป็ นอิสระได้ คุณก็จะ
่ ยกว่า
เข้าใจถึงสภาวะทีเรี
จิตว่าง…”
54
Books by Mark Epstein
55
Mechanism of Change
in Analytic View
• มีการแยกกันของอีโก้ (Ego Splitting)
• สังเกตอย่างเป็ นกลาง (Detached
Observation)
• สลายเงื่อนไขเดิม (Deconstruction)
• เข้าใจตัวเอง (Make Unconscious
Conscious)
• เรียนรู ้ใหม่ (New Learning)
่
• เปลียนแปลง
(Working Through)
56
Mechanism of Change
Ego Splitting
่ สติ Ego จะถู กแยกเป็ น
เมือมี
Ego ผู เ้ ฝ้าสังเกต (Observing Ego) กับ
่ าลังเผชิญกับปั ญหา
Ego ทีก
(Experiencing Ego)
โดย Observing Ego จะเป็ นผู ท
้ คอยสั
ี่
งเกต
อาการ
่ ดขึน
้
ของร่างกายและจิตใจทีเกิ
57
Mechanism of Change
Detached Observation
การฝึ กสติ เป็ นการสังเกตโดยไม่
แทรกแซง
่ ปรากฏขึ
่
้ ร่
่ างกายกับจิตใจทีละ
สิงที
นที
ขณะ ๆ
้ า
เรียกวิธก
ี ารสังเกตเช่นนี ว่
การสังเกตอย่างเป็ นกลาง (Bare
Attention) หรือ
58
Mechanism of Change
ตัวอย่างการสังเกตอย่างเป็ นกลาง เช่น
่ ความสุขเกิดขึน
้
เมือมี
้
ก็ ร ับรู ้ ว่ามีความสุขเกิดขึน
้
และ ไม่ตด
ิ ใจยึดถือ ความสุขนันเอาไว้
่
้
เมือความทุ
กข ์เกิดขึน
้
ก็ ร ับรู ้ ว่ามีความทุกข ์เกิดขึน
้
และ ไม่ร ังเกียจผลักไส ความทุกข ์นัน
59
Mechanism of Change
Deconstruction
การเกิด Ego Splitting และ Bare Attention
่
มีลก
ั ษณะเหมือนกับการดู ละครทีแสดง
บนเวที
ผู ด
้ ูไม่ได้มส
ี ่วนร่วมในการแสดง เสมือน
กับไม่ม ี
การใช้กลไกทางจิต หรือมีการใช้กลไก
ทางจิตลดลง
60
Mechanism of Change
Make Unconscious Conscious
่
และเมือไม่
มก
ี ารใช้กลไกทางจิต หรือใช้
กลไกทางจิต
น้อยลง โดยการสังเกตอย่างเป็ นกลาง จะ
่ ่ในจิต
ทาให้สงที
ิ่ อยู
้
ไร ้สานึ ก โผล่ขนมายั
ึ้
งจิตสานึ กได้ง่ายขึน
61
Mechanism of Change
New Learning
่ ๆ เห็นสิงที
่ อยู
่ ่
การมีสติอยู ่เรือย
ภายในจิตไร ้
่ ๆ จะทาให้
สานึ กของตัวเองเรือย
เกิดการ
เรียนรู ้แบบใหม่ คือ
1.รู ้จักตัวเอง : ความคิด อารมณ์
พฤติกรรม
62
Mechanism of Change
Working Through
่ ๆ
เป็ นผลของการรู ้จักตัวเองเรือย
่
จะเริมยอมร
ับตัวเอง และปล่อยวางได้ ใน
่ ด
ทีสุ
่ นไตรลักษณ์
ในทางพระพุทธศาสนา บุคคลทีเห็
ของกายและใจ จนจิตยอมร ับความจริงว่า กายและใจ
่ เปลียนแปลงและบั
่
ไม่ใช่เรา เพราะไม่เทียง
งคับไม่ได้
เรียกว่า “พระโสดาบัน”
63
Mechanism of Change
สรุป
การมีสติ
Ego Splitting
Bare Attention
Deconstruction
Make Unconscious Conscious
New Learning
Working Through
64
พุทธศาสนา ใน
มุมมองของ
นักบาบัด และ
นักAnalytic
วิทยาศาสตร
์
view
Cognitive View
65
MBSR
Mindfulness-Based Stress Reduction
Jon Kabat-Zinn
้ั
้ นในปี
้
จัดตงโปรแกรมนี
ขึ
1979
ที่ University of
Massachusetts
Medical School
66
Cognitive View
มีการสอนให้ผูป
้ ่ วยฝึ กสติอย่างเป็ นรู ปแบบ โดย
Jon Kabat
่
เมือประมาณ
30 ปี ก่อน
่ เรียกว่า Attention Training
Mindfulness ทีใช้
Zinn
่
เริมจากบ
าบัดผู ป
้ ่ วยโรคทางกาย เช่น โรคมะเร็ง
โรคผิวหนัง
โรคหัวใจ โรคปวด โรคเอดส ์ โรคความดันสู ง
ฯลฯ
ต่อมาจึงใช้ร ักษาโรคทางจิตเวชเช่น เครียด
67
Cognitive View
ต่อมา:
และคณะได้นาการฝึ กสติมาใช้
้
ในการป้ องกันการกลับกาเริบซาของผู
ป
้ ่ วย
โรคซึมเศร ้า
Teasdale
โดยผสมผสานก ับการบาบัดด้วยความคิด
พฤติกรรมบาบัด (Cognitive Behavior Therapy - CBT)
่ นทีมาของการบ
่
่ ยกว่า
ซึงเป็
าบัดร ักษาทีเรี
Mindfulness-Based Cognitive Therapy (MBCT)
68
แนวคิด MBCT
Mindfulness-Based Cognitive Therapy
่ ฒนามาจาก MBSR
เป็ นรู ปแบบทีพั
Developed by
Zindel Segal, Mark Williams, and John Teasdale
้ ังโดยเฉพาะ
ใช้ก ับผู ป
้ ่ วยโรคซึมเศร ้าเรือร
Zindel Segal
Mark Williams
John Teasdale
69
Cognitive View
กับ Mindfulness
เป็ นการจัดการกับความคิดเหมือนกัน แต่
ต่างกันที่
Mindfulness
CBT
CBT
เป็ นการร ับรู ้
ความคิดอัตโนมัต ิ
แล้วปร ับความคิด
ให้เหมาะสมและ
ตรงความจริงมาก
้ (more appropriate
ขึน
and more realistic)
เป็ นการร ับรู ้ว่า
้ แต่
มีความคิดเกิดขึน
่
ไม่ได้ปร ับเปลียน
ความคิด และจะรู ้
ความจริงว่า
้ แล้ว
ความคิดเกิดขึน
จะดับไป
70
Cognitive View
ตัวอย่าง:
่ นผ่านเพือนร่
่
เมือเดิ
วมงาน
้ กทายเพือนร่
่
เรายิมทั
วมงาน
แต่ !!!
เขากลับเดินผ่านเราไปอย่าง
รวดเร็ว...
71
Cognitive View
กับ Mindfulness
เป็ นการจัดการกับความคิดเหมือนกัน แต่
ต่างกันที่
CBT
เขาคงรีบไปห้องน้ า
...
เป็ นการร ับรู ้
เขาคงมองไม่เห็น ...
ความคิดอ ัตโนมัต ิ
แล้วปร ับความคิดให้
เขาคงอารมณ์ไม่ด ี
เหมาะสมและตรง
...
้
ความจริงมากขึน
(more appropriate
เขาคงโกรธเรา...
and more realistic)
เขาคงไม่ชอบเรา...
CBT
72
Cognitive View
กับ Mindfulness
เป็ นการจัดการกับความคิดเหมือนกัน แต่
ต่างกันที่
Mindfulness
รู ้ทัน ว่ากาลังมี
ความคิด ปรุงแต่ง
เป็ นการร ับรู ้ว่า
CBT
้
มีความคิดเกิดขึน
แต่
่
ไม่ได้ปร ับเปลียน
ความคิด และจะรู ้
ความจริงว่า
้
ความคิดเกิดขึน
รู ้ทันอารมณ์ เช่น
่ อนไม่
่
รู ้สึกโกรธ (ทีเพื
สนใจ)
รู ้สึกเสียหน้า
ฯลฯ
73
Mechanism
Mechanism
่ าค ัญ ทีช่
่ วยป้ องกัน
ทีส
้
การกลับเป็ นซาของผู
ป
้ ่ วยโรคซึมเศร ้า
เรียกว่า
Metacognition (หรือ Metacognitive Awareness)
Metacognitive Awareness
เป็ นมุมมองว่า ความคิดและอารมณ์ดา้ นลบ
(ในผู ป
้ ่ วยโรค
ซึมเศร ้า) เป็ นเพียงปรากฏการณ์ของจิตใจ
้
เท่านัน
74
From Researches
Metacognitive Awareness
(1) If reduced, it would be associated
with vulnerability to depression
(2) If increased, it would reduce
depressive relapse
(3) MBCT increases
metacognitive awareness
75
สรุป
- การฝึ กสติมม
ี านานกว่า2,500 ปี โดย
พระพุทธเจ้าสมณโคดม
- มีการนามาใช้และทดลองด้วยกระบวนการ
่
ทางวิทยาศาสตร ์ ซึงพบว่
าได้ผลดี
- แม้วา
่ ทัศนะคติของ dynamic therapist
กับ CBT จะมีความแตกต่างกันบ้าง แต่ผลที่
ร ับก็เป็ นไปในทางเดียวกัน
76
conclusion
Buddhist therapy
Concern
Here and now
Dynamic Tx.
CBT
Uncons.
Conflict
Cognitive
distortion
Techniqu Meditation
e
-mindfulness
-concentration
Supportive 
expressive
tech.
Change
automatic
thought
goal
-Make uncons.
more realistic
Conscious
and positive
-Raise self
view of self,
esteem
other and
world.
Knowing things
as they truly are.
77
ผลของการ
ฝึ กสติ
78