Learning Disabilities (LD )

Download Report

Transcript Learning Disabilities (LD )

Learning disabilities
พญ.กอร์ปบุญ ภาวะกุล
จิตแพทย์เด็กและวัยรุน
่
รพ.ลาพูน
องค ์ประกอบต่างๆของพัฒนาการ
การเรียนรู ้
ความสาม
ารถด ้าน
สติปัญ
ภาษา
ญา
ในชว่ ง5 ปี
ความสามาร
ถในการรับรู ้
สงิ่ ต่างๆ
รอบตัว
การเรียนรู ้
ความสามา
รถในการ
่ างๆ
ร ับรู ้สิงต่
รอบตัว
การมีสมาธิจดจ่อ
(attention)
การมองเห็นและควบคุม
กล ้ามเนีอ
้ มือ (visual
motor ability)
การรับรู ้จากการฟั ง
(auditory process)
ั ผัสต่างๆ
การรับรู ้ผ่านประสาทสม
และการเคลือ
่ นไหว
(perceptual motor, motor
planning)
พัฒนาการด ้าน
อารมณ์ สงั คม
LD คืออะไร
• Learning Disabilities / Learning
Disorder
่ ดจาก
• ความบกพร่องด้านการเรียน ทีเกิ
ความผิดปกติของสมอง
• แสดงออกมาในรู ปของปั ญหาการอ่าน
การเขียน การสะกดคา การคานวณ
เฉพาะด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้าน
รวมกัน
LD คืออะไร
ั หลักการความแตกต่างระหว่าง
• อาศย
ั ยภาพด ้านสติปัญญากับความสามารถ
ศก
หรือทักษะการเรียน
(IQ-achievement discrepancy model)
ั ฤทธิท
• ผลสม
์ างการเรียน (academic
achievement) ตา่ กว่าเด็กวัยเดียวกันทีม
่ ี
ั ้ เรียน
IQ ปกติ อย่างน ้อย 2 ชน
ข ้อจากัดของการใช ้ discrepancy
model
• เด็ก ป.1 และ ป.2 จะไม่ได ้รับการวินจ
ิ ฉั ยว่า
ผิดปกติ ต ้องรอ ป.3
• ขาดโอกาสได ้รับความชว่ ยเหลือตัง้ แต่แรก
• มีหลักฐานการวิจัยทีไ่ ม่สนับสนุน discrepancy
model
- เด็กทีม
่ ป
ี ั ญหาการอ่านต่อเนือ
่ งตัง้ แต่อนุบาล
ั ท์ตา่ งๆได ้
ซงึ่ มีปัญหาการสงั่ สมความรู ้และคาศพ
น ้อย ทาให ้ผล IQ ตอนป.3 ตา่
ั ฤทธิร์ วมไม่ได ้ประเมิน ความ
- ประเมินจากผลสม
ี ง
บกพร่องของการฟั งแยกแยะเสย
่
แนวทางเพือการวิ
นิจฉัยความ
บกพร่องทางการเรียนใหม่
RTI (Response to intervention)
“เสนอ RTI เป็ นแนวทางหนึง่ สาหรับการ
วินจ
ิ ฉั ยปั ญหาความบกพร่องของทักษะการ
เรียนในประเทศสหรัฐอเมริกาตัง้ แต่ปี พ.ศ.
2525 และมีการวิจัยจนเป็ นทีย
่ อมรับใน
ปั จจุบน
ั ”
RTI (Response to intervention)
หลักการ
่ กได้ร ับการสอนหรือประสบการณ์การ
“ เมือเด็
่ กต้องและเหมาะสม เด็กทีมี
่ ปัญหา
เรียนรู ้ทีถู
์
การเรียนจานวนมากจะมีผลสัมฤทธิการเรี
ยน
่ ขน
ทีดี
ึ ้ จนไม่มป
ี ั ญหาความบกพร่องของทักษะ
่ นปั ญหาทีเกิ
่ ดจาก
การเรียน (LD)ซึงเป็
่
พัฒนาการของสมองผิดปกติหรือเบียงเบน
ของเด็ก “
พบLD บ่อยแค่ไหน
• พบร ้อยละ 6-10 ในเด็กวัยเรียน
• ชาย : หญิง 4:1
• บุคคลทีม
่ ป
ี ั ญหาทางการเรียนรู ้สารวจ
ได ้ในปี พ.ศ. 2548 จานวน 271,815
ึ ษา
คน ได ้รับการบริการทางการศก
จานวน 16,928 คน คิดเป็ นร ้อยละ
6.23
LD มีกประเภท
ี่
• 4 ประเภท
1. ความบกพร่องด้านการอ่าน
(dyslexia)
2. ความบกพร่องด้านการเขียน
และสะกดคา
3. ความบกพร่องด้านการคานวณ
4. ความบกพร่องหลายด้านรวมกัน
LD เกิดจากอะไร
1. ความผิดปกติของสมอง
้
- ภาวะแทรกซอนระหว่
างตัง้ ครรภ์
คลอด
- โรคทางระบบประสาท
- ขาดสารอาหาร
2. กรรมพันธุ์
พบในญาติสายตรง 35-50%

การร ับข ้อมูล
(input process)

การรวบรวมข ้อมูล
(Integration process)

ความจา
(Memory process)

การถ่ายทอดข ้อมูล
(Output process)

ปัญหาการร ับข ้อมูล
(input process)
ปัญหาการร ับข ้อมูลผ่านการ
มองเห็น
1. บกพร่องในการจัดวางตาแหน่ ง
่ มองเห็
่
รูปร่างของสิงที
น ถ ภ
, นางองในการจั
งาน ดวางตาแหน่ ง
2. บกพร่
่ มองเห็
่
รูปร่างของสิงที
น และ
การกะระยะ
ปัญหาการร ับข ้อมูลผ่านการได ้ยิน
่ ้ายคลึงกัน
1. บกพร่องในการแยกเสียงทีคล
(กิ้ยินนเสี
ริน
2. ได
ย)งช ้าผิดปกติ

การรวบรวมข ้อมูล
(Integration process)
Sequencing = การเรียงลาดับ
ข ้อมูล
21 / 12, dog/god, ไม่สามารถ
บอกได ้ว่าเดือนถัดไปคือเดือนอะไร
่ บจากเดือนมกราคม
ถ ้าไม่ได ้เริมนั
Abstraction = การให ้
ความหมาย
ไม่เข ้าใจความหมายของ การเล่น
คา , สานวน , มุขตลก
Organization= การจัดระเบียบ
มักพบความไม่เป็ นระเบียบใน
ชีวต
ิ ประจาวัน เช่น โต๊ะหรือห ้องรก ,
จัดเวลาไม่เป็ น , วางแผนไม่ได ้ , ลืม
ของบ่อย)

ปัญหาความจา
(Memory process)
ความจาระยะยาว(long-term
memory)ดี
้
ความจาระยะสัน(Short-term
memory)ไม่ด ี
LD มีปัญหาในการทาสมาธิ
และเก็บข ้อมูล จะต ้องเรียน
ซา้ ๆ มากกว่าปกติ

ความบกพร่องทางภาษา
(Language output)
่
พูดไม่ทน
ั , พูดไม่รู ้เรือง
การถ่ายทอดข ้อมูล
(Output process)
่
ความบกพร่องทางการเคลือนไหว
(Motor output)
้ ด
้ ด
กล้ามเนื อมั
กล้ามเนื อมั
ใหญ่
เล็ก
ความบกพร่องด ้านการอ่าน (reading
disability/ dyslexia)
• ความยากลาบากในการอ่าน
คาได ้อย่างถูกต ้องแม่นยา
คล่องแคล่ว
• พบ 80% ของ LD ทัง้ หมด
• หญิง = ชาย
• แบ่งเป็ น 2 กลุม
่ คือ
- อ่านไม่ออกหรือไม่
คล่อง ลาบาก
- ไม่เข ้าใจสงิ่ ทีอ
่ า่ น
ความบกพร่องด ้านการอ่าน (reading
disability/ dyslexia)
• อ่านชา้ อ่านข ้ามคายาก
้
• อ่านผิดโดยใชการเดา
หรือ
แทนทีค
่ าทีอ
่ า่ นไม่ออกด ้วย
คาอืน
่
ั สนตัวสะกดแม่ตา่ ง ๆ ผัน
• สบ
ี งวรรณยุกต์ไม่ได ้
เสย
• จับใจความสาคัญหรือ
เรียงลาดับเรือ่ งทีอ
่ า่ นไม่ได ้
• หลีกเลีย
่ งการอ่าน
สาเหตุสาคัญของ ความบกพร่องด ้านการ
อ่าน
ี ง
- บกพร่องของทักษะฟั งและแยกเสย
(phonological awareness
weakness)
ื่ มโยงเสย
ี งกับ
- ไม่สามารถการเชอ
ั ลักษณ์ทเี่ ป็ นตัวอักษร
สญ
- เกิดจากความผิดปกติของสมองซงึ่ มี
ผลต่อกระบวนการเรียนรู ้ขัน
้ ตอนใด
ขัน
้ ตอนหนึง่ หรือทัง้ 4 ขัน
้ ตอนผิดปกติ
ไก่
ก. ไก่
ความบกพร่• องด
ยน
แบ่ง้านการเขี
ได ้ 2 ประเภท
องด ้านการเขียน
(writing 1.บกพร่
disability)
สะกดคา
ั พันธ์กบ
-สม
ั ความ
บกพร่องด ้านการฟั งและ
ี ง
การแยกเสย
(phonological
awareness)
2. บกพร่องในการบังคับ
กล ้ามเนือ
้ มือให ้เขียนได ้
ตามปกติ
(motor skill disorder)
่
• บกพร่องทักษะย่อย เชน
ความรวดเร็วในการเขียน ,
ความบกพร่องด ้านการเขียน
(writing disability)
•
เขียนพยัญชนะโดยลากเสน้
วนๆไม่รู ้จะม ้วนหัวเข ้าใน
หรือ ออกนอก
•
เขียนพยัญชนะ ตัวเลขสลับ
่ ม-น, ด-ค, 6-9
ด ้านเชน
•
สะกดคาง่ายๆผิด ต ้องบอก
เป็ นตัวๆ
ื ชา้ หรือ
เขียนหนังสอ
หลีกเลีย
่ งการเขียน
•
•
ความบกพร่องด ้านการคานวณ
(math disability)
ความผิดปกติทักษะการรับรู ้
เชงิ จานวน(number sense)
พบบ่อย ได ้แก่
การนับ
การรู ้จักตัวเลข
ั พันธ์ระหว่าง
รู ้จักความสม
จานวนกับตัวเลข
การเข ้าใจเชงิ อันดับที่
การเปรียบเทียบ
การเพิม
่ และลดจานวน
ความบกพร่องด ้านการคานวณ
(math disability)
•
•
•
•
•
•
ไม่เข ้าใจค่าตัวเลข
นับเลขไปข ้างหน ้าหรือ
ย ้อนไปข ้างหน ้าไม่ได ้
คานวณ + - ด ้วยการนับ
นิว้
จาสูตรคูณไม่ได ้
่
เขียนเลขกลับกัน เชน
13 เป็ น 31
ตีโจทย์เลขไม่ออก
วินิจฉัย LD อย่างไร
1. ประวัต ิ + ข ้อมูลเพิม
่ เติมจากรร.
ผู ้ปกครอง
่ สายตา
2. ตรวจร่างกาย เชน
3. การตรวจทางจิตวิทยา
- IQ
- แบบทดสอบการเขียน การอ่าน
การคานวณ(WRAT test)
ข้อจากัดของ WRAT -test
• ขาดการประเมิน phonological awareness ซงึ่
ได ้แก่ การทดสอบด ้วย non-word เพือ
่ หลีกเลีย
่ ง
การเด็กจามา
• พบว่า การดูแลรักษาเด็กทีม
่ พ
ี ัฒนาการทาง
้
ี่ งใน
ภาษาล่าชาในช
ว่ งปฐมวัยสามารถลดความเสย
ั ฤทธิ์
การเกิดปั ญหาทัง้ ด ้านภาษาและผลสม
ั เจน
ทางการเรียนได ้อย่างชด
่
การวินิจฉัยเริมแรก
่
การวินิจฉัยเริมแรก
• หลักฐานการวิจัยเกีย
่ วกับการอ่านและความบกพร่องการ
อ่าน ได ้วิธป
ี ระเมินทักษะพืน
้ ฐานเบือ
้ งต ้นเพือ
่ ค ้นหากลุม
่
ี่ งในชน
ั ้ ป.1
เสย
ื่ ตัวอักษรต่างๆ
1. ความสามารถในการรู ้จักและบอกชอ
ั พันธ์ระหว่างตัวอักษรและเสย
ี ง ได ้แก่รู ้คา
2. ความสม
ี งพยัญชนะเดียวกัน เชน
่ นม น้ า หนู
ขึน
้ ต ้นด ้วยเสย
ี งทีส
ั พันธ์กบ
3. ความสามารถในการแยกแยะเสย
่ ม
ั
ตัวอักษร (phonological awareness) เป็ นพืน
้ ฐานการ
สะกดคา
การตัดพยัญชนะต ้น - หวาน หวาน
แนะ
แอะ
การตัดพยัญชนะท ้าย - ลูก ลูก
ี่ งตัง้ แต่
แนวทางการคัดกรองกลุม
่ เสย
ปฐมวัย
ี่ ง เชน
่ ประวัตค
1. การประเมินปั จจัยเสย
ิ ลอด
ผิดปกติ ,ภาษาล่าชา้ , การรับรู ้และการควบคุม
กล ้ามเนือ
้ ล่าชา้ (ประเมินโดย DTVP-2) ,สมาธิ
ั้
สน
่ สภาพครอบครัว
2. การประเมินปั จจัยสง่ เสริม เชน
การดูแล
3. การสงั เกตอย่างต่อเนือ
่ งเป็ นระบบ จากประเมิน
ทักษะพืน
้ ฐานทีไ่ ด ้กล่าวมา กาหนดแผนการ
สอน
4. เด็กทีม
่ ค
ี วามบกพร่องรุนแรง
ปั ญหาพฤติกรรมและอารมณ์ท ี่
พบร่วม
• หลีกเลีย
่ งการอ่านการเขียน
• ความจาไม่ด ี ได ้หน ้าลืมหลัง ทาสมุดหาย
บ่อยๆ
• ไม่มส
ี มาธิในการเรียน ทางานชา้ ไม่เสร็จ
ทางานสะเพร่า
• ต่อตก้านแบบดื
้ บเงีโรคสมาธิ
ยบ ไม่ทาตามครูสงั่ ดูเป็ น
LDมั
พบร่วมกัอ
เด็กขีเ้ ส
กีน
ัย
้ จ45%
•
•
•
•
•
•
ึ ตัวเอง ไม่เก่ง รู ้สก
ึ ด ้อย
รู ้สก
ขาดความมั่นใจ มักตอบว่า “ทาไม่ได ้” “ไม่รู ้”
อารมณ์หงุดหงิด ขึน
้ ลงง่าย
เบือ
่ หน่าย ท ้อแท ้กับการเรียน
ก ้าวร ้าวกับเพือ
่ น ครู พ่อแม่ (ทีจ
่ ้าจีจ
้ ้าไช)
ไม่อยากมาเรียน โทษว่าครูสอนไม่ด ี เพือ
่ น
แกล ้ง
่
โรคทีพบร่
วมกับ LD
• พบโรคร่วมได ้ถึง 30-40%
ั ้ 45%
1. สมาธิสน
่ พูดชา้ 20-30% พูดไม่ชด
ั
2. ปั ญหาการพูดเชน
13%
่ ดือ
3. ปั ญหาพฤติกรรม เชน
้ ต่อต ้าน หนีรร.
้
ก ้าวร ้าว ใชสารเสพย์
ตด
ิ
ึ เศร ้า วิตกกังวล
4. โรคซม
5. ปั ญหากล ้ามเนือ
้ มือทางานบกพร่อง
แบบคัดกรองLD
• แบบคัดกรองบุคคลทีม
่ ค
ี วามบกพร่องทางการ
เรียนรู ้
ั้
• แบบคัดกรองนักเรียนทีม
่ ภ
ี าวะสมาธิสน
ึ (KUS-SI)
บกพร่องทางการเรียนรู ้ และออทิซม
การชว่ ยเหลือเด็ก LD
การแพ
ทย์
ึ ษา
การศก
สงั คม
การชว่ ยเหลือทางการแพทย์
่ ให ้พ่อแม่เข ้าใจโรค ,
1. ชว่ ยเหลือครอบครัว เชน
ื ค ้น
ให ้ข ้อมูลเอกสาร แหล่งสบ
ั ยภาพในการเลีย
่ ไม่ให ้สท
ิ ธิ
2. พัฒนาศก
้ งดู เชน
พิเศษเพราะเป็ น LD ,ระเบียบวินัย ,ค ้นจุดเด่น
แก ้จุดด ้อย
3. ชว่ ยให ้เด็กเข ้าใจตนเองและสร ้างความ
ภาคภูมใิ จในตนเอง
่ โรคสมาธิสน
ั้
4. รักษาโรคทีพ
่ บร่วมกับ LD เชน
ิ ธิ์ (พิการ)
5. รักษาสท
จะสอนเด็กLDอย่างไร
1. วิธก
ี ารสอน
- สอนจากสงิ่ ทีง่ า่ ยทีส
่ ด
ุ และจากสงิ่ ที่
คุ ้นเคย
้ หลายครัง้
- การสอนต ้องสอนซ้า ๆ ชาๆ
ต่อเนือ
่ ง
- สอนตัวต่อตัว
- การสอนให ้เห็นภาพและลงมือปฎิบัต ิ
ดีกว่าพูด
- สอนตามขีดความสามารถเด็ก
2. เทคนิ คการสอน
1). การจาคา
2). การสะกดคา
- การดู-ปิ ด-เขียน-ตรวจสอบ
้ กภาษา หรือจาคายกเว ้น
- การใชหลั
3). การฟั ง-พูด-อ่าน-เขียน
่ งทางการสอนอืน
3.ใชช้ อ
่ ๆชว่ ย
- อ่านโจทย์ให ้ฟั งเวลาสอบ oral exam ให ้
เวลาสอบนานขึน
้
มี buddy ชว่ ย
ื นิทาน อ่านป้ าย แผ่นพับ
- หนังสอ
่
4. อนุโลมให ้ใชอุ้ ปกรณ์เสริมเพือ
่ ชว่ ยเด็ก เชน
ี ง
เครือ
่ งคิดเลข คอมพิวเตอร์ เทปอัดเสย
ิ ธิการจดทะเบียนพิการ
5. แจ ้งสท
การแก ้ไขความบกพร่องด ้านการอ่าน
1. ยิง่ เร็วยิง่ ดี
2. สอนกลุม
่ เล็ก 3-4 คน
ี ง phonological
3. เน ้นทักษะการฟั งและแยกเสย
awareness
4. ระยะเวลาต่อเนือ
่ ง 90 นาที ต่อวัน นาน 1-3 ปี
5. ใชอุ้ ปกรณ์เสริม
จับผิดภาพ
การเติมภาพให ้
สมบูรณ์
่ อนอยู่
ค ้นหาภาพทีซ่
้
เด็กLDโตขึนจะเป็
นอย่างไร
• เด็กทีเ่ ป็ นLD จะมีอาการไปจนถึงผู ้ใหญ่
• เด็กทีไ่ ด ้รับการชว่ ยเหลือ จะทาให ้ประสบ
่ การศก
ึ ษาพิเศษ,
ความสาเร็จในชวี ต
ิ เชน
การมองหาความสามารถและความถนัด
ของเด็ก
• รายทีไ่ ม่ได ้รับการชว่ ยเหลือ ; ความ
ภาคภูมใิ จตา่ เรียนไม่จบ มีปัญหาอารมณ์
และพฤติกรรม
ฝึ กสมาธิ mental
image แทนการอ่าน
ั ภาษณ์วา่ ตอนเด็ก ๆ นัน
• คีนู เคยให ้สม
้ เขาเป็ นทุกข์และเก็บกดมาก
ี ของเขา
จากภาวะดิสเล็กเซย
"ตอนเรียนมัธยม ผมดร็อปการเรียนไว ้ แล ้วไปเล่นกีฬาแทน จนได ้
ฉายาว่า เดอะวอลล์ จากตาแหน่งผู ้รักษาประตูยอดเยีย
่ ม
ผมอยากเป็ นผู ้เล่นกีฬาฮอกกี้ ก่อนทีจ
่ ะคิดเป็ นนักแสดง เมือ
่ สมัย
เด็ก ๆ ผมขีอ
้ ายมาก ไม่เคยมัน
่ ใจเลย เว ้นเมือ
่ ตอนได ้อยูบ
่ นน้ าแข็ง
เพราะผมมีปัญหาเรือ
่ งการอ่าน ก็เลยเรียนได ้ไม่ดน
ี ัก จริง ๆ นีผ
่ มก็
ื ก็ไม่คอ
ไม่จบไฮสคูลนะ เพราะว่าผมอ่านหนังสอ
่ ยถูก ผมเลยหันมา
เลือกเล่นกีฬาแทนการเรียน
สมัยนัน
้ ก็ทาเรือ
่ งอะไรไว ้เยอะเหมือนกัน เป็ นชว่ งทีล
่ าบากน่าดูท ี่
กว่าจะรู ้ว่าเราเหมาะกับอะไร จนผมอายุ 15 ปี มันมีบางอย่าง ทีท
่ า
ึ ว่ามัน "ใช"่ สาหรับตัวเอง เพราะ
ให ้ผมได ้ลองงานแสดง แล ้วก็รู ้สก
ึ เหมือนเล่นฮอกกี้ ตรงทีเ่ ราสามารถเป็ นอะไรบางอย่างทีเ่ รา
มันรู ้สก
ไม่ได ้เป็ น และก็ได ้เรียนรู ้มากเลยว่า ถ ้าเราต ้องการจะเป็ นนักแสดง
ิ กับความกลัว และจ ้องลงไปใน
เราต ้องทุม
่ เทแล ้วก็กล ้าทีจ
่ ะเผชญ
วิญญาณของเรา
สาหรับนักแสดง..ภาพยนต์ก็คอ
ื หนทางทีจ
่ ะเอาตัวตนออกไปจาก
ชวี ต
ิ ตัวเอง สาหรับผม ผมยอมให ้งานของผมเอาความวิตกกังวล
ทัง้ หมดออกไปจากใจ และกับวิธก
ี ารแบบนัน
้ มันก็ดต
ี รงทีผ
่ มไม่ต ้อง
มาตัง้ คาถามเดิม ๆ กับตัวเองว่า ชวี ต
ิ ผมต ้องการอะไร ทาไมผมถึง
่ มไม่รักดี แต่ผมมีปัญหาด ้านการอ่านก็เลยไม่อยาก
ไม่เรียน ไม่ใชผ
เรียน
• บุคคลแอลดีทพ
ี่ ด
ู ได ้ถึง 3 ภาษา
“ บุคคลตัวอย่างของ
สมาคมแอลดี ”แห่ง
ประเทศไทย ประจาปี
2551 เป็ นของ คุณภูม ิ
ั ญาพันธ์
สุทธิสญ
•
้ั นแรง เมือตอนเป็
่
คุณภูมเิ ป็ นบุคคลแอลดีขนรุ
นเด็กและ
้ั วมด ้วย เป็ นสมาธิสนขั
้ั นรุ
้ นแรงมาเมือตอนอายุ
่
สมาธิสนร่
10
• ดร.พัชรีว ัลย ์ เกตุแก่นจันทน์ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ
ี ไม่รู ้เลยว่าตัวเองเป็ น เพราะสมัยนัน
• ตอนดิฉันเป็ นดิสเล็กเซย
้ ยัง
ั ้ ด ้วย รู ้แต่วา่ เป็ นทุกข์
ไม่รู ้จักอาการแบบนี้ เผอิญดิฉันเป็ นสมาธิสน
ั เฟอร์มาก เพราะตอนนัน
ซฟ
้ แค่จะเขียน ก ไก่ให ้เหมือนเพือ
่ น ยัง
เขียนไม่ได ้เลย ทุกคนมองเราเหมือนเป็ นตัวประหลาดว่า ทาไม
โตขนาดนี้ เรียน ป.2-ป.3 แล ้ว ยังเขียน ก ไก่ ไม่ได ้
ดิฉันรู ้หมดนะคะ ใครถามอะไรก็ตอบได ้ รู ้เรือ
่ ง แต่พอให ้เขียน
ื กลับเขียนไม่ได ้ พอเขียนไม่ได ้ ครูกบ
หนังสอ
ั พ่อแม่ก็ไม่เข ้าใจ
หาว่าเราขีเ้ กียจ แล ้วก็ตเี รา เพราะเวลาเราเขียน เราจะเขียนกลับ
้ จะเขียนเหมือนกระจก เพราะนั่น
ข ้าง เขียนกลับจากขวาไปซาย
คือภาพทีเ่ ราเห็น
เรือ
่ งแยกคาก็เป็ นปั ญหา อย่างคาว่า รอบอก (รอบ-อก) เราก็อา่ น
รอ-บอก อ.แกลง ครูสอนให ้อ่านแกลง แต่ในสมองเรามันแย ้งว่า
อ่านว่า แก-ลง
ื คนที่
นอกจากจะแยกคา สะกดคาลาบากแล ้ว เวลาอ่านหนังสอ
ี มันจะเหมือนใชเลนส
้
์ ูนมองกระดาษ ตัวหนังสอ
ื
เป็ นดิสเล็กเซย
น
มันจะกองยุบ
่ ยั่บ แต่เราก็บอกใครไม่ได ้ว่าเราเห็นแบบนี้ เพราะ
ื คุณแม่จะใชไม
้ ้บรรทัดทาบ
• "สมัยเด็ก ๆ เวลาอ่าน-เขียนหนังสอ
้
เสนบรรทั
ด เพราะภาษาอังกฤษยังมีเว ้นวรรค แต่ภาษาไทยมา
ื ดิฉันจะเขียนจนตก
ทีเป็ นพรืดเลย แล ้วเวลาเขียนหนังสอ
ขอบกระดาษ เขียนเลยไปบนโต๊ะ แม่ต ้องเอากระดาษมาต่อให ้
แปลกนะคะ ถ ้าดิฉันอ่านเองจะอ่านไม่ได ้ เขียนเองก็ไม่ได ้ แต่
ถ ้ามีใครอ่านให ้ฟั ง ดิฉันกลับจาได ้ทัง้ เล่มเลย
ื ตะกุกตะกัก เวลาเขียนก็จะแยก
อีกอย่างคือ จะอ่านหนังสอ
ี งทีไ่ ด ้ยิน เชน
่ คาว่า ทศกัณฐ ์ จะ
ออกมาเป็ นคา ๆ ตามเสย
เขียน ทด-สะ-กัน หรือ บางทีรู ้แหล่ะว่ามันมีตวั ณ กับ ฐ แต่ก็
เรียงไม่ถก
ู เขียนเป็ น ทศกัฐณ์ ก็ม ี
เรือ
่ งทีเ่ ราบกพร่องเรือ
่ งการเรียนรู ้ทางภาษานี้ สร ้างความ
ปวดร ้าวมาก เพราะตอนนัน
้ มันทาให ้เราเก็บกดหมดความ
ภาคภูมใิ จในตัวเอง คิดว่าตัวเองไม่มค
ี ณ
ุ ค่า เพราะไม่เคยได ้รับ
คาชมเลย มีแต่คนจ ้องจับผิดว่า เดีย
๋ วเราก็ทาผิดอีกหรือทา
่ แยกซายหรื
้
ไม่ได ้อีก ใคร ๆ ก็บอกว่า แค่นก
ี้ ็ทาไม่ได ้ โง่ เชน
อ
ขวาไม่ได ้ เราก็โกรธตัวเองนะว่า มันไม่ได้ยาก แต่ทาไมเราทา
ไม่ได้กไ็ ม่รู ้
• "โชคดีทด
ี่ ฉ
ิ ันได ้คุณแม่และคุณครูทเี่ ข ้าใจ แม่จะรับได ้ว่าดิฉันเป็ น
ดิฉัน ไม่เคยเอาไปเปรียบเทียบกับเด็กคนอืน
่ เลย ไม่เคยได ้ยินเลย
ว่าลูกคนอืน
่ ได ้ทีห
่ นึง่ แล ้วทาไมเธอไม่ได ้ แม ้จะสอบได ้ทีโ่ หล่ แม่ก็
ไม่เคยว่าอะไรเลยค่ะ
สมัยเด็ก ๆ เวลาเขียน-อ่านไม่ได ้ แม่ก็จะหัดจับมือให ้เขียน หัดให ้
้ กการทาซ้าๆ ใชหลั
้ กการเรียนซอ
่ มเสริม อ ้าว อ่านไม่ได ้
อ่าน ใชหลั
ก็ใชวิ้ ธอ
ี ด
ั เทปกัน แล ้วก็ให ้ท่องตาม ทีจ
่ ริง ถ้าพ่อแม่ผูป
้ กครองรู ้ว่า
้ มเด็ก
เด็กเป็ นดิสเล็กเซีย แล้วใช้ความเข้าใจ ไม่ไปทับถมซาเติ
้
หาทางร ักษา พัฒนา ปร ับวิธก
ี ารเลียงดู
เด็กก็จะค่อย ๆ เรียนรู ้ได้
้
แต่อาจจะช้าหน่ อยเท่านันเอง
ี มารู ้เอาตอนเรียน
ตอนแรกดิฉันก็ไม่รู ้หรอกว่าตัวเองเป็ นดิสเล็กเซย
ั ้ ม.5 แล ้ว ตอนนัน
ชน
้ มี ดร.ฝรั่งมาแนะแนว แล ้วมีบททดสอบให ้ทา
ว่าเราเป็ นแอลดีหรือเปล่า ปรากฏว่าดิฉันเป็ นแอลดี 2 อย่าง คือ ดิส
ี กับบกพร่องทางการเคลือ
เล็กเซย
่ นไหว แล ้วอาจารย์ก็ให ้คาแนะนา
ว่าควรทาอย่างไร
ื่ ไหมคะว่าไม่ได ้ตกใจเลย แต่กลับโล่งใจมาก เพราะว่า
ตอนทีร่ ู ้ เชอ
หาสาเหตุมาตัง้ นานแล ้วว่าตัวเราเป็ นอะไร พอรู ้ก็สบายใจและ
หาทางรักษา พัฒนาตัวเองต่อไป เพราะว่าคนทีเ่ ป็ นแอลดีทงั ้ 3
ี จะไม่มท
แบบรวมดิสเล็กเซย
ี างรู ้หรอกว่าตัวเองเป็ นภาวะนี้ มันเกิด
คลินก
ิ จิตเวชเด็กและวัยรุน
่ รพ.
ลาพูน (ห ้องเบอร์ 16)
• เปิ ดบริการ จันทร์ อังคาร พุธ 8.30-12.00
ี : แพทย์ นักจิตวิทยา นัก
• ทีมสหวิชาชพ
กิจกรรมบาบัด
• ให ้บริการ
-ตรวจวินจ
ิ ฉั ย รักษาโดยแพทย์
-ประเมิน IQ ระดับการอ่านคาสะกดคา คานวณ
-ประเมินพัฒนาการและสง่ เสริมพัฒนาการ
- การคาปรึกษาแนะนาเรือ
่ งการปรับพฤติกรรม
การเลีย
้ งดู ฯลฯ
• ทีมวิทยากรให ้ความรู ้
• โทร 053-569100 ต่อ 1261 1262 (คุณสุภท
ั รา
ขัน
้ ตอนการมารับบริการ
1. ผู ้ปกครองพามา
–
–
–
–
–
ั ประวัตแ
ซก
ิ ละให ้แบบประเมินสาหรับครู และพ่อแม่ นัดพบ
แพทย์
พบแพทย์ ประเมินเด็ก ให ้คาแนะนาเบือ
้ งต ้น
นัด IQ , WRAT-test (> ป.3) , DTVP-2 (< ป. 3)
นัดฟั งผล วินจ
ิ ฉัย ให ้การรักษา ในเอกสารแนะนา
ใบรับรองแพทย์
นัดติดตามผล
2. ครูพามา:
- โทรนัดคิว
- ครัง้ แรก พบกุมารแพทย์ตรวจร่างกาย , ประเมิน
WRAT (> ป.3)
- ครัง้ ที่ 2นัดประเมิน IQ
- ครัง้ ที่ 3 รับฟั งผล