วิเคราะห์และสร้างสรรค์สารสนเทศ (Information Analysis and Creativity) หลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศ สุชรี า พลราชม บทที่ 1 แนวคิดเกี่ยวกับสารสนเทศ หัวข้อเนื้อหา •ความสาคัญและบทบาทของ สารสนเทศ •ความหมายและความสาคัญของ การประมวลสารสนเทศสาเร็จรูป วัตถ ุประสงค์เชิงพฤติกรรม •มีความรูค้ วามเข้าใจเกี่ยวกับ ความสาคัญและบทบาทของ สารสนเทศ •มีความรูค้ วามเข้าใจเกี่ยวกับการ ประมวลสารสนเทศสาเร็จรูป.

Download Report

Transcript วิเคราะห์และสร้างสรรค์สารสนเทศ (Information Analysis and Creativity) หลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศ สุชรี า พลราชม บทที่ 1 แนวคิดเกี่ยวกับสารสนเทศ หัวข้อเนื้อหา •ความสาคัญและบทบาทของ สารสนเทศ •ความหมายและความสาคัญของ การประมวลสารสนเทศสาเร็จรูป วัตถ ุประสงค์เชิงพฤติกรรม •มีความรูค้ วามเข้าใจเกี่ยวกับ ความสาคัญและบทบาทของ สารสนเทศ •มีความรูค้ วามเข้าใจเกี่ยวกับการ ประมวลสารสนเทศสาเร็จรูป.

วิเคราะห ์และสร ้างสรรค ์สารสนเทศ
(Information Analysis and Creativity)
หลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศ
สุชรี า พลราชม
่
บทที 1
่
แนวคิดเกียวก ับ
สารสนเทศ
้
หัวข้อเนื อหา
• ความสาคัญและบทบาทของ
สารสนเทศ
• ความหมายและความสาคัญ
ของการประมวลสารสนเทศ
สาเร็จรูป
วัตถุประสงค ์เชิง
พฤติกรรม
• มีความรู ้ความเข ้าใจ
่
เกียวกับความสาคัญและ
บทบาทของสารสนเทศ
• มีความรู ้ความเข ้าใจ
่
เกียวกับการประมวล
ข้อมู ลกับสารสนเทศ
่ ่
“ข้อมู ล” (Data) หมายถึง สิงที
บอกความเป็ นไปของเหตุการณ์ที่
้
เกิดขึน บอกสภาพการณ์หรือ
ปรากฏการณ์ทเกิ
ี่ ดขึน้ อาจเป็ น
ตัวอักษร ตัวเลข หรือรูปภาพ
“สารสนเทศ” หรือ
“สารนิ เทศ”
(Information)
่ ดจากการ
เป็ นข้อความรู ้ทีเกิ
ประมวลหรือสังเคราะห ์
่
(Synthesis) จากข้อมู ลที
่
เกียวข้
อง และสามารถ
นาไปใช้ประโยชน์ในด้าน
กระบวนการของ
สารสนเทศ
ข้อมู
ล
การ
ประมวลผล
สารสนเ
ทศ
ความสาคัญและบทบาทของ
สารสนเทศ
1. สารสนเทศเป็ นบ่อเกิดแห่งความรู ้ ผู ้
ดาเนิ นกิจกรรมสามารถเข ้าถึงสารสนเทศจะทาให ้
เกิดความเข ้าใจและสามารถตัดสินใจจาก
่ ้ร ับได ้
สารสนเทศทีได
2. สารสนเทศเป็ นอานาจ
เป็ นทร ัพยากรที่
่ คณ
ก่อให ้เกิดความรู ้ นับเป็ นอานาจทีมี
ุ ภาพสูงสุด
่ คณ
3. สารสนเทศเป็ นทร ัพยากรทีมี
ุ ค่า
้ั การใช
่
่ านวน
บ่อยครงที
้สารสนเทศทาให ้สารสนเทศเพิมจ
มากขึน้ ดังนั้นการใช ้สารสนเทศจึงเป็ นการนาไปสูก
่ าร
ความสาคัญและบทบาทของ
สารสนเทศ
่ ช่
่ วยลดความไม่
4. สารสนเทศเป็ นสิงที
แน่ นอน การใช ้สารสนเทศทีถู่ กต ้องเหมาะสม จะช่วย
่
ให ้ผูใ้ ช ้คลายความสงสัย หรือลดความไม่รู ้เกียวกั
บ
่
่
่
เรืองราว
หรือเหตุการณ์ตา่ งๆ ซึงจะน
าไปสูก
่ ารเพิม
ความสามารถในการควบคุมผลลัพธ ์ของการตัดสินใจ
5. สารสนเทศสามารถขยาย และใช ้ด ้วยกัน
่
่
ได ้ สามารถนามากลันกรอง
สรุป ย่อ หรือปร ับเปลียน
่ ้องการ ให ้เหมาะสมกับ
รูปแบบให ้อยู่ในลักษณะทีต
่
่ ใ้ ดผูห้ นึ่ งได ้ร ับ
กลุม
่ เป้ าหมายทีแตกต่
างได ้ และเมือผู
่
่ ยังมีโอกาสได ้ร ับและ
สารสนเทศเรืองใดไปแล
้ว บุคคลอืนๆ
ความสาคัญและบทบาทของ
สารสนเทศ
6. สารสนเทศเป็ นเสมือนอาวุธสาคัญใน
การแข่งขัน ช่วยให ้มนุ ษย ์สามารถดาเนิ น
กิจการต่างๆ ได ้อย่างฉลาดขึน้
บทบาทของ
สารสนเทศ
บทบาทของ
สารสนเทศ
ด้
า
นการศึ
ก
ษา
เป็ นองค ์ประกอบสาคัญของการศึกษา และ
กระบวนการเรียนรู ้ ดังจะเห็นได ้ว่าจาก
สถานศึกษาทุกแห่งต ้องมีห ้องสมุดหรือศูนย ์การ
่ นศูนย ์กลางในการจัดเก็บและ
เรียนรู ้เพือเป็
่
้องกับหลักสูตรการ
เผยแพร่สารสนเทศทีสอดคล
เรียนการสอน และเป็ นศูนย ์กลางการเรียนรู ้ด ้วย
้ ส้ อน และ
ตนเองของผูเ้ รียน ดังนั้นหากทังผู
ผูเ้ รียนสามารถเข ้าถึง และได ้ร ับสารสนเทศที่
เหมาะสม ก็จะส่งผลให ้การศึกษาในสาขาต่างๆ
บทบาทของ
สารสนเทศ
ด้
า
นเศรษฐกิ
จ
• การใช ้ทร ัพยากรทางเศรษฐกิจให ้มี
่ น้ และปร ับปรุงการผลิต
ประสิทธิภาพยิงขึ
ประเภทต่างๆ ให ้สอดคล ้องกับรสนิ ยม
และคุณค่าทางสังคม การดาเนิ นการให ้
้
องค ์ประกอบทังสองบรรลุ
ผลสาเร็จได ้
่
ผูเ้ กียวข
้องย่อมจะต ้องใช ้สารสนเทศที่
้
เหมาะสมเป็ นพืนฐานส
าคัญในการสร ้าง
่ จารณากาหนด
ความรู ้ แนวคิด เพือพิ
สารสนเทศ
ด้านวิทยาศาสตร ์ และ
• พัฒนาการทางวิทยาศาสตร ์และเทคโนโลยีจะ
เทคโนโลยี
่ นกิจกรรม
ปรากฏไม่ได ้ หากขาดการวิ
จยั ซึงเป็
่ ้องใช ้ทังสารสนเทศปฐมภู
้
่
ทีต
มิ และทุตยิ ภูมเิ พือ
กระตุ ้นให ้เกิดบรรยากาศทางวิชาการ และ
ขยายฐานความรู ้และความคิดในการกาหนด
หัวข ้อ และวิธก
ี ารดาเนิ นการวิจยั ดังนั้น การ
ปรับปรุงให ้นักวิจยั นักวิทยาศาสตร ์และนัก
เทคโนโลยี สามารถเข ้าถึงสารสนเทศที่
่ น้ จะ
เหมาะสมได ้รวดเร็ว และสะดวกยิงขึ
บทบาทของ
สารสนเทศ
ด้าษนอุ
สาหกรรม
• ผูบ้ ริหารบริ
ท
ั อุตต
สาหกรรมจ
าเป็ นต ้องใช ้
่ คณ
สารสนเทศทีมี
ุ ภาพ คือ ถูกต ้อง
ช ัดเจน ทันสมัย และทันเวลา โดยเฉพาะ
สารสนเทศทางด ้านการตลาด ซึง่
้
่
ครอบคลุมทังสารสนเทศเกี
ยวกั
บปฏิก ิริยา
ของผูบ้ ริโภค
บทบาทของ
สารสนเทศ
ด้านว ัฒนธรรม
• สารสนเทศเป็ นองค ์ประกอบสาคัญในการอนุ ร ักษ ์
่ ้กันอยูใ่ น
และส่งเสริมวัฒนธรรม เพราะความรู ้ทีใช
ทุกวงการเป็ นผลผลิตของการพัฒนาการทาง
่ บทอดกันมา ความสามารถในการ
วัฒนธรรมทีสื
เข ้าถึงและใช ้สารสนเทศจะช่วยให ้การบารุงร ักษา
และการส่งผ่านมรดกทางวัฒนธรรมกระทาต่อไปได ้
่ คคลมีความรู ้ ความเข ้าใจในวัฒนธรรม
และเมือบุ
่ ต
ของคนทีอยู
่ า่ งสังคมกัน ก็จะก่อให ้เกิดการติดต่อ
่
่
ความไม่พอเพียงในการใช้
่
สารสนเทศเพือการพัฒนา
ประเทศ
1. การตระหนักถึงคุณค่าและบทบาทของ
สารสนเทศ
– การกระตุ ้นพฤติกรรมการใช ้ความรู ้ และการสร ้าง
่
แรงจูงใจให ้เห็นประโยชน์ของการใช ้สารสนเทศเพือการ
ปร ับปรุงยังมีนอ้ ย
่ วยแก ้ปัญหาและ
– การนิ ยมใช ้ประสบการณ์เพือช่
ตัดสินใจมากกว่าการแสวงหาความรู ้
่ ้ให ้สอดคล ้อง
– การไม่สามารถปร ับแต่งสารสนเทศทีใช
่ ้องการปร ับปรุงแก ้ไข
กับปัญหาเฉพาะทีต
่ กต ้องตรงกับความต ้องการในรูปแบบและ
– สารสนเทศทีถู
่ ความ
ภาษามีจานวนน้อยหรือมีมากเกินไปเมือมี
ต ้องการ
ความไม่พอเพียงในการใช้
่
สารสนเทศเพือการพัฒนา
ประเทศ
(ต่
อ
)
2. การมีอยูน
่ อ้ ย หรือการไม่มี
่ ้องการ อาจจะต ้องผลิตขึน้
สารสนเทศทีต
ใหม่ สารสนเทศทีจ่ าเป็ นต่อการพัฒนา สามารถ
จาแนกได ้หลายลักษณะ เช่น
่
2.1 การจาแนกตามประเภทสารสนเทศ ซึงบางได
้
เป็ น 3 ประเภท ได ้แก่
- สารสนเทศทางด ้านวิทยาศาสตร ์ และ
สารสนเทศวิชาเฉพาะ - สารสนเทศทางด ้านการ
ความไม่พอเพียงในการใช้
่
สารสนเทศเพือการพัฒนา
ประเทศ
(ต่อ) ้ และการถ่ายทอด
2.2
การจาแนกตามการใช
-
-
สารสนเทศ สามารถแบ่งได ้เป็ น 4 ประเภทได ้แก่
สารสนเทศประเภท know-why เป็ นสารสนเทศ
่ ้ความรู ้เกียวกั
่
ทางด ้านวิทยาศาสตร ์ทีให
บหลักการ
สารสนเทศประเภท know-how เป็ นสารสนเทศที่
่
อธิบายให ้ความรู ้เกียวกั
บวิธก
ี ารเทคนิ ค
สารสนเทศประเภท show –how เป็ นสารสนเทศที่
่
ให ้ความรู ้เกียวกั
บการปฏิบต
ั ิ
สารสนเทศประเภท know – who เป็ นสารสนเทศที่
่ นแหล่ง
้ เป็
่
บแหล่งสารสนเทศทังที
ให ้ความรู ้เกียวกั
ความไม่พอเพียงในการใช้
่
สารสนเทศเพือการพัฒนา
ประเทศ
(ต่
อ
)
3. การเข ้าถึงสารสนเทศ หมายถึง การเข ้าถึง
สารสนเทศทางปัญญา (intellectual access) และการ
เข ้าถึงสารสนเทศทางกายภาพ (physical access) ซึง่
่ าคัญต่อการใช ้สารสนเทศเช่นกัน
เป็ นอุปสรรคทีส
่ วยให ้ผูใ้ ช ้สามารถเข ้าถึงสารสนเทศ
กระบวนการทีจะช่
ทางปัญญา เช่น การวิเคราะห ์ การจัดหมวดหมู่ การทา
ดรรชนี และการปร ับโครงสร ้างใหม่ เป็ นต ้น
่ วยให ้ผูใ้ ช ้สามารถเข ้าถึงสารสนเทศทาง
กระบวนการทีจะช่
่
กายภาพ คือ การจัดบริการเพือเผยแพร่
เช่น บริการยืมคืน บริการข่าวสารทันสมัย บริการเผยแพร่สารสนเทศ
ความไม่พอเพียงในการใช้
่
สารสนเทศเพือการพัฒนา
ประเทศ
4. การใช ้ให ้เป็ นประโยชน์ ควรหาแนวทางแก ้ไขซึง่
อาจทาได ้ดังนี ้
่ ้สามารถประเมินความ
• ศึกษาผูใ้ ช ้อย่างใกล ้ชิดเพือให
ต ้องการบริการสารสนเทศและจัดบริการ
่
• เพิมบทบาทของนั
กวิชาชีพสารสนเทศจากผู ้ดูแล
่
สารสนเทศให ้เป็ นสือกลางระหว่
างสารสนเทศกับผูใ้ ช ้โดย
่
การแนะนาและให ้ความรู ้แก่ผูใ้ ช ้เกียวกั
บวิธก
ี ารร ับและนา
สารสนเทศไปใช ้ได ้อย่างเหมาะสม
• ขยายขอบเขตของสารสนเทศและบริการสารสนเทศให ้
สัมพันธ ์ และครอบคลุมบุคคลเฉพาะกลุม
่
้ อการ
• จัดระบบทร ัพยากรสารสนเทศให ้เหมาะสม และเอือต่
•สาเหตุในการไม่ใช ้
สารสนเทศทัง้ 4 ด ้าน
ดังกล่าวข ้างต ้น สามารถ
สรุปได ้ว่า มีปัจจัยหลัก 2
่ าให ้บุคคล
ประการ ทีจะท
ยอมร ับ และนาสารสนเทศ
ไปใช ้ประโยชน์ในการ
้
1.ระดับโครงสร ้างพืนฐาน
่
ทางสารสนเทศ ซึงหมายถึ
ง
แหล่งผลิตและแหล่งบริการ
้
สารสนเทศ รวมทังแหล่
งผลิต
่ า
นักวิชาชีพสารสนเทศ ทีจะท
่ ้องการมีอยู่
ให ้สารสนเทศทีต
่
และสามารถเข ้าถึงเพือ
นามาใช ้ประโยชน์ได ้
่
2. องค ์ประกอบทีจะท
าให้ผูใ้ ช้
เป้ าหมายกลุ่มต่างๆ มีความ
่
สนใจทีจะใช้
สารสนเทศ
เช่น การศึกษา วัฒนธรรม สภาพ
ทางเศรษฐกิจ การเมือง และปัจจัย
่ ซึงจะท
่
ทางสังคมอืนๆ
าให ้ผูใ้ ช ้
ตระหนักถึงคุณค่า และตระหนักถึง
ความต ้องการสารสนเทศ และใช ้
่ ้เกิดประโยชน์
สารสนเทศเพือให
ภาวการณ์ทะลักของสารสนเทศ
และส่งผลให้เกิดปั ญหาในการใช้
้
่
่ ยวข้
สารสนเทศดั
ง
นี
อง
1. ปริมาณของสารสนเทศทีเกี
่ เนื อหา
้
กับความต้องการหรือทีมี
่งมีจานวน
่
่
่
องหนึ
องใดเรื
เกียวกับเรื
มากเกินไปจนล้นเหลือ เป็ นเหตุให ้
ผูใ้ ช ้เกิดความรู ้สึกต ้องการใช ้สารสนเทศ
น้อยลง เนื่ องจากต ้องใช ้เวลาและพลังงาน
่ ้ได ้ร ับสารสนเทศดังกล่าว
มากเพือให
่ อยู ่มากมายนาเสนอ
2. สารสนเทศทีมี
ภาวการณ์ทะลักของสารสนเทศ
และส่งผลให้เกิดปั ญหาในการใช้
้่
สารสนเทศดั
ง
นี
3. สารสนเทศทีมีอยู ่นาเสนอในบริบท
่ ใ้ ช้ไม่คน
ทีผู
ุ ้ เคย จึงเป็ นการจากัด
ความรู ้ความเข ้าใจ ทาให ้ไม่สามารถ
นาไปใช ้ประโยชน์ได ้เต็มที่
่ อยู ่นาเสนอโดยใช้
4. สารสนเทศทีมี
่ สัญลักษณ์ ทีไม่
่
ช่องทาง สือ
สะดวกต่อการนาไปใช้ ทาให ้ผูใ้ ช ้รู ้สึก
่ ดตามหรือลดความต ้องการใช ้
ยากทีจะติ
ความหมายและ
ความสาคัญของการ
ประมวลสารสนเทศ
สาเร็จรู ป
้
่
่
้
• แม้ในพืนทีทีมีความพร ้อมทังใน
้
ด ้านโครงสร ้างพืนฐานทาง
สารสนเทศ และองค ์ประกอบที่
่
ส่งเสริมให ้เกิดความสนใจทีจะ
ใช ้สารสนเทศ การนา
สารสนเทศไปใช ้ ยังไม่สามารถ
ก่อให ้เกิดประโยชน์สงู สุดอย่าง
่
ทีควรจะเป็
นได ้ เพราะยังคงมี
่
สารสนเทศทีเหมาะสม
หมายถึง
่
่ อยูอ
• สารสนเทศทีตรงและถู
กต ้องซึงมี
่ ย่าง
พอเพียง และอยูใ่ นรูปแบบและระดับที่
่ ความต ้องการ
เข ้าใจได ้ง่ายสาหร ับผูใ้ ช ้ทีมี
่ ้องการใช ้ ด ้วยเหตุนี ้ จึงได ้มี
ในช่วงเวลาทีต
ความพยายามในการแก ้ปัญหาดังกล่าว
่ นว่าเหมาะสม คือ การ
และวิธก
ี ารหนึ่ งทีเห็
ประมวลสารสนเทศสาเร็จรูป
(information repackaging) หรือการ
การประมวลสารสนเทศ
สาเร็จรู ป หมายถึง
่
• การแปลงหรือการปร ับเปลียน
วิธก
ี ารนาเสนอสารสนเทศให ้
่ ใ้ ช ้
อยู่ในลักษณะและรูปแบบทีผู
สามารถใช ้และเข ้าใจได ้ง่าย
โดยการนาสารสนเทศมา
ปร ับแต่งให ้สอดคล ้องกับความ
กระบวนการการประมวลสารสนเทศ
สาเร็จรูป
่
1) การแปลงสารสนเทศให้อยู ่ในลักษะที
สอดคล้องก ับความต้องการของผูใ้ ช ้
เฉพาะกลุม
่ หรือแต่ละบุคคล
2) การนาเสนอสารสนเทศในรู ปแบบใหม่ที่
ผูใ้ ช ้สามารถนาไปใช ้ได ้ง่าย
้
3) การจัดเนื อหาของสารสนเทศใหม่
โดยจะ
พิจารณาถึงความต้องการของผู ใ้ ช้
้ ผลผลิ
้
กลุม
่ เป้ าหมายเป็ นหลัก ทังนี
ตใหม่อาจ
่ พม
อยูใ่ นรูปแบบของสือตี
ิ พ ์ สือ่
การประมวลสารสนเทศสาเร็จรู ป เป็ น
่ ่งจัดการ
บริการสารสนเทศทีมุ
สารสนเทศให้เหมาะสมสอดคล้องกับ
ความต้องการเฉพาะของผู ใ้ ช้ โดยการ
่
่
เชือมโยงแนวคิ
ดเกียวกั
บการให ้คาปรึกษา
ด ้านสารสนเทศ และการปร ับแต่งสารสนเทศ
่
่ ม
่
ซึงประกอบด
้วยกระบวนการต่างๆ เพือเพิ
คุณค่าให ้แก่สารสนเทศ โดยการอานวย
ความสะดวกในการเข้าถึงสารสนเทศ
้
ทังทางกายภาพ
(physical) ครอบคลุม
การกาหนดสัญลักษณ์ รูปแบบ ช่องทาง และ
่
ระบบสือของสารสนเทศใหม่
ส่วนทางมโน
่
ภาพ (conceptual) จะเกียวข
้องกับการ
• สภาพปัญหาในการใช ้สารสนเทศที่
่ ้กล่าว
ปรากฏในลักษณะต่างๆ ดังทีได
มาแล ้วข ้างต ้น จึงได ้มีความพยายามที่
้
จะแก ้ปัญหาโดยวิธก
ี ารต่างๆ ทังการ
ประยุกต ์ใช ้เทคโนโลยีสารสนเทศที่
ทันสมัย และเหมาะสม การกระตุ ้นและ
ส่งเสริมให ้นักวิชาชีพสารสนเทศไดร้ ับ
่ น้ และการเพิม
่
การศึกษาเพิมขึ
ประสิทธิภาพในการให ้บริการทางด ้าน
ความสาค ัญ
ของการประมวล
สารสนเทศ
่
่
1. เป็ นเครืองมื
อทีจะช่
วย
ประหยัดเวลา และแรงงานของ
ผู ใ้ ช้ในการค้นหา เพราะการ
ประมวลสารสนเทศสาเร็จรูปจะ
ประกอบด ้วยกิจกรรมต่างๆ เป็ นลาดับ
้
้ การศึกษาความ
ขันตอน
ตังแต่
ต ้องการของผูใช
้ ้ การคัดเลือกและ
่ ใ้ ช ้ต ้องการเพือ
่
ประเมินสารสนเทศทีผู
นามาวิเคราะห ์ สังเคราะห ์ และจัดให ้อยู่
2. เป็ นแนวทางในการลดช่องว่าง
การประมวลสารสนเทศสาเร็จรูป จะ
ช่วยสร ้างผลผลิตใหม่ทสกั
ี่ ดความรู ้
จากงานวิจยั ของผูส้ ร ้างสารสนเทศ
่
เหล่านั้นมาสูผ
่ ู ้ทีจะเป็
นผู ้ใช ้ ซึง่
่
นับเป็ นการเพิมประสิ
ทธิผลในการ
่
่ เนื อหาลึ
้
้
สือสารสารสนเทศที
มี
กซึงและ
ซ ับซ ้อนมากๆ โดยมีการดัดแปลงให ้
เหมาะสมและง่ายต่อกลุม
่ ผูใช
้ ้ได ้ดีขน
ึ้
3. เป็ นวิธก
ี ารขยายช่องทางในการ
ถ่ายทอด และนาส่งสารสนเทศที่
เหมาะสมให้แก่ผูใ้ ช้ ทาให ้ผูใ้ ช ้
่ ้องการได ้
เข ้าถึงสารสนเทศทีต
กว ้างขวาง และรวดเร็วขึน้ เพราะการ
ประมวลสารสนเทศสาเร็จรูปจะช่วย
่
เพิมปริ
มาณผลผลติทมี
ี่ สารสนเทศ
ตรงกับความต ้องการของผูใ้ ช ้มากขึน้
4. เป็ นแนวทางในการจัดบริการ
่ คณ
สารสนเทศทีมี
ุ ภาพ การ
ประมวลสารสนเทศสาเร็จรูป
่ าไปสูก
ประกอบด ้วยกระบวนการทีน
่ าร
สร ้างผลผลิตของสารสนเทศในรูปแบบ
ใหม่ทเหมาะสม
ี่
และสอดคล ้องกับ
ความต ้องการของผูใช
้ ้เฉพาะกลุม
่ หรือ
้
บุคคล การนาแนวทางนี ไปใช
้ในการ
่
จัดบริการสารสนเทศจึงเป็ นการเพิม
กิจกรรมการประมวลสารสนเทศ
สาเร็จรู ป
1. การศึกษาผู ท
้ มี
ี่ ความเป็ นไปได้วา
่
จะเป็ นผู ใ้ ช้สารสนเทศ (Study of
potential users) หมายถึง
่
การศึกษาผูใ้ ช ้กลุม
่ เป้ าหมายซึงมี
ลักษณะเฉพาะในด ้านต่างๆ
กิจกรรมการประมวลสารสนเทศ
สาเร็จรู ป (ต่อ)
2. การคัดเลือกแหล่งสารสนเทศ
และการประเมินคุณค่าสารสนเทศ
(Selection of information
sources and evaluation of
information) หมายถึง การคัดเลือก
แหล่งสารสนเทศ ตัดสินคุณค่า ความ
่ อ และคุณภาพ
ถูกต ้อง ความน่ าเชือถื
ก่อนจะนามาประมวลให ้อยู่ในรูปแบบที่
กิจกรรมการประมวลสารสนเทศ
สาเร็จรู ป (ต่อ)
3. การวิเคราะห ์ และการสังเคราะห ์
สารสนเทศ (Analyzing and
synthesizing information)
่
หมายถึง การจาแนกสารสนเทศทีมี
่ จารณา
คุณค่าแต่ละส่วนเพือพิ
่
ใคร่ครวญ และกลันกรองให
้ได ้เฉพาะ
สาระสาคัญ และนาสาระสาคัญต่างๆ ที่
ได ้มาหลอมรวม หรือผสมผสาน
่
้
ขันตอนการประมวลสารสนเทศ
สาเร็จรู ป (ต่อ)
4. การปร ับโครงสร ้างของ
สารสนเทศ (Restructuring of
information) หมายถึง การกาหนด
และการพัฒนาวิธก
ี ารนาเสนอ
่ านการวิเคราะห ์ และ
สารสนเทศทีผ่
การสังเคราะห ์แล ้วให ้อยู่ในลักษณะที่
สนองความต ้องการของผูใ้ ช ้ และ
เหมาะสมกับการเผยแพร่ และใน
้
ขันตอนการประมวลสารสนเทศ
สาเร็จรู ป (ต่อ)
่ ับ
5. การจัดบรรจุสารสนเทศทีปร
โครงสร ้างแล้ว (Packaging and
/ or repackaging of
restructured of information)
หมายถึง การถ่ายทอดสารสนเทศลง
่ จะอ
่ านวยความสะดวกในการ
บนสือที
นาไปใช ้ประโยชน์ตามความต ้องการ
ของผู ้ใช ้
้
ขันตอนการประมวลสารสนเทศ
สาเร็จรู ป (ต่อ)
6. การเผยแพร่ และการตลาด
สารสนเทศสาเร็จรู ป
(Dissemination and marketing
repackaged information)
่ านการ
หมายถึง การนาส่งสารสนเทศทีผ่
ประมวลให ้สาเร็จรูปแล ้วสูม
่ อ
ื ผูใ้ ช ้ โดยใช ้
่
ช่องทางของสือในรู
ปแบบต่าง ๆ เช่น สือ่
้
ตีพม
ิ พ ์/ไม่ตพ
ี ม
ิ พ ์ รวมทังการใช
้วิธก
ี ารทาง
่
ตลาดเพือกระตุ
้น และสร ้างความเข ้าใจอัน
้
ขันตอนการประมวลสารสนเทศ
สาเร็จรู ป (ต่อ)
7. การประเมินผลสารสนเทศ
สาเร็จรู ป (Evaluation of
repackaged information)
่ าผลทีได
่ ้มาเป็ นแนวทาง
หมายถึง เพือน
ในการปร ับปรุงและพัฒนาผลผลิตใหม้ ี
่ น้
คุณภาพยิงขึ
การปร ับแต่งสารสนเทศ
หมายถึง
่ ยวกั
่
• กิจกรรมทีเกี
บการประเมิน
่
คุณค่า และการกลันกรอง
้ นๆ
สาระของเอกสารชินเด่
้
รวมทังการปร ับแต่งสาระ และ
จัดรูปแบบใหม่ทได
ี่ ้ความ
่ อได ้ ให ้แก่
กะทัดร ัดและเชือถื
• การประมวลสารสนเทศสาเร็จรูป
่ ้ร ับการยอมร ับใน
เป็ นวิธก
ี ารทีได
ขณะนี ว่้ าจะลดอุปสรรคและ
่ ดขึนเกี
้ ยวกั
่
แก ้ปัญหาต่างๆ ทีเกิ
บ
่ าวกันว่าสามารถ
สารสนเทศ ซึงกล่
แก ้ปัญหาได ้ตรงจุด เพราะแนวคิด
หลักการของการประมวล
สารสนเทศสาเร็จรูป สามารถเอือ้
ประโยชน์แก่ผใช
ู ้ ้ได ้ตรงกับความ