การวินิจฉัยการติดเชื้อในโรงพยาบาล
Download
Report
Transcript การวินิจฉัยการติดเชื้อในโรงพยาบาล
การวินิจฉัยการติดเชื้อ ในโรงพยาบาล
(Definitions for Nosocomial
Infections)
นางสายสมร พลดงนอก
พยาบาลควบคุมการติดเชื้อ
หน่วยควบคุมการติดเขื้อ โรงพยาบาลศรีนครินทร์
การติดเชื้อในโรงพยาบาล
• การติดเชื้ออันเป็ นผลจากการทีผ่ ้ ูป่วยได้ รับเชื้อจุลชีพ
ขณะอยู่ในโรงพยาบาล
: Endogenous
: Exogenous
• ไม่ มีอาการมาก่ อน
• ไม่ อยู่ในระยะฟักตัว
การติดเชื้อในโรงพยาบาล
• ถ้าไม่ทราบระยะฟักตัว ใช้ เวลา 48 ชั่วโมงขึน้ ไป
• ความสาคัญ
ระยะเวลาการอยู่รักษาในโรงพยาบาล
ค่ าใช้ จ่ายในการรักษา
อัตราตาย
CDC definitions for nosocomial infections 1996
หลักเกณฑ์ การวินิจฉัย
• Clinical, Lab, Other diagnostic tests
•
•
•
•
แพทย์ ให้ การวินิจฉัย
แพทย์ ให้ ยาต้ านจุลชีพ
การติดเชื้อตาแหน่ งใหม่
การติดเชื้อตาแหน่ งเดิม เชื้อใหม่
ภาวะทีต่ ้ องแยกจากการติดเชื้อในรพ.
•
•
•
•
ภาวะแทรกซ้ อนจากการติดเชื้อในชุมชน
การติดเชื้อตั้งแต่ อยู่ในครรภ์
ภาวะ Colonization
โรคทีก่ ่ อให้ เกิดการอักเสบในระบบต่ างๆ
แนวทางการวินิจฉัยการติดเชื้อในโรงพยาบาล
Clinical signs and symptoms
Laboratory test
Diagnostic test
Infection
Community
acquired infection
Nosocomial
infection
No infection
- inflammation
- colonization
- contamination
การติดเชื้อในโรงพยาบาล : 13 ตาแหน่ งสาคัญ
•
•
•
•
Urinary tract
Surgical site
Pneumonia
Bloodstream
•
•
•
•
Bone and joint
CNS
CVS
ENT
• GI
• Lower respiratory tract, other
than pneumonia
• Reproductive tract
• Skin & soft tissue
• Systemic
การติดเชื้อ
ในระบบทางเดินปัสสาวะ
การติดเชื้อ
ในระบบทางเดินปัสสาวะในโรงพยาบาล
หมายถึง :
การทีผ่ ้ ูป่วยมีภาวะ Significant bacteriuria หลังจากอยู่
ในโรงพยาบาล 48 ชั่วโมง โดยอาจมีหรือไม่ มีอาการและ
อาการแสดงของการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะก็ได้
Catheter associated urinary
tract infection ; CaUTI
หมายถึง :
การทีผ่ ้ ูป่วยมีภาวะ Significant bacteriuria หลังจากอยู่ใน
โรงพยาบาลและคาสายสวนปัสสาวะตั้งแต่ 48 ชั่วโมง
หรือภายใน 7 วัน หลังถอดสายสวนปัสสาวะโดยอาจมี
หรือไม่ มีอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อในระบบ
ทางเดินปัสสาวะก็ได้
Significant bacteriuria
หมายถึง :
• พบเชื้อแบคทีเรีย > 105 CFU/mL จากการเพาะเชื้อปัสสาวะ
(Midstream-clean catched urine) หรื อ
• พบเชื้อแบคทีเรีย > 102 CFU/mL จากการเพาะเชื้อปัสสาวะที่ได้
จากการเจาะนา้ ปัสสาวะจากกระเพาะปัสสาวะหรือเก็บผ่ านทาง
สายสวนปัสสาวะ และ นา้ ปัสสาวะจากหลอดไต
การวินิจฉัยการติดเชื้อ
ในระบบทางเดินปัสสาวะ
Symptomatic Urinary Tract Infection
เกณฑ์การวินิจฉัยที่ 1
ผู้ป่วยมีอาการอย่างน้อย 1 อย่างดังต่อไปนี้:
ไข้ (BT>380C)
กลั้นปัสสาวะไม่ อยู่
ปัสสาวะบ่ อย
ปัสสาวะแสบขัด
กดเจ็บบริเวณหัวหน่ าว
ร่วมกับ
ในผู้ป่วยอายุ <1 ปี
ไข้ (BT>380C)
Hypothermia (BT<370C)
Apnea
หัวใจเต้ นช้ า
ปัสสาวะแสบขัด
Lethargy
อาเจียน
ตรวจพบเชื้อในปัสสาวะ >105 cfu/ml ขึ้นเชื้อไม่เกิน 2 ชนิด
Symptomatic Urinary Tract Infection
เกณฑ์การวินิจฉัยที่ 2
ผู้ป่วยมีอาการอย่างน้อย 2 อย่างดังต่อไปนี้:
ไข้ (BT>380C)
กลั้นปัสสาวะไม่ อยู่
ปัสสาวะบ่ อย
ปัสสาวะแสบขัด
กดเจ็บบริเวณหัวหน่ าว
ในผู้ป่วยอายุ <1 ปี (>1 ข้ อ)
ไข้ (BT>380C)
Hypothermia (BT<370C)
Apnea
หัวใจเต้ นช้ า
ปัสสาวะแสบขัด
Lethargy
อาเจียน
ร่ วมกับ ข้ อใดข้ อหนึ่งดังต่ อไปนี้
การตรวจ urine dipstick ให้ ผลบวกสาหรับ leukocyte esterase
และ/หรือ nitrate พบเม็ดเลือดขาว > 3/HPF ในปัสสาวะทีไ่ ม่ ได้ ปั่น
หรือ > 10/HPF
ในปัสสาวะทีป่ ั่น
พบเชื้อจากการย้ อมสี แกรมของปัสสาวะทีไ่ ม่ ได้ ปั่น
พบเชื้อ > 102 cfu/ml ในปัสสาวะทีเ่ ก็บผ่ านสายสวนขึน้ เชื้อชนิด
เดียวกัน
อย่ างน้ อย 2 ครั้ง
ตรวจพบเชื้อในปัสสาวะ < 105 cfu/ml ขึน้ เชื้อชนิดเดียวในขณะที่
ผู้ป่วยได้ รับยาปฏิชีวนะอยู่
ข้ อควรระวัง
• กรณีผู้ป่วยทีไ่ ม่ มีอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อในระบบ
ทางเดินปัสสาวะ ควรตรวจพบเชื้อในปัสสาวะ >105 cfu/ml
ขึน้ เชื้อชนิดเดียวกัน 2 ครั้ง
• กรณีผลเพาะเชื้อจากปัสสาวะขึน้ เชื้อหลายชนิด ให้ สงสั ยว่ าเป็ น
การปนเปื้ อนไว้ เป็ นสิ่ งแรก จนกว่ าจะพิสูจน์ ได้
• การตรวจพบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะเพียงอย่ างเดียว อาจเกิด
จากสาเหตุอนื่ ๆนอกเหนือจากการติดเชื้อทีร่ ะบบทางเดิน
ปัสสาวะ
การติดเชื้อ
ปอดอักเสบ
ปอดอักเสบ
จากการติดเชื้อในโรงพยาบาล
หมายถึง :
การเกิดภาวะปอดอักเสบหลังจากผู้ป่วยเข้ ารับการ
รักษาในโรงพยาบาลตั้งแต่ 48 ชั่วโมงขึน้ ไป
Ventilator-Associated
Pneumonia
หมายถึง :
การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนล่างหรือ
การเกิด ภาวะปอดอักเสบในขณะที่ผป้ ู ่ วยเข้ารับการ
รักษาใน โรงพยาบาล และใช้เครื่องช่วยหายใจตัง้ แต่
48 ชม. ขึน้ ไป หรือภายใน 48 ชม. หลังการถอด
เครื่องช่วยหายใจ
การวินิจฉัยภาวะปอดอักเสบ
New or progressive
infiltration
Consolidation
Cavitation
Pneumatoceles ในเด็ก
อายุ ≤ 1 ปี
การวินิจฉัยภาวะปอดอักเสบ
ร่ วมกับ ผู้ป่วยมีอาการและอาการแสดงอย่ างน้ อย 1 อย่าง ดังต่ อไปนี้
ไข้ BT > 38 C โดยไม่ มีสาเหตุอนื่
๐
มีภาวะ leukopenia (wbc <4000/mm3) หรือ
leukocytosis (wbc ≥ 12000/mm3)
มีภาวะสั บสนในผู้ป่วยทีม่ ีอายุ ≥ 70 ปี โดยไม่ พบสาเหตุอน
ื่
การวินิจฉัยภาวะปอดอักเสบ
ร่ วมกับ ผู้ป่วยมีอาการและอาการแสดงอย่ างน้ อย 2 อย่าง ดังต่ อไปนี้
เริ่มมีลกั ษณะของเสมหะเปลีย่ นไป เสมหะเป็ นเขียว เป็ นหนอง
หรือมีปริมาณเพิม่ ขึน้
เรื่มมีอาการไอ หรืไอรุนแรง หรือมีภาวะหายใจลาบากหรือ
หายใจเร็ว
ตรวจปอดพบเสี ยงผิดปกติ (Rales, Bronchial
breath sound)
Worsening gas exchange
การติดเชื้อ
ระบบทางเดินหายใจส่ วนล่ างอืน่ ๆ
ในโรงพยาบาล
เกณฑ์ การวินิจฉัยการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่ วนล่างอืน่ ๆ
Bronchitis, Tracheobronchitis, Bronchiolitis, tracheitis
ลักษณะทางคลินิกและภาพรังสี ไม่ เข้ ากับภาวะปอดอักเสบ
และ
ผู้ป่วยมีอาการหรืออาการแสดงอย่ างน้ อย 2 ข้ อดังต่ อไปนี้ :
ไข้ ไอ มีเสมหะหรือมีเสมหะเพิม่ ขึน้ Rhonchi หรือ
Wheezing และ
หลักฐานของการติดเชื้อ เช่ น
1. เพาะเชื้อขึน้ จากสิ่ งส่ งตรวจทีไ่ ด้ จาก Deep tracheal aspirate หรือ
การส่ องกล้องหลอดลม
2. ตรวจพบแอนติเจนของเชื้อจาก Respiratory secretion
การติดเชื้อที่แผลผ่ าตัด
ชนิดของแผลผ่ าตัด
แผลผ่าตัดสะอาด (Clean wound)
• แผลผ่าตัดที่เตรียมการผ่ าตัดล่วงหน้ า เย็บปิ ดหลังผ่าตัด และไม่ ได้ ใส่ ท่อ
ระบายหรือระบายแบบเปิ ด
• แผลผ่าตัดทีผ่ ่ าผ่านเนือ้ เยือ่ ที่ไม่ มีการอักเสบหรือการติดเชื้อ
• แผลผ่าตัดที่ผ่าไม่ ผ่านทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ และ
ระบบสื บพันธุ์
• ระหว่ างผ่ าตัด ไม่ มเี หตุการณ์ ทจี่ ะละเมิดมาตรการปลอดเชื้อ
ชนิดของแผลผ่ าตัด
แผลผ่ าตัดสะอาดปนเปื้ อน
(Clean contaminated wound)
• แผลผ่ าตัดที่ผ่าผ่ านทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร
• แผลผ่ าตัดที่ผ่าผ่ านทางเดินปัสสาวะ และระบบสื บพันธุ์โดยที่
ไม่ พบเชื้อจากการเพาะเชื้อของนา้ ปัสสาวะ
• แผลผ่ าตัดที่ผ่าผ่ านทางเดินนา้ ดีโดยที่ไม่ มีการติดเชื้อในนา้ ดี
• ระหว่ างผ่ าตัด ไม่ มีเหตุการณ์ ทจี่ ะละเมิดมาตรการปลอดเชื้อเล็กน้ อย
ชนิดของแผลผ่ าตัด
แผลผ่าตัดปนเปื้ อน (Contaminated wound)
• แผลผ่ าตัดผ่ านแผลภยันตรายที่เป็ นแผลเปิ ดและเกิดขึน้ ใหม่ ๆ
• แผลผ่ าตัดที่ผ่าผ่ านทางเดินอาหารทีม่ ีการรั่ว
• แผลผ่ าตัดทีผ่ ่ าผ่ านทางเดินปัสสาวะ ระบบสื บพันธุ์ หรือทางเดิน
นา้ ดี ทีม่ ีการติดเชื้อของนา้ ปัสสาวะหรือนา้ ดี
• แผลผ่ าตัดที่ผ่าผ่ านเนือ้ เยือ่ ที่มีการอักเสบแต่ ยังไม่ มีหนอง
• ระหว่ างผ่ าตัด ไม่ มีเหตุการณ์ ทจี่ ะละเมิดมาตรการปลอดเชื้อมาก
ชนิดของแผลผ่ าตัด
แผลผ่าตัดสกปรก (Dirty wound)
• แผลผ่ าตัดผ่ านแผลภยันตรายที่มีเนือ้ เยือ่ ทีต่ าย มีสิ่ง
แปลกปลอม มีการปนเปื้ อนของอุจจาระ หรือทีม่ ีการล่ าช้ าใน
การรักษา
• แผลผ่ าตัดช่ องท้ องในกรณีทอี่ วัยวะภายในทะลุ
• แผลผ่ าตัดที่ผ่านเนือ้ เยือ่ ที่เป็ นหนอง
การติดเชื้อตาแหน่ งแผลผ่ าตัด
ในโรงพยาบาล
หมายถึง : การติดเชื้อที่ตาแหน่ งแผลผ่าตัด ซึ่งเกิดขึน้
• ภายใน 30 วัน หลังการผ่ าตัด (แผลผ่ าตัดทัว่ ไป)
• ภายใน 1 ปี หลังการผ่ าตัด (แผลผ่ าตัดที่มกี ารใส่
อุปกรณ์ หรืออวัยวะเทียม)
ตาแหน่ งของการติดเชื้อทีแ่ ผลผ่ าตัด
• Superficial incisional surgical site infection
: skin + subcutaneous tissue
• Deep incisional surgical site infection
: fascia + muscle
• Organ/space surgical site infection
ตาแหน่ งของการติดเชื้อที่แผลผ่ าตัด
การวินิจฉัยการติดเชื้อที่แผลผ่ าตัด
Superficial incisional surgical site infection
มีอาการอย่ างน้ อย 1 ข้ อ ต่ อไปนี้
1. มีหนองออกจากแผลผ่ าตัด
2. แยกเพาะเชื้อได้ จากของเหลว/เนือ้ เยือ่ จากแผลผ่ าตัด
3. ผู้ป่วยมีอาการแสดงทางคลินิกอย่ างน้ อย 1 ข้ อต่ อไปนี้
ปวดกดเจ็บ บริเวณแผลบวม บริเวณแผลแดง/ร้ อน
4. ศัลยแพทย์ ให้ การวินิจฉัยว่ ามีการติดเชื้อ
การวินิจฉัยการติดเชื้อที่แผลผ่ าตัด
Deep incisional surgical site infection
มีอาการอย่ างน้ อย 1 ข้ อ ต่ อไปนี้
1. มีหนองออกจากแผลผ่ าตัดชั้นใต้ ผวิ หนัง
2. ผู้ป่วยมีอาการแสดงทางคลินิกอย่ างน้ อย 1 ข้ อต่ อไปนี้
มีไข้ > 38 ๐C /ปวดบริเวณแผล/ กดเจ็บ แผลแยกเองร่ วมกับเพาะ
เชื้อขึน้ จากแผล
3. พบหนองหรือหลักฐานการติดเชื้อที่ deep incision ในระหว่างการ
ผ่ าตัดซ้า จากผลพยาธิหรือภาพรังสี
4. ศัลยแพทย์ ให้ การวินิจฉัยว่ามีการติดเชื้อ
การวินิจฉัยการติดเชื้อที่แผลผ่ าตัด
Organ/space surgical site infection
มีอาการอย่ างน้ อย 1 ข้ อ ต่ อไปนี้
1. มีหนองออกจากท่ อที่ใส่ ไว้ แผลผ่ าตัดภายในอวัยวะ/ช่ องโพรง
2. แยกเพาะเชื้อได้ จากของเหลว/เนือ้ เยือ่ จากแผลผ่ าตัด
3. พบหนองหรือหลักฐานการติดเชื้อที่ deep incision ในระหว่างการ
ผ่ าตัดซ้า จากผลพยาธิหรือภาพรังสี
4. ศัลยแพทย์ ให้ การวินิจฉัยว่ ามีการติดเชื้อ
การติดเชื้อในกระแสเลือด
การติดเชื้อในกระแสเลือด
ส่ วนใหญ่ ของการติดเชื้อในกระแสเลือดในรพ.มัก เป็ น
device associated bloodstream infection
ปัจจัยเสี่ ยง
Host Factors
Medical devices Factors
การติดเชื้อในกระแสโลหิต
ในโรงพยาบาล
หมายถึง :
การเกิดติดเชื้อในกระแสโลหิต หลังจากผู้ป่วย
เข้ ารับการรักษาในโรงพยาบาลตั้งแต่ 48 ชั่วโมงขึน้ ไป
Blood Stream Infection
(CR / Line)
หมายถึง :
การติดเชื้อในกระแสโลหิตในขณะทีผ่ ้ ูป่วยเข้ ารับ
การรักษาใน โรงพยาบาลและใส่ central line ตั้งแต่
48 ชั่วโมงขึน้ ไป หรือ ภายใน 48 ชม. หลังการถอดสาย
central line
การวินิจฉัยการติดเชื้อ
จากการใส่ สายสวน
1. Phlebitis
Inflammation of vein, caused by
chemical in infusate or mechanical
irritation
Infection may subsequently develop
to Septic thrombophlebitis (increase
risk of CRI)
2. Catheter Colonization
พบเชื้อจากผล C/S ปลายสาย catheter lumen /catheter hub
ไม่ มีอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อที่แทงเข็ม/สายสวนและ
การติดเชื้อในกระแสโลหิต
Catheter
Colonization
3. Local Catheter Infection
Exit site infection : บวม แดงของผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ใต้ ผวิ หนัง
ในระยะ 2 ซม. จากตาแหน่ งสายสวน โดยทีไ่ ม่ มี BSI
Tunnel infection : บวม แดงของผิวหนังและเนือ้ เยือ่ ใต้ ผวิ หนังใน
ระยะ > 2 ซม. จากตาแหน่ งสายสวนและลามลึกลงไปใต้ ผวิ หนังตามสาย
โดยทีไ่ ม่ มี BSI
4. CR-Bloodstream Infection
Isolation of the same organism from
culture of a catheter segment and from the
blood with accompanying clinical symptoms and
no other apparent source of infection
การติดเชื้อในกระแสโลหิต
PRIMARY BLOODSTREAM INFECTION
- การติดเชื้อในกระแสเลือดที่ไม่ สัมพันธ์ กบั การติดเชื้อใน
ตาแหน่ งอืน่ ๆ
- การติดเชื้อในกระแสโลหิต associated device
SECONDARY BLOODSTREAM INFECTION
การติดเชื้อในกระแสเลือดที่สัมพันธ์ กบั การติดเชื้อใน
ตาแหน่ งอืน่ ๆ
PRIMARY BLOODSTREAM
INFECTION
Laboratory confirmed
bloodstream infection
Clinical sepsis
Laboratory confirmed
bloodstream infection
ประกอบด้ วยข้ อใดข้ อหนึ่งดังต่ อไปนี้
1. พบเชื้อทีเ่ ป็ น Pathogen ในกระแสเลือด ( ≥ 1 specimen)
และเชื้อนั้นไม่ สั มพันธ์ กบั การติดเชื้อที่ตาแหน่ งอืน่ หรื อ
2. ผู้ป่วยมีอาการข้ อใดข้ อหนึ่งต่ อไปนี้ :
ไข้ (> 380), หนาวสั่ น, ความดันโลหิตต่า
เด็กอายุ < 1 ปี มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต่ อไปนี้ :
ไข้ (> 380), hypothermia(< 370), apnea, bradycardia
ร่ วมกับ ข้ อใดข้ อหนึ่งต่ อไปนี้
ถ้ าเชื้อที่พบในกระแสเลือดเป็ น common skin
contaminant จะต้ องขึน้ อย่ างน้ อย 2 specimensและเชื้อ
นั้นไม่ สัมพันธ์ กบั การติดเชื้อที่ตาแหน่ งอืน่
พบเชื้อที่เป็ น common skin contaminant ในกระแส
เลือดของผู้ป่วยที่มี vascular device และแพทย์ ได้
พิจารณาว่ าเป็ นการติดเชื้อจริง
เชื้อ common skin contaminant
Diphtheroides (Corynebacterium spp)
Bacillus spp. (not B. anthracis)
Propionibacterium spp.
Coagulase-negative staphylococci
Micrococcus
Aerococcus spp.
Viridans group streptococci
เชื้อทีเ่ ป็ นสาเหตุของ BSI
Causative Organism
• Coagulase neg Staphylococcus
•
•
•
Staphylococcus aereus
Entercocci
Candida albicans
O c c u r r e n c e(%)
37
16
14
8
Clinical Sepsis
ต้ องมีลกั ษณะอย่ างน้ อย 1 ข้ อ ต่ อไปนี้
1. ผู้ป่วยมีอาการข้ อใดข้ อหนึ่งต่ อไปนี้ โดยไม่ พบสาเหตุอนื่ :
- ไข้ (> 380) - ความดันโลหิตต่า (SBP < 90)
- ปัสสาวะออกน้ อย(< 20 CC./hr)
และ
- ไม่ ได้ เพาะเชื้อ/เพาะเชื้อไม่ ขนึ้
- ไม่ พบการติดเชื้อทีต่ าแหน่ งอืน่
- แพทย์ ให้ ยาต้ านจุลชีพเพือ่ การรักษา
Clinical Sepsis
2. เด็กอายุ < 1 ปี มีอาการข้ อใดข้ อหนึ่งต่ อไปนี้ โดยไม่ พบสาเหตุอนื่ :
- ไข้ (> 380 C) - Hypothermia (BT < 370 C)
- Apnea
- Bradycardia
และ
- ไม่ ได้ เพาะเชื้อ/เพาะเชื้อไม่ ขนึ้
- ไม่ พบการติดเชื้อที่ตาแหน่ งอืน่
- แพทย์ ให้ ยาต้ านจุลชีพเพือ่ การรักษา
สรุปเกณฑ์ การวินิจฉัยการติดเชื้อในโรงพยาบาล
1. การติดเชื้อใน รพ. ต้ องไม่ ใช่ การติดเชื้อที่ตรวจพบตั้งแต่
แรกรับ
2. กรณีผ้ ูป่วยติดเชื้อตั้งแต่ แรกรับให้ พจิ ารณาข้ อมูลผู้ป่วยดังนี้
- ผู้ป่วยเคย admit หรือไม่
- ตาแหน่ งการติดเชื้อสั มพันธ์ กบั การรักษาครั้งก่ อนหรือไม่
- ผลตรวจพบเชื้อและลักษณะความไวต่ อยาต้ านจุลชีพ
• ผูป้ ่ วยหลังเข้ารับการรักษาใน รพ. 4 วัน เริ่ มมีไข้ หายใจหอบ
แพทย์วนิ ิจฉัยว่าเป็ นปอดบวม แต่การตรวจเพาะเชื้อจากเสมหะ
ไม่พบเชื้อ ถือว่าเป็ นการติดเชื้อในรพ. หรื อไม่
• ผูป้ ่ วยมา รพ. ด้วย อาการ Pneumonia แรกรับส่ ง TSC พบเชื้อ
P.aeruginosa ต่อมาประมาณ 5 วัน ทา H/C พบเชื้อ P.aeruginosa
ผูป้ ่ วยรายนี้ติดเชื้อใน รพ. ตาแหน่งใดบ้าง
หากมีขอ้ สงสัย
โปรดซักถาม