Transcript 3.5 Shock
What is shock?
ภาวะทีม่ คี วามผิดปกติของระบบไหลเวียนโลหิตเป็ นผลให้มเี ลือดไปเลีย้ งอวัยวะต่างๆ
ไม่เพียงพอและเนื้อเยือ่ ต่างๆได้รบั ออกซิเจนไม่เพียงพอ
Pathophysiology
เส้นเลือดทีไ่ ปเลีย้ งผิวหนัง กล้ามเนื้อ และอวัยวะภายในมีการหดรัดตัวเพือ่ ให้มเี ลือดไป
เลีย้ งอวัยวะสาคัญได้แก่ ไต หัวใจ และสมอง
หัวใจเต้นเร็วขึน้ เพือ่ คงปริมาณเลือดทีอ่ อกจากหัวใจ(cardiac output)ไปเลีย้ ง
ทัวร่
่ างกาย
Tachycardia เป็ นอาการแสดงแรกเมือ่ มีภาวะช็อก
Increase peripheral vascular resistance increase
DBP reduce (narrow) pulse pressure
Pathophysiology
Profound circulatory shock : ภาวะทีก่ ารไหลเวียนโลหิตล้มเหลว มี
การไหลเวียนของเลือดไปเลีย้ งทีผ่ วิ หนัง, ไตและสมองไม่เพียงพอ
อาการแสดงเริม่ แรกของภาวะช็อก ได้แก่ tachycardia และ ผิวหนังเย็น ซีด จาก
cutaneous vasoconstriction
Cellular level
ไม่สามารถใช้ออกซิเจนในขบวนการ metabolism และสร้างพลังงานได้
(aerobic metabolism)
เปลีย่ นเป็ น anaerobic metabolism แทน ทาให้เกิดกรดแลคติก และทาให้
เกิดภาวะเป็ นกรดในเลือด (metabolic acidosis)
Pathophysiology
Cellular level
ถ้ายังไม่ได้แก้ไขภาวะช็อกจะเกิดการทาลายเซลล์อย่างต่อเนื่อง ทาให้เซลล์ตาย เกิดภาวะ
multiple organ damage ทาให้ผปู้ ว่ ยเสียชีวติ ได้
What is the cause of shock state?
Shock in trauma
1. Hemorrhagic shock
2. Nonhemorrhagic shock
Hemorrhagic shock
Hemorrhage : acute loss of circulating blood volume
เป็ นสาเหตุของช็อกทีพ
่ บบ่อยทีส่ ดุ หลังมีการบาดเจ็บ
ปริมาณเลือดของผูใ้ หญ่ : ประมาณ 7% ของน้ าหนักตัว
ปริมาณเลือดของเด็ก : ประมาณ 8-9%ของน้ าหนักตัว หรือ 80-90 mL/kg
Nonhemorrhagic shock
Cardiogenic shock
Blunt cardiac injury, cardiac tamponade, air embolus,
MI associated with patient’s injury
ผูป
้ ว่ ยทีไ่ ด้รบั บาดเจ็บบริเวณหน้าอกต้องทา EKG monitoring ทุกราย
Cardiac tamponade
Tachycardia, muffled heart sounds, engorge neck vein with
hypotension
การรักษาทีด่ ที ส่ี ดุ คือการผ่าตัดช่องอก (thoracotomy)
การทา Pericardiocentesis เป็นหัตถการทีช่ ่วยเหลือผูป้ ว่ ยได้ชวคราว
ั่
Cardiac tamponade
Nonhemorrhagic shock
Tension pneumothorax
True surgical emergency : ต้องวินิจฉัยและรักษาทันที
Intrapleural pressure rises total lung collapse and
shift of mediastinum impairment of venous return
fall in cardiac output
Acute respiratory distress, subcutaneous emphysema,
absent breathsounds, hyperresonance to percussion,
tracheal shift
Nonhemorrhagic shock
Tension pneumothorax
ต้องลดแรงดันภายในช่องอกทันทีโดยไม่ตอ้ งรอผล x-ray
Tension
Pneumothor
ax
Tension pneumothorax. Right pneumothorax under tension, total collapse
of right lung, and shift of mediastinal structures
to the left are seen.
Nonhemorrhagic shock
Neurogenic shock
การบาดเจ็บหรือมีเลือดออกในกะโหลกศีรษะเพียงอย่างเดียวไม่ทาให้เกิดภาวะช็อก
Spinal cord injury ทาให้ความดันต่าเนื่องจากขาด sympathetic tone
มีภาวะช็อกโดยไม่มหี วั ใจเต้นเร็วหรือผิวหนังซีดเย็น
ในเบือ้ งต้นให้การรักษาเหมือน hypovolemic shock
Nonhemorrhagic shock
Septic shock
Uncommon
อาจเกิดขึน้ ได้หากผูป
้ ว่ ยมาถึงโรงพยาบาลหลายชัวโมงหลั
่
งการได้รบั บาดเจ็บ
อาจเกิดในผูป
้ ว่ ยทีม่ บี าดแผลแทงทะลุ (penetrating injury) ทีช่ อ่ งท้องและมี
การปนเปื้อนจาก content ในลาไส้
Direct effect of hemorrhage
แบ่งภาวะเลือดออกเป็ น 4 classes โดยอาศัยอาการแสดงของผูป้ ว่ ยเพือ่ ช่วยกะ
ปริมาณเลือดทีเ่ สียไป และเป็ นแนวทางในการเริม่ ต้นให้การรักษา (ตามตาราง)
Classification of hemorrhage
Class I
Class II
Class III
Class IV
Blood
loss(mL)
Up to 750
750-1500
1500-2000
> 2000
Blood loss
(% bl.vol.)
Pulse rate
Up to 15%
15-30%
30-40%
> 40%
< 100
normal
100-120
Normal
120-140
decreased
> 140
decreased
↔ or ↑
↓
↓
↓
BP
Pulse
pressure
Classification of hemorrhage
Class I
Class II
Class III
Class IV
Respiratory
rate
14-20
20-30
30-40
> 35
Urine output
(mL/hr)
> 30
20-30
5-15
negligible
CNS/mental
status
Slightly
anxious
Mildly
anxious
Anxious,
confused
Confused,
lethargic
Fluid
replacement
crystalloid
crystalloid
Crystalloid
and blood
Crystalloid
and blood
ตัวอย่าง : ผูป้ ว่ ยหญิงอายุ 47 ปี ถูกรถยนต์ชนขณะข้ามถนน มีตน้ ขาขวาผิดรูป
ปวดท้อง ท้องอืด กูช้ พี ไปรับพบว่าผูป้ ว่ ยซีด มือเท้าเย็น กระสับกระส่าย BP
100/89 mmHg , RR 30/min , PR 120/min
Hemorrhage class?
Estimate blood loss (%, mL)
Fluid resuscitation
Initial treatment
จุดมุง่ หมายในการรักษาภาวะ hemorrhagic shock คือ การควบคุมภาวะ
เลือดออก (หาจุดทีม่ เี ลือดออกและหยุดเลือดออกทีต่ าแหน่งนัน้ ) และให้ผปู้ ว่ ยมีเลือด
หรือสารน้ าไปเลีย้ งอวัยวะต่างๆได้อย่างเพียงพอ
Vasopressor : เป็ นข้อห้ามใช้ในภาวะ hemorrhagic shock
Initial management
Airway and breathing
ทาให้ทางเดินหายใจเปิ ดโล่ง
ช่วยหายใจและให้ออกซิเจนให้เพียงพอ
ควรให้ oxygen saturation > 95%
Circulation - hemorrhage control
บาดแผลภายนอก : ใช้การกดโดยตรง (direct pressure)
การมีเลือดออกภายใน : รักษาโดยการผ่าตัด
การให้สารน้ าให้เพียงพอ
Initial management
Disability - neurologic examination
ระดับความรูส้ กึ ตัว
การเคลื่อนไหวของลูกตา
การตอบสนองต่อแสงของรูมา่ นตา
ผูป
้ ว่ ยทีม่ รี ะดับความรูส้ กึ ตัวลดลงอาจเป็ นจากมีภาวะช็อกทาให้เลือดไปเลีย้ งสมองไม่พอ
ฉะนัน้ ควรแก้ไขภาวะดังกล่าวก่อนทีจ่ ะคิดถึงการบาดเจ็บในกะโหลกศีรษะ
Exposure – complete examination
ถอดเสือ้ ผ้าของผูป
้ ว่ ยออกให้หมดแล้วตรวจร่างกายอย่างละเอียด
ควรป้องกันการเกิดภาวะ hypothermia ด้วย
Initial management
Gastric dilation – decompression
ในผูป
้ ว่ ยเด็กทีไ่ ด้รบั อุบตั เิ หตุ การมีกระเพาะอาหารขยายตัว อาจทาให้ความดันต่าโดยไม่
ทราบสาเหตุหรือเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้
ในผูป
้ ว่ ยทีร่ ะดับความรูส้ กึ ตัวลดลงจะทาให้เสีย่ งต่อการสาลักได้
Urinary catheterization
ช่วยประเมินว่ามีการบาดเจ็บต่อระบบทางเดินปสั สาวะหรือไม่
เป็ นการประเมิน renal perfusion ว่าเพียงพอหรือไม่หลังให้สารน้ าโดยดูท่ี
urine output
ข้อห้ามในการใส่สายสวนปสั สาวะ : bleeding per urethral meatus,
high-riding prostate
Initial management
Vascular access line
เปิ ดเส้นเลือดให้สารน้ า 2 เส้นด้วยเข็มเบอร์ใหญ่ เช่น NO.16 IV free flow
พิจารณาเปิ ด peripheral line ก่อน central line
Initial management
Initial fluid therapy
Warmed isotonic electrolyte solution : lactated Ringer’s
solution, acetate Ringer’s solution, normal saline
ให้สารน้ าให้เร็วทีส่ ุดเท่าทีจ่ ะทาได้
1-2 L for adult and 20 mL/kg for children
3-for-1 rule : each 1 mL of blood loss = 3 mL of
crystalloid
หลักฐานทีแ่ สดงว่าอวัยวะต่างมีเลือดและออกซิเจนไปเลีย้ งเพียงพอซึง่ จะต้องประเมินหลัง
ให้สารน้า ได้แก่ ปริมาณปสั สาวะ, ระดับความรูส้ กึ ตัว, และผิวหนัง ปลายือปลายเท่าอุ่น
ขึน้
ตัวอย่าง : ผูป้ ว่ ยหนัก 70 กิโลกรัม class III hemorrhage
total blood volume = 70 kg*7%
Estimate blood loss = 70 kg * 7% * 30%
= 1.47 L or 1470 mL
ผูป
้ ว่ ยต้องการสารน้าชนิด crystalloid ตามกฎ 3-for-1 rule = 1470
mL*3 = 4410 mL
Initial management
Initial fluid therapy
Goal : to restore organ perfusion
Blunt trauma : ควรให้สารน้ าให้เร็วและเพียงพอ ระวังอย่าให้เกิด
hypotension
Penetrating trauma :
ต้องพยายามให้สารน้ าให้สมดุลเพือ่ แก้ไขภาวะช็อกให้มเี ลือดไปเลีย้ งอวัยวะต่างๆเพียงพอแต่กไ็ ม่
ทาให้เลือดออกเพิม่
Accept a lower-than-normal blood pressure
“controlled resuscitation” or balance resuscitation” or
“hypotensive resuscitation” or “permissive hypotension”
Evaluation of fluid resuscitation
and organ perfusion
What is patient’s response?
อาการทีบ
่ ง่ บอกว่า perfusion น่าจะกลับมาเป็ นปกติ : ความดันโลหิต, pulse
pressure และ ชีพจรกลับมาเป็ นปกติ
Sensitive indication for renal perfusion: volume of
urinary output
Evaluation of fluid resuscitation
and organ perfusion
Urinary output
Adult 0.5 mL/kg/hr
Children 1 mL/kg/hr
Children under 1 yr 2mL/kg/hr
Response to initial fluid
resuscitation
Rapid response
“rapid responder”
ความดันโลหิตกลับมาเป็ นปกติหลังจากให้สารน้ าแบบ bolus
เสียเลือดเพียงเล็กน้อย (<20% of blood volume)
ไม่ตอ้ งการการให้สารน้ าแบบ bolus อีกหรือต้องให้เลือดทันที
Type and crossmatch blood
Response to initial fluid
resuscitation
Transient response
“Transient responder”
ตอบสนองต่อการให้สารน้ าในช่วงแรก(IV bolus) แต่กลับมีความดันต่าลงอีก
หลังจากลดอัตราการให้สาสรน้าลง
20-40% blood loss
ต้องมีการให้สารน้ าและเริม่ ให้เลือด
ถ้ายังมีการตอบสนองชัวคราวต่
่
อการให้เลือดแสดงว่ายังมีเลือดออกอย่างต่อเนื่องควรต้อง
เตรียมการผ่าตัดให้เร็วทีส่ ุด
Response to initial fluid
resuscitation
Minimal or on response
ต้องการการทาหัตถการเพือ่ หยุดเลือดออกทันที
ควรมองหาสาเหตุของ nonhemorrhagic shock ไว้ดว้ ยเสมอในผูป
้ ว่ ยกลุ่มนี้
Responses to initial fluid
resuscitation
Rapid
response
Transient
response
Minimal or
no response
Vital signs
Return to
normal
Transient
improvement,
recurrence of
hypotension
Remain
abnormal
Estimate blood
loss
Minimal(1020%)
Severe(>40%)
Moderate and
ongoing(20-40%
Need for more
crystalloid
low
high
high
Need for blood
low
Mod. To high
immediate
Responses to initial fluid
resuscitation
Rapid
response
Transient
response
Minimal or
no response
Blood
preparation
Type and
crossmatch
Type-specific
Emergency
blood release
Need for
operative
intervention
possibly
likely
High likely
yes
yes
Early presence of yes
surgeon
Blood replacement
Type-specific blood :
ตรวจ ABO และ Rh blood type ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
เหมาะในผูป
้ ว่ ยกลุ่ม transient responder
Type O packed cell
กรณีหา type-specific blood ไม่ได้
อย่างไรก็ตามกรณีทเ่ี สียเลือดมากจนเป็ นอันตรายถึงชีวติ ก็ยงั ควรให้เป็ น
unmatched, type-specific มากกว่า type O blood
Special consideration
ผูป้ ว่ ยสูงอายุ
Sympathetic activity ลดลง
เมือ่ มีภาวะเสียเลือดหัวใจอาจไม่สามารถตอบสนองโดยการเพิม่ อัตราการเต้นหัวใจได้
เนื่องจากมีภาวะเส้นเลือดตีบหรืออุดตันอยูเ่ ดิม ทาให้มคี วามไวต่อการตอบสนองต่อการ
เสียเลือดเพียงเล็กน้อยได้
การใช้ยาบางอย่างเพือ่ รักษาโรค เช่น ยาขับปสั สาวะทาให้ผป
ู้ ว่ ยมีภาวะขาดน้ าอยูเ่ ดิม
เมือ่ มีการเสียเลือดอาจทาให้อาการรุนแรงขึน้ หรือการใช้ยากลุ่ม β-blocker ทาให้
หัวใจเต้นช้า บดบังการตอบสนองต่อภาวะช็อกได้
การให้สารน้ าต้องให้อย่างระมัดระวัง อาจต้องพิจารณา early invasive
monitoring เช่น การประเมิน CVP แต่เนิ่นๆ
Special consideration
นักกีฬา (athletes)
ปริมาณเลือดอาจเพิม่ ขึน้ 15-20%
Cardiac output เพิม่ ขึน้ 6 เท่า และ stroke volume เพิม่ ขึน้ 50%
อัตราการเต้นหัวใจขณะพักอาจเพียงแค่ 50 ครัง้ ต่อนาที
สามารถตอบสนองชดเชย(compensate)ต่อภาวะการเสียเลือดได้มาก อาจทาให้ไม่
เห็นอาการแสดงของภาวะช็อกได้ชดั เจนแม้จะเสียเลือดมากแล้วก้ตาม
Special consideration
Pregnancy
มีภาวะ physiologic hypervolemia ต้องมีการเสียเลือดเป็ นปริมาณมากกว่า
คนปกติกว่าจะมีอาการแสดงของภาวะช็อก
เมือ่ มีอาการแสดงของภาวะช็อกนันหมายรวมถึ
่
งมี fetal perfusion ลดลงด้วย
Special consideration
Medication
Β-blocker และ calcium channel blocker อาจรบกวนต่อการ
ตอบสนองต่อการเสียเลือด (บดบังอาการ tachycardia)
Diuretic ทาให้มภ
ี าวะขาดน้าอยูเ่ ดิม การเสียเลือดอาจทาให้มภี าวะช็อกรุนแรงได้และ
ทาให้มภี าวะ hypokalemia ได้
NSAIDs ทาให้การทางานของเกร็ดเลือดผิดปกติได้
Special consideration
Hypothermia
ทาให้การตอบสนองไม่ดตี ่อการให้เลือดและสารน้ า
อาจทาให้เกิด coagulopathy
การเมาสุราและสัมผัสอากาศหนาวเย็นทาให้เกิด hypothermia ได้งา่ ยเป็ นผลจาก
vasodilation
Rapid rewarming
การป้องกันไม่ให้เกิด hypothermia ดีทส่ี ุด