Powerpoint ดาวอินคา (ภาษาไทย)

Download Report

Transcript Powerpoint ดาวอินคา (ภาษาไทย)

่
ถัวอินคา
(Sacha
Inchi)
1
่ นคา
คุณสมบัตน
ิ ้ ามันถัวอิ
โภชนาการ
ปริมาณ
Alfa Linoleic (โอเมกา 3)
48.61 %
Linoleic (โอเมกา 6)
36.80 %
Oleic (โอเมกา 9)
8.40 %
วิตามิน เอ
681 ug.
วิตามิน อี
17 mg/100 gr
กรดปาล ์มมิตก
ิ
3.65 %
กรด สเตียริค
่ วทังหมด
้
กรดไขมันอิมตั
2.54 %
้
กรดไขมันไม่อมตั
ิ่ วทังหมด
6.19 %
93.81 %
souce: http://www.inkanatural.com/en/sachainchi/sacha_inchi_oil.html
2
น้ ามันพืชชนิ ดต่างๆ
สารอาหาร
โปรตีน
ปริมาณไขมัน
้
ทังหมด
่ วั ไขมันอิมต
ปาล ์มมิตค
ิ
่ วั ไขมันอิมต
สเตียริค
โอเมกา 9
ไขมันไม่อมต
ิ่ วั
้
ทังหมด
โอเมกา 6
SACHA
INCHI
ถัว่
ข้าวโ
ทานตะ
มะกอ
พีนท
ั
ฝ้าย ปาล ์ม
เหลือง พด
วัน
ก
29
28
0.0
23
24 32.9 0.0 0.0
54
19
0.0
45
48
3.85 10.5 11
12
7.5 18.4 45
13
2.54
2.2
5.3
4
3
8.28 22.3 28 43.3 29.3 18.7 40
71
3.2
2
36.8 54.5 58 36.8 57.9
48.6
Source: HAZEN & STOEWSAND,
1980 - DUCLOS, 1980
8.3 1 0.0 0.0
โอเมกา 3
16 0.0 0.0
2.4
57.5
0.5
10
10
0.0
3
1
่ นคา
ถัวอิ
(Plukenetia Volúbilis Linneo)
่ นคา เป็ นพืชท้องถินแถบประเทศเปรู
่
 ถัวอิ
เขตลุ่มน้ าอเมซอน มาหลายพันปี
 การศึกษาทางวิทยาศาสตร ์ในปั จจุบน
ั
่ นคา เป็ น
แสดงให้เห็นว่า น้ ามันถัวอิ
่ ทสุ
น้ ามันทีดี
ี่ ด
่ ป ริมาณและ
 ด้วยคุณลักษณะทีมี
คุณภาพทางโภชนาการสู ง
่
 มีความเหมาะสมต่อการบริโภคเพือ
สุขภาพ
4
ประโยชน์ของโอเมกา 3
ต่อสุขภาพ
 ส่งเสริมระบบภู มค
ิ ม
ุ ้ กัน ร่างกาย
และระบบหมุนเวียนโลหิต
5
โอเมกา 3 ต่อ
หัวใจ
 ป้ องก ันหัวใจเต้นผิดปกติป้องกัน และ
่
ลดความเสียงของอาการหั
วใจวาย
และปั ญหาโรคหัวใจและหลอดเลือด
 ควบคุมระด ับคอเลสเตอรอล และไตร
กลีเซอไรด ์
 ร ักษาความยืดหยุ่นของผนังหลอด
่
เลือด, ร ักษาความคงทีของจั
งหวะ
การเต้นของหัวใจและช่วยในการ
6
คอเลสเตอรอล/เลือด/
หลอดเลือดแดง
่ วั ให้เคลือนที
่
่
 ป้ องกันการแข็งต ัวของเลือดโดยการคงสภาพไขมันอิมต
่
่
ในกระแสเลือดซึงจะช่
วยลดความเสียงของโรคหลอดเลื
อดหัวใจ
่ HDL แก่รา่ งกาย (คอเลสเตอรอลทีดี
่ ) และลดอ ันตรายจาก
 ช่วยเพิม
ไตรกลีเซอไรด ์
 ลดปริมาณเกล็ดเลือดและป้ องกันการแข็งตัวของเลือดมากเกินไป
้
 ยับยังความหนาของหลอดเลื
อดแดงโดยการลดการผลิตเซลล ์บุผนัง
่ มาจาก
หลอดเลือด ของปั จจ ัยการเจริญเติบโตของเกล็ดเลือดทีได้
่
่ ผนังหลอด
ผนังด้านในของหลอดเลือดแดงทีประกอบด้
วยเซลล ์เยือบุ
เลือด
่ จกรรมของสารเคมีอนที
่ มาจากเซลล ์เยือบุ
่ ผนังหลอดเลือด
 เพิมกิ
ื่ ได้
่ มาจากไนตริกออกไซด ์) ซึงเป็
่ นสาเหตุของหลอด
(endothelium ทีได้
่
เลือดแดงทีจะผ่
อนคลายและขยาย
 ลดการผลิตสารเคมีทเรี
ี่ ยกว่าสารไซโตไคน์ซงมี
ึ่ ส่วนร่วมในการ
7
่ ยวข้
่
ตอบสนองการอ ักเสบทีเกี
องกับหลอดเลือด.
ด้านสมอง
้ งเพิมความสามารถในการ
่
บารุงสมองและทังยั
ทางานของสมอง
ปร ับปรุงระบบสมอง เช่น ความจา
ปร ับปรุงการทางานของระบบประสาท
ส่วนกลาง.
่
ส่งเสริมสุขภาพจิตและความมันคงทาง
อารมณ์
8
ระบบย่อยอาหาร
่
เพิมกระบวนการเผา
ผลาญของร่างกาย และ ลด
อาการท้องผู ก

9
ไต
 ชว่ ยรักษาการทางานของไต
และของเหลวในไตให ้เป็ นปกติ
10
่
้
กระดู กและเนื อเยือ
่
เกียวพัน
 ช่วยลดการสูญเสีย มวลกระดูก
่
ช่วยเพิมการดู
ดซึมแคลเซียม ของ
กระดูก และช่วยร ักษาความ
หนาแน่ นของกระดูก
11
ต้อหิน
 ควบคุมความดันใน
ดวงตาและความดันเลือดใน
ดวงตา และการตอบสนอง
ของระบบภูมค
ิ ุ ้มกัน.
12
การอ ักเสบ
่ ดจากหมอก
 ป้ องก ันไม่ให้เกิดการอ ักเสบของปอดทีเกิ
คว ันและยาสู บ
 ช่วยลดอาการของโรคอ ักเสบต่างๆเช่น Crohn ของ
โรคลาไส้อ ักเสบ, โรคข้ออ ักเสบรู มาติก, ลาไส้ใหญ่
อ ักเสบเป็ นแผล, หอบหืด, โรคปอดบวมไวร ัสและ
่ ๆ
แบคทีเรียในหมู ่คนอืน
่
 ช่วยการเสือมของเซลล
์ปอด
 ขัดขวางการก่อตัวของไขมันในตับและ จาก ัดการ
่ อให้เกิดการอ ักเสบ
ผลิตสารทีก่
13
้
การตังครรภ
์ ทารก และ
เด็ก
่
 ช่วยลดความเสียงของอ
ัตราความดันโลหิตสู งที่
่
้
เชือมโยงก
ับการตังครรภ
์
 จาเป็ นสาหร ับการพัฒนาระบบประสาทของทารกใน
ครรภ ์
้ อประสาทของ
่
 จาเป็ นสาหร ับการพัฒนาของเนื อเยื
ทารกในครรภ ์ในช่วงสามเดือน
่
 จะช่วยเพิมการพั
ฒนาจิตประสาทของทารกแรกเกิด
่
และน้ าหนักไม่ให้ตากว่
าเกณฑ ์
่
 ช่วยเพิมการเจริ
ญเติบโตของเด็ก และการพัฒนา
ระบบประสาทและ ระบบการมองเห็น
 ทาให้เกิดผลในเชิงบวกในการพัฒนาจิต อารมณ์ 14
ผลด้านต่อต้าน
มะเร็ง
 ลดการเจริญเติบโตของเซลล ์มะเร็ง
ในมนุ ษย ์
 ก่อให้เกิดการฟื ้ นต ัวของระบบ
่
ภู มค
ิ ม
ุ ้ ก ันในรู ปแบบทีแตกต่
างกันของ
โรคมะเร็ง.
 ลดปริมาณและระยะเวลาของการ
ร ักษาด้วยเคมีบาบัด.
15
่ นคาเมือเที
่
ข้อดีของน้ ามันถัวอิ
ยบ
กับน้ ามันปลา
 ย่อยง่ ายกว่าน้ ามันปลา
่ กว่าน้ ามันปลา
 รสชาติและกลินดี
 ไม่กอ
่ ให้เกิดกรด และความระคายเคือง
 ไม่กอ
่ ให้เกิดก๊าซในลาไส้เช่นน้ ามันปลา
่ าเป็ น (84.41%)
 มีสด
ั ส่วนของกรดไขมันทีจ
่ งของกรดไขมันไม่อมตั
 มีสด
ั ส่วนทีสู
ิ่ ว (93.69%)
น้ ามันปลามีความยาวน้อยไม่อมตั
ิ่ ว (65%)
่ ว (6.39%) ในขณะทีน
่ ้ ามันปลา
 มีป ริมาณไขมันอิมตั
่ ว (40%)
มีสูงปริมาณไขมันอิมตั
16
่ นคาเมือเที
่
ข้อดีของน้ ามันถัวอิ
ยบกับ
น้ ามันปลา(ต่อ)
 เหมาะสมก ับกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย
มนุ ษย ์มากกว่าน้ ามันปลา
่
้
 มีหน้าทีทางสรี
รวิทยามากขึนในร่
างกายมนุ ษย ์
กว่าน้ ามันปลา
่ ั นคาได้มาจากกระบวนการสก ัดเย็น แต่
 น้ ามันถวอิ
น้ าปลาสก ัดด้วยอุณหภู มส
ิ ู ง ตวั ทาละลายและ
สารเคมี
 มีสารต้านอนุ มูลอิสระจากธรรมชาติทส
ี่ าค ัญเช่น
อ ัลฟาโทโคฟี รอ วิตามินอี, วิตามินซี คาโรทีนอยด ์
 ผลิตภัณฑ ์น้ ามันปลาสัมผัสกบ
ั การปนเปื ้ อนในน้ า
่
ทะเล: ก๊าซปรอท เบนโซไพรีน และสารปนเปื ้ อนอืน
17
ข้อบ่งใช้
 สามารถนามากับสลัด ต้ม
พาสต้า สามารถใช้ผสม
่
เครืองปรุ
งอาหาร เช่นเดียวกับ
น้ ามันมะกอก
 ร ับประทาน วันละ 1 ช้อนโต๊ะต่อ
วัน
 สามารถเก็บได้ใน 1 ปี
18
19
20
21
กรดไขมันโอเมก้า 6 ความสาคัญที่
ถู กมองข้าม
• กรดไขมันโอเมก ้า 6 ยังไม่เป็ นทีร่ ู ้จักมากนัก ทัง้ ทีจ
่ ริงๆ แล ้ว
กรดไขมันโอเมก ้า 6 คือตัวถ่วงสมดุลของกรดไขมันโอเมก ้า 3
้
ซงึ่ ร่างกายเราจะใชประโยชน์
ทงั ้ 2 ชนิด
• กรดไขมันโอเมก ้า 6 คือ กรดไขมันไลโนเลอิก (Linoleic acid
: LA) และกรดไขมันอะราคิโดนิก(Arachidonic acid : ARA)
้
• ร่างกายเราจะใชประโยชน์
ของกลุม
่ กรดโอเมก้า 3 กับโอเมก ้า
6 คล ้ายคลึงกัน คือ กรดไขมันโอเมก ้า 3 จะสร ้างไอโคซา
นอยด์ ทาให ้เลือดไหล ยับยัง้ การอักเสบ แต่กลุม
่ ของกรด
ไขมันโอเมก ้า 6 จะทาให ้ เลือดแข็งตัว ซงึ่ จะทางานตรงข ้าม
และถ่วงดุลกัน
• กรดไขมันโอเมก้า 6 พบได ้ในน้ ามันพืช ถั่วชนิดต่างๆ ในปลา
เพียงเล็กน ้อย รวมทัง้ อาหารทั่วไป ทัง้ นี้ ในความเป็ นจริงแล ้ว
คนเราต ้องกินทัง้ 2 กลุม
่ กรดไขมันให ้สมดุลกัน ซงึ่ ร่างกายเรา
ต ้องการกรดไขมันโอเมก ้า 6 มากกว่ากรดไขมันโอเมก ้า 3
ประมาณ 3 : 1 จนถึง 5 : 1
22
• ดังนัน
้ แท ้จริงแล ้วร่างกายมีความต ้องการทัง้ กรดไขมันโอ
โอเมก้า 3
• โอเมก ้า 3 เป็ นกรดไขมันไม่อม
ิ่ ตัวทีม
่ พ
ี ันธะหลายตาแหน่ง
กรดไขมันโอเมก ้า 3 มีอยู่ 3 ชนิดทีส
่ าคัญคือ
• 1. กรดไขมันแอลฟาไลโนเลนิก (Alpha linolenic acid : ALA)
• 2. กรดไขมันอีพเี อ (Eicosapentaenic acid : EPA)
• 3. กรดไขมันดีเอชเอ (Docosahexaenoic acid : DHA) ซงึ่ เป็ น
ตัวทีไ่ ด ้ยินค่อนข ้างบ่อยในโฆษณา เพราะเป็ นตัวหนึง่ ที่
ผู ้ประกอบการนิยมเติมลงไปในผลิตภัณฑ์
• กรดไขมันแอลฟาไลโนเลนิก : ALA เป็ นกรดไขมันไม่อม
ิ่ ตัวที่
มีพันธะคูห
่ ลายตาแหน่ง โดยมีความสาคัญต่อร่างกายคือ เป็ น
กรดไขมันทีร่ า่ งกายเราไม่สามารถสร ้างเองได ้ ต ้องได ้รับจาก
อาหารเท่านัน
้
• กรดไขมันแอลฟาไลโนเลนิก : ALA เป็ นกรดไขมันต ้นตอที่
ร่างกายนาไปสร ้างเป็ นกรดไขมันอีพเี อ : EPAและกรดไขมันดี
เอชเอ : DHA ได ้ หากเรากินอาหารทีไ่ ม่มก
ี รดไขมันแอลฟาไล
http://www.tigerdragon.in.th/?p=1336
โนเลนิก : ALA เลย เราอาจจะขาดกรดไขมันโอเมก ้า 3 ได ้ แต่23
ในความเป็ นจริงแล ้วกรดไขมันโอเมก ้า 3 มีอยูใ่ นอาหารหลาย
24