Transcript ppt

กล่ มุ สิ นค้ าปาล์ มนา้ มัน
ความสาคัญของปาล์ มน้ามัน
• อุตสาหกรรมด้ านอาหาร เช่ น น้ ำมันทอด น้ ำมันปรุ งอำหำร มำกำรี น
ไอศกรี ม ครี มเทียม นมเทียม เนยขำว เนยโกโก้ ขนมเค้ก ขนมปัง ฯลฯ
• อุตสาหกรรมโอลิโอเคมิคอล ใช้ประโยชน์สำหรับกำรผลิตสิ นค้ำอุปโภค
โดยผ่ำนกระบวนกำรทำงเคมี ได้แก่ กำรทำกรดไขมันประเภทต่ำง ๆ
ทั้งกรดไขมันอิ่มตัว และกรดไขมันไม่อิ่มตัว เพื่อนำไปใช้ใน
อุตสำหกรรมมำกมำย ได้แก่ กรอลอริ ก ใช้ทำเป็ นเรซิน กรดปำล์มมิติก
• อุตสาหกรรมไบโอดีเซล (พลังงำนทดแทน/พลังงำนทำงเลือก)
ทีม
่ า การผล
: องคิ ต
การอาหารและเกษตรแห
, เดือนมกราคม 2556
่
์ ปาล์มน้ ามันของโลก งสหประชาชาติ
สถานการณ์ การผลิตปาล์ มน้ามัน
• การผลิตของโลก ปี 2555/2556
ประเทศ
อินโดนี เซีย
มาเลเซีย
ไทย
ไนจีเรีย
โคลัมเบีย
ผลผลิต (ล้านตัน)
สัดส่วน (ร้อยละ)
101.70
43.5
87.83
37.6
10.78
4.6
8.50
3.6
3.80
1.6
ที่มา : องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ, เดือนมกราคม 2556
ต้นกำรผลิต
ต้นทุนและราคาปาล์มน้ามัน
จานวนครัวเรือน (ครัวเรือน)
เนื้ อที่ยืนต้น (ไร่ )
ปี
เนื้ อที่ให้ผล (ไร่ )
ผลผลิตต่อไร่ (กก.)
ต้นทุนรวมต่อไร่
ต้นทุนรวมต่อกิโลกรัม
ผลผลิตต่อไร่ (กิโลกรัม)
ราคาที่เกษตรกรขายได้ (บาท/กก.)
ผลตอบแทน (บาท/ไร่/ปี )
กาไรสิทธิ (บาท/ไร่/ปี )
2554
ปี
2555
ปี
2556
164,974
177,065
218,728
4,098,446
4,405,031
4,503,946
3,564,781
3,713,724
3,914,560
3,018
3,058
3,273
7,980.41
8,599.27
8,847.72
2.77
3.02
3.01
2,876
2,844
2,936
6.02
5.31
4.16
17,314
15,102
12,214
9,334
6,503
3,367
กำรตลำด
บาท/กก.
รายการ
ผลปาล์มสด
ปี 2553
ปี 2555
ปี
ปี
ปี
2552
2554
2556
4.65 4.44 5.37 5.31 4.16
นา้ มันปาล์มดิบ ขายส่ งถึงโรงกลัน่
24.33 29.11
นา้ มันปาล์ มบริสุทธิ์ขายส่ ง กทม.
30.19 33.05 43.03
นา้ มันปาล์มดิบ ตลาดมาเลเซีย
21.96
27.02
นา้ มันปาล์ มบริสุทธิ์ ตลาดมาเลเซีย
24.08
28.31
36.59
30.86
25.24
35.66
28.03
32.63 28.89
35.10
30.49
23.27
24.72
ข้อได้เปรี ยบ/ข้อเสี ยเปรี ยบ
ข้ อได้ เปรียบ
1. ประเทศไทยมีสภำพพื้นที่และภูมิอำกำศที่เหมำะสม
ต่อกำรปลูกปำล์มน้ ำมัน โดยปำล์มน้ ำมันเป็ นไม้ยนื
ต้นที่อนุรักษ์สภำพแวดล้อม และรักษำควำมสมดุล
ของระบบนิเวศ เนื่องจำกปำล์มน้ ำมันใช้
คำร์บอนไดออกไซด์ในกำรเจริ ญเติบโตเทียบเท่ำ
กับกำรเจริ ญเติบโตของป่ ำดงดิบในเขตร้อนชื้น
2. เป็ นพืชยืนต้นที่มีอำยุกำรให้ผลผลิตยำวนำนและเก็บ
เกี่ยวผลผลิตได้ต่อเนื่องทั้งปี อีกทั้งยังให้ผลผลิตเร็ ว
เพียง 3 ปี ก็เริ่ มให้ผลผลิตแล้ว
3. ให้ผลผลิตน้ ำมันต่อหน่วยพื้นที่สูงกว่ำพืชน้ ำมันอื่น
4. เป็ นสิ นค้ำที่สำมำรถนำไปใช้ประโยชน์ได้
หลำกหลำย ทั้งกำรบริ โภค อุปโภค และสำมำรถ
นำไปใช้เป็ นพลังงำนทดแทน (ไบโอดีเซล)
วัตถุดิบแทนน้ ำมันเตำ
ข้ อเสี ยเปรียบ
1. ต้นทุนกำรผลิตสู ง ผลผลิตต่อไร่ ต่ำ
2. ไม่สำมำรถกำหนดรำคำเองได้ ต้องอ้ำงอิงจำก
ตลำดโลก
3. ไม่มีกำรรับรองคุณภำพตำมมำตรฐำนสำกล
4. ขาดการวิจยั และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ข้อได้เปรี ยบ/ข้อเสี ยเปรี ยบ
ข้ อได้ เปรียบ
5. ส่ วนต่ำง ๆ ของปำล์มนำมันสำมำรถนำมำใช้ประโยชน์ได้
ทั้งหมด ในกระบวนกำรผลิตน้ ำมันปำล์ม แบบ “Zero
Waste หรื อ ของเสี ยเหลือศูนย์”
6. เป็ นพืชทำงเลือกและควำมหวังของเกษตรกรในแหล่งปลูก
ใหม่
7. พื้นที่กำรผลิตไม่เป็ นพื้นที่ที่บุกรุ กป่ ำ ไม่ทำลำยสิ่ งแวดล้อม
และเป็ นเกษตรกรรำยย่อย ซึ่ งเป็ นกำรกระจำยรำยได้ให้
เกษตรกรได้มำกขึ้น ทำให้เป็ นสิ นค้ำที่ตอ้ งกำรของตลำด
สหภำพยุโรป
8. รัฐมีนโยบำยที่ชดั เจนในกำรส่ งเสริ ม และสนับสนุนในกำร
ปลูกปำล์มน้ ำมัน
9. ประเทศไทยมีแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์ในประเทศ ที่มีตน้ พ่อ
ต้นแม่พนั ธุ์ ปรับตัวกับสภำพแวดล้อมของไทยได้ดี
10. รัฐบำล สนับสนุนให้นำน้ ำมันปำล์ม
ไปใช้เป็ นพลังงำนทดแทน
ข้ อเสี ยเปรียบ
5. ประสิ ทธิ ภำพของโรงงำนสกัดยังไม่เป็ น
มำตรฐำนเดียวกัน
6. กำรสร้ำงมูลค่ำเพิม่ ผลิตภัณฑ์ปำล์มน้ ำมัน
7. ขำดโรงงำนอุตสำหกรรมต่อเนื่อง
8. ขำดหน่วยงำนในกำรรับผิดชอบทุกด้ำน ไม่มี
หน่วยงำนในกำรรับผิดชอบโดยเฉพำะ ที่ครอบคลุม
ทุกด้ำนของกำรผลิตปำล์มน้ ำมันและอุตสำหกรรม
น้ ำมันปำล์ม
9. มีกำรกำหนดรำคำจำหน่ำยน้ ำมันปำล์มบริ โภค
ไม่เป็ นไปตำมกลไกกำรตลำด(42 บำท /ลิตร)
ปัญหำ/ข้อจำกัดในกำรส่ งเสริ ม
1. ต้นทุนปัจจัยกำรผลิตสูงและรำคำผลปำล์มสดไม่แน่นอน
2. ขำดกำรพัฒนำอุตสำหกรรมต่อเนื่ องที่สร้ำงมูลค่ำเพิ่ม
3. ลำนเท ไม่ได้มำตรฐำน โดยกำรแยกลูกร่ วง รดน้ ำ และขำดหน่วยงำนที่ดูแลรับผิดชอบ
4. เกษตรกรรำยย่อยมีตน้ ทุนสูงกว่ำเกษตรกรรำยใหญ่มำก
5. พื้นที่ปลูกใหม่ มีจุดรับซื้อน้อย ไม่มีโรงงำน ค่ำใช้จ่ำยในกำรขนส่ งสู ง
6. แหล่งพันธุ์ดีมีจำนวนจำกัด
7. เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตปำล์มที่ไม่สุก(คุณภำพปำล์มน้ ำมัน)
8. เกษตรกรขำดองค์ควำมรู้ในกำรจัดกำรสวนปำล์มน้ ำมัน
9. กำรเกิดระบำดของศัตรู พืช(ด้วงแรด) ในพื้นที่ปลูกทดแทนสวนปำล์มเก่ำ
ปัญหำ/ข้อจำกัดในกำรส่ งเสริ ม
10. ขำดแคลนแรงงำน ค่ำแรงงำนในกำรเก็บเกี่ยวผลผลิตสู ง
11. ไม่มีกำรรวมกลุ่ม ขำดอำนำจในกำรต่อรอง
12. ภัยธรรมชำติ น้ ำท่วม
13. เกษตรกรรอรับกำรสนับสนุนจำกภำครัฐเพียงอย่ำงเดียว
14. เกษตรกรขำดแคลนเงินทุน เนื่องจำกปำล์มน้ ำมันเป็ นพืชที่ตอบสนองต่อปั จจัยกำรผลิตสูง
15. ไม่ใส่ ปุ๋ยตำมค่ำวิเครำะห์ดิน ใบปำล์ม ปำล์มน้ ำมันเป็ นพืชที่ตอบสนองต่อปุ๋ ยสูง กำรเข้ำถึง
หน่วยงำนวิเครำะห์ได้ยำก
16. ไม่มีเอกสำรสิ ทธิ์ในที่ดิน ไม่ได้รับกำรช่วยเหลือจำกหน่วยงำนรัฐ
17. โรงงำนมีกำรแยกซื้อลูกร่ วง ในรำคำสู ง ทำให้มีลำนเทที่ทำลูกร่ วงขำยโดยเฉพำะ
18. โรงงำนขนำดเล็ก (หีบรวม) ทำให้ได้น้ ำมันไม่มีคุณภำพ
19. มีกำรขยำยพื้นที่ไปในพื้นที่ที่ไม่เหมำะสม ขำดแคลนแหล่งน้ ำ
แนวโน้ มในการเพิม่ /ลดพืน้ ที่ปลูก
แนวโน้ มมีการเพิ่มพืน้ ที่ปลูก
เปลี่ยนพื ้นที่ปลูกยางพารา ไม้ ผล นาร้ าง อ้ อย กาแฟ สวนส้ ม
มันสาปะหลัง เป็ นปาล์มน ้ามัน
ภาคใต้ ยางพารา ไม้ ผล นาร้ าง กาแฟ
ภาคตะวันออก อ้ อย มันสาปะหลัง นาร้ าง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มันสาปะหลัง
ภาคตะวันตก นาร้ าง น ้าท่วมซ ้าซาก
ภาคกลาง นาร้ าง สวนส้ ม
ต้นทุนกำรผลิต
ต้ นทุนการผลิตปาล์ มนา้ มัน ปี 2556
สศก.
เฉลี่ย
3.01 บาท( ณ, ไร่นา)
เกษตรกรรายย่อย เฉลี่ย
3.40 บาท
แนวทางการส่ งเสริม
เชิงรุ ก
1. เพิม่ ประสิ ทธิภำพกำรผลิต
- ลดต้นทุนกำรผลิต
- เพิ่มผลผลิตต่อไร่
- พัฒนำคุณภำพผลผลิต
โดย ใช้พนั ธุ์ดี มีคุณภำพ จำกแหล่งที่เชื่อถือได้
กำรใช้ปุ๋ยตำมค่ำวิเครำะห์ดิน – ใบปำล์ม
ปลูกทดแทนสวนปำล์มเก่ำ ด้วยปำล์มพันธุ์ดี
กำรจัดกำรสวนที่ดีคดั เลือกต้นปำล์มให้ทุกต้นมี
ผลผลิต
ส่ งเสริ มกำรรวมกลุ่มเพื่อควบคุมคุณภำพ
ผลผลิต รวบรวมผลผลิต (สหกรณ์)
เชิงรับ
1. สนับสนุนกำรวิจยั และพัฒนำสำยพันธุ์
ที่ให้เปอร์เซ็นต์น้ ำมันสู ง เทคโนโลยีใหม่
2. สร้ำงแรงจูงใจระหว่ำงโรงงำนและ
เกษตรกรให้มีกำรพัฒนำคุณภำพ และ
ส่ งเสริ มให้เกษตรกรเป็ นสมำชิกของ
โรงงำน เพื่อควำมมัน่ คงในระบบกำรผลิต
3. เพิ่มประสิ ทธิภำพกำรใช้พ้นื ที่ในสวน
ปำล์มน้ ำมัน เช่น กำรเลี้ยงแพะ เลี้ยงไก่
เลี้ยงปลำ เลี้ยงกบในร่ องสวน กำรปลูกพืช
แซมในระยะปำล์มน้ ำมันยังไม่ให้ผลผลิต
แนวทางการส่ งเสริม
เชิงรุ ก
2. ส่ งเสริ มให้มีกำรใช้มำตรฐำนปำล์ม
น้ ำมัน
- มำตรฐำนทะลำยปำล์ม
- มำตรฐำน GAP
- มำตรฐำนลำนเท
โดย มีกำรกำหนดข้อบังคับ แนวทำงกำร
ปฏิบตั ิและบทลงโทษ
3. ศูนย์เรี ยนรู ้กำรผลิตปำล์มน้ ำมัน ที่มี
ส่ วนร่ วมระหว่ำงภำครัฐและเอกชน
เพื่อถ่ำยทอดเทคโนโลยี ใหม่ๆ อย่ำง
ต่อเนื่อง
เชิงรับ
4. บริหารจัดการสต็อกน ้ามันปาล์มให้
สมดุล กับปริมาณการใช้ ในประเทศ ทัง้
เพื่อการอุปโภค บริโภคและพลังงาน
ทดแทน
5. ผลักดันให้ มี พรบ.ปาล์มน ้ามัน ที่มี
ข้ อบังคับครอบคลุมทุกประบวนการของ
อุตสาหกรรมปาล์มน ้ามัน
แนวทางการส่ งเสริม
เชิงรุ ก
4. ผลักดันให้โรงงำนเป็ นมำตรฐำนเดียวกัน
/พัฒนำโรงงำนขนำดเล็ก (หีบรวม) และ
กำรปรับเปลี่ยนโรงงำนให้เหมำะสม
5. บูรณำกำรหน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้ำน
กำรผลิต กำรตลำด อุตสำหกรรม และ
โรงงำน
6. กำรประชำสัมพันธ์ และสร้ำงจิตสำนึกให้
เกษตรผลิตปำล์มน้ ำมันที่คุณภำพและกำร
ใช้ประโยชน์จำกน้ ำมันปำล์ม
7. ส่ งเสริ มกำรใช้ภำยในของประเทศ ทั้งกำร
อุปโภค บริ โภค และพลังงำนทำงเลือก