ตำบลในเมือง อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น

Download Report

Transcript ตำบลในเมือง อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น

1. รศ.ดร.ศุภวัฒนากร
วงศ์ธนวสุ อาจารยประจ
าวิทยาลัยการ
์
ปกครองทองถิ
น
่ มข.
้
2. อ.เสรี
พิจต
ิ รศิ ร ิ อาจารยประจ
าวิทยาลัยการปกครองทองถิ
น
่
์
้
มข.
3. อ.ณรินทร ์
เจริญทรัพยานนท ์ อาจารยประจ
าวิทยาลัยการ
์
ปกครองทองถิ
น
่ มข.
้
4. ดร.พรรณา ไวคกุล อาจารยประจ
าวิทยาลัยการปกครองทองถิ
น
่
์
้
มข.
5. รศ.ดร.เพ็ญณี แนรอท อาจารยประจ
าวิทยาลัยการปกครองทองถิ
น
่
์
้
มข.
6. ดร.ธัชเฉลิม
สุทธิพงษประชา
อาจารยประจ
าวิทยาลัยการ
์
์
ปกครองทองถิ
น
่ มข.
้
7. ผศ.ดร.จงกลนี
ศรีจก
ั รโคตร
อาจารยประจ
าคณะพยาบาล
์
รายชือ
่
คณะอนุ กรรมการ
9. รศ.ดร.สมนึก
ธีระกุลพิศท
ุ ธิ ์ อาจารยประจ
าคณะวิศวกรรมศาสตร ์ มข.
์
10. ดร.พงษศั
อาจารยประจ
าคณะวิศวกรรมศาสตร ์ มข.
์ กดิ ์ ยัง่ ยืน
์
11. รศ.อาพน
หอนาค
อาจารยประจ
าคณะเกษตรศาสตร ์ มข.
่
์
12. นายนิพนธ ์
ภาโนชิต นายกเทศมนตรีตาบลในเมือง อาเภอเวียงเกา่ จ.ขอนแกน
่
13. นายบรรจง
ประธงสิ นป์ ผู้ใหญบ
หมูที
อ.เวียงเกา่
จ.
่ ้าน
่ ่ 8 ต.ในเมือง
ขอนแกน
่
14. นางบัวลี
ชาเวียง
ผู้ใหญบ
หมูที
อ.เวียงเกา่
จ.
่ ้าน
่ ่ 11 ต.ในเมือง
ขอนแกน
่
15. นายกิตติศักดิ ์
มูลโพธิ ์
ผู้ใหญบ
หมูที
อ.เวียงเกา่
จ.
่ ้าน
่ ่ 15ต.ในเมือง
ขอนแกน
่
16. นางศิ รพ
ิ ร
ประทุมวงศ์
นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชานาญการ
สนง.เกษตรอาเภอเวียงเกา่
จังหวัดขอนแกน
่
17. นายชาติชาย
ขาชืน
่
ปลัดอาวุโส อาเภอเวียงเกา่
จังหวัดขอนแกน
่
18. นางดวงใจ
วรรณชัย
สาธารณสุขอาเภอเวียงเกา่
จังหวัดขอนแกน
่
19. นายดาริห ์
จันทรวั
ปราชญชาวบ
านต
าบลในเมือง
์ น
์
้
อาเภอเวียงเกา่
20. นางวัฒนาพร
สิ ทธิเดช ผู้ช่วยผูใหญ
บ
้
่ านหมู
้
่ 15
21. นางสาวพิชชานันท ์ ออนพวย
เจ้าหน้าทีฏ
่ บ
ิ ต
ั ก
ิ ารชุมชน
่
สถาบันพัฒนาชุมชน
22. นายจารัส
อมรดลใจ
เจ้าหน้าทีป
่ ฏิบต
ั ก
ิ ารชุมชน
สถาบันพัฒนาชุมชน(องคการมหาชน)
์
23. ดร.ศิ วช
ั
ศรีโภคางกุล อาจารยประจ
าวิทยาลัยการ
์
ปกครองทองถิ
น
่ มข.
้
24. นางสุภาวดี
แกวคาแสน
ผูชวยเลขานุ การ
หมู่บา้ น mg/L ของปริมาณสารทัง้ หมดที่ละลายได้ หมู่บา้ น mg/L ของปริมาณสารทัง้ หมดที่ละลายได้
(TDS)
(TDS)
หมูท่ ี่ 1
หมูที่ 2
หมู่ที่ 3
หมู่ที่ 4
หมู่ที่ 5
หมู่ที่ 6
หมู่ที่ 7
หมู่ที่ 8
น้อยกว่า 500
น้อยกว่า 500
500 - 1,500
1,500 หรือน้อยกว่า
500 – 1,500
500 – 1,500
1,500 หรือน้อยกว่า
หมูท่ ี่ 9
หมู่ที่ 10
หมู่ที่ 11
หมู่ที่ 12
หมู่ที่ 13
หมู่ที่ 14
หมู่ที่ 15
500 – 1,500
500 – 1,500
500 – 1,500
500 – 1,500
หมู่บา้ น
m3/hr
หมู่บา้ น
m3/hr
หมูท่ ี่ 1
หมูที่ 2
หมู่ที่ 3
หมู่ที่ 4
หมู่ที่ 5
หมู่ที่ 6
หมู่ที่ 7
หมู่ที่ 8
2 – 10
2 – 10
20 หรือน้อยกว่า
2 – 10
20 หรือน้อยกว่า
20 หรือน้อยกว่า
20 หรือน้อยกว่า
หมูท่ ี่ 9
หมู่ที่ 10
หมู่ที่ 11
หมู่ที่ 12
หมู่ที่ 13
หมู่ที่ 14
หมู่ที่ 15
20 หรือน้อยกว่า
20 หรือน้อยกว่า
20 หรือน้อยกว่า
20 หรือน้อยกว่า
พืน
้ ที่ 3 หมูบ
้ ทีต
่ วั อยาง
คือหมูที
่ ้าน เป็ นพืน
่
่ ่ 8 ,หมูที
่ ่ 11 ,และหมูที
่ ่ 15
3 หมูบ
ั หาทีส
่ าคัญ ไดแก
่ ้านนี้ มีปญ
้ ่
จากสภาพภูมศ
ิ าสตร ์ หมูที
่ งน้าเพราะเป็ นพืน
้ ทีแ
่ ห้งแล้ง และ
่ ่ 8 , 15 มีปัญหาเรือ
ปริมาณคุณภาพน้าใต้ดินไมดี
อ
่ เต็มไปดวยเกลื
้
คาเฉลี
ย
่ รายไดเฉลี
ย
่ ตอหั
ความยากจนค
อนข
่
้
่ วมีคาต
่ า่ กวาเกณฑ
่
่
้างสูง
์
ปั ญ หาความยากจนมีค วามเหลื่อ มล ้า กัน ไม่ มาก โดยรวมประชาชนทั้ง หมดใน
หมูบ
่ ้านมีฐานะคอนข
่
้างยากจนเป็ นส่วนใหญ่
แม้วาหมู
ที
ดมสมบูรณประชาชนในหมู
บ
่ น
ิ ทากินเป็ น
่
่ ่ 11 จะอยูในโซนอุ
่
่ ้านขาดทีด
์
ของตนเองประมาณร้อยละ 40
สภาพโดยทัว
่ ไปของหมูบ
ยอยางแออั
ด และ
่ ้าน ประชาชนอยูอาศั
่
่
มีความ หนาแน่น
 ลัก ษณะสุ ข อนามัย และสิ่ งแวดล้ อมภายในหมู่ บ้ านไม่ มีค วาม
เหมาะสม
 คานิ
่ สุรา และ
่ ยมสั งคมบางส่วนภายในหมูบ
่ ้านชาวบ้านนิยมดืม
ใช้ยาเสพยติ
้ เองได้
์ ด เช่น กัญชาซึง่ สามารถลักลอบปลูกขึน
 ปั ญ หาการศึ กษา โดยเฉพาะเด็ ก ยากจน เด็ ก ถู ก ทอดทิ้ ง
ครอบครัวแตกแยก ไม่ มีโอกาสไดเรี
่ งู ขึน
้
้ ยนในระดับทีส
 ปัญ หาการขาดองค ความรู
้ ในการรวมกลุ่ม ท าให้ ไม่มีอ านาจ
์
ตอรองราคาขายสิ นคากับพอคาคนกลาง
 เป็ นที่น่าสังเกตว่า หมู่ที่ 15 มีปัญหาในเรื่องของพืน้ ที่ เนื่ องจากแห้ง
แล้ง แต่ มีผ้ใู หญ่บ้านที่ ได้รบั รางวัลผู้ใหญ่บ้านดี เด่นหรือรางวัลแหนบ
ทองคา เป็ นจุดแข็งในเรื่องของผูน้ าชุมชนที่มีความเข้มแข็ง
พืน
้ ทีเ่ ป้าหมาย
หมูที
่ ่ หมูบ
่ าน
้
8
11
15
พืน
้ ทีเ่ ป้าหมาย
จานวนประชากร
769 คน
บานแดง
169 ครัวเรือน ชาย 360 คน
้
หญิง
409 คน
จานวนประชากร 393 คน
89
บานหนองคอง
ครัวเรือน
ชาย 211 คน
้
หญิง
182 คน
จานวนประชากร 561 คน 123
บานหนองคู
ครัวเรือน ชาย
290 คน
้
วิท ยาลัย การปกครองท้ องถิ่น อาศั ย ทั้ง การสั ม ภาษณ ์
น า ย ก อ ง ค ์ ก า ร บ ริ ห า ร ส่ ว น ต า บ ล ใ น เ มื อ ง ก า นั น
ผู้ใหญ่บ้าน และแกนนาชาวบ้าน ฯลฯ ในเชิงลึกเพือ
่
จะไดทราบความต
องการของชุ
มชน ไมเพี
้
้
่ ยงเทานั
่ ้น ยัง
ได้จัด ท าการส ารวจส ามะโนครัว ประชากรครอบคลุ ม ทั้ง
3 ห มู่ บ้ า น ก า ร น า เ ส น อ ปั ญ ห า / ส า เ ห ตุ ค ว า ม ย า ก จ น
อุปสรรคและโอกาสการพัฒนาทีช
่ ุ มชนต้องการ ทัง้ จาก
ผลเบื้อ งต้ นจากการส ารวจส ามะโนประชากรและการ
สั มภาษณเชิ
่ ้าน ของหมูที
่ ่ 8
์ งลึก และทาประชาคมหมูบ
, 11 , 15 ต าบลในเมือ ง อ าเภอเวี ย งเก่ า
จัง หวัด
ขอนแกนดั
้
่ งตอไปนี
่
หมูที
่ ่ 15 บาน
้
หนองคู
ประเด็นแรก ปัญหาดานสุ
ขภาพชุมชน + ข้อมูลดานสุ
ขภาวะ
้
้
จากการสารวจสามะโนประชากรพบปัญหาดานสุ
ขภาพของหมูที
้
่ ่ 15
บานหนองคู
โดยเฉพาะความรุนแรงถึงขัน
้ พิการดังนี้
้
1. พิการทางการมองเห็น จานวน 1 คน
2. พิการทางการไดยิ
้ น / สื่ อความหมาย จานวน 1 คน
3. พิการทางสติปญ
ั ญา / การเรียนรู้ จานวน 3 คน
4. พิการทางรางกาย
/ การเคลือ
่ นไหว จานวน 11 คน
่
5. พิการซา้ ซ้อน จานวน 1 คน
6. พิการทางจิต จานวน 2 คน
ขณะทีข
่ ้อมูลเกีย
่ วกับภาวการณเจ็
์ บป่วย
ของชาวบานในปั
จจุบน
ั ดังรายละเอียด
้
ดังนี้
1.ฐผฉ ว , ธลฉ ฏั
, ี ยั ูยถ
2.ชยภษ
3.ภยฏภฉ, บถ
4. ธ ภผิ
5. ธ ั ฏวภผว
6. ธ ี ชผวท
7. ธลัณ
วล, ฐผฉ ย
8. ผวถฉ บภษ
ช
9.ยย ษชษ
10.ผจ ธ (ผจ ธ ยจ ล ช,ฏผถ)
11.ภบยฉับยฉ ถย
12.ฐธล ฏยอ
ฏชษ
ั ภชอ
4
7
1
2
20
1
80
15
2
7
1
หมายเหตุ:ขอมู
มตั
ม
่ าจากผลของการสารวจ
้ ลทีไ่ ดจากกลุ
้
่ วอยางที
่
สามะโนประชากร
ข้อมูลดานสุ
ขภาวะ
้
ลักษณะการรับประทานอาหารของชาวบานส
้ บาน
้
่ วนใหญนั
่ ้นเป็ นอาหารพืน
้
โดยทัว่ ไป และชาวบานใช
้
้น้าฝนสาหรับการบริโภคและอุปโภค ซึง่ ไมได
่ มี
้
กระบวนการทาให้น้าสะอาดกอนน
ามาบริโภค
และมีปญ
ั หาการติดสุราเรือ
้ รัง
่
พบมากในผูสู
ี าชีพเกษตรกรและผูใช
้ งอายุมอ
้ ้แรงงาน (รับจ้างทัว่ ไป) พบวามี
่
การดืม
่ สุราทุกเช้าและเย็น จากการสอบถามพบวารายจ
ายต
อเดื
่
่
่ อนทีเ่ สี ยไปกับ
คาสุ
ราประมาณ 300 – 500 บาท/เดือน และสูบบุหรี่ รวมถึงการใช้สารเสพย ์
่
ประเด็นทีส
่ อง ปัญหาดานสวั
สดิการชุมชน
้
ติดทีพ
่ บมากทีส
่ ุด คือ สารระเหย ซึง่ พบมากในผูใช
แรงงาน (รับจ้าง) และ
้
้
ในปัจจุบน
ั การเขาร
วมสวั
สดิการชุมชนตางๆ
ชาวบานให
ความรวมมื
อกัน
้
่
่
้
้
่
กลุมวั
ยรุนอายุ
โดยเฉลีย
่ 17-30 ปี
่
่
น้อยมาก โดยส่วนใหญชาวบ
านจะเข
าร
น าปนกิจสงเคราะห ์
่
้
้ วมกองทุ
่
เนื่องจากชาวบานยั
งไมเห็
้
่ นความสาคัญของสวัสดิการชุมชนมากนัก จึงไมมี
่
การเขาร
มี
้ วมและไม
่
่ การพัฒนาระบบสวัสดิการดูแลคนในชุมชน เกิด แก่
เจ็บ ตาย
และยังพบวามี
ู้ งอายุ หรือ คนชรา เด็ก ผูป
้ รัง
่ ผสู
้ ่ วยโรคเรือ
รวมถึงคนพิการ อาศัยในหมูบ
ซึง่ บุคคลเหลานี
่ าน
้
่ ้ขาดคนดูแลเนื่องจาก
ลูกหลานในครอบครัวตองไปท
างานในเมืองหลวงหรือตางจั
้
่ งหวัด และยัง
ไมไดรับการดูแลเอาใจใสทีด
่ ใี นดานของสวัสดิการดูแลคนในชุมชน สงผล
ประเด็นทีส
่ าม ปัญหาดาน
้
องคกรชุ
มชน
์
ประเด็นทีส
่ ี่ ปัญหาดานเศรษฐกิ
จ
้
พอเพียง และความมัน
่ คงทางอาหาร
ผลการส ารวจกลุ่มตัว อย่าง พบว่า รายได้ เฉลี่ย ภายใน
ครัวเรือนอยูระหว
าง
3,000 – 6,000 บาท/เดือน เกีย
่ วกับ
่
่
รายจายเฉลี
ย
่ ภายในครัวเรือนอยูระหว
าง
2,000 – 5,000 บาท
่
่
่
/ เดือน เมือ
่ ไปดูภาวะหนี้สินโดยเฉลีย
่ ภายในครัวเรือนพบวาอยู
่
่
ระหวาง
20,000 – 50,000 บาท
่
ประเด็นทีห
่ ้า ปัญหาดาน
้
ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่ งแวดลอม
้
จากสภาพภูมศ
ิ าสตร ์ หมู่ที่ 15 มีปัญหาเรือ
่ งน้ าเพราะ
เป็ นพืน
้ ทีแ
่ ห้งแล้ง และปริมาณคุณภาพน้าใต้ดินไมดี
่ เต็ม
ไปด้ วยเกลือ และปริม าณน้ า ใต้ ดิน มีน้ อยเป็ นปั ญ หาของ
หลายหมูบ
้ ทีห
่ ุ บเขา ดินจึงไม่
่ ้านเช่นกัน เนื่องจากเป็ นพืน
สามารถเก็ บน้ าได้ ซึ่งได้ส่งผลต่อการทาการเกษตรกรรม
และหลายบริเวณในต าบลจึง พบดิน ทีแ
่ ข็ ง หยาบ และแห้ ง
แล้ ง ส่ วนปั ญ หาที่ พ บมากที่ สุ ด ของบ้ านหนองคู คื อ
ปั ญ หาความแห้ งแล้ งเนื่ อ งจากขาดแหล่ งน้ า ในการท า
ก า ร เ ก ษ ต ร ที่ ผ่ า น ม า ช า ว บ้ า น ใ ช้ น้ า จ า ก ห น อ ง คู ท า
การเกษตรได้ อย่างเพีย งพอ แต่ในปั จ จุ บ น
ั น้ า มีน้ อยและ
หนองคูตน
ื้ ขึน
้ จึงทาให้ผลผลิตจากการปลูกข้าวได้ผลผลิตที่
เทคโนโลยี / องคความรู
เพื
่ แก้
้ อ
์
จน
วิทยาลัยการปกครองท้องถิน
่ ตระหนักถึงองคความรู
่ ช้ในการแก้ไข
์
้ทีใ
ปั ญ หาความยากจนจ าเป็ นต้ องอาศั ย หลากหลายศาสตร เพื
์ ่อ บู ร ณาการ
รวมกั
น อยางไรก็
ตาม หลักการทีว
่ ท
ิ ยาลัยการปกครองท้องถิน
่ ยึดถือคือ
่
่
การแกไขปั
ญหาความยากจนต้องอาศั ยการดาเนินงานรวมกั
นกับหน่วยงาน
้
่
ต่างๆ ทั้ง ภายในมหาวิท ยาลัย ขอนแก่น และหน่ วยงานภายนอกเช่ น
อปท. กานันผู้ใหญบ
่ ้าน พอช. สานักงานเกษตรอาเภอ ฯลฯ พร้อมกับ
ชาวบานในพื
น
้ ที่ โดยให้องคความรู
เพื
่ แกจนเป็
นไปตามองคประกอบดั
งนี้
้
์
้ อ
้
์
1.เป็ นการแก้ไขปัญหาความยากจนทีม
่ าจากความต้องการของพืน
้ ทีจ
่ ริงๆ
2. เน้นการมีส่วนรวมของชาวบ
านในพื
น
้ ทีใ่ นทุกขัน
้ ตอน/กระบวนการแก้ไข
่
้
ปั ญ หาความยากจน 3. องค ์ความรู้ ที่ ม หาวิ ท ยาลัย ขอนแก่ น และ
หน่วยงานภายนอกจะนาไปถายทอดต
่ ง่ ั ยืนและอิงตาม
่
้องเน้นการพัฒนาทีย
แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง และ 4.ต้องไมเพิ
่ กเฉยผู้ด้อยโอกาสในชุ มชน
เป็ นอันขาด
จากการประมวลเทคโนโลยีและองคความรู
่ แก้จนประกอบด้วย
์
้ทีใ่ ช้เพือ