การเฝ้าระวังโรคติดเชื้อ

Download Report

Transcript การเฝ้าระวังโรคติดเชื้อ

BOE
แนวทางการดาเนิ นงานเฝ้า
ระวังโรคจากการประกอบ
่
อาชีพและสิงแวดล้
อม (เชิง
ร ับ)
• แสงโฉม เกิดคล้าย สานัก
ระบาดวิทยา
[email protected]
ph.go.th
BOE
SRRT
Surveillance – Rapid –
Response - Team
PHER
Public - Health –Emergency Response
PHI
Public - Health – Intelligence
Policy 25472551
BOE
การเฝ้าระวังโรค
?????
การติดตาม สังเกต พิจารณา
เป็ น
่
่
เกียวกับการเปลียนแปลงการ
ระบบ
เกิด การกระจายและปั จจัย
่อ
ต่
อ
เนื
สาเหตุตา
่ ง ๆ ของการเกิดโรค
ง แปล
และภัย
รวบร เรียบ วิเครา
วม
เรียง ะห ์
ผล
กาหนดมาตรการ
ป้ องก ันควบคุม
เตือน
ภัย
Sangchom.2550 epi.
BOE
การเฝ้าระวังเชิงร ับ (Passive
Surveillance)
การเฝ้าระวังโรคติดเชือ้ ( communicable
Disease Sur.)
การเฝ้าระวังโรคเอดส ์และวัณโรค
(Aids,STD and TB Sur.)
การเฝ้าระวังการบาดเจ็บ (Injury Surveillance)
การเฝ้าระวังโรคจากการประกอบอาชีพ
่
และสิงแวดล้
อม
(Occ and Env. Disease Sur.)
BOE
การเฝ้าระวังเชิงรุก ( Active
่ กคามสุขภาพใน
การเฝ้าระวังสิงคุ
โรงงาน
การเฝ้าระวังโรคพิษตะกัว่ ใน
โรงงานผลิตแบตเตอรี่
การเฝ้าระวังโรคซิลโิ คซิสใน
โรงงานโม่หน
ิ
การเฝ้าระวังโรคพิษแคดเมียม ใน
ชุมชน
Surveillance)
BOE
การเฝ้าระวังจากแหล่งข้อมู ล
่
สุ•ขข้ภาพอื
น
ๆ วย ตาย จาก
อมู ลการป่
สถานพยาบาล
• ข้อมู ลการตายจากใบมรณะ
บัตร
• ข้อมู ลการตรวจคัดกรองผู ป
้ ่ วย
• ข้อมู ลการสารวจด้านสุขภาพ
• ข้อมู ลจากกองทุนเงินทดแทน
BOE
่ ๆ
การเฝ้าระวังจากแหล่งอืน
่
การเฝ้าระว ังจากสือ
ต่างๆ
การเฝ้าระว ังจากเหตุ
ร ้องเรียน
การเฝ้าระว ังจาก
สภาพแวดล้อม
BOE
่ กคาม
• มีการรายงานข้อมู ลโรคและสิงคุ
สุขภาพอย่างต่อเนื่ อง ถู กต้อง ทันต่อ
สถานการณ์
• แสดงสถานการณ์และแนวโน้มของ
ปั ญหาและโรคจากการประกอบอาชีพ
่
และสิงแวดล้
อม
• สามารถอธิบายลักษณะ สถานที่ เวลา
่ ของการเกิดโรค สภาวะการ
กลุ่มเสียง
่
เสียงต่
อการเกิดโรคได้
BOE
โรคจากการประกอบ
อาชีพ
(Occupational diseases)
ผู ป
้ ฏิบต
ั งิ าน คนงาน
่
การได้
ร
ับสั
ม
ผั
ส
สิ
ง
คุกคาม
่
สภาวะการท
างานที
ไม่
เหมาะสม
ขณะท
างาน
เลิ
ก
งาน
่
หรือภายหลังที
ออกจากงาน
BOE
่
โรคจากสิงแวดล้
อม
(Environmental diseases)
่
กลุ่มคนทัวไป
ทุกวัย
่ กคาม
การได้
ร
ับสั
ม
ผั
ส
สิ
งคุ
สุขภาพ
่
่
จากสภาวะสิงแวดล้
อมทีไม่
เหมาะสมทุกเวลา
BOE
BOE
กลุ่มโรคจากการประกอบอาชีพ
่
1.
โรคปอดและทางเดิ
และสิ
งแวดล้
อม นหายใจ
2. โรคเหตุสภาวะทางกายภาพ
3. โรคผิวหนัง
้
4. โรคกระดู กและกล้ามเนื อ
5. พิษจากสัตว ์
6. พิษจากพืช
7. โรคพิษโลหะหนัก
8. โรคพิษสารระเหยและสารละลาย
9. โรคพิษจากก๊าซ
10.
โรคพิ
สารเคมี
อนๆ
ื่ ษจากสารเคมีการเกษตรและ
11.
พและ
่ โรคจากการประกอบอาชี
่
สิงแวดล้
อมอืนๆ
BOE
กลุ่มโรคปอดและระบบ
หายใจ
โรคฝุ่ นหิน ( J62.8)
โรคฝุ่ นฝ้าย ( J66)
โรคใยหิน ( J61)
โรคหืดเหตุอาชีพ ( J45)
เหตุสภาวะทางกายภาพ
่
หู เสือมเหตุ
เสียงด ัง
(H83.3)
โรคเหตุลดความกดอากาศ
(T70.3)
ภาวะการขาดออกซิเจน
(T71)
การเจ็บป่ วยเหตุความร ้อน
(T67.0)
ภาวะเป็ นลมจากความร ้อน
BOE
ปวดหลังเหตุอาชีพ (M545,
M548)
โรคพิษจากสัตว ์
พิษจากงู ( T63.0)
้
่
พิษจากสัตว ์เลือยคลานอื
นๆ
(T63.1)
พิษแมงป่ อง (T63.2)
พิษแมงมุม (T63.3)
พิษต่อหัวเสือ,,,,,,,,,,,,,
BOE
โรคผิวหนังจากการสัมผัส
• โรคผิวหนังสัมผัสสารภูมแิ พ้ (
L23)
• โรคผิวหนังสัมผัสสารระคายเคือง
(L24)
่ (L25)
• โรคผิวหนังสัมผัสสารอืนๆ
พิษโลหะหนัก
• พิษสารตะกัว่ (T56.0)
• พิษสารหนู (T57.0)
• พิษสารแคดเมียม (T56.3)
• พิษสารปรอท (T56.1)
่ ๆ (T57.8)
• พิษสารอืน
BOE
พิษสารระเหยและตัวทา
ละลาย
• พิษเบนซีน ( T52.1)
• พิษโทลู อน
ี ( T52.2)
• พิษสไตรีน( T52.83)#
• พิษไตรคลอโรเอธิรน
ี ( T53.2)
่ ๆ
• อืน
BOE
พิษจากก๊าซ
•(T59.1)
พิษซ ัลเฟอร ์ไดออกไซด ์
•(T59.0)
พิษไนโตรเจนไดออกไซด ์
•(T58)
พิษคาร ์บอนมอนนอกไซด ์
• พิษแอมโมเนี ย (T59.01)#
่ ๆ
• อืน
BOE
พิษจากสารกาจัดแมลงศ ัตรู พช
ื
่
และสารเคมี
อ
น
ื
ๆ ัตรู พช
พิษสารกาจัดแมลงศ
ื
• พิษออร ์กาโนฟอสเฟต
(T60.11)#
• พิษคาร ์บาเมต (T60.12)#
• พิษไพรีทรอยด ์ (T60.12)#
่ ๆ
• อืน
BOE
พิษสารกาจัดหนู และสัตว ์แทะ
(T60.4)
พิษสารกาจัดวัชพืช (T60.3)
• พิษพาราควอท (T60.31)#
• พิษกลัยโฟเสต(T60.32)#
่ ๆ
• อืน
่ ตาม
พิษสารเคมีอน
ื่ ๆทีใช้
บ้านเรือน
BOE
• รายงานผู ป
้ ่ วยโรคจากการประกอบ
อาชีพและ
่
่
่
สิงแวดล้
อม ทีมาร
ับการร ักษาทีสถาน
บริการสาธารณสุขระด ับ
PCU/CUS/CUT
• แบบรายงานผู ป
้ ่ วยโรคจากการ
ประกอบอาชีพและ
่
สิงแวดล้
อม ( รง. 506/2)
• ส่งข้อมู ลทุกสัปดาห ์
BOE
สคร.
สานัก
ระบาด
สสจ.
ศู นย ์ข้อมู ล
อาเภอ
ศู นย ์ข้อมู ล
CUP
หน่ วย
รายงาน
PCU/CUS/C
UT
Electronic
file
รง.506/2/Electr
onic file
(OE1
OE2 OE3
OE4)
รง.506/2/Electr
onic file
(OE1
/OE3 /OE2
/ OE4)
รง.506/2/
OE1
รายงาน
506/2
PCU/CUS/CUT
รายงาน
506/2
โรค
ตรวจส
อบ
สอบสวน
เฉพาะ
ราย
Electronic
file
สสจ.
รวบร
วม
สคร
สานัก
ระบาด
หน่ วยงานที่
่
อง
เกียวข้
นายจ้าง/
สอบสวนการ
สถาน
ประกอบการ
ระบาด
กรมควบคุม
มลพิษ
อุตสาหกร
แรงงา
ชุมชน/
รม
น
คนงาน
SRRT
การสอบสวน
่
??????????
หาข้อมู ล
และข้อเท็จจริง เกียวก
บ
ั การ
เกิดโรคและสาเหตุของโรค โดยการ
เ ก็ บ ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล ด้ า น สุ ข ภ า พ
่
สิงแวดล้
อ ม ตลอดจนข้อ มู ล ผลการ
ตรวจทางห้องปฏิบต
ั ก
ิ ารต่างๆ
่
วิ เ คราะห ์ แปลผล เพื ออธิ
บ ายถึ ง
สาเหตุ ปั จจัย ของการเกิดโรค โดย
่
อาศ ย
ั หลัก การทางวิท ยาศาสตร ์ทีมี
- หาข้อมู ล /
อเท็
จจริป
ง้ ่ วย
-ข้ค้
นหาผู
รายใหม่
- ประเมินสภาวะหรือ
ผลกระทบต่อสุขภาพ
1
2
่
เพือทราบข้
อมู ล/ข้อเท็จจริงที่
่
เกียวข้
องกับลักษณะ สาเหตุและ
ปั จจัยการเกิดโรค
่ นแนวทางในการปร ับปรุง
เพือเป็
มาตรการป้ องกันและควบคุมโรคได ้
อย่างเหมาะสม ป้ องกันการเกิดโรค
่ นและการกลั
้
เพิมขึ
บมาเป็ นโรคอีก
ตลอดจนสามารถให ้การร ักษาผูป้ ่ วยได ้
โดยเร็ว
สงิ่ ควรรู ้
ความรู ้ด้านระบาดวิทยาและลักษณะ
ของโรค
่
 ค่ามาตรฐานต่างๆในสิงแวดล้
อม
่
 การเฝ้าระว ังด้านสิงแวดล้
อม
(Environmental monitoring)
 การเฝ้าระว ังทางชีวภาพ (
Biological Monitoring)
ต ัวชีว้ ัด (Determenant) เป็ น
่
สารพิษในสิงแวดล้
อม

การ เจ็บป่ วยหรือเสียชีวต
ิ มากกว่าปกติ
ด้วยอาการคล้ายกัน
่ อบ
และอยู
วกั
อไม่ทราบ
การเกิ่ใดนสถานที
อุบต
ั เิ หตุเดี
ุยต
ั ภ
ิ น
ยั หรื
ในสถาน
สาเหตุ
แ
น่
ช
ัด
ประกอบการ และ
่
สิ
งแวดล้
ม จากผู ไ้ ด้ร ับผลกระทบต่อ
ข้อร ้องเรียอน
่
สุขภาพ และเหตุผล การเมืองอืนๆ
้
โรคหรืออาการที่ ไม่เคยเกิดขึนมาก่
อน
้
หรือนาน ๆ้ เกิดขึน
ข้อบ่งชี การปนเปื ้อนของสาร
่
่
มลพิษในสิงแวดล้
อม
ทีอาจมี
ผลต่อสุขภาพ
การตรวจสอบว่ามีปัญหาอยู ่
จริง
(Verity the existence of
a problem)
จากข้อมู ลการเฝ้าระว ังโรค
(Surveillance data)
 การรายงานจากผู ป
้ ฏิบต
ั งิ านในสถาน
ประกอบการ
่
 การรายงานจากเจ้าหน้าทีสาธารณสุ
ข
่
 การตรวจสอบข่าวสารจากสือมวลชน

การยืนยันการวินิจฉัย
(Verifying the
diagnosis)
การวินิจฉัยทาง
คลินิก
 การวินิจฉัยทาง
ห้องปฏิบต
ั ก
ิ าร
 การสอบถามจาก
แพทย ์ พยาบาล

ข้อมู ล
่ าจะเป็ นสาเหตุของการ
องค ์ประกอบทีน่
ระบาด
(Rapid preliminary assessment data)
1. หาข้อมู ลลักษณะการระบาดของโรคหรือ
้
เหตุการณ์ทเกิ
ี่ ดขึน
2. ยืนยันการวินิจฉัย ให้ได้โดยเร็ว
่
่
3. หากลุ่มเสียงให้
ได้วา
่ ใครเป็ นผู ท
้ เสี
ี่ ยงต่
อ
การเกิดโรคบ้าง
4. อธิบายลักษณะทางคลินิกของการระบาด
่
่
่
5.พิจารณาข้อมู ลด้านสิงแวดล้
อมอืนๆที
่ อให้เกิดโรคขึน
้
อาจจะเป็ นปั จจัยทีก่
6.ประชาชนให้ความสนใจ
ต้องการพิสูจน์
ในทางกฎหมายหรือไม่
การเตรียมการสอบสวนโรค
1. การจัดทีมสอบสวน/หน่ วย
่
่
เคลื
อนที
เร็
ว (SRRT)้
2. การศึกษาความรู
่
่ ดขึ
้
เกี
ยวก
ับโรคที
เกิ
น
่
3. การเตรียมเครืองมือและ
อุ
ป
กรณ์
ต
า
่
งๆ
่
4. แบบสารวจ/สอบถาม เพือ
เก็
ข้อมู ล
5.บการประสานงานกับ
่ ยวข้
่
หน่ วยงานทีเกี
อง
การสร ้าง
แบบสอบถาม
่
-ข้อมู ลทัวไป
(ส่วนบุคคล)/ประวัตก
ิ าร
เจ็บป่ วย/กรรมพันธุ ์ /
ต่าง ๆ
พฤติกรรม
่ มพันธ ์ กับโรค
- อาการและอาการแสดงทีสั
หรืออาการตามคา นิ ยามโรค
่
- ข้อมู ลรายละเอียดเกียวกั
บเหตุการณ์ท ี่
้
เกิดขึน
่
่ ดเหตุ /
- ข้อมู ลสภาพทัวไปของสถานที
เกิ
่
ด้านสิงแวดล้
อม
การรวบรวมข ้อมูล (Collection of
data)
่
การเก็บรวบรวมข้อมู ลเกียวกั
บสุขภาพ
(Collection of Health data)
1. การกาหนดคาจากัดความ
(Establishing a case definition)
่
2. การค้นหาผู ป
้ ่ วยเพิมเติ
ม (Search for
additional cases)
3.การตรวจทางชีวภาพทาง
ห้องปฏิบต
ั ก
ิ ารและการตรวจพิเศษ
่
่
่
การเก็บข ้อมูลสิงแวดล
้อม
้
1. การสารวจเบืองต้
น
(Walk
through
Survey)
2. การเก็บตัวอย่าง
่
สิงแวดล้
อม
้ ้น(walk through
การสารวจเบืองต
survey)
1. แผนผังโรงงานหรือ
่
แผนที
ชุ
มงชน
2. แผนผั
กระบวนการผลิตและ
้
ขันตอนการผลิ
ต
3. ชนิ ดของสารเคมี และสิง่
คุกคามสุขภาพ
่
4. มลพิษของเสียทีออกจาก
่่
โรงงานสู
ส
่
งแวดล้
ิ
อ
ม
5. กลุ่มเสียงคนงานแต่ละแผนก
หรือประชาชนที่
อยู ่ใน
่ ่
การเก็บตัวอย่างสงิ่ แวดล ้อม
1. การเก็บข้อมู ลด้าน
่
สิงแวดล้
อม โดยการ
สังเกตและใช้
่ กคาม
2.
การตรวจว
ัดสิ
งคุ
แบบสอบถาม
่
ในสิงแวดล้
อมและการเก็บ
่ เคราะห ์
ต ัวอย่างเพือวิ
การวิเคราะห ์ข ้อมูลระบาดวิทยาเชิง
พรรณนา (Performing descriptive
epidemiology)
1. ลักษณะของปั ญหาการระบาดด้าน
เวลา (time)
2. ลักษณะปั ญหาจากการระบาดด้าน
สถานที่ (place)
3. ลักษณะปั ญหาจากการระบาดด้าน
บุคคล (person)
้
การตังสมมติ
ฐาน
(Formulating
การพิสูจน์สมมติฐาน (Testing
Hypothesis)
the hypothesis)
่ จาก
1. การพิจารณาข้อมู ลความจริงทีได้
การสารวจ
2. การศึกษาระบาดวิทยาเชิงวิเคราะห ์
(Analytic epidemiology)
- cohort study
- case-control study
่
การจ ัดการเกียวกับการระบาดของ
โรค
(Management of epidemic)
# การร ักษาผู ป
้ ่ วย(treatment
of care)
# การค้นหาประชากรหรือกลุ่ม
่ ยงต่
่
คนงานทีเสี
อการ
เกิดโรค (Investigation of
population at risk)
การสรุปผลการ
สอบสวน
ลาดับเหตุการณ์เกิดขึน้
รวบรวมข ้อมูลสุขภาพ
่
รวบรวมข ้อมูลด ้านสิงแวดล
้อม
่ ๆ
และอืน
วิเคราะห ์
หาสาเหตุ
และ
ข ้อเท็จจริง
่ ดขึน้
ทีเกิ
อย่างเป็ น
เหตุเป็ น
ผลเชิง
วิชาการ
รายงาน
การ
สอบสว
น
การรายงานผลการสอบสวน
(Report of the investigation)
้
1. การรายงานในเบืองต้
น
2. การรายงานผล
การสอบสวน
- การทารายงาน
่
เพือเสนอผู
บ
้ ริหาร
summary)
(Executive
่ อง
่ เหตุการณ์
ชือเรื
ความเป็ นมา
วัตถุประสงค ์
่
ผลการสอบสวน – ข ้อมูลทัวไป
ข ้อมูล
่
ด ้านสิงแวดล
้อม ข ้อมูลด ้านสุขภาพ
จานวนคนงานและสวัสดิการ กระบวนการ
่ ๆ
ผลิต และอืน
สรุปสาเหตุการ
สอบสวน
ข ้อสรุปและ
วิจารณ์
ข ้อเสนอแนะ
่ ต
่ ้องดาเนิ นการ
แนวทางแก ้ไขและสิงที
การควบคุมและ
ป้ การควบคุ
องกัน มป้ องกันแหล่ง
ต้นเหตุ
การควบคุมป้ องกัน
่
กลุ่มเสียง
การสอบสวนโรคปอดฝุ่ นหิน ใน
โรงงานแห่งหนึ่ง จังหวัด
สมุทรปราการ
จากระบบเฝ้าระวังโรคจากการประกอบ
อาชีพ พบพนักงานในโรงงานอิฐทน
่ อาการ ไอ มีเสมหะ หายใจ
ไฟ ทีมี
ลาบาก แพทย ์ให้การวินิจฉัย R/O
วัณโรค หรือเป็ นโรคจากการทางาน
วัตถุประสงค ์
่ นยันการวินิจฉัย และ
• เพือยื
ลักษณะทางระบาดวิทยาของการ
เจ็บป่ วย
่ กษาปั จจัยเสียงการ
่
• เพือศึ
เจ็บป่ วย
่
• เพือหามาตรการควบคุ
มป้ องกัน
การเจ็บป่ วย
วิธก
ี ารสอบสวน
• สารวจสภาพแวดล้อมในโรงงาน
่
ขบวนการผลิต เครืองมื
อผลิต ลักษณะ
งาน จานวนคนงาน ข้อมู ลความ
่ กคาม
ปลอดภัยและสวัสดิการ สิงคุ
่ นหาสิงคุ
่ กคามสุขภาพ)
สุขภาพ (เพือค้
่
- ใช้แบบสารวจสิงแวดล้
อมการ
ทางาน
่
– ใช้เครืองตรวจวั
ดเสียง
การศึกษาระบาดวิทยาเชิง
่ นยันการ
พรรณนา
(เพือยื
่ ภาพ
บข้นอหาผู
มู ลด้ป้ า
นสุขมเติ
วิ•นการเก็
ิ จฉัยและค้
่ วยเพิ
ม)
่
– การสัมภาษณ์คนงาน เกียวกั
บ
ประวัตก
ิ ารทางาน อาการป่ วย ระบบ
การหายใจ
–
ตรวจสมรรถภาพปอดคนงานทุกคน
– เก็บเสมหะตรวจ
– x-ray ปอด
คานิ ยามโรค
- มีประวัติการสัมผัสฝุ่ นซิ
ลิกา้
- ภาพถ่าย
ร ังสีปอด มีลก
ั ษณะ nodule
interstitial infiltration
(เกณฑ ์ ILO)
การศึกษาระบาดวิทยาเชิง
่ กษาปั จจัย
วิเคราะห ์
(เพือศึ
่ )
เสียง
• Retrospective cohort
study วิเคราะห ์เปรียบเทียบอ ัตรา
่ ปัจจัยเสียงต่
่
ป่ วยระหว่างกลุ่มทีมี
างกัน
ผลการศึกษา
การศึกษาสภาพแวดล้อมในโรงงาน
่
-ข้อมู ลทัวไป
เป็ นโรงงานผลิตอิฐทนไฟ
คนงาน 67 คน ทางาน 8 ชม. ( 8.0017.00) 6 วัน/สัปดาห ์ โล่ง มีฝุ่นมาก
เสียงดังมาก (90 db)
-ข้อมู ลสวัสดิการ ความปลอดภัย มีการ
่ ห้องน้ า ไม่มโี รงอาหาร ไม่
จัดหาน้ าดืม
่
้ า ไม่มห
มี การเปลียนชุ
ดเสือผ้
ี อ
้ ง
พยาบาล ไม่มแ
ี ผนความปลอดภัย
่
เครืองป้
องกันไม่ถูกต้อง ไม่มก
ี ารตรวจ
- กระบวนการผลิต
ดิน หิน สบู ่ และ แร่
บอกไซด ์
ผสม
โม่
พิมพ ์
ปั๊ม
เผา
การศึกษาระบาดวิทยาเชิง
่ นยันการ
พรรณนา
(เพือยื
่
• การเก็
อมู ลนด้
านสุ
ขภาพ
วินิจฉับยข้
และค้
หาผู
ป
้ ่ วยเพิ
มเติ
ม)
– การสัมภาษณ์คนงาน 67 คน
– ตรวจสมรรถภาพปอดคนงาน 48 ( ร ้อยละ
71.64 ชาย 10 หญิง 38 อายุระหว่าง 18-72 ปี
่ 41 ปี ) ประวัติการเจ็บป่ วย 9 รายเคย
(เฉลีย
ได้ร ับการวินิจฉัยเป็ นวัณโรค เคยเป็ นหลอดลม
อ ักเสบ 5 ราย ปอดบวม 1 ราย ประวัติการสู บ
บุหรี่ ร ้อยละ 31.3
– เก็บเสมหะ
ตรวจ ไม่พบความผิดปกติ
– x-ray ปอด ผิดปกติ 19 ราย ( เป็ นลักษณะ
ผู ป
้ ่ วย 19 ราย (2 ราย ไม่มาร ับการ
้ั
่
สัมภาษณ์ )อายุตงแต่
37-62 ปี (เฉลีย
่ ด 15 ปี
49.5 ปี )ระยะเวลาทางานตาสุ
สู งสุด 45 ปี ( 23 ปี ) อ ัตราส่วนชาย:
หญิง 1:3.25
ภู มล
ิ าเนา จังหวัดสระบุร ี
สมุทรปราการ ส่วนใหญ่มอ
ี าชีพ
เกษตรกรมาก่อน
ตัวแปร
อายุ
range
mean
SD
อายุงาน
range
ป่ วย
37 –
62
49.5
7.5
ไม่ป่วย
18 –
72
36.6
11.2
Pvalue
<0.00
1*
15-45 4 เดือน <0.00
36
1*
23.2
10.1
ตัวแปร
่ ่อาศ ัย
ทีอยู
โรงงาน
ป่ วย
ใน
ไม่ป่วย RR(95%C
L)
10
7
20
11
0.8(0.4-1.85)
3
4
6
4
24
5
1
1
1
4(1.1-14.6)*
7.7(2.5-23.6)*
6.7(2-22.9)*
7
8
1.5 (0.7-3.3)
นอก
โรงงาน
ระยะเวลาทางาน
4 เดือน –
15
สู บบุหรี่
16 – 20
21 – 25
> 26
สู บ
การตรวจสมรรถภาพปอด
กลุ่มผู ป
้ ่ วย มีสด
ั ส่วนของผู ม
้ ี
สมรรถภาพปอดผิดปกติ สู งกว่า
กลุ่มผู ไ้ ม่ป่วย (P-value 0.001)
อาการระหว่างกลุ่มผู ป
้ ่ วยและไม่
ป่ วย
อาการ
ป่ วย
ไม่ป่วย RR(95%CL
)
ไอมากกว่า 3
เดือน
ไอและเสมหะ > 3
เดือน
การเจ็บป่ วยด้วย
โรคทรวงอกจน
หยุดงาน 1 สัปดาห ์
3
1
2.4(1.2-4.8)*
4
1
2.6(1.4-4.9)*
5
6
3.6(2.2-5,8)*
ข้อสรุปและวิจารณ์
โรงงานแห่งนี ้ มีผูป
้ ่ วยด้วยโรคซิลโิ ค
สิส ร ้อยละ 28.36 ทีมส
ี าเหตุการ
ทางานสัมผัสกับฝุ่ นหิน โดยมีอาการที่
เข้าได้กบ
ั อาการของโรค เช่น การไอ
มีเสมหะ การเจ็บหน้าอก และความ
ผิดปกติจากผลการตรวจร่างกาย ต่าง
่ อายุงานมากมี
ๆ โดยคนงานทีมี
โอกาสเกิดโรคสู ง (> 25 ปี สู ง 6-7
เท่า)
ข้อเสนอแนะ
• ควบคุมกระบวนการผลิต
่
• จัดหาเครืองป้
องกันตนเอง
• ให้การร ักษาผู ป
้ ่ วย
• เฝ้าระวัง/ตรวจสุขภาพคนงานทุกปี
(สมรรถภาพปอด X-ray ปอด)
• ให้ความรู ้พนักงาน
BOE
Thank you……….