53181100107 - WordPress.com

Download Report

Transcript 53181100107 - WordPress.com

1.
เจ ้าชายสิทธัตถะ
่
ประสูต ิ ณ ทีใด
ก.
กรุงกบิลพัสดุ ์
ข.
เมืองเทวทหะ
ค.
สวนลุมพินีวน
ั
ง.
กะ
แคว ้นศา
2.หลังจากเจ้าชายสิทธ ัตถะประสู ตไิ ด้ 7 ว ัน
้
มี เหตุการณ์ใดเกิดขึน
1. ขนานพระนาม
2.พระมารดา
้
์
สินพระชนม
3. อสิตดาบสมาเยีย่
4. ทานายพระลักษณะ
่
3.เมือพระนางสิ
รมิ หามายาทิวงคตแล ้ว ใครเป็ น
ผู ้ ดูแลพระกุมาร
1. พระนางปชาบดี
2. พระนางกาญจนา
3. พระนางรูปนันทา
4. พระนางอมิตา
4.เจ ้าชายสิทธัตถะ ทรงอภิเษกสมรสกับเจ ้า
หญิง พระองค ์ใด
1. พระนางมัลลิกา
3. พระนางโรหิณี
2. พระนางพิมพา
4. พระนางรูปนันทา
5.เทวทูต 4 อันเป็ นมูลเหตุในการเสด็จออกบวชของเจ ้าชาย
สิทธัตถะ ได ้แก่อะไรบ ้าง
1. คนเกิด-คนแก่-คนเจ็บ-คนตาย
4. คนแก่-คนเจ็บ-คนตายความสุข
2. คนแก่-คนเจ็บ-คน
ตาย-สมณะ
3. คนแก่-คนเจ็บ-คนตายความทุกข ์
6.ใครเป็ นครูคนแรกของเจ ้าชายสิทธัตถะ
1. อสิตดาบส
2. อุททกดาบส
3. โกณฑัญญะ
4. วิศวามิตร
่
7. เมือพระพุ
ทธเจ ้าทรงออกจากสานักท่าน
อุทกดาบสแล ้วพระองค ์ทรงบาเพ็ญ
ก.
การปฏิบต
ั ิ
โยคะ
ค.
การบาเพ็ญ
ตบะ
ข.
การ
บาเพ็ญใจ
ง.
การ
บาเพ็ญทางจิต
่ ัสรู ้พระพุทธเจ ้ามีพระ
8. ในขณะทีตร
่
ชนม ์กีพรรษา
ง.
45
พร
ก.
29 พรรษา
รษา
ข.
33 พรรษา
ค.
35 พรรษา
ก.
ค.
9. พระพุทธเจ ้าตร ัสรู ้
ธรรมะข ้อใด
มรรค 8
ข.
อริยสัจ 4
สังคหวัตถุ 4
ง.
พรหม
วิหาร 4
่
10.ธรรมทีพระพุ
ทธเจ ้าทรงแสดงปฐม
่ า
เทศนาชือว่
1.ธรรมจักกัปวัตนสูตร
2. อาทิตตปริยายสูตร
3. อนัตตลักขณสูต
4. มงคลสูตร
ประวัติ
พระพุทธเจ้า
ทรงได้ร ับเชิญจากทวยเทพให้จุตล
ิ งมาโปรด
สัตว ์โลก ข้าแต่มหาวีระ
้ นกาลของท่านแล้วเชิญพระองค ์ทรงลง
คราวนี เป็
มาโปรดสัตว ์โลกเถิด
่
เมือพระโพธิ
สต
ั ว ์ได้พจ
ิ ารณาถึง ปั จจัย 5 ประการ
คือ กาล ทวีป ประเทศ ตระกูล มารดา ว่าเหมาะสม
แล้วก็ได้ร ับคาเชิญของทวยเทพลงมาปฏิสนธิ
ในพระครรภ ์ของพระนาง สิรม
ิ หามายา พระอ ัคร
่
มเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะมหาราชในวน
ั ทีลง
้ั
ปฏิสนธินนพระนางสิ
รม
ิ หา มายา ได้ทรงพระสุบน
ิ
ว่ามีชา้ งเผือกใช้งวงถือดอกบัวสีขาวมาหาพระนาง
้ 15เดือน 6 (เดือนวิสาข)ปี
วันเพ็ญ ขึน
จอ พระนางสิรม
ิ หามายาได้กลับไปยังกรุง
่
เทวทหะเพือประสู
ตก
ิ ารณ์ แต่ยงั ไม่ถงึ
้ มีสวนลุมพินี
ปลายทาง ในระหว่างทางนัน
พระนางได้หยุดพักขบวนแต่วา
่ พระนางได้
่
้ั ใต้ตน
ประสู ตพ
ิ ระโอรสทีสวนลุ
มพินีนน
้ ไม้
่ สาละทีโน้
่ มลง
สาละ โดยพระนางได้เกาะกิงไม้
้ ก้าวไป
มาให้พระนาง พอพระโอรสเหยียบพืน
หลังจากประสู ต ิ
อสีตดาบส เป็ นมหาฤษีอยู่ ณ เชิงเขาหิมพานต ์เป็ นที่
เคารพของราชสกุลได ้ร ับ ทราบข่าวการประสูตรของพระ
่ และได ้ทานายว่า ถ ้าพระกุมารอยู่
กุมารจึงเดินทางมาเยียม
ครองฆราวาสจะได ้เป็ นจักรพรรดิ ถ ้าออกบวชจะได ้เป็ น
ศาสดาเอกของโลก 5 วันหลังประสูตพ
ิ ระเจ ้าสุทโธทนะพร ้อม
้
รมิ หามายา พระประยูรญาติได ้จัดพิธข
ี นานพระ
ทังพระนางสิ
นามพระราชกุมารว่า สิทธัตถะ โดยเชิญพราหมณ์ 108 คน
้ แล ้วได ้คัดเลือกเอาพราหมณ์ชนยอด
้ั
มาเลียง
8 คนให ้เป็ น
่
ผูท้ านายลักษณะพระกุมาร เมือประสู
ตไิ ด ้ 7 วัน พระมารดาก็
่
อภิเศกสมรส
วัยหนุ่ ม พระราชบิดาไม่ต ้องการให ้เจ ้าชายสิทธัตถะ
่
ทรงออกบวช พระองค ์ทรงพอพระทัยทีจะให
้เจ ้าชายสิทธัต
่
ถะเป็ นองค ์จักรพรรดิ จึงใช ้ควาพยายามทุกวิถท
ี างเมือ
เจ ้าชายสิทธัตถะพระชนมายุได ้ 16พรรษา พระราชบิดาได ้
โปรดให ้สร ้างปราสาท 3 หลัง ให ้ประทับใน 3 ฤดู และทรงสู่
ขอพระนางโสธราพิมพา พระราชธิดาของพระเจ ้าสุปปพุทธะ
แห่งกรุงเทวทหะ อยูใ่ นตระกูลโกลิยวงค ์ให ้อภิเษกด ้วย
เจ ้าชายสิทธัตถะได ้เสวยสุขสมบัตจิ นพระชนมายุ ๒๙
พรรษา พระนางยโสาธาราก็ประสูตพ
ิ ระโอรส ทรงพระนามว่า
ราหุล
ออกบรรพชา
่
เมือทอดพระเนตรเห็
นเทวทูตทัง้ 4 ได ้แก่คนแก่ คนเจ็บ
คนตาย และสมณะตามลาดับ จึงทรงคิดว่าชีวต
ิ ของทุกคนตอ้ งตก
่
่ น้ จาก
อยูใ่ นสภาพเช่นนั้น ไม่มใี ครหลีกเลียงได
้ วิถท
ี างทีจะพ
้ ้ หนทางหลุดพน้ จากวัฏสงสาร
ความทุกข ์ของชีวต
ิ เช่นนี ได
จะต ้องสละเพศผูค้ รองเรือนเป็ นสมณะจึงเสด็จออกบรรพชา
่
เจ ้าชายสิทธัตถะทรงเบือหน่
ายในโลกียวิสยั ถึงแม้วา่ พระองค ์จะ
ทรงสมบูรณ์ด ้วยทรัพย ์สมบัตอิ ย่างเหลือล ้น พระองค ์ก็ยงั คงตริ
่ ษย ์เรา
ตรองถึงชีวต
ิ คน ฝักใฝ่ พระทัยคิดค ้นหาวิธท
ี างดับทุกข ์ทีมนุ
มีมากมาย พระองค ์คิดว่า ถ ้ายังอยู่ในเพศฆราวาส พระองค ์คง
หาทางแก ้ทุกข ์ อันเกิดจากความแก่ ความเจ็บ ความตายไม่ได ้แน่
เข้าศึกษาในสานักดาบส
การแสวงหาธรรม ระยะแรกหลังจากทรง
ออกบวชแล ้ว เจ ้าชายสิทธัตถะได ้ทรงศึกษาใน
่ งราชคฤห ์ อาณาจักร
สานักอาฬารดาบส ทีกรุ
่ าเร็จการศึกษาจากสานักนี แล
้ ้ว
มคธเมือส
พระองค ์ทรงเห็นว่าไม่ใช่หนทางในการหลุดพน
้
่
จากทุกข ์ตามทีพระองค
์ได ้ทรงมุ่งหวังไว ้พระองค ์
จึงลาอาฬารดาบสและอุททกดาบสเดินทางไป
้
แถบแม่นาคยา
ในตาบลอุรเุ วลาเสนานิ คมแห่ง
กรุงราชคฤห ์ อาณาจักรมคธ
บาเพ็ญทุกรกิรย
ิ า
่
่
่ ด
การบาเพ็ญทุกรกิรยิ า เมือพระองค
์ทรงเปลียนพระทั
ยทีจะคิ
่
ค ้นคว ้าแสวงหาความรู ้ด ้วยพระองค ์เองแทนทีจะทรงเล่
าเรียนในสานัก
่ ้วยการทรมานพระวรกายตามวิธก
อาจารย ์แล ้วพระองค ์เริมด
ี ารของ
โยคี เรียกว่า การบาเพ็ญทุกรกิรยิ า บริเวณแม่นา้ เนร ัญชรานั้น ได ้
ทรงบาเพ็ญทุกรกิรยิ าเป็ นเวลา 6 ปี ก็ยงั คงมิได ้ค ้นหาทางหลุดพน้
จากทุกข ์ได ้ ทรงเลิกการบาเพ็ญทุกรกิรยิ า แล ้วกลับมาเสวยพระ
่ ารุงพระวรกายให ้แข็งแรง จะได ้มีกาลังคิดค ้นพบวิธ ี
กระยาหารเพือบ
่
ใหม่ ในขณะทีพระมหาบุ
รษ
ุ ได ้ทรงบาเพ็ญทุกรกิรยิ านั้น ได ้มีปัญจ
วัคคีย ์มาคอยปรนนิ บต
ั ริ ับใช ้ด ้วยความหวังว่า พระมหาบุรุษได ้ตร ัสรู ้
่
แล ้วพวกตนจะได ้ร ับการถ่ายทอดบ ้าง และเมือพระมหาบุ
รษ
ุ ล ้มเลิก
้
การบาเพ็ญทุกรกิรยิ า ปัญจวัคคีย ์ก็ได ้ชวนกันละทิงมหาบุ
รษ
ุ ไป
ตร ัสรู ้
ตร ัสรู ้ ตอนเช ้าวันเพ็ญเดือน 6ปี ระกา ก่อนพุทธศักราช 45
่
้ั นพระ
นางสุชาดาได ้นาข ้าวมธุปายาสเพือไปบวงสรวงเทวดา
ครนเห็
่
มหาบุรษ
ุ ประทับทีโคนต
้นไทรด ้วยอาการสงบ นางคิดว่าเป็ นเทวดา
้
จึงถวายทอดข ้าวมธุปายาสแล ้วเสด็จไปริมฝั่งแม่นาเนร
ัญชรา ตอน
่
เย็นวันนั้นเองพระองค ์ได ้กลับมายังต ้นโพธิที์ ประทั
บ พบคนหาบหญ ้า
่
ชือโสตถิ
ยะ คนหาบหญ ้าได ้ถวายหญ ้าให ้พระองค ์ปูลาด ณ ใต ้ต ้น
้
้ ต
โพธิ ์ แล ้วขึนประทั
บหันพระพักตร ์ไปทางทิศตะวันออก และได ้ตังจิ
อธิษฐานว่า แม้เลือดในกายของเราจะเหือดแห ้งไปเหลือแต่หนัง เอ็น
กระดูก ก็ตาม ถ ้ายังไม่พบธรรมวิเศษแล ้วจะไม่ยอมหยุดความเพียร
่
้ ตอธิษฐานแล ้ว พระองค ์ก็ทรงสารวมจิตให ้
เป็ นอันขาด เมือทรงตั
งจิ
่ าเพ็ญเพียรทางจิต และในทีสุ
่ ดทรงชนะ
สงบแน่ วแน่ พระองค ์เริมบ
่
ความลังเลพระทัย ทรงบรรลุความสาเร็จ เมือพระองค
์ทรงรู ้เห็นอย่าง
้
้
ประกาศพระ
ศาสนา
การแสดงปฐมเทศนา วันขึน้ 14 ค่า เดือน
อาสาฬหะ (เดือน 8) ณ ป่ าอิสป
ิ ตนมฤคทายวัน
พระพุทธเจ ้าเสด็จไปหาปัญจวัคคีย ์ พระองค ์ได ้ทรง
แสดงธรรมในวันขึน้ 15 ค่า เดือน 8 เรียกว่า ธรรมจัก
่
้น ท่านโกณ
กัปวัตนสูตร ในขณะทีทรงแสดงธรรมนั
ฑัญญะได ้ธรรมจักษุ คือ พระโสดาบัน ได ้ทูลขอ
อุปสมบทในพระธรรมวินัยของสัมมสัมพุทธเจ ้า เรียก
้ั ว่้ า "เอหิภก
การบวชครงนี
ิ ขุอป
ุ สัมปทา" พระอัญญา
โกณฑัญญะ จึงเป็ นพระภิกษุรป
ู แรกในพุทธศาสนา
ต่อมาพระพุทธเจ ้าได ้เทศน์พระธรรมเทศนาโปรดแก่ยสกุลบุตร
้ อนของ
่
รวมทังเพื
้
ยสกุลบุตร จนได ้สาเร็จเป็ นพระอรหันต ์ทังหมด
รวม 60 รูป
พระพุทธเจ ้าทรงมีพระราชประสงค ์จะให ้มนุ ษย ์โลกพน
้
ทุกข ์ พน้ กิเลส จึงตร ัสเรียกสาวกทัง้ 60 รูป มาประชุมกัน และ
ตร ัสให ้พระสาวก 60 รูป จาริกแยกย ้ายกันเดินทางไปประกาศ
่ ซากั
้ น เพือให
่ ้
ศาสนา 60 แห่ง โดยลาพัง ในเส ้นทางทีไม่
้ อย่
่ าง
สามารถเผยแผ่พระพุทธศาสนาได ้ในหลายพืนที
ครอบคลุม ส่วนพระองค ์เองได ้เสด็จไปแสดงธรรม ณ ตาบลอุรุ
เวลา เสนานิ คม
หลังจากสาวกได ้เดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาใน
้ ต่
่ างๆ ทาให ้มีผูเ้ ลือมใสพระพทุ
่
พืนที
ธศาสนาเป็ นจานวนมาก
ทรงปรินิพาน
การเสด็จปรินิพพาน หลังจากพระพุทธเจ ้า
่ นนั้นตรงกับวันเพ็ญเดือน
แสดงปัจฉิ มโอวาท ซึงวั
วิสาขะ (เดือน 6) ในยามสุดท ้ายของวันนั้น ณ ป่ าไม้
สาละ(สาลวันอุทยาน) ของกษัตริย ์มัลละ กรุงกุสน
ิ ารา
พระองค ์ได ้ประทับใต ้ต ้นสาละคู่ หลังจากตร ัสโอวาท
ให ้แก่พระอริยสงฆ ์แล ้ว พระองค ์มิได ้ตร ัสอะไรอีกแล ้ว
่ นทีน่่ า
เสด็จปรินิพพาน ด ้วยพระอาการสงบ ซึงเป็
อัศจรรย ์นักทีวั่ นประสูต ิ วันตร ัสรู ้ และวันป รินิพพาน
ของพระพุทธเจ ้าตรงกัน คือ วันเพ็ญเดือน 6
คลิก
เฉลย
00:00
00:01
00:02
00:03
00:04
00:05
00:06
00:07
00:08
00:09
00:10
คลิก
เฉลย
00:00
00:01
00:02
00:03
00:04
00:05
00:06
00:07
00:08
00:09
00:10
คลิก
เฉลย
00:00
00:01
00:02
00:03
00:04
00:05
00:06
00:07
00:08
00:09
00:10
คลิก
เฉลย
00:00
00:01
00:02
00:03
00:04
00:05
00:06
00:07
00:08
00:09
00:10
คลิก
เฉลย
00:00
00:01
00:02
00:03
00:04
00:05
00:06
00:07
00:08
00:09
00:10
คลิก
เฉลย
00:00
00:01
00:02
00:03
00:04
00:05
00:06
00:07
00:08
00:09
00:10
คลิก
เฉลย
00:00
00:01
00:02
00:03
00:04
00:05
00:06
00:07
00:08
00:09
00:10
คลิก
เฉลย
00:00
00:01
00:02
00:03
00:04
00:05
00:06
00:07
00:08
00:09
00:10
คลิก
เฉลย
00:00
00:01
00:02
00:03
00:04
00:05
00:06
00:07
00:08
00:09
00:10
คลิก
เฉลย
00:00
00:01
00:02
00:03
00:04
00:05
00:06
00:07
00:08
00:09
00:10