4.การถอดบทเรียน - กรมส่งเสริมการเกษตร

Download Report

Transcript 4.การถอดบทเรียน - กรมส่งเสริมการเกษตร

การถอดบทเรียน
กองวิจัยและพัฒนางานส่ งเสริมการเกษตร
กรมส่ งเสริมการเกษตร
1
ทาไมต้องถอดบทเรียน???
2
ทาไปเถอะ ทาให้เต็มที่
เต็มความสามารถของเรา
ทาไปให้มค
ี วามสุข เบิกบาน
แล้วทุกอย่างจะดีเอง
ิ ฏ์โชติอ ังกูร
จตุพร วิศษ
3
ปัญหา
วิจ ัย
การวิจ ัย
เริม
่ ด้วยปัญหา
(Research Question)
แล้วก็หาวิธท
ี จ
ี่ ะขบให้
แตก ทาความเข้าใจ หรือ
ว่าแก้ปญ
ั หา/ตอบโจทย์
ก็เกิดความรูท
้ จ
ี่ ะ
แก้ปญ
ั หาหรือตอบโจทย์
้ เราเรียกว่า
ให้เข้าใจขึน
“การวิจ ัย” (Research)
KM
ความสาเร็จ
การจ ัดการความรู ้ (KM)
เป็นการสร้างความรูจ
้ าก
เรือ
่ งราวความสาเร็จ ตีความ
แลกเปลีย
่ นเรียนรู ้ ทาความ
เข้าใจก ัน เอาทฤษฎีมาตี
ความสาเร็จ เพือ
่ ทาความ
เข้าใจว่าสาเร็จได้เพราะอะไร ?
มีขนตอนต่
ั้
างๆอย่างไร ? และ
ในทีส
่ ด
ุ ก็เกิดความเข้าใจ เกิด
ความรูข
้ น
ึ้ เป็นการสร้างความรู ้
อีกทางหนึง่
4
Tacit
Knowledge
ความรูฝ
้ ง
ั ลึก
ในต ัวคนทีเ่ กิด
จากการสะสม
ประสบการณ์
เทคนิคตงค
ั้ าถาม
-เริม
่ จากคาถาม
้ ฐาน
พืน
-คาถามล้วงลึก
-ทาไมๆ ๆๆๆ
KM
Explicit
Knowledge
ั
ความรูช
้ ดแจ้
งที่
อยูใ่ นรูปการ
ื
บ ันทึก หน ังสอ
ตารา internet
ฯลฯ
5
ทาไมต้องถอดบทเรียน
ิ เกินกว่าจะนามาถ่ายทอดหรือ
• คนเรามักเก็บสงิ่ ทีร่ ู ้ไว ้มิดชด
ี “งบดุล” ทางชวี ต
แลกเปลีย
่ นเรียนรู ้กับผู ้อืน
่ นับว่าเป็ นการสูญเสย
ิ
และสงั คมอย่างมาก หากเราและคนรอบข ้างจะผิดพลาดในสงิ่
เดียวกันซ้าแล ้วซ้าเล่า โดยไม่ได ้นาเอาความรู ้ทีต
่ กผลึกหรือที่
เรียกว่า “ความรูฝ
้ ง
ั ลึก” (Tacit knowledge) ทีอ
่ ยูใ่ นงานนัน
้ มาใช ้
ประโยชน์ แล ้วจะทาอย่างไรล่ะ? การทีจ
่ ะนาความรู ้ฝั งลึกนัน
้ มา
แลกเปลีย
่ นเรียนรู ้กับผู ้อืน
่ เผือ
่ แผ่ผา่ นประสบการณ์ของเราหรือ
เจ ้าของความรู ้ ตรงนีเ้ องเป็ นทีม
่ าของการถอดบทเรียน
ิ ฏ์โชติองั กูร, ๒๕๕๓)
(จตุพร วิศษ
6
การถอดบทเรียนเป็น “เครือ
่ งมือ” ในการผลิต
ความรู ้
• ค้นหา ความรูจ
้ ากการปฏิบ ัติ
• สร้าง ความรูจ
้ ากการปฏิบ ัติ
• ใช ้ ความรูจ
้ ากการปฏิบ ัติครงก่
ั้ อนเพือ
่ การปฏิบ ัติซา้
• ปร ับปรุง พ ัฒนาความรู ้ เพือ
่ การปฏิบ ัติครงต่
ั้ อไป
ั ันธ์ทด
• ห ัวใจ คือแลกเปลีย
่ นเรียนรูส
้ ร้างความสมพ
ี่ ี
ระหว่างคนทางาน
7
ความหมายการถอดบทเรียน
• ถอด - เอาออก หลุดออก
• บทเรียน – บทสรุปทีอ
่ ธิบายผลการทางานตาม
เป้าหมายทีก
่ าหนดไว้ และปัจจ ัยเงือ
่ นไขสาค ัญ
่ นน
ทีท
่ าให้เกิดผลเชน
ั้
• การถอดบทเรียน – กระบวนการดึงความรูจ
้ าก
การทางานด้วยการอธิบายปรากฏการณ์ท ี่
้ ระหว่างทางาน และปัจจ ัยทีเ่ กีย
เกิดขึน
่ วข้อง
เพือ
่ ให้ผส
ู ้ นใจนาไปปร ับใชใ้ ห้เหมาะสมก ับ
้ึ
บริบทของตนเอง ในการพ ัฒนาให้งานดีขน
กว่าเดิม
8
ประโยชน์จากการถอดบทเรียน
ื่ /
สอ
ชุดความรู ้
• จุดประกาย
ความคิดให้ผอ
ู้ น
ื่
• พ ัฒนางาน
• พ ัฒนาองค์กร
• เผยแพร่
ผูร้ ว่ ม
กระบวนการ
ถอดบทเรียน
• เรียนรูร้ ว่ มก ัน
• ทางานเป็นทีม
• ปร ับวิธค
ี ด
ิ /วิธท
ี างานที่
สร้างสรรค์
9
คุณสมบ ัติ
ผูถ
้ อดบทเรียน
10
คุณสมบ ัติผถ
ู ้ อดบทเรียน









เป็นบุคคลเรียนรู ้
ั
ื่ ในศกยภาพของมนุ
เชอ
ษย์
มีท ักษะการคิดเชงิ ระบบ
ื่ สาร
มีท ักษะการสอ
มีความเป็นต ัวของต ัวเอง
มีท ักษะการเขียน
ทาเรือ
่ งยากให้เป็นเรือ
่ งง่าย
มีจด
ุ มุง
่ หมายและพล ังในต ัวเอง
มีท ักษะการถ่ายภาพ
11
เทคนิคการถอดบทเรียน
 ทาให้เนียน ทาให้เป็นธรรมชาติ
้ ารพูดคุยแบบคนต่อคนหรือกลุม
 การใชก
่ เล็ กๆ
 การสร้างความไว้วางใจ
 การสร้างบรรยากาศสนทนาทีด
่ ี
้ าษาทีเ่ ข้าใจง่าย
 ใชภ
12
เครือ
่ งมือในการถอดบทเรียน
ั
การสงเกต
ั
การสมภาษณ์
การสนทนากลุม
่
เครือ
่ งมือในการบ ันทึกข้อมูล
กล้ องถ่ ายรู ป/VDO
สมุดบันทึก
เครื่ องบันทึกเสียง
Mind map
รูปแบบ
การถอดบทเรียน
การถอดบทเรียนหล ังการทางาน (After Action Review)
การถอดบทเรียนแบบเล่าเรือ
่ ง (Storytelling)
การเรียนรูจ
้ ากบทเรียนทีด
่ ห
ี รือวิธป
ี ฏิบ ัติทเี่ ป็นเลิศ
(Best Practice)
15
วิธท
ี ี่ ๑ การถอดบทเรียนหล ังการทางาน
(After Action Review: AAR)
เป็นการทบทวนความสาเร็จหรือล้มเหลว
้
ภายหล ังจากทางาน เพือ
่ ค้นหาว่าเกิดอะไรขึน
ทาไมจึงเกิด และจะดารงจุดแข็ง ปร ับปรุง
จุดอ่อนได้อย่างไร
ห ัวใจของ AAR คือ การเปิ ดใจเรียนรูซ
้ งึ่ ก ัน
และก ัน มากกว่าการวิพากษ์วจ
ิ ารณ์
ไม่ได้หาคนผิด แต่ตอ
้ งการปร ับปรุงงานในครงั้
ต่อไปให้ดก
ี ว่าเดิม
ฝึ กการทางาน
เป็นทีม
พ ัฒนางาน
ฝึ กการยอมร ับความ
คิดเห็น/คาแนะนา
ของผูร้ ว
่ มงาน
เหตุผลในการ
ทา AAR
ทบทวนการดาเนินงานด้วยคาตอบจากคาถามต่อไปนี้
ิ่ ทีค
- สง
่ าดว่าจะได้ร ับจากการทางานคืออะไร
?
้ จริงคืออะไร ?
- สงิ่ ทีเ่ กิดขึน
- ทาไมจึงแตกต่างก ัน ?
- สงิ่ ทีไ่ ด้เรียนรูแ
้ ละวิธก
ี ารลด/แก้ความแตกต่างคืออะไร ?
17
ขนตอนการท
ั้
า AAR
ิ้ การทางาน
ทา AAR ท ันทีหล ังจากจบเสร็จสน
ั
ทบทวนว ัตถุประสงค์ เป้าหมายทีช
่ ดเจน
มีผก
ู ้ ระตุน
้ ตงค
ั้ าถามให้ทก
ุ คนได้แสดงความคิดเห็ น
สร้างบรรยากาศทีเ่ ป็นก ันเอง ไม่มก
ี ารกล่าวโทษซา้ เติม
้ จริงก ับทีค
เปรียบเทียบความแตกต่างสงิ่ ทีเ่ กิดขึน
่ าดหว ัง
จดบ ันทึก
18
วิธท
ี ี่ ๒ การถอดบทเรียนแบบเล่าเรือ
่ ง (Storytelling)
๑.เล่าปัญหา/
ความต้องการ
พ ัฒนา
๕.เล่าการได้
เรียนรูจ
้ าก
ปัญหา/
พ ัฒนา
ประสบการณ์
&
ั ันธ์
ปฏิสมพ
๔.เล่า
ึ
ความรูส
้ ก
ต่อการ
แก้ปญ
ั หา/
พ ัฒนา
๒.เล่าวิธ ี
แก้ปญ
ั หา/
พ ัฒนางาน
๓.เล่า
ผลงานที่
้
เกิดขึน
การถอดบทเรียนแบบเล่าเรือ
่ ง (Storytelling)
ึ ฝังลึก (Tacit
 เป็นการปลดปล่อยความรูส
้ ก
ั
knowledge) ให้กลายเป็นความรูท
้ ช
ี่ ดแจ้
ง (Explicit
knowledge)
 วิธก
ี าร เล่าประสบการณ์ ความสาเร็จในการทางาน
ิ ในกลุม
ของตนเองให้สมาชก
่ ฟัง
ิ ชว
่ ยก ัน ถอดบทเรียน หรือ สก ัดขุม
 จากนนให้
ั้
สมาชก
่ ยทาให้
ความรู ้ จากเรือ
่ งทีไ่ ด้ฟง
ั ว่า มีปจ
ั จ ัยอะไรบ้าง ทีช
่ ว
งานนนประสบความส
ั้
าเร็จ เพือ
่ นาขุมความรูท
้ ไี่ ด้ฟง
ั จาก
เรือ
่ งเล่ามาใชเ้ ป็นฐานความรู ้ หรือ เป็นแนวทางในการ
ทางานให้ประสบความสาเร็จต่อไป...
จุดเน้นของการถอดบทเรียนจากการเล่าเรือ
่ ง
เงือ
่ นไข ผูเ้ ล่าเรือ
่ งต้องมีความสุขในการเล่าเรือ
่ ง
ทีป
่ ระสบผลสาเร็จ
ั
ผูอ
้ านวยความสะดวกในการเรียนรู ้ ซกถามด้
วย
ื่ ชม สร้างบรรยากาศทีด
ความชน
่ ี
สงิ่ สาค ัญในกระบวนการถอดบทเรียนจากเรือ
่ งเล่า
คือ การสก ัดความรูจ
้ ากเรือ
่ งเล่าไว้เป็นความรูข
้ อง
องค์กร สาหร ับให้ผป
ู ้ ฏิบ ัติงานเข้าถึง และนาไปปร ับใช ้
ในงานของตนเองหรือทีมงานได้
จุดเน้นของการถอดบทเรียนจากการเล่าเรือ
่ ง
เน้นการดึงความรูใ้ นเชงิ ประสบการณ์ในต ัวผูป
้ ฏิบ ัติงาน
ั
ให้ปรากฏออกมาเป็นความรูช
้ ดแจ้
ง เน้นความรูใ้ นต ัวคนทีเ่ กิด
จากประสบการณ์การทางานมากกว่าความรูเ้ ชงิ ทฤษฎี
ั ันธ์การถ่ายทอดความรูเ้ ชงิ ประสบการณ์
เน้นปฏิสมพ
ื่ สาร ๒ ทาง ในแนวราบระหว่างผูป
เป็นการสอ
้ ฏิบ ัติงานก ับ
ผูป
้ ฏิบ ัติงาน เป็นการสร้างความรูจ
้ ากการทางาน ระหว่างคนใน
องค์กร
เน้นความคิดในเชงิ บวก มุง
่ ถ่ายทอดสงิ่ ทีด
่ ี ซงึ่ นาไปสู่
่ นอยู่
ความสาเร็จในการทางาน และในความสาเร็จนนมี
ั้ ความรูซ
้ อ
้ ระโยชน์ในการ
่ ยก ันสก ัดออกมาให้ได้ เพือ
จะต้องชว
่ นามาใชป
ทางาน
คาถามทีใ่ ชใ้ นการถอดบทเรียนแบบเล่าเรือ
่ ง
ความรู้ฝังลึกในสมอง (Head)
ความรู้ฝังลึกในตัวคน (Hand)
ได้ แนวคิดที่ดีนนมาจากไหน
ั้
ได้ วิธีการทางานนี ้มาจากไหน
ทาไมจึงคิดเช่นนี ้
ทาไมจึงใช้ วิธีการนี ้
มีวิธีการคิดกี่วิธี
มีวิธีการทางานกี่วิธี
ทาไมจึงเลือกใช้ วิธีคิดดังนี ้
ทาไมจึงเลือกวิธีการนี ้
มีวิธีคิดอย่างอื่นอีกหรื อไม่
มีวิธีการทางานแบบอื่นอีกหรื อไม่
ทาไม ไม่เลือกใช้ วิธีอื่น
ทาไมไม่เลือกวิธีการทางานแบบอื่น
23
คาถามทีใ่ ชใ้ นการถอดบทเรียนแบบเล่าเรือ
่ ง
ความรู้ ฝังลึกในจิตใจ (Heart)
•
•
•
•
•
•
•
•
มีอะไรเป็ นแรงบันดาลใจในการทางาน
มีความเชื่ออย่ างไรต่ อสิ่งที่กาลังทา
เมื่อพบกับปั ญหาหรื ออุปสรรคในการทางานให้ กาลังใจกับตัวเองอย่ างไร
มีใครเป็ นแรงบันดาลใจในการทางาน
ใช้ ธรรมะข้ อใด เป็ นหลักสาคัญในการทางาน
มีความรู้ สกึ อย่ างไรต่ อการทางานนี ้
ถ้ าต้ องทางานที่มีปัญหาและอุปสรรคเช่ นนีอ้ ีกจะทาหรื อไม่ เพราะเหตุใด
ถ้ าให้ เลือกได้ ว่าจะทางานนีต้ ่ อไป หรื อจะยกเลิกการทางานนี ้ ท่ านจะตัดสินใจ
อย่ างไร เพราะเหตุใด
24
วิธท
ี ี่ ๓ การเรียนรูจ
้ ากบทเรียนทีด
่ ห
ี รือวิธป
ี ฏิบ ัติทเี่ ป็นเลิศ
(Best Practice)
ค้นหาโจทย์
ถอดบทเรียน
ทีด
่ /
ี เป็นเลิศ
ความรู ้
นาไปปฏิบ ัติ
สรุปผล
การถอด
บทเรียน
กาหนด
ประเด็น
ถอด
บทเรียน
วิเคราะห์/
ั
สงเคราะห์
จ ัดเก็บ
ข้อมูล
เขียนผล
้ งต้น
เบือ
25
ความหมาย
• วิธก
ี ารใหม่ๆ ทีอ
่ งค์กรเรียนรูจ
้ ากการ
ปฏิบ ัติจริงในการพ ัฒนาองค์กร
่ ลล ัพธ์ทต
• นาไปสูผ
ี่ อบสนองความ
คาดหว ังของชุมชน / เกษตรกรและ
ตอบสนองเป้าหมายขององค์กร
ิ ธิภาพ
อย่างมีประสท
26
ความหมาย
่ ผลต่อการ
• วิธก
ี ารหรือวิธป
ี ฏิบ ัติทส
ี่ ง
ดาเนินการทีด
่ ข
ี น
ึ้ ขององค์กร มี
นว ัตกรรม มีกระบวนการทีเ่ ป็นระบบ
่ จากการประเมิน หรือ
ยอมร ับได้ (เชน
้ น
รางว ัล เป็นต้น) และทดลองนาไปใชจ
ประสบความสาเร็จ
• ทาให้องค์กรพ ัฒนาคุณภาพจนประสบ
่ วามเป็นเลิศ
ความสาเร็จและก้าวสูค
27
การเกิด Best Practice
เป้าหมายของหน่วยงานทีค
่ าดหว ัง
ความสาเร็จ
การแก้ปญ
ั หาในการทางาน
การได้ร ับคาแนะนาจากผูบ
้ ริหาร เพือ
่ น
ร่วมงาน วิทยากร และผูร้ ับบริการ
• ปัญหาอุปสรรค
•
•
•
•
“ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์วธ
ิ ก
ี ารใหม่
หรือวิธก
ี ารทีด
่ ก
ี ว่า”
28
ล ักษณะสาค ัญของ BP
เป็น
กระบวน
การ
บูรณาการ
และ
ื่ มโยง
เชอ
ก ัน
มีนว ัตกรรม/
วิธก
ี ารใหม่
สาค ัญ
สน ับสนุนและ
่ ผลเป็นเลิศ
สง
29
ื่ มโยง
้ ฐานเชอ
แนวคิดพืน
้ ัฒนางาน
Best Practice มาใชพ
พ ัฒนางานให้
เกิดประโยชน์
สูงสุด
(Knowledge
Application)
การจ ัดการ
ความรู ้
(Knowledge
Management)
ข้อมูลหรือความรูใ้ นต ัวบุคคล
ทีป
่ ระสบความสาเร็ จในการ
้ วี ต
ทางานหรือการใชช
ิ หรือ
องค์กรทีป
่ ระสบความสาเร็ จ
(Knowledge
Generation)
30
การจ ัดการความรูเ้ พือ
่ ทา Best Practice
พ ัฒนาความรู ้
วางแผน
ดาเนินการ
การทางาน
้ วามรู ้
ใชค
ประเมิน
• ปฏิบ ัติ
ลปรร.
• จ ัดเวทีลปรร.
• ชุมชนเรียนรู ้
วิเคราะห์
หล ักฐาน
บันทึก
ปรั บปรุ ง
สะท้อน
ความคิด
31
หล ักฐานและความรูท
้ าง
วิทยาศาสตร์
ชนิดของหลักฐาน
-การค้ นหาความจริง
-การสังเกตจากกรณีศึกษา
-การวิจัยเชิงคุณภาพ
แหล่ งที่มาของหลักฐาน
-การทบทวนในชุมชนนักปฏิบัติ
-การทบทวนเชิงระบบ
-รายงานวิจัย
-ความรู้จากการปฏิบตั กิ าร
-รายงานการประเมินผล/
คลังข้ อมูลจากการปฏิบตั ิ
-ประสบการณ์ และปั ญญาของ
ผู้ปฏิบตั แิ ละผู้ใช้
-ความรู้แฝงจากการปฏิบตั กิ าร
32
แนวทางการตรวจสอบ Best Practice
่ ผล/สอดคล้อง
1. วิธก
ี ารหรือ Best Practice นนส
ั้ ง
ื่ ถือ มีขอ
ก ับเป้าหมายงานอย่างน่าเชอ
้ มูลยืนย ัน
2. Best Practice นนๆ
ั้ สามารถตอบได้วา
่ ทาอะไร
(what) ทาอย่างไร (how) ทาทาไม (why)
ั
3. ระบุปจ
ั จ ัยสาค ัญทีช
่ ดเจน
ก่อให้เกิดการปฏิบ ัติ
ทีต
่ อ
่ เนือ
่ ง และยง่ ั ยืน
4. Best Practice นนๆ
ั้ สามารถสรุปและนาไปเป็น
่ ารพ ัฒนาต่อยอด หรือ
บทเรียนหรือนาไปสูก
ถอดเป็นบทเรียนได้
33
แนวทางการจ ัดทาและนาเสนอ Best Practice
ขนที
ั้ ่ 1 เตรียมการ
• กาหนดกรอบถอด
บทเรี ยน
• การเตรี ยมทีมงาน
ประกอบด้ วย หัวหน้ า
ทีม ผู้เขียน และ
ผู้ถ่ายภาพ เป็ นต้ น
ขนที
ั้ ่ 2
การเลือก Best Practice
ขนที
ั้ ่ 3
การจ ัดทา
• เลือกหน่ วยงานที่มีผลงาน
เป็ นเลิศ หรื อมีผลงาน
ประสบผลสาเร็จเป็ นที่
ยอมรั บ
• ผลงาน มีข้อมูลยืนยัน
ความสาเร็จที่น่าเชื่อถือ
เป็ นผลงานที่ทาให้ บรรลุ
เป้าหมายที่วางไว้
• วิธีการ/เครื่ องมือ
เก็บข้ อมูล
• ระยะเวลา
• การประสานงาน
• การวิเคราะห์ ข้อมูล
• การจัดทาเอกสาร
การนาเสนอ
รู ปแบบที่
หลากหลาย
34
ความเป็นเลิศของ SO อยูต
่ รงไหน
1.
2.
3.
4.
5.
ตอบคาถามสาค ัญ 5 ข้อ
เมือ
่ ดาเนินโครงการมาถึงปัจจุบ ัน องค์กรหรือ
เกษตรกรมีความเปลีย
่ นแปลงอย่างไร
อะไรเป็นปัจจ ัยสาค ัญทีท
่ าให้เกิดความ
เปลีย
่ นแปลง
เราทาอะไรก ันไปบ้างแล้ว และเราทาก ัน
อย่างไร
เรามีอะไรเป็นทุน
เราได้เรียนรูอ
้ ะไรร่วมก ันบ้าง
“แสดงหล ักฐาน พยาน และสติปญ
ั ญา
ให้เป็นทีป
่ ระจ ักษ์”
35
ั
แนวทางสงเคราะห์
BP เป็นผลงานได้ ด ังนี้
ื่ ผลงานหรือความสาเร็จ........................
ชอ
1.บรรยายภาพ
ความสาเร็จ
2.ข้อมูลประกอบ/
ข้อมูลทีย
่ น
ื ย ัน
ความสาเร็จ
3.วิธก
ี าร/
กระบวนการ/
ปัจจ ัย
• นักส่ งเสริมฯ
• ระบบงาน MRCF,
Thaismartfarmer.net
• อุปกรณ์
• สถานที่
ั
ข้อมูลในคอล ัมน์ท ี่ 3 นามาสงเคราะห์
เป็น BP
36
ความสามารถในเชงิ ปัญญา
คือ
สามารถมองงานทีท
่ าออกว่า
“ทาไมต้องทา
ทาแล้วจะเกิดอะไรก ับตนเอง
ั
และสงคม”
ที่มา : อมร นนทสุ ต
37
แบบถอดบทเรียนเกษตรกรต้ นแบบ
แบบถอดบทเรียน Smart Office
38