PowerPoint Template - กองบริหารงานบุคคล มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

Download Report

Transcript PowerPoint Template - กองบริหารงานบุคคล มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

รูปแบบและขั้นตอนการเขียนตารา
ศาสตราจารย์ ดร.สัญชัย จตุรสิทธา
ประธานคณะทางานเครือข่ายบริหารการวิจัยภาคเหนือตอนบน
สานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สกอ.
E-mail: [email protected]
กอนเขี
ยนตาราควรตองดู
่
้
ตัวเองว
า…….
่
Textbook
not
facebook
 มีความพรอมของห
้
้องสมุด และม
การศึ กษาคนคว
า้
ในเรือ
่ งนั้น
้
า่ เสมอ
่ตาราต
 อย
มีางสม
างประเทศที
ไ่ ดรั
่
้ บการยอมรับ
และมีความรูที
้ เ่ ป็ นฐาน และประสบการณ
 สอน หรือปฏิบต
ั งิ านในหน้าทีโ่ ดยใช้ค
และไดทดลองพิ
สูจนแล
ความรู
นั
้
้ าองค
่
้ ้นสา
์ วว
์
นาไปใช้ไดจริ
้ ง
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
กอนเขี
ยนตาราควรตองดู
่
้
ตัวเองวา…….
่
 มีโปรแกรมคอมพิวเตอรที
่ าเป็ นในการส
์ จ
จัดเก็บขอมู
้ ล
พิมพ ์ วาดรูป และจัดทาหนังสื อ เช่น M
office,
EndNote, Zotero, Acrobat, MindMap, Di
 มีการพัฒนาทักษะในการพิมพดี
์ ด
Iilustrator
และพืน
้ ฐานการใช้ภาษาเขียนทีถ
่ ก
ู ต้อง
 ขอทุนในการ
แตงต
่ ารา
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
ความหมายของตารา
“ตารา” าราชการพลเรื
ตามประกาศคณะกรรมการข
อนใน
้
สถาบันอุดมศึ กเป็
ษานผลงานเขี
(ก.พ.อ.) ปี ย
2550
นทาง
วิชาการทีเ่ รียบเรียงขึน
้
อยางเป็
นระบบ
่
ครอบคลุมเนื้อหาสาระ
ของทัง้ วิชา หรือส่วน
หนึ่งของวิชาทีส
่ ะทอนให
้
้
เห็ นถึงความสามารถใน
การถายทอดวิ
ชาใน
่
ระดับอุดมศึ กษาในการ
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขี
เรียนต
ยารา
นการสอนในหลักสูตร
ความหมายของตารา (ตอ)
่
ตามประกาศคณะกรรมการขาราชการพลเรื
อนใน
้
สถาบันอุดมศึ กษา (ก.พ.อ.) ปี 2550)
“อาจพัฒ นาขึ้ น มาจากเอกสารค า
สอน จนถึง ระดับ ที่ม ีค วามสมบู ร ณ ์
ที่สุ ด ซึ่ ง ผู้ อ่านอาจเป็ นบุ ค คลอื่น ที่
มิใ ช่ ผู้ เรีย นในวิช านั้น แต่สามารถ
อานและท
าความเข้าใจในสาระของ
่
ตารานั้นด้วยตนเองได้ โดยไมต
่ ้อง
เขาศึ
้ กษาในวิชานั้น
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
ความสาคัญของตารา
เป็ นพืน
้ ฐานวิชาทีไ่ ดรวบรวมไว
้
้
อยางเป็
นระบบ
่
ทาให้เกิดความเข้าใจและ
แนวทางปฏิบต
ั ใิ นเรือ
่ งนั้นๆ
อยางลึ
กซึง้
่
ทาให้การศึ กษามีมาตรฐานใน
ระดับใกลเคี
ยงกัน
้
เป็ นแหลงเริ
่ ตนของการค
่ ม
้
้นควา้
และวิจย
ั
เกิดจากองคความรู
ของผู
้
้เขียน
์
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
รูปแบบของตารา
คานา
เนื้อเรือ
่ ง
สารบัญ
การอางอิ
งและ
้
IDEA กรม
บรรณานุ
อาจมีการอ้างอิง
แหลงข
่ น
ั สมัย
่ อมู
้ ลทีท
ครบถวนสมบู
รณ ์
้
การอธิบายหรือวิ
เคาระห
IDEA ์ าคัญ มี
การอธิ บ ายสาระส
การสรุป
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
ความชัดเจน โดยอาจใช้
“ข้ อ มู ล
แผนภาพ
ตัว อย่าง หรือ กรณีศึ ก ษา
ป ร ะ ก อ บ ” จ น ผู้ อ่ า น
สามารถทาความเข้าใจใน
ส า ร ะ ส า คั ญ นั้ น ไ ด้ โ ด ย
เบ็ดเสร็จ
ลักษณะของตารา
1. รูปเลมควรจะเป็
นแบบลักษณะ
่
มาตรฐานสากลทั่ว ๆ ไป มี
สภาพคงทนพอสมควร
2. การจัด ล าดับ เนื้ อ หาๆ ได้ ดี
สะดวกในการค้ นคว้า มีสารบัญ
ห รื อ ด ร ร ช นี เ พื่ อ ค้ น ค ว้ า ห า
รายละเอียดไดง้ าย
่
3. ใช ภาษา และศั
พท เทคนิ ค ให
้
้
์
เหมาะสมกับ ระดับ ของผู้ อ่ าน เขีย น
ตรงกับวัตถุประสงค ์ ใจความกะทัดรัด
ศั พทเทคนิ
คภาษาไทยทีใ
่ ช้ควรวงเล็ บ
์
ภาษาต่างประเทศไว้ ด้ วย เพื่อ จะได้
เข้าใจความหมายที
ถ
่ ูกต้อง
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขี
ยนตารา
ลักษณะของตารา (ตอ)
่
4. จั ด รู ป ภาพให้ อยู่ ใก ล้ เคี ย งหรื อ
สั มพั น ธ ์ กับ เนื้ อ เรื่ อ ง ภาพ ทุ ก ชนิ ด
จะต้ องชัด เจน และเน้ นส่ วนส าคัญ ที่
ต้องการเน้น
5 . มี เ อ ก ส า ร อ้ า ง อิ ง เ พื่ อ ใ ห้ รู้
รายละเอีย ดในเอกสารอ้ างอิง นั้น มาก
ขึน
้
6. เนื้อหาสาระเชือ
่ ถือได้ นาไปปฏิบต
ั ิ
ได้ เกิดประโยชนตามต
องการ
้
์
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
ลักษณะคุณภาพ ระดับ
“ดี
”
ของต
ารา
ตามประกาศคณะกรรมการข
าราชการพลเรื
อนใน
้
สถาบันอุดมศึ กษา (ก.พ.อ.) ปี 2550)
เป็ น“ตารา” ทีม
่ เี นื้อหา
สาระทางวิชาการ ถูกตอง
้
สมบูรณ์ และทันสมัย
มี แ นวคิ ด และการน าเสนอที่
ชัดเจน เป็ นประโยชน์
ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น
ระดับอุดมศึ กษา
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
ลักษณะคุณภาพ ระดับ “ดี
มาก”
ของต
ารา
ตามประกาศคณะกรรมการขาราชการพลเรื
อนใน
้
เป็ น “ตารา” ทีม
่ เี นื้อหาสาระ
ทางวิชาการ ถูกตอง
สมบูรณ ์
้
และทั
นสมัย าเสนอทีช
มีแนวคิ
ดและการน
่ ด
ั เจน เป็ น
สถาบันอุดมศึ กษา (ก.พ.อ.) ปี 2550)
ป ร ะ โ ย ช น์ ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น
มีการวิ
ี ารที่
ระดัเคราะห
บอุดมศึและเสนอความรู
้ หรือวิธก
์ กษา
ทั
น
ส
มั
ย
ต่
อ
ค ว า ม ก้ า ว ห น้ า ท า ง วิ ช า ก า ร แ ล ะ เ ป็ น
ประโยชนต
ชาการ
มีก ารสอดแทรกความคิ
ด ริเ ริ่ม และประสบการณ ์
่
์ อวงวิ
หรือผลงานวิจย
ั ของผู้เขียนทีเ่ ป็ นการแสดงให้เห็ น
ถึงความรู้ทีเ่ ป็ นประโยชนต
ยนการสอน
่
์ อการเรี
ั ไิ ด้
สามารถนาไปใช้อ้างอิงหรือนาไปปฏิบต
ลักษณะคุณภาพ ระดับ
“ดี
เ
ด
น”
ของต
ารา
ตามประกาศคณะกรรมการขาราชการพลเรื
อ่ นใน
้
สถาบันอุดมศึ กษา (ก.พ.อ.) ปี 2550)
เงือ
่ นไข
เหมือน
ระดับดี
มาก แต่
เพิม
่ เติม
มี แ นวคิ ด และการน าเสนอที่ ช ั ด เจน
เ ป็ น ป ร ะ โ ย ช น์ ต่ อ
ชาการนงานบุกเบิกทางวิชาการ และ
มีวงวิ
ลก
ั ษณะเป็
มีการสั งเคราะหจนถึ
งระดับทีส
่ รางองค
้
์
์
ความรูใหม
้
่ (body of knowledge) ใน
เรือ
่ งใดเรือ
่ งหนึ่ง
มีก ารกระตุ้ นให้ เกิด ความคิด และ
ค้นคว้าตอเนื
่ อง
่
เป็ นที่ เ ชื่ อ ถื อ และยอมรับ ในวงวิ ช าการ หรื อ
วิช าชี พ ที่ เ กี่ ย วข้ องในระดับ ชาติ
และ/หรื อ
นานาชาติ
เมือ
่ มีการพิจารณาประเมิน
คุณภาพของ “ตารา” ไปแลว
้
การนา “ตารา” ไปแก้ไขปรับปรุง
หรือเพิม
่ เติมเนื้อหา เพือ
่ นามา
เสนอขอตาแหน่งทางวิชาการ ต้อง
มีการประเมินคุณภาพ และ
เผยแพร่ “ตารา” นั้นใหม่อีกครัง้
หนึ่ง
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
การเตรียมตัวกอนเขี
ยน
่
ตารา
การสรางแนวคิ
ดหรือมโนทัศน์
้
(ต้องมีมโนทัศนใหม
มี
์
่
การตีความเนื้อหาใหม่ ลาดับ
เนื
้อหาใหม
และท
าให้เห็ นประโยชน
่ ดมุงหมายของต
การก
าหนดจุ
ารา ์
่
ใหม
ๆ)
(ระดั่ บของผู้อ่าน ประเภทของ
ตารา ลักษณะการเขียน
เวลา
ความกลา้
แรงจูงใจในการ
เขียนตารา
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
มาตรา 91 แห่ งพระราชบัญญัติระเบียบข้ าราชการครู และบุคคลากรทางการศึ กษา พ.ศ. 2547 บัญญัติไว้ ว่า
“ข้ าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษา ต้ องไม่ คดั ลอกหรือลอกเลียนผลงานทางวิชาการของผู้อื่นโดยมิชอบ
หรือนาเอาผลงานทางวิชาการของผู้อนื่ หรือจ้ าง วาน ใช้ ให้ ผู้อื่นทาผลงานทางวิชาการเพือ่ ไปใช้ ในการเสนอขอ
ปรั บปรุ งการกาหนดตาแหน่ ง การเลื่อนตาแหน่ ง การเลื่อนวิทยาฐานะ หรื อการให้ ได้ รับเงินเดือนในระดับที่
สู งขึน้ การฝ่ าฝื นหลักการดังกล่ าวนี้ เป็ นความผิดวิจัยอย่ างร้ ายแรง ข้ าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาที่
ร่ วมดาเนินการคัดลอก หรื อลอกเลียนผลงานของอื่นโดยมิชอบ หรื อรั บจ้ างทาผลงานทางวิชาการไม่ ว่ าจะมี
ค่ าตอบแทนหรือไม่ เพือ่ ให้ ผู้อนื่ นาผลงานนั้นไปใช้ ประโยชน์ ในการดาเนินการตามวรรคหนึ่ง เป็ นความผิดวินัย
อย่ างร้ ายแรง”
ข้ อมูลอ้ างอิงจาก: พรบ.ระเบียบข้ าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547
http://www.thailandlawyercenter.com/index.php?lay
=show&ac=article&Id=538974847&Ntype=19
สาหรับอาจารย์ มหาวิทยาลัยและนักวิจัย การลงโทษการโจรกรรมทาง
วิชาการมีหลายรูปแบบ มีต้งั แต่ การพักงานไปถึงขั้นไล่ออกหรือเลิกจ้ าง
ซึ่งผู้กระทาการดังกล่าวยังต้ องเสี ยชื่อเสี ยงหมดความเชื่อถือ
Plagiarism is using others’
ideas and words without clearly
acknowledging the source of
that information.
Plagiarism หมายถึง การลอกงานเขียน ความคิดหรื องานสร้างสรรค์ด้ งั เดิมทั้งหมด
หรื อบางส่ วนที่เหมือนหรื อเกือบเหมือนงานดั้งเดิมของผูอ้ ื่นมาแอบอ้างเป็ นงาน
ดั้งเดิมของตนเอง
ข้อมูลอ้างอิง: วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ข้อมูลอ้างอิงจาก : http://www.indiana.edu/~wts/pamphlets/plagiarism.shtml
ข้อแนะนาเพิม่ เติมเพือ่ หลีกเลี่ยงการคัดลอกผลงานทางวิชาการ
1. การศึกษา ค้ นคว้ าให้ เข้ าใจอย่างท่ องแท้ อ่าน
หนังสื อหลายเล่ม จะช่ วยให้ สามารถคิดเขียน
ผลงานทางวิชาการด้ วยสานวนของตนเอง
2. เขียนผลงานวิชาการด้ วยความเข้ าใจและใช้ ภาษา
ของตนเอง ไม่ นาเอาคาของคนอืน่ มาใช้
ข้ อมูลอ้างอิงจาก: วิกพิ เี ดีย สารานุกรมเสรี (th.wikipedia.org/wiki/โจรกรรมทางวรรณกรรม)
ข้อแนะนาเพิม่ เติมเพือ่ หลีกเลี่ยงการคัดลอกผลงานทางวิชาการ
3. หากจาเป็ นต้ องนาข้ อความนั้นมาอ้างอิง วิเคราะห์ วิพากษ์
วิจารณ์ เปรียบเทียบในงานเขียน ควรใส่ แหล่งอ้างอิงที่มาอย่าง
ชัดเจน และใส่ เครื่องหมายอัญประกาศหรือเครื่องหมายคาพูด
“.....” ตรงข้ อความทีค่ ดั ลอก
4. ไม่ ควรสาเนาไฟล์ ข้อมูลฉบับก่ อนหน้ าที่ทางานวิจัยลักษณะ
คล้ายกันโดยเฉพาะบทการปริทรรศน์ วรรณกรรมหรือ
Literature review นามาคัดลอกใส่ ในตาราของตนเอง
ข้ อมูลอ้างอิงจาก: วิกพิ เี ดีย สารานุกรมเสรี (th.wikipedia.org/wiki/โจรกรรมทางวรรณกรรม)
ข้อแนะนาเพิม่ เติมเพือ่ หลีกเลี่ยงการคัดลอกผลงานทางวิชาการ
5. แสดงข้ อเท็จจริงทั้งหมด - อ้างไว้ ในบทนาว่ างาน
ใหม่ หรือส่ วนของงานใหม่ ได้ รวมงานเดิมไว้ ด้วย
อย่างไร
ข้ อมูลอ้างอิงจาก: วิกพิ เี ดีย สารานุกรมเสรี (th.wikipedia.org/wiki/โจรกรรมทางวรรณกรรม)
ข้อแนะนาเพิม่ เติมเพือ่ หลีกเลี่ยงการคัดลอกผลงานทางวิชาการ
6. ต้ องให้ แน่ ใจว่ าไม่ ได้ ละเมิดลิขสิ ทธิ์ผ้ ใู ด
(เช่ น งานเดิมของตนอาจเป็ นลิขสิ ทธิ์ของ
สานักพิมพ์ ฯลฯ)
7. อ้างอิงงานเดิมไว้ ในอ้างอิงหรือ
บรรณานุกรมท้ ายงานใหม่
ข้ อมูลอ้างอิงจาก: วิกพิ เี ดีย สารานุกรมเสรี (th.wikipedia.org/wiki/โจรกรรมทางวรรณกรรม)
จะเริม
่ ตนในการเขี
ยนตารา
้
อยางไร
? จะเขียนรวมกั
บใคร
่
่
เริม
่ จากผลงานวิจย
ั
ทีต
่ นมี
กาหนดกรอบความคิ
ด
ภาพรวมของหนั
งสืเรืออ
กาหนดหัว
่ ง (topic)
ของแต
ละบท
่ อรอง
กาหนดหั
วข
(sub-topic)
้
ของแตเลื
ละบท
่ อกสไตลในการเขี
ยน
์
พิมพขาวด
า 2 สี หรือ
์
4 สี
กาหนดจานวนหน้าใน
ละบท
่
กแต
าหนดขนาดของ
หนังสื อ
ตัง้ ชือ
่ เรือ
่ ง
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
การตัง้ ชือ
่ ให้ชวน
อ•่ าน
ชือ
่ เรือ
่ งทีย
่ ากจะไม่ค่อยได้รับ
ความสนใจ
• ชือ
่ เรือ
่ งยาวเกินไปไม่ติดหู
• ชือ
่ เรือ
่ งควรใช้ภาษาแบบแผนเช่นเดียวกับ
เนื้อหาของตารา
• ชื่อเรือ
่ งทีเ่ ป็ นชื่อรหัสวิชา อาจใช้ได้เฉพาะใน
สถาบัน แต่ละแห่ งที่เ ป็ นเจ้ าของรหัส วิช านั้น ชื่อ
ชนิดนี้จงึ ใช้สาหรับผู้อ่านภายนอกไม่ได้และเป็ นชือ
่
ทีไ่ ม่ถาวร
“เราควรตัง้ ชือ
่ ตามเนื้อหามากกว่า”
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
การตัง้ ชือ
่ ให้ชวน
อ•่ านชือ่ (ต
อ)งทีน
เรื่อ
่ ่ าสนใจ เช่น ตัง้ ชือ
่ โดยระบุ
กลุ่มเป้าหมาย ขยายขอบเขตของกลุ่มเป้าหมาย
ตัง้ ชือ
่ ให้รู้สึ กว่าง่าย ตัง้ ชือ
่ สนองความปรารถนา
ของผู
อ
าน
ตั
ง
้
ชื
อ
่
แสดงความทั
น
สมั
ย
ตั
ง
้
ชื
อ
่
ชี
้
้
่
• ใช้ชือ
่ เรือ
่ งเดน
กะทัดรัด ระบุแนวคิดแบบ
่
ข
อบกพร
อง
้
่
กว้าง
• ไมควรซ
า้ กับตาราทีม
่ อ
ี ยูเดิ
่
่ ม
• ไมควรใช
่ ทีม
่ ค
ี าศัพทซึ
่
้ชือ
์ ง่ ไม่
แพรหลาย
• ่ ควรตัง้ ชือ
่ จากสิ่ งทีผ
่ เขี
ู้ ยนไดค
้ น
้
คิดหรือปฏิบต
ั ม
ิ าแลว
้
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
เทคนิคการเขียนตารา
วิ“การเขี
ชาการ
ย นต ารามีข ้น
ั ตอน
แ ล ะ เ ท ค นิ ค ก า ร เ ขี ย น
เช่ นเดีย วกับ การเขีย นงาน
เ ขี ย น ท า ง วิ ช า ก า ร
โดยทัว
่ ไป” แต่เนื่องจาก
ต า ร า เ ป็ น ผ ล ง า น ท า ง
วิ ช า ก า ร ที่ ม ี ค ว า ม ส า คั ญ
ผู้เขีย นจึง ต้ องมีค วามรู้ และ
ประสบการณ ์ สู ง ในเรื่อ งที่
เขียน มีก ารศึ ก ษาค้ นคว้ า
อ ย่ า ง ลึ ก ซึ้ ง แ ล ะ มี
ความสามารถในการเรี
ย บยนตารา
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขี
1. การเลือกเรือ
่ ง
“ตาราทีน
่ ่ าสนใจ”ควรมี
เอกลักษณหรื
์ อจุดเดน
่
ารา ที่
ซึง่ แตกตางจากต
่
ปรากฎโดยทัว่ ไปในตลาด
หนังสื อ เอกลักษณหรื
์ อ
จุดเดนอาจเริ
ม
่ ตัง้ แต่
่
“การเลือกเรือ
่ ง” ซึง่
นาไปสู่การตัง้ ชือ
่ เรือ
่ ง
การกาหนดกรอบแนวคิด
ขอบเขตของเรื
อ
่ งน้ ตอนการเขี
โครงยนตารา
รูปแบบและขั
1
2. การตัง้ ชือ
่ เรือ
่ ง และการกาหนด
ขอบเขตของเรือ
่ ง
ชือ
่ เรือ
่ งของตารา
ควรใช้ภาษาวิชาการ
ชัดเจน เข้าใจงาย
่
ระบุขอบเขตเนื้อหา
หรือกลุมเป
่ ้ าหมายที่
ชัดเจน
“มีข้อสั งเกต วาต
่ ารา
ทีม
่ ข
ี อบเขตทีเ่ หมาะสม
แคบแตลึ
จะน้ ตอนการเขียนตารา
รู่ ปก
แบบและขั
2
3. การกาหนดโครงเรือ
่ ง
“โ ค ร ง เ รื่ อ ง
เปรี ย บเสมื อ นพิม พ ์เขี ย ว
ข อ ง ง า น ก่ อ ส ร้ า ง ” ซึ่ ง
ผู้เขียนสามารถกาหนดให้
น่ าสนใจ มี เ อกลัก ษณ์
ห รื อ จุ ด เ ด่ น ไ ด้
เช่นเดียวกับการออกแบบ
โครงเรื่ อ งเป็ น
กรอบกาหนดการคัดเลือก
ข้ อ มู ล
ชื่ อ เ รื่ อ ง
จุ ด มุ่ ง ห ม า ย ข อ ง เ รื่ อ ง
กลุ่ มเป้ าหมาย ประเภท
ของตาราและการนาเสนอ
3
ยกตัวอยาง
เค้าโครงทีน
่ ามาใช้ในการ
่
4. เนื้อหาและการนาเสนอ
เนื้อหา
“เนื้อหาคือหัวใจของ
ตารา”
“มีวธิ ก
ี ารนาเสนอใน
หลายแงมุ
ม”
่
“ใช้ภาษาทีเ่ ป็ นภาษา
วิชาการทีด
่ ี กะทัดรัด
ชัดเจน อานง
าย”
่
่
“มีเครือ
่ งมือช่วย
อธิบาย เช่น
ภาพประกอบ ตาราง
แผนภูม ิ แผนที่ ที่
เหมาะสม
ช่วยเพิ
ม
่ ยนตารา
รูปแบบและขั
น
้ ตอนการเขี
4
5. ส่วนประกอบและรูปเล่ม
ของตารา
ตาราประกอบดวย
้
ส่วนนา
ส่วนเนื้อหา และ
ส่วนท้าย
ในแตละ
่
ส่วนมีรายละเอียด
ดังนี้
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
5
5. ส่วนประกอบและรูปเล่มของ
ตารา (ต่อ)
ส่วนนา
ส่วนประก
อบของ
ตารา
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
ส่วน
เนื้อหา
ส่วนทา้
ย
ส่วนนา
ส่วนประก
อบของ
ตารา
ส่วน
เนื้อหา
ส่วนทาย
้
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
ส่วนประก
อบ
ของตารา
 กระดาษหุ้มปก (cover)
 ปกรอง (fly-leaf)
 ปกใน (title page)
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
ส่วน
นา
ส่วนนา
(ตอ)
่
ส่วนประก
อบ
ของตารา
หน้าลิขสิ ทธิ ์ (copyright page) มัก
ดานหลั
งปกใน
้
หน้าอุทศ
ิ (dedication page)
คานิยม (foreword)
- เป็ นผู้มีชอ
ื่ เสี ยงและเกีย
่ วข้องกับวิชาหร
วงการนี้มากทีส
่ ุด
- เป็ นบุคคลทีร่ จั
ู้ กเราเป็ นอยางดี
่
- เป็ นบุคคลทีม
่ ค
ี วามสามารถและทักษาใน
เขียนหนังสื อ
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
ส่วนนา
(ตอ)
่
ส่วนประก
อบ
ของตารา
คานา (preface)
สารบัญ
สารบัญภาพ
สารบัญตาราง
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
ส่วน
เนื้อหา
ส่วนประก
อบ
ของตารา
แบงเป็
่ ง ในส่วนทีเ่ ป็ น
่ นบทและเรือ
ความนา จะเป็ นการเกริน
่ เรือ
่ งราว
ทั่ว ๆ ไปที่จ ะน ามาเขีย นในบทนั้น
แ ล ะ ไ ม่ ค ว ร เ ขี ย น เ กิ น ก ว่ า 1 5
บรรทัด สาหรับส่วนทีเ่ ป็ นบทสรุปก็
เช่ นกั น จะเป็ นการสรุ ป เนื้ อ หา
สาคัญของบทนั้นๆ ไว้
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
ความสาคัญของบทแรก
 Well begun is a half done
 บทแรก จะทาให้เกิดการเริม
่ ต้นของการ
กาหนดขอบขายและความต
อเนื
่
่ ่อง และ
ใจความของเรือ
่ ง (theme)
 บทแรกทาให้เกิดความหลัง่ ไหลความคิด
และกาลังใจ
 ผู้ทีจ
่ ะซือ
้ มักอานบทแรก
(แสดงลักษณะ
่
เนื้อหา เค้าโครงเรือ
่ ง รูปแบบการนาเสนอ
แสดงแนวคิด ความยากงายในการอ
าน
่
่
และวางพื
น
้ ฐานผู้อานไปสู
่ )
่
่ บทอืน
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
เนื้อหาสาระทีน
่ าเสนอในแตละบท
่
จากความคิดมาสู่การใช้ถอยค
า เพือ
่ สื่ อให้
้
ผู้อาศั
านเข
การนิยามค
ั ทีส
่ าคัญ
่ พทาใจ
้ ์ ผลงานวิจย
ทฤษฎีทเี่ กีย
่ วของ
้
การปูพน
ื้ ฐานและลาดับขัน
้ ตอนการนาเสนอ
และควรพยายามแบงเนื
่ ้อหาในแตละบทให
่
้มีปริมาณ
ใกลเคี
ยงกัน ยกเวนบทน
า
้
้
แนวทางการนาองคความรู
ไปปฏิ
บต
ั ิ
้
์
เนื้อหาในแตละหน
ยนติดตอกั
่
้ า ไมควรเขี
่
่ นตลอดทัง้ หน
ควรมีการแบงออกเป็
นยอหน
่
่
้ า ประมาณ 3 ยอหน
่
้า
แตละย
อหน
่
่
้ าควรมีเนื้อหาใกลเคี
้ ยงกัน
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
เนื้อหาสาระทีน
่ าเสนอในแตละบท
(ตอ)
่
่
ใช้ศัพทเทคนิ
คทีแ
่ ปลจากภาษาอังกฤษ (หาก
์
เป็ นคาศัพทที
่ ้นเคยควรวงเล็บภาษาอังกฤษกากับไว้ดวย)
้
์ ไ่ มคุ
คาศั พททางเทคนิ
คทีเ่ ป็ นภาษาอังกฤษ
์
และยังไมมี
(ให้เขียนภาษาไทยทับ
่ คาแปล
ศัพทเขี
และวงเล็
บย
ภาษาอั
งกฤษไว
ด
ง)
้ านหลั
้
์
นภาษาอั
งกฤษในวงเล็
บคาศัพท ์
ทางเทคนิค (ให้ใช้ตัวอักษาตัวพิมพเล็
์ กธรรมดา จะ
บเฉพาะค
แผนภาพ
ใช้ตัอธิ
วพิมพใหญ
่ ายดวยภาพ
์
้ าทีเ่ ป็ นชือ่ เฉพาะ)
แผนผั
ง และตาราง
การสรุ
ป
การอางอิ
งเอกสารที่
้
ถูกต้อง
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
ส่วนทาย
้
ส่วนประก
อบ
ของตารา
บรรณานุ กรม
(bibliographies) หรือ
เอกสารอางอิ
ง (references)
้
แตละบท
หรือรวมไวท
ม
่
้ ายเล
้
่
กอนดรรชนี
่
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
บรรณานุ กรม
การอางอิ
งทีด
่ ท
ี าให้ผูอ
ศรัทธา ทาให้
้
้ านมี
่
หนั
งสื องมีในสิ
คุณ่ค
า่ ต
อ้างอิ
งที
่ นอาน
full text
่
หลีกเลีย
่ งการอางโดย
Web
้
ควรใช้โปรแกรม EndNote หรือ
Zotero
ลั
กษณะการอางแบบบรรณานุ
กรมหรือ
้
เอกสารอ
างอิ
ง างอิ
รู
ปแบบในการอ
งตองเป็
นแบบ
้
้
้
เดียวกันางวารสารไทยให
การอ
่ และตามดวย
่
้ ตลอดทัง้ เลม
้ใช้ชือ
้
นามสกุล โดยไมางอิ
ตรวจสอบการอ
งเพือ
่ ป้องกันการผิดพลาด
่ การย
้ มี
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
ส่วนประก
อบ
ของตารา
ภาคผนวก
ดรรชนี (Index)
ส่วนทาย
้
(ตอ)
่
 การจัดเรียงหัวขอให
้
้เป็ นไปตามลาดับ
อักษรในพจนานุ กรม
ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
 การจัดทาดรรชนีดวยมื
อ หรือ ใช้
้
โปรแกรม Word ใน Microsoft office
ปกในดานหลั
ง มักแสดงสถานที่
้
พิมพ ์ โดยพิมพด
วเล็กและ
์ วยตั
้
เป็ นขอความสั
้ นๆ
้
ประวัตผ
ิ ประพั
ู้
นธ ์ (การศึ กษา
จุดเน้นทีส
่ าคัญในเรือ
่ งส่วนประกอบของตาราที่
ควรให้ความสาคัญ
“หน้าปกในควรมีข้อมูลทาง
บรรณานุ กรมทีส
่ มบูรณ์”
“แสดงถึงความเชือ
่ ถือได้
ของตารา”
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
จุดเน้นทีส
่ าคัญในเรือ
่ งส่วนประกอบของตาราที่
ควรให้ความสาคัญ (ตอ)
่
ี่ ม
ิ พ์ แสดงถึงความ
“ครัง้ ทีพ
่ ม
ิ พ์และปี ทพ
ทันสมัย
และ
ความแพร่หลาย”
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
จุดเน้นทีส
่ าคัญในเรือ
่ งส่วนประกอบของตาราที่
ควรให้ความสาคัญ (ตอ)
่
นอกจากนี้ ค วรให้ ความสนใจในเรื่อ ง
“กระดาษ รูปเล่มของตารา” ควรใช้
กระดาษดี โดยทั่ว ไปจะใช้ กระดาษ
ปอนด ์ ปกใช้ กระดาษหนาพอสมควร
มีการออกแบบปกทีส
่ ื่ อสารให้สอดคล้อง
กับเนื้อหา เน้นความเรียบงาย
ไมต
่
่ ้อง
มีหลายสี
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
การตรวจและแกไขต
นฉบั
บ
้
้
ตรวจสอบและแกไขต
นฉบั
บโด
้
้
เพือ
่ นรวมงาน
ผู้ทรงคุณวุฒ ิ
่
นักศึ กษา
ตรวจสอบความยากงายและคว
่
เนื้อหาทีเ่ ขียน
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
แนวทางพิจารณาการเสนอ
ตนฉบั
บ
้
ชือ
่ เสี ยงและผลงานของ
โรงพิมพ ์
ใครเป็ นผูจั
้ ดพิมพ ์
คาใช
มพ ์
่
้จายในการพิ
่
ใครเป็ นผูจั
้ ดจาหน่าย
วางจาหน่ายทีใ่ ด
ใครเป็ นเจ้าของ
ลิขสิอั
ทธิ ์ ตราคาลิขลิทธิ ์
่
การจัดพิมพ ์
พิมพและจ
าหน่ายเอง
์
มอบให้สานักพิมพจั
์ ดพิมพ ์
และจาหน่าย
จานวนทีพ
่ ม
ิ พ์
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
การปรับปรุงและแกไขต
าราในการ
้
จัดพิมพใหม
่
์
ผู้เขียน อาจารย ์ หรือ
นักศึ กษาทีใ่ ช้หนังสื อเป็ นประจา
เป็ นผูเสนอแนะ
้
Reader แนะนาให้แกไข
้
การปรับปรุงโดยแทรกบางบทแต่
เนื้อหาไมทั
่ นสมัยคงรูปแบบหนังสื อเดิมไวเป็
้ น
เอกลักษณ ์
การปรับปรุงโดยรือ
้ โครงรางเดิ
ม
่
แลวเขี
และไดรู้ ปเลม
้ ยนใหมหมด
่
่
ใหม่ องการของตลาด
ความต
้
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
การเผยแพร่
ตามประกาศคณะกรรมการขาราชการพลเรื
อนใน
้
ตารา
สถาบันอุดมศึ กษา (ก.พ.อ.) ปี 2550)
1.
2.
ดวยวิ
ธก
ี ารพิมพโดยโรงพิ
มพ ์
้
์
(printing house) หรือ
สานักพิมพ ์ (publishing house) หรือ
การถายส
าเนา เย็บเป็ นรูปเลม
่
่ หรือ
ท
าในรู่ ออิ
ปแบบอื
น
่ ๆ ก ส์ อื่ น ๆ เช่ น
โดยสื
เ ล็ ก ทรอนิ
ก า ร เ ผ ย แ พ ร่ ใ น รู ป ข อ ง
ซีดรี อม ฯลฯ
รูปแบบและขัน
้ ตอนการเขียนตารา
การเผยแพรต
่ ารา
การเผยแพร
ต
นไปอยางกว
างขวาง
่ องเป็
้
่
้
(ต
อ)
่
มากกวาการใช
้ในการเรียนการสอนวิชา
่
ตางๆ
ในหลักสูตรเทานั
้น
่
่
จานวนพิมพเป็
่ าจแสดงการ
์ นดัชนีหนึ่งทีอ
างขวาง
เผยแพรได
้
่
้ างกว
่ อย
อาจใช้ดัชนีอน
ื่ วัดความกวางขวางในการ
้
เผยแพรได
่ เช
้ ่ นกัน
ต้องไดรั
้ บการตรวจสอบและรับรองการเผยแพร่
จากคณะกรรมการของสถาบันอุดมศึ กษา คณะ
และ/หรือสถาบัน
ทางวิชาการทีเ่ กีย
่ วของกั
บ
้
สาขาวิชานั้นๆ
ต้องใช้ในการเรียนการสอนมาแลวไม
น
้
่ ้ อย
าหนึ
ภาคการศึ
รูกว
ปแบบและขั
น
้ ่ งตอนการเขี
ยนตารากษา
่
“ขอเป็ นอีกหนึ่งกาลังใจ
ในการสร้างสรรค์ตาราที่
ดี”