File - Creative Computer M3

Download Report

Transcript File - Creative Computer M3

ยุ ค ที่เ ทคโนโลยีก ารสื่ อสารผ่านอิน เทอร เน็
์ ต การน าเสนอ
ข้อมูล ข่าวสารในรูปแบบของเว็ บ ไซต มี
่อให้ผู้อ่านสามารถค้นหา
์ จุ ด มุงหมายเพื
่
ข้อมูลได้อยางกว
่
้างขวางนาไปสู่การเรียนรู้ทีไ่ ร้ขีดจากัด ทาให้ทุกคนทุกสั งคม
ต้องมีการปรับตัว และพัฒนาให้ทันต่อการเปลีย
่ นแปลงในโลกของการสื่ อสาร
ในอดีต จนกระทั่ง ถึ ง ปั จ จุ บ น
ั การน าเสนอข้ อมู ล ต่ างๆ ผ่านทางเว็ บ ไซต บาง
์
เว็บไซตนั
ยว(one-way
์ ้น มักจะเป็ นการนาเสนอจากผูดู
้ แลเว็บไซต ์ เพียงดานเดี
้
communication) แ ล ะ ไ ม่ เ ปิ ด โ อ ก า ส ใ ห้ ผู้ ที่ เ ข้ า ใ ช้ เ ว็ บ ไ ซ ต ์ แ ก้ ไ ข ห รื อ
เปลีย
่ นแปลงขอมู
่ กาวเข
าสู
้ ลใดๆ ได้ ซึ่งเรียกวายุ
่ คเว็บ 1.0(Web 1.0) แตเมื
่ อ
้
้ ่
ยุคที่ 2 ของเทคโนโลยีของ WWW หรือ Web 2.0 เป็ นยุคที่ทาให้
อิน เทอร เน็
์ ต มีศั ก ยภาพในการใช้ งานมากขึ้น เน้ นให้ ผู้ ใช้ มีส่ วนร่วมในการ
สรางสรรค
ข
บไซตร์ วมกั
นและสามารถโต้ตอบกับขอมู
่ ยูบนเว็
ป
้
์ าวสารลงบนเว็
่
่
้ ลทีอ
่
ไซตได
่ น และกระจายข้อมูลขาวสารเพื
อ
่
์ ้ ผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหาแลกเปลีย
่
แบงปั
เรียกวา่ การสื่ อสารสอง
่ นถึงกันไดทั
้ ง้ ในระดับบุคคล กลุม
่ และองคกร
์
ทาง(Two-way Communication)
Web 2.0 ยังช่วยสร้างความสั มพันธระหว
างผู
ใช
จนเกิด
์
่
้ ้ในกลุมต
่ างๆ
่
เป็ นเครือขายทางสั
งคม (Social Network) บนโลกออนไลนที
่ ามารถเชือ
่ มโยง
่
์ ส
ถึงกันไดอย
มี
ี่ ิ้ นสุด กลายเป็ นสั งคมเสมือนจริง(Virtual Communities)
้ างไม
่
่ ทส
เครื อ ข่ ายสั งคม (ชุ มชนออนไลน์ )
ส าห รั บ ผู้ ใ ช้ ง าน ใ น อิ น เ ท อ ร ์ เ น็ ต ก าร เ ขี ย น
ความรู้ สึ กและความสนใจ และกิจ การที่ไ ด้ ท า
และเชือ
่ มโยงกับความสนใจและกิจกรรมของผู้อืน
่
ในบริก ารเครือ ข่ายสั ง คมมัก จะประกอบไปด้ วย
การแช็ ต ส่งข้อความ ส่งอีเมลล ์ วิดโี อ เพลง
อัปโหลดรูป บล็อก
Social Network
เป็ นสั งคมออนไลนที
่ ะช่วยให้
์ จ
คุณหาเพือ
่ นบนโลกอินเตอรเน็
์ ทได้
งาย
ๆ ในปัจจุบน
ั นับวาเป็
่
่ นสิ่ ง
ทีท
่ ุกคนในสั งคมให้ความสนใจมาก
เราสามารถที่จ ะสร้ างพื้น ที่ส่ วนตัว
ขึน
้ มา เพือ
่ แนะนาตัวเองได้
Communi
cate (การ
สื่ อสาร)
Sharing
(แบงปั
่ น)
องคประก
์
อบของ
Social
Network
Network
(เครือขา่
ย)
Definitio
n (คา
จากัด
ความ)
จุ ด เริ่ม ต้ นของสั งคมออนไลน์ เกิด ขึ้ น จากเว็ บ ไซต ์
Classmates.com
เมื่ อ ปี 1995 และเว็ บ ไซต ์
SixDegrees.com ในปี 1997 ซึ่งเป็ นเว็บไซตที
่ ากัดการ
์ จ
ใช้งานเฉพาะนักเรียนทีเ่ รียนในโรงเรียนเดียวกัน เพือ
่ สร้าง
ประวัต ิ ข้อมูล ส่งข้อความ และแลกเปลีย
่ นความรู้รวมกั
น
่
ระหว่างเพื่อ นในลิส ต เท
์ ่านั้น ต่อมาในปี 1999 เว็ บ ไซต ์
epinions.com ทีพ
่ ฒ
ั นาโดย Jonathan Bishop ก็ได้มีการ
เพิม
่ ฟังกชั
่ ในส่วนของการทีผ
่ ู้ใช้สามารถควบคุมเนื้อหาและ
์ น
ติดตอถึ
่ นในรายชือ
่ เทานั
่ งกันได้ ไมเพี
่ ยงแตเพื
่ อ
่ ้น
1. Identity Network เผยแพรตั
่ วตน
2. Creative Network เผยแพรผลงาน
่
3. Interested Network ความสนใจ
ตรงกัน
4. Collaboration Network รวมกั
น
่
ทางาน
5. Gaming/Virtual Reality โลก
เสมือน
6. Peer to Peer (P2P)
การ
เชือ
่ มตอระหวางกัน
ใช้สาหรับนาเสนอตัวตน และเผยแพร่
เรือ
่ งราวของตนเองทางอินเตอรเน็
์ ทสามารถ
สรางอั
ลบัม
้ รูปของตัวเอง สรางกลุ
มเพื
อ
่ น และ
้
้
่
สรางเครื
อขายขึ
น
้ มาได้
้
่
สามารถนาเสนอผลงานของตัวเองได้
ในรูปแบบของวีดโี อ ภาพ หรือเสี ยงเพลง
เช่น
สาหรับกลุมที
่ ค
ี วามนใจเหมือน ๆ กัน
่ ม
Digg มีลก
ั ษณะคลายๆกั
น แตจะมี
ให้ Vote แตละ
้
่
่
เว็บทีถ
่ ก
ู ยกมานาเสนอ และมีการเสนอแนะในแตละ
่
เรือ
่ งนั้นไดด
้ วย
้
Zickr ถูกพัฒนาขึน
้ มาโดยคนไทย เป็ นเว็บลักษณะ
เดียวกับ Digg แตเป็
่ คนไทย
่ นภาษาไทย บริการเพือ
เป็ นการรวมกั
นพัฒนา
่
ซอฟตแวร
หรื
แวร
์
์ อส่วนตางๆของซอฟต
่
์
์
เป็ นโลกเสมือนจริง
สามารถสรางตั
วละครโดยสมมุตใิ ห้เป็ นตัวเรา
้
เองขึน
้ มาได้ ใช้ชีวต
ิ อยูในเกมส
่
์ อยูใน
่
ชุมชนเสมือนจริง
เช่น
เกมออนไลน์
นั่นเอง
โปรแกรม Skype จึงไดน
้ าหลักการนี้มา
ใช้เป็ นโปรแกรมสนทนาผานอิ
นเตอรเน็
่
์ ต และก็ม ี
BitTorrent เกิดขึน
้ มาเป็ นเทคโนโลยีทท
ี่ าให้เกิด
การแบงปั
ไดอย
างขวาง
และ
่ นไฟลต
์ างๆ
่
้ างกว
่
้
รวดเร็ว
1) Anticipated Reciprocity แรงจูงใจมาจากการ
ทีค
่ นๆ นั้นตองการจะได
รั
้
้ บขอมู
้ ล ความรู้
กลับคืน
2) Increased Recognition ความตองการมี
้
ชือ
่ เสี ยง และเป็ นทีจ
่ ดจาของสั งคม
3) Sense of efficacy ความรูสึ้ กภาคภูมใิ จของ
คนทีร่ วมแสดงความเห็
น (contribute) แลวเกิ
่
้ ด
Impact บางประการ
4) Sense of Community การมีอารมณความรู
สึ้ ก
์
บางอยางร
น เช่น
แสดงพลังทาง
่ วมกั
่
อิทธิพลของ Social Network
มีทง้ั ด้านบวกและด้านลบอยาง
่
มากมาย และมีการเรียนรู้พฤติกรรมของผู้รับสารไดเป็
้ นอยางดี
่
 การใช้สื่ อใหม(new
media) ให้เกิดประโยชนและมี
การเรียนรู้
่
์
พฤติกรรมของผู้รับสารไดสร
ให
้ างปรากฏการณ
้
์ ้ “บารัค โอ
บามา” ไดเป็
้ นประธานาธิบดีผวิ สี คนแรกของสหรัฐอเมริกา
 แนวโน้มของ Social network ทีเ่ ริม
่ มีผลกระทบตอสั
่ งคมอยาง
่
ชัด เจน คือ การพัฒ นาระบบเว็ ป ไซต ของส
านัก ข่าวต่างๆให้
์
เป็ นพืน
้ ทีส
่ าธารณะมากขึน
้


เป็ นเวทีใ ห้ ทีเ่ ปิ ดโอกาสให้ คนทั่ว โลก และนัก การตลาดได้ ใช้
เป็ นแหล ่งแพร่คลิป วีด โิ อไปสู่ คนทั่ว โลก ท าให้ เราได้ พบเห็ น
เหตุการณแปลกใหม
หรื
่ งมหัศจรรยต
จากคลิปทัว
่ ทุก
่ อเรือ
่
์
์ างๆ
มุมโลก
การสื
่ อสารผานทางเทคโนโลยี
VDO Link การสื่ อสารผาน
่
่
ระบบ
Broadband Internet การรายงานเหตุการณและการ
์
กระจายขาวสารที
เ่ กิดขึน
้ ในเว็ ปไซตสั์ งคมเครือขาย
(Social
่
่
network) อยางเช
างทั
นที่
่
่ น YouTube และ Blog ตางๆอย
่
่
ทัน ใดจากผู้ เห็ น เหตุ ก ารณ์ ที่ บ ัน ทึ ก เหตุ ก ารณ์ ที่เ กิด ขึ้น ด้ วย
โทรศัพทเคลื
่ นที่
์ อ
• ไดแลกเปลี
ย
่ นความรู้
และติดตามขาวสาร
้
่
จากผูอื
่
้ น
• เป็ นคลังขอมู
อม
้ ลความรูขนาดย
้
่
ดตอสื
• ประหยัดคาใช
่ ่ อสาร
่
้จายในการติ
่
สะดวกและรวดเร็ว
• เป็ นสื่ อในการนาเสนอผลงานของตัวเอง
• ใช้เป็ นสื่ อในการโฆษณา ประชาสั มพันธ ์
• ช่วยสรางรายได
ให
้
้ ้แกผู
่ ใช
้ ้งาน
• เปิ ดเผยขอมู
้ ลส่วนตัวมากเกินไป อาจถูกผู้ไม่
หวังดีนามาใช้ในทางเสี ยหาย หรือละเมิดสิ ทธิ
ส่วนบุคคลได้
• อาจโดนหลอกลวงผานอิ
นเทอรเน็
่
์ ตไดง้ าย
่
• เป็ นช่องทางในการถูกละเมิดลิขสิ ทธิ ์ ขโมย
ผลงาน
• ผูที
นเวลานาน สายตาเสี ยหรืออาจตา
้ เ่ ลนเป็
่
บอดได้
1. ตองไม
ใช
่ ทารายหรื
อละเมิด
้
่ ้คอมพิวเตอรเพื
้
์ อ
ผู้อืน
่
2. ตองไม
รบกวนการท
างานของผู้อืน
่
้
่
3. ตองไม
สอดแนม
หรือมาแกไขเปิ
ดดูแฟ้มขอมู
้
่
้
้ ล
ของผู้อืน
่
4. ตองไม
ใช
่ การโจรกรรมขอมู
้
่ ้คอมพิวเตอร ์ เพือ
้ ล
ขาวสาร
่
5. ตองไม
ใช
กฐานทีเ่ ป็ น
้
่ ้คอมพิวเตอร ์ สรางหลั
้
เท็จ
6. ตองไม
คั
่ ้อื
ู น
่ มีลข
ิ สิ ทธิ ์ และ
้
่ ดลอกโปรแกรม ทีผ
ไมได
่ รั
้ บการอนุ ญาต
7. ตองไม
ละเมิ
ด การใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร ์
้
่
จรรยาบรรณการสนทนาระบบ
ออนไลน์
1. ควรสนทนากับคนทีเ่ รารูจั
้ ก และ
ตองการจะสนทนาด
วย
้
้
่
างานขอผูอื
2. ไมรบกวนการท
้ น
่
3. ไมสื่ ่ อสารขอมู
้ ลทีเ่ ป็ นเท็จ
4. ไมก
ผู
่ และ
่ อให
่
้เกิดความเดือดรอนแก
้
่ ้อืน
สั งคม
5. ควรใช้ภาษาให้ถูกตอง
วาจาสุภาพ
้
และให้เกียรติ
ซึง่ กันและกัน
กรณีตวั อยาง
่
พฤติกรรม : ใช้ user
name/password ของผู้อืน
่ Log in
เขาสู
โดย
้ 5่ ระบบ
ฐานความผิด : มาตรา
ปรับไมเกิ
่ น
ไมได
าตเกิ
10,000.าคุญ
กไม
่ รั
้ บจอนุ
่ น 6 เดือน
ข้อแนะนา : ไมใช
่ ้ user/password กับ
ผู้อืน
่
กรณีตวั อยาง
่
พฤติกรรม : Forward email ทีม
่ ข
ี อความ
้
เนื้อหา หรือรูปภาพ
ทีไ่ มเหมาะสม
เป็ นเท็จ
น
่ คง
่
ฐานความผิ
ด : มาตรา
14 กระทบความมั
ปรับไมเกิ
น
่
หรือลามกอนาจาร
100,000.จาคุกไมเกิ
่ น 5 ปี
ข้อแนะนา : ไม่ Forward email ทีไ่ ม่
เหมาะสม
กรณีตวั อยาง
่
พฤติกรรม : โพสขอความตามกระทู
้
้
ตางๆ
ทีม
่ เี นื้อหาไมเหมาะสม
เป็ นเท็จ
่
่
กระทบความมั
น
่ คง หรื
ฐานความผิ
ด : มาตรา
14อลามกอนาจาร
ปรับไมเกิน
่
100,000.- จาคุกไมเกิ
่ น 5 ปี
ข้อแนะนา : ใช้วิจารณญาณในการแสดง
ความคิดเห็ น
กรณีตวั อยาง
่
พฤติกรรม : เผยแพรภาพตั
ดตอท
่
่
่ าให้ผูอื
้ น
ไดรั
้ บ
่ อม
ฐานความผิด : มาตรา 16 ปรับไมความเสื
เกิ
น
่
เสี ยหรืออัจบาคุ
อาย
600,000.กไมเกิ
่ น 3 ปี
ข้อแนะนา : ไมท
่ งสนุ ก คิดกอนท
า
่ าเป็ นเรือ
่
เสมอ
https://sites.google.com/site/socialnetworkfc/home
http://www.softbizplus.com/computer/639computer-law-2550-sample