Transcript Click
กลมุ่ โรคติดต่อทางอาหารและน้า อนุพันธ์ สุวรรณพันธ์ กลุม่ โรคติดต่อจากอาหารและน้ า (เดิม) 1. 2. 3. 4. 5. 6. โรคบิด โรคไข้เอนเทอริค อาหารเป็ นพิษ อุจจาระร่วงเฉียบพลัน อหิวาตกโรค ตับอักเสบเอ กลุม่ โรคติดต่อจากอาหารและน้ า (ปรับเปลี่ยน) 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. อุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Ac. Diarrhea) อหิวาตกโรค (Cholera) โรคค็อกซากี (Coxsackievirus Disease) ซาลโมเนลโลซิส (Salmonellosis) บิดไม่มีตวั (Shigellosis) ไข้ทยั ฟอยด์ และไข้พาราทัยฟอยด์ (Typoid, Paratyphoid) อาหารเป็ นพิษ (Foodborne Disease) โบทูลิซึม (Botulism) อ ุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute Diarrhea) • อาการแสดงสาคัญ – อาเจียน ไข้ มีภาวะขาดนา้ และ ความผิดปกติของอิเล็คโตรไลท์ (Electrolyte Imbarlances) • เชื้อสาเหต ุ – Cholera, Shigellosis, Salmonellosis, Escerichia Coli (E.Coli) อ ุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute Diarrhea) มี 3 ประเภท • อุจจาระร่วงเป็ นนา้ เฉียบพลัน (Acute Watery Diarrhea) รวมถึงอหิวาตกโรค • อุจจาระร่วงเป็ นเลือดเฉียบพลัน หรือ บิด (Dysentery) สาเหตุจากเชือ้ Shigella, E.Coli • อุจจาระร่วงเรื้อรัง (Persistent Diarrhea) มีอาการ ติดต่อกันเกิน 14 วัน อ ุจจาระร่วงจากเชื้อ E.Coli มี 6 กลมุ่ 1. Enterohemorrhagic (EHEC) 2. Enterotoxigenic (ETEC) 3. Enteroinvasive (EIEC) 4. Enteropathogenic (EPEC) 5. Enteroaggregative (EAEC) 6. Diffuse-Adherent อ ุจจาระร่วงจากเชื้อ E.Coli 1. Enterohemorrhagic (EHEC) • เชือ้ รุนแรงที่สดุ • มีอาการถ่ายเหลวเป็ นนา้ อาจเป็ นมูก • เชือ้ สร้างสารพิษ Shiga Toxin อ ุจจาระร่วงจากเชื้อ E.Coli 2. Enterotoxigenic (ETEC) • ถ่ายเป็ นนา้ • ไม่รนุ แรง หายได้เอง • พบมากในแถบร้อน รวมประเทศไทย อ ุจจาระร่วงจากเชื้อ E.Coli 3. Enteroinvasive (EIEC) • ก่อโรครุนแรงได้ ถ่ายเป็ นมูกปนเลือดได้ • ทาให้ผนังลาไส้เป็ นแผล • ปวดเกร็งท้องมาก • ก่อโรคได้ไม่บ่อย อ ุจจาระร่วงจากเชื้อ E.Coli 4. Enteropathogenic (EPEC) • ก่อโรคในเด็กเล็ก พบในประเทศกาลังพัฒนา • ถ่ายเหลวเป็ นมูก ถ่ายไม่มาก แต่เรื้อรัง • เด็กขาดสารอาหารได้ อ ุจจาระร่วงจากเชื้อ E.Coli 5. Enteroaggregative (EAEC) • ถ่ายเป็ นนา้ หรือเป็ นมูก • ถ่ายเรื้อรังได้ • ไม่ทราบกลไกแน่ชดั อ ุจจาระร่วงจากเชื้อ E.Coli มี 6 กลมุ่ 1. Enterohemorrhagic (EHEC) 2. Enterotoxigenic (ETEC) 3. Enteroinvasive (EIEC) 4. Enteropathogenic (EPEC) 5. Enteroaggregative (EAEC) 6. Diffuse-Adherent Enterohemorrhagic Strains ลักษณะโรค • ก่อโรคได้รนุ แรงมากที่สดุ มีอาการได้ตงั้ แต่ ท้องร่วง ถ่ายเหลวเป็ นนา้ ถ่ายเป็ นเลือด • ทาให้ผนังลาไส้เกิดแผล • สร้างสารพิษ Shiga Toxin ลักษณะโรค ทาลาย เม็ดเลือด ทาลาย เกล็ดเลือด ทาลายไต HUS Hemolytic Uraemic Syndrome เชื้อก่อโรค • ในอเมริกาเหนือ 70% เป็ น E. Coli O157:H7 • ในเยอรมันที่พบใน พ.ศ.2554 คาดว่าเป็ น O104 • กรุป๊ ที่พบบ่อย O26, O111, O103, O45, O121 เกิดแถบอเมริกาเหนือ ย ุโรป ญี่ป่ นุ ตอนใต้อเมริกาใต้ ตอนใต้ของแอฟริกา แหล่งรังโรค วัว ควายเป็นแหล่งรังโรคที่สาคัญ คนเป็นรังโรคและแพร่ เชื้อสูค่ นได้ สัตว์อื่น เช่น กวาง วิธีการแพร่เชื้อ ระยะฟักตัว รับเชื้อ ป่วย 2-10 วัน (ค่ากลาง 3-4 วัน) ระยะติดต่อของโรค • ผูใ้ หญ่ประมาณ 1 สัปดาห์ • เด็ก 1/3 ประมาณ 3 สัปดาห์ ความไวต่อการรับเชื้อ • ติดเชือ้ ได้ทกุ กลุม่ • เด็ก <5 ปี และผูส้ งู อายุ เกิด HUS ได้ วิธีการป้องกัน มาตรการป้องกัน : • รีบระบุแหล่งโรค ป้องกัน โดยเฉพาะในเด็กและ ผูส้ งู อายุ • แนะนาครอบครัวผูป้ ่ วยล้างมือด้วยสบู่และนา้ หลังเข้าห้องนา้ และทาลายเชือ้ ในผ้าอ้อม ป้องกันอาหาร และเครื่องดืม่ ปนเปื้ อนเชือ้ มาตรการป้องกัน : การลดอ ุบัติการณ์ของโรค • จัดระบบโรงฆ่าสัตว์ลดการปนเปื้ อน • ทาให้นม เนือ้ สัตว์ ปราศจากเชือ้ • ลดการปนเปื้ อนเนือ้ สัตว์กอ่ นนามาทาอาหาร • ล้างผักและผลไม้ หากกินดิบให้ปลอกเปลือก • ล้างมือให้บ่อยและสะอาด โดยใช้สบู่ • ปรุงอาหารเนือ้ 68 C 15-16 วินาที • ใส่คลอรีนป้องกันการปนเปื้ อนในนา้ • สถานที่เลี้ยงเด็กต้องรักษาสุขวิทยา มาตรการป้องกัน : การควบค ุมผูป้ ่ วย ผูส้ มั ผัส และ สิ่งแวดล้อม • การรายงาน : ผูป้ ่ วย EHEC เป็ นข้อกาหนดของ หลายประเทศที่ตอ้ งรายงาน • การแยกผูป้ ่ วย : ไม่ให้ปรุง ป้อน เสิรฟ์ อาหาร จนกว่าจะตรวจไม่พบเชือ้ • การทาลายเชื้อ : ในอุจจาระหรือเครื่องใช้ที่ ปนเปื้ อน มาตรการป้องกัน : การควบค ุมผูป้ ่ วย ผูส้ มั ผัส และ สิ่งแวดล้อม • การกักกัน : ไม่จาเป็ น • การดาเนินการในผูส้ มั ผัส : ผูส้ มั ผัสไม่ควรปรุง ป้อน เสิรฟ์ อาหาร • การสอบสวนเพื่อหาผูส้ มั ผัส และแหล่งแพร่โรค : ควรเพาะเชือ้ ในผูป้ รุงอาหาร ผูด้ แู ลเด็กในศูนย์ • การรักษาเฉพาะ : ให้สารนา้ ทดแทน มาตรการเมื่อเกิดการระบาด : • รายงานทันที เมื่อพบกลุม่ ผูป้ ่ วย • ค้นหาพาหะที่นาเชือ้ สาเหตุ • อาหารที่สงสัยต้องงดจาหน่วย • ถ้าสงสัยแหล่งนา้ ให้ใช้คลอรีนหรือต้มนา้ • ถ้าสงสัยสระว่ายนา้ ปิ ดสระ ทาลายเชือ้ • ถ้าสงสัยนม ให้พาสเจอร์ไรด์ • ไม่แนะนายาปฏิชวี นะ • ให้สขุ ศึกษา ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น : • เป็ นปั ญหาสาคัญกรณีสขุ วิทยาส่วนบุคคลไม่ดี และสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมไม่ได้มาตรฐาน มาตรการควบค ุมโรคระหว่างประเทศ : WHO Collaborating Centres อ ุจจาระร่วงจากเชื้อ E.Coli มี 6 กลมุ่ 1. Enterohemorrhagic (EHEC) 2. Enterotoxigenic (ETEC) 3. Enteroinvasive (EIEC) 4. Enteropathogenic (EPEC) 5. Enteroaggregative (EAEC) 6. Diffuse-Adherent ลักษณะโรค • ถ่ายเป็ นนา้ มากโดยไม่มมี กู และเลือด • ปวดท้อง คลื่นไส้ มีภาวะกรดในเลือด หมดแรง และขาดนา้ มีไข้ตา่ ๆ • อาการมักไม่เกิน 5 วัน เชื้อก่อโรค • ผลิตสารพิษทัง้ ทนและไม่ทนความร้อน • พบบ่อย ได้แก่ O6, O8, O15, O20, O25, O27, O63, O78, O80, O114, O115, O128ac, O148, O153, O167 • ที่พบใหม่ O169:H41 การเกิดโรค พบในประเทศกาลังพัฒนา แหล่งรังโรค ในคน (Species-Specific) วิธีการแพร่เชื้อ จากอาหารหรือน้าที่ปนเป้ ื อน ระยะฟักตัว รับเชื้อ ป่วย 10-12 ชัว่ โมง (อาจถึง 24-72 ชัว่ โมง) ระยะติดต่อของโรค ตลอดช่วงที่ปล่อยเชือ้ ได้ ความไวต่อการรับเชื้อ มีเฉพาะซีโรทัยป์ วิธีการป้องกัน มาตรการป้องกัน : • ป้องกันเชือ้ แบบ ก้นสูป่ าก (Fecal-Oral) • ให้ยา Bismuth Subsalicylate หรือ Norfloxacin • รีบรักษาทันทีเมือ่ มีอาการ มาตรการป้องกัน : การควบค ุมผูป้ ่ วย ผูส้ มั ผัส และ สิ่งแวดล้อม • การรายงาน : ถ้ามีการระบาด แจ้งเจ้าหน้าที่ • การแยกผูป้ ่ วย : ระมัดระวังการติดเชือ้ จากผูป้ ่ วย และสงสัย • การทาลายเชื้อ : ในอุจจาระและเครื่องใช้ปนเปื้ อน • การกักกัน : ไม่จาเป็ น • การฉีดวัคซีนในผูส้ มั ผัส : ไม่จาเป็ น • การสอบสวนโรคในผูส้ มั ผัส และค้นหาแหล่งโรค : ไม่จาเป็ น มาตรการป้องกัน : การควบค ุมผูป้ ่ วย ผูส้ มั ผัส และ สิ่งแวดล้อม • การรักษาเฉพาะ : ให้สารนา้ และเกลือแร่ป้องกัน • กรณีทอ้ งร่วงร ุนแรง : ให้ Loperamide และยา ปฏิชีวนะ Ciprofloxacin หรือ Norfloxacin มาตรการเมื่อเกิดการระบาด : • สอบสวนเพื่อระบุวิธีแพร่โรค ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น : ไม่มี มาตรการควบค ุมโรคระหว่างประเทศ : WHO Collaborating Centres อ ุจจาระร่วงจากเชื้อ E.Coli มี 6 กลมุ่ 1. Enterohemorrhagic (EHEC) 2. Enterotoxigenic (ETEC) 3. Enteroinvasive (EIEC) 4. Enteropathogenic (EPEC) 5. Enteroaggregative (EAEC) 6. Diffuse-Adherent ลักษณะโรค • ทาให้เกิดอุจจาระร่วงในทารก <1 ปี • ถ่ายเป็ นนา้ และมีมกู ปน ไข้ และขาดนา้ เชื้อก่อโรค • พบบ่อย ได้แก่ O55, O86, O111, O119, O125, O126, O127, O28ab, O142 การเกิดโรค พบในประเทศกาลังพัฒนา แหล่งรังโรค ในคน วิธีการแพร่เชื้อ จากอาหารเสริม มือไม่สะอาด แมลงสาบ ระยะฟักตัว รับเชื้อ ป่วย 9-12 ชัว่ โมง ระยะติดต่อของโรค ตลอดช่วงที่ปล่อยเชือ้ ได้ ความไวต่อการรับเชื้อ ไม่มหี ลักฐานว่าหลังเกิดโรคมีภมู คิ มุ้ กัน พบน้อยใน เด็กดืม่ นมมารดา วิธีการป้องกัน มาตรการป้องกัน : • เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 4-6 เดือน • เริ่มตัง้ แต่หลังคลอดทันที • แยกใช้เครื่องใช้ • ล้างมือหลังอุม้ ทารก มาตรการป้องกัน : การควบค ุมผูป้ ่ วย ผูส้ มั ผัส และ สิ่งแวดล้อม • การรายงาน : ถ้ามีการระบาด แจ้งเจ้าหน้าที่ • การแยกผูป้ ่ วย : ระมัดระวังการติดเชือ้ จากผูป้ ่ วย และสงสัย • การทาลายเชื้อ : ในอุจจาระและเครื่องใช้ปนเปื้ อน • การกักกัน : แยกเด็กที่ป่วย • การฉีดวัคซีนในผูส้ มั ผัส : ไม่จาเป็ น • การสอบสวนโรคในผูส้ มั ผัส และค้นหาแหล่งโรค : ติดตามเด็กที่ป่วย มาตรการป้องกัน : การควบค ุมผูป้ ่ วย ผูส้ มั ผัส และ สิ่งแวดล้อม • การรักษาเฉพาะ : ให้สารนา้ และเกลือแร่ป้องกัน • กรณีทอ้ งร่วงร ุนแรง : ให้ TrimethoprimSulfamethoxazole มาตรการเมื่อเกิดการระบาด : • แยกเด็ก ติดตามเด็ก • สอบสวนทางระบาดวิทยา ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น : ไม่มี มาตรการควบค ุมโรคระหว่างประเทศ : WHO Collaborating Centres อหิวาตกโรค (Cholera) ลักษณะโรค • ติดเชือ้ แบคทีเรียในทางเดินอาหารเฉียบพลัน • ถ่ายอุจจาระเป็ นนา้ คราวละมาก ๆ โดยไม่ปวดท้อง สีของอุจจาระเหมือนนา้ ซาวข้าว อาเจียน • ถ้าไม่รกั ษาจะขาดนา้ มีกรดในเลือด ระบบไหลเวียน โลหิตล้มเหลว เด็กมีนา้ ตาลในเลือดตา่ ถ้าไตวายจะ เสียชีวิตได้สงู อ ุจจาระเหมือนน้าซาวข้าว ลักษณะโรค • ส่วนใหญ่ไม่มอี าการและเป็ นพาหะได้ โดยเฉพาะที่ ติดเชื้อ El Tor • รายที่มอี าการรุนแรง เรียกว่า “Choleragravis” 50% ตายได้ภายใน 2-3 ชัว่ โมง ถ้าได้รกั ษาอย่าง ถูกต้องอัตราตายลดลง <1% ลักษณะเชื้อ Cholera จะพบการเคลื่อนไหวแบบ “Shooting Stars” นิยามโรคของ WHO “พบผูป้ ่ วยอายุตงั้ แต่ 5 ปี ขึน้ ไป มีอาการถ่ายอุจจาระเป็ น นา้ เฉียบพลันแล้วมีอาการขาดนา้ อย่างรุนแรงหรือเสียชีวิต ในพื้นที่ที่ยงั ไม่เคยมีรายงานโรคอหิวาห์มาก่อน” และ “พบผูป้ ่ วย มีอาการอุจจาระเป็ นนา้ เฉียบพลันโดยมีหรือไม่ มีอาเจียน ในพื้นที่ที่กาลังมีการระบาดของอหิวาต์” เชื้อก่อโรค เชื้อก่อโรค พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านัน้ การเกิดโรค • เกี่ยวข้องกับการบริโภคนา้ ไม่สะอาด • สุขวิทยาส่วนบุคคลไม่ดี • สุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมไม่ดี • ความแออัดของที่อยู่อาศัย การเกิดโรค การเกิดโรค พ.ศ. 2553-2554 พบระบาดในเฮติหลัง แผ่นดินไหวรุนแรง เสียชีวิต 5,889 ราย แหล่งรังโรค • ที่สาคัญคือ คน • สิ่งแวดล้อม สัมพันธ์กบั ไรนา และแพลงตอนสัตว์ในนา้ กร่อย วิธีการแพร่เชื้อ จากอาหารและนา้ ที่ปนเปื้ อนเชือ้ ระยะฟักตัว รับเชื้อ ป่วย 2-3 ชัว่ โมง- 5 วัน (เฉลี่ย 2-3 วัน) ระยะติดต่อของโรค 2-3 วันหลังจากอาการดีขนึ้ อาจพบได้หลายเดือน ความไวต่อการรับเชื้อ • ทารกเลี้ยงด้วยนมแม่จะป้องกันได้ • พบบ่อยในคนเลือดกรุป๊ O • ติดเชือ้ แล้วป้องกันการติดเชือ้ ซา้ ได้ วิธีการป้องกัน มาตรการป้องกัน : • ให้สขุ ศึกษา เน้นการล้างมือ จัดให้มที ี่ลา้ งมือ • กาจัดอุจจาระให้ถกู หลัก ใช้กระดาษชาระแทนนา้ • แหล่งนา้ ดืม่ ต้องสะอาด ฆ่าเชือ้ ด้วยคลอรีน • ควบคุมแมลงวัน • จัดเตรียมอาหารให้สะอาด • พาสเจอร์ไรส์นม วิธีการป้องกัน มาตรการป้องกัน : • ควบคุมคุณภาพโรงงานเตรียมอาหาร • อนุญาตให้จบั และจาหน่ายอาหารทะเลที่มกี าร ตรวจสอบเท่านัน้ • แนะนาผูป้ ่ วย ผูฟ้ ั กฟื้ น พาหะ ให้เข้าใจสุขวิทยาส่วน บุคคล • ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ วิธีการป้องกัน มาตรการป้องกัน : • ห้ามคนเป็ นพาหะปรุงอาหาร • วัคซีนฉีด มีประสิทธิภาพ 50% ป้องกัน 3-6 เดือน วัคซีนกินได้ผลดีกว่า มาตรการป้องกัน : การควบค ุมผูป้ ่ วย ผูส้ มั ผัส และ สิ่งแวดล้อม • การรายงาน : รายงานทันที • การแยกผูป้ ่ วย : ระมัดระวังการติดเชือ้ จากผูป้ ่ วย และสงสัย • การทาลายเชื้อ : ในอุจจาระและเครื่องใช้ปนเปื้ อน • การกักกัน : ไม่มคี วามจาเป็ น • การจัดการในผูส้ มั ผัส : เฝ้ าระวังผูส้ มั ผัสร่วม 5 วัน ให้ Tetracycline, Doxycycline, Furazolidone, Erythromycin • การสอบสวนโรคในผูส้ มั ผัส และค้นหาแหล่งโรค : สอบสวนเรื่องอาหารและนา้ หาแหล่งโรค มาตรการป้องกัน : การควบค ุมผูป้ ่ วย ผูส้ มั ผัส และ สิ่งแวดล้อม • การรักษาเฉพาะ : ให้สารนา้ และเกลือแร่ป้องกัน มาตรการป้องกัน : การควบค ุมผูป้ ่ วย ผูส้ มั ผัส และ สิ่งแวดล้อม • การรักษาเฉพาะ : ให้สารนา้ กรณีรนุ แรง มาตรการป้องกัน : การควบค ุมผูป้ ่ วย ผูส้ มั ผัส และ สิ่งแวดล้อม • การรักษาเฉพาะ : ให้ Tetracycline, Doxycycline, Furazolidone, Erythromycin มาตรการเมื่อเกิดการระบาด : • ให้ความรูก้ ลุม่ เสี่ยงเรื่องการรักษาอย่างเร็ว • เตรียมสถานที่และอุปกรณ์ให้พร้อม • ประเมินแหล่งนา้ • แนะนาเรื่องการเตรียมอาหาร • สอบสวนโรคและการระบาด หาพาหะ • จัดสถานที่กาจัดนา้ เสียให้ถกู หลัก • ไม่แนะนาให้ฉีดวัคซีนเชือ้ อหิวาต์ทงั้ ตัว มาตรการเมื่อเกิดการระบาด : ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น : โอกาสระบาดสูงใน พื้นที่แออัด สุขาภิบาลอาหารและสิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสม มาตรการควบค ุมโรคระหว่างประเทศ : • ต้องแจ้ง WHO • ตรวจพาหนะ เช่น เรือ เครื่องบิน ที่มาจากพื้นที่เกิดโรค • ควรให้วคั ซีนกินเมือ่ ต้องเข้าพื้นที่ระบาด กลมุ่ Non-O1 Non-O139 กลมุ่ Non-O1 Non-O139 • ทาให้ผปู้ ่ วยเกิดโรคอาหารเป็ นพิษ และระบบ ทางเดินอาหารอักเสบ • ไม่สร้างสารพิษ • เกิดในประเทศแถบร้อน • แหล่งรังโรค ในพื้นที่นา้ กร่อย เกาะติดกับแพลง ตอนสัตว์ที่มไี คติน และสัตว์ทะเลที่มเี ปลือก • แพร่เชือ้ กับอาหารทะเลดิบ หรือสุกไม่ทวั ่ ถึง หรือ เข้าทางบาดแผล กลมุ่ Non-O1 Non-O139 • ฟั กตัว 12-24 ชัว่ โมง (เฉลี่ย 10 ชัว่ โมง) • การป้องกัน ให้ความรูค้ วามเสี่ยงจากอาหารทะเล ดิบ Vibrio Parahaemolyticus • อาการ – ถ่ายเป็ นนา้ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ และปวดศีรษะ อาจมีถ่ายเป็ นมูกปนเลือด • เชือ้ Vibrio Parahaemolyticus อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มี ความเข้มข้นเกลือสูง ทาให้เกิดการแตกตัวของเม็ด เลือดแดงได้ (Kanagawa Phenomenon) • พบในคนที่กินอาหารทะเลที่สกุ ไม่ทวั ่ ถึง เช่น หอย กาบ หอยนางรมดิบ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ • ระยะฟั กตัว 12-24 ชัว่ โมง