Transcript Click

กลมุ่ โรคติดต่อทางเดินหายใจ
อนุพันธ์ สุวรรณพันธ์
ทางเดินหายใจส่วนบน
Upper Respiratory Infection :
Acute Viral Rhinitis/Pharyngitis (Common Cold)
Strep Throat, Caused by
Group A Streptococcus (GAS)
Lower Respiratory Infection :
Croup (Laryngotracheitis),
Acute Viral Tracheobronchitis,
Bronchitis, Bronchiolitis, Pneumonia
Acute Febrile Respiratory Disease
1. ลักษณะโรค
• ไข้ ไอ หายใจเร็ว + อาการทัว่ ไป (หนาวสัน่ ปวด
ศีรษะ ปวดเมือ่ ย ไม่สบายตัว เบื่ออาหาร อาการระบบ
ทางเดินอาหาร)
• ตาแดง (Conjunctivitis)
• อาการเฉพาะที่ Rhinitis, Pharyngitis, Tonsillitis,
Laryngitis, Laryngotracheitis, Bronchitis, Bronchiolitis,
Pneumonia
• ดีข้ ึนภายใน 2-5 วัน
Rhinosinusitis
Common cold
Purulent rhinitis
Otitis media
Pharyngotonsilitis
Epiglotitis
Laryngitis
Croup
Acute bronchitis
AECB (Acute exacerbations
Rhinosinusitis
Common cold
Purulent rhinitis
Otitis media
Pharyngotonsilitis
Epiglotitis
Laryngitis
Croup
Acute bronchitis
AECB
of chronic bronchitis)
Pneumonia
Pneumonia
2. เชื้อก่อโรค
เชื้อโรค
ทาให้เกิดโรค
Respiratory Syncytial Bronchiolitis, Pneumonia, Croup,
Virus (RSV)
Bronchitis, Otitis Media, URI มีไข้
Parainfluenza
Croup, bronchitis, pneumonia,
bronchitis, Acute Respiratory
Infection in Children (ARIC)
3. การเกิดโรค
• พบได้ทวั่ โลก มักเกิดในฤด ูหนาว
• เด็กเป็นได้ 2-6 ครัง้ ต่อปี
• เด็กวัยเรียนเป็นได้ 2% ต่อสัปดาห์
• ผูใ้ หญ่ 0.5% ต่อสัปดาห์
4. แหล่งรังโรค
ในคน เชื้อ Adenovirus อาจอยูท่ ี่
Tonsils และ Adenoid
5. วิธีการแพร่เชื้อ
• ติดต่อโดยตรงโดยการสัมผัสกับเชื้อโดยตรง หรือ
ผ่านมือ เครือ่ งใช้
• Adenovirus Type 3, 4, 7 อาจระบาดในสระว่ายน้า
• Enterovirus และ Adenovirus อาจถ ูกขับถ่ายทาง
อ ุจจาระ
6. ระยะฟักตัว
ป่วย
รับเชื้อ
1-10 วัน
7. ระยะติดต่อของโรค
แพร่เชื้อได้ตงั้ แต่กอ่ นมีอาการ
RSV อาจอยูไ่ ด้นานหลายอาทิตย์หลังอาการหาย
8. ความไวและความต้านทานต่อการรับเชื้อ
• เป็ นบ่อยในวัยเด็ก
• อาการรุนแรงในทารก เด็ก และคนสูงอายุ
• เมือ่ เป็ น ร่างกายจะสร้างภูมคิ มุ้ กันระยะสัน้ ๆ
• ในคนที่เป็ นโรคปอด โรคหัวใจ หรือคนที่มภี มู คิ มุ้ กันตา่
อาการจะรุนแรงได้
9. วิธีการป้องกัน
A. มาตรการป้องกัน
ในทารกที่เสี่ยงมาก ให้ RSV Immuno Globulin,
Palivizumab, RSV Monoclonal Antibody
9. วิธีการป้องกัน
B. การควบค ุมผูป้ ่ วย ผูส้ มั ผัส และสิ่งแวดล้อม
I. รายงานให้เจ้าหน้าที่ผิดชอบในพื้นที่
II. การแยกผูป้ ่ วย : จาเป็ นกรณีในโรงพยาบาล
III. การทาลายเชื้อ : ทาในอุปกรณ์ที่ปนเปื้ อนเชือ้ โรค
IV. การกักกัน : ไม่จาเป็ น
V. การให้ภ ูมิคม้ ุ กันแก่ผส้ ู มั ผัสโรค : ยังไม่มวี ิีีการ
VI. การตรวจผูส้ มั ผัสโรคและแหล่งแพร่เชื้อ : ไม่
แนะนา
9. วิธีการป้องกัน
VII. การรักษาเฉพาะ : ไม่มี
ให้ยาปฏิชีวนะใน Group A Streptococci Otitis Media,
Pneumonia, Sinusitis
การใช้ยาแก้ไอ ลดน้ามูก แก้แพ้อาจจะมีอนั ตรายในเด็ก
9. วิธีการป้องกันโรค
C. การประเมินด้านระบาดวิทยา : ไม่มวี ิีีที่ได้ผล
D. สัญญาณเตือนภัยที่ควรระวัง : ไม่มอี นั ตราย
ร้ายแรง
E. มาตรการควบค ุมโรคระหว่างประเทศ : ศูนย์
ประสานเพื่อความร่วมมือองค์การอนามัยโลก (WHO
Collaborating Centers)
Acute Viral Rhinitis – Common Cold
1. ลักษณะโรค
• หวัด จาม น้าตาไหล น้ามูกไหล เจ็บคอเล็กน้อย
อาจไม่สบายตัว หนาวสัน่ เป็น 2-7 วัน
• เด็กโตและผูใ้ หญ่ ไม่คอ่ ยเป็ นไข้
• ทาให้ขาดงาน ขาดโรงเรียน
• อาการหวัดอาจร่วมกับ Laryngitis, Tracheitis, Bronchitis
• โรคแทรกซ้อน Sinusitis, Otitis Media
2. เชื้อก่อโรค
• 20-40% เป็น Rhinoviruses มีมากกว่า 100
Serotype
• 10-15% เป็น Coronavirus
• 10-15% เป็น Influenza
3. การเกิดโรค
• พบได้ทวั่ โลก เป็นทัง้ Endemic และ Epidemic
• เป็นได้ 1-6 ครัง้ ต่อปี
• เด็ก <5 ปีจะเป็นบ่อยและลดลงเมื่อโต
4. แหล่งรังโรค
ในคน
5. วิธีการแพร่เชื้อ
ไอ จามรดกัน (Direct Contact)
5. วิธีการแพร่เชื้อ
สัมผัสโดยตรงกับน้ามูก น้าลายของผูต้ ิดเชื้อ
(Direct Contact)
5. วิธีการแพร่เชื้อ
ติดจากมือ เครือ่ งใช้ที่ปนเป้ ื อนน้ามูก น้าลาย
(Indirect Contact)
6. ระยะฟักตัว
รับเชื้อ
ป่วย
12 ชัว่ โมง – 5 วัน (เฉลี่ย 48 ชัว่ โมง)
7. ระยะติดต่อของโรค
มีอาการ
24 ชัว่ โมง
ก่อนมี
5 วัน
หลังมี
8. ความไวและความต้านทานต่อการรับเชื้อ
• ในคนแข็งแรงอาจไม่มีอาการ
• เป็นได้บ่อย เชื้อมีหลายชนิดและภ ูมิคม้ ุ กันในคนที่
เคยป่วยลดลง
9. วิธีการป้องกัน
A. มาตรการป้องกัน
• ให้ความรเ้ ู รือ่ งส ุขวิทยาส่วนบ ุคคล
• หลีกเลี่ยงการอยูใ่ นที่แออัด
• ให้ Adenovirus Vaccine (type 4, 7 21)
• หลีกเลี่ยงการสูบบ ุหรีใ่ นบ้านที่มีเด็ก
9. วิธีการป้องกัน
B. การควบค ุมผูป้ ่ วย ผูส้ มั ผัส และสิ่งแวดล้อม
I. รายงานให้เจ้าหน้าที่ผิดชอบในพื้นที่
II. การแยกผูป้ ่ วย : ไม่จาเป็ น
III. การทาลายเชื้อ : ทาในอุปกรณ์ที่ปนเปื้ อนเชือ้ โรค
IV. การกักกัน : ไม่จาเป็ น
V. การให้ภ ูมิคม้ ุ กันแก่ผส้ ู มั ผัสโรค : ไม่จาเป็ น
VI. การตรวจผูส้ มั ผัสโรคและแหล่งแพร่เชื้อ : ไม่มี
ประโยชน์
VII. การรักษาเฉพาะ : ไม่มี
9. วิธีการป้องกันโรค
C. การประเมินด้านระบาดวิทยา : ไม่มวี ิีีที่ได้ผล
D. สัญญาณเตือนภัยที่ควรระวัง : ไม่มอี นั ตราย
ร้ายแรง
E. มาตรการควบค ุมโรคระหว่างประเทศ : ศูนย์
ประสานเพื่อความร่วมมือองค์การอนามัยโรค (WHO
Collaborating Centers)
Lower Respiratory Infection :
Croup (Laryngotracheitis),
Acute Viral Tracheobronchitis,
Bronchitis, Bronchiolitis, Pneumonia
Pneumococcal Pneumonia
1. ลักษณะโรค
• เป็ นโรคติดเชือ้ เฉียบพลันของทางเดินหายใจส่วนล่าง
• อัตราป่ วย 100/100,000 ประชากร
• ไข้สงู ทันที (หนาวสัน่ , ปวดเมือ่ ยกล้ามเนือ้ และข้อ, ปวดศีรษะ
, ไม่สบายตัว) เจ็บหน้าอก หายใจเข้าไม่สะดวก ไอมีเสมหะ
• คนสูงอายุอาการอาจไม่เริ่มทันที มีไข้ หายใจไม่สะดวก ซึม
• เด็กอาจเริ่มด้วยไข้ อาเจียน ชัก
• X-ray พบ Lobar หรือ Segmental Consolidation
1. ลักษณะโรค
• เป็ นสาเหตุการตายที่สาคัญในเด็ก ผูส้ งู อายุ ผูป้ ่ วยโรค
เรื้อรัง ผูม้ ภี มู ติ า้ นทานตา่
• ก่อนมียาปฏิชวี นะ อัตราตาย 20-40% หลังมีลด
เหลือ 5-10%
• ผูม้ โี รคประจาตัวหรือ Alcoholism อัตราตาย 2040% หรือถึง 50%
• ประเทศกาลังพัฒนา เด็กอัตราตาย >10% เด็กอายุ
<6 เดือน อัตราตาย >60%
2. เชื้อก่อโรค
• Streptococcus Pneumoniae เป็ น Gram-positive
Encapsulated Coccus
• 75% เกิดจาก 11 Serotype ที่พบบ่อย
3. การเกิดโรค
• เกิดได้ในช ุมชน โดยเฉพาะในเด็ก และผูส้ งู อาย ุ ผู้
มีโรคประจาตัว หรือภาวะท ุพโภชนาการ กลมุ่ คน
ยากจน
• อัตราป่ วยสูงขึน้ กรณีมกี ารระบาดของ Influenza
• ปัญหาสาคัญ คือมีการดือ้ ต่อยา Penicillin,
Cephalosporin และ Macrolides
4. แหล่งรังโรค
ในคน
5. วิธีการแพร่เชื้อ
ไอ จามรดกัน (Droplet Transmission)
5. วิธีการแพร่เชื้อ
สัมผัสโดยตรงกับน้ามูก น้าลายของผูต้ ิดเชื้อ
(Direct Contact)
5. วิธีการแพร่เชื้อ
ติดจากเครือ่ งใช้ที่ปนเป้ ื อนน้ามูก น้าลาย
(Indirect Contact)
6. ระยะฟักตัว
ป่วย
รับเชื้อ
ประมาณ 1-3 วัน
7. ระยะติดต่อของโรค
จนกว่าเชื้อจะหมดไปจากปากและจมูก ถ้าได้ยา
Penicillin เชื้อจะถ ูกทาลายภายใน 24-48 ชัว่ โมง
8. ความไวและความต้านทานต่อการรับเชื้อ
• ในคนแข็งแรงอาจเป็นได้
• สูงขึ้นในคนเป็น Influenza, Pulmonary Edema, Aspiration,
Chronic Lung Disease หรือคนสูบบุหรี่ ในผูส้ งู อาย ุหรือผูม้ ีโรค
เรื้อรัง Asplenia, Sickle Cell Disease, Chronic Cardiovascular
Disease, Diabetes Mellitus, Cirrhosis, Hodgkin Disease,
Lymphoma, Multiple myeloma, Chronic Renal Failure, Nephrotic
Syndrome, HIV Infection, การทา Organ Transplantation
• เป็นแล้วมีภ ูมิคม้ ุ กันอยูน่ านหลายปี
• แต่ติดเชื้อซ้าได้ในกรณีคนมีภ ูมิคม้ ุ กันไม่แข็งแรง หรือ
เกิดตามโรคอื่น
9. วิธีการป้องกัน
A. มาตรการป้องกัน
• หลีกเลี่ยงการอยูร่ ว่ มกันอย่างแออัด ภาวะขาด
สารอาหาร
• ให้ภ ูมิคม้ ุ กันในกลมุ่ เสี่ยง – ผูส้ งู อาย ุ มีโรคเรื้อรัง
ให้ Capsacular Polyscharide Streptococcal ของ
Pneunmonia 11 Serotypes ถ้าเคยฉีดมาแล้ว 5 ปี ควรซา้
อีกครัง้
9. วิธีการป้องกัน
B. การควบค ุมผูป้ ่ วย ผูส้ มั ผัส และสิ่งแวดล้อม
I. รายงานให้เจ้าหน้าที่ผิดชอบในพื้นที่
II. การแยกผูป้ ่ วย : จาเป็นกรณีเชื้อดื้อยา
III. การทาลายเชื้อ : ทาในอ ุปกรณ์ที่ปนเป้ ื อนเชื้อโรค
IV. การกักกัน : ไม่จาเป็น
V. การให้ภ ูมิคม้ ุ กันแก่ผส้ ู มั ผัสโรค : ยังไม่มีวิธีการ
VI. การตรวจผูส้ มั ผัสโรคและแหล่งแพร่เชื้อ ไม่
แนะนา
Influenza
1. ลักษณะโรค
• ไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ เพลียมาก มีหวัด เจ็บคอ
และไอ หายภายใน 2-7 วัน
• ในเด็กพบอาการร่วมทางเดินอาหาร ได้ 25%
1. ลักษณะโรค
• อาจเกิดการระบาดได้
• ค.ศ.1918 Spanish Influenza A(H1N1) เสียชีวิต 40 ล้านคน
• ค.ศ.1957 Asian Influenza A(H2N2)
• ค.ศ.1968 Hong Kong Influenza A(H3N2)
• อัตราตายสูงในผูส้ งู อาย ุและผูม้ ีโรคเรื้อรัง
• ในแต่ละปีมีการตายทัว่ โลกปีละ 1 ล้านคน
• 80-90% เป็ นผูส้ งู อายุ (65 ปี )
2. เชื้อก่อโรค
มี 3 Serotype A, B, C
Type A – 15 Subtype เฉพาะ H1, H3 ที่ทาให้ระบาด
Type C – ระบาดนาน ๆ ครัง้ (sporadic)
Hemaagglinin (H)
Neuraminidar (N)
Antigenic Drift คือ การเปลี่ยนแปลงที่แอนติเจนใหม่แตกต่างไปจาก
แอนติเจนเดิมไม่มากนัก แอนติเจนเปลี่ยนแปลงไปเพียงเล็กน้อย
3. การเกิดโรค
• เกิด Endemic พบได้นอ้ ย ส่วนมากเป็น Epidemic
พบได้ 10-20% ในแหล่งช ุมน ุมคน
• ระบาดได้ 3-6 สัปดาห์
นักเรียน
สมาชิกครอบครัว
นักเรียน
สมาชิกครอบครัว
โรงเรียน
4. แหล่งรังโรค
• พบในหมู ม้า นาก และแมวน้า
• นกน้า (Aquatic Bird) เป็ นแหล่งเก็บเชือ้
• การแพร่เชือ้ Species Reassortment ของ Influenza A พบ
ในหมู คน และสัตว์ปีกบางชนิด
• ค.ศ.1997 พบ Influenza Avian Infection จาก A
(H3N1) ในคน มีอตั ราตายสูง การกระจายโรคในเป็ ด ไก่
ในค.ศ.2004 มีการระบาดในเป็ ดไก่ แต่ยงั ไม่พบในคน
4. แหล่งรังโรค
ในคน นก และสัตว์เลี้ยงล ูกด้วยนม
5. วิธีการแพร่เชื้อ
Airborne Transmission อาจทาง Direct Contact
6. ระยะฟักตัว
ป่วย
รับเชื้อ
ประมาณ 1-3 วัน
7. ระยะติดต่อของโรค
มีอาการ
3-5 วัน เด็กอาจถึง 7 วัน
หลังมี
8. ความไวและความต้านทานต่อการรับเชื้อ
• การระบาดมากหรือน้อยขึ้นกับภ ูมิคม้ ุ กันของ
ช ุมชน
• การให้วคั ซีนจะช่วยป้องกันและกระตน้ ุ ให้เกิด
ภ ูมิคม้ ุ กัน Subtype ที่มีในวัคซีน
9. วิธีการป้องกัน
A. มาตรการป้องกัน
• ให้ความรเ้ ู รือ่ งส ุขวิทยาส่วนบ ุคคล
• ให้ภ ูมิคม้ ุ กัน มีทงั้ Inactivated และ Live Vaccine ป้องกัน
โรคได้ 70-80% อาจให้ร่วมกับ Pneumococal Vaccine
• วัคซีนให้ครัง้ เดียว เด็ก <9 ปี ให้ 2 เข็ม ห่าง 1 เดือน
• ให้ในกลุม่ เสี่ยงสูง ให้กอ่ นการระบาด
• ให้ยาต้านไวรัส Amantadine Hydrochloride หรือ
Rimantadine Hydrochloride
9. วิธีการป้องกัน
B. การควบค ุมผูป้ ่ วย ผูส้ มั ผัส และสิ่งแวดล้อม
I. รายงานให้เจ้าหน้าที่ผิดชอบในพื้นที่
II. การแยกผูป้ ่ วย : ผูป้ ่ วยอยูร่ วมกัน 5-7 วันแรก
III. การทาลายเชื้อ : ทาในอุปกรณ์ที่ปนเปื้ อนเชือ้ โรค
IV. การกักกัน : ไม่จาเป็ น
V. การให้ภ ูมิคม้ ุ กันแก่ผส้ ู มั ผัสโรค : อาจให้ยาป้องกัน
VI. การตรวจผูส้ มั ผัสโรคและแหล่งแพร่เชื้อ : ในทาง
ปฏิบตั ทิ ายาก
9. วิธีการป้องกัน
VII. การรักษาเฉพาะ : ให้ยาต้านไวรัส Amantadine
หรือ Rimantadine ภายใน 48 ชัว่ โมง 3-5 วัน
9. วิธีการป้องกันโรค
C. การควบค ุมการระบาด : มีแผนระดับชาติป้องกัน
การระบาด, ปิ ดโรงเรียนไม่มปี ระโยชน์, ในรพ.ให้วคั ซีน
เจ้าหน้าที่ทกุ คน, มียาต้านไวรัสให้เพียงพอ
D. สัญญาณเตือนภัยที่ควรระวัง : ในกลุม่ คนที่อยู่
รวมกัน
E. มาตรการควบค ุมโรคระหว่างประเทศ : รายงานให้
WHO ทราบ, ส่งตรวจหาเชือ้ , ศึกษาระบาดวิทยา, มียาและ
วัคซีนเพียงพอ
งานกลมุ่
• แบ่งกลุม่ 6 กลุม่
• เขียนชือ่ สมาชิก
• ทากรณีศึกษา ให้เวลา 10 นาที