หน่ วยที่ 6 เวกเตอร์ และการประยุกต์ • เวกเตอร์ เชิงเรขาคณิตและ การดาเนินการเบือ้ งต้ น • เวกเตอร์ ในระบบพิกดั ฉาก • การคูณเชิงเวกเตอร์
Download ReportTranscript หน่ วยที่ 6 เวกเตอร์ และการประยุกต์ • เวกเตอร์ เชิงเรขาคณิตและ การดาเนินการเบือ้ งต้ น • เวกเตอร์ ในระบบพิกดั ฉาก • การคูณเชิงเวกเตอร์
หน่ วยที่ 6 เวกเตอร์ และการประยุกต์ • เวกเตอร์ เชิงเรขาคณิตและ การดาเนินการเบือ้ งต้ น • เวกเตอร์ ในระบบพิกดั ฉาก • การคูณเชิงเวกเตอร์ เวกเตอร์ ปริมาณสเกลาร์ และปริมาณเวกเตอร์ ปริมาณทางกายภาพที่สามารถระบุขนาด หรือจานวนหน่ วยของปริมาณด้ วย จานวนจริงจานวนหนึ่ง เรียกว่ า ปริมาณสเกลาร์ สาหรับปริมาณทางกายภาพอีกประเภท หนึ่งที่เกี่ยวข้ องกับทัง้ ขนาดและทิศทาง เรียกว่ า ปริมาณเวกเตอร์ ในเชิงเรขาคณิตแทนปริมาณเวกเตอร์ ด้วย สัญลักษณ์ ท่ เี ป็ นส่ วนของเส้ นตรงที่มี หัวลูกศร โดยใช้ ความยาวของส่ วนของเส้ นตรง ซึ่งมี ความยาวจากัดแทนขนาด ใช้ หวั ลูกศรชีบ้ อกทิศทาง เรียกสัญลักษณ์ ดังกล่ าวว่ า เวกเตอร์ เชิงเรขาคณิต เพื่อให้ การกล่ าวถึงเวกเตอร์ เชิงเรขาคณิต มีความชัดเจน จะระบุจุดสองจุด จุดหนึ่งเป็ นจุดเริ่มต้ น อีกจุดหนึ่งเป็ นจุดปลาย เช่ น A เป็ นจุดเริ่มต้ น B เป็ นจุดปลายของเวกเตอร์ B A เวกเตอร์ AB แทนด้ วย ความยาวของ แทนขนาดของ ด้ วย A B การเท่ ากันของเวกเตอร์ บทนิยาม เวกเตอร์ เชิงเรขาคณิตสองเวกเตอร์ เท่ ากัน ก็ต่อเมื่อ เวกเตอร์ ทัง้ สองมี ขนาดเท่ ากัน และมีทศิ ทางเดียวกัน B D R F Q P A C E S = CD มีขนาดเท่ ากันและทิศทางเดียวกัน EF มีทศิ ทางเดียวกัน แต่ ขนาดไม่ เท่ ากัน AB SR AB PQ มีขนาดเท่ ากันแต่ ทศิ ทางตรงข้ ามกัน A C มีขนาดและทิศทางต่ างกัน B E D F S R P Q เวกเตอร์ ศูนย์ บทนิยาม เวกเตอร์ ท่ มี ีจุดเริ่มต้ น และจุดปลายเป็ น จุดเดียวกัน เรี ยกว่ าเวกเตอร์ ศูนย์ แทนด้ วย O O เป็ นเวกเตอร์ ท่ มี ีขนาด 0 โดยทั่วไป จะไม่ กล่ าวถึงทิศทางของ O ถ้ าจะกล่ าวถึงให้ ถือว่ ามีทศิ ทางใดก็ได้ O O การขนานกันของเวกเตอร์ เวกเตอร์ สองเวกเตอร์ ขนานกัน ก็ต่อเมื่อมีทศิ ทางเดียวกัน หรื อ มีทศิ ทางตรงข้ ามกัน B R D F A P E S C Q // EF และ // SR , และ SR มีขนาดเท่ ากัน แต่ มี ทิศทางตรงข้ ามกัน ใช้ สัญลักษณ์ RS AB B R D F A E S C // CD , ถ้ า เป็ นเวกเตอร์ เชิงเรขาคณิต ใดๆ จะแทนเวกเตอร์ ท่ มี ีขนาด เท่ ากันกับ AB แต่ มีทศิ ทางตรงข้ าม กับ AB ด้ วย AB B B AB A A AB ถ้ าวัตถุหนึ่งเคลื่อนที่จากจุด A ไปถึงจุด B เป็ นระยะทาง 40 เมตร A 40 เมตร B ถ้ าวัตถุหนึ่งเคลื่อนที่จากจุด A ไปถึงจุด B เป็ นระยะทาง 40 เมตร แล้ วเคลื่อนที่ จากจุด B ไปจุด C ในแนวตัง้ ฉากกับ AB เป็ นระยะทาง 30 เมตร C 30 เมตร A 40 เมตร B A 30 เมตร ถ้ าวัตถุหนึ่งเคลื่อนที่จากจุด A ไปถึงจุด B เป็ นระยะทาง 40 เมตร แล้ วเคลื่อนที่ จากจุด B ไปจุด C ในแนวตัง้ ฉากกับ AB เป็ นระยะทาง 30 เมตร ผลลัพธ์ จาก การเคลื่อนที่ทงั ้ สองครั ง้ นีเ้ ท่ ากับการที่ วัตถุเคลื่อนที่จากจุด A ไปถึงจุด C เป็ น C ระยะทาง 50 เมตร 40 เมตร B 30 เมตร การเคลื่อนที่ของวัตถุนีเ้ ป็ นเป็ นปริมาณที่ สามารถใช้ เวกเตอร์ เชิงเรขาคณิตแทนได้ ให้ AB , BC และ AC แทนการเคลื่อนที่จากจุด A ไปถึงจุด B จากจุด B ไปถึง C จุด C และจากจุด A ไปถึง จุด C ตามลาดับ A B 40 เมตร เรียก AC ว่ า ผลรวม หรือผลบวกของ AB และ BC ใช้ สัญลักษณ์ AC = AB + BC C 30 เมตร A 40 เมตร B = ( 40) 2 ( 30) 2 = 50 เมตร ชายสองคนต้ องการเคลื่อนที่เรื อ (Q) ใน คลองที่ตนื ้ เขิน ทัง้ สองคนอยู่บนฝั่ ง เดียวกัน คนหนึ่ง (R) ลากจูงเรื อด้ วยการ ดึงเชือกแล้ วเดินไปข้ างหน้ า อีกคน (P) ใช้ ไม้ ถ่อคา้ เรือให้ เดินหน้ า และไม่ ให้ เรื อ เข้ ามากระทบฝั่ ง ผลของการใช้ แรง กระทากับเรื อของทัง้ สองคนทาให้ เรื อ แล่ นไปข้ างหน้ าตามลาคลอง Q S R P PQ แทน แรงที่ชายคนหนึ่งผลักดันเรื อ QR แทน แรงที่ชายอีกคนหนึ่งฉุดดึงเรื อ QS แทน แรงที่เป็ นผลรวมของแรงที่ทาให้ เรื อ แล่ นไปข้ างหน้ า เขียนแผนภาพใหม่ โดยให้ แรงที่กระทา กับเรื อมีจุดเริ่มต้ นที่เดียวกัน A Q S C O R P B QR OB กล่ าวคือ ให้ OA = PQ , = และ OC = QS จะได้ ว่า OACB เป็ นรู ปสี่เหลี่ยมด้ านขนาน โดยมีส่วนของเส้ นตรง OC เป็ นเส้ นทะแยงมุม A จะได้ OC = OA + OB ผลบวกนีเ้ ป็ นไปตาม C O กฎสี่เหลี่ยมด้ านขนาน ดังนัน้ AC = OB จะได้ OC = OA + AC B กฏสี่เหลี่ยมด้ านขนานของการบวกเวกเตอร์ ถ้ า OA และ OB เป็ นเวกเตอร์ เชิงเรขาคณิต ที่มีจุดเริ่มต้ นเป็ นจุดเดียวกัน คือที่จุด O สร้ างรู ปสี่เหลี่ยมด้ านขนาน OACB โดยมี ส่ วนของเส้ นตรง OC เป็ นเส้ นทะแยงมุม A O C B A O C B ผลบวกของ OA และ OB เท่ ากับเวกเตอร์ ผลลัพธ์ OC เขียนแทนด้ วย OA + OB = OC ผลบวกนีเ้ ป็ นไปตามกฏสี่เหลี่ยมด้ านขนาน A O C B ด้ านตรงข้ ามของรู ปสี่เหลี่ยมด้ านขนานมี ความยาวเท่ ากัน และขนานกัน ดังนัน้ OB = AC จะได้ OA + AC = OC จะเห็นว่ า AC มีจุดเริ่มต้ นที่จุดปลายของ OA เวกเตอร์ ผลลัพธ์ OC มีจุดเริ่มต้ นเดียวกัน กับ OA และมีจุดปลายเดียวกันกับ AC การบวกเวกเตอร์ บทนิยาม ถ้ า AB และ CD เป็ นเวกเตอร์ เชิงเรขาคณิต ใดๆ ผลบวกของ AB และ CD เขียนแทนด้ วย ี ีจุดเริ่มต้ นที่จุด AB CD เป็ นเวกเตอร์ ท่ ม A และมีจุดปลายที่จุด E โดยมีการสร้ าง D BE CD ดังรู ปต่ อไป A B C E A D B C เมื่อสร้ าง BE = CD จะได้ AB + BE = AB + CD = AE จากรู ปที่กาหนดให้ F E A B D C จงหาผลบวกของ AB , CD และ EF หรือหา AB + CD + EF 1. ที่จุด B บน AB สร้ าง F = CD Q E A BP B P D C 2. ที่จุด P บน BP สร้ าง PQ = EF จะได้ AB + CD + EF = AB + BP + PQ = AQ เป็ นเวกเตอร์ ผลลัพธ์ จากรู ปที่กาหนดให้ C D จงหา AB + CD C C AB + CD D D จากรู ปที่กาหนดให้ จงหา CD + AB C D AB CD + C D การคูณสเกลาร์ กับเวกเตอร์ บทนิยาม ถ้ า A เป็ นเวกเตอร์ ใดๆ และ n เป็ นสเกลาร์ 1. ถ้ า n0 และ A O แล้ ว n A มีทศิ ทาง เดียวกันกับ A 2. ถ้ า n0 และ A O แล้ ว n A มีทศิ ทาง ตรงข้ ามกับ A 3. ถ้ า n = 0 แล้ ว n A O 4. ขนาดของ n A เท่ ากับ ค่ าสัมบูรณ์ ของ n nA เมื่อ n คือ กาหนด A ดังรู ป จงหาเวกเตอร์ A 3A 3A 3A และ 3A สมบัตเิ บือ้ งต้ นของการคูณสเกลาร์ กับเวกเตอร์ ถ้ า A และ B เป็ นเวกเตอร์ ใดๆ m และ n เป็ นสเกลาร์ 1. (0)A = O 2. (1)A = A 3. m(n A ) = (mn)A 4. (m + n) A = m A + n A 5. m( A + B ) = m A + m B การขนานกันของเวกเตอร์ บทนิยาม ถ้ า A และ B เป็ นเวกเตอร์ ใดๆ ที่ไม่ เป็ น เวกเตอร์ ศูนย์ A ขนานกับ B เขียนแทนด้ วย A // B ก็ต่อเมื่อ มีสเกลาร์ m 0 ที่ทาให้ A mB A 3A B เวกเตอร์ หนึ่งหน่ วย บทนิยาม เวกเตอร์ ท่ มี ีขนาดหนึ่งหน่ วย เรียกว่ า เวกเตอร์ หนึ่งหน่ วย ถ้ า A เป็ นเวกเตอร์ ใดๆ ที่ไมเป็ นศูนย์ จะ 1 ได้ ว่า A A เป็ นเวกเตอร์ หนึ่งหน่ วย ที่มี ทิศทางเดียวกับ A A 1 A A 1 A A เป็ นเวกเตอร์ หนึ่งหน่ วยที่มี ทิศทางเดียวกับ A ผลต่ างของเวกเตอร์ บทนิยาม ถ้ า A และ B เป็ นเวกเตอร์ ใดๆ ผลต่ างของ A กับ B เขียนแทนด้ วย A - B หมายถึง A + (B) A B B A B A + (B) = A - B เราอาจหาเวกเตอร์ ผลต่ าง A B และ B A ได้ ง่ายๆ โดยใช้ แผนภาพที่มีจุดเริ่ มต้ น ของเวกเตอร์ ทงั ้ สองเป็ นจุดเดียวกัน A AB B B B A BA A B BA B A A A B BA สมบัตเิ บือ้ งต้ นของการบวกเวกเตอร์ ถ้ า A , B และ C เป็ นเวกเตอร์ ใดๆ m และ n เป็ นสเกลาร์ 1. A B B A สมบัตกิ ารสลับที่ 2. A (B C) (A B) C สมบัตกิ ารเปลี่ยนกลุ่ม 3. m(A B) mA mB สมบัตกิ ารแจกแจง 4. A O A สมบัตกิ ารมีเอกลักษณ์ ของการบวก 5. A ( A) O สมบัตกิ ารมีอินเวอร์ สของการบวก การคูณเชิงสเกลาร์ ของเวกเตอร์ บทนิยาม ผลคูณสเกลาร์ (scalar product หรือ dot product) ของเวกเตอร์ A และ B เขียนแทนด้ วย A B กาหนดดังนี ้ A B A B cos θ A B เมื่อ เป็ นมุมระหว่ าง A และ B โดยที่ 0 180 พิจารณารู ปสามเหลีย่ มมุมฉาก ด้านตรงข้ามมุม ด้านประชิดมุม ด้านประชิ ดมุมθ cosθ ด้านตรงข้ามมุมฉาก cos 0= 1 cos 90 = 0 กาหนดจุด M(8, 6) และ N(11, 0) บน ระนาบในระบบพิกัดฉาก จงหา OM ON y M(8, 6) O N(11, 0) X Y จากรู ป จะได้ OM 8 2 6 2 10 M(8, 6) ON 11 O 6 หน่ วย 8 cosθ 10 OM ON OM ON cos θ 8 (10)(11) 10 88 8 หน่ วย P N(11, 0) X สมบัตเิ บือ้ งต้ นของผลคูณเชิงสเกลาร์ ถ้ า A , B และ C เป็ นเวกเตอร์ ใดๆ m และ n เป็ นสเกลาร์ 1. A B B A สมบัตกิ ารสลับที่ 2. A (B C) A B A C สมบัตกิ ารแจกแจง 3. m(A) B A (mB) m(A B) สมบัตกิ ารเปลี่ยนกลุ่ม 2 4. A A A กาลังสองของขนาดของเวกเตอร์ 5. A B A B อสมการของโคชี-ชวาร์ ช 6. A B A B อสมการสามเหลี่ยม การตัง้ ฉากกันของเวกเตอร์ บทนิยาม ถ้ า A และ B ตัง้ ฉากกันก็ต่อเมื่อ มุมระหว่ าง เวกเตอร์ ทงั ้ สองมีขนาดเท่ ากับหนึ่งมุมฉาก หรือ 90 องศา ถ้ า A และ B เป็ นเวกเตอร์ ใดๆ ที่ไม่ ใช่ เวกเตอร์ ศูนย์ A ตัง้ ฉากกับ B ก็ต่อเมื่อ AB 0 เวกเตอร์ ในระบบพิกัดฉาก เวกเตอร์ ในระบบพิกัดฉากสองมิติ บทนิยาม เวกเตอร์ A คือคู่อันดับ (a, b) เขียนแทน ด้ วย A (a, b) เมื่อ a และ b เป็ นจานวนจริ ง เรียก a ว่ าองค์ ประกอบที่หนึ่ง และเรี ยก b ว่ าองค์ ประกอบที่สอง ในเชิงเรขาคณิต สามารถแทนเวกเตอร์ ซ่ งึ มี จุดเริ่มต้ นที่จุด O(0, 0) และมีจุดปลายที่ A(a, b) ด้ วย A (a, b) Y A(a, b) b A O a X สาหรั บเวกเตอร์ ศูนย์ ใน R2 เป็ นเวกเตอร์ ท่ ที ัง้ สอง องค์ ประกอบเป็ น 0 กล่ าวคือ O (0,0) ขนาดของเวกเตอร์ บทนิยาม 2 เมื่อ A (a, b) เป็ นเวกเตอร์ ใน R 2 2 A a b ขนาดของ A กาหนดดังนี ้ กาหนด A (2,5) จงหา A A ( 2 ) 2 52 29 การเท่ ากันของเวกเตอร์ บทนิยาม เมื่อ A (a1 , b1 ) และ B (a 2 , b 2 ) เป็ น 2 เวกเตอร์ ใน R กล่ าวว่ า A B ก็ต่อเมื่อ a1= a2 และ b1= b2 การคูณสเกลาร์ กับเวกเตอร์ บทนิยาม 2 A ( a , b ) เมื่อ เป็ นเวกเตอร์ ใดๆ ใน R และ m เป็ นสเกลาร์ ผลคูณของ m กับ A เขียนแทนด้ วย m A กาหนดดังนี ้ m A = (ma, mb) A ผลบวกและผลต่ าง บทนิยาม เมื่อ A (a1 , b1 ) และ B (a 2 , b 2 ) เป็ นเวกเตอร์ ใดๆ ใน R2 ผลบวกและผลต่ างของเวกเตอร์ กาหนดดังนี ้ A B = (a1+ a2, b1+ b2) A B = (a1- a2, b1- b2) A พิจารณา B A จากรู ป y A (a2- a1, b2 - b1) B BA A (a2,b2) BA (a1,b1) x O จะเห็นว่ าเวกเตอร์ B A มีจุดเริ่มต้ นที่จุด O และจุดปลาย ที่ (a2 – a1, b2 – b1) ซึ่งเท่ ากับเวกเตอร์ ท่ มี ีจุดเริ่ มต้ นที่ (a1, b1) และมีจุดปลายที่ (a2, b2) เมื่อ A(a1, b1) และ B(a2, b2) เป็ นจุดใน 2 R จะได้ เวกเตอร์ ซ่ งึ มีจุดเริ่มต้ นที่ A และจุดปลายที่ B AB = (a2- a1, b2- b1) จะเห็นว่ า 2 2 B A (a 2 a1 ) ( b 2 b1 ) ให้ A(-1, 2) และ B(3, 5) เป็ นจุดใน 2 R จงหา AB AB = (3 - (-1), 5 - 2) = (4, 3) ให้ A (-4, 1) และ B (2, 5) จงหา A B, 2 A 3B, A B และ A B A B = (-4, 1) + (2, 5) = (-4 + 2, 1 + 5) = (-2, 6) ให้ A (-4, 1) และ B (2, 5) = 2(-4, 1) + 3(2, 5) 2A 3B = (-8, 2) + (6, 15) = (-2, 17) ให้ A (-4, 1) และ B (2, 5) A B = (-4, 1) - (2, 5) = (-4 - 2, 1 - 5) = (-6, -4) ให้ A (-4, 1) และ B (2, 5) เมื่อ A B ( 6,4 ) A B ( 4 2 ) 2 (1 5) 2 ( 6) 2 ( 4 ) 2 36 16 52 เวกเตอร์ หนึ่งหน่ วย บทนิยาม 2 ถ้ า A = (a, b) เป็ นเวกเตอร์ ใดๆ ใน R ที่ไม่ ใช่ เวกเตอร์ ศูนย์ แล้ ว 1 1 A (a, b ) A a2 b2 เป็ นเวกเตอร์ หนึ่งหน่ วยที่มีทศิ ทาง เดียวกันกับ A ให้ A (12, -5) จงหาเวกเตอร์ หนึ่ง หน่ วยที่มีทศิ ทางเดียวกันกับ A เนื่องจาก A (12) 2 ( 5) 2 169 13 จะได้ 1 1 12 5 A (12,5) , A 13 13 13 เป็ นเวกเตอร์ หนึ่งหน่ วยที่มีทศิ ทาง เดียวกันกับ A a i b j ผลบวกและผลต่ า ง Y (1, 0) j O A (1, 0) i X ให้ i = (1, 0) เป็ นเวกเตอร์ หนึ่งหน่ วยตามแกน x j = (0, 1) เป็ นเวกเตอร์ หนึ่งหน่ วยตามแกน y ให้ i = (1, 0) เป็ นเวกเตอร์ หนึ่งหน่ วยตามแกน x j = (0, 1) เป็ นเวกเตอร์ หนึ่งหน่ วยตามแกน y A = (a, b) เป็ นเวกเตอร์ ใดๆ ใน จะเห็นว่ า A = (a, b) = (a, 0) + (0, b) = a(1, 0) + b(0, 1) = ai + b j A 2 R จงเขียนเวกเตอร์ A (2, -1) และ B (-3, 5) ให้ อยู่ในรูป a i b j A ( 2,1) 2 i j B ( 3,5) 3 i 5 j ให้ A 4 i 3 j, B 2 i 4 j และ C 2 j จงหา A B, A C, B 2C และ B 2C A B (4i 3 j) (2i 4 j) 6i j ให้ A 4 i 3 j, B 2 i 4 j และ C 2 j A C (4 i 3 j) (2 j) 4i 3 j 2 j 4i j ให้ A 4 i 3 j, B 2 i 4 j และ C 2 j B 2C (2i 4 j) 2(2 j) (2i 4 j) (4 j) 2i ให้ A 4 i 3 j, B 2 i 4 j และ C 2 j เนื่องจาก B 2C 2 i ดังนัน้ B 2C 2 2 4 2 จงหาผลคูณเชิงสเกลาร์ ของเวกเตอร์ i i, i j, i j และ j j Y i i cos 0 i i (1)(1)(1) 1 j i X จงหาผลคูณเชิงสเกลาร์ ของเวกเตอร์ i i, i j, i j และ j j Y i j cos 90 i j (1)(1)( 0 ) 0 j i X จงหาผลคูณเชิงสเกลาร์ ของเวกเตอร์ i i, i j, i j และ j j Y j i cos 90 j i (1)(1)( 0 ) 0 j i X จงหาผลคูณเชิงสเกลาร์ ของเวกเตอร์ i i, i j, i j และ j j j j j j cos 0 (1)(1)(1) 1 Y j i X ผลคูณเชิงสเกลาร์ บทนิยาม ถ้ า A (a1 , b1 ) และ B (a 2 , b 2 ) เป็ น 2 เวกเตอร์ ใน R ผลคูณเชิงสเกลาร์ ของ A และ B กาหนดดังนี ้ A B = a1a2 + b1b2 A ให้ A 2 i 3 j, B 4 i j, และ C 2 j 8 j จงหา A B และ B C = (2)(4) + (-3)(1) AB =5 = (4)(2) + (1)(-8) B C =0 มุมระหว่ างเวกเตอร์ ถ้ า A และ B เป็ นเวกเตอร์ เชิงเรขาคณิต ใดๆ ที่ A และ B ตัง้ ฉากกัน ก็ต่อเมื่อ A AB 0 จากบทนิยามของการคูณสเกลาร์ กับ เวกเตอร์ A B A B cosθ จะได้ AB cosθ AB A เมื่อ เป็ นมุมระหว่ าง A และ และ 0 180 B ระบบพิกัดฉากสามมิติ R3 Z X Y O X Z Y Z Z หรื อ O X xy Y xy O yz Y X แกน x และแกน y กาหนดระนาบอ้ างอิง เรี ยกว่ า ระนาบ xy แกน y และแกน z กาหนดระนาบอ้ างอิง เรี ยกว่ า ระนาบ yz แกน x และแกน z กาหนดระนาบอ้ างอิง เรี ยกว่ า ระนาบ xy 3 R เมื่อกาหนดจุด P ใดๆ ใน การระบุ ตาแหน่ งหรื อพิกัดของจุด P จะใช้ จานวน จริงสามจานวนเรียงกันตามลาดับ เรี ยกว่ า ไตรอันดับ ในรู ป (a, b, c) เมื่อ a, b, c เป็ น ระยะที่มีทศิ ทางตามแกน x, y, z ตามลาดับ เรียก (a, b, c) ว่ าพิกัดของจุด P บางครัง้ เขียนเป็ น P(a, b, c) Z c P(a, b, c) X a O b Y ระยะทางระหว่ างจุดสองจุด การหาระยะทางระหว่ างจุดสองจุดใดๆ ใน R3 อาศัยทฤษฎีบทปี ทาโกรัสและความรู้เรื่ อง ระยะทางระหว่ างจุดบนระนาบ จะได้ สูตรดังนี ้ ระยะทางระหว่ างจุด P(x1, y1, z1) Q(x2, y2, z2) หรือ ระยะ PQ เท่ ากับ x 2 x1 y 2 y1 z 2 z1 2 2 2 จงหาระยะทางระหว่ างจุด A (1, 2, -4) และ B (3, -1, 2) ระยะ AB 3 1 1 2 2 4 2 2 2 2 2 2 3 2 4 4 9 36 49 = 7 หน่ วย 2 3 R เวกเตอร์ A ใน คือสามสิ่งอันดับ (a, b, c) เมื่อ a, b, c เป็ นจานวนจริง เรี ยก a, b, c ว่ าองค์ ประกอบที่หนึ่ง ที่สอง และที่สามของ A ตามลาดับ Z c (a, b, c) A a X 0 b Y ขนาดของเวกเตอร์ ให้ A = (a, b, c) เป็ นเวกเตอร์ ใน นิยามขนาดของ A A เขียนแทนด้ วย ดังนี ้ A a b c 2 2 2 3 R เป็ นระยะทางจากจุดกาเนิดถึงจุดปลาย (a, b, c) นั่นเอง A เห็นได้ จากบทนิยามของขนาดว่ า ก็ต่อเมื่อ A O A 0 การเท่ ากันของเวกเตอร์ ให้ A = (a1, b1, c1) และ B = (a2, b2, c2) 3 เป็ นเวกเตอร์ ใน R จะกล่ าวว่ าเวกเตอร์ และ A เท่ ากับ B ก็ต่อเมื่อ a1 = a2, b1 = b2, c1 = c2 และ จะเขียนแทนด้ วย A B การคูณสเกลาร์ กับเวกเตอร์ ให้ = (a, b, c) เป็ นเวกเตอร์ ใน และ m เป็ นสเกลาร์ ผลคูณของ A 3 m A กับ m คือเวกเตอร์ ใน R นิยามดังนี ้ mA ma, mb, mc A 3 R พิจารณาเวกเตอร์ เชิงเรขาคณิต mA = m(a, b, c) = (ma, mb, mc) เป็ น เวกเตอร์ ท่ ขี นานกับ A ถ้ า m > 0 จะได้ mA มีทศ ิ ทางเดียวกับ A และ ถ้ า m < 0 จะได้ mA มีทศิ ทาง ตรงข้ ามกับ A เวกเตอร์ หนึ่งหน่ วย ถ้ า A = (a, b, c) เป็ นเวกเตอร์ ใดๆ 3 ใน R ที่ไม่ ใช่ เวกเตอร์ ศูนย์ แล้ ว 1 A A 1 a b c 2 2 2 A เป็ นเวกเตอร์ หนึ่งหน่ วยที่มีทศิ ทาง เดียวกันกับ A ให้ A = (4, -1, 3) จงหาเวกเตอร์ หนึ่ง หน่ วยที่มีทศิ ทางเดียวกันกับ A 2 2 2 A 4 1 (3) 16 1 9 26 ให้ A = (4, -1, 3) จงหาเวกเตอร์ หนึ่ง หน่ วยที่มีทศิ ทางเดียวกันกับ A 1 1 A 4 , 1 , 3 A 26 4 1 3 , , 26 26 26 เป็ นเวกเตอร์ หนึ่งหน่ วยที่มีทศิ ทาง เดียวกันกับ A ที่ต้องการ ถ้ า A O , B O จงหาเงื่อนไขที่ ทาให้ A และ B ขนานกัน ให้ A = (a1, b1, c1) และ B = (a2, b2, c2) ถ้ า A และ B ขนานกัน ดังนัน้ มีสเกลาร์ m ซึ่ง A mB นั่นคือ (a1, b1, c1) = m(a2, b2, c2) = (ma2, mb2, mc2) ดังนัน้ a1 = ma2, b1 = mb2, c1 = mc2 จะได้ a1 b1 c1 m a 2 b2 c2 ดังนัน้ A และ B ขนานกัน ถ้ าผลหาร ของแต่ ละองค์ ประกอบของเวกเตอร์ ทงั ้ สองมีค่าเท่ ากัน กาหนดให้ A = (6, -2, 4) และ B =(-3,1,-2) จงตรวจสอบว่ า A และ B ขนานกันหรือไม่ พิจารณา 6 2 4 2 2 1 2 จะเห็นว่ า A = -2 B ดังนัน้ A และ B ขนานกัน ผลบวกและผลต่ าง ให้ A = (a1, b1, c1) และ B = (a2, b2, c2) 3 เป็ นเวกเตอร์ ใน R นิยามผลบวกและ ผลต่ างของ A และ B เขียนแทนด้ วย A B และ A B ดังนี ้ A B = (a1 + a2, b1 + b2, c1 + c2) A B = (a1 - a2, b1 - b2, c1 - c2) พิจารณา B A จากรู ป Z (a2, b2, c2) BA (a2-a1, b2-b1, c2-c1) BA B A 0 X (a1, b1, c1) Y เมื่อ A(a1, b1, c1) และ B(a2, b2, c2) 3 เป็ นจุดใน R จะได้ เวกเตอร์ ซ่ งึ มี จุดเริ่มต้ นที่ Aและจุดปลายที่ B AB = (a2- a1, b2- b1, c2- c1) สมบัตทิ ่ สี าคัญเกี่ยวกับการบวก และการคูณสเกลาร์ กับเวกเตอร์ ถ้ า A , B , C เป็ นเวกเตอร์ ใน และ m, n เป็ นสเกลาร์ แล้ ว 1. A B B A 2. A B C A B C 3 R 3. m A B mA mB 4. m nA mA nA 5. A O A 6. A A O การเขียนเวกเตอร์ ในรู ป a i b j ck ให้ i = (1, 0, 0) Z j = (0, 1, 0) k = (0, 0, 1) i k Y O X j 3 สาหรั บ A = (a, b, c) ใดๆ ใน R จะได้ A = (a, 0, 0) + (0, b, 0) + (0, 0, c) = a(1, 0, 0) + b(0, 1, 0) + c(0, 0, 1) =ai +b j+ck กาหนดให้ A = (5, -3, 2), B = (4, 0, -4) และ C = (0, -6, 3) จงเขียน ให้ อยู่ในรู ป a i b j ck 5i 3j 2 k A B 4 i 4k C 6 j 3k จงเขียนเวกเตอร์ A 2 i j 3 k และ B i 3 j 5 k ให้ อยู่ในรู ป (a, b, c) A ( 2,1,3) B (1,3,5) การคูณสเกลาร์ กับเวกเตอร์ การบวก และการลบเวกเตอร์ มีสูตรดังนี ้ ถ้ า A a1i b1 j c1 k , B a 2 i b2 j c2 k และ m เป็ นสเกลาร์ แล้ ว mA ma1i mb1 j mc1 k ถ้ า A a1i b1 j c1 k , B a 2 i b2 j c2 k A B a1 a 2 i b1 b2 j c1c2 k A B a1 a 2 i b1 b2 j c1c2 k จงหาเวกเตอร์ หนึ่งหน่ วยในทิศทาง เดียวกับ A 4i j 3k หาขนาดของเวกเตอร์ A ได้ ดังนี ้ A 4 1 3 26 2 2 2 เวกเตอร์ หนึ่งหน่ วยในทิศทางเดียวกับ A 1 1 4i j 3k คือ A 26 A 4 1 3 i j k 26 26 26 ผลคูณเชิงสเกลาร์ ให้ A a1 i b1 j c1 k และ B a i b j c k 3 เป็ นเวกเตอร์ ใน R นิยามผลคูณเชิงสเกลาร์ ของ A และ B เขียนแทนด้ วย A B ดังนี ้ 2 เมื่อ AB 2 = a1a2 + b1b2 + c1c2 2 กาหนดให้ A 2i j 3k และ B i j k จงหาผลคูณเชิงสเกลาร์ ของ A และ B A B a1a 2 b1b 2 c1c 2 จากบทนิยาม จะได้ A B = (2)(1) + (-1)(1) + (3)(-1) = 2 -1 - 3 = -2 3 R บทนิยามของผลคูณเชิงสเกลาร์ ใน สามารถ แสดงได้ ว่ามีความสอดคล้ องกับข้ อความต่ อไปนี ้ ให้ A a1i b1 j c1 k และ เป็ นเวกเตอร์ ใน R3 แล้ ว B a 2 i b2 j c2 k A B A B cos เมื่อ เป็ นมุมระหว่ างเวกเตอร์ และ 0 180 A และ B Z (a1, b1, c1) (a2, b2, c2) A 0 X B Y การตัง้ ฉากกันของเวกเตอร์ เวกเตอร์ A และ B ใน R3 ตัง้ ฉากกัน ก็ต่อเมื่อมุมระหว่ าง A และ B เท่ ากับ 90 เงื่อนไขที่เพียงพอและจาเป็ นสาหรั บการตัง้ ฉากกันคือ A B 0 เมื่อ A และ B ไม่ ใช่ เวกเตอร์ ศูนย์ จงตรวจสอบว่ าเวกเตอร์ แต่ ละคู่ในข้ อ ต่ อไปนีต้ งั ้ ฉากกันหรื อไม่ (1) A 2i 3 j k และ B i 2k (2) C i j 2k และ D 2i 2 j k (1) เนื่องจาก ดังนัน้ A AB = (2)(1)+(3)(0)+(-1)(2) = 0 และ B ตัง้ ฉากกัน การคูณเชิงเวกเตอร์ ถ้ า A a1i b1 j c1 k และ B a 2 i b2 j เป็c2นk 3 เวกเตอร์ ใน R ผลคูณเชิงเวกเตอร์ ของ A และ B เขียนแทนด้ วย A B (อ่ านว่ า A ครอส B) เป็ นเวกเตอร์ ซ่ งึ กาหนด ดังนี ้ i j k A B a1 b1 c1 a 2 b2 c2 b1 c1 b2 c2 i a1 c1 a 2 c2 j a1 b1 a 2 b2 k b1c 2 b 2 c1 i a 2 c1 a1c 2 j a1b 2 a 2 b1 k i j A B a1 b1 a 2 b2 k i c a1 c a2 1 2 j b1 b2 b1c 2 i c1a 2 j a1b2 k a 2 b1 k b2 c1 i c 2a1 j b1c 2 b 2 c1 i a 2 c1 a1c 2 j a1b 2 a 2 b1 k ให้ A i 2 j 3k และ B 2i j 4k จงหา A B และ A B i j k 2 3 1 3 1 2 i j k A B 1 2 3 1 4 2 4 2 1 2 1 4 8 3i 4 6j 1 4k 11i 2 j 5k A B 11i 2 j 5k AB 11 2 2 5 2 2 121 4 25 150 5 6 25 6 25 6 สมบัตขิ องการคูณเชิงเวกเตอร์ ถ้ า A , B , C เป็ นเวกเตอร์ ใน R3 และ m เป็ นสเกลาร์ จะได้ ว่า A B C A B A C mA B mA B A mB 1. A B B A 2. 3. B A B O 4. A A B O 5. 6. A B A B A B 2 2 2 2 7. A B A B sin เมื่อ เป็ นมุม ระหว่ าง A และ B และ 0180 ให้ A 2i j 3k และ B i 4 j 2k จงหา A B และ B A i j k i A B 2 1 3 2 1 4 2 1 j 1 4 2i 3 j 12k k 12 i 4 j 10i 7 j 9k ให้ A 2i j 3k และ B i 4 j 2k จงหา A B และ B A i j k i B A 1 4 2 1 2 1 3 2 j 4 1 12i 4 j k 8 k 2 i 12 j 10i 7 j 9k จงหาขนาดของ A B 10i 7 j 9k 2 A B 10 ( 7) 2 92 100 49 81 230 จงแสดงว่ า A A O สาหรั บทุก A ให้ A xi y j zk A A i j ki j x y zx y x y zx y 0i 0 j 0k O ใน 3 R A B A B sin เมื่อ เป็ นมุมระหว่ าง A และ B และ 0 180 จะได้ ว่า A B A B ก็ต่อเมื่อ A และ B ตัง้ ฉากกัน เนื่องจาก sin = 1 ดังนัน้ = 90 ขนาดของผลคูณเชิงเวกเตอร์ พิจารณารู ปสี่เหลี่ยมด้ านขนานซึ่งมีจุดยอด อยู่ท่ จี ุด P, Q, R และ S มี เป็ นมุม ระหว่ างด้ าน PQ และด้ าน PS, ST เป็ น ส่ วนสูงของ □PQRS S R S P B sin B sin B R T Q T B P Q ให้ A PQ และ B PS พิจารณารู ปสามเหลี่ยมมุมฉาก SPT S เนื่องจาก sin ST B P ดังนัน้ B sin B ST B sin T A PQ Q R พืน้ ที่ของรู ปสี่เหลี่ยมด้ านขนาน PQRS S = ฐาน สูง A B sin AB B sin B P R T A PQ A B A B sin Q ขนาดของผลคูณเชิงเวกเตอร์ A B หรื อ A B คือ พืน้ ที่ของรูปสี่เหลี่ยมด้ านขนานที่มี A และ B เป็ นด้ านประชิดสองด้ าน ของรูปสี่เหลี่ยมด้ านขนานนัน้ รู ปสามเหลี่ยมที่มีฐานและส่ วนสูง เท่ ากับฐานและส่ วนฐานของ รู ปสี่เหลี่ยมด้ านขนาน จะมีพนื ้ ที่เป็ น ครึ่งหนึ่งของพืน้ ที่ของรู ปสี่เหลี่ยมด้ าน S R ขนาน P Q S R จากรู ป P Q พืน้ ที่รูปสี่เหลี่ยมด้ านขนาน PQRS PQ PS พืน้ ที่รูปสามเหลี่ยม 1 PQS PQ PS 2 3 R ใน กาหนดจุด P(2, 0, 1), Q(1, -2, 2) และ S(2, 1, -3) จงหาพืน้ ที่ของ รู ปสามเหลี่ยม PQS PQ (1 2)i 2 0j 2 1k i 2 j k PS (2 2)i 1 0j 3 1k j 4k PQ i 2 j k PQ PS PS j 4k i j k i j 1 2 1 1 2 0 1 4 0 1 8 i k i 4 j 7 i 4 j k PQ PS 7i 4 j k 7 4 1 2 2 2 66 1 พืน้ ที่ของ PQS PQ PS 2 1 66 ตารางหน่ วย 2