บทที่ 6 พลังงานและการถ่ ายโอนพลังงาน แนะนาให้ ร้ ู จกั พลังงาน แนวคิดเรื่ องพลังงานนับเป็ นหัวข้ อสาคัญทีส ่ ุ ดในวิทยาศาสตร์ กระบวนการทางกายภาพทุกชนิดทีเ่ กิดขึน ้ ในจักรวาลเกีย่ วข้ อง อยู่กบั พลังงานและการถ่
Download ReportTranscript บทที่ 6 พลังงานและการถ่ ายโอนพลังงาน แนะนาให้ ร้ ู จกั พลังงาน แนวคิดเรื่ องพลังงานนับเป็ นหัวข้ อสาคัญทีส ่ ุ ดในวิทยาศาสตร์ กระบวนการทางกายภาพทุกชนิดทีเ่ กิดขึน ้ ในจักรวาลเกีย่ วข้ อง อยู่กบั พลังงานและการถ่
บทที่ 6 พลังงานและการถ่ ายโอนพลังงาน แนะนาให้ ร้ ู จกั พลังงาน แนวคิดเรื่ องพลังงานนับเป็ นหัวข้ อสาคัญทีส ่ ุ ดในวิทยาศาสตร์ กระบวนการทางกายภาพทุกชนิดทีเ่ กิดขึน ้ ในจักรวาลเกีย่ วข้ อง อยู่กบั พลังงานและการถ่ ายโอนพลังงานทั้งสิ้น แต่ การนิยามพลังงาน กลับไม่ ใช่ เรื่องง่ าย พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 2 การใช้พลังงานในการแก้ปัญหา การนาพลังงานมาใช้ ในการอภิปรายการเคลือ่ นที่ จะมี ประโยชน์ อย่ างมากเมื่อปัญหานั้นมีแรงทีไ่ ม่ คงตัวมา เกีย่ วข้ อง ปัญหาทั้งหมดสามารถใช้ หลักของพลังงานและการถ่ าย โอนพลังงานมาแก้ ปัญหาได้ หลักนีส้ ามารถขยายไปถึงปัญหาทางชีววิทยา ระบบทางเทคโนโลยี และสถานการณ์ ทางวิศวกรรมศาสตร์ พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 3 ระบบ(System) ระบบเป็ นส่ วนประกอบย่อยของเอกภพ เมื่อพิจารณาระบบ เราก็จะตัดส่ วนอื่นของเอกภพ ออกไปได้ การคิดระบบนี้ ถือเป็ นแบบจาลองอย่างง่าย จะต้องมีทกั ษะที่เพียงพอที่ใช้ในการระบุระบบ พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 4 การระบุระบบ ระบบอาจหมายถึง วัตถุหรื ออนุ ภาคเพียงชิ้นเดียว กลุ่มของวัตถุหรื ออนุ ภาค ขอบเขตในอวกาศ มีขนาดและรู ปร่ างต่าง ๆ พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 5 สิ่ งแวดล้อม ระบบใดใดก็ตามต้องมีขอบเขตของระบบ ขอบเขตเป็ นผิวในจินตนาการ ไม่จาเป็ นว่าขอบเขตของระบบจะต้องเป็ นขอบเขตที่มีตวั ตนจริ ง ขอบเขตเป็ นตัวแบ่งระหว่างระบบกับสิ่ งแวดล้อม สิ่ งแวดล้อมเป็ นส่ วนของเอกภพต่างหากไปจากระบบ พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 6 งาน(Work) คือผลของแรงที่ทาให้วตั ถุเคลื่อนที่ได้ในแนวแรง งาน(W) ของแรงคงตัว(F) เป็ นผลคูณระหว่างขนาด ของแรง(F) กับขนาดของการกระจัด(| r|) ซึ่ งอยู่ ในช่วงที่วตั ถุถูกแรง(F) กระทา และ cos , โดย เป็ น มุมระหว่างแรงกระทา(F) กับ การกระจัด( r) W = F |r| cos พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 7 งานของแรงคงตัว(ต่อ) W = F| r|cos การกระจัดเฉพาะในช่วงที่เกิดแรงกระทา แรงกระทาจะไม่ทางานหากแรงนั้นไม่ได้ เคลื่อนที่ไปตามการกระจัด แรงกระทาจะไม่ทางานหากแรงนั้นกระทาตั้ง ฉากกับการกระจัด พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 8 ตัวอย่ าง เรื่ องงาน แรงตั้งฉากพื้น n และ แรงโน้มถ่วง mg ไม่ได้ทางานบนวัตถุ cos 90° = 0 แรง F ทาให้เกิดงานบนวัตถุ พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 9 หน่วยของงาน งานเป็ นปริ มาณสเกลาร์ งานมีหน่วยเป็ น “จูล” (joule : J) 1 joule = 1 newton · 1 meter J N·m พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 10 เกี่ยวกับงาน เมื่อคิดถึงงาน จะต้องคิดทั้ง ระบบและสิ่ งแวดล้อม F ั ระบบ สิ่ งแวดล้อมทางานให้กบ เครื่ องหมายของงานสัมพันธ์ กับทิศทางของแรง, F, ที่ สัมพัทธ์กบั การกระจัด, r มุมแหลม r งานมีค่าเป็ นบวกเมื่อทิศทาง ระหว่างแรง, F กับการกระจัด, r เป็ นมุมแหลม งานมีค่าเป็ นลบเมื่อทิศทาง ระหว่างแรง, F กับการกระจัด, r เป็ นมุมป้ าน F มุมป้ าน r ตัวอย่ าง 6.1 คนทาความสะอาดลากเครื่ องดูดฝุ่ นด้วยแรง F = 50.0 N ทามุม 30.0o กับแนวระดับดังรู ป ที่ดูดฝุ่ นเคลื่อนที่ไปทางขวา 3.00 m จงหางานที่ทาบนเครื่ องดูดฝุ่ นด้วยแรง 50.0 N นี้ จากนิ ยามของงานของแรงคงตัว W = (F cos )r = (50.0 N)(cos 30.0o)(3.00 m) = 130 Nm = 130 J พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 12 ผลคูณสเกลาร์ของเวกเตอร์สองตัว ผลคูณสเกลาร์ ของเวกเตอร์ สองตัว เขียนดังนี้ AB เรี ยกอีกอย่างว่าผลคูณ แบบด็อท AB AB cos คือมุมระหว่างเวกเตอร์ A และ B พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 13 ผลคูณสเกลาร์(ต่อ) ผลคูณสเกลาร์สามารถสลับที่ได้ AB = BA ผลคูณสเกลาร์เป็ นไปตามกฎการกระจาย A (B + C) = AB + AC พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 14 ผลคูณสเกลาร์ในรู ปของเวกเตอร์หนึ่งหน่วย ˆi ˆi ˆj ˆj kˆ kˆ 1 ˆi ˆj ˆi kˆ ˆj kˆ 0 การใช้องค์ประกอบเวกเตอร์ ของเวกตอร์ A และ B : ดูตวั อย่ าง 6.2 ในหนังสื อหน้ า 162 พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 15 ทางานด้วยแรงที่มีค่าแปรเปลี่ยนไป ถือเอาว่าในช่วงการกระจัดสั้น ๆ, x, แรง, Fx เป็ นค่าคงตัว ในช่วงการกระจัดนั้นมีค่าของงาน เป็ น Wi = Fxx รวมงานทุกช่วงได้, พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 16 นิยามงานของแรงคงตัว เมื่อ F แทนเวกเตอร์แรงคงตัวที่กระทากับวัตถุ และ r แทนเวกเตอร์การกระจัดที่วตั ถุเคลื่อนที่ขณะที่ ถูกแรงกระทา ดังนั้น W แทนงานของแรง F จึงเขียนได้เป็ น W F Δ r F Δ r cos พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 17 ทางานด้วยแรงที่มีค่าแปรเปลี่ยนไป, (ต่อ) ดังนั้น งานมีค่าเท่ากับพื้นที่ใต้กรา Fx - x พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 18 งานที่ทาด้วยแรงหลายแรง เมื่อมีแรงหลายแรงกระทากับระบบ และระบบ สามารถเป็ นแบบจาลองอนุภาคได้ งานทั้งหมดสามารถหาได้โดยคานวณงานจาก งานของแรงสุ ทธิ พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 19 งานที่ทาด้วยแรงหลายแรง(ต่อ) ถ้าระบบไม่สามารถคิดเป็ นแบบจาลองอนุภาค ก็ สามารถหางานทั้งหมดได้จากผลบวกทาง คณิ ตศาสตร์ของงานแต่ละงาน พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 20 กฎของฮุก แรงที่ทาโดยสปริ งคือ Fs = – k x x แทนตาแหน่งของกล่องเทียบกับตาแหน่งสมดุล (x = 0) k แทนค่าคงตัวของสปริ ง หรื อค่าคงตัวของแรง และเป็ น ค่าที่บอกความแข็งของสปริ ง ทั้งหมดนี้ เรี ยกว่ากฎของฮุก (Hooke’s Law) พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 21 กฎของฮุก(ต่อ) เมื่อ x มีค่าเป็ นบวก (สปริ งยืด), F มีค่าเป็ นลบ เมื่อ x เป็ น 0 (ที่ตาแหน่ง สมดุล), F เป็ น 0 เมื่อ x มีค่าเป็ นลบ (สปริ ง หด), F มีค่าเป็ นบวก พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 22 กฎของฮุก(จบ) แรงที่ทาโดยสปริ งมีทิศตรงข้ามกับการกระจัดของ สปริ งจากจุดสมดุลเสมอ F คือแรงนากลับคืนที่เดิม(restoring force) ถ้ากล่องถูกปล่อย แรงสปริ งจะดึงและดันทาให้สน ั่ กลับไปกลับมาระหว่างตาแหน่ง –xmax และ xmax พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 23 งานที่ทาโดยสปริ ง ถือว่ากล่องคือระบบ คานวณงานที่เกิดระหว่างกล่องเคลื่อนที่จาก xi = - xmax ถึง xf = 0 งานทั้งหมดที่ทาตั้งแต่ –xmax ถึง xmax เท่ากับศูนย์ พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 24 สปริ งกับแรงภายนอก ให้แรงภายนอกที่มาดึงสปริ งให้ยด ื เป็ น Fapp แรงนี้ มีขนาดเท่ากับแรงดึงกลับของสปริ งแต่ทิศทางตรงข้าม Fapp = -Fs = -(-kx) = kx งานที่ทาจากแรงภายนอก WFapp พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 1 2 2 kx max 25 ตัวอย่ าง 6.3 สปริ งอันหนึ่ง (k = 80 N/m) วางตัวแนวระดับ ปลายหนึ่งถูกตรึ งอยูก่ บั ที่ อีกปลายถูกดึงให้ยดื ช้า ๆ จาก xA = 0 ถึง xB = 4.0 cm (ก) จงหางานที่ใช้ในการดึงสปริ งให้ยดื ในครั้งนี้ เนื่ องจากโจทย์ไม่ได้พด ู เป็ นอย่างอื่น จะถือว่าสปริ งนี้ทาตัวตาม กฎของฮุก ให้ตาแหน่งปลายอิสระของสปริ งขณะไม่ถูกดึงเป็ น ตาแหน่งอ้างอิง x = 0 ดังนั้นขนาดแรงดึงจึงเป็ น Fapp = (80 N/m)(x) หางานจากพื้นที่ใต้กรา Fapp – x จาก xA = 0 ถึง xB = 4.0 cm (ข) จงหางานที่ใช้ในการดึงสปริ งให้ยดื จาก xA = 4.0 cm ถึง xB = 7.0 cm ดูวธิ ีทาตัวอย่ าง 6.3 หน้ า 165-166 พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 26 พลังงานจลน์ (Kinetic Energy : K) พลังงานจลน์ เป็ นพลังงานของอนุภาคทีเ่ กีย่ วข้ องกับการ เคลือ่ นที่ K mv 1 2 2 m แทนมวลของอนุภาค v แทนอัตราเร็ วของอนุภาค การเปลีย่ นแปลงพลังงานจลน์ เป็ นวิธีหนึ่งในการถ่ ายโอน พลังงานในระบบ พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 27 พลังงานจลน์(ต่อ) การหาค่างาน : xf xf W F d x ma d x xi xi W vv f mv d v i 1 1 2 W mv f mvi2 2 2 พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 28 ทฤษฎี งาน พลังงานจลน์ ทฤษฎี“งาน-พลังงานจลน์”ระบุวา่ W = Kf – Ki = K ในกรณี ที่มีการทางานให้ระบบ และในระบบมีการ เปลี่ยนแปลงอัตราเร็ วเพียงอย่างเดียว งานที่ทาโดยแรง ลัพธ์มีค่าเท่ากับพลังงานจลน์ของระบบที่เปลี่ยนไป จึงนิยามพลังงานจลน์เป็ น K mv 1 2 2 พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 29 ตัวอย่าง 6.4 การใช้ทฤษฎี งาน - พลังงานจลน์ แรงโน้มถ่วง, mg และแรงตั้งฉากพื้น, n ไม่ได้ทางาน เพราะสองแรงนี้มีทิศทางตั้งฉากกับการกระจัด, x W=Fx W = K = ½ mvf2 - 0 พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 30 ตัวอย่ าง 6.4 ลากกล่องมวล 6.00 kg วางนิ่งบนพื้นลื่นไปทางขวา ด้วยแรงคงตัวในแนวระดับ 12.0 N จงหาอัตราเร็ วของกล่องเมือ่ เคลื่อนไปได้ 3.00 m งานที่ทาด้วยแรง 12.0 N คือ W = Fx = (12.0 N)(3.00 m) = 36.0 N m = 36.0 J จากทฤษฎี งาน พลังงานจลน์ และในตอนเริ่ มต้นพลังงานจลน์ เป็ นศูนย์ W = Kf – Ki = ½ mvf2 - 0 2(36.0 J) 2 W vf 3.46 m/s m 6.00 kg ดูตวั อย่าง 6.5 หน้า 168 พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 31 ระบบที่ไม่เป็ นเอกเทศ ระบบที่ไม่เป็ นเอกเทศ เป็ นระบบที่มีอน ั ตรกิริยากับสิ่ งแวดล้อม หรื อได้รับผลกระทบจากสิ่ งแวดล้อม จะต้องสร้างแบบจาลองทางความคิดใหม่ ระบบที่เป็ นเอกเทศจะไม่ทาอันตรกิริยากับสิ่ งแวดล้อม สามารถใช้ทฤษฎีงาน พลังงานจลน์ กับระบบที่ไม่เป็ นเอกเทศได้ พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 32 การถ่ายโอนพลังงาน การทางานเป็ นวิธีถ่ายโอนพลังงานอย่างหนึ่ ง งานยังผลให้เกิดการถ่านโอนพลังงานระหว่างระบบกับ สิ่ งแวดล้อม ั ระบบ หมายความว่า ระบบ ถ้ามีงานเป็ นบวกกระทาให้กบ ได้รับการถ่ายโอนพลังงานมาให้ ั ระบบ หมายความว่า ระบบ ได้ ถ้ามีงานเป็ นลบกระทาให้กบ ถ่ายโอนพลังงานออกไปให้กบั สิ่ งแวดล้อม พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 33 พลังงานภายใน พลังงานที่เกี่ยวข้องกับอุณหภูมข ิ องวัตถุ เรี ยกว่า “พลังงานภายใน”(internal energy : Eint) แรงเสี ยดทานทางาน ทาให้พลังงานภายในของระบบ เพิ่มขึ้น พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 34 วิธีถ่ายโอนพลังงาน เข้าในระบบ หรื อ ออกจากระบบ งาน – ถ่ายโอนพลังงานโดยมีแรงกระทากับวัตถุ ทาให้ เกิดงานบนวัตถุน้ นั ในระหว่างที่มีการย้ายตาแหน่ง คลื่นกล – ยอมให้มีการรบกวนส่ งผ่านตัวกลาง ความร้อน – เคลื่อนที่ได้ดว้ ยความแตกต่างของ อุณหภูมิระหว่างที่สองแห่งในอวกาศ พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 35 วิธีถ่ายโอนพลังงานเข้าหรื อออกจากระบบ(ต่อ) การถ่ายโอนมวลสาร – สสารจะพาเอาพลังงานไปด้วย เมื่อเคลื่อนที่ผา่ นเส้นแบ่งระบบ การส่ งผ่านทางไ ้ า – ถ่ายโอนพลังงานโดย กระแสไ ้ า การแผ่รังสี แม่เหล็กไ ้ า – คลื่นแม่เหล็กไ ้ าจะเป็ นตัว ถ่ายโอนพลังงาน พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 36 การอนุรักษ์พลังงาน พลังงานเป็ นปริ มาณอนุรักษ์ หมายความว่า พลังงานไม่สามารถสู ญหายหรื อเกิด ใหม่ได้ ถ้าปริ มาณพลังงานในระบบเปลี่ยนไป อาจเป็ นไปได้ ว่าพลังงานได้เคลื่อนข้ามขอบเขตของระบบไปทางใด ทางหนึ่ง พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 37 การอนุรักษ์พลังงาน(ต่อ) สมการความต่อเนื่ อง , Esystem = T Esystem แทนพลังงานทั้งหมดของระบบ T แทนพลังงานที่เคลื่อนที่ผา่ นขอบเขตของระบบ สัญลักษณ์ที่กาหนดให้ใช้ : Twork = W และ Theat = Q อย่างอื่นไม่มีการกาหนดสัญลักษณ์มาตรฐาน ทฤษฎีงานพลังงาน เป็ น กรณี พิเศษของกฎอนุรักษ์พลังงาน พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 38 สมการความต่ อเนื่อง สมการการอนุรักษ์ พลังงาน เป็ น ตัวอย่ างหนึ่งของ สมการความต่ อเนื่อง กล่ าวโดยเฉพาะเจาะจงก็คอ ื เป็ น สมการความต่ อเนื่องของ พลังงาน สมการความต่ อเนื่อง เกิดขึน ้ ในสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่มกี าร เปลีย่ นแปลงปริมาณพลังงานในระบบ โดยเกิดการถ่ าย โอนผ่ านขอบเขตของระบบ ตอนจบของการอนุรักษ์พลังงาน การนาเสนอทางคณิ ตศาสตร์ พ้น ื ฐานของการวิเคราะห์พลังงานใน ระบบที่ไม่เอกเทศคือ K + Eint = W +TMW+Q+ TMT + TET + TER ถ้านิ พจน์ทางขวามือของสมการเป็ นศูนย์ ระบบนี้ จะกลายเป็ น ระบบเอกเทศ สมการข้างต้นนี้ เป็ นกรณี ทวั่ ไป ต่างจากทฤษฎีงาน พลังงานจลน์ ซึ่งเป็ นเพียงกรณี พิเศษอันหนึ่ง พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 40 การแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพลังงานจลน์ เมื่อปั ญหาเกี่ยวข้องกับแรงเสี ยดทานจลน์ จะต้อง ปรับไปใช้ทฤษฎี งาน พลังงานจลน์ W other forces – fk d = K fk d แทนงานที่ทาโดยแรงเสี ยดทานจลน์ Eint = fk d ใช้เมื่อมีเพียงแรงเสี ยดทานจลน์ที่ ทางานให้กบั ระบบ พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 41 การแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพลังงานจลน์(ต่อ) แรงเสี ยดทานจลน์ ถ่ายโอนพลังงานจลน์ของระบบให้ กลายเป็ นพลังงานภายในระบบ ในระบบที่มีเพียงแรงเสี ยดทานจลน์เท่านั้นที่ทางาน พลังงานภายในระบบที่เพิ่มขึ้นจะมีค่าเท่ากับพลังงานจลน์ที่ ลดลง ดูตวั อย่าง 6.6-6.7 หน้า 175 – 177 แปลโจทย์และทามาส่ ง พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 42 การเคลื่อนที่วงกลมในระนาบดิ่งและมีอตั ราเร็ วไม่สม่าเสมอ แรงโน้มถ่วงทาให้เกิดแรงในแนวเส้นสัมผัสบนวัตถุ พิจารณาแรงโน้มถ่วง, Fg สามารถคานวณหาแรงตึงเชือกที่ตาแหน่งต่าง ๆ ได้ พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 43 ณ จุดสูงสุ ดและต่าสุ ดของวงกลม ที่จุดต่าสุ ด แรงดึงเชื อกมีค่า มากที่สุด ที่จุดสู งสุ ดแรง ดึงเชื อกมีค่า น้อยที่สุด ถ้า Ttop = 0, จะได้ พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 44 กาลัง(Power) อัตราการถ่ายโอนพลังงานเทียบกับเวลา เรี ยกว่า “กาลัง” กาลังเฉลีย่ หาได้จาก Pavg W t เมื่ออัตราการถ่ายโอนพลังงานคือ อัตราการถ่ายโอนงาน พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 45 กาลังบัดดล กาลังบัดดล คือกาลังเฉลี่ยที่ช่วงเวลาในการเฉลี่ย, t เข้าสู่ ศูนย์ W d W P lim dt t 0 t และยังสามารถเขียนเป็ น d W d r P dt F dt F v พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 46 รู ปทัว่ ไปของกาลัง กาลัง สามารถเขียนได้ในรู ปแบบใดใดของการถ่ายโอน พลังงานก็ได้ ในรู ปทัว่ ไป จะเขียนได้ดงั นี้ P d E dt dE/dt คืออัตราที่พลังงานเคลื่อนที่ผา่ นขอบเขตของ ระบบในกลไกการถ่ายโอนพลังงาน พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 47 หน่วยของกาลัง หน่วยของกาลังในระบบ SI คือ “วัตต์”(“watt” : W) 1 watt = 1 joule / second = 1 kg m2 / s3 หน่วยของกาลังในระบบศุลกากรสหรัฐคือ “กาลังม้า” (horsepower : hp) 1 hp 550 ft lb/s 746 W ยังสามารถใช้หน่วยของกาลังเป็ นการแสดงหน่วยของพลังงาน ได้ดว้ ย เช่น 1 kWh = (1000 W)(3600 s) = 3.6 106 J พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 48 กาลังม้าในรถยนต์ ขนาดของแรงเสี ยดทานที่กระทากับรถยนต์บนถนน สัมพันธ์กบั อัตราที่พลังงานถ่ายโอนไปยังล้อยางเพื่อทา ให้ลอ้ ทั้งหมดหมุนไป จากกฎข้อที่สองของนิวตัน แรงขับเคลื่อน เป็ นสัดส่ วน โดยตรงกับ ความเร่ ง ดังนั้นจึงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่าง กาลังของ ยานพาหนะ และความเร่ งสู งสุ ด พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 49 ตัวอย่ าง 6.9 ลิ ต์มวล 1000 kg พร้อมผูโ้ ดยสารมวล 800 kg ที่เคลื่อนที่ข้ ึน โดยมีแรงต้านทานคงที่ 4000 N จงหากาลังต่าสุ ดของมอเตอร์หากจะลากลิ ท์ ขึ้นด้วยอัตราเร็ วคงตัว 3.00 m/s ใช้แTบบจ + fาลองอนุ + Mg =ภาค 0 และเขียนแรงกระทาลงในภาพ T - f - Mg = 0 T = f + Mg = 4 000 N + (1 000 kg + 800 kg)(9.80 m/s2) = 2.16 104 N P T v Tv (2.16104 N)(3.00m/s) 6.4810 W 64.8kW 4 พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 50 กาลังม้าและความเร่ ง พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 51 แบบฝึ กหัด กล่องไม้หนัก 20 N ถูกแรงดึงขึ้นไปตามพื้นเอียงด้วยอัตราเร็วคงตัว จากด้านล่างสุ ดไปจนถึงด้านบนสุ ดของพื้นเอียง กาหนดว่าพื้นเอียง ยาว 10.0 m และมีฐานยาว 6.0 m และสัมประสิ ทธิ์ความเสี ยดทาน ระหว่างกล่องกับพื้นเอียงมีค่า 0.40 จงหางานเนื่องจากแรงดึง แท่งไม้มวล m=0.50 kg ถูกปล่อยจากหยุดนิ่งให้ไถลลงมาตามส่วน โค้งเรี ยบลื่นซึ่งเป็ นในสี่ ของวงกลมรัศมี 0.10 m จงหาอัตราเร็ วของ แท่งไม้ที่จุดต่าสุ ด พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 52 ออกแรงในแนวระดับ F ขนาด 8.00 นิวตันเพื่อทาให้วตั ถุมวล 2.00 กิโลกรัม ที่กาลังเคลื่อนที่เป็ นเส้นตรงบนพื้นราบลื่นในแนวระดับ ทา ให้วตั ถุมีมีอตั ราเร็ วลดลงจากเดิม 4.00 เมตร/วินาที ในระยะกระจัด 5.00 เมตร จงหาคานวณหาอัตราเร็ วของวัตถุก่อนที่มีแรง Fมากระทา วัตถุมวล 1.00 กิโลกรัมวางไว้ดงั รู ป เมื่อปล่อยวัตถุ ตกลงมา (ก) จงหาอัตราเร็ วของวัตถุขณะกระทบ สปริ งมีค่าเท่าใด (ข) ถ้าสปริ งมีค่าคงตัวของสปริ ง1.00×104 นิวตันต่อเมตร สปริ งจะถูกกดลงไปเท่าใด 5. การใช้ นา้ มันของรถขนาดเล็ก รถขนาดเล็กมวล 750 kg มีประสิ ทธิภาพ 18%. จงคานวณหา ปริ มาณน้ ามันที่ใช้ในการเร่ งรถนี้จากอยูน่ ิ่งจนมีความเร็ ว 27 m/s (ใช้ขอ้ มูลที่วา่ น้ ามันแก๊สโซลิน 1 ลิตร ให้พลังงาน 3.4 107 J) 6. กาลังที่ส่งไปยังล้ อ สมมติรถในข้อ 5. ได้ระบุไว้วา่ กินน้ ามัน 15 km/l ที่อตั ราเร็ ว 97 km/h จงหากาลังที่ส่งไปยังล้อ 7. ขับรถขึน้ เนินเขา พิจารณารถยนต์มวล 1000 kg ขับขึ้นเนินชัน 10.0o ด้วยความเร่ งคง ตัว 1.00 m/s2 วิศวกรผูผ้ ลิตได้วดั แรงต้านที่เกิดขึ้นสัมพันธ์กบั อัตราเร็ ว v ในหน่วย เมตรต่อวินาทีดงั สมการ ft = (200 + 0.70v2) N จงหากาลังที่ส่งไปยังล้อเป็ น ังก์ชนั ของอัตราเร็ ว พลังงาน และการถ่ายโอนพลังงาน 55