การเรียนรู้

Download Report

Transcript การเรียนรู้

การเรียนรู้
โดย
พระมหาเผือ่ น กิตตฺ ิ โสภโณ
What
?
• เดิมที่ American Heritage dictionary ให้คำนิยำม
ไวว
ง่ ควำมรู้
้ ำ่ กำรเรียนรู้ คือ กำรไดมำซึ
้
(Knowledge) ควำมเขำใจ(comprehension)
ควำม
้
เชีย
่ วชำญ(Mastery)จำกกำรมีประสบกำรณหรื
์ อกำร
เรียน
• ในเวลำตอมำวงกำรจิ
ตวิทยำเห็ นดวยกั
บคำนิยำม
่
้
ของคิมเบิล(Gregory A. Kimble)ทีว่ ำ่ กำรเรียนรู้
คือ กำรเปลีย
่ นแปลงของศักยภำพเชิงพฤติกรรม
อยำงถำวรต
อเนื
ั ท
ิ ี่
่
่ ่องอันเป็ นผลมำจำกกำรฝึ กปฏิบต
ถูกเสริมแรง(Reinforced practice)
Definition of learning
Learning is a relatively permanent change in
behavior or in behavioral potentiality that result
from experience and cannot be attributed to
temporary body states such as those induced
by illness, fatigue or drug.
กำรเรียนรู้ คือ กำรเปลีย
่ นแปลงทีถ
่ ำวรตอเนื
่ ่องของ
พฤติกรรมหรือศั กยภำพในกำรแสดงพฤติกรรมอันเป็ น
ผลมำจำกประสบกำรณและไม
ใช
่ ครำวของ
่ ่ ภำวะชัว
์
รำงกำยที
ม
่ เี ป็ นผลมำจำก ควำมเจ็บป่วย เหนื่อยลำ้
่
และยำ.
กำรเรียนรูแบ
่ ระเภท
้ งกี
่ ป
•Conditioned learning
•Classical conditioning
•Instrumental conditioning
•Social observational learning
กำรศึ กษำกำรเรียนรูส
้ ำคัญอยำงไร
่
• พฤติกรรมส่วนใหญของมนุ
ษยเกิ
่
์ ดจำกกำรเรียนรู้
กำรศึ กษำหลักกำรเรียนรูจะช
ำท
้
่ วยให้เรำเขำใจว
้
่ ำไม
มนุ ษยจึ
์ งแสดงพฤติกรรมเช่นนั้น. กำรตระหนักถึง
ควำมสำคัญของกระบวนกำรของกำรเรียนรูไม
้ เพี
่ ยง
จะช่วยให้เขำใจพฤติ
กรรมปกติและปรับตัวได้
้
(Normal and adaptive behavior)เทำนั
่ ้นแตยั
่ งช่วย
ให้เขำใจโอกำสที
จ
่ ะสรำงพฤติ
กรรมปรับตัวไมได
้
้
่ และ
้
ผิดปกติ(Maladaptive and abnormal behavior)
ซึง่ จะเป็ นประโยชนในกำรบ
ำบัดรักษำ
์
• หลักกำรเกีย
่ วกับกำรเรียนรูสำมำรถน
ำไปประยุกตใช
้
์ ้
ในกำรเลีย
้ งดูเด็ก
• หลักกำรเกีย
่ วกับกำรเรียนรูสำมำรถน
ำไปประยุกตใน
้
์
ญำณวิทยำและกำรเรียนรู้
• ญาณวิทยา(Epistemology) คือ ศำสตรแขนงหนึ
่ง
์
ของปรัชญำกรีกทีม
่ งศึ
ุ่ กษำธรรมชำติของควำมรู้
ดวยค
ำถำม เช่น ควำมรู้ คืออะไร? เรำรูอะไร?
้
้
ควำมรูมี
อะไรคือสิ่ งทีจ
่ ำเป็ นตองรู
้ ขอบเขตแคไหน?
่
้
้?
่ ำของควำมรู้?
อะไรคือแหลงที
่ ม
• ปรัญำกรีกถือไดว
้ ำเป็
่ นฐำนควำมคิดของจิตวิทยำกอน
่
เขำสู
้ ่ ยุควิทยำศำสตร ์
• เพลโต เชือ
่ วำ่ ควำมรูเป็
น
่ ำยทอดได
และเป็
้ นสิ่ งทีถ
่
้
องคประกอบธรรมชำติ
ของจิตใจมนุ ษย ์
์
• เพลโตเชือ
่ วำ่ คนเรำไดรั
จ
่ ต
ิ
้ บควำมรูจำกกำรที
้
บอริสโตเติลที่
กระทบกับสำระ(content) ตรงกันขำมกั
้
• สำหรับเพลโต จิตมีหน้ำทีใ่ นกำรตรวจตรำอยำง
่
จริงจังเพือ
่ ค้นหำควำมรูที
แนวคิดของ
่ ำยทอดมำ.
้ ถ
่
เพลโตอยูในกลุ
มธรรมชำติ
สรำงสรรค
(Nativism)ซึ
ง่
่
่
้
์
ถือวำ่ ควำมรูเป็
่ ด
ิ ตัวมำแตก
้ นสิ่ งทีต
่ ำเนิด
• สำหรับอริสโตเติล จิตทำหน้ำทีใ่ นกำรไตรตรองที
ไ่ ด้
่
จำกประสำทสั มผัสเพือ
่ ค้นหำควำมรูที
อมู
้ เ่ จออยูในข
่
้ ล
เหลำนั
ม
่ ้น แนวคิดของอริสโตเติลจัดอยูในกลุ
่
่
ประสบกำรณนิ
์ ยม(Emparicism)
จิตวิทยาสมัยใหม่ยคุ แรก
• เรเน เดการ์ด(Rene Descar, 1596-1650) นัก
ปรัชญำชำวฝรัง่ เศสทีส
่ รำงวิ
ี สวงหำคำตอบเชิง
้ ธแ
ปรัชญำโดยกำรตัง้ ขอสั
ำ่ “ฉันสงสั ย
้ งสั ย. เขำกลำวว
่
ในทุกสิ่ ง ยกเวนควำมจริ
ง วำฉั
่ ฉัน
้
่ นสงสั ย เมือ
อยูแน
สงสั ยฉันคิด เมือ
่ ฉันคิด ฉันตองมี
่ ่ ” สรุปวำ่
้
“ฉันคิด เพรำะฉะนั้น ฉันจึงมี(I think therefor I
am)”
• เดกำรด
์ มองวำ่
• กำยกับจิตนั้นเป็ นส่วนหนึ่งจำกกัน
• กำยเหมือนกลไกทีเ่ คลือ
่ นไหวในทำงทีท
่ ำนำยไดไม
้ ต
่ ำง
่
จำกสั ตวอื
่ ๆ
์ น
• จิตนั้นเปิ ดอิสระและกำหนดกำรเคลือ
่ นไหวของกำย
• โธมัส ฮอบส์(Thomas Hobbes, 1588-1679) นัก
ปรัชญำกำรเมืองชำวอังกฤษ มีแนวคิดวำ่
• แนวคิดทีต
่ ด
ิ ตัวมำแตก
่ ำเนิด(innate ideas) คือแหลงของ
่
ควำมรู้
• สิ่ งเรำท
่ ง้ั สนับสนุ นและขัดขวำงกำรทำหน้ำทีข
่ อง
้ ำหน้ำทีท
รำงกำยด
วยกำรสร
ำงควำมรู
สึ้ กพึงพอใจเพือ
่ จะไดประสบ
่
้
้
้
สิ่ งเรำนั
่ องรำงกำยด
วย
้ ้นอีก และขัดขวำงกำรทำหน้ำทีข
่
้
กำรสรำงควำมรู
สึ้ กไมพึ
่ งเรำ้
้
่ งปรำรถนำ ไมอยำกประสบสิ
่
นั้นอีก
• พฤติกรรมของมนุ ษยถู
์ กควบคุมโดย ควำมกระหำยอยำก
(Appetites)และควำมไมพึ
่ งปรำรถนำ(Aversion) สรำง
้
คำนิ
่ ยมดีและเลว
• ในเชิงปรัชญำกำรเมืองฮอบส์มองวำมนุ
ษยเห็
่
่ วและ
์ นแกตั
กำวร
ำว
ทีส
่ รำงระบบกำรเมื
องและสั งคมขึน
้ มำเพือ
่ ป้องกัน
้
้
้
เรือ
่ งเหลำนี
่ ง
่ ้ไมใช
่ ่ เพรำะมนุ ษยเป็
์ นสั ตวสั์ งคม แนวคิดเรือ
ควำมเห็นแกตัวและควำมกำวรำวนี้ สอดคลองกับแนวคิด
• จอห์น ล็อค(John Lock,1632-1704) นักปรัชญำ
ประสบกำรณนิ
่
์ ยมชำวอังกฤษเห็ นตำงจำกฮอบส
์ เขำ
เชือ
่ วำ่ เมือ
่ แรกเกิดทุกคนเหมือนกระดำนทีว่ ำงเปล
ำ่
่
(tabula rasa) แตประสบกำรณ
ที
่ ุคคลสั มผัสทำให้
่
์ บ
น
บุคคลแตกตำงกั
่
• จอหน
ดตัวแทนควำมรูในใจ
้ บำยวำกำรเกิ
่
้
์ ล็อคไดอธิ
ของผู้รับรูมี
้ 2 ประเภท คือ
• คุณภำพระดับปฐมภูม(ิ Primary qualities) เช่น ขนำด
น้ำหนัก จำนวน รูปรำง
่
• คุณภำพระดับทุตย
ิ ภูม(ิ secondary qualities) เช่น
พลังงำนแมเหล็
กไฟฟ้ำ อะตอมและโมเลกุล คลืน
่ เสี ยง
่
เม็ดเลือดขำวในเลือด
• จอร์จ เบิรก
์ ลีย(์ George Bergley, 1685-1753) นัก
ปรัชญำประสบกำรณนิ
ซึ
์ ยมชำวไอรแลนด
์
์ ง่ มีแนวคิด
วำ่ สิง่ ทีเ่ ป็ นอยูค
่ อื สิง่ ทีถ่ กู รับรู(้ to be is to
perceived) เห็ นตำงจำกแนวคิ
ดของจอหน
่
์ ล็อควำ่
เรำสำมำรถรับรูได
ณภำพทุตย
ิ ภูมเิ ทำนั
้ เฉพำะคุ
้
่ ้น
เพรำะควำมจริงแลว
จำนวน ซึง่
้ ขนำด รูปรำง
่
เป็ นแนวคิดเกีย
่ วกับโลกแหงประสบกำรณ
นั
่
์ ้น
ิ ภูมห
ิ รือ
แทจริ
้ นเพียงคุณภำพระดับทุตย
้ งแลวเป็
แนวคิดเทำนั
่ ้น
• เดวิด ฮูม(David Hume,1711-1776) เป็ นนัก
ปรัชญำ และนักประวัตศ
ิ ำสตร ์ ชำวสกอตแลนด ์
มองวำ่
• เรำสำมำรถรูว
เชิ
้ ำสิ
่ ่ งใดไมมี
่ ในโลกแหงประสบกำรณ
่
์ ง
กำยภำพ
• จิต คือ กระแสแหงแนวคิ
ด ควำมจำ จินตนำกำร
่
ควำมเชือ
่ มโยงและควำมรูสึ้ ก
• ควำมรูประกอบด
วยแนวคิ
ดทีม
่ ำจำกประสบกำรณและสิ
่ งที่
้
้
์
ถูกเชือ
่ มโยงโดยผำนหลั
กกำรแหงกำรเชื
อ
่ มโยง
่
่
(principles of association)
Franz Josef Gall (1758 – 22 August 1828) แพทย ์
ชำวออสเตรียผูริ
่ ศึ กษำกำรสมองกำรทำงำนของสมอง
้ เริม
(Phrenology)โดยมองวำสมองส
หน้ำทีแ
่ ตกตำงกั
น
่
่ วนตำงมี
่
่
ไป
• ชาร์ล ดาร์วิน(Charles
Darwin,1809-1882)
นักธรรมชำติวท
ิ ยำชำว
อังกฤษผู้สรำง
้
วิวฒ
ั นำกำร และจุด
ประกำยให้จิตวิทยำหัน
มำศึ กษำเรือ
่ ง
วิวฒ
ั นำกำรและกำร
สรำงองค
ควำมรู
จำกกำร
้
้
์
สั งเกต
• แฮรมั
์ น เอ็บบิงเฮำส์
(Hermann
Ebbinghausม18501909)นักจิตวิทยำชำว
เยอรมัน ถือไดว
้ ำเป็
่ น
นักจิตวิทยำคนแรกทีน
่ ำ
จิตวิทยำเขำพ
้ นจำก
้
ปรัชญำจำกกำรทดลอง
เรือ
่ งกำรลืมของเขำ
แนวคิดจิตวิทยำยุคแรก
เจตจานงนิยม(Voluntarism)
วิลเฮม แมกซ ์ วุนต ์
(Wilhelm Maximilian
Wundt,1832-1920)
• กลุมนี
่ วำสำมำรถ
่ ้เชือ
่
ธก
ี ำร
ศึ กษำจิตไดด
้
้ วยวิ
ทำงวิทยำศำสตร ์
• มุงศึ
่ กษำองคประกอบ
์
พืน
้ ฐำนของควำมคิด
กลุ่มโครงสร้างนิยม
(Structuralism)
กลุมนี
่ ้นำโดยเอ็ดเวิรด
์
ทิชเนอร(Edward
์
Titchener,1867-1927)
นักจิตวิทยำอเมริกน
ั ลูก
ศิ ษยของวุ
นต ์ กลุมนี
่ ้ยงั
์
ใช้วิธก
ี ำรศึ กษำจิตโดยใช้
วิธ ี Introspection เพือ
่
ศึ กษำโครงสรำงจิ
ตเมือ
่
้
ประสบกับสิ่ งเรำแบบ
้
ฉับพลัน
กลุ่มหน้ าที่นิยม
(Functionalism)
ผู้นำในกลุมนี
ื วิ
่ ้คอ
ลเลียม เจมส์(William
James,1842-1910)
กลุมนี
่ ้ไดรั
้ บอิทธิพลจำก
ทฤษฎีของดำวิน และ
สนใจศึ กษำวำ่ จิตช่วย
ให้เรำปรับตัวเขำกั
้ บ
อย
สภำพแวดลอมได
่
้ ำงไร
้
ควำมสั มพันธระหว
ำงกำร
่
์
มีสติระลึกรู้
(consciousness)กับ
สภำพแวดลอม
้
พฤติกรรมนิยม
(Behavioralism)
• กลุมนี
่ ้กอตั
่ ง้ โดยจอหน
์
บี วัตสั น(John B.
Watson,1878-1958)
นักจิตวิทยำอเมริกน
ั
• กลุมนี
่ ้ปฏิเสธวำ่
กำรศึ กษำจิตวิทยำอยำง
่
เป็ นวิทยำศำสตรต
้
์ อง
มุงเน
่ ฤติกรรมซึง่
่ ้ นไปทีพ
เป็ นสิ่ งทีว่ ด
ั ได้ สั งเกต
ได้ ประเมินไดเท
้ ำนั
่ ้น