Powerpoint 2007

Download Report

Transcript Powerpoint 2007

อิทธิพลของพระพุทธศาสนาเถรวาท
ที่มีต่อประเทศอินเดีย
จัดทาโดย
พระมหาธีรพันธ์ ธีรกิตติ
พระรังสรรค์ ปญญาวุฑโฒ
นางสาวอัญชลี จตุรานน
นาเสนอ อาจารย์ ดร. เทพประวิณ จันทร์ แรง
วิชา พระพุทธศาสนาเถรวาท
ตามหลักสูตรปริ ญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่
ภาคเรี ยนที่ ๑ ปี การศึกษา ๒๕๕๕
และเพื่อถวายเป็ นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
วัตถุประสงค์ และประโยชน์ จากงานนาเสนอ
• เข้ าใจถึงความเป็ นมาของพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียตังแต่
้ ช่วงพุทธกาลจนถึง
ปี พ.ศ. ๑๗๐๐ ทังในด้
้ านสังคม, การศึกษา, การเมืองการปกครอง และเศรษฐกิจ
• เข้ าใจถึงสาเหตุที่พทุ ธศาสนาเถรวาทเลือนหายไปจากอินเดียในช่วงปี พ.ศ.
๑๗๐๐ - พ.ศ. ๒๔๐๐
• ทราบและเข้ าใจถึงเหตุการณ์การฟื น้ ฟูพทุ ธศาสนาเถรวาทในอินเดีย เริ่ มตังแต่
้
ในช่วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐
• ทราบถึงเหตุการณ์ และบุคคลสาคัญผู้มีสว่ นในการฟื น้ ฟู
พุทธศาสนาเถรวาทคืนสูอ่ ินเดีย และเผยแพร่สทู่ วั่ โลก
• เข้ าใจถึงอิทธิพลของพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย ในยุค
ปั จจุบนั
โครงสร้ างเนือ้ หาการนาเสนอ
อิทธิพลพระพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
อิทธิพลของพุทธศาสนาเถร
วาทในอินเดียตัง้ แต่ ช่วง
พุทธกาล - พ.ศ. ๑๗๐๐
• ด้ านสังคม
•ด้ านศาสนา
• ด้ านการศึกษา
• ด้ านศิลปะ
• ด้ านเศรษฐกิจ
• ด้ านการเมือง
• พระเจ้ าอโศกมหาราช
• พระเจ้ ามิลนิ ท์
ช่ วงที่พุทธศาสนาเลือน
หายไปจากอินเดีย
พ.ศ. ๑๗๐๐ – พ.ศ. ๒๔๐๐
• สาเหตุจากการใช้ กาลัง
ทาลายล้ าง
• สาเหตุจากการกลืนศาสนา
พุทธเข้ ากับศาสนาฮินดู
ช่ วงที่พุทธศาสนาได้ รับการ
ฟื ้ นฟูคืนสู่อนิ เดีย
พ.ศ. ๒๔๐๐ – ปั จจุบัน
• ชาวตะวันตกหันมาสนใจ
ศึกษา ค้ นคว้ าทางพุทธ
ศาสนา
• มีการตั ้งสมาคมต่างๆ และ
ฟื น้ ฟูพทุ ธสถาน
• ดร. เอ็มเบ็ดการ์ ผู้นาชาว
พุทธใหม่
• พุทธศาสนาในอินเดีย
ปั จจุบนั
ประวัตปิ ระเทศอินเดียโดยสังเขป
• สมัยพุทธกาลเรี ยกว่า ชมพูทวีป มีภาษาพูดกว่า ๒๐๐ ภาษา
• พ.ศ. ๒๔๙๐ อังกฤษคืนเอกราช จึงมีการแบ่งแคว้ นต่างๆเป็ นเขตประเทศ
เขตประเทศ
ระบบการปกครอง
จานวนประชากร
นับถือศาสนา
เมืองหลวง
สาธารณรัฐอินเดีย
สหพันธ์สาธารณรัฐ
๑,๑๖๙ ล้ านคน
ฮินดู, อิสลาม, ซิกข์,
เชน, ปาร์ รีส์, คริสเตียน
นิวเดลี
สาธารณรัฐอิสลาม
ปากีสถาน
สาธารณรัฐ
๑๖๑ ล้ านคน
อิสลาม
อิสลามาบัด
สาธารณรัฐประชาชน
บังคลาเทศ
สาธารณรัฐ
๑๕๘ ล้ านคน
อิสลาม
ธากา
ราชอาณาจักรเนปาล
ประชาธิปไตยแบบฮินดู ๒๘ ล้ านคน
มีพระมหากษัตริย์เป็ น
ประมุข
ฮินดู, พุทธ, อิสลาม
กาฏมันฑุ
ราชอาณาจักรภูฐาน
ประชาธิปไตย
พุทธศาสนา
ทิมบู
๒ ล้ านคน
ภูมปิ ระเทศอินเดีย
• ลักษณะประเทศเป็ นแหลมยื่นลง
มหาสมุทร
• อากาศหนาวที่สดุ (เทือกเขาหิมาลัย)
จนถึงร้ อนที่สดุ (ทะเลทรายแคว้ นราช
สถาน อินเดียตะวันตกและ ทางใต้ )
• มีเขตฝนตกชุกคือ อินเดียตะวันออก
ต่อแดนพม่า
• เขตอุดมสมบูรณ์คือแถบลุม่ แม่น ้า
สินธุ และคงคา และภาคใต้
ความเป็ นไปของพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
พุทธกาล - พ.ศ. ๕๐๐
เป็ นยุคที่พทุ ธศาสนาเจริ ญในอินเดียสูงที่สดุ มีอิทธิพลทัง้
ทางด้ านสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ
พ.ศ. ๕๐๐ - พ.ศ. ๑๗๐๐
ศึกษาเฉพาะบางเรื่ องที่เด่นชัดและสาคัญ
พ.ศ. ๑๗๐๐ - พ.ศ. ๒๔๐๐
พุทธศาสนาเสื่อมไปจากชมพูทวีป
พ.ศ. ๒๔๐๐ - ปั จจุบัน
มีการฟื น้ ฟูพระพุทธศาสนาคืนสูช่ มพูทวีป
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
ช่ วงพุทธกาล– พ.ศ. ๑๗๐๐
ด้ านสังคม
ชนชันวรรณะ,
้
ครอบครัว, การสาธารณสุข, การประปา, การศึกษา, ศิลปะ
ด้ านศิลปวัฒนธรรม สถาปั ตยกรรม
แบ่งเป็ นยุคก่อนมีพระพุทธรูป และยุคหลังสร้ างพระพุทธรูป
ด้ านเศรษฐกิจ
การค้ า, การฝี มือ, งานช่าง, งานอาชีพ, เกษตรกรรม, การเก็บภาษี อากร
ด้ านการเมือง
ระบบการปกครอง, กฎหมาย, การทูต วัฒนธรรมการเมือง, บทบาททางการเมือง
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียด้ านสังคม
ช่ วงพุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐
สถาบันสังคม
สังคมอินเดียมีการจัดระบบวรรณะ ๔ คือ
กษัตริย์, พราหมณ์, แพศย์, ศูทร
ศาสนาพุทธเน้ นความเสมอภาค ล้ างระบบ
วรรณะ เน้ นคุณค่าของชีวิตที่เกิดจากการ
กระทา ถือเป็ นแนวคิดที่แปลกใหม่ในยุคนี ้
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียด้ านสังคม
ช่ วงพุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐
สวัสดิการสังคม
พระเจ้ าอโศกมหาราชได้ สร้ างโรงพยาบาลรักษาคนและสัตว์ การประปา และ
คมนาคม ทังในแคว้
้
นของท่าน และเผื่อแผ่ไปถึงราชอาณาจักรของกษัตริย์กรี กองค์
อื่นๆ อีก ๔ พระองค์
หลักฐานเรื่ องนี ้ปรากฏในศิลาจารึกของพระเจ้ า
อโศก อัครศาสนูปถัมภ์ ฉบับที่ ๒ (ในช่วงพุทธ
ศตวรรษที่ ๒)
เสาจารึก พระเจ้ าอโศกมหาราช
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียด้ านสังคม
ช่ วงพุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐
การศาสนา
พระพุทธศาสนาแพร่หลายเร็วเพราะมีความเสมอภาค ไม่แบ่งชันวรรณะ
้
การแพร่หลายเร็ว มีสว่ นทาให้ เกิดภิกษุ
อลัชชีขึ ้นจานวนมาก
จึงเป็ นเหตุให้ มีการสังคายนาครัง้ ที่ ๓
และส่งสมณทูตไปเผยแพร่พทุ ธศาสนา
ในประเทศต่างๆถึง ๙ สาย
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียด้ านสังคม
ช่ วงพุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐
การศึกษา
• การศึกษายึดหลัก สมภาพ, เสรี ภาพ, ภราดรภาพ และ การศึกษาแบบให้ เปล่า
• แต่เดิมวรรณะศูทรและนอกวรรณะ ไม่มี
สิทธิเรี ยนคัมภีร์พระเวท
• การศึกษาขยายตัวจากครัวเรื อน สู่
สังคม
• การศึกษาครอบคลุมทังบรรพชิ
้
ตและ
คฤหัสถ์
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียด้ านสังคม
ช่ วงพุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐
การศึกษา - กาเนิดมหาวิทยาลัยแห่ งแรกของโลก
 นาลันทามหาวิทยาลัย – ทางฝั่ งอินเดียตะวันออกมีชื่อเสียงเด่นทางมหายาน
และภาษาบาลี วิชาหลักธรรมมหายานเป็ นภาคบังคับ และมีวิชาฝ่ ายเถรวาท,
นิรุกติศาสตร์ , ปรัชญา, ฯลฯ
 มหาวิยาลัยวลภี – ทางฝั่ งอินเดีย
ตะวันตก ให้ การศึกษาทุกนิกาย แต่เน้ น
วิชาฝ่ ายเถรวาท และมีวิชาการทางโลก
ด้ วย วลภีเป็ นเมืองศูนย์กลางการศึกษา
ที่สาคัญ
ซากปรักหักพังของนาลันทา มหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลก
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียด้ านสังคม
ช่ วงพุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐
การศึกษา - บ่ อเกิดแห่ งนักปราชญ์
พระพุทธทัตตะ (พ.ศ. ๙๔๐-๑๐๐๐) – อภิธรรมาวตาร, อุตรวินิจฉัย, วินยวินิจฉัย,
รูปารูปวินิจฉัย, มธุรัตถวิลาสินี ฯลฯ
พระพุทธโฆษาจารย์ (พ.ศ. ๙๔๕-๑๐๐๐) – สมันตปาสาทิ
กา, กังขาวิตรณี, สารัตถปกาสินี, วิสทุ ธิมรรค ฯลฯ
พระธัมปาละ (พ.ศ. ๙๕๐-๑๐๐๐) – ปรมัตถทีปนี, อรรถ
กถาเปตวัตถุ, อรรถกถาวิสทุ ธิมรรค ฯลฯ
นิทานชาดกถูกแปลเป็ นหลายภาษา และมีอิทธิพลต่อนิทาน
ของประเทศอื่นๆหลายประเทศ เช่น นิทานอีสป
คัมภีร์วิสทุ ธิมรรค ภาษาไทย
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียด้ าน
ศิลปวัฒนธรรม และสถาปั ตยกรรม
ช่ วงปี พ.ศ. ๑๐๐ – พ.ศ. ๑๗๐๐
พ.ศ. ๑๐๐ - ๕๐๐
ยุคก่อนมีพระพุทธรูป ใช้ สญ
ั ลักษณ์แทน
พ.ศ. ๕๐๐ - ๑๗๐๐
ยุคหลังการสร้ างพระพุทธรูป มีศิลปะสมัยต่างๆ
อิทธิพลด้ านศิลปวัฒนธรรม และสถาปั ตยกรรม
ช่ วงปี พ.ศ. ๑๐๐ – พ.ศ. ๕๐๐
พ.ศ. ๑๐๐ – ๕๐๐ ยุคก่ อนมีพระพุทธรู ป
• พระเจ้ าอโศกมหาราช สร้ างวัด ๘๔,๐๐๐ แห่ง
• สถาปั ตยกรรม ใช้ หินแทนไม้
• นิยมการสร้ างสถูป ที่ยงั เหลืออยูค่ ือ สาญจิสถูป
• ประติมากรรม เน้ นงานแกะสลัก
• ศิลาจารึก เป็ นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่คงทน
• งานศิลปะเน้ นนามธรรม และสัญลักษณ์แทน เช่น
ดอกบัวแทนปางประสูติ ต้ นโพธิ์แทนปางตรัสรู้
ธรรมจักรแทน ปางปฐมเทศนาและพระสถูปแทนปาง
ปรินิพพาน
อิทธิพลด้ านศิลปวัฒนธรรม และสถาปั ตยกรรม
ช่ วงปี พ.ศ. ๕๐๐ – พ.ศ. ๑๗๐๐
พ.ศ. ๕๐๐ – ๑๗๐๐ ยุคหลังสร้ างพระพุทธรู ป
• ยุคแรกที่สร้ างพระพุทธรูป คือยุคของพระเจ้ ามิลินท์
• กษัตริย์ราชวงศ์ศาตวหานะ มี
อานาจรุ่งเรื อง และทานุบารุ งพุทธ
ศาสนา
• สนับสนุน สาญจิ, อมราวดี และ
นาคารชุนโกณฑะ เป็ นต้ น
อิทธิพลด้ านศิลปวัฒนธรรม และสถาปั ตยกรรม
ช่ วงปี พ.ศ. ๕๐๐ – พ.ศ. ๑๗๐๐
ศิลปะแบบคันธารราฐ (Gandhara) พ.ศ. ๖๐๐ - ๗๐๐
พระพุทธรูปยุคแรก ได้ รับอิทธิพลจากรูปปั น้ เทพเจ้ าของกรี ก
ศิลปะแบบมถุรา (Mathura)
พ.ศ. ๖๐๐ - ๙๐๐
ใกล้ เคียงกับแบบคันธารราฐ ลักษณะเด่นคือ ฐานเป็ นสิงห์
ประดับด้ วยรูปพระโพธิสตั ว์และสาวก
อิทธิพลด้ านศิลปวัฒนธรรม และสถาปั ตยกรรม
ช่ วงปี พ.ศ. ๕๐๐ – พ.ศ. ๑๗๐๐
ศิลปะแบบคุปตะ (Gupta) พ.ศ. ๙๐๐ - ๑๓๐๐
เป็ นลักษณะของอินเดียอย่างแท้ จริง พระเกศาขมวดเป็ นก้ น
หอยเช่นเดียวกับสมัยมถุรา พระเกตุมาลาเป็ นต่อม พระ
พักตร์ เป็ นแบบอินเดีย ห่มจีวรบางแนบติดพระองค์
ศิลปะแบบปาละ (Pala) พ.ศ. ๑๔๐๐ - ๑๘๐๐
ผสมผสานคติของพราหมณ์ พระพักตร์ คม พระ
ขนงคมชัด พระนาสิกโด่งงุ้ม จีวรแนบเนื ้อ
ศิลปะสกุลช่ างใต้
ช่ วงปี พ.ศ. ๕๐๐ – พ.ศ. ๑๗๐๐
ศิลปะอมราวดี (Amaravati) พ.ศ. ๖๐๐ - ๗๐๐
พระพักตร์ งดงาม จีวรเป็ นริว้ ระเบียบทอดยาว
จรดขอบพระบาท นิยมแต่งลายที่ฐาน
ศิลปะจาลุกยะ (Chalukya)
ได้ รับอิทธิพลจากคุปตะ
ศิลปะโจฬะ (Chola)
พราหมณ์เริ่มเฟื่ องฟู พระพักตร์ ทรงรี คาง
หยิก บันพระองค์
้
คอด
ศิลปะแบบสาญจิ
ช่ วงปี พ.ศ. ๕๐๐ – พ.ศ. ๑๗๐๐
ถา้ อชันตา (Achanta)
มีโบราณสถานที่เป็ นวิหาร
ที่เจาะเข้ าไปในภูเขาลึก
๑๒๐๐ แห่ง (พราหมณ์
๒๐๐, เชน ๑๐๐, พุทธ
๙๐๐)
มหาวิทยาลัยนาลันทา
ห้ องสมุดเป็ นอาคารใหญ่ ๓ หลัง หลังหนึง่ สูงถึง ๙ ชัน้
ประณีตวิจิตรกว่างานก่อสร้ างอิฐในยุคต่อๆมา
บทบาทของวัดและพระสงฆ์ ทางสังคม
ช่ วงพุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐
• ชาวบ้ านส่งลูกหลานมาร่ าเรี ยนที่วดั , รับใช้ พระสงฆ์
• ชาวบ้ านมาฟั งธรรมเทศนา
• วัดเป็ นสถานที่พยาบาล เป็ นแหล่ง
ตาราแพทย์
• วัดเป็ นที่พกั พิงของคนเดินทาง
• วัดเป็ นศูนย์กลางศิลปะ วัฒนธรรม
• วัดเป็ นที่ช่วยแก้ ทกุ ข์ของชาวบ้ าน
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียด้ าน
เศรษฐกิจช่ วงพุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐
สัมมาอาชีวะ
ไม่ค้าอาวุธ, ไม่ค้ามนุษย์, ไม่ค้าเนื ้อสัตว์, ไม่ค้าน ้าเมา, ไม่ค้ายาพิษ
ทิฏฐิธัมมิกัตถประโยชน์ ๔
ขยัน, อดออม, คบเพื่อนดี และไม่ฟมเฟื
ุ่ อย
อิทธิพลของหลักอหิงสา
คนทาอาชีพฆ่าสัตว์น้อยลง หันมาทาเกษตรกรรม
อาชีพที่นิยม
ค้ าขาย, รับราชการ, งานช่างฝี มือ
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
ด้ านการเมือง ช่ วงพุทธกาล– พ.ศ. ๑๗๐๐
การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
การกาหนดกฎหมาย นโยบายต่างๆ ใช้ หลักแห่งพุทธธรรม ไม่ใช้
ความรุนแรง เรี ยกว่าระบบสามัคคีธรรม
ความชอบธรรมทางการเมือง
กฎเกณฑ์ทางศีลธรรมมีอิทธิพลกับการจัดระเบียบทางสังคม
การปกครองใช้ หลักทศพิธราชธรรม
รั ฐรั บรองพุทธศาสนา
บทบาทของพระสงฆ์
กษัตริ ย์ให้ การรับรองถึงความสาคัญของพุทธ
ศาสนา มีพิธีกรรมทางพุทธคูก่ บั พระราชพิธีต่างๆ
กษัตริ ย์ทานุบารุงพุทธศาสนา
พระเป็ นที่ปรึกษาของกษัตริ ย์ และประชาชน
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
ด้ านการเมือง ช่ วงพุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐
ราชอาณาจักรครั ง้ พุทธกาล ๔ แห่ ง
๑.) มคธ ๒.) โกศล ๓.) วังสะ ๔.) อวันตี
พระเจ้ าอโศกมหาราช
(ครองราชย์ พ.ศ. ๒๗๐ – ๓๑๑)
• ทรงเป็ นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมริยะ ผู้ปรี ชาสามารถ
พระองค์สดุ ท้ ายของราชวงศ์ ทรงปกครองแคว้ นมคธ มีพระราช
ธานีชื่อว่า ปาฏลีบุตร (ปั จจุบนั เรี ยกว่า ปั ฏนะ Patna) ทรง
เป็ นพระโอรสของพระเจ้ าพินทุสารแห่ งราชวงศ์ โมริยะ
พระมารดานามว่าศิริธรรม พระเจ้ าอโศกมีพระโอรส และธิดา
๑๑ พระองค์
• เดิมเป็ นพระเจ้ าแผ่นดินที่โหดร้ าย ชอบการทาสงครามกับแว่นแคว้ นต่าง ๆ จนได้ รับ
สมญานามว่า จัณฑาโศกราช (พระเจ้ าอโศกผู้โหดเหี ้ยม)
• ได้ ฟังธรรมจากนิโครธสามเณร และ พระสมุทรเถระ จึงเกิดความเลื่อมใสในพุทธศาสนา
พระเจ้ าอโศกมหาราช
(ครองราชย์ พ.ศ. ๒๗๐ – ๓๑๑)
• หันมานับถือพระพุทธศาสนา อุปถัมภ์พทุ ธศาสนา และปกครองด้ วยทศพิธราชธรรม
ภายหลังทรงได้ รับการขนานพระราชสมัญญานามว่า ธรรมาโศกราช (พระเจ้ าอโศกผู้
ทรงธรรม)
ทศพิธราชธรรม
๑. ทาน
๒. ศีล
๓. บริจาค
๔. ความซื่อตรง
๕. ความอ่อนโยน
๖. ความเพียร
๗. ความไม่โกรธ
๘. ความไม่เบียดเบียน
๙. ความอดทน
๑๐. ความเที่ยงธรรม
ผลงานพระเจ้ าอโศกมหาราช
ผลงานด้ านการปกครอง
ผลงานด้ านการปฏิบัตธิ รรม
ปกครองแบบบิดากับบุตร, สัง่ สอนธรรม,
จัดบริ การสาธารณประโยชน์แบบสังคม
สงเคราะห์
เน้ นการทาทาน (ทังสิ
้ ่งของและธรรมทาน),
งดการบูชายัญ,สอนให้ ปฏิบตั ิธรรม และให้
เสรี ภาพในการนับถือศาสนา
ผลงานด้ านศาสนา
ทรงทานุบารุงพุทธศาสนา, สนับสนุน
การทาการสังคายนาครัง้ ที่ ๓ และส่ง
สมณทูตไปเผยแพร่ศาสนา ทรงสร้ าง
วัด, ศิลาจารึก และเสาอโศก ซึง่ เป็ น
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่สาคัญ
ของพุทธศาสนา
พระเจ้ ามิลินท์
(ประมาณช่ วงปี พ.ศ. ๕๐๐)
• ทรงเป็ นกษัตรย์เชื ้อสายกรี ก เข้ ามาตีเมืองอินเดียได้
เมืองปั ญจาปคันธาระ จึงสถาปนาเมืองสาคละเป็ นราชธานี
เป็ นผู้แตกฉานในไตรเภท โต้ วาทีชนะพราหมณ์ทงหมด
ั้
• จนได้ มาพบพระนาคเสน เกิดความเลื่อมใสศรัทธาใน
พุทธศาสนา
• ทรงอุปถัมภ์พทุ ธศาสนา ต่อมาได้ เสด็จออกผนวชและ
บรรลุอรหัตผล
• มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ อ้างอิงว่าพระเจ้ ามิลินท์มีอยู่
จริงคือ เหรี ยญพระยามิลินท์ Basileus Soteros
Menandros
ผลงานพระเจ้ ามิลินท์
พระพุทธรู ปองค์ แรก
เป็ นยุคแรกที่เริ่มมีการสร้ างพระพุทธรูป โดยได้ รับอิทธิพลจาก
ศิลปะกรี ก
อุปถัมภ์ และเผยแพร่ พุทธศาสนา
ทรงทานุบารุงพุทธศาสนา สร้ างวิหารหลายแห่ง, ทรงบารุงพระขีณาสพถึง ๑๐ โกฎิรูป
, ทรงเผยแพร่พทุ ธศาสนาไปไกล รวมถึงกรี ก
ต้ นกาเนิดคัมภีร์มิลินทปั ญหา
รวบรวมถาม-ตอบ จาก
สติปัญญาอันเป็ นเลิศของพระ
นาคเสนและพระเจ้ ามิลินท์
พุทธศาสนาเลือนหายไปจากชมพูทวีป
(พ.ศ. ๑๗๐๐ – ๒๔๐๐)
สาเหตุ - ถูกล้ มล้ าง
• ในราชวงศ์พระเจ้ ายักษะปาละ เสนาบดีพราหมณ์
ชื่อ ราวเสน ได้ ก่อกบฏ และยึดอานาจ ในราชวงศ์
จึงไม่มีผ้ นู บั ถือศาสนาพุทธ
• ต่อมามีกองทัพอิสลาม โดย บักติยาขิลจิ ได้ ยก
กาลังทาลายล้ างพุทธศาสนาสถาน รวมถึงนาลันทา
มหาวิทยาลัย และฆ่าพระภิกษุสงฆ์
พุทธศาสนาเลือนหายไปจากชมพูทวีป
(พ.ศ. ๑๗๐๐ – ๒๔๐๐)
สาเหตุ – ถูกลืมเลือน และกลมกลืน
ศาสนาฮินดูยงั คงดารงอยู่ตลอด ตังแต่
้ ก่อน พระพุทธศาสนาบังเกิด และอยู่คกู่ นั
ตลอดมามิได้ หายไปจากสังคมอินเดีย เพราะเมื่อพุทธศาสนาเจริ ญรุ่งเรื อง ก็ไม่ได้
เบียดเบียนหรื อล้ มล้ างศาสนาอื่น
ศาสนาฮินดูยคุ หลัง สามารถสอนพระเวท
ได้ ทงคฤหั
ั ้ สถ์และบรรชิต จึงแพร่หลาย
มาก
ต่อมาพราหมณ์ชื่อ สังกราจารย์ ได้ ยก
พระพุทธเจ้ าเป็ นปางอวตารที่ ๙ ของพระ
นารายณ์ พุทธศาสนาจึงถูกเลือนหายไป
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
ช่ วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐
พ.ศ. ๒๓๒๗ – ชมพูทวีปตกเป็ นเมืองขึ ้นของอังกฤษ
๑๕ สิงหาคม ๒๔๙๐ – อินเดียได้ รับเอกราช และแยกประเทศเป็ น อินเดีย และ
ปากีสถาน
ก่ อนตกเป็ นอาณานิคม – ศาสนาพุทธเริ่มจางหายไปจากอินเดีย
ช่ วงเป็ นอาณานิคม – ศาสนาฮินดูเฟื่ องฟู พุทธถูกผสานรวมเข้ ากันฮินดู
หลังได้ รับเอกราช – ชาวยุโรปริเริ่มศึกษาค้ นคว้ าพุทธศาสนา และพุทธสถาน
โบราณ ส่งผลให้ ตอ่ มานักปราชญ์ชาวอินเดียเริ่มกลับมาตื่นตัวกับการศึกษาและ
ฟื น้ ฟูพทุ ธศาสนา
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
ช่ วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐
พ.ศ. ๒๓๙๕ – นายพลอเล็กซานเดอร์ คันนิงแฮม
เป็ นนักโบราณคดีชาวอังกฤษผู้สนใจในพุทธศาสนาและเป็ น
ผู้ค้นคว้ าและขุดค้ นหลักฐานเกี่ยวกับพระเจ้ าอโศกมหาราช
และนาลันทามหาวิทยาลัย
ซากปรักหักพังของนาลันทามหาวิทยาลัย
เสาอโศกมหาราชที่ขดุ พบ
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
ช่ วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐
พ.ศ. ๒๔๒๒ – เซอร์ เอดวิน อาร์ โนล
ชาวอังกฤษผู้ประพันธ์เรื่ อง “ประทีปแห่งทวีปเอเชีย” (The Light
of Asia) พุทธประวัติที่ไพเราะและลึกซึ ้ง ทาให้ ชาวอินเดียหัน
กลับมาสนใจพุทธศาสนา และชาวตะวันตกเริ่มมาสนใจและศึกษา
พุทธศาสนาอย่างจริงจัง
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
ช่ วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐
พ.ศ. ๒๔๒๔ – Mr. T.W. Ryds Davids
ชาวอังกฤษผู้ก่อตังสมาคมบาลี
้
ปกรณ์ (Pali Text Society)
แปลและจัดพิมพ์พระไตรปิ ฎกและคัมภีร์ตา่ งๆทางพุทธศาสนาเป็ น
ภาษาอังกฤษ ด้ วยทุนส่วนตัว
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
ช่ วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐
พ.ศ. ๒๔๓๔ - ท่ านอนาคาริกธรรมปาละ
• เป็ นชาวศรี ลงั กา เกิดในครอบครัวชาวคริสต์ที่มงั่ คัง่
สนใจศึกษาภาษาอังกฤษตังแต่
้ เล็ก
• ต่อมาได้ อา่ นหนังสือเรื่ อง ประทีปแห่งทวีปเอเชีย และ
เกิดความศรัทธามาก จึงเดินทางมาที่พทุ ธคยาและ
ตังใจจะฟื
้
น้ ฟูพทุ ธคยาและพุทธโบราณสถาน จึงตัง้
สมาคมมหาโพธิ และทางานเผยแพร่พทุ ธศาสนา
• ได้ บวชเป็ นพระภิกษุในช่วงปั จฉิมวัย และตังจิ
้ ตจะเกิด
ใหม่เพื่อมาเผยแพร่พทุ ธศาสนาต่อไป
สมาคมมหาโพธิ
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
ช่ วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐
พ.ศ. ๒๔๓๕ – สมาคมพุทธศาสนปกรณ์ (The Buddhist Text Society)
• ปราชญ์ชาวอินเดียร่วมกันก่อตังสมาคมพุ
้
ทธศาสนปกรณ์ ณ เมืองกัลกัตตา ถือเป็ น
ความตื่นตัวหลังจากได้ เห็นชาวยุโรปมีความกระตือรื อร้ นสนใจในพุทธศาสนา
พ.ศ. ๒๔๙๔ – นาลันทามหาวิหาร
• รัฐบาลแห่งแคว้ นพิหารได้ ตงนาลั
ั้ น
ทามหาวิหารขึ ้น เป็ นสถาบัน
ศึกษาวิจยั พุทธศาสนาและบาลี ตัง้
ใกล้ กบั นาลันทามหาวิทยาลัยเดิม
นาลันทามหาวิหาร
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
ช่ วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐
พ.ศ. ๒๔๙๙ – งานพุทธชยันตี ๒๕๐๐ ที่เมืองบอมเบย์ (มุมไบ)
• ศรี เนรูห์ นายกฯ อินเดีย เป็ นประธานในงาน กล่าวว่าท่านไม่นบั ถือ
ศาสนาใด แต่ศรัทธา และปฏิบตั ิตามคาสอนของพุทธศาสนา และหาก
ต้ องเลือก ท่านจะเลือกนับถือศาสนาพุทธ
• มีการจัดงานเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่
ศรี เนรูห์
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
ช่ วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐
พ.ศ. ๒๔๙๙ - ดร. บี อาร์ เอ็มเบ็ดการ์
ดร. เอ็มเบ็ดการ์
• รมต.กระทรวงยุติธรรมของอินเดีย ได้ รับการยกย่องว่าเป็ นบิดาแห่งรัฐธรรมนูนอินเดีย
• ๑๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๙๙ เมืองนาคปุระ ท่านได้ นาชาวฮินดูวรรณศูทรหลายแสนคน
ปฏิญาณตนเปลี่ยนศาสนาจากฮินดูเป็ นพุทธ โดยกล่าวว่า ‘ข้ าพเจ้ าเกิดมาจากตระกูลที่นบั
ถือศาสนาฮินดู แต่ข้าพเจ้ าขอตายในฐานะพุทธศาสนิกชน’
•พุทธภาษิตประจาใจของท่านคือ ‘คนเราไม่ใช่ดีเพราะ
โคตร ไม่ใช่ดีเพราะตระกูล ไม่ใช่ดีเพราะทรัพย์ แต่จะดี
หรื อชัว่ อยู่ที่การกระทาของบุคคลนันๆ’
้
• ก่อตังวิ
้ ทยาลัยสิทธารนาถวิทยาลัย (ศึกษาทาง
นิติศาสตร์ โดยนาหลักธรรมไปใช้ )
ชาวฮินดูกว่าล้ านคนปฏิญาณตนนับถือพุทธ
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
ช่ วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐
พ.ศ. ๒๕๑๕ - ผลงานนักปราชญ์ ชาวอินเดีย
• ผศ.พินเยนทรนาช เชาธุรี, มหาวิยาลัยกัลกัตตา - ค้ นคว้ าเรี ยบเรี ยงเรื่ องพุทธสถาน
โบราณในอินเดีย ๓๐๐ กว่าเมือง
• ศ. ดร. ลาล มณี โชคี, มหาวิทยาลัยปั ญจาบ ฮาร์ วาร์ ด และ ศ. ศัตการี มุเขอร์ จี – แต่ง
หนังสือเสนอความจริงว่า พุทธ ไม่ใช่ ฮินดู
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
ช่ วงปี พ.ศ. ๒๔๐๐ – พ.ศ. ๒๕๐๐
พ.ศ. ๒๕๑๕ - ผลงานนักปราชญ์ ชาวอินเดีย
รพินทรนาถ ฐากูร - มีบทบาทในการให้ นานา
ประเทศเข้ าใจกันยิ่งขึ ้น
มหาตมา คานธี - เป็ นตัวอย่างในการนาคาสอน
ของพระพุทธเจ้ ามาเป็ นหลักในการดาเนินชีวิต
ยวาหระลาล เนรู ห์ - เทิดทูนพระพุทธเจ้ าว่าเป็ นผู้
ประเสริฐที่สดุ ในอินเดีย
ทัง้ ๓ มหาบุรุษนี ้ ได้ สดุดี
พระพุทธเจ้ าในหนังสือ
Buddha As Seen
By Three
Illustrious Sons
Of India (พระพุทธเจ้ า
ในทัศนะของสามรัตนะ
บุรุษของอินเดีย)
อิทธิพลพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดีย
ในช่ วงปั จจุบัน
มีชาวอินเดียนับถือพุทธศาสนาจานวนน้ อย
ไม่ถึง ๒ เปอร์ เซ็นต์ของประขากรทังหมด
้
(๑. ฮินดู ๒. อิสลาม)
การนับถือศาสนาพุทธจะกลมกลืนกับศาสนาฮินดูมาก ทังความเชื
้
่อ ประเพณี และพิธีกรรม
เพราะศาสนาฮินดูฝังรากลึกกลมกลืนกับวัฒนธรรมอินเดีย
สังเวชนียสถาน และพุทธสถาน
โบราณได้ รับการฟื น้ ฟู และเป็ น
สถานที่ศกั สิทธิ์ที่พทุ ธศาสนิกชน
ทัว่ โลกไปเยี่ยมชมและบูชา
ก่ อนตรัสรู้ - นับถือฮินดู มีการแบ่งชั ้นวรรณะ
หลังตรัสรู้ - มีทางเลือกนอกจากวรรณะ, เทพเจ้ า
พุทธกาล - ศาสนาพุทธเผยแพร่ในอินเดีย มีผ้ บู รรลุอรหัตผลมากมาย
หลังพุทธปรินิพพาน
พุทธกาล – พ.ศ. ๑๗๐๐
ทางสังคม - อยู่แบบเกื ้อกูลกัน กษัตริย์ดแู ลแบบพ่อ-ลูก
ทางศาสนา - แพร่หลายเร็ว แต่ก็มีความขัดแย้ งบ้ าง ทาให้ เกิดการสังคายนา และมีการส่งสมณทูตไปเผยแพร่พทุ ธศาสนา
การศึกษา - ไม่แบ่งชนชั ้นวรรณะ เกิดนาลันทามหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยวลภี การศึกษารุ่งเรื อง
ช่วง พ.ศ. ๑๐๐๐ - เกิดนักปราชญ์มากมาย กาเนิดคัมภีร์สาคัญๆของพุทธศาสนา
ศิลปะ
พ.ศ. ๑๐๐ - ๕๐๐ - ยังไม่มีพระพุทธรูป ใช้ สญ
ั ลักษณ์แทน
พ.ศ. ๕๐๐ - ๑๗๐๐ - มีการสร้ างพระพุทธรูปในสมัยต่างๆ เริ่มด้ วยอิทธิพลกรี ก โรมัน จากพระเจ้ ามิลนิ ท์
เศรษฐกิจ
เน้ นอหิงสา และ ทิฏฐิ ธมั มีกตั ถประโยชน์ อาชีพฆ่าสัตว์ได้ รับความนิยมน้ อยลง นิยม รับราชการ, งานช่างฝี มือ
การเมือง
ใช้ หลักพุทธธรรม, ทศพิธราชธรรม ปกครอง กษัตริย์ให้ การรับรองและอุปถัมภ์พทุ ธศาสนา
พระเจ้ าอโศกมหาราช (พ.ศ. ๒๗๐ - ๓๑๑) - เป็ นผู้อปุ ถัมภ์พทุ ธศาสนาคนสาคัญและเป็ นประธานการสังคายนาครัง้ ที่ ๓
พระเจ้ ามิลินท์ (ช่วงพ.ศ. ๕๐๐) - ผู้มีปัญญามาก อุปถัมภ์พทุ ธศาสนา และออกผนวช บรรลุอรหันต์
พ.ศ. ๑๗๐๐ – พ.ศ.๒๔๐๐
สาเหตุท่ พ
ี ุทธศาสนาเสื่อมไปจากชมพูทวีป
• ในราชวงศ์พระเจ้ ายักษะปาละ เสนาบดีพราหมณ์ชื่อ ราวเสน ได้ ก่อกบฏ และยึดอานาจ
ในราชวงศ์จงึ ไม่มีผ้ นู บั ถือศาสนาพุทธ
• ต่อมามีกองทัพอิสลาม โดย บักติยาขิลจิ ได้ ยกกาลังทาลายล้ างพุทธศาสนาสถาน
รวมถึงนาลันทามหาวิทยาลัย และฆ่าพระภิกษุสงฆ์
• ศาสนาฮินดูยงั คงดารงอยูต่ ลอด ตังแต่
้ ก่อน พระพุทธศาสนาบังเกิด และอยู่คกู่ นั ตลอด
มามิได้ หายไปจากสังคมอินเดีย เพราะเมื่อพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรื อง ก็ไม่ได้ เบียดเบียนหรื อ
ล้ มล้ างศาสนาอื่น
• ศาสนาฮินดูยคุ หลังสามารถสอนพระเวทได้ ทงคฤหั
ั ้ สถ์และบรรชิต จึงแพร่หลายมาก
• พราหมณ์ชื่อ สังกราจารย์ ได้ ยกพระพุทธเจ้ าเป็ นปางอวตารที่ ๙ ของพระนารายณ์ พุทธ
ศาสนาจึงถูกเลือนหายไป
พ.ศ. ๒๔๐๐ – ปั จจุบัน
พ.ศ. ๒๔๙๐ - อินเดียได้ รับเอกราชจากอังกฤษ
พ.ศ. ๒๓๙๕ - นายพลอเล็กซานเดอร์ คันนิงแฮม นักโบราณคดีชาวอังกฤษ ค้ นพบซากเสาอโศก และนาลันทามหาวิทยาลัย
พ.ศ. ๒๔๒๒ - เซอร์ เอดวิน อาร์ โนล ชาวอังกฤษ ประพันธ์เรื่ อง “ประทีปแห่งทวีปเอเชีย” (The Light of Asia)
พ.ศ. ๒๔๒๔ - มิสเตอร์ ที.ดับบลิว. รี ดส์ เดวิดส์ ชาวอังกฤษ ก่อตั ้งสมาคมบาลีปกรณ์ (Pali Text Society)
พ.ศ. ๒๔๓๔ - ท่านอนาคาริกธรรมปาละ ชาวศรี ลงั กา ได้ ฟืน้ ฟูพทุ ธคยาและพุทธโบราณสถาน และตั ้งสมาคมมหาโพธิ
พ.ศ. ๒๔๓๕ - ปราชญ์ชาวอินเดียก่อตั ้งสมาคมพุทธศาสนปกรณ์ (The Buddhist Text Society) เมืองกัลกัตตา
พ.ศ. ๒๔๙๔ - รัฐบาลแห่งแคว้ นพิหารได้ ตั ้งนาลันทามหาวิหารขึ ้น เป็ นสถาบันศึกษาวิจยั พุทธศาสนาและบาลี ตั ้งใกล้ กบั
นานลันทามหาวิทยาลัยเดิม
พ.ศ. ๒๔๙๙ - งานพุทธชยันตี ๒๕๐๐ ที่เมืองบอมเบย์ (มุมไบ) ท่านศรี เนรูห์ นายกฯ อินเดีย เป็ นประธานในงาน
พ.ศ. ๒๔๙๙ - ดร. บี อาร์ เอ็มเบ็ดการ์ ได้ นาชาวฮินดูวรรณศูทรกว่าล้ านคน ปฏิญาณตนเปลี่ยนศาสนาจากฮินดูเป็ นพุทธ
ก่อตั ้งวิทยาลัยสิทธารนาถวิทยาลัย (ศึกษาทางนิติศาสตร์ โดยนาหลักธรรมไปใช้ )
พ.ศ. ๒๕๑๕ - เกิดผลงานนักปราชญ์ชาวอินเดียมากมาย
--- ผศ.พินเยนทรนาช เชาธุรี ค้ นคว้ าเรี ยบเรี ยงเรื่ องพุทธสถานโบราณในอินเดีย ๓๐๐ กว่าเมือง
--- ศ. ดร. ลาล มณี โชคี, มหาวิทยาลัยปั ญจาบ ฮาร์ วาร์ ด และ ศ. ศัตการี มุเขอร์ จี –เสนอความจริงว่า พุทธ ไม่ใช่ ฮินดู
--- เกิดหนังสือ Buddha As Seen By Three Illustrious Sons Of India (พระพุทธเจ้ าในทัศนะของสาม
รัตนะบุรุษของอินเดีย: รพินทรนาถ ฐากูร, มหาตมา คานธี และ ยวาหระลาล เนรูห์)
ปั จจุบัน – อินเดียมีผ้ นู บั ถือศาสนาพุทธน้ อย การนับถือจะกลมกลืนกับศาสนาฮินดูมาก แต่ยงั มีพทุ ธสถานโบราณที่คนทัว่
โลกเดินทางไปบูขา
อิมสฺมึ ปน กถาปริโยสาเน มหาธีรกิตตฺ ภิ กิ ฺขุ ปญฺญาวุฑฺฒภิกฺขุ อญฺชลี นาม มหาอุปาสิกา จาติ มย กลฺยาณจิตฺ
เตน รตนตฺตยานุภาว อาทิสฺส เทวปวีนาจริยสฺส จ สพฺเพส มหาปณฺฑิตานญฺจ ปสิทธฺ ิวร ททาม อนุโมทาม ตุมฺเห
จ สิกฺขาปาร ปปฺโปถ ฯ
รตนตฺตยานุภาเวน รตนตฺตยเตชสา
ยญฺจ โข สกฺกต โหติ เอตสฺสานุภาวโต
อโรคา โหถ นิททฺ ุกฺขา นิสฺโสกา อกุโตภยา
สมคฺคา จ พลูเปตา ทกฺขา กิจจฺ ปยุญชฺ เน
อิทธฺ ึ ปปฺโปถ เวปุลฺล วิรุฬฺหึ จุตตฺ รึ สทา ฯ
โสตฺถิ ภนฺเต อนุโมทามิ สาธุ สาธุ สาธุ ฯ
ส่ วนในที่สุดแห่ งการกล่ าวนาเสนองานนี ้ ข้ าพเจ้ าทัง้ หลาย คือ พระมหาธีรพันธ์ ธีร กิตตฺ ิ พระรั งสรรค์
ปญฺญาวุฑฺโฒ และนางสาวอัญชลีขอตัง้ กัลยาณจิตอ้ างอิงคุณพระศรี รัตนไตร ให้ พรกล่ าวขอขอบคุณ อาจารย์
ดร.เทพประวิณ และพระนิสิตมหาบัณฑิตทัง้ หลาย ขอให้ พวกท่ านทัง้ หลายจงถึงฝั่ งแห่ งการศึกษาเทอญ
ด้ วยอานุภาพและตบะเดชะของพระรัตนไตร บุญกุศลใดแลที่ท่านทัง้ หลายได้ กระทา ด้ วยอานุภาพแห่ งบุญนัน้
ขอให้ ท่านทัง้ หลาย จงเป็ นผู้ไม่ มีโรค ไม่ มีทุกข์ ไม่ มีความโศกเศร้ า ไม่ มีภยั ทัง้ ภายในและภายนอก เป็ นผู้รักใคร่
สามัคคีกัน มีพละกาลังแกร่ งกล้ าสามารถและเป็ นผู้ขยันในการงานที่จะพึงทา จงได้ ถงึ ความเจริ ญรุ่ งเรื องไพบูลย์
แผ่ ไพศาลยิ่งๆขึน้ ไปเทอญ
ขอสวัสดี ขอบพระคุณท่ านทัง้ หลาย สาธุ ๆ ๆ ๆ ฯ
ดาวน์โหลดไฟล์งานนาเสนอนี ้ และวิชาอื่นๆได้ ที่
www.BuddhaBucha.net/download
ขอขอบพระคุณในการติดตามชม หวังว่าการนาเสนอครัง้ นี ้ จะทาให้ ท่านเข้ าใจถึงความเป็ นไป
ของพุทธศาสนาเถรวาทในอินเดียมากขึ ้น
และจะเป็ นประโยชน์ในการศึกษาพุทธศาสนาของทุกท่านต่อไป
ขออนุโมทนาสาธุในบุญทุกประการของทุกท่าน
และขอให้ เจริ ญร่มเย็นในธรรม ตลอดกาลเทอญ สาธุ...
शुक्रिया अपने दे ख के लिए
मझ
ु े उम्मीद है क्रक इस प्रस्ततु त आप भारत में मि
ू बौद्ध धमम
के बारे में समझ जाएगा और अपने बौद्ध अध्ययन के लिए
िाभ मैं अपने सभी योग्यता के साथ आनन्ददत तुम हमेशा सब
सुख की कामना नमस्ते
ดาวน์โหลดไฟล์งานนาเสนอนี ้ และวิชาอื่นๆได้ ที่
www.BuddhaBucha.net/download