Treponema pallidum

Download Report

Transcript Treponema pallidum

Microbiology and Parasitology
Introduction to Microbiology
By
Amporn Thiengtrongdee
February /20/2012
วัตถุประสงค์
เพือ
่ ..
1. ทราบประวัตค
ิ วามเป็ นมาของ
วิชาจุลชวี วิทยา
2. ทราบการจัดหมวดหมูข
่ อง
วิชาจุลชวี วิทยา
ื่ จุลชพ
ี ได ้ถูกต ้อง
3. เรียกและเขียนชอ
Microbiology



ี หรือจุลน
จุลชพ
ิ ทรีย ์
=microbe or microorganism
เป็ นวิชาทีเ่ รียนเกีย
่ วกับสงิ่ มีชวี ต
ิ ขนาดเล็กมอง
้ ้องจุลทรรศน์
ด ้วยตาเปล่าไม่เห็นต ้องใชกล
เรียกว่าจุลน
ิ ทรีย ์ มีอยูใ่ นสงิ่ แวดล ้อมซงึ่ ก่อให ้เกิด
ั ว์ พืช
ทัง้ คุณและโทษ กับ มนุย ์ สต
ึ ษาเกีย
ื พันธุ์ สรีรวิทยา
ศก
่ วกับโครงสร ้าง การสบ
การจาแนกเผ่าพันธุ์ การแพร่กระจายและ
ั พันธ์กบ
ความสม
ั สงิ่ มีชวี ต
ิ อืน
่
ี
ประวัตก
ิ ารค ้นพบจุลชพ


Antony van Leeuwenhoek เป็ นผู ้ประดิษฐ์
กล ้องจุลทรรศน์และเห็น Bacteria เป็ นคน
ี ชวี ต
แรก เสย
ิ ปี 1723
้
ครัง้ แรกผลิตแว่นขยายดูเสนใยด
้าย ต่อมาก็
์ ละสอ
่ งดู น้ าฝน เหล ้าองุน
ฝนเลนสแ
่
แล ้ววาดรูป เม็ดเลือด, สา่ เหล ้า, Protozoa,
Bacteria
กาเนิดของจุลชวี วิทยา


Louis Pasteur 1822-1895 ชาวฝรั่งเศส
บิดาแห่งจุลชวี วิทยา
ื่ ว่า Bacteria ทาให ้เปลีย
เชอ
่ นแปลงใน
Fermentation 1855-1860 พบว่า Bacteria
มักให ้กรด Lactic และ กรดบิวทีรค
ิ (Butyric
acid) พวกสา่ หรือยีสต์เมือ
่ หมักแล ้วจะได ้
Alcohol
Louis Pasteur & Robert Koch
1857-1914 เป็ นยุคทอง
สาธิต
ี ต
 Anaerobe เจริญและมีชว
ิ ในทีซ
่ งึ่ ไม่มอ
ี อกซเิ จนเลย
ี ต
 Aerobe เจริญและมีชว
ิ ได ้ในทีม
่ อ
ี อกซเิ จนเท่านัน
้
 Facultative anaerobe เจริญได ้ทัง
้ ในทีม
่ แ
ี ละไม่ม ี
ออกซเิ จน แต่จะชอบทีม
่ อ
ี อกซเิ จนมากกว่า
 1850-60 โต ้แย ้งกับทฤษฎีทบ
ี่ อกว่าจุลน
ิ ทรียเ์ กิดขึน
้
เองจากสงิ่ ไม่มช
ี วี ต
ิ และเป็ นตัวการของ
Fermentation ทาให ้เหล ้าองุน
่ เปรีย
้ ว และพัฒนา
Sterilization, Pasteurization
Louis Pasteur
ี 1881
การค ้นพบวัคซน



ื้ โรคแอนแธร็ค เลีย
Pasteur นาเชอ
้ งที่ 42-43 °c
ื้ จะลดความรุนแรงลง นาไปปลูกในสต
ั ว์ทาให ้
เชอ
ต ้านทานโรคได ้
ื้ พิษสุนัขบ ้าจากน้ าลายของสุนัขบ ้าฉีดเข ้าใน
นาเชอ
ั หลังของกระต่าย กระต่ายตายก็เอามาทาให ้แห ้ง
สน
แล ้วฉีดเป็ นระยะติดต่อกันเริม
่ ตัง้ แต่ถก
ู สุนัขบ ้ากัด
สามารถป้ องกันโรคกลัวน้ าได ้
Pasteur ทางานหนักจนป่ วยเป็ นอัมพาต แต่ก็ทามา
ี ชวี ต
เรือ
่ ยๆ จนกระทั่ง 1895 จึงเสย
ิ
สมมติฐานของค ้อค
(Koch’s postulates)
้
หลักทีใ่ ชในการพิ
สจ
ู น์โรคของค ้อค
ื้ โรคในบริเวณทีแ
1.
ต ้องพบเชอ
่ สดงอาการเป็ นโรค
ื้ นั น
ื้ บริสท
2.
เชอ
้ ต ้องแยกออกมาเป็ นเชอ
ุ ธิไ์ ด ้
ื้ ไปเพาะในพืชหรือสต
ั ว์ปกติจะทาให ้เกิด
3.
นาเชอ
โรคเดิมได ้
ื้ บริสท
ั ว์หรือพืช
4.
และแยกเชอ
ุ ธิข
์ องโรคนั น
้ จากสต
ทดลอง
ี ไม่สามารถเพาะเลีย
ไวรัสและริคเก็ตเซย
้ งในอาหาร
ื้ ได ้ ต ้องเลีย
เลีย
้ งเชอ
้ งใน cell สงิ่ มีชวี ต
ิ
Koch’s postulates
ึ ษาจุลชวี วิทยา
การศก






ึ ษาลักษณะทั่วไป ประโยชน์และโทษ
Bacteriology ศก
ของแบคทีเรีย
ึ ษาเกีย
Immunology ศก
่ วกับการต ้านทานโรค การผลิต
ี การสร ้างความต ้านทานโรคเมือ
การพัฒนาวัคซน
่ ได ้รับ
ื้ ชว่ ยให ้ตรวจวินจ
เชอ
ิ ฉั ยได ้เร็วขึน
้
ึ ษาเกีย
Mycology ศก
่ วกับกลุม
่ รา ได ้แก่ รา (mold)
yeasts, mushrooms
ึ ษาสาหร่าย
Phycology ศก
ึ ษาไวรัสทีก
ั ว์ เป็ นสงิ่ มีชวี ต
Virology ศก
่ อ
่ โรคในคน สต
ิ
ขนาดเล็ก
ึ ษาโปรโตซวั ก่อโรคในคน สต
ั ว์
Protozoalogy ศก
คุณสมบัตท
ิ ั่วไปของจุลน
ิ ทรีย ์
1.
2.
3.
ั ว์
พบในสงิ่ แวดล ้อม คน พืช สต
เป็ นสงิ่ มีชวี ต
ิ ขนาดเล็ก แบคทีเรียมีขนาด
1-2 µm ไวรัสมีขนาด 20 nm
มีทงั ้ ทาให ้ก่อโรคและไม่กอ
่ โรค
ี ทีก
จุลชพ
่ อ
่ โรคในคน มี 5 พวก
1.
2.
3.
4.
5.
Protozoa (Parasite) เป็ นชนิดเซลล์เดียวทีม
่ ี
protoplasm, nucleus บางชนิดมีระยะเปลีย
่ นแปลงรูป
ได ้
Bacteria เป็ นเซลล์เดียว ขนาดเล็กรูปร่าง กลม ยาว
ท่อน อยูร่ วมตัวหรือเดีย
่ วๆ บางชนิดมี Capsule บาง
ชนิดสร ้าง spore ได ้
Virus ขนาดเล็กมาก มองด ้วยกล ้องจุลทรรศน์ไม่เห็น
ั ในสงิ่ มีชวี ต
ต ้องอาศย
ิ
Fungi ลักษณะรูปร่างไม่แน่นอน ผนังเซลล์หนา
้
อยูเ่ ซลล์เดียวหรือหลายเซลล์ ต่อกันเป็ นเสนยาว
ั เพศและไม่อาศย
ั เพศ สร ้าง spore ได ้
เจริญแบบอาศย
Rickettsiales คล ้ายแบคทีเรียแต่ขนาดเล็กกว่าและ
เจริญในสงิ่ มีชวี ต
ิ
ประโยชน์ของจุลน
ิ ทรีย ์






ผลิตยาปฏิชวี นะ
การกาจัดขยะมูลฝอย
่ นมเปรีย
ผลิตอาหาร เชน
้ ว ขนมปั ง เนย
้
้ กริ ย
ใชเทคนิ
คพันธุวศ
ิ วกรรม โดยใชปฏิ
ิ า
ลูกโซ ่ (Polymerase chain reaction;
PCR) มาผลิต Insulin, Growth hormone,
Interferon เพือ
่ ใชรั้ กษาโรค
การควบคุมแมลง
สงครามชวี ภาพ
Cell
้ ้องจุลทรรศน์ดไู ม ้ Cork พบ
Robert Hooke ใชกล
โครงสร ้างสเี่ หลีย
่ มว่างๆ จึงเรียกว่า Cell และใช ้
กาลังขยายมากขึน
้ พบว่าภายในมีของเหลวจึงเรียกว่า
Protoplasm ซงึ มีความสาคัญต่อการดารงชวี ต
ิ ของ
เซลล์
ิ่ มีชวี ต
 Cell เป็ นโครงสร ้างสาคัญของสง
ิ แบ่งเป็ น 2 ชนิด
่
-Prokaryotic cell เป็ นเซลล์ทม
ี่ ส
ี ว่ นประกอบง่ายๆ เชน
เซลล์แบคทีเรีย
ั ซอน
้
-Eukaryotic cell เป็ นเซลล์ทม
ี่ ส
ี ว่ นประกอบต่างๆซบ
่ Protozoa รา พืช สต
ั ว์
เชน

สงิ่ มีชวี ต
ิ แบ่งตามลักษณะของเซลล์
เป็ น 3 อาณาจักร
1.
2.
3.
ั ว์ (Animal Kingdom)
อาณาจักรสต
อาณาจักรพืช (Plant Kingdom)
อาณาจักรโปรตีสตา (Protista Kingdom)
Protista Kingdom แยกได ้ 2 กลุม
่ ตาม
ลักษณะของเซลล์
ั ้ สูง ได ้แก่
Eukaryotes เซลล์ชน
สาหร่าย (Algae) ยกเว ้นสาหร่ายสเี ขียวแกมน้ า
เงิน (blue-green algae)
โปรโตซวั (Protozoa) รา (Fungi) ลักษณะของ
ั ้ สูงคล ้ายคลึงกับเซลล์ของพืชและสต
ั ว์
เซลล์ชน
ั ้ ตา่ ได ้แก่ แบคทีเรีย
2. Prokaryotes เซลล์ชน
สาหร่ายสเี ขียวแกมน้ าเงิน (blue-green algae)
1.
blue-green algae
ื่ แบคทีเรีย
การเรียกชอ
ื่ สามัญ E. coli มีชอ
ื่ สามัญว่า Colon bacillus
ชอ
ื่ วิทยาศาสตร์ เรียกชอ
ื่ genus และ species คูก
 ชอ
่ น
ั
้
เขียนตัวเอนโดยไม่ต ้องขีดเสนใต
้
้
เขียนตัวตรงต ้องขีดเสนใต
้ แยกระหว่าง genus และ
ื่ แรกเป็ น genus ให ้เขียนตัวใหญ่ และตัว
species ชอ
หลังเป็ น species ให ้เขียนตัวเล็ก

Pseudomonas aeruginosa
Escherichia coli เขียนครัง้ แรกตัวเต็ม
E. coli เขียนครัง้ ต่อไป ย่อ genus
ั ฐานของแบคทีเรีย
รูปพรรณสณ
(Morphology)


ื พันธุ์ แบบ Binary fission คือการ
การสบ
แบ่งตัวจาก 1 เป็ น 2 -4-8-16
ทรงกลม (COCCUS)
-Staphylococcus พวกทีม
่ ก
ี ารเรียงตัวเป็ น
กลุม
่ ๆ
-Streptococcus พวกทีม
่ ก
ี ารเรียงตัวเป็ น
สายยาว
-Tetrad เรียงตัวติดกันเป็ น 4 เซลล์
Morphology
รูปร่างลักษณะ Staphylococcus
รูปร่างกลม
คล ้ายพวง
องุน
่
Streptococcus
รูปร่าง
กลม
เป็ นสาย
Neisseria gonorrhoeae
Diplo coccus
Bacillus (ทรงแท่ง)
Mycobacterium Tuberculosis
Spirillum (ทรงเกลียว)
•Treponema pallidum พบในปาก
ลาไส ้ อวัยวะเพศ ซงึ่ เป็ นสาเหตุของ
ิ ิ ลส
โรค ซฟ
ิ
•Vibio cholerae พบในอุจจาระ เป็ น
สาเหตุของอหิวาตกโรค
Vibio cholerae
Treponema pallidum
Treponema pallidum
การจาแนกแบคทีเรีย
โดยการย ้อมส ี Gram
ื้ แบคทีเรียกรัมบวก (Gram positive
 เชอ
ี ด
bacteria) ย ้อมสต
ิ ส ี น้ าเงิน-ม่วง
ื้ แบคทีเรียกรัมลบ (Gram negative
 เชอ
ี ด
ี ดง
bacteria) ย ้อมสต
ิ สแ

Gram negative bacteria
ี ดง
ย ้อมติดสแ
Gram positive bacteria
ี ้ าเงิน-ม่วง
ย ้อมติดสน
ชนิดของแบคทีเรีย
1. Anaerobic bacteria
- Clostridium tetani
- Clostridium botulinum
ลักษณะของผู ้ป่ วยทีเ่ ป็ น Tetanus
2.Aerobic Bacteria
แบคทีเรียดารงชวี ต
ิ อยูไ่ ด ้โดยต ้องมีออกซเิ จน
-Gram negative cocci
-Gram positive bacilli
-Gram negative bacilli
โครงสร ้างของแบคทีเรีย
Flagella
้ อ
ใชเคลื
่ นไหว
มี H antigen
่ เชอ
ื้
 เชน

Salmonella typhi
Pili


ถ่ายทอดยีน เกาะยึด
cell host
่ Shigella,
เชน
Neiserria gonorrhea

Pili ของ Shigella
Capsule

ป้ องกันการ
จับกินจาก
Cell host
Cell wall


สร ้างสารพิษ (endotoxin)
มี O antigen
่ Salmonella typhi
เชน
ความสาคัญของ Cell wall





ื้ ทาให ้เชอ
ื้ คงรูปร่างอยูไ่ ด ้
ปกป้ องตัวเชอ
ี
ไวต่อยาต ้านจุลชพ
ย ้อมติดส ี วิธก
ี รัม
เป็ นแอนติเจน ชนิด O antigen
เป็ นสารพิษ ชนิด endotoxin
Nucleus

ประกอบด ้วยสาร deoxyribonucleic
acid (DNA) เป็ นแหล่งข ้อมูลทางยีนส ์
ซงึ่ จะถ่ายทอดไปยังเซลล์แบคทีเรียรุน
่
่ ยีนสข
์ องเชอ
ื้ ทีด
ต่อไป เชน
่ อ
ื้ ยา
Endospore

ในกรณ๊ ทส
ี่ งิ่ แวดล ้อมไม่เหมาะสม มีการ
สร ้างสปอร์เพือ
่ ให ้ทนทานต่อสงิ่ แวดล ้อม
สารเคมี ความร ้อน ความแห ้งแล ้ง
ื้ ทีส
เชอ
่ ร ้างสปอร์ คือ
-Clostridium tetani
-Bacillus antracis
สร ้างสปอร์เมือ
่ อยูใ่ นภาวะทีม
่ อ
ี อกซเิ จน เพราะ
ื้ ไม่ต ้องการออกซเิ จน
เชอ
การถ่ายทอดพันธุกรรมของแบคทีเรีย
1.
2.
3.
์ ากเซลล์
Conjugation เป็ นการถ่ายทอดยีนสจ
หนึง่ ไปยังอีกเซลล์หนึง่ แบบมีเพศ จาก Sex
pili
์ ากบาง
Transformation เป็ นการถ่ายทอดยีนสจ
ิ้ สว่ นของ DNA เข ้าไปผสมกับ DNA ใน
ชน
โครโมโซมของเซลล์อก
ี ตัวหนึง่
Transduction เป็ นการเคลือ
่ นย ้ายสาร
พันธุกรรมจากแบคทีเรียตัวหนึง่ ไปยังอีกตัวหนึง่
การผ่าเหล่า (Mutation)

์ องเชอ
ื้
มีการเปลีย
่ นแปลงยีนสข
ื้ ดือ
แบคทีเรีย ทาให ้เชอ
้ ต่อยาปฏิชวี นะ
โดยมีการปรับตัว เมือ
่ ได ้รับน้ ายาฆ่า
ื้ การกินยาไม่ครบ หรือสภาพ
เชอ
ภูมอ
ิ ากาศเปลีย
่ นไป
Virus
ั
เป็ นจุลน
ิ ทรียท
์ ม
ี่ ข
ี นาดเล็กมากต ้องอาศย
กล ้องจุลทรรศน์อเี ลคตรอนขยายดู
 มีสารพันธุกรรมเป็ น DNA หรือ RNA อย่าง
ใดอย่างหนึง่
ั อยูใ่ นเซลล์ของสงิ่ ที่
 เจริญเติบโตและอาศย
มีชวี ต
ิ เท่านัน
้

Virus แตกต่างจากจุลน
ิ ทรียช
์ นิดอืน
่ ๆอย่างไร






มีขนาดเล็กมาก
ประกอบด ้วยกรดนิวคลีอค
ิ เพียงชนิดเดียวคือ DNA
หรือ RNA เท่านัน
้ ทีค
่ วบคุมลักษณะทางพันธุกรรม
ั สงิ่ ทีม
ี และเจริญพันธุ์
อาศย
่ ช
ี วี ต
ิ ในการยังชพ
มีโครงสร ้างทีเ่ รียบง่าย มีกรดนิวคลีอค
ิ อยูต
่ รงกลาง
หุ ้มด ้วยโปรตีน
การเพิม
่ จานวนโดย replication คือการพิมพ์ออก
จากตัวเดิม
ี หรือยาปฏิชวี นะ
ไม่ถก
ู ทาลายด ้วยยาต ้านจุลชพ
โครงสร ้างของไวรัส
มีกรดนิวคลิอค
ิ ชนิดเดียวอยูต
่ รงกลาง
(Core)
 มี Capsid เป็ นโปรตีนห่อหุ ้ม
เป็ น Capsomere
ึ่ เป็ นไขมันห่อหุ ้ม
 บางชนิดมี Envelop ซง
ั้
ข ้างนอกอีกชน

Structure of virus
HIV
หน ้าทีข
่ อง Capsid
ป้ องกัน DNA หรือ RNA ถูกทาลาย
 เกาะติดกับ Cell host
 ทาให ้ไวรัสคงรูปร่างไว ้ได ้

รูปร่างของ Virus
Isosahedral คือ รูปร่างทรงเหลีย
่ มหรือลูกบาศก์
่ Poliovirus
เชน
 Helical คือ รูปร่างแท่งยาว มี capsid เรียงตัวเป็ น
่ Paramyxovirus ก่อโรค Mump,
บันไดเวียน เชน
Measles)
ั ซอน
้ ประกอบด ้วย
 Complex คือ รูปร่างซบ
envelop ซงึ่ เป็ นไขมันห่อหุ ้มภายนอก หรือมี
่ Pox virus, Rhabdovirus มีรป
spike เชน
ู ร่าง
คล ้ายกระสุนปื น ซงึ่ ก่อโรค Rabies

Isosahedral (polio)
rabies virus
การจาแนกชนิดของ Virus (ต่อ)



ใชคุ้ ณสมบัตท
ิ างชวี เคมี ชนิดของกรดนิวคลิอค
ิ DNA
หรือ RNA
ใชลั้ กษณะทางอิมมูน
่ ไวรัส
ใชลั้ กษณะการติดต่อของโรคโดยธรรมชาติ เชน
ื่ เรียกว่า Mosquito-borne virus
ทีม
่ ย
ี งุ เป็ นสอ
ยุงลาย ก่อโรค Dengue fever
ยุงราคาญ ก่อโรค Japanese encephalitis
ยุงก ้นปล่อง ก่อโรค Malaria ไม่ใชไ่ วรัส
การจาแนกชนิดของ Virus (ต่อ)
ื้
ลักษณะของการชอบเนือ
้ เยือ
่ ทีต
่ ด
ิ เชอ
่
 ชอบเนือ
้ เยือ
่ ระบบประสาท เชน
Poliovirus, Rabies
่
 ชอบเซลล์ทางเดินหายใจ เชน
Influenza
่
 ชอบเซลล์ทางเดินอาหาร เชน
Rota virus
่ Hepatitis A, B virus
 ชอบเซลล์ตบ
ั เชน
การจาแนกชนิดของ Virus (ต่อ)
จาแนกตามอาการของโรค
ื้ ทัว่ ร่างกาย เชน
่ ฝี ดาษ หัด อีสก
 ติดเชอ
ุ อีใส
ไข ้เลือดออก
่ ไข ้หวัดใหญ่ SARS
 ระบบทางเดินหายใจ เชน
ไข ้หวัดนก
่ งูสวัด เริม
 ผิวหนั ง เชน
่ ตาแดง จาก adenovirus
 เยือ
่ บุตา เชน
 ตับอักเสบจากไวรัส Hepatitis virus (A,B,C
D,E)
 ต่อมน้ าลาย คางทูม (Mump)
การจาแนกชนิดของ Virus (ต่อ)
แบ่งตามลักษณะทางชวี เคมี
 DNA virus
 RNA virus
DNA Virus



ื้
Adenoviridae เกิดโรคตาแดงและโรคติดเชอ
ในระบบทางเดินหายใจ
Papovaviridae Papiloma (หูด)
Poxviridae ไข ้ทรพิษ (Small pox)
DNA Virus

Herpes viridae
- Herpes simplex ก่อให ้เกิดโรคเริม
- Herpes zoster ก่อให ้เกิดโรคงูสวัด
- Cytomegalovirus (CMV)
- Epstein–Barr virus มะเร็งของ
Orolpharynx
Herpes zoster
Herpes simplex
RNA virus
Piconaviridae
-Polio virus, Hepatis A virus
 Togaviridae Rubella virus
 Flaviviridae
-Dengue hemorrhagic fever
-Japanese encephalitis

RNA virus



Orthomyxoviridae Influenza
Paramyxoviridae
-Mump virus
-Measles
Rhabdoviridae Rabies
RNA virus
Retroviridae
-Human Immunodeficiency virus
 Coronaviridae
-SARS (Severe Acute Respiratory
Syndrome)

ื้ รา (fungi) คืออะไร
เชอ



เป็ นสงิ่ ทีม
่ ช
ี วี ต
ิ ทีจ
่ ัดอยูใ่ นจาพวกพืชไม่มรี าก
ไม่มล
ี าต ้น ไม่มใี บ
ดารงชวี ต
ิ อยูด
่ ้วยสารอินทรียท
์ ม
ี่ ช
ี วี ต
ิ หรือ
ตายแล ้ว
ื พันธุอ
ั แบบมีเพศและไม่มเี พศ
การสบ
์ าศย
ื้ รา
ลักษณะรูปร่างของเชอ
้
Molds หรือ Hyphae เป็ นเสนใยหรื
อ
เป็ นหลอดยาว
 Hyphae ทาหน ้าทีด
่ ด
ู อาหารไปเลีย
้ ง
ื พันธุ์ ทัง้ ชนิดมี
เซลล์ หรือ สร ้างเซลล์สบ
เพศหรือไม่มเี พศ

ื้ รา
ลักษณะรูปร่างของเชอ

Yeasts มีรป
ู ร่างกลม หรือ รูปไข่
ขยายพันธุโ์ ดยการ Budding
ื้ ราก่อโรคในคน
เชอ




Superficial mycoses
Dermatophyte
Systemic mycoses
Opportunistic fungi
Superficial mycoses


ื้ ราทีเ่ กิดกับบริเวณผิวหนัง
เป็ นเชอ
สว่ นนอกสุด (Epidermis)
Tinea versicolor เกลือ
้ น
Tinea versicolor เกลือ
้ น






ื้ Malassezia furfur
เกิดจากเชอ
พบมากในคนทีเ่ ป็ นโรคขาดอาหาร โลหิตจาง
ผู ้ทีไ่ ด ้รับยาสเตียรอยด์
ื้ ชอบไขมันบนผิวหนังของคน
เชอ
ี าว แดง อาจมีขย
ลักษณะผิวหนัง รอยด่างสข
ุ
เล็กๆ หรือเกล็ดเล็กๆ คันเมือ
่ เหงือ
่ ออก
พบรอยด่างตามหน ้า หน ้าอก คอ หลัง ไหล่
และตามแขนขา
ั ผัสหรือใชเส
้ อ
ื้ ผ ้าร่วมกัน
ติดต่อได ้ด ้วยการสม
Tinea versicolor เกลือ
้ น
Tinea versicolor

การวินจ
ิ ฉั ย
่ งดูบริเวณรอยด่าง
- Wood light สอ
- ขูดรอยด่าง หยดด ้วย 10 % KOH
่ งกล ้องจุลทรรศน์
สอ
การรักษาเกลือ
้ น
20 % Sodium thiosulfate ทา
 Salicylic acid ทา
 Tolnaftate ทา
 Selenium sulfide ทา

Dermatophyte
ื้ ราทีเ่ กิดขึน
เป็ นเชอ
้ กับผิวหนัง ผม เล็บ และ
ขุมขน
* มี 3 genus ประกอบด ้วย
- Epidermophyton
- Microsporum
- Trichophyton

Tinea capitis
ื้ ราทีผ
เชอ
่ มหนังศรี ษะ



ื้ ทีเ่ ป็ นสาเหตุ
เชอ
- Microsporum
- Trichophyton
ั นะตุ
เป็ นกลากทีข
่ ม
ุ ขนบนหนังศรี ษะ ชน
พบมากในเด็ก
เมือ
่ หายจากโรคจะมีรอยโรคหลงเหลืออยู่
ไม่มผ
ี มขึน
้
Tinea capitis
Tinea coporis




ขีก
้ ลากตามลาตัว
ื้ ทีเ่ ป็ นสาเหตุ
เชอ
- Microsporum
- Trichophyton
มีอาการคัน
ผืน
่ แดงเป็ นวงกลม คัน
Tinea coporis
Tinea unguium ขีก
้ ลากทีเ่ ล็บ
Tinea barbae ขีก
้ ลากทีเ่ ครา
Tinea cruris สงั คัง
Tinea pedis ฮองกงฟุต
Tinea unguium
ขีก
้ ลากทีเ่ ล็บ
Tinea barbae ขีก
้ ลากทีเ่ ครา
Tinea cruris สงั คัง
Tinea pedis ฮองกงฟุต
Systemic mycoses
ื้ ราทีเ่ กิดขึน
โรคติดเชอ
้ กับอวัยวะต่างๆ
ภายในร่างกาย
1. Candidiasis
2. Cryptococcosis
3. Histoplasmosis
4. Alfatoxicosis
Opportunistic fungi



-
-
ื้ ราฉวยโอกาส
เชอ
่
มักพบในผู ้ป่ วยทีม
่ ภ
ี ม
ู ต
ิ ้านทานลดลง เชน
โรคเอดส ์
ื้ ทีพ
เชอ
่ บบ่อย คือ
Candida albican
Cryptococcus neoformans
Candidiasis





Candida albican
ื้ ราในชอ
่ งปาก เป็ นฝ้ าขาว
เชอ
ื้ ราในชอ
่ งคลอด มีตกขาว คันชอ
่ งคลอด
เชอ
มักเกิดในผู ้ป่ วยทีม
่ ภ
ี ม
ู ต
ิ ้านทานอ่อนแอ
้
การรักษาใชยา
Amphotericin
Candidiasis
Candidiasis
Cryptococcosis






ื้ Cryptococcus neoformans
เชอ
่ เอดส ์
มักพบในผู ้ป่ วยทีภ
่ ม
ู ค
ิ ุ ้มกันน ้อย เชน
ทาให ้เยือ
่ หุ ้มสมองอักเสบ ปวดศรี ษะ
ื้ ราในดิน ปุ๋ ย ขีน
พบเชอ
้ กพิราบ
ื้ เข ้าไป
การติดต่อ โดยหายใจเอาเชอ
การรักษา Amphotericin B
cryptococcosis
ื้ Cryptococcus neoformans มีแคปซูลหุ ้ม
เชอ
Histoplasmosis





Histoplasma capsulatum
ื้ ตามดินปุ๋ ย ขีไ้ ก่ ขีค
พบเชอ
้ ้างคาว
ื้ ราเข ้าไป
การติดต่อ หายใจเอาสปอร์เชอ
เกิดโรคต่อต่อมน้ าเหลือง ม ้าม ตับ ไขกระดูก
อาการคล ้ายวัณโรค ไข ้ เหงือ
่ ออก น้ าหนักตัวลด
อ่อนเพลีย
Aflatoxicosis




ื้ รา
เกิดจากรับประทานสารพิษของเชอ
(Aflatoxin) เข ้าไป
ื้ ราทีส
เชอ
่ ร ้างสารพิษคือ Aspergillus flavus
เจริญได ้ดีในถั่วลิสง
มีอาการต่อตับ หรือมะเร็งตับ
ขอขอบคุณ
ิ ธิ อติรัตนา
อาจารย์ สท
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จักรีรัช
 คุณนิพนธ์ ธัญญวานิช
คณะเวชศาสตร์เขตร ้อน มหาวิทยาลัยมหิดล
 เอือ
้ เฟื้ อเอกสารประกอบการสอนบางสว่ น
และ Specimen
