อินเทอร์เน็ต - sirinuj.net

Download Report

Transcript อินเทอร์เน็ต - sirinuj.net

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
ความหมายและ
พัฒนาการของ
อินเทอร์เน็ต
ความปลอดภัยในการใช้
งานอินเทอร์เน็ต
มารยาท และข้อปฏิบตั ิ
ในการใช้งาน
อินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็
ต
การใช้งานโปรแกรม
ค้นหา
บริ การบนอินเทอร์เน็ต
เลขที่อยูไ่ อพี
ชื่อโดเมน
อินเทอร์ เน็ต (Internet) เป็ นเครือข่ ายขนาดใหญ่ ทสี่ ุ ด ซึ่งเชื่อมโยง
คอมพิวเตอร์ จานวนมากจากทุกมุมโลกเข้ าด้ วยกัน ทาให้ สามารถสื่ อสารหรือส่ ง
ข้ อมูลจากเครื่องหนึ่งไปยังเครื่องอืน่ ในอินเทอร์ เน็ตได้ ในปัจจุบันผู้ใช้ งาน
อินเทอร์ เน็ตสามารถเลือกช่ องทางในการเชื่อมต่ อคอมพิวเตอร์ เข้ าสู่ อนิ เทอร์ เน็ตได้
หลายช่ องทาง เช่ น ผ่านระบบแลน ผ่านระบบสายโทรศัพท์
ผ่านระบบเอดีเอสแอล ผ่านระบบดาวเทียม
ผ่านระบบไร้ สาย
ในอดีตก่อนที่จะมีอนิ เทอร์ เน็ต การสื่ อสารระหว่ างเครื่องคอมพิวเตอร์ ได้ ถูก
จากัดอยู่เพียงแค่ การส่ งข้ อมูลระหว่ างคอมพิวเตอร์ ขนาดเล็กกับเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ขนาดใหญ่ ประจาสานักงานเท่ านั้น ถ้ าต้ องการส่ งข้ อมูลให้ กบั
คอมพิวเตอร์ ทอี่ ยู่ห่างไกลออกไป จาเป็ นจะต้ องอาศัยวิธีการถ่ ายโอนข้ อมูลผ่ าน
สื่ อบันทึกชนิดต่ างๆ ดังนั้นในช่ วง ปี พ.ศ. 2500-2510 นักวิจัยจากหลาย
มหาวิทยาลัยและหน่ วยงานวิจัยชั้นนาในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ พฒ
ั นาระบบ
เครือข่ ายการสื่ อสารข้ อมูลทีเ่ ชื่อมโยงหลายหน่ วยงานเป็ นโครงข่ าย ระบบ
ดังกล่ าวได้ รับการสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหมประเทศสหรัฐอเมริกา จึงเกิด
เป็ นเครือข่ ายที่มชี ื่อเรียกว่ า อาร์ พาเน็ต (ARPANET) ซึ่งเป็ นจุดเริ่มต้ นของ
อินเทอร์ เน็ตในปัจจุบัน
อินเทอร์ เน็ตพัฒนามาจากเครือข่ ายที่ใช้ ในงานวิจัย
การขยายตัวของผู้ใช้ เครือข่ ายในระยะเริ่มแรกจึงจากัดวงอยู่เพียงหน่ วยงานวิจัย
และการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยเท่ านั้น ต่ อมามีการใช้ งานแพร่ หลายมากขึน้
เช่ น
พ.ศ. 2513 เริ่มมีการส่ งอีเมล์เป็ นครั้งแรก
พ.ศ. 2516 เริ่มมีการสนทนาผ่านบีบีเอส (Bulletin Board System
: BBS) ซึ่งเป็ นการสนทนาผ่ านโปรแกรมเทอร์ มนิ อล โดยผู้ใช้ ต่อเข้ ามาที่เครื่อง
บริการเพือ่ สนทนา ฝากข้ อความ หรือส่ งอีเมล์ถึงกัน
พ.ศ. 2531 เริ่มมีการใช้ รูปแบบการสนทนาผ่ านเครือข่ ายในลักษณะที่
ผู้ใช้ ต่อเข้ ามาทีเ่ ครื่องบริการเพือ่ สนทนาในห้ องคุย (Chat Room) ทีม่ อี ยู่ในระบบ
ตามความสนใจ ระบบนีเ้ รียกว่ า ไออาร์ ซี (Internet Relay Chat : IRC)
พ.ศ. 2534 มีการคิดค้ นการให้ บริการข้ อมูลผ่ านเวิลด์ ไวด์ เว็บ (World
Wide Web : WWW) หรือที่เรียกว่ า เว็บ (Web) โดยใช้ เว็บบราวเซอร์ (Web
Browser) ในการใช้ และเข้ าถึงข้ อมูล หน่ วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเริ่มเห็น
ความสาคัญ และเข้ าร่ วมใช้ บริการบนอินเทอร์ เน็ต เช่ น การเผยแพร่ ข้อมูล
ข่ าวสาร การซื้อขายสิ นค้ า ทาธุรกรรมทางการเงิน บริการต่ างๆ นีก้ ่ อให้ เกิดการ
ตื่นตัวในการใช้ งานอินเทอร์ เน็ตทั่วโลก
พ.ศ. 2539 เริ่มมีการสนทนาผ่ านเครือข่ ายแบบระบุผ้ สู นทนาได้
โดยตรง ทีเ่ รียกว่ า การส่ งข้ อความทันที (Instant Messaging : IM) หรือแชท
(Chat) โปรแกรมทีใ่ ช้ ในการสนทนาลักษณะนีท้ รี่ ้ ู จักกัน เช่ น ICQ, Windows
Live Messenger
ตัวอย่าง จานวนผู้ใช้ งานอินเทอร์ เน็ตในปี 2553
ในประเทศไทยเริ่มมีการเชื่อมต่ อเข้ ากับอินเทอร์ เน็ตเป็ นครั้ งแรกในปี
พ.ศ.2530 เมือ่ สถาบันการเทคโนโลยีแห่ งเอเชียหรือเอไอที ได้ ทดลองส่ งอีเมล์ไป
ยังมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย และบริษัทยูยูเน็ต (UUNET) ซึ่ง
เป็ นหนึ่งในผู้ให้ บริการอินเทอร์ เน็ตในประเทศสหรัฐอเมริกา ต่ อมาในปี
พ.ศ.2531 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ เชื่อมต่ อเข้ าสู่ อนิ เทอร์ เน็ตกับประเทศ
ออสเตรเลียเพือ่ ส่ งอีเมล์ไปยังที่ต่างๆ โดยเชื่อมต่ อวันละสองครั้ งหลังจากปี
พ.ศ.2534 มหาวิทยาลัยต่ างๆ ได้ เริ่มเชื่อมต่ อเข้ ากับระบบอินเทอร์ เน็ตเพิม่ ขึน้
จนถึงช่ วงหลังจากปี พ.ศ. 2538 รัฐบาลได้ อนุญาตให้ มกี ารใช้ งานอินเทอร์ เน็ตใน
เชิงพาณิชย์ ในปัจจุบันประเทศไทยมีเส้ นทางการเชื่อมต่ อเข้ ากับอินเทอร์ เน็ต
ตลอด 24 ชั่วโมง เป็ นจานวนหลายเส้ นทางและมีผ้ ใู ห้ บริการอินเทอร์ เน็ต
(Internet Service Provide : ISP) เป็ นจานวนมาก
จากรู ปภาพแสดงแผนผังการเชื่อมต่ ออินเทอร์ เน็ตในประเทศไทย โดย
รวบรวมจากศูนย์ เทคโนโลยีอเิ ล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ แห่ งชาติ (Nectec)
ซึ่งแสดงให้ เห็นถึงการเชื่อมต่ ออินเทอร์ เน็ตในประเทศไทยทีม่ ีหน่ วยงานกลาง
เป็ นศูนย์ กลาง เช่ น บริษัท กสท โทรคมนาคม จากัด (มหาชน) หรือแคท
(CAT) บริษัท ทีโอที จากัด (มหาชน) หรือทีไอที (TOT) โดยผู้ให้ บริการราย
ย่ อยจะต้ องเชื่อมต่ อไปยังศูนย์ กลางนีเ้ พือ่ ทีจ่ ะเชื่อมต่ อเข้ ากับเครือข่ ายของโลก
ต่ อไป
การใช้ งานอินเทอร์ เน็ตในประเทศไทยมีแนวโน้ มที่จานวนประชากรสามารถ
เข้ าถึงอินเทอร์ เน็ตเพิม่ มากขึน้ ได้ อย่างรวดเร็ว และมีการคาดการณ์ กนั ว่ าสื่ อ
ประสม (Multimedia) และบริการเครือข่ ายสั งคม (Social Networking) ต่ างๆ
เช่ น Twitter หรือ Facebook จะเข้ ามามีบทบาทในการสื่ อสารระหว่ างคนไทย
มากขึน้
สถิตจิ านวนผู้เข้ าชม www.facebook.com ปี 2010
ในการติดต่ อสื่ อสารทางโทรศัพท์ กบั บุคคลอืน่ นั้น จะต้ องทราบหมายเลข
โทรศัพท์ ปลายทาง เพือ่ ที่ระบบโทรศัพท์ จะสามารถเชื่อมต่ อสั ญญาณเข้ ากับ
หมายเลขปลายทางให้ ได้ ซึ่งจะเห็นว่ า หมายเลขโทรศัพท์ จะไม่ ซ้ากันเลย การ
สื่ อสารผ่านอินเทอร์ เน็ตก็เช่ นเดียวกัน การส่ งข้ อมูลจากคอมพิวเตอร์ เครื่องหนึ่ง
ไปยังคอมพิวเตอร์ เครื่องอืน่ จาเป็ นต้ องมีข้อมูลหรือหมายเลขทีแ่ ต่ ละเครื่องมีไม่ ซ้า
กัน เพือ่ ให้ สามารถระบุถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่ ละเครื่องได้ หมายเลขนีเ้ รียกว่ า
เลขทีอ่ ยู่ไอพีหรือไอพีแอดเดรส (IP Address)
เลขทีอ่ ยู่ไอพีทใี่ ช้ กนั อยู่ในปัจจุบันตามมาตรฐานของโพรโทคอลไอพี รุ่ นที่ 4
(IP4) จะใช้ ตัวเลขฐานสองจานวน 32 บิต แต่ เพือ่ ความง่ ายในการเขียนและ
จดจา จึงกาหนดให้ จัดเป็ น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 8 บิต แล้วเขียนเป็ นเลขฐานสิ บเรียง
กัน (นั่นคือแต่ ละกลุ่มของเลขฐานสอง 8 บิต จะถูกแทนด้ วยเลขฐานสิ บในช่ วง
ตั้งแต่ 0 ถึง 255) โดยคัน่ แต่ ละกลุ่มด้ วยเครื่องหมายจุด เช่ น เลขทีอ่ ยู่ไอดีของ
เครื่องคอมพิวเตอร์ ทเี่ ป็ นเครื่องบริการเว็บ (Web Server) ของ
กระทรวงศึกษาธิการทีเ่ ขียนอยู่ในรู ปแบบของเลขฐานสองและฐานสิ บ ดังนี้
เลขฐานสอง
11001010 10001110 11011100 11011111
เลขฐานสิ บ
202.142.220.223
การกาหนดเลขทีอ่ ยู่ไอพีให้ กบั คอมพิวเตอร์ แต่ ละเครื่องนั้น จะมีลกั ษณะเป็ น
ลาดับชั้น ตัวอย่ างเช่ น ถ้ ามหาวิทยาลัยหนึ่ง ได้ รับอนุญาตให้ ใช้ เลขทีอ่ ยู่ไอพีที่
ขึน้ ต้ นด้ วย 158.108 แล้ว เครื่องคอมพิวเตอร์ ทใี่ ช้ งานภายในมหาวิทยาลัยก็จะมี
เลขทีอ่ ยู่ไอพีทนี่ าหน้ าด้ วย 158.108 ทั้งหมด โดยผู้ดูแลระบบเครือข่ ายของ
มหาวิทยาลัยอาจเป็ นผู้กาหนดเลขทีอ่ ยู่ไอพีให้ กบั คอมพิวเตอร์ แต่ ละเครื่อง หรือ
อาจจะกระจายหน้ าทีค่ วามรับผิดชอบให้ กบั ผู้ดูแลระบบเครือข่ ายของหน่ วยงาน
ย่ อย ภายในเป็ นผู้กาหนดเลขทีอ่ ยู่ไอพีให้ กบั เครื่องในหน่ วยงานนั้นได้ เช่ น
กาหนดให้ คณะวิทยาศาสตร์ ใช้ เลขทีอ่ ยู่ไอพีให้ กบั เครื่องในหน่ วยงานนั้นได้ เช่ น
กาหนดให้ คณะวิทยาศาสตร์ ใช้ เลขทีอ่ ยู่ไอพีทนี่ าหน้ าด้ วย 158.108.29 ดังนั้น
ผู้ดูแลระบบเครือข่ ายของคณะวิทยาศาสตร์ ก็จะสามารถกาหนดเลขทีอ่ ยู่ไอพี
ในช่ วงตั้งแต่ 158.108.29.0 จนถึง 158.108.29.255 ให้ กบั เครื่องคอมพิวเตอร์ ใน
คณะวิทยาศาสตร์ ได้ ดังรู ป
มหาวิทยาลัย
.
158
0
1
2
หมายเลข
ประจาเครื่ องภายใน
คณะวิทยาศาสตร์
คณะวิทยาศาสตร์
108
...
.
29
.
0-255
29
...
255
0
...
255
ถึงแม้ ว่ามีการกาหนดให้ ใช้ เลขฐานสิ บในการอ้ างถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้ ว ก็
ยังเป็ นการยากทีจ่ ะจดจาตัวเลขเหล่านีไ้ ด้ เพือ่ ความสะดวกจึงได้ มกี ารกาหนดชื่อ
แทนเลขทีอ่ ยู่ไอพี โดยทีช่ ื่อนีจ้ ะไม่ ซ้ากันเลย มีลกั ษณะเป็ นคาภาษาอังกฤษสั้ นๆ
หรือเป็ นตัวย่อที่ประกอบด้ วยหลายส่ วน โดยแต่ ละส่ วนจะมีความหมายเฉพาะ
และคัน่ ด้ วยเครื่องหมายจุด เรียกชื่อทีใ่ ช้ แทนเลขทีอ่ ยู่ไอพีนีว้ ่ า ชื่อโดเมน
(Domain Name) ตัวอย่างเช่ น
หน่ วยงานภาครัฐและเอกชน
เลขทีอ่ ยู่ไอพี
ชื่อโดเมน
กระทรวงศึกษาธิการ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
202.142.220.223
202.142.220.223
www.moe.go.th
www.ku.ac.th
สถาบันส่ งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
202.142.220.223
www.ipst.ac.th
ไทยกู๊ดวิว
202.142.220.223
www.thaigoodview.com
ลักษณะการกาหนดชื่อโดเมนก็มีลกั ษณะเป็ นลาดับชั้นคล้ายกันกับ
ลาดับชั้นของเลขทีอ่ ยู่ไอพีเช่ นกัน แต่ ว่าลาดับชั้นที่ใหญ่ กว่ าของชื่อ
โดเมนจะอยู่ด้านหลัง ตัวอย่ างเช่ น
www.ku.ac.th
ประเทศไทย
หน่ วยงานสถาบันการศึกษา
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เมื่อระบุชื่อโดเมนระดับหน่ วยงานแล้ ว ชื่อโดเมนที่ย่อยลง
ไปนั้น หน่ วยงานจะเป็ นผู้กาหนดเอง ในตัวอย่ างข้ างต้ น
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ กาหนดให้ www เป็ นชื่อโดเมน
เครื่องบริการเว็บของมหาวิทยาลัย ซึ่งจานวนระดับชั้นของชื่อ
โดเมนนั้นสามารถถูกกาหนดให้ ย่อยลงไปได้ อกี จากตัวอย่ างที่
ได้ กล่ าวมาแล้ วจะพบว่ าคณะวิทยาศาสตร์ ของ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ รับการกาหนดชื่อโดเมนเป็ น
sci.ku.ac.th และเครื่องบริการเว็บของคณะวิทยาศาสตร์ จงึ มีชื่อ
โดเมนในระดับย่ อยลงไปอีกเป็ น www.sci.ku.ac.th
สาหรับชื่อโดเมนในระดับบนสุ ด (Top Level Domain :
TLD) นั้นนอกจากจะมีการกาหนดชื่อย่ อแทนประเทศแล้ ว
(เช่ น th แทนประเทศไทย cn แทนประเทศจีน หรือ in แทน
ประเทศอินเดีย) ยังมีการกาหนดชื่อย่ อระดับบนสุ ดในลักษณะ
ประเภทของหน่ วยงานด้ วย เช่ น com, org, net หรือ gov
ตัวอย่ างโดเมนระดับบนสุ ดดังแสดงไว้ ในตารางที่ 4.1 สาหรับ
ชื่อโดเมนระดับทีส่ องของประเทศไทยนั้นได้ มีการกาหนด
ความหมายดังแสดงไว้ ในตารางที่ 4.2 ส่ วนชื่อโดเมนในระดับที่
สามโดยทั่วไปจะเป็ นชื่อย่ อของหน่ วยงาน
ชื่อโดเมนระดับบนสุ ด
edu (education)
com (company)
gov (government)
mil (military)
net (network)
org (organization)
th (Thailand)
ความหมาย
สถาบันการศึกษา
บริษัท ห้ างร้ าน หรือหน่ วยงานเอกชน
หน่ วยงานของรัฐบาล
หน่ วยงานทางทหาร
ผู้ให้ บริการเครือข่ าย
องค์ กรที่ไม่ แสวงกาไร
ประเทศไทย
หมายเหตุ สาหรับ gov และ mil นั้น ใช้ สาหรับประเทศ
สหรัฐอเมริกาเท่ านั้น
ตัวอย่ าง โดเมนระดับทีส่ องที่ใช้ ในประเทศไทย
ชื่อโดเมนระดับทีส่ อง
ac (academic)
co (company)
go (government)
or (organization)
in (individual)
mi (millitary)
net (network)
ความหมาย
สถาบันการศึกษา
บริษัท ห้ างร้ าน หรือหน่ วยงานเอกชน
หน่ วยงานของรัฐบาล
องค์ กรที่ไม่ แสวงหากาไร
ส่ วนบุคคล
หน่ วยงานทางทหาร
ผู้ให้ บริการเครือข่ าย
การกาหนดเลขทีอ่ ยู่ไอพีและชื่อโดเมนให้ กบั แต่ ละหน่ วยงานนั้น
จะมีองค์ กรระหว่ างประเทศคือไอแคนน์ (Internet Corporation for
Assigned Names and Numbers : ICANN) ซึ่งเป็ นองค์ กรทีจ่ ัดการ
และกาหนดให้ มีองค์ กรย่ อยทาหน้ าทีใ่ นระดับประเทศ สาหรับประเทศ
ไทยมีมูลนิธิศูนย์ สารสนเทศเครือข่ ายไทย (Thai Network
information Center foundation : THNiC) เป็ นผู้ทาหน้ าทีด่ ังกล่าว
การหาเลขทีอ่ ยู่ไอพีและชื่อโดเมนที่สัมพันธ์ กนั นั้นสามารถทาได้
โดยใช้ โปรแกรมที่ชื่อว่ า nslookup ซึ่งมีให้ ใช้ ท้งั ในระบบปฏิบตั ิการ
วินโดวส์ และลินุกซ์ เช่ น เมื่อต้ องการหาเลขทีอ่ ยู่ไอพีของชื่อโดเมน
www.ipst.ac.th ถ้ าใช้ เครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ให้
เปิ ดโปรแกรม Command Prompt แล้วพิมพ์คาสั่ ง nslookup
www.ipst.ac.th จะไดว่ าเลขทีอ่ ยู่ไอพีคอื 202.29.77.131 แต่ ว่าคาสั่ งนีจ้ ะ
ใช้ งานได้ ในขณะทีเ่ ครื่องคอมพิวเตอร์ เชื่อมต่ ออยู่กบั อินเทอร์ เน็ตเท่ านั้น
อินเทอร์ เน็ตเป็ นเครือข่ ายทีเ่ ชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ ทั่วโลกเข้ า
ด้ วยกัน คอมพิวเตอร์ แต่ ละเครื่องอาจทาหน้ าทีใ่ ห้ บริการทีแ่ ตกต่ างกัน
ได้ หลากหลาย ดังนั้นเมื่อมีการใช้ งานคอมพิวเตอร์ ผ่านอินเทอร์ เน็ตจะ
ทาให้ เข้ าถึงบริการต่ างๆ ได้ ส่ งผลให้ การรับรู้และแลกเปลีย่ นข้ อมูล
ข่ าวสารเกิดขึน้ ได้ ทันที ทาให้ สะดวก และรวดเร็วในการดาเนิน
กิจกรรมต่ างๆ เปรียบเสมือนการสื่ อสารข้ อมูลทีไ่ ร้ พรมแดน
บริการบนอินเทอร์ เน็ตทีน่ ิยมใช้ กนั อยู่ในปัจจุบันได้ มีการ
พัฒนาอย่ างแพร่ หลาย จนมีบริการต่ างๆ เพิม่ ขึน้ ดังนี้
ปัจจุบันมีข้อมูลข่ าวสารและความรู้ต่างๆ ทีเ่ ก็บไว้ ให้ ใช้ งาน
จานวนมาก ข้ อมูลบางแห่ งเก็บอยู่ในรูปอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการเข้ าถึง
ข้ อมูลสามารถทาได้ โดยใช้ บริการเวิลด์ ไวด์ เว็บทีใ่ ห้ บริการข้ อมูลใน
ลักษณะเอกสารเชื่อมโยงหรือข้ อความหลายมิติ (Hypertext) ทีอ่ ยู่ใน
รูปแบบต่ างๆ เช่ น ข้ อความ รูปภาพ ภาพเคลือ่ นไหว วีดิทศั น์
การเข้ าถึงหรือใช้ งานบริการบนอินเทอร์ เน็ตนั้น
โดยทัว่ ไปกระทาผ่ านเว็บบราวเซอร์ ซึ่งเป็ นโปรแกรมที่อ่าน
เอกสารมาแสดงบนจอภาพเว็บบราวเซอร์ ทางานโดยใช้ โพรโท
คอลเอชทีทีพี (Hypertext Transport Protocol : HTTP)
เพือ่ ติดต่ อขอข้ อมูลจากเครื่องบริการเว็บ แล้ วแสดงข้ อมูลตาม
รู ปแบบรหัสของภาษาเอชทีเอ็มแอล (Hypertext Markup
Language : HTML) ที่ได้ จากเครื่องบริการเว็บ ตัวอย่ างเว็บ
บราวเซอร์ ทนี่ ิยมใช้ ในปัจจุบัน เช่ น Mozilla Firefox,
Windows Internet Explorer, Google Chrome, Apple
Safari, Opera
ตัวอย่ างหน้ าเอกสารที่มีการเชื่อมโยง
เว็บเพจ (Web page) คือ หน้ าเอกสารที่มีการเชื่อมโยงไปยัง
หน้ าเอกสารอืน่ โดยเรียกใช้ ผ่านเว็บบราวเซอร์
เว็บไซต์ (Web site) คือ กลุ่มของเว็บเพจทีม่ ีความเกีย่ วข้ องกัน
และอยู่ภายในชื่อโดเมนเดียวกัน
เว็บบราวเซอร์ (Web browsing) คือ โปรแกรมที่อ่านเอกสาร
เว็บเพจมาแสดงบนจอภาพ
โฮมเพจ (Homepage) คือ หน้ าแรกของเอกสารเว็บเพจ
อีเมล์ (E-mail) หรือ ไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์ (Electronic
mail) จัดเป็ นบริการแรกๆ ที่มีให้ ใช้ ในอินเทอร์ เน็ต เป็ นการส่ ง
ข้ อความรวมถึงไฟล์ชนิดต่ างๆ จากเครื่องคอมพิวเตอร์ ของผู้ส่งผ่ าน
เครื่องบริการเมล์ต้นทางไปยังกล่องจดหมายของผู้รับทีเ่ ครื่องบริการ
เมล์ปลายทาง เมื่อผู้รับเปิ ดโปรแกรมอ่านอีเมล์ โปรแกรมก็จะดึง
จดหมายที่มีมาถึงตนเองจากในกล่องจดหมายออกมาให้ อ่าน
โปรแกรมเฉพาะทีใ่ ห้ บริการอีเมล์ เช่ น Thunderbird, Outlook
Express ดังรูป
ก) โปรแกรมเฉพาะสาหรับอีเมล์
ข) เว็บไซต์ บริการอีเมล์
ชื่อบัญชีผู้ใช้ อเี มล์ จะประกอบด้ วย 3 ส่ วน คือ
1) ชื่อทีใ่ ช้ ระบุตวั ตนของผู้ใช้ อเี มล์
2) เครื่องหมาย @
3) ชื่อโดเมนของเครื่องบริการเมล์
[email protected]
ชื่อผู้ใช้
ชื่อโดเมนเครื่องบริการเมล์
ชื่อบัญชีผู้ใช้ อเี มล์ ที่กาหนดขึน้ ในขั้นตอนการสร้ าง
จะต้ องไม่ ซ้ากับชื่อทีม่ ีอยู่แล้ วในชื่อโดเมนเดียวกัน
โดยทั่วไปผู้ให้ บริการอีเมล์ จะตรวจสอบและแจ้ งให้ ผู้
ลงทะเบียนทราบ ถ้ ามีชื่อดังกล่ าวอยู่แล้ ว การตั้งชื่อควรใช้
คาที่มีความหมายสุ ภาพ และควรให้ ส้ั น กระทัดทัด เพือ่ ให้
สามารถจดจาได้ ง่าย
ข้ อดีของการส่ งข้ อความด้ วยอีเมล์ คือ ข้ อความถึง
ผู้รับอย่ างรวดเร็ว สามารถเปิ ดอ่ านอีเมล์ ได้ ในเวลาที่
ต้ องการ อีกทั้งในปัจจุบันยังสามารถแนบไฟล์ ต่างๆ เช่ น
รู ปภาพ โปรแกรม หรือคลิปวิดโี อไปกับอีเมล์ ได้ อกี ด้ วย
บล็อก (blog) เป็ นคาย่ อมาจาก เว็บล็อก (web log) เป็ นเว็บ
ที่ให้ บริการเก็บบันทึก (log) หรือข้ อมูลรูปแบบต่ างๆ ในลักษณะคล้าย
กับการบันทึกในสมุดบันทึกประจาวัน โดยผู้ใช้ สามารถบันทึกข้ อความ
รูปภาพ หรือสื่ อประสมต่ างๆ ไว้ ได้ โดยทัว่ ไปจะแสดงแบบเรียงลาดับ
ตามวันเวลาทีบ่ ันทึกใหม่ ล่าสุ ด เพือ่ ให้ ผู้อนื่ เข้ ามาอ่าน และแสดง
ความเห็น บล็อกอาจมีการจัดหมวดหมู่ตามกลุ่มความสนใจทีใ่ กล้เคียง
กัน บล็อก เช่ น Blogger, GoogleBlog ดังรูป
เว็บไซต์ บริการบล็อก
ไมโครบล็อก (Microblog) เป็ นบริการที่คล้ายกับบล็อก เพียงแต่
แตกต่ างกันตรงที่ปริมาณข้ อมูลทีเ่ ขียนเพือ่ เก็บไว้ และแจกจ่ ายไปให้
ผู้อนื่ อ่าน จะมีขนาดสั้ นๆ อาจเป็ นไฟล์รูปภาพหรือสื่ อประสมทีม่ ี
ขนาดไม่ ใหญ่ นัก ปัจจุบันไมโครบล็อกเป็ นทีน่ ิยมอย่ างแพร่ หลาย
เนื่องจากเป็ นการส่ งข่ าวสารให้ กบั บุคคล หรือกลุ่มบุคคลอย่ างรวดเร็ว
ไม่ เสี ยเวลาของผู้อ่านมากนัก ทาให้ มีการรับรู้ข่าวสารของบุคคลอืน่
ได้ มากขึน้ ผู้ใช้ ทเี่ ป็ นสมาชิกสามารถเลือกหัวข้ อจากบล็อกอืน่ ให้ มา
ปรากฏในไมโครบล็อกของตนเองหรือเลือกตามสมาชิกอืน่ นอกจากนี้
หน่ วยงานเอกชนยังนิยมใช้ เป็ นช่ องทางในการส่ งข่ าวสาร ข้ อมูลสิ นค้ า
และบริการให้ กบั ลูกค้ าอีกด้ วย ไมโครบล็อก เช่ น twitter, yammer,
jaiku ดังรูป
เว็บไซต์ บริการไมโครบล็อก
เป็ นทีท่ ราบกันดีว่าจานวนของผู้ใช้ งาน twitter เพิม่ ขึน้ อย่ างก้าว
กระโดดในช่ วงสองสามปี ที่ผ่านมา แต่ ทราบหรือไม่ ว่า จานวนครั้ งของ
การส่ งข้ อมูลผ่ าน twitter.com ได้ เพิม่ ขึน้ จาก 5,000 ครั้ง (ข้ อความ)
ต่ อวัน ในปี พ.ศ. 2550 เป็ น 300,000 ครั้งต่ อวันในปี พ.ศ. 2551 และ
เป็ น 2.5 ล้านครั้งต่ อวันในปี พ.ศ. 2552 เมื่อสารวจล่าสุ ดเดือนมกราคม
พ.ศ. 2553 พบว่ ามีจานวนครั้งของการส่ งข้ อความสู งถึง 35 ล้านครั้งต่ อ
วันเลยทีเดียว
บริการรับฝากไฟล์ และข้ อมูลเป็ นบริการทีใ่ ห้ ผ้ ูใช้ บริการ
สามารถแบ่ งปันไฟล์ และข้ อมูลให้ ผู้อนื่ ได้ โดยผู้ฝากไฟล์ และ
ข้ อมูลจะต้ องทาการลงทะเบียนก่ อนการใช้ บริการ เว็บไซต์
ให้ บริการรับฝากไฟล์ และข้ อมูล เช่ น www.skydrive.live.com,
www.4shared.com, www.rapidshare.com,
www.youtube.com ดังรู ป
บริการค้ นหาข้ อมูลเป็ นบริการทีใ่ ห้ ผ้ ูใช้ ค้นหา
ข้ อมูลต่ างๆ บนอินเทอร์ เน็ต โดยใช้ เว็บทีใ่ ห้ บริการ
ค้ นหา เพือ่ ทาการตรวจสอบเว็บเพจต่ างๆ ทัว่ โลกทีม่ ี
ข้ อมูลสอดคล้ องกับคาทีต่ ้ องการหา เว็บไซต์ บริการ
ค้ นหาข้ อมูล เช่ น www.google.com,
www.altavista.com, www.wolframalpha.com,
www.bing.com ดังรู ป
บริการส่ งข้ อความทันที (Instant Messaging : IM)
หรือแชท (Chat) เป็ นบริการส่ งข้ อความให้ กบั คู่สนทนา การ
บริการส่ งข้ อความทันทีและแชทในปัจจุบันได้ พฒ
ั นาให้
สามารถส่ งไฟล์ รู ปภาพ เสี ยง รวมถึงวีดทิ ศั น์ ได้ และยัง
สามารถแสดงภาพในเวลาจริงของคู่สนทนาได้ ถ้าหากว่ าเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ทใี่ ช้ งานมีกล้ องเว็บแคมติดตั้งอยู่ โปรแกรมแชท
เช่ น Windows Live Messenger, Empathy, Adium, Yahoo
การโอนย้ ายไฟล์ ข้อมูล (File Transfer
Protocol : FTP) เป็ นระบบทีท่ าให้ ผ้ ูใช้ สามารถรับส่ ง
ไฟล์ ข้อมูลระหว่ างกัน โดยมีเครื่องบริการที่เก็บ
ไฟล์ ข้อมูลต่ างๆ ซึ่งผู้ใช้ สามารถนาไฟล์ ข้อมูลมาใช้
ประโยชน์ หรือสามารถส่ งไฟล์ ไปไว้ ในเครื่องบริการได้
โปรแกรมโอนย้ ายไฟล์ ข้อมูล เช่ น FileZilla, CuteFTP
เว็บบอร์ ด (Web board) เป็ นบริการที่ผู้ใช้ สามารถฝาก
ข้ อความแลกเปลีย่ นและแสดงความคิดเห็น โดยมีการจัดกลุ่มความ
สนใจเป็ นหัวข้ อในประเด็นต่ างๆ โดยบางเว็บบอร์ ดจะมีการแบ่ งเป็ น
กลุ่มความสนใจย่ อยๆ เช่ น www.pantip.com หรือ
www.pantown.com แต่ บางเว็บบอร์ ดอาจแบ่ งตามกลุ่มความสนใจ
เฉพาะด้ าน เช่ น www.freemac.net ซึ่งเป็ นเว็บไซต์ ของกลุ่มผู้ใสน
ใจใช้ เครื่องคอมพิวเตอร์ ของบริษทั แอปเปิ ล, www.thaigaming.com
เป็ นเว็บไซต์ ของกลุ่มผู้สนใจการเล่ นเกม ดังรู ป
อีคอมเมิร์ซ (Electronic commerce : E-Commerce) หรือการ
พาณิชย์ อเิ ล็กทรอนิกส์ เป็ นบริการในการทาธุรกรรมซื้อขายหรือ
แลกเปลีย่ นสิ นค้ าและบริการผ่ านทางอินเทอร์ เน็ต โดยใช้ เว็บไซต์ เป็ นสื่ อ
ในการนาเสนอและเป็ นช่ องทางให้ ลูกค้ าสั่ งซื้อสิ นค้ าและบริการ ลูกค้ า
สามารถชาระค่ าบริการโดยใช้ บัตรเครดิตผ่านทางอินเทอร์ เน็ตได้ อี
คอมเมิร์ซช่ วยลดต้ นทุนให้ กบั ผู้ขาย ทาให้ ไม่ ต้องจัดตั้งร้ านค้ า และลด
ค่ าใช้ จ่ายในการเก็บสิ นค้ า อีคอมเมิร์ซช่ วยให้ ผ้ซู ื้อสามารถเลือกซื้อสิ นค้ า
ได้ อย่ างรวดเร็ว และในบางเว็บไซต์ ยงั มีการให้ ข้อมูลด้ านความคิดเห็น
ของผู้ทเี่ คยซื้อสิ นค้ าไปแล้วเพือ่ ใช้ ในการตัดสิ นใจเลือกซื้อแก่ผู้ซื้อรายใหม่
การบริการสถานีวทิ ยุและโทรทัศน์ ออนไลน์ เป็ นบริการที่ให้ ผู้ใช้
สามารถฟังวิทยุและรายการโทรทัศน์ ผ่านทางอินเทอร์ เน็ต ผู้ใช้
สามารถเลือกสถานีที่ต้องการรับฟังหรือรับชมได้ อย่ างสะดวก สามารถ
เลือกรายการที่ต้องการได้ โดยไม่ จาเป็ นต้ องรับฟังหรือรับชมตามเวลาที่
ออกอากาศ เว็บไซต์ วทิ ยุออนไลน์ เช่ น www.curadio.chula.ac.th,
www.radio.in.th, www.virginradio.com และเว็บไซต์ โทรทัศน์
ออนไลน์ เช่ น www.tvzaa.com
อินเทอร์ เน็ตเป็ นแหล่งรวมของข้ อมูลหลากหลายสาขา รวมถึง
สิ นค้ าและบริการต่ างๆ ทีก่ ระจายอยู่ตามเว็บไซต์ ทวั่ โลก ทาให้ การ
ค้ นหาข้ อมูลทีต่ รงกับความต้ องการทาได้ ยากหรือเกือบเป็ นไปไม่ ได้ เลย
เนื่องจากเราจะไม่ ทราบว่ าข้ อมูลทีต่ ้ องการถูกเก็บหรือมีให้ บริการอยู่ที่
เว็บไซต์ ใดบ้ าง โดยการรวบรวมข้ อมูลเว็บไซต์ ต่างๆ ทัว่ โลกมาจัดทา
เป็ นดัชนี เพือ่ ช่ วยให้ การค้ นหาทาได้ รวดเร็ว แล้วให้ บริการในลักษณะที่
เป็ นโปรแกรมหรือเว็บไซต์ ที่ช่วยค้ นหา ซึ่งเรียกว่ า โปรแกรมค้ นหา
หรือเสิ ร์ชเอนจิน (Search Engine)
การค้ นหาข้ อมูลทาได้ โดยการป้อนคาทีต่ ้ องการค้นหาลงใน
โปรแกรมค้ นหา และสามารถใช้ ตัวดาเนินการ (Operator) เพือ่ ช่ วยให้
การค้ นหาข้ อมูลมีประสิ ทธิภาพยิง่ ขึน้ ตัวอย่ างเว็บไซต์ บริการค้ นหาดัง
รูป
ข้ อมูลจากอินเทอร์ เน็ตมีประโยชน์ ต่อผู้ใช้ แต่ ต้อง
พิจารณาเปรียบเทียบข้ อมูลจากหลายแหล่ ง และวิเคราะห์
ความถูกต้ องของข้ อมูลทีค่ ้ นหามาได้ ก่อนนาไปใช้
ประโยชน์
อินเทอร์ เน็ตเป็ นเครือข่ ายทีท่ าให้ ผ้ ูใช้ สามารถเชื่อมต่ อ
เข้ าสู่ แหล่ งข้ อมูลต่ างๆ ได้ อย่ างกว้ างขวาง ดังนั้นผู้ใช้
อินเทอร์ เน็ตจึงต้ องเรียนรู้ และทาความเข้ าใจเกีย่ วกับมารยาท
ข้ อปฏิบัติ รวมไปถึงกฎหมายในการใช้ งาน เพือ่ ให้ การใช้ งาน
เครือข่ ายร่ วมกับผู้อนื่ เกิดประโยชน์ ในทางสร้ างสรรค์ มารยาท
และข้ อควรปฏิบัติในการใช้ งานอินเทอร์ เน็ต เช่ น
ใช้ ภาษาทีถ่ ูกต้ องและเหมาะสมกับกาลเทศะ ปัจจุบันจะ
เห็นได้ ว่าในการสนทนาบนอินเทอร์ เน็ตจะมีการใช้ ภาษาที่มีการ
สะกดแบบย่ อ ทาให้ มีการใช้ ทไี่ ม่ ถูกต้ อง ทั้งนีใ้ นการสนทนา
นอกจากจะต้ องใช้ ภาษาทีถ่ ูกต้ องแล้ วยังต้ องพิจารณาความ
เหมาะสมของคู่สนทนา
ใช้ คาสุ ภาพ ไม่ เช่ นนั้นอาจจะเป็ นการสื่ ออารมณ์ ให้ คู่
สนทนาไม่ พอใจได้
เคารพในสิ ทธิ์และข้ อมูลส่ วนบุคคลของผู้อนื่ เช่ น ไม่
แอบอ่ านอีเมล์ ของผู้อนื่ ไม่ แอบดูข้อมูลชื่อผู้ใช้ (User name)
และรหัสผ่ าน (Password) ของผู้อนื่ ขณะใช้ งาน ไม่ ชาเลืองมอง
หน้ าจอภาพขณะทีผ่ ้ ูอนื่ ใช้ งานอินเทอร์ เน็ตอยู่ ไม่ เผยแพร่ ข้อมูล
ส่ วนตัวของผู้อนื่
ปฏิบัตติ ามข้ อตกลงการใช้ งานอินเทอร์ เน็ตที่ได้ ให้ ไว้ กบั
ครู หรือผู้ปกครองอย่ างเคร่ งครัด เช่ น จานวนชั่วโมงต่ อวันที่
จะใช้ งานอินเทอร์ เน็ตได้ ใช้ อนิ เทอร์ เน็ตเพือ่ ประโยชน์ ในการ
เรียน ใช้ อนิ เทอร์ เน็ตในสถานทีท่ ผี่ ู้ปกครองหรือครู ดูแลได้ อย่ าง
ทั่วถึง
การนาข้ อมูลหรือโปรแกรมจากอินเทอร์ เน็ตมาใช้ งาน
ต้ องปฏิบัติตามข้ อกาหนดในการใช้ หรือข้ อกาหนดในกฎหมาย
และควรตรวจสอบสิ ทธิ์ของการนาข้ อมูลหรือโปรแกรมก่ อน
นามาใช้ งาน เช่ น สามารถนามาใช้ ได้ แต่ ต้องมีการอ้ างอิง
แหล่ งที่มา สามารถนามาใช้ ได้ แต่ ห้ามนาไปเผยแพร่ หรือ
สามารถนาไปใช้ ได้ แต่ ห้ามทาเพือ่ การค้ า ทั้งนีก้ ารใช้ งานข้ อมูล
ใดๆ ต้ องอ้ างอิงถึงแหล่ งที่มาเสมอ
กลอนเตือนใจวัยซนคนยุคเน็ต 1
เด็กยุคใหม่ ใสซื่อ ไม่ ถอื เคล็ด
จะเล่ นเน็ต คราใด จาไว้ หนา
เขียนหนังสื อ สื่ อสาร จานรรจา
ต้ องรู้ ค่า ภาษาไทย ทีใ่ ช้ กนั
เขียนถึงใคร ให้ ใช้ คา ที่ควรคู่
ส่ งถึงครู ผู้ปกครอง ต้ องคัดสรร
ส่ งถึงเพือ่ น อาจใช้ คา ทีค่ ุ้นกัน
รู้ เท่ าทัน ว่ าคาไหน ใช้ กบั เกลอ
กลอนเตือนใจวัยซนคนยุคเน็ต 2
เด็กยุคใหม่ วัยคะนอง สมองเพชร
มักเล่นเน็ต เป็ นประจา สมา่ เสมอ
หาข้ อมูล ทีส่ นใจ ใคร่ เจอะเจอ
ติดต่ อเกลอ เก่าใหม่ ในพริบตา
แต่ ควรนึก ระลึกไว้ เมือ่ ใช้ เน็ต
อย่ าลา้ เขต ลา้ สิ ทธิ์ใคร ในทุกท่ า
“ชื่อผู้ใช้ ” รหัสผ่าน งานนานา
นั้นจงอย่ า แอบไปรู้ ดูของใคร
ข้ อมูลที่ ค้ นคว้ า หามานั่น
จะเผยแพร่ ต่ อต่ อกัน นั้นได้ ไหม
จะใช้ งาน ต้ องขอ สิ ทธิ์ต่อใคร
ยามจะใช้ ต้ องอ้างแหล่ ง แห่ งที่มา
แม้ ว่าการใช้ งานอินเทอร์ เน็ตจะส่ งผลดีในด้ านของการ
รับรู้ ข่าวสารและความรู้ ได้ อย่ างไม่ มีทสี่ ิ้นสุ ด แต่ ถ้ามองในมุม
กลับกันพบว่ าข้ อมูลข่ าวสารนั้นมีท้งั ด้ านบวกและลบ
เพราะฉะนั้นผู้ใช้ งานจึงต้ องตระหนักถึงภัยทีอ่ าจเกิดขึน้ กับ
ตนเอง หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ ทใี่ ช้ งานอยู่ด้วย
กาพย์ เตือนใจวัยซนคนยุคเน็ต
เล่ นเน็ตให้ สนุก
ต้ องรู้ เท่ าทันภัย
ข้ อมูลทั้งของตัว
ไปให้ ผ้ อู นื่ เขา
โดยเฉพาะจากเว็บไซต์
พบกันจะกีค่ รั้ง
ด้ วยอาจนาไปสู่
คนร้ ายที่หมายปอง
พบภาพหรือข้ อความ
แจ้ งครู ให้ ร้ ู ท่า
ระแวดระวังไว้
ไร้ ทุกข์ เพราะรู้ ทนั
ไม่ เกิดทุกข์ ระทมใจ
อย่าปล่อยให้ ทาร้ ายเรา
และครอบครัวไม่ ควรเอา
จะเศร้ าใจในภายหลัง
บล็อกใดใดให้ ระวัง
ก็ควรคิดพินิจตรอง
การข่ มขู่ควรปิ ดช่ อง
ประสงค์ ร้ายในภายหน้ า
ไม่ เหมาะตามทีร่ ้ ู มา
หาวิธีทปี่ ้ องกัน
เล่ นเน็ตได้ อย่ างสุ ขสั นต์
ควรหมัน่ คิดสั กนิดเอย
การป้ องกันภัยที่อาจเกิดขึน้ กับตนเอง
ไม่ เปิ ดเผยข้ อมูลส่ วนตัวของตนและครอบครัว ข้ อมูล
ส่ วนตัว เช่ น ทีอ่ ยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรเครดิต
ชื่อจริง ชื่อโรงเรียน ให้ กบั บุคคลอืน่ ทีไ่ ม่ รู้ จกั ทางอินเทอร์ เน็ต
โดยเฉพาะอย่ างยิง่ ในเว็บไซต์ เครือข่ ายสั งคม เช่ น
www.hi5.com, facebook.com ซึ่งอาจเป็ นหนทางนาไปสู่ การ
ข่ มขู่หรือประทุษร้ ายต่ อไปได้
ไม่ เปิ ดเผยข้ อมูลส่ วนตัวในการแสดงความคิดเห็นใน
เว็บไซต์ ต่างๆ ไม่ ว่าจะเป็ นการกระทา หรือแม้ กระทั่งแนวคิดก็
ตาม เพราะอาจถูกนาไปใช้ เป็ นหลักฐานในการกล่ าวอ้ างใน
อนาคตได้
หากพบข้ อความ รู ปภาพ หรือสื่ อทีไ่ ม่ เหมาะสม ให้ แจ้ ง
ครู หรือผู้ปกครองทราบเพือ่ ดาเนินการต่ อไป
ไม่ นัดหมายกับบุคคลแปลกหน้ าทีส่ นทนาทาง
อินเทอร์ เน็ต เพราะอาจเป็ นช่ องทางให้ ถูกล่ อลวงได้ ง่าย
การป้ องกันภัยไม่ ให้ เกิดความเสี ยหายกับ
ซอฟต์ แวร์ ในระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ งานอยู่
1) ไม่ เปิ ดอีเมล์ หรือรับไฟล์ ทสี่ ่ งมาจากบุคคลทีไ่ ม่ ร้ ู จกั
2) ระมัดระวังการเปิ ดอีเมล์ หรือรับไฟล์ ทสี่ ่ งมาจากบุคคลทีร่ ้ ู จกั
เพราะอาจมีผู้แอบอ้ างใช้ ชื่อและอีเมล์ เดียวกันส่ งไวรัสมาให้
ต้ องมีตรวจสอบให้ แน่ ใจก่ อนว่ าบุคคลทีร่ ู้ จกั ได้ ส่งอีเมล์ หรือ
ไฟล์ มาให้ จริง
3) ติดตั้งโปรแกรมป้ องกันไวรัส เพือ่ ตรวจสอบไฟล์ หรือ
โปรแกรมทีไ่ ด้ รับมาก่ อนทุกครั้ง
4) ปรับปรุง (Update) โปรแกรมป้องกันไวรัสอย่ างสม่าเสมอ เพือ่ ให้
โปรแกรมรู้จักและสามารถป้องกันไวรัสใหม่ ๆ ได้
5) ปรับปรุงระบบปฏิบัติการทีใ่ ช้ อย่ างสม่าเสมอ เพราะว่ าผู้ผลิต
ระบบปฏิบัติการจะมีการค้ นพบช่ องโหว่ ของระบบปฏิบัติการของ
ตนอยู่ตลอดเวลา และจะมีการเขียนโปรแกรมเสริม (Updates หรือ
Service Packs) ออกมาเพือ่ แก้ไขช่ องโหว่ ดังกล่าวใน
ระบบปฏิบัติการทีใ่ ช้ อยู่ในปัจจุบัน การปรับปรุงดังกล่าวสามารถทา
ได้ โดยอัตโนมัติเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ เชื่อมต่ อกับอินเทอร์ เน็ต
6) การทาธุรกรรมบนเว็บทีต่ ้ องใช้ ชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่ าน ต้ องทาการ
ตรวจสอบเว็บไซต์ ให้ ถูกต้ อง เพือ่ ป้องกันเว็บไซต์ ปลอม
(Phishing) ทีโ่ จรกรรมชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่ านไปใช้ เพือ่ ทาให้ เกิดความ
เสี ยหาย
กลอนเตือนใจวัยซนคนยุคเน็ต 3
เราวัยรุ่น ควรเข้ าใจ เรื่องไวรัส
แม้ เจนจัด แค่ ไหน ต้ องใฝ่ หา
โปรแกรมดี เอาไว้ ใช้ เป็ นยา
สาหรับฆ่ า ไวรัสที่ ราวีเรา
จะรับสาร จากผู้ใด ให้ ย้งั คิด
ว่ าอาจติด โรคร้ าย ได้ จากเขา
คนแปลกหน้ า ให้ มา อย่ ารับเอา
ระบบเรา จะป่ วยได้ รู้ ไว้ เอย