การใช้กรรมวิธี Out sourcing

Download Report

Transcript การใช้กรรมวิธี Out sourcing

IS638 การจัดหาทรัพยากรสารสนเทศ
การจัดหาทรัพยากรสารสนเทศด้วยวิธี Outsourcing
Asst.Prof. Dr.Surasak Mungsing
Information Science Institute of
Sripatum University
ข้ อพิจารณาเกีย่ วกับการจัดหาระบบสารนเทศ
•- การสร้ างต้ นแบบ (Prototyping)
•- Repid Application Development (RAD)
•- End – User Systems Development Life Cycle
•- Outsourcing
• The Capability Maturity Model (CMM)
2
การสร้ างต้ นแบบ Prototyping
แบ่งออกเป็ น 2 แบบ
1. Operational Prototype
2. Nonoperational Prototype
กระบวนการสร้ างต้ นแบบ (Prototype Process)
กำหนดควำมต้ องกำร
ออกแบบต้ นแบบ
นำต้ นแบบไปใช้
ปรั บแต่ งต้ นแบบ
ต้ นแบบที่สมบูรณ์
4
เครื่องมือการพัฒนาต้ นแบบ (Prototyping Tools)
5
ข้ อดีของการพัฒนาต้ นแบบ
- สามารถหลีกเลี่ยงการเข้ าใจผิดระหว่างผู้ใช้ และผู้พฒ
ั นา
- นักพัฒนาสามารถสร้ างข้ อกาหนดสาหรับระบบที่ต้องการได้ ถกู ต้ อง
แม่นยา
- ผู้จดั การระบบสามารถประเมินแบบจาลองที่ใช้ งานได้ อย่างมี
ประสิทธิภาพมากกว่าข้ อกาหนดที่เขียนเป็ นเอกสาร
- นักวิเคราะห์ระบบสามารถใช้ ตวั ต้ นแบบในการพัฒนาการทดสอบ การ
ฝึ กอบรม ก่อนที่ระบบจริงจะเสร็จสมบูรณ์และพร้ อมใช้ งาน
- ลดความเสี่ยงในความล้ มเหลวการพัฒนาระบบได้
6
Rapid Application Development (RAD)
- พัฒนาขึ้น ค.ศ.1990
- นาจุดอ่อนของระบบ SSADM
7
ขั้นตอนการทางานของวงจรการพัฒนาแบบ RAD
1. การกาหนดความต้ องการ
2. การออกแบบโดยผู้ใช้
3. การสร้ างระบบ
4. การเปลี่ยนระบบ
8
ขั้นตอนการทางานของวงจรการพัฒนาแบบ RAD
9
การพัฒนาระบบ (SDLC) สู่ การพัฒนาแบบ RAD
Project Identification
and Selection
Planning
Project Initiation and
Planning
Analysis
Design
Logical Design
Physical Design
Development
Implementation
Maintenance
Cutover
10
Extreme Programming (XP)
- กาเนิดขึ้น ค.ศ. 1996
- โดย Kent Beck
- แตกต่างจากระบบอื่น คือ เน้นการมีส่วนร่ วมของ
ผูจ้ ดั การ ลูกค้า และผูพ้ ฒั นาซอฟแวร์
- จิกซอ
11
Extreme Programming (XP)
ปรั ชญำของ XP
1. Communication
2. Simple
3. Feedback
4. Courage
12
ตัวอย่ าง Extreme Programming (XP)
13
Joint Application Development (JAD)
14
ผู้เข้ าร่ วมการดาเนินการเก็บรวบรวมข้ อมูลด้ วยเทคนิค JAD
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
JAD Session Leader
Users
Manager
Sponsor
System Analyst
Scribe
IS Staff
15
End-User Systems Development Life Cycle
- เป็ นการพัฒนาระบบสารสนเทศโดยผู้ใช้ ซึง่ อาศัยความ
ช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญน้ อยมากหรื อไม่ได้ ใช้ เลย
- วิธีนี ้มีความเป็ นไปได้ เนื่องจากความก้ าวหน้ าของ
โปรแกรมสาเร็จรูป
- ทาให้ ผ้ ใู ช้ สามารถพัฒนาระบบขึ ้นมาด้ วยตนเอง
16
สาเหตุของ End-User Development
•
•
•
•
•
•
•
•
คอมพิวเตอร์ มีความสามารถมากขึ ้น
ราคาคอมพิวเตอร์ ถกู ลง
ซอฟต์แวร์ มีความสามารถและมีให้ เลือกมากขึ ้น
การพัฒนาระบบทาได้ ง่ายและเร็ วขึ ้น
ผู้ใช้ งานมีความรู้มากขึ ้น
หน่วยงานสารสนเทศไม่สามารถพัฒนาระบบได้ ทนั กับความต้ องการ
ความต้ องการส่วนใหญ่เป็ นงานด้ านธุรกิจซึง่ ผู้ใช้ มีความรู้มากกว่า
ส่วนใหญ่เป็ นระบบเฉพาะและมีขนาดเล็ก
• ผู้ใช้ ต้องการควบคุมระบบเอง
• ถูกกว่าวิธี SDLC
17
ปัญหาและวิธีแก้ ไขของ End-User Development
• การไม่มีมาตรฐานของฮาร์ ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ที่นามาใช้
• การที่ระบบถูกแบ่งเป็ นระบบย่อยที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้
• การสิ น้ เปลื อ งงบประมาณในการจัด หาฮาร์ ด แวร์ แ ละซอฟต์ แ วร์ ที่
แยกกัน
• ความไม่สมบูรณ์ของระบบที่พฒ
ั นาขึ ้นมาใช้ งาน
วิธีการแก้ ปัญหา
• Coordination
• Support
• Evaluation
ข้ อดีของการพัฒนาระบบแบบ End-User
• ประสิทธิภาพในการทางานสูงขึ ้น
• การศึกษาหาความต้ องการของผู้ใช้ จะทาได้ ดีขึ ้น
• ผู้ใช้ ระบบมีสว่ นร่วมในการพัฒนาระบบมากขึ ้น
ข้ อจากัดของการพัฒนาระบบแบบ End-User
• โปรแกรมสาเร็จรูปหรื อภาษายุคที่ 4 ยังไม่สามารถแทนที่ภาษา
โปรแกรมเดิมได้
• ในกรณีที่งานมีความซับซ้ อนและต้ องใช้ ข้อมูลจานวนมาก
ทีม่ าของแนวคิดเกีย่ วกับการจ้ างบริษัทภายนอกสาหรับ
ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Outsourcing)
•
•
•
•
•
ความสนใจในเรื่ องการจัดการเกี่ยวกับต้ นทุนและคุณภาพ
ความเปลี่ยนแปลงทางด้ านเทคโนโลยี
การใช้ เทคโนโลยีเฉพาะทางและทักษะเฉพาะด้ าน
ความกดดันจากผู้ขาย
ปั จจัยทางการเงิน
ความหมายของการจ้ างบริษัทจากภายนอกสาหรับ
เทคโนโลยีสารสนเทศ
• การจ้ างบริ ษัทจากภายนอกสาหรับเทคโนโลยีสารสนเทศ คือ
การว่าจ้ างกลุม่ บุคคลากรหรื อหน่วยงานภายนอกที่มีความรู้
ความสามารถมาให้ บริ การต่างๆทางด้ านระบบสารสนเทศ
ตามที่องค์กรว่าจ้ างต้ องการ โดยการมอบหมายภาระงาน และ
ความรับผิดชอบทังหมดที
้
่เกี่ยวข้ องกับบริ การนันๆ
้ ไปให้ กบั
แหล่งภายนอก เช่น การจัดหาและดาเนินการประมวลผล การ
จัดการ การบารุงรักษา เป็ นต้ น
เหตุผลในการใช้ บริการจากภายใน
(Internal Resources)
• เพื่อสงวนรักษาบุคคลากรที่มีทกั ษะที่สามารถตอบสนองความ
ต้ องการโดยตรงขององค์กรไว้
• เพื่อให้ ได้ รับการบริ การที่จาเป็ นและมีคา่ ใช้ จ่ายต่า
• เพื่อนาทักษะและความเชี่ยวชาญของบุคคลากรที่มีอยูม่ าเป็ น
ประโยชน์เพื่อบรรลุวตั ถุประสงค์ขององค์กร
• เพื่อให้ มีกรรมสิทธิ์และการบริ หารทรัพยากรและบุคลากรอย่าง
เต็มที่
25
การวิเคราะห์ ต้นทุนและผลประโยชน์ (Cost-Benefit)
เมื่ อ ทราบความต้ องการและเป้ าหมายของการ
ด าเนิ น การแล้ ว ควรจะต้ องท าการวิ เ คราะห์ ต้ นทุ น และ
ผลประโยชน์ (Cost-Benefit) อย่างละเอียด ระบุต้นทุนและกาไร
ของการดาเนินงาน โดยใช้ สารสนเทศจากทังแหล่
้ งภายในและ
ภายนอก เพื่อให้ มีการเปรี ยบเทียบได้ อย่างมีประสิทธิ ภาพและ
สมเหตุสมผล
ทางเลือกของการจ้ างบริษัทจากภายนอก
มีอยู่ 2 ทางเลือก
1. การจ้ างงานจากผู้ให้ บริ การภายนอก
ทังหมด
้
(Total Outsourcing)
2. การจ้ างงานจากผู้ให้ บริ การภายนอกเพียง
บางเรื่ อง (Selective Outsourcing)
มูลเหตุจูงใจในการตัดสิ นใจจ้ างแบบ Outsourcing
มูลเหตุจงู ใจ
• ด้ านเทคโนโลยี
• ด้ านการเงิน
• ด้ านการจัดการ
28
ระบบสารสนเทศที่ไม่ ควรใช้ วธิ ีจ้างงานจากภายนอก
• ระบบงานที่ยากต่อการลอกเลียนหรื อถ่ายโอนไปให้ ผ้ อู ื่น
• ระบบงานที่เป็ นปั จจัยสาคัญที่ทาให้ ประสบความสาเร็จ
ในธุรกิจ
• ระบบงานมีองค์ประกอบที่ทาให้ มีข้อได้ เปรี ยบในการ
แข่งขัน
29
ระบบสารสนเทศประเภทใดที่ควรใช้ วธิ ีจ้างแบบ
Outsourcing
•
•
•
•
เป็ นระบบที่มิได้ สง่ ผลกระทบต่อการแข่งขันขององค์กร
เป็ นระบบที่มีความเป็ นมาตรฐานสูง
เป็ นระบบที่อิสระไม่เกี่ยวพันกับงานระบบอื่นๆ
ถ้ าเกิดขัดข้ องจากแหล่งภายนอกแล้ ว จะไม่ก่อให้ เกิด
ความเสียหายอย่างร้ ายแรงกับองค์กร
30
ปัจจัยสู่ ความสาเร็จ
• ควรกระทาโดยการใช้ กระบวนการในการตัดสินใจอย่าง
ระมัดระวัง
• ต้ อ งพิ จ ารณาเลื อ กระบบงานและเลื อ กผู้ ให้ บริ ก ารที่
เหมาะสมที่สดุ สาหรับองค์กรโดยไม่ขึ ้นกับองค์กรอื่น
• ต้ องทาความเข้ าใจสภาพการขององค์กรเอง
31
ความล้ มเหลวในการจ้ างงานจากภายนอก
สาหรับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
• ผู้บริ หารไม่เข้ าใจเทคโนโลยีที่จะต้ องบริ หาร
• องค์กรไม่สามารถระบุความต้ องการต่อระบบงานที่
แท้ จริ งออกมาได้ ทงหมด
ั้
• ความสามารถด้ านการเจรจาต่อรองและการพิจารณา
เนื ้อหาในสัญญาว่าจ้ าง
• ความสามารถด้ านการประสานงานกับผู้ให้ บริ การ
32
ขั้นตอนในการจัดจ้ างแบบ Outsourcing
1. จัดตังคณะท
้
างานกับแหล่ง Outsource
2. ระบุข้อกาหนดความต้ องการใช้ บริ การที่แท้ จริ ง
3. ดาเนินการจัดทาเอกสารเชิญชวนยื่นข้ อเสนอ
4. ประเมินข้ อเสนอ
5. ประเมินผู้เสนอให้ บริ การ
6. เจรจาต่อรองในการทาสัญญา
ลักษณะของเอาต์ ซอร์ สในปัจจุบัน
34
•
-สถาบัน SEI แห่ง ม.คาร์เนกี เมลลอน สหรัฐฯ
- พัฒนาให้แก่ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
35
The Capability Maturity Model
(CCM)
• สถาบัน SEI แห่ง ม.คาร์ เนกี เมลลอน สหรัฐฯ
• พัฒนาให้ แก่ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
The Capability Maturity Model (CMM)
38
ประโยชน์ ของ CMM ในกำรพัฒนำซอฟต์ แวร์
• การทางานเป็ นระบบมากขึ ้น
•การทางานทุกอย่างมีร่องรอยหรื อหลักฐาน
• ให้ ตรวจสอบได้ ง่ายขึ ้นและสมบูรณ์มากขึ ้น
• มีการจดบันทึกรายละเอียดระหว่างการทางานมากขึ ้น
• การเจรจากับลูกค้ าก็มีการบันทึกเป็ นหลักฐานและมีการ
•ยืนยันทาความเข้ าใจระหว่างกันมากขึ ้น
* บริ ษัทจะมีวฒ
ั นธรรมการทางานที่เป็ นแบบเดียวกัน
39
CMM ในประเทศไทย
• เขตอุตสาหกรรมซอฟแวร์ แห่งประเทศไทย หรื อ Software
Park นามาเผยแพร่
• พัฒนาอาจารย์ผ้ สู อน รวมทังฝึ
้ กอบรมอาจารย์ให้ เป็ น
Authorized Lead Assessor ทังหมด
้
6 คน ได้ แก่ ศ.ดร.
ครรชิต มาลัยวงศ์ (ช่วงระยะเวลา 4 ปี )
40
ผู้ประกอบการซอฟแวร์ ได้ รับมาตรฐานประเภท CMM
สารวจตั้งแต่ ปี พ.ศ.2542
CMM ระดับ 2 จานวน 14 บริ ษัท
CMM ระดับ 3 จานวน 4 บริ ษัท
CMM ระดับ 4 จานวน 1 บริ ษัท
CMMI ระดับ 2 จานวน 1 บริ ษัท
เช่น บริ ษัท C.S.I.(Thailand) Co.,Ltd.
* CMMI ระดับ 5 จานวน 1 บริ ษัท
เช่น บริ ษัท Reuters Softwere (Thailand) Limited
•
•
•
*
41