การออกแบบแผนผัง

Download Report

Transcript การออกแบบแผนผัง

่
บทที 4
การวางแผนจัดวางสิง่
อานวยความสะดวก
1
่
สิงอานวยความสะดวก


่ กรทีจ่ ำเป็ น
อุปกรณ์ เครืองจั
ส ำหร บ
ั กระบวนกำรผลิต หรือ กระบวนกำร
บริกำร
เหตุ ผ ลที่ต อ้ งมีก ำรวำงแผนกำรจัด วำงสิ่ง
อำนวยควำมสะดวก
Facilities ::::
่
เปลียนแปลงยำก
แพง เสียเวลำ
 มีผลต่อประสิทธิภำพของกระบวนกำรผลิตหรือ
้
กระบวนกำรบริก ำร รวมทังขวั
ญ และก ำลังใจ2

้
ขันตอนการออกแบบแผนผั
ง
แบ่งเป็ น 4 ระยะ
่ ง(
้ Plant Location)
กำรเลือกทำเลทีตั
่
 กำรพิจำรณำลักษณะทัวไปของอำคำร

(Plant Building)
กำรออกแบบแผนผัง (Plant Layout)
้ (Installation)
 กำรติดตัง

3
4.1 ความสาคัญของการเลือก
่ ง้
ทาเลทีตั
1.
2.
มีผ ลต่อ การด าเนิน การขององค์ก ร
ในระยะยาว เนื่ อ งจากการเปลี่ย น
ท าเล ท าให ้เกิด ค่ า ใช จ่้ า ยในการ
ย ้าย
ส่ง ผลกระทบต่ อ ค่ า ใช จ่้ า ยในการ
ด า เ นิ น ก า ร ผ ลิ ต ร า ย รั บ แ ล ะ
รูปแบบการผลิต
4
่
้
การเลือกทาเลทีตัง

กำรเลือ กท ำเลไม่ เ หมำะสม อำจส่ ง ผล
กระทบ ได ้แก่
ค่ำใช ้จ่ำยในกำรขนส่ง
 กำรขำดแคลนแรงงำน
 เสียเปรียบคูแ
่ ข่งในด ้ำนกำรตลำด
 วัตถุดบ
ิ ไม่เพียงพอ
 ส ภ ำ พ ก ำ ร ผ ลิ ต ส่ ง ผ ล ท ำ ใ ห ้เ กิ ด ก ำ ร
เสียหำยได ้

5
่
รู ปแบบของการเพิม
ความสามารถในการผลิต
1.
้ ่ขององค ก
การขยายพืนที
์ รปั จจุ บ น
ั
(Expanding an Existing Plant)
2.
3.

่
ค่ำใช ้จ่ำยน้อยกว่ำรูปแบบอืน

่ นกำรขำยเป็ นหลัก
สำหร ับองค ์กรทีเน้
่
การขยายสาขาหรือเพิมโรงงานผลิ
ต
่
่ งใหม่
้
การเปลียนท
าเลทีตั

อำจมำจำกสำเหตุ ได ้แก่ วัตถุดบ
ิ ค่ำใช ้จ่ำย
ในกำรผลิต ลูกค ้ำ เป็ นต ้น
6
้
ขันตอนในการเลื
อกทาเล
่
้
ทีตัง
1.
2.
3.
4.
ก ำหนดเกณฑ ส์ ำหร บ
ั กำรประเมิน แต่ ล ะ
่ ง้
ทำเลทีตั
ก ำหนดปั จ จัย ที่ส ำคัญ ต่ อ กำรเลือ กท ำเล
่ ง้
ทีตั
ก ำหนดทำงเลือ ก โดยพิ จ ำรณำจำก
บ ริ เ ว ณ ก ว ้ ำ ง
ไ ป จ น ถึ ง บ ริ เ ว ณ
เฉพำะเจำะจง
ประเมินทำงเลือกต่ำงๆ แล ้วทำกำรตัดสินใจ
7
่ ผลต่อการเลือก
ปั จจัยทีมี
่
้
ทาเลทีตัง
1.
ควำมใกลก้ บ
ั ทำงสัญจร
(Proximity
to
Highway)
2.
ควำมใกล ้กับสนำมบิน(Access
to a Major
Airport)
3.
4.
แหล่งแรงงำน (Labor Supply)
ควำมใกลก้ บ
ั แหล่งตลำด (Nearness
to
Market)
5.
ควำมใกล ้กับแหล่งวัตถุดบ
ิ
Raw Material)
(Nearness
to
8
่ ผลต่อการเลือก
ปั จจัยทีมี
่
้
ทาเลทีตัง (ต่อ)
6.
7.
8.
9.
10.
่ งขององค
้
ควำมใกล ้กับทีตั
์กรหลัก
(Nearness to an Existing Plant)
่ น (Land)
ทีดิ
กำรขนส่ง (Transportation)
แหล่งนำ้ (Water Supply)
พลังงำนและสำธำรณู ปโภคต่ำงๆ (Power
Supply)
11.
12.
สภำพอำกำศ (Climate)
บริเวณสำหร ับพักอำศัย (Residential Areas)
9
ระเบียบข้อบังคับกฎกระทรวง
ฉบับที่ 2(2535)

้
ข้อ ๑ ห้ามตังโรงงานจ
าพวกที่ ๑ และ
โรงงานจาพวก ๒ ในบริเวณ
่
บ ้ำนจัดสรรเพือกำรพั
กอำศัย อำคำรชุดพักอำศัย
่
และบ ้ำนแถว เพือกำรพั
กอำศัย...
 ภ ำ ยใ น ร ะ ย ะ 5 0 เ ม ต ร จ ำ ก เ ข ต ติ ด ต่ อ
สำธำรณสถำน ...


้
ข้อ ๒ ห้า มตังโรงงานจ
าพวกที่ ๓ ใน
บริเวณ

่
บ ้ำนจัดสรร อำคำรชุดพักอำศัย และบ ้ำนแถวเพื10อ
ระเบียบข้อบังคับกฎกระทรวง
ฉบับที่ 2(2535)



่ ำงำนของหน่ วยงำนของร ฐั
ขอ้ ๓ สถำนทีท
....
้ ่ ในท ำเลและ
โรงงำนจ ำพวก ๓ ... ต อ้ งตังอยู
่
สภำพแวดลอ้ มทีเหมำะสม
มีบริเวณเพียงพอ
... ไม่ ก่ อให เ้ กิด อัน ตรำย เหตุ ร ำคำญ หรือ
ควำมเสียหำย...
โรงงำนจำพวกที่ 1 สำมำรถประกอบกิจกำร
ได ้ทันที
11
การวิเคราะห ์เลือกทาเล
่
้
ทีตัง
1.
วิ ธี ก า รใ ห้ น้ า ห นั ก ค ว า ม ส า คั ญ
(Weighted Method of Factor Rating)



เ ป็ น ก ำ ร วิ เ ค ร ำ ะ ห ์ เ ชิ ง คุ ณ ภ ำ พ
(Qualitative Analysis)
ใ ห ้น้ ำ ห นั ก ข อ ง แ ต่ ล ะ ปั จ จั ย ที่ ส นใ จ
ตำมลำดับควำมสำคัญ
สุ ด ท ำ้ ย รวมน้ ำหนั ก คะแนนของแต่ ล ะ
ท ำเลที่ ตั้ง แล ว้ เลื อ กท ำเลที่ มี น้ ำหนั ก
12
้
ขันตอนในการให้
น้ าหนัก
ความสาคัญ
1.
2.
3.
4.
5.
6.
่ ำกำรพิจำรณำ เช่น แรงงำน
กำหนดปัจจัยทีจะท
ตลำด วัตถุดบ
ิ
้
ให ้นำหนั
กคะแนนแต่ละปัจจัย โดยดูจำก
ควำมสำคัญต่อกำรเลือก
้
กำหนดสเกลสำหร ับกำรให ้นำหนั
กคะแนนแต่ละ
่ ง้ เช่น จำก 0 ถึง 100
ทำเลทีตั
่ งจำกทุ
้
ให ้คะแนนแต่ละทำเลทีตั
กๆ ปัจจัย
่ ง้ โดยรวมผลของ
รวมคะแนนของแต่ละทำเลทีตั
้
นำหนั
กของแต่ละปัจจัย
13
่
เลือกทำงเลือกทีให ้คะแนนสูงสุด
ตย. 4.1 วิธก
ี ารให้น้ าหนัก
ความสาคัญ
ปั จจัย
ควำมใกล ้แหล่ง
วัตถุดบ
ิ
กำรสัญจร
น้ าห ทางเลือ ทางเลือ
ก1
ก2
นัก
60
0.10 100
10
0.05 80
ค่ำเช่ำ
0.40 70
ขนำด
0.10 86
4
28
6
80
90
92
4
36
14
การวิเคราะห ์เลือกทาเล
่
้
ทีตัง (ต่อ)
2.
วิธก
ี ารให้คะแนน
(Point
Rating
หรือ
Rating Plan)




วิธก
ี ำรเชิงคุณภำพ
่ งตำมปั
้
ให ค
้ ะแนนแก่ทำเลทีตั
จ จัยแต่ล ะ
ด ้ำน
ถ ้ำพอใจมำกให ้คะแนนมำก
่ คะแนนสูงสุด
้ มี
่ งที
ตัดสินใจเลือกทำเลทีตั
15
ตย. 4.2 วิธก
ี ารให้ระดับ
คะแนน
ปั จจัย
ความใกล ้กับแหล่ง
วัตถุดบ
ิ
ความใกล ้กับตลาด
แหล่งแรงงาน
การขนสง่
แห่งน้ า
่ ง้
ทาเลทีตั
คะแน
ทาเล ก ทาเล ทาเล
น
ข
ค
400
300
250
150
330
255
125
200
150
150
125
100
200
225
100
150
250
175
125
175
16
การวิเคราะห ์เลือกทาเล
่
้
ทีตัง (ต่อ)
3.
วิธก
ี ารวิเคราะห ์จุดคุม
้ ทุน
Analysis)


(Break-even
วิ ธ ี ก ำ ร วิ เ ค ร ำ ะ ห เ์ ชิง ป ริม ำ ณ ส นใ จ ที่
ค่ำใช ้จ่ำย เป็ นหลัก
้
ขันตอนโดยสรุ
ป
1.
2.
กำหนดค่ำใช ้จ่ำยคงที่ (Fixed
Cost) และ
ค่ำใช ้จ่ำยแปรผัน (Variable Cost) ของแต่ละ
ทำเล
หำควำมสัม พัน ธ ก์ บ
ั ค่ ำ ใช จ้ ่ ำ ยรวม (Total17
่
สมมติฐานในการวิเคราะห ์
จุดคุม
้ ทุน
1.
2.
3.
4.
่ คำ่ คงทีตลอดช่
่
ค่ำใช ้จ่ำยคงทีมี
วงของ
ปริมำณกำรผลิต
่
ค่ำใช ้จ่ำยแปรผันมีคำ่ คงทีตลอดช่
วงของ
ปริมำณกำรผลิต
ระดับปริมำณกำรผลิตสำมำรถประมำณได ้
มีผลิตภัณฑ ์ 1 ชนิ ด
18
การวิเคราะห ์จุดคุม
้ ทุน
ค่ำใช ้จ่ำยรวม = ค่ำใช ้จ่ำยคงที่ + (ค่ำใช ้จ่ำยแปรผัน
* ปริมำณกำรผลิต)
TC = FC + (VC * Q)

TC
=

FC
=

VC
=

Q
=
ค่ำใช ้จ่ำยรวม
ค่ำใช ้จ่ำยคงที่
ค่ำใช ้จ่ำยแปรผัน/หน่ วย
ปริมำณกำรผลิตต่อหน่ วยเวลำ
19
่
ตย.4.3 ค่าใช้จา
่ ยคงทีและ
ค่าใช้จา
่ ยแปรผัน
ทาเล
่ ง้
ทีตั
ก
ข
ค
ง
ค่าใช้จา
่ ยค ค่าใช้จา
่ ยแปรผั
่ อปี
งทีต่
นต่อหน่ วย
250,000
11
100,000
30
150,000
20
200,000
35
20
1. จงเขียนกราฟของค่าใชจ่้ ายรวม
ของแต่ละทาเล
ทาเ
ล
ก
ข
ค
สมการ
250,000 +
11Q
100,000 +
30Q
150,000 +
20Q
Cost @
Q=0
Cost @
Q=10,000
250,00 360,000
0
100,00 400,000
0
150,00 350,000
0
21
พล๊อตกราฟได ้ดังนี้
800
700
600
500
400
300
200
100
0
0
2
4
5
6
8
10
11.11
12
14
16
ทาเล ก ทาเล ข ทาเล ค ทาเล ง
22
2. มี 2 จุดทีจ
่ ะทาให ้เกิดค่าใชจ่้ าย
รวมตา่ สุด



จุดตัดระหว่าง ทาเล ข กับ ทาเล ค ได ้
ิ้ /ปี
Q=5,000 ชน
จุดตัดระหว่าง ทาเล ค กับ ทาเล ก ได ้
ิ้ /ปี
Q=11,111ชน
สรุป

ิ้ /ปี ควรเลือก
ผลิต 0-5,000 ชน
ทาเล ข
23
4.2 การพิจารณาลักษณะ
่
ทัวไปของอาคาร
1.
2.
ลักษณะของกระบวนกำรผลิต (Nature
of Manufacturing Process)
กำรวำงแผนผังและควำมตอ้ งกำรของ
้ ่ (Plant Layout and Space
พืนที
Requirements)
3.
สิ่ ง อ ำ น ว ย ค ว ำ ม ส ะ ด ว ก ต่ ำ ง ๆ
(Facilities)
24
4.2 การพิจารณาลักษณะ
่
ทัวไปของอาคาร
4.
5.
6.
้ ่ ในอนำคต (Future
กำรขยำยพื นที
Expansion)
ภำพลักษณ์ทปรำกฏ
ี่
(Appearance)
้ั
้ั
อำคำรช นเดี
ย ว กับ อำคำรหลำยช น
(Single versus Multistory Buildings)
25
ข้อดีของอาคารแบบต่างๆ

ั ้ เดียว
ข ้อดีของอาคารแบบชน


(1)-(11)
ั้
ข ้อดีของอาคารหลายชน

(1)-(4)
26
4.3 การออกแบบแผนผัง
(Plant Layout)

สำเหตุทผู
ี่ บ้ ริหำรตอ้ งใหค้ วำมสำคัญต่อกำร
ออกแบบผัง
1.
2.
3.

ต ้องมีกำรลงทุนทำงด ้ำนเงินและเวลำ
มี ผ ลต่ อ กำรท ำงำนในระยะยำว ยำกต่ อ กำร
่
เปลียนแปลง
แผนผังของกระบวนกำรผลิตมีผลต่อค่ำใช ้จ่ำย
และประสิทธิภำพของกำรดำเนิ นกำร
่ ำนวยควำม
เป็ นกำรจัดวำงแผนกสำหรบั สิงอ
สะดวกต่ำงๆ
27
การออกแบบแผนผังต้อง
พิจารณาถึง
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
่ กรสำหร ับกำรผลิต
อุปกรณ์ เครืองจั
่
อุปกรณ์สำหร ับกำรเคลือนย
้ำยภำยนอกอำคำร
้
ขันตอนในกำรร
ับวัสดุจำกภำยนอกองค ์กร
กิจกรรมทำงด ้ำนกำรผลิต
ระบบกำรขนถ่ำยลำเลียงวัสดุภำยในองค ์กร
บริเวณสำหร ับกำรควบคุมคุณภำพและ
้
ตรวจสอบชินงำน
กระบวนกำรบรรจุผลิตภัณฑ ์
กระบวนกำรเก็บวัสดุ
กระบวนกำรขำยและช่วยสนับสนุ นกำรผลิต
28
การออกแบบแผนผัง



่ งใหม่
้
สำหร ับทำเลทีตั
หรือ ปร ับปรุงแผนผัง
เดิม
้ ของ
่
เป็ นกำรจัดกำรด ้ำนควำมต ้องกำรพืนที
กิจกรรมต่ำงๆในองค ์กร เช่น สำนักงำน หอ้ ง
เก็บวัสดุคงคลัง ห ้องพัก
จัดว่ำงตำแหน่ งของกิจกรรมต่ำงๆ (โดยดู
จำกควำมสัมพันธ ์) ให ้อยูใ่ นตำแหน่ งที่
เหมำะสม
29
่
การออกแบบแผนผังเพือ
่
เปลียนแปลงแผนผั
งปั จจุบน
ั
1.
2.
3.
4.
5.
6.
กำรดำเนิ นงำนขำดประสิทธิภำพ
เกิดอุบต
ั เิ หตุ และไม่ปลอดภัย
่
เปลียนรู
ปแบบผลิตภัณฑ ์ หรือรูปแบบกำร
บริกำร
ต ้องกำรผลิตสินค ้ำใหม่ หรือกำรบริกำรรูปแบบ
ใหม่
่
มีควำมต ้องกำรในปริมำณกำรผลิตเปลียนไป
่
่
เปลียนวิ
ธก
ี ำรผลิต หรือเปลียนอุ
ปกรณ์สำหร ับ
กำรผลิต
30
่
่ ่
จุดประสงค ์ของการจัดวาง
แผนผัง
1.
2.
3.
4.
5.
ท ำให ก
้ ระบวนกำรผลิต สำมำรถด ำเนิ น กำรได ้
อย่ำงสะดวกรวดเร็ว
่ ใ้ ช ้อุปกรณ์ในกำรขนถ่ำยลำเลียงใหน
เพือให
้ อ
้ ย
่ ด
ทีสุ
่ ้ใช ้พืนที
้ ใช
่ ้สอยให ้เป็ นประโยชน์มำกทีสุ
่ ด
เพือให
เ พื่ อ ส่ ง เ ส ริ มใ ห ้ บุ ค ล ำ ก ร ท ำ ง ำ น อ ย่ ำ ง มี
ประสิทธิภำพมำกขึน้
่ ้คนงำนทำงำนอย่ำงสะดวก ปลอดภัย และ
เพือให
31
รู ้สึกสะดวกสบำย
่ ผลต่อการ
ปั จจัยทีมี
ออกแบบแผนผัง
1.
ชนิ ดของผลิตภัณฑ ์


2.
ผลิต ภัณ ฑ ข
์ นำดใหญ่ น้ำหนั ก มำก มัก วำง
่ ำ้
่
่ กรเคลือนที
ผังโดยใหค้ นงำนและเครืองจั
เข
หำงำน
พวกแป้ ง ธัญ พืช ปู น ซีเ มนต ์ มัก ออกแบบ
อำคำรหลำยชน้ั
ปริมำณหรืออัตรำกำรผลิต

ส่ ง ผลถึ ง ขนำดอำคำร จ ำนวนสิ่ งอ ำนวย
32
่ ผลต่อการ
ปั จจัยทีมี
ออกแบบแผนผัง (ต่อ)
3.
คุณภำพ

4.
่ กคำ้
ช่วยทำใหผ
้ ลิตภัณฑ ์มีคุณภำพตำมทีลู
ต ้องกำรได ้
อุปกรณ์

ก ำ ร อ อ ก แ บ บ ต ้ อ ง ศึ ก ษ ำ ข ้ อ ก ำ ห น ด
(Specification)

ร ะ เ บี ย บ ข ้อ บั ง คั บ ก ฎ ก ร ะ ท ร ว ง ฉ บั บ ที่
2(2535) ออกตำมควำม พรบ .โรงงำน
พ . ศ . 2 5 3 5 ใ น ห ม ว ด 2 ( 3 ) ก ล่ ำ ว ถึ ง
่ กร เครืองอุ
่ ปกรณ์ หรือสิงที
่ น
่ ำมำใช33้
เครืองจั
่ ผลต่อการ
ปั จจัยทีมี
ออกแบบแผนผัง (ต่อ)
ระเบี ย บข้อ บัง คับ กฎกระทรวงฉบับ ที่
2(2535)
่ กร เครืองอุ
่ ปกรณ์ หรือสิงที
่ ่
ข ้อ 6 เครืองจั
นำมำใช ้ในโรงงำน




(1) – (11)
่
จกำรสร ้ำงหรือซ่อม
ข ้อ 9 โรงงำนทีประกอบกิ
หม้อไอนำ้ (boiler)
ข ้อ 10 โรงงำนจะต ้องมีวธิ ก
ี ำรควบคุมกำร
ปล่อยของเสีย
่
34
่ ผลต่อการ
ปั จจัยทีมี
ออกแบบแผนผัง (ต่อ)
5.
6.
7.
8.
9.
อาคาร
่ อตงอาคาร
้ั
สถานทีก่
บุคลากร :::
คำนึ งถึงควำมปลอดภัย
และควำมพอใจ
การวางแผนเกี่ ยวกับ การขนถ่ า ย
ลาเลียง
่
การควบคุ ม สภาวะแวดล้อ มซึงจะมี
ผลต่อคุณภาพ
35
่ ผลต่อการ
ปั จจัยทีมี
ออกแบบแผนผัง (ต่อ)
11.
ความปลอดภัย

อุบต
ั เิ หตุ ::: เหตุกำรณ์ทเกิ
ี่ ดขึน้
โดยไม่ ไ ด ว้ ำงแผนหรือ คำดกำรณ์
ไว ล้ ่ ว งหน้ำ สำมำรถท ำให เ้ กิด ผล
กระทบต่ อ กำรท ำงำน ทร พ
ั ย ส์ ิ น
ไดร้ บั ควำมเสียหำย หรือ เกิดกำร
บำดเจ็บ พิกำร หรือตำยได ้
36
่ ผลต่อการ
ปั จจัยทีมี
ออกแบบแผนผัง (ต่อ)
สาเหตุทาให้เกิดอุบต
ั เิ หตุ
1.
2.
3.
สำเหตุทเกิ
ี่ ดจำกคน
่ กร
สำเหตุทเกิ
ี่ ดจำกเครืองจั
่
สำเหตุทเกิ
ี่ ดจำกสิงแวดล
้อมที่
ไม่สำมำรถควบคุมได ้
37
หลักการ 3E
หลักการสร ้างความ
ปลอดภัยในโรงงาน
1.
2.
3.
Engineering (วิศวกรรมศำสตร ์) ::: กำรใช ้
คว ำ ม รู ด
้ ำ้ น วิ ศ วกร ร ม ศ ำส ตร ม์ ำออกแบบ
่
่
เครืองมื
อ เครืองจั
ก ร ให ม
้ ีส ภำพกำรใช ้งำนที่
ปลอดภัย
Education (กำรศึกษำ) ::: กำรให ้ควำมรู ้
่
ควำมเข ำ้ ใจเกียวกั
บ กำรป้ องกัน อุ บ ต
ั ิเ หตุ แ ละ
เสริม สร ำ้ งควำมปลอดภัยให ก
้ ับ บุ ค ลำกรใน
องค ์กร
่
Enforcement (กำรสังกำร)
::: กำรออก38
้
รู ปแบบพืนฐานของแผนผัง
1.
รู ป แ บ บ ก า ร จั ด ว า ง แ ผ น ผั ง ต า ม
ผลิตภัณฑ ์
(Product Layout)

สำหรบั กำรผลิตผลิตภัณฑ ์จำนวนมำก
Mass
Production



ในกำรผลิ ต ผลิ ต ภั ณ ฑ แ์ ต่ ล ะชนิ ด จะน ำ
่ กรมำเรียงตำมลำดับขันตอน
้
เครืองจั
สำยกำรผลิต (Production Line)
39
สำยกำรประกอบ (Assembly Line)
Product Layout
Material
Customer
สถานี ท ี่ 1
Material or
Man
สถานี ท ี่ 2
Material or
Man
สถานี ท ี่ 3
Material or
Man
สถานี ท ี่ 4
Material or
Man
วัตถุดบ
ิ
แท่นกลึง
แท่นเจำะ
แท่นกลึง
A
วัตถุดบ
ิ
แท่นเจำะ
แท่นกัด
แท่นกลึง
B
วัตถุดบ
ิ
แท่นกลึง
แท่นกัด
แท่นเจำะ
C
A
B
C
Finished
Goods
40
ข้อดีของการจัดวางตาม
ผลิตภัณฑ ์
1.
2.
3.
4.
5.
ให ้อัตรำกำรผลิตสูง เนื่ องจำกสำมำรถ
ผลิตได ้เร็ว
้
่ำ
ต ้นทุนต่อหน่ วยชินงำนต
คนงำนไม่ต ้องมีทก
ั ษะในกำรทำงำนสูง
้
เพรำะงำนซำๆ
ค่ำใช ้จ่ำยในกำรขนถ่ำยลำเลียงต่ำ
่ กรสูง
อรรถประโยชน์ของคนและเครืองจั
41
ข้อเสียของการจัดวางตาม
ผลิตภัณฑ ์
1.
2.
3.
4.
5.
้
คนงำนจะมีควำมรู ้สึกว่ำเป็ นกำรทำงำนซำซำก
เบือ่
คนงำนมีทก
ั ษะต่ำ จึงไม่ สนใจคุณภำพของงำน
่ กร
และเครืองจั
่
เกิดควำมยุ่ง ยำก เมื่อเปลียนปริ
ม ำณกำรผลิต
่
หรือเปลียนรู
ปแบบกระบวนกำรผลิต
่ กรในกระบวนกำรผลิตหยุดทำงำน 1
ถ ้ำเครืองจั
่ ส่งผลต่อกำรผลิตโดยรวม
เครือง
ควรมี ก ำรบ ำรุ ง ร ก
ั ษำเชิง ป้ องกัน (Preventive
42
่ งผลให ้มีคำ่ ใช ้จ่ำยเกิดขึน้
Maintenance) ซึงส่
การจัดวางแบบตวั U (U-Shaped
Layout)
้ ในกำรจั
่
ใช ้พืนที
ด วำงน้อ ยกว่ำ มีล ก
ั ษณะเป็ นกลุ่ม
มำกขึน้
่
ำงคนงำน ทำงำนเป็ น
 ช่ว ยในกำรติดต่อ สือสำรระหว่
ทีมขึน้
่ กรอัตโนมัต ิ ไม่
 ไม่ เ หมำะ :::
กรณี ของเครืองจั
่
น3
ระหว่ำงคนงำน +
1กำรติดต่อ2สือสำรกั
เขจ้ำำเป็ นตอ้ งมี
บริเวณงำนเข ้ำและงำนออกใกล ้กัน

ออก
4
7
6
5
43
้
รู ปแบบพืนฐานของแผนผั
ง
(ต่อ)
2.
รู ป แบบการจัด วางตามกระบวนการ
ผลิต
(Process Layout)




่ กรให ้เป็ นหมวดหมู่
วำงกลุม
่ ของเครืองจั
กำรจัดวำงตำมหน้ำที่ (Functional Layout)
เหมำะกับกำรผลิตผลิตภัณฑ ์หลำกหลำย
แต่ละผลิตภัณฑ ์มีกระบวนกำรผลิตแตกต่ำง
กัน และ
44
Process Layout
เจำะ 1
กัด 2
เจำะ 2
Product C
กลึง 3
แผนกร ับ-ส่งของ
Product B
กัด 1
กลึง 2
ตรวจสอบ
Product A
กลึง 1
่
เชือม
แผนกตัด
แผนกกลึง
45
ข้อดีของการจัดวางตามก
ระบวนการผลิต
1.
2.
3.
ระบบกำรผลิตสำมำรถทำกำรผลิต
งำนได ้หลำกหลำยชนิ ด
่
เครืองจั
ก รสำมำรถใช ้งำนทดแทน
่
กันได ้ ดังนั้นสำมำรถแก ้ปัญหำเมือ
่ กรหยุดทำงำนได ้ทันเวลำ
มีเครืองจั
่ กรตำ่
กำรลงทุนของเครืองจั
46
ข้อเสียของการจัดวางตา
มกระบวนการผลิต
1.
มีง ำนมำกองรอระหว่ ำ งกระบวนกำรผลิต
(Work in-process Inventory; WIP)
2.
3.
4.
5.
6.
เส ้นทำงสำหร ับกำรผลิตสับสน
กำรจัดลำดับกำรผลิตยุ่งยำก (Scheduling)
่
อรรถประโยชน์ข องเครืองจั
ก รต่ ำ เพรำะ
้
่ อย
ต ้องตังเครื
องบ่
จำเป็ นต ้องมีอุปกรณ์ขนถ่ำยลำเลียง เพรำะ
เส ้นทำงไม่แน่ นอน
้
ต ้นทุนกำรผลิตต่อชินจะสู
ง เพรำะเป็ นระบบ
47
้
รู ปแบบพืนฐานของแผนผั
ง
(ต่อ)
3.
รู ปแบบการจัดวางแบบงานอยู ่กบ
ั ที่
(Fixed-Position Layout)



้ ่อคน วัส ดุ
กำรด ำเนิ น กำรผลิต จะเกิด ขึนเมื
่ กร เคลือนที
่
่ ำ้ หำงำน โดยที่ งาน
เครืองจั
เข
อยู ่ก ับที่
เหมำะกับ กำรผลิ ต ที่มี ข นำดใหญ่ เทอะทะ
ยำกแก่กำรขนย ้ำย
่ นขนำดใหญ่ กำรสร ้ำง
เช่น กำรผลิตเครืองบิ
เรือรบ กำรสร ้ำงอู่ต่อเรือ กำรสร ้ำงบำ้ น เป็ น48
้
รู ปแบบพืนฐานของแผนผั
ง
(ต่อ)
4.
รู ปแบบการจัดวางแบบเซลล ์ (Cellular
Layout)


ใช ้หลักกำรของ Group Technology
้ ง ำ น ที่ มี ล ั ก ษ ณ ะ ค ล ้ำ ย กั นใ ห ้อ ยู่ กลุ่ ม
ชิ น
เดีย วกัน เรีย ก “กลุ่ ม ครอบคร วั ” (Part
Families)

กำรแบ่งกลุ่ม ::: คลำ้ ยกันทำงลักษณะกำร
ออกแบบ หรือ คล ำ้ ยกัน ทำงลัก ษณะกำร
ผลิต
49
การจัดวางแบบเซลล ์ (Cellular
Layout)

1111
คลำ้ ยกำรจัดวำงตำมผลิตภัณฑ ์ โดยในแต่
ละเซลล ์มีกำรจัดวำงคลำ้ ยกับกำรจัดวำงตำ
มกระบวนกำรผลิต
1111
Lathe
2222
3333
Mill
Drill
Weld
Cut
Mill
Drill
Weld
Grind
Lathe
4444
Drill
Weld
Grind
Mill
Drill
Cut
2222
3333
Assembly
4444
50
หลักเกณฑ ์สาหร ับการ
ออกแบบแผนผัง
1.
2.
3.
4.
5.
เมื่อออกแบบแล ว้ สำมำรถปร บ
ั เปลี่ยนแปลง
แผนผังกระบวนกำรผลิตได ้ง่ำย
พยำยำมทำใหเ้ กิดกำรประสำนงำนกันระหว่ำ ง
่ ด
แผนกมำกทีสุ
ใช ป้ ระโยชน์จ ำกเนื ้อที่มำกที่สุ ด และใช อ้ ย่ ำ ง
เหมำะสม
สำมำรถมองเห็นทุกๆ บริเวณในโรงงำนได ้
่ กรและอุปกรณ์ต่ำงๆ ต ้องอยู่ในตำแหน่ ง
เครืองจั
51
่
ทีสำมำรถเข
้ำถึงได ้โดยง่ำย
หลักเกณฑ ์สาหร ับการ
ออกแบบแผนผัง (ต่อ)
6.
7.
8.
9.
10.
่
้
้
กำรเคลือนย
ำ้ ยวัสดุหรือชินงำนให
ม้ รี ะยะทำงสัน
่ ด
ทีสุ
้
่
่
อนย
ำ้ ยวัสดุหรือชินงำน
หลีกเลียงกำรเคลื
หรือ
้ อยทีสุ
่ ด
พยำยำมทำให ้เกิดขึนน้
่
สภำพแวดล ้อมของกำรทำงำนทีดี
คนงำนทำงำนอย่ำงปลอดภัย
่
้
เคลือนย
้ำยวัสดุหรือชินงำนไปในทิ
ศทำงเดียวกัน
เส ้นทำงกำรขนย ้ำยไม่ควรตัดกัน หรือมีทำงแยก
52
เทคนิ คสาหร ับการ
ออกแบบแผนผัง
1.
การออกแบบแผนผังตามรู ปแบบการ
จัด วางตามกระบวนการผลิ ต มี 2
แนวทำง คือ
1)
แนวทำงของกำรท ำให เ้ กิด ค่ำ ใช ้จ่ำ ยในกำร
ข น ส่ ง ห รื อ ร ะ ย ะ ท ำ ง น้ อ ย ที่ สุ ด (Minimize
Transportation Costs of Distance) หรือ ตัวแบบ
่ ด (Load Distance Model)
ระยะทำงน้อยทีสุ

เป็ นกำรวิเครำะห ์เชิงปริมำณ

แผนภูมก
ิ ำรไหลไปกลับ (From-to Chart)
53
54
เทคนิ คสาหร ับการ
ออกแบบแผนผัง (ต่อ)
2)
แ น ว ท ำ ง ข อ ง ก ำ รใ ช ้แ ผ น ภู มิ
ควำมสั ม พั น ธ ร์ ะหว่ ำ งกิ จ กรรม
(Activity
Chart)


Relationship
Chart
or
REL
เป็ นกำรวิเครำะห ์เชิงคุณภำพ
เ ก็ บ ข ้ อ มู ล ส ภ ำ พ ก ำ ร ณ์ อ ื่ น
นอ ก เห นื อ จำ ก ภ ำ ร ะ งำ น แ ล ะ
ระยะทำงมำช่วยในกำรจัดวำง
55
56
57
58
การวางแผนผังของ
ระบบงานจริง
ควรออกแบบแผนผังมากกว่า 1
แบบ
ี
 โดยแต่ละแบบมีข ้อดีและข ้อเสย
ในประเด็นทีต
่ า่ งกัน
 แล ้วทาการประเมินเลือกแบบที่
เหมาะสมทีส
่ ด
ุ

59
เทคนิ คสาหร ับการ
ออกแบบแผนผัง (ต่อ)
2.
ก า ร อ อ ก แ บ บ แ ผ น ผั ง ต า ม
รู ป แ บ บ ก า ร จั ด ว า ง ต า ม
ผลิตภัณฑ ์
1.
2.
กำลังกำรผลิตของแต่ละผลิตภัณ ฑ ์
เพียงพอหรือไม่
ประสิทธิภำพของกำรผลิตโดยดูจำก
่ ดขึน้
เวลำว่ำงทีเกิ
60
เทคนิ คสาหร ับการ
ออกแบบแผนผัง (ต่อ)

่
สภำวะคอขวด (Bottleneck) เกิดเมือ
มี ค ว ำ มไ ม่ ส ม ดุ ลใ น ส ำ ย ก ำ ร ผ ลิ ต
้
(เวลำแต่ละขันตอนไม่
เท่ำกัน)
61
แก้โดย การสมดุลสายการผลิต
Line Balancing
62
หลังแก้ปัญหา
สายการผลิต

้ ก
สว่ นทีน
่ อกเหนือการผลิต ใชหลั
Process Layout
เลือกแผนกทีเ่ กีย
่ วข ้อง
้ กการวิเคราะห์ตามแบบ
 ใชหลั

Process Layout

เลือกแผนผังทีด
่ ท
ี ส
ี่ ด
ุ
63
การนาเสนอแผนผัง
1.
แบบ 2 มิต ิ งำนเขียนแบบ หรือ
Templates


2.
ข ้อดี ::: cost ตำ่
::: ทำสำเนำ
ได ้ง่ำย
ข ้อเสีย ::: มองไม่เห็นแกน Z ::: เข ้ำใจ
ยำก
แบบ 3 มิต ิ งำนเขียนแบบ หรือ Model
Layout

ข ้อดี ::: เห็นช ัด
:::
64
ตัวอย่างการนาเสนอแผนผัง
65
้
4.4 การติดตัง



ก ำ ร ท ำ ก ำ ร ก่ อ ส ร ำ้ ง จ ริ ง ต ำ ม แ บ บ ที่ ไ ด ้
ออกแบบไว ้
อ ำ จ ต ้อ ง มี ก ำ ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ต ำ ม ที่ ไ ด ้
ออกแบบไปบ ำ้ ง แต่ ไ ม่ ใ ช่ก ำรเปลี่ยนแปลง
ส่วนสำคัญ
้ ่งอ ำนวยควำมสะดวกในแต่ ล ะ
ก่อ นติด ตังสิ
แ ผ น ก ต ้อ ง มี ก ำ ร ว ำ ง แ ผ น ก ำ ร จั ด ว ำ ง
่ กร อุปกรณ์ เครืองมื
่ อและสิงอ
่ ำนวย
เครืองจั
66
4.5 อุปกรณ์สาหร ับการ
ขนถ่ายลาเลียง
(Material Handling Equipment)
1.
2.
3.
4.
5.
สำมำรถทำใหค้ ่ำใช ้จ่ำยในกำรขนถ่ำยลำเลี ยง
งำน 1 หน่ วยลดลง
ทำให ้เวลำในกำรผลิต หรือกำรบริกำร เร็วขึน้
้ และ
ช่ว ยปร บ
ั ปรุ ง สภำพกำรท ำงำนให ด
้ ีขึน
คนงำนสำมำรถทำงำนอย่ำงปลอดภัยมำกขึน้
้
ชินงำนมี
ของเสียน้อยลง
่
้ ซึงจะท
ำใหต้ น
้ ทุนกำร
ช่ว ยใหผ
้ ลผลิตมำกขึน
้ ำลง
่
ผลิตต่อชินต
67
1. สายพาน (Conveyors)





่ (Chute Conveyors) สำยพำน
รำงเลือน
ลูกกลิง้ (Roller Conveyors)
้ ง รือถอนยำก
้
ค่ำใช ้จ่ำยในกำรติดตังสู
่ เส ้นทำงกำรขนส่ง
เหมำะกับกำรผลิตทีมี
่ นอน (Fixed Path)
ทีแน่
ถ ำ้ ท ำกำรขนส่ ง ป ริม ำณมำก ท ำให ้
ค่ำใช ้จ่ำยในกำรขนส่งต่อหน่ วยต่ำลง
นิ ยมใช ้กับ Product Layout
68
ชนิ ดของอุปกรณ์สาหร ับ
การขนถ่ายลาเลียง
1. สำยพำน (Conveyors)
69
2. รถแบบต่างๆ (Industrial
Vehicles)
3.
ใ ช้ ห ลั ก ก า ร ขั บ เ ค ลื่ อ น อ ั ตโ น มั ต ิ
(Automated Industrial Vehicles)

เหมำะกับ กำรขนส่ งในเส น
้ ทำงที่ไม่ แ น่ นอน
(Variable Path)


้ ในกำรใช
่
ใช ้พืนที
้งำนมำก เช่น สวนทำง กลับ
รถ ยกของ
เหมำะกับกำรออกแบบ Process Layout
70
ชนิ ดของอุปกรณ์สาหร ับ
การขนถ่ายลาเลียง
2. รถแบบต่ำงๆ (Industrial
Vehicles)
71
Industrial Vehicles
72
Industrial Vehicles
73
Industrial Vehicles
74
3. รอกและเครน (Hoist and
Crane)




เหมำ ะกับ กำร ขนย ำ้ นงำนขนำดให ญ่
้
เทอะทะจนไม่ ส มควรที่จะขนย ำ้ ยบนพื น
โรงงำน
้ บริ
่ เวณเหนื อศีรษะ
ใช ้พืนที
มีผลต่อโครงสร ้ำงอำคำร และค่ำใช ้จ่ำยใน
้ ง
กำรติดตังสู
อำจจะตอ้ งมีอุปกรณ์ขนถ่ำยลำเลียงชนิ ด
่ วยในกำรขนย ้ำยร่วมกันด ้วย
อืนช่
75
ชนิ ดของอุปกรณ์สาหร ับ
การขนถ่ายลาเลียง
3. รอกและเครน (Hoist and Crane)
76
ตัวอย่างเครนต่างๆ
77
การออกแบบอุปกรณ์ขนถ่าย
ลาเลียงมีผลต่อการออกแบบ
แผนผัง
1.
2.
3.
่ นที
้ ส
่ ำหร ับกำรใช ้งำน
กำรเผือพื
่
กำรเตรียมโครงสร ้ำงอำคำรทีเหมำะสม
สำหร ับกำรใช ้งำน
ต ้นทุนของกำรผลิต
78
Pallet แบบต่างๆ
79
่
ผลกระทบต่อสิงแวดล้อม

ระเบีย บข้อ บัง คับ กฎกระทรวง
ฉบับที่ 2(2535)
หมวด 4(3) กล่ำวถึง กำรควบคุมกำร
่
่
ปล่อยของเสีย มลพิษหรือสิงใดๆ
ทีมี
ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ สิ่ ง แ ว ด ล ้ อ ม สิ่ ง ที่
นำมำใช ้ในโรงงำน
 ข ้อ 13 ถึง ข ้อ 17

80