ประเภทงานวิจัย - สำนัก ส่งเสริม และ พัฒนา การเกษตร เขต ที่ 1 จังหวัด ชัยนาท

Download Report

Transcript ประเภทงานวิจัย - สำนัก ส่งเสริม และ พัฒนา การเกษตร เขต ที่ 1 จังหวัด ชัยนาท

12. ประเภท
งานวิจ ัย
ประเด็นบรรยาย
้
น
ความเข้าใจเบืองต้
• การวิจ ัยเชิงคุณภาพและการวิจ ัยเชิงปริมาณ
• การวิจ ัยเชิงสารวจ
• การวิจ ัยเชิงทดลอง
การวิจย
ั เชิงปฏิบต
ั ก
ิ าร
การวิจย
ั เชิงปฏิบต
ั ก
ิ ารแบบมีสว
่ นร่วม
สงสัย/ไม่ม ี
คาตอบ
ข้อมูล
•ต ัวเลข
โจทย์/คาถาม
่ ัวเลข
•ไม่ใชต
ื คาพูด ภาพ
ตัวหนังสอ
~เปรียบเทียบ
~ความหมาย
~หาเหตุผล
ั พันธ์
~หาความสม
~จัดหมวดหมู่
ว ัตถุประสงค์การวิจ ัย
วิธก
ี ารได้ขอ
้ มูล
+ - × ÷
ข้อมูล
• ทดลอง
เครือ
่ งมือเก็บข้อมูล
• จ ัดเวที
ั
• สงเกต
• แบบสงั เกต
ั
• สมภาษณ์
ั ภาษณ์
• แบบสม
• สารวจ
• แบบบันทึก
• PRA/PAR
• mind map
• ฯลฯ
• แบบPRA
วิเคราะห์
ั
สงเคราะห์
•ได้คาตอบโจทย์
• สร้างความรู ้
• นาไปพ ัฒนางาน
กองวิจัยและพัฒนางานสง่ เสริมการเกษตร
งานวิจ ัยเชิงคุณภาพและเชิงปรม
การวิจ ัยเชิง
คุณภาพ (Qualitative Research)
เป็ นวิธค
ี น
้ หาความจริงจากเหตุการณ์ และ
่ อยู ่ตามความเป็ นจริง
สภาพแวดล้อมทีมี
โดยวิเคราะห ์ความสัมพันธ ์ของเหตุการณ์
ก ับสภาพแวดล้อมโดยใช้มุมมองหรือ
่
ความคิดของคนใน เพือให้
เกิดความ
เข้าใจอย่างถ่องแท้ (Insight) จาก
งานวิจ ัยเชิงคุณภาพและเชิงปรม
การวิจ ัยเชิง
ปริมาณ (Quantitative
Research)
เป็ นวิธค
ี น
้ หาความรู ้
่ อมู ลเชิงตวั เลข
และความจริง โดยเน้นทีข้
การวิจย
ั เชิงปริมาณจะพยายามออกแบบ
วิธก
ี ารวิจย
ั ให้มก
ี ารควบคุมตวั แปรที่
่
ศึกษาต้องจัดเตรียมเครืองมื
อรวบรวม
ข้อมู ลให้มค
ี ณ
ุ ภาพ จัดกระทา
ณะของงานวิจ ัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมา
เชิงคุณภาพ
- เข ้าใจปรากฏการณ์ทางสังคม
- มองภาพรวม
- มุมมองจากคนใน
- มีความเฉพาะในแต่ละบริบท
- นักวิจยั สังเกตแบบมีส่วนร่วม
- เขียนบรรยายและตีความ
เชิงปริมาณ
- ควบคุม ทานายผลและหาความสัมพันธ ์ระหว่างตัวแปร
- มองตัวแปรทีละตัวเป็ นเหตุและผล
- อิสระจากบริบท อ ้างอิง ไปยังกลุม
่ ประชากร
่ วิ่ จยั
- นักวิจยั ต ้องเป็ นอิสระจากสิงที
- ใช ้การวิเคราะห ์ทางสถิติ
การวิจ ัยเชิงมานุ ษยวิทยา
การวิจยั เชิงทดลอง
่
การวิจ ัยเชิงประวัติศาสตร ์
การวิจยั เชิงกึงทดลอง
การวิจ ัยเชิงอนาคต
การวิจยั เชิงสารวจ
การวิจยั เชิงประเมิน
รู ปแบบงานวิจ ัยในงานส่งเสริม
1.การวิจ ัยเชิงสารวจ :Survey
Research
2. การวิจ ัยเชิงทดลอง :
Experimental Research
3. การวิจ ัยเชิงปฏิบต
ั ก
ิ าร :Action
Research(AR)
1.การวิจ ัยเชิงสารวจ :Survey R
่ นการศึกษารวบรวมข้อมู ล
• เป็ นการวิจย
ั ทีเน้
่ ดขึน
้
ต่างๆ ทีเกิ
ในปั จจุบน
ั การดาเนิ นการวิจย
ั ไม่มก
ี ารสร ้าง
สถานการณ์
่ กษาผลทีตามมา
่
เพือศึ
• เป็ นการค้นหาข้อเท็จจริงหรือเหตุการณ์ตา
่ งๆ
่ ดขึนอยู
้
ทีเกิ
่แล้ว
นักวิจย
ั ไม่สามารถกาหนดค่าของตัวแปรต้น
จัยเชิงทดลอง : Experimental Resea
่ ตวั แปรอิสระ
• การวิจย
ั ทีใช้
(ตัวแปรต้น) อย่างน้อย 1
่
ตัว ซึงจะถู
กเรียกว่า ตัวแปรทดลอง และตัวแปร
้
่
ทดลองนี จะถู
กจัดกระทาอย่างรอบคอบ โดยผู ว้ จ
ิ ย
ั เพือ
่ จากตัวแปร
ศึกษาผลทีได้
• ภายใต้เงื่อนไขหรือสถานการณ์ทได้
ี่ ร ับ การ
ควบคุมอย่างร ัดกุม
่ กษาว่าเงื่อนไขหรือสถานการณ์ทจั
้ น
้
เพือศึ
ี่ ดขึนนั
เป็ นสาเหตุทแท้
ี่ จริงของ
่
• เปรี
ย
บเที
ย
บความแตกต่
า
งของต
ัวแปรที
่
่
้
ผลหรือปรากฏการณ์ทเปลี
ี
ยนแปลงนันหรือไม่
่
เปลียนแปลง
ไประหว่าง
้
่ ดขึนใน
้
ปรากฏการณ์ทเกิ
ี่ ดขึนในสภาพปกติ
กับทีเกิ
จัยเชิงปฏิบต
ั ก
ิ าร :Action Research(A
่ ป
เป็ นกระบวนการทีผู
้ ฏิบต
ั งิ านศึกษาการ
ปฏิบต
ั งิ านของเขา
่ นพบ
โดยใช้ระเบียบวิธวี ท
ิ ยาศาสตร ์เพือค้
่
ความจริงเกียวกั
บ
่ ปฏิ
่ บต
สิงที
ั ิ หรือเป็ นการแก้ปัญหา เช่นการ
สร ้างและพัฒนา
่ ฒนา
ทักษะใหม่ๆ หรือวิธก
ี ารใหม่ขน
ึ ้ เพือพั
การวิจ ัยเชิงปฏิบต
ั ก
ิ าร (AR)
่ ยกว่า การ
กระบวนการ ทีเรี
วิจ ัย เพราะเป็ นกระบวนการค้นหา
่ ทสุ
่ ด ทีจะ
่
วิธก
ี ารทีดี
ี่ ด เหมาะสมทีสุ
้ เป็ น
นาไปสู ก
่ ารแก้ไขปั ญหานันๆ
การคิด วิเคราะห ์ ให้ความเห็น
ตรวจสอบอย่างเป็ นระบบ
การวิจ ัยเชิงปฏิบต
ั ก
ิ าร (AR)
่ ยกว่า เชิงปฏิบต
ทีเรี
ั ก
ิ าร เพราะจะ
มีการลงมือปฏิบต
ั จ
ิ ริง มีการกระทาจริง ๆ
่ นการกระทาในลักษณะทดลองว่า
ทีเป็
่ ดว่าแก้ไขปั ญหานี ได้
้ คด
วิธก
ี ารทีคิ
ิ ไว้แล้ว
ว่ามีวธ
ิ ใี ดบ้าง ต้องลองทาทุกวิธแ
ี ล้ว
บันทึกไว้ดว้ ยว่า วิธก
ี ารไหนใช้ได้ วิธก
ี าร
ไหนใช้ไม่ได้ หรือวิธก
ี ารไหนใช้ได้ดท
ี สุ
ี่ ด
การวิจ ัยเชงิ ปฏิบ ัติการ (AR)
่
มุ่งแก ้ปัญหา หรือ พัฒนางาน หรือ ปร ับเปลียน
การดาเนิ นงานขององค ์กร หน่ วยงาน หรือชุมชน
การวิจยั ของผูว้ จิ ยั ฝ่ ายเดียว หรือมีคนในองค ์กร
หน่ วยงาน
หรือชุมชนเข ้าร่วมด ้วย
ไม่มก
ี ารควบคุมตัวแปรแทรกซ ้อน เพราะทดลอง
กับสภาพปกติ
่ ้ปร ับปรุง พัฒนา หรือ
ผลการวิจยั ได ้ความรู ้ทีใช
แก ้ไข
ปัญหาเฉพาะหน้า
Action Research: การวิจยั เชิง
ปฏิบต
ั ก
ิ าร
วิเคราะห ์สถานการณ์
วางแผน
P
P
ความรู ้/
แนวทาง R
พัฒนางาน
วิเคราะห ์/สังเคราะห ์/
สรุปผลR
ลงมือทา
A
เก็บข้อมู ล
O
4. การวิจ ัยเชิงปฏิบต
ั ก
ิ ารแบบมีส่วนร
Participatory Action Research : PAR
ที่เรีย กว่ า แบบมีส่ ว นร่ว ม คือให ท
้ ุ ก คนใน
ชุม ชนที่ คาดว่ า จะเป็ นผู ไ้ ด ป
้ ระโยชน์จ าก
าจะเสียประโยชน์จาก
ี่
กิจกรรมนี ้ และผูท้ คาดว่
กิ จ กรรมนี ้ เข า้ มาร่ ว มกัน คิ ด ร่ ว มกัน
วางแผน ร่วมกันทา ร่วมกันดาเนิ นงาน
่ ดทุกคนจะได้ประโยชน์พรอ้ มกันไม่
ในทีสุ
มีใครเสียประโยชน์ ทุกคนมีแต่ได ้
การวิจ ัยเชิงปฏิบต
ั ก
ิ ารแบบมีส่วนร่วม
่
เชียวชาญ
ด้าน
แนวคิด
ทฤษฏี
ระเบียบวิจย
ั
นักวิจยั
นักพัฒน
า
ชุมช
น
วัตถุประสงค ์
่
เพือ
พัฒนา
แก้ปัญหาใน
ชุมชนตาม
นโยบาย
่
มีความรู ้เกียวกั
บ
ชุมชน
ปั ญหา ความ
ต้องการ
ข้อจากัดของ
paR
Par
pAr
pAr
นักวิชาการ
นักพัฒนา (องค ์กรเอกชน
นักพัฒนา (ราชการ)
ชาวบ้าน
สู ่ PAR ทีสมดุ
่ วมวิจ ัย
่
ลทุกฝ่ายทีร่
่ นฐานของ
้
ความเชือพื
PAR
1. ปั จเจกชนทุกคน ย่อมมีศ ักยภาพ ร่วมคิด ร่วม
่
่
่ กว่า
ทา เพือเปลี
ยนแปลงสู
่ ชุมชน/องค ์กรทีดี
่ คนละ
2. ทุกคนรู ้ แต่อาจจะคนละด้าน คนละเรือง
มิต ิ
3. การสร ้างและใช้ความรู ้ต้องเป็ นประชาธิปไตย
4. ทร ัพยากร ประโยชน์ตอ
้ งแบ่งปั น และกระจาย
อย่างเป็ นธรรม
่ ร่วมใจจากคนใน&นอก จาเป็ นต่อ
5. ความมุ่งมัน
่
การเปลียนแปลง
้
่ าเทียมกัน และ
6. ทุกฝ่ายร่วมมือ บนพืนฐานที
เท่
่ ดร่วมกัน
ยอมร ับผลทีเกิ
ประเด็นสาคัญของการทาวิจย
ั เชิงปฏิบต
ั ก
ิ ารแ
การจดบัน ทึก ทุ ก กระบวนการที่มี
การลงมือ กระทาว่ากิจกรรมใดบ้า ง
ทาได้กา้ วหน้าดี เพราะสาเหตุอะไร
ท าไม อย่ า งไร ในทางตรงกัน ข้า ม
ต้อ งบัน ทึ ก เช่ น กัน ว่ า มี ก ิ จ กรร ม
ใดบ้า งท าไม่ ไ ด้ผ ล เพราะสาเหตุ
อะไร ท าไม อุ ป สรรคคือ อะไร ใช้
ประเด็นสาคัญของการทาวิจย
ั เชิงปฏิบต
ั ก
ิ าร
แบบมีส่วนร่วม(ต่อ)
่ จากการบันทึกจะ
ข้อมู ลทีได้
่ นหา
ใช้ในการถอดบทเรียน เพือค้
่
่ ด ใน
กระบวนการทีเหมาะสมที
สุ
้ ๆ ที่
การดาเนิ นงานกิจกรรมนัน
่ ด
นาไปสู ค
่ วามสาเร็จในทีสุ
่
้ ่ ชีแจง
้
ประสานทีมงาน เยียมพื
นที
สร ้างสัมพันธ ์กับชุมชน
ผยแพร่แนวคิด ตกลงทาวิจยั วางตัว
+ จุดแข็ง
ศ ักยภาพ
ศึกษาข้อมู ล
วิเคราะห ์สถานการณ์
ติดต่อ
่
สือสา
สรุปบทเรียน
ร
นอต่อชุมชน องค ์กร
RESEARCH
ติดตาม
สรุป
วิเคราะห ์ผล
่
ข้อมู ลทีได้
หนุ น
เสริม
- จุดอ่อน
ปั ญหา
กาหนดว ัตถุประสงค ์
กรอบการวิจย
ั ปฏิบต
ั ิ
PAR 2
กาหนดกิจกรรม
การศึกษา ปฏิบต
ั ิ
ดาเนิ นการ
ACTION
กระบวนการทางาน P
กิจกรรมพัฒนา
ศึกษาข้อเท็จจริง เก็บข้อมู ล
่ (กฎ ระเบียบ นโยบาย..)
อืนๆ
ชาวบ้านเกิด
พลัง คิดเอง
ชาวบ้านเป็ นตัวของ
่
ตัวใฝ
เอง
ทาเอง
ศึ
รู ก
้ ษา
ตลอด
ชุมชน
่
พึงตนเองได้
รู ้ทัน
คิดระบบ
ระดม
พลัง
ชุมชนมี
ศ ักยภาพ
รวมกลุ่ม
ปั ญหา
ตัดสินใจเอง
อย่างต่อเนื่อง
PAR กับ
เป็ นผู ร้ ับฟั งกัน
้ มอง
มากขึ
น
มุ
ม
่
การเปลียนแปลง
กว้
ง ้
เรียานรู
พัฒนาตนเอง
ด้าน
ตลอดเวลา
่
เปลียนกระบวน
ทัศน์
ความรู
้
ศ ักยภาพ
จิตวิญญาณ
R&D&M
่
วิจ ัย + พัฒนา + เคลือน