Antibiotics Smart Use Program ระยะที่ 3

Download Report

Transcript Antibiotics Smart Use Program ระยะที่ 3

23 มีนาคม 2555
ั
การสร้างบรรท ัดฐานทางสงคม:
Antibiotics Smart Use Program ระยะที่ 3
่ ประดิษฐ์
ดร. นิธม
ิ า สุม
สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา
สานักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ
กระทรวงสาธารณสุข
ื้ ในกระแสเลือด
การติดเชอ
เป็นข่าวเกือบทุกว ัน
ื้ ในกระแสเลือด
การติดเชอ
ื้ ในกระแสเลือดมักเริม
ื้ ที่
• โดยทัว่ ไป การติดเชอ
่ ต ้นมาจากการติดเชอ
ื้ มีการแพร่เข ้าสูก
่ ระแส
อวัยวะใดอวัยวะหนึง่ ก่อน หลังจากนัน
้ เชอ
เลือด และกระจายไปตามอวัยวะต่างๆ ทีเ่ ลือดไปเลีย
้ ง
ื้ ในกระแสเลือดค่อนข ้างยาก เพราะต ้องให ้ยา
• การรักษาการติดเชอ
ื้ แต่มป
ปฏิชวี นะทีจ
่ าเพาะตรงกันกับเชอ
ี ั ญหาในทางปฏิบต
ั ิ เพราะ
ื้ ไม่พบ หรือหาอวัยวะเริม
ื้ ไม่
– บ่อยครัง้ ทีต
่ รวจเพาะเชอ
่ ต ้นทีม
่ ก
ี ารติดเชอ
ื้ โรคชนิดใด จึงให ้ยาได ้ไม่ตรงกับเชอ
ื้
พบ ทาให ้ไม่ทราบว่าน่าจะติดเชอ
ื้ ดือ
– “เชอ
้ ยา”
ื้ ดือ
้
• สาเหตุของ “เชอ
้ ยา” เกิดจากการใชยาปฏิ
ชวี นะมากเกินความ
้ ถก
จาเป็ น และใชไม่
ู ต ้อง
ดัดแปลงจาก: http://thaifittips.com/health/?p=74
ื้ แบคทีเรีย “เอ.บอร์ม” (Acenetobacter baumannii)
เชอ
้ ยาปฏิชวี นะ “คาบาพีแนม” (Cabapenam) เพิม
้
มีการดือ
่ ขึน
จาก 2.1% เป็น 61% (1998–2010)
Photo by National Geographic
ื้ ดือ
้ ยาชนิดรุนแรงเกิดได้
เชอ
ในชุมชน NDM-1 คือ เอ็นไซม์ทที่ าให้เชอื้
้ ัน
้ ต่อยาปฏิชวี นะเกือบทุกขนานทีม
แบคทีเรียดือ
่ ใี ชก
ื้ แบคทีเรียทีม
อยูใ่ นปัจจุบ ัน พบเชอ
่ ี NDM-1 พบครงั้
แรกทีอ
่ น
ิ เดีย และมีการกระจายไปย ังประเทศอืน
่
การแพร่กระจายของ
ื้ ดือ
้ ยาชนิดรุนแรงทีม
เชอ
่ ี NDM-1
Source: http://healthmapblog.blogspot.com/2011/04/drug-resistant-bug-review-ndm-1-in-new.html
ื้ ดือ
เชอ
้ ยาเพิม
่ ขึน
้ ทุกปี
แต่จานวนยาปฏิชวี นะชนิดใหม่ในแต่ละปี กลับลดลง
ปี 2552-2553
มียาปฏิชวี นะใหม่ 1-2 รายการ
่ ารักษาเชอ
ื้ ดือ
แต่ไม่ใชย
้ ยา
รากเหง้าของปัญหา
้ าเยอะ: กลุม
ื้ รวมทัง้ ยา
ใชย
่ ยาฆ่าเชอ
ปฏิชวี นะมีมล
ู ค่าการผลิตและนาเข ้าสูงเป็ น
อันดับ 1 ตัง้ แต่ปี 2540
้ ว้ ยความไม่รู ้ หรือเข้าใจผิด : ความ
ใชด
ื่ อย่างผิดๆ
ไม่รู ้ โลภ หรือเชอ
ื้
ระบบควบคุมไม่เข้มแข็ง: ทุกคนหาซอ
ยาปฏิชวี นะได ้โดยง่าย และ
มีการใชกั้ นทุกภาคสว่ น
ั ว์
ทัง้ ในคนและสต
9
Modified from: http://dangerousintersection.org/2008/05/24/cartoons-5/
้ า
10 อ ันด ับแรกของอาการไม่พงึ ประสงค์จากการใชย
เกิดจากยาปฏิชวี นะถึง 5 รายการ
ในปี 2550, ร ้อยละ 54
ของอาการไม่พงึ ประสงค์
จากยาปฏิชวี นะ
ทีม
่ า: รายงานประจาปี 2552 ของสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา
้ าปฏิชวี นะใน
อ ัตราการใชย
ื้ ไวรัสในระบบหายใจ (viral URI) เชน
่ หวัด
โรคติดเชอ
และ โรคท ้องร่วงเฉียบพลัน
ื้ ไวรัสในทางเดินหายใจ (viral URI)
โรคติดเชอ
่ หวัด มีการสงั่ ใชยาปฏิ
้
เชน
ชวี นะสูงถึงร ้อยละ
60 (ใน รพ.รัฐ) และสูงถึงร ้อยละ 80 (ในรพ.
เอกชน)
ทีม
่ า The World Medicines Situation 2011, WHO
โรคท ้องร่วงเฉียบพลัน มีการสงั่ ใช ้
ยาปฏิชวี นะสูงเกือบร ้อยละ 50 (ใน
รพ.รัฐ) และสูงเกือบร ้อยละ 80 (ใน
รพ.เอกชน)
ทีม
่ า The World Medicines Situation 2011, WHO
คนไข ้น ้อยกว่าร ้อยละ 40 ทีไ่ ปสถานพยาบาลภาครัฐ
และน ้อยกว่าร ้อยละ 30 ทีไ่ ปสถานพยาบาลเอกชน
ได ้รับการรักษาถูกต ้องตาม treatment guideline
แปลว่า
้
1. บุคลากรทางการแพทย์จานวนมาก ยังมีการสงั่ ใชยาอย่
างไม่
สมเหตุผล
2. ประชาชนจาเป็ นต ้องมีความรู ้เรือ
่ งโรคและยา โดยเฉพาะโรค
ทีพ
่ บบ่อย
จุดประสงค์ของว ันนี้
• รายงานความก ้าวหน ้าของ ASU ในชว่ งทีผ
่ า่ นมา
ื้ ดือ
• รายงานความเคลือ
่ นไหวระดับประเทศในการแก ้ปั ญหาเชอ
้ ยา
้
และการใชยาปฏิ
ชวี นะ
• แลกเปลีย
่ นเรียนรู ้กับ “ทีมผู ้นาการเปลีย
่ นแปลง” ในแต่ละพืน
้ ที่
้
ในการสร ้างบรรทัดฐานของสงั คมเกีย
่ วกับการใชยาปฏิ
ชวี นะ
อย่างสมเหตุผล (ASU ระยะที่ 3)
• วางแผนการทางานร่วมกัน
หลักการของ ASU
้
• บันได 2 ขัน
้ ของการใชยาอย่
างสมเหตุผล
้
• ไม่ใชยา
ถ ้าไม่จาเป็ นต ้องใช ้
้ ต ้องใชยาอย่
้
• ถ ้าจาเป็ นต ้องใชยา
างถูกต ้องและเหมาะสม
้
• “การใชยาอย่
างไม่สมเหตุผล” เป็ นปั ญหาเชงิ พฤติกรรม
จึงต ้องแก ้โดยการปรับเปลีย
่ นพฤติกรรม
– จากการทางาน 4 ปี ของ ASU ให ้ข ้อสรุปว่า
• การเปลีย
่ นพฤติกรรม ต ้องเริม
่ จากระดับบุคคล แต่การทีจ
่ ะทาให ้
ั แรงเสริมจากภายนอก เชน
่ นโยบาย
พฤติกรรมนัน
้ คงอยู่ ต ้องอาศย
จากสว่ นกลาง เครือข่าย และมาตรการทางสงั คม
Antibiotics Smart Use
ระยะ 1: การนาร่อง (2550 – 2551)
ิ ธิภาพของชุดกิจกรรมที่
เป้าหมาย: เพือ
่ ทดสอบประสท
้ ย
้
ใชเปลี
่ นพฤติกรรมการสงั่ ใชยาปฏิ
ชวี นะ
้ ที:่ 1 จังหวัด (สระบุร)ี รวม 10 โรงพยาบาลชุมชน
พืน
และ 87 สถานีอนามัย
ึ ษาความเป็นไปได้เพือ
ระยะ 2: ศก
่ ขยายผล (2551–2)
เป้าหมาย: เพือ
่ ทดสอบความเป็ นไปได ้เพือ
่ ขยายผล
และ
โครงการ
และสร ้างเครือข่ายกับพืน
้ ทีเ่ พือ
่ ทางานร่วมกัน
้ ที:่ 3 จังหวัด (อุบลราชธานี อยุธยา สมุทรสงคราม)
พืน
ั )
2 เครือข่าย รพ. (รพ.กันตัง จ.ตรัง และกลุม
่ รพ. ศรีวช
ิ ย
Diffusion update:
Dec 2009
ระยะ 3: ความยง่ ั ยืนของโครงการ (2553 – 2555)
เป้าหมาย: เพือ
่ ผนวก ASU ในนโยบายระดับประเทศ
ั ยภาพเครือข่าย และสร ้างบรรทัดฐานทางสงั คมใน
พัฒนาศก
้
การใชยาปฏิ
ชวี นะอย่างสมเหตุผล
ASU ได ้รับการสนับสนุนนโยบายครัง้ แรกจาก สปสช. เมือ
่ มี.ค. 2552
่ นกลาง
ภาคีเครือข่าย และผูส
้ น ับสนุนจากสว
•
•
•
•
สำนักงำนคณะกรรมกำรอำหำรและยำ
คณะแพทยศำสตร์ จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัย
คณะเภสัชศำสตร์ มหำวิทยำลัยศรี นคริ นทรวิโรฒ
องค์กำรอนำมัยโลก
ระยะที่ 1
(2550-1)
• สถำบันวิจยั ระบบสำธำรณสุ ข (สวรส.)
• สำนักงำนหลักประกันสุ ขภำพแห่งชำติ (สปสช.)
•
•
•
•
•
แผนงำนสร้ำงกลไกเฝ้ ำระวังและพัฒนำระบบยำ (กพย.)
สำนักงำนกองทุนสร้ำงเสริ มสุ ขภำพ (สสส.)
สถำบันรับรองคุณภำพสถำนพยำบำล (องค์กำรมหำชน)
สำนักงำนพัฒนำนโนบำยสุ ขภำพระหว่ำงประเทศ
กองพัฒนำศักยภำพผูบ้ ริ โภค (อย.)
ระยะที่ 2
(2551-2)
ระยะที่ 3
(2553 –
ปั จจุบน
ั )
ื่ มต่อก ับนโยบายระด ับประเทศ
การเชอ
นโยบาย
ผลการดาเนินการ
นโยบายของ สปสช. แนวคิด ASU ได ้รับการบรรจุในเกณฑ์ สปสช. ตัง้ แต่ 2552
นโยบายของ สรพ.
ASU ได ้รับการยอมรับให ้เป็ นหนึง่ ในกิจกรรมบันไดขัน
้ ที่ 1 และ
2 ที่ สรพ. (HA surveyors) ยอมรับในการตรวจเยีย
่ ม รวมทัง้
ASU มีบธ
ู นิทรรศการ ใน HA forum อย่างต่อเนือ
่ ง
นโยบายแห่งชาติ
ด ้านยา
้
ยุทธศาสตร์ระบบยาแห่งชาติ ด ้านการใชยาอย่
างสมเหตุผล
โดยแนวคิด ASU อยูภ
่ ายใต ้ยุทธศาสตร์ยอ
่ ยที่ 6 ว่าด ้วยการ
ื้ ดือ
ป้ องกันและแก ้ไขปั ญหาเชอ
้ ยา
้
้ โดย
นโยบายการลดใชยา
14 มี.ค. 2555 สธ. ประกาศจะมีการรณรงค์การลดใชยา
มอบหมายกรมการแพทย์ดาเนินการ และมีการดาเนินการ
ร่วมกับ สสส.
นโยบายอย่างเดียวไม่เพียงพอหรือ?
• ไม่พอ เพราะ
– อาจเปลีย
่ นแปลงตามผู ้บริหารและการเมือง
่ ารปฏิบต
– ทีผ
่ า่ นมา มักมีปัญหาการนานโยบายสูก
ั ิ
ื้ ดือ
– “เชอ
้ ยา” ต ้องเป็ นเรือ
่ งของทุกคนทีต
่ ้องร่วมกันแก ้ไข
นโยบายระดับประเทศ
บรรทัดฐานทางสงั คม
ASU คือ ประเด็น
ทีท
่ ก
ุ คนสามารถ
ร่วมก ันแก้ปญ
ั หา
รู ปประกอบจำกปกหนังสื อของ
นพ.ประเวศ วะสี
ั
บรรท ัดฐานทางสงคม
คืออะไร
• แบบแผนพฤติกรรมทีเ่ ป็ นทีค
่ าดหวังของสงั คม เป็ นมาตรฐานที่
ิ ของสงั คมถูกคาดหวังให ้ปฏิบต
สมาชก
ั ต
ิ าม
• สงิ่ ทีม
่ นุษย์ในแต่ละสงั คมยึดถือเป็ นตัวกาหนดการกระทาใด ถูก
หรือผิด ควรหรือไม่ควร ยอมรับได ้หรือยอมรับไม่ได ้
้
ื้ ดือ
• “การใชยาปฏิ
ชวี นะไม่สมเหตุผลสง่ ผลให ้เชอ
้ ยา ทาให ้เรา
และคนรุน
่ หลังไม่มย
ี าปฏิชวี นะใช”้ สง่ ผลต่อสงั คม และคนรอบ
ข ้าง จึงควรเป็ นสงิ่ น่าจะสร ้างเป็ นบรรทัดฐานร่วมกันของสงั คม
ั
บรรท ัดฐานใหม่ของสงคม
• เน ้นแนวคิด ASU ใน 3 ประเด็นหลัก คือ
1. ยาปฏิชวี นะ ไม่ใช ่ ยาแก ้อักเสบ
2. ยาปฏิชวี นะ เป็ นยาอันตราย
้
3. 3 โรคทีพ
่ บบ่อยหายได ้ ... ไม่ต ้องใชยาปฏิ
ชวี นะ
• สวนกระแส แต่ทาได ้จริง เพราะ
1. ลักษณะของแนวคิด ASU
่ งทางในการสอ
ื่ สาร ทัง้ สอ
ื่ บุคคล สอ
ื่ กระแสหลัก
2. มีชอ
3. มีทม
ี ผู ้นาการเปลีย
่ นแปลง (Change agents) “5 ตัวจี๊ ด”
โครงสร ้างการทางาน ASU ระยะ 3
เพือ
่ สร ้างบรรทัดฐานทางสงั คม
ื่ กระแสหลัก
แผนการรณรงค์แนวคิด ASU ผ่านสอ
ื่ กระแสหลัก : ผู ้หญิงในเขตเมือง/เทศบาล 20 – 60 ปี ป.ตรี)
(กลุม
่ เป้ าหมายของสอ
 พัฒนาสอื่
“รู ้แล ้ว บอกต่อ”
คนไข ้
ทีม
่ ารับ
บริการ
คน
ิ
ใกล ้ชด
คนไข ้
คนทั่วไป
(ร ้อยละ
60)
ื่ บุคคล และสอ
ื่ ท ้องถิน
แนวคิด ASU ผ่านสอ
่
ื่ บุคคลและสอ
ื่ ท ้องถิน
(กลุม
่ เป้ าหมายของสอ
่ : ประชาชนในพืน
้ ทีต
่ า่ งๆ)
ASU @ จ ังหว ัด
(ทีมผู ้นาการ
เปลีย
่ นแปลง)
 ASU @
 ASU @
ร้านยา
รร.แพทย์*
(50 – 100 แห่ง)
(รามา ขอนแก่น)
Indirect effects
(ระยะต่อไป)
รพ.เอกชน คลินก
ิ
รพ.ขนาดใหญ่
ร ้านยา และอืน
่ ๆ
ประเมินผลการ
กระจายของแนวคิด
ASU และบรรทัด
ฐานใหม่ทางสงั คม
เครือข่าย ASU ในพืน
้ ทีอ
่ น
ื่ ๆ
*นอกจากนี้ ยังมี รพ.ศริ ริ าช ทีไ่ ด ้ทาโครงการ ASU แล ้ว
่ ประดิษฐ์
ทีม
่ า นิธม
ิ า สุม
ASU อยูต
่ รงไหน
ื้ ดือ
้ ยาของประเทศ
ของการเคลือ
่ นเรือ
่ งเชอ
ื้ ดือ
การแก ้ปั ญหาเชอ
้ ยาของประเทศ
ั ว์ โดยมีการดาเนินการผ่าน 2
ในระดับประเทศ มีการดาเนินการแก ้ปั ญหานีท
้ งั ้ ในมนุษย์และสต
่ งทางหลัก คือ (1) นโยบายแห่งชาติด ้านยา พ.ศ. 2554 และยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ
ชอ
ื้ ดือ
พ.ศ. 2555-2559 และ (2) คณะกรรมการวิจัยและพัฒนาระบบการควบคุมและป้ องกันเชอ
้ ยาต ้าน
ี ในประเทศไทย
จุลชพ
ื้ ดือ
กลยุทธ์หลักของการแก ้ปั ญหาเชอ
้ ยาตามแนวทางของ WHO และของประเทศ สามารถนามา
ปรับประยุกต์สรุปเป็ น 5 ด ้าน ดังนี้
การเฝ้ าระวัง
ื้ ดือ
เชอ
้ ยา
ื้
ยาคน: ศูนย์เฝ้ าระวังเชอ
ี แห่งชาติ
ดือ
้ ยาต ้านจุลชพ
การป้ องกันและ
้
การใชยา
ควบคุมการ
ปฏิชวี นะอย่าง
ื้
ติดเชอ
สมเหตุผล
ยาคน: คณะกรรมการ
ป้ องกันและควบคุมการติด
ื้ ในโรงพยาบาล
เชอ
การควบคุมยา
และการคิดค ้น
ยาทดแทนยา
ปฏิชวี นะ*
และอืน
่ ๆ
Political commitment
* ตาม WHO เป็ นการเสนอให ้คิดค ้นยาปฏิชวี นะชนิดใหม่ แต่ไม่เหมาะกับประเทศไทย จึงน่าจะเป็ นการคิดยาทดแทน เช่น สมุนไพร
พรบ.ยา และอืน
่ ๆ
ขอแสดงความยินดีก ับ
ASU ทว่ ั ประเทศ
เมือ
่ ว ันที่ 8 มีนาคม 2555 องค์การอนามัย
ื เล่มนีท
โลกจัดงานเปิ ดตัวหนั งสอ
้ ก
ี่ รุงเจนีวา โดย
ิ ผู ้ร่วมงานจากหลายประเทศ นั กข่าว และ
เชญ
ท่านทูตไทยทีเ่ จนีวา ตอนท ้ายของงานมีการ
แถลงข่าว โดยโครงการ ASU ของประเทศไทย
เป็ น 1 ใน 2 ประเทศทีไ่ ด ้รับคัดเลือกให ้นาเสนอ
ผลงานในงานวันนั น
้ (โดยเป็ นการนาเสนอแบบ
Phone-in จากประเทศไทยเข ้าไปในงาน)
สรุป
• ในชว่ ง 1-2 ปี ทีผ
่ า่ นมา ได ้เกิดการเคลือ
่ นงานด ้านยาปฏิชวี นะ
ื้ ดือ
และเชอ
้ ยามากขึน
้
• เครือข่าย ASU ยังเป็ นกาลังหลักทีส
่ าคัญในการสร ้างการ
เปลีย
่ นแปลงโดยตรงในพืน
้ ทีเ่ กีย
่ วกับยาปฏิชวี นะ
• หลายแห่งสามารถเคลือ
่ นงานต่อได ้แม ้มีทรัพยากรทีจ
่ ากัด
• ลาดับต่อไป
– แลกเปลีย
่ นเรียนรู ้กับ “ทีมผู ้นาการเปลีย
่ นแปลง” ในแต่ละ
้
พืน
้ ทีใ่ นการสร ้างบรรทัดฐานของสงั คมเกีย
่ วกับการใชยา
ปฏิชวี นะอย่างสมเหตุผล (ASU ระยะที่ 3)