หน่ วยการเรียนที่ 4 ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ หมายถึง ภาวะทีผ่ ้ ูเจ็บป่ วยเกิดความผิดปกติทางกาย หรือจิตทีต่ ้ องได้ รับการช่ วยเหลือเบือ้ งต้ นอย่ างเร่ งด่ วน หมายถึง ภาวะที่เลือดไปเลีย้ งอวัยวะต่ างๆ ของร่

Download Report

Transcript หน่ วยการเรียนที่ 4 ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ หมายถึง ภาวะทีผ่ ้ ูเจ็บป่ วยเกิดความผิดปกติทางกาย หรือจิตทีต่ ้ องได้ รับการช่ วยเหลือเบือ้ งต้ นอย่ างเร่ งด่ วน หมายถึง ภาวะที่เลือดไปเลีย้ งอวัยวะต่ างๆ ของร่

หน่ วยการเรียนที่ 4
ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์
หมายถึง ภาวะทีผ่ ้ ูเจ็บป่ วยเกิดความผิดปกติทางกาย
หรือจิตทีต่ ้ องได้ รับการช่ วยเหลือเบือ้ งต้ นอย่ างเร่ งด่ วน
หมายถึง ภาวะที่เลือดไปเลีย้ งอวัยวะต่ างๆ ของร่ างกายไม่ เพียงพอ
อาการและอาการแสดง
เหงื่อออก ตัวเย็น ซีด กระสั บกระส่ าย หายใจหอบลึก
หรือเร็ว ตืน้ ชีพจรเบาเร็ว กระหายนา้ และไม่ ร้ ู สึกตัว
(1)
(2)
(3)
(4)
(5)
(6)
ประเมินสภาพและแก้ ไขปัญหาคุกคาม
ถ้ ามีบาดแผล ต้ องทาแผลห้ ามเลือด
นอนราบตะแคงหน้ าไปด้ านใดด้ านหนึ่ง ยกปลายเท้ าสู ง
คลายเสื้อผ้ าให้ หลวม
ให้ ความอบอุ่นร่ างกาย
ส่ ง รพ. สั งเกตอาการเปลีย่ นแปลง
การจัดท่ าในผู้ป่วยหมดสติ ช็อค
กรณีหมดสติจากอุบัตเิ หตุ
ระวังกระดูกสั นหลังส่ วนคอ
จัดให้ นอนหงายราบ ยกปลายเท้ าสู ง
การจัดท่ าในผู้ป่วยหมดสติ ช็อค
กรณีไม่ ใช่ อุบัตเิ หตุ
นอนตะแคงกึง่ ควา่ ไม่ หนุนหมอน
จัดศีรษะและคอแหงนเล็กน้ อย
จัดแขนที่แนบกับพืน้ ให้ เหยียดออก อีกข้ างแนบลาตัว งอแขนเล็กน้ อย
ขาด้ านล่างให้ เหยียดออก ขาข้ างบนงอเข่ าเล็กน้ อย
ถ้ านอนบนเปล ยกปลายเตียงสู งขึน้
อาการและอาการแสดง ขึน้ อยู่กบั ความรุ นแรงของกระแสไฟฟ้า
และระยะเวลาสั มผัส
(1)
(2)
(3)
(4)
(5)
(6)
(7)
ต้ องแน่ ใจตัวเองว่ าปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้า
ประเมินสภาพผู้เจ็บป่ วยฉุกเฉินเบือ้ งต้ น
จัดท่ านอนในกรณีหมดสติ
CPR เมื่อไม่ หายใจ / หัวใจหยุดเต้ น
ดูแลแผลเหมือนแผลไหม้ ทวั่ ไป
ให้ ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
นาส่ ง รพ.
อาการและอาการแสดง
การปฐมพยาบาล
(1)
(2)
(3)
(4)
มีฟองนา้ ลายรอบปากและจมูก
หายใจช้ าลง ชีพจรเบา ซีด หมดสติ
ประเมินสภาพเบือ้ งต้ น
CPR เมื่อไม่ หายใจ / หัวใจหยุดเต้ น
จัดท่ านอนศีรษะต่า ยกปลายเท้ าสู งเล็กน้ อย
ถ้ าเล่ นกระโดดน้า เล่ นกระดานโต้ คลืน่ ต้ องระวังกระดูกหัก
โดยเฉพาะกระดูกสั นหลังส่ วนคอ
(5) ให้ ความอบอุ่นแก่ ร่างกาย
(6) นาส่ ง รพ.
อาการและอาการแสดง
การปฐมพยาบาล
หายใจหอบเหนื่อย มีเสี ยงวีด๊ อ่อนแรง
หน้ าซีด ตัวเย็น ชีพจรเบา เขียว
(1)
(2)
(3)
(4)
จัดให้ นั่งศีรษะสู ง
สั งเกตการหายใจและตรวจชีพจร
พ่นยา (ถ้ ามี)
รีบนาส่ ง รพ.
เกิดเนื่องจากกลุ่มเซลล์ในระบบประสาทส่ วนกลาง
ส่ งสั ญญาณประสาทผิดปกติ
ทาให้ สมองทาหน้ าที่ผดิ ปกติไปชั่วคราว
อาการและอาการแสดง แบ่ งเป็ น 4 ระยะ
ระยะที่ 1
ระยะที่ 2
ระยะที่ 3
ระยะที่ 4
ก่ อนชักอาจพบอาการ ซึมเศร้ า ง่ วง กินจุ ซีด ปวดศีรษะข้ างเดียว
อาการก่อนเกิดลมชักเพียงระยะสั้ น ได้ แก่
หมดสติก่อนแล้วชัก
มือ เท้ า แขน ขาข้ างใดข้ างหนึ่ง กระตุก
ศีรษะ ตา หันไปข้ างใดข้ างหนึ่ง
เห็นแสงสว่ าง มืด
เวียนศีรษะ
ได้ ยนิ เสี ยง กลิน่ แปลกๆ
มีลกั ษณะเฉพาะตัวของผู้ชัก
อาการหลังชัก จะงุนงง มึนศีรษะ และหลับไป
(1)
(2)
(3)
(4)
(5)
(6)
(7)
(8)
(9)
(10)
ห้ ามคนมุงหรือรบกวน
ป้ องกันอันตรายขณะชัก
ระวังการกัดลิน้
ขณะชักไม่ ควรจับหรือตรึงผู้ป่วย และห้ ามให้ ยาหรือนา้ ทางปากเด็ดขาด
จัดให้ นอนตะแคงหน้ า
สั งเกตการหายใจและชีพจร
คลายเสื้อผ้ าให้ หลวม
นอนพักจนกว่ าจะฟื้ น
กรณีเด็กไข้ สูงและชัก เช็ดตัวด้ วยนา้ ธรรมดา และใช้ ผ้าชุ บนา้ วางไว้ ตามซอกพับต่ างๆ
หลังปฐมพยาบาล นาส่ ง รพ.
หมายถึง การหมดสติชั่วขณะ เนื่องจากเลือดไปเลีย้ งสมองไม่ เพียงพอ
สาเหตุ
การเปลีย่ นแปลงอารมณ์ อย่ างรุนแรง อากาศร้ อนอบอ้าว
หิว เหนื่อย อยู่ในทีแ่ สงแดดจัด เปลีย่ นท่ าอย่ างรวดเร็ว
โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมองจากการไออย่ างแรง
บางรายไม่ ทราบสาเหตุ
อาการและอาการแสดง
รู้ สึกไม่ สบาย ใจสั่ น มึนศีรษะ ตาลาย หน้ ามืด หาว หูออื้
ต่ อมามีเหงือ่ ออกที่ฝ่ามือ ฝ่ าเท้ า หน้ าซีด ชีพจรเต้ นเบา เร็ว
ปวดศีรษะ คลืน่ ไส้ อาเจียน กระหายนา้ หน้ าแดง
ผิวแห้ ง ชีพจรเต้ นแรงและเร็ว รู ม่านตาขยายเท่ ากัน 2 ข้ าง
ปวดศีรษะ คลืน่ ไส้ อุณหภูมิในร่ างกายตา่ กว่ าปกติเล็กน้ อย
รู ม่านตาปกติ
หายใจเร็วนามาก่ อน เมื่อฟื้ นจะชาตามปลายมือปลายเท้ า
มือเท้ าเกร็ง บางรายมีอาการคล้ ายชัก
(1)
(2)
(3)
(4)
(5)
(6)
(7)
นอนในทีอ่ ากาศถ่ ายเทได้ สะดวก
นอนท่ าศีรษะตา่ กว่ าลาตัวเล็กน้ อย ยกเว้ น เป็ นลมแดดให้ ศีรษะสู งกว่ าลาตัว
คลายเสื้อผ้าให้ หลวม
ถ้ าเหงือ่ ออกมากเช็ดให้ แห้ ง \ ลมแดดเช็ดตัวด้ วยนา้ เย็น
รู้ สึกตัวดีให้ ดมื่ เครื่องดืม่ เย็นๆ
ถ้ าหมดสติ ดูแลทางเดินหายใจ ตรวจสอบการหายใจและชีพจร
หากมีอาการผิดปกติ เช่ น แน่ นหน้ าอก หมดสตินาน รีบนาส่ ง รพ.
สาเหตุ
อาการและอาการแสดง
(1)
(2)
(3)
(4)
สู ญเสี ยนา้ และเกลือแร่
หน้ าซีด ตัวเย็น เหงือ่ ออกมาก ปวดบริเวณทีเ่ ป็ น
กระหายนา้ มาก อาจมึนงง คลืน่ ไส้ ชีพจรเต้ นแรง
ถ้ าเป็ นมากอาจหมดสติได้
นอนในทีร่ ่ ม อากาศถ่ ายเท
ค่ อยๆ เหยียดกล้ามเนือ้ ที่เป็ นตะคริวออก
ประคบด้ วยความร้ อน / ทาครีมแก้ปวดเมื่อย
ดืม่ นา้ เกลือแร่
งูมี 2 ประเภท
(1) งูมีพษิ
(2) งูไม่ มีพษิ
(1) เห็นรอยเขีย้ ว 2 รอย เป็ นรู ลกึ มีเลือดออก
(2) สถานทีท่ ถี่ ูกงูกดั พบงูชนิดใดมาก
(3) ดูจากอาการของผู้ถูกกัด
พิษของงูมี 3 ชนิด
(1) พิษต่ อระบบประสาท (Neurotoxin)
ได้ แก่ งูเห่ า งูจงอาง งูสามเหลีย่ ม
อาการของพิษต่ อระบบประสาท
(1) เจ็บหรือชาบริเวณทีถ่ ูกกัด มีรอยเขีย้ ว 2 จุด มีเลือดออกซิบๆ มีผนื่ แดง บวม
(2) 30 นาที ต่ อมาจะเพลียไม่ มีแรง ตาพร่ า ลืมตาไม่ ขนึ้
(3) ขากรรไกรแข็ง พูดไม่ ชัด แน่ นหน้ าอก หยุดหายใจภายใน 2 –3 ชั่วโมง
(2) พิษต่ อเลือด (Hemotoxin)
ได้ แก่ งูแมวเซา งูกะปะ งูเขียวหางไหม้
อาการของพิษต่ อเลือด
(1) ปวดและบวมมากบริเวณทีถ่ ูกกัด
(2) มีเลือดออกตามผิวหนัง ห้ อเลือดเป็ นจา้ ๆ มีเลือดออกตามอวัยวะต่ างๆ
(3) ไตวายและเสี ยชีวติ ในเวลาต่ อมา
(3) พิษต่ อกล้ ามเนือ้ (Myotoxin)
ได้ แก่ งูทะเลบางชนิด เช่ น งูคออ่ อน งูชายธง งูแสมรัง
อาการของพิษต่ อกล้ ามเนือ้
(1) ปวดและบวมบริเวณทีถ่ ูกกัด มีเลือดออกซิบๆ
(2) 1-2 ชั่วโมงต่ อมาจะปวดเมือ่ ยมาก หนังตาตก อ้าปากไม่ ขนึ้
(3) ถ้ าอาการรุ นแรงมาก ภายใน 4-5 ชั่วโมง จะมีปัสสาวะสี ดา
กล้ามเนือ้ เป็ นอัมพาตบางส่ วน ขากรรไกรแข็ง
(1)
(2)
(3)
(4)
ดูรอยกัดว่ าเป็ นงูพษิ หรือไม่
ล้ างแผลด้ วยนา้ สะอาดและสบู่มากๆ วางถุงนา้ แข็งบนบาดแผล
ห้ ามดืม่ สุ รา
ถ้ ามีเลือดออก ปิ ดแผล และสั งเกตระดับความรู้ สึกตัว
การหายใจและชีพจร
(5) รีบนาส่ ง รพ. (ถ้ าจับงูได้ ให้ นามาด้ วย)
ผึง้ แตน ต่ อ ต่ อย
พิษพวกนีม้ ีฤทธิ์เป็ นกรด แผลถูกต่ อยจะคัน บวม แดง
ถ้ าถูกต่ อยมากๆ จะมีอาการหายใจไม่ ออกและช็อคได้
(1)
(2)
(3)
(4)
รีบเอาเหล็กไนออกจากแผลทันที
ใช้ สาลีชุบแอมโมเนียหอมหรือนา้ ปูนใสทาบริเวณแผล
ใช้ นา้ แข็งประคบเพือ่ ระงับปวด
ถ้ าหายใจไม่ ออก รีบนาส่ ง รพ.
แมงมุม แมงป่ อง ตะขาบกัด
พิษแมงมุมทาลายประสาท อ่ อนเพลีย เวียนศีรษะ คลืน่ ไส้
แมงป่ องมีเหล็กไน จะปวดแสบปวดร้ อน คลืน่ ไส้ อาเจียน ชีพจรเบา ตับอักเสบ
(1)
(2)
(3)
(4)
ล้างแผลด้ วยนา้ สะอาด
ทาแผลด้ วยแอมโมเนียหอมหรือเบตาดีน
ถ้ าปวดมาก วางกระเป๋ านา้ แข็งบริเวณปากแผล
ถ้ าอาการมาก รีบนาส่ ง รพ.
ถ้ าเป็ นสุ นัขบ้ า ให้ ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุ นัขบ้ าทันที
(1) ล้ างแผลด้ วยสบู่และล้ างออกด้ วยนา้ สะอาด
(2) นาส่ ง รพ.
การปฐมพยาบาลผู้ทไี่ ด้ รับสารพิษ
(1)
(2)
(3)
(4)
ทางปาก
การสู ดดม
การฉีด
ทางผิวหนัง
(1) ชนิดกัดเนือ้ (Corrosive) ทาให้ เนือ้ เยือ่ ของร่ างกาย
ไหม้ พอง ได้ แก่ สารละลายพวกกรดหรือด่ างเข้ มข้ น
นา้ ยาฟอกขาว
(2) ชนิดระคายเคือง (Irritants) ทาให้ ปวดแสบปวดร้ อน
และอักเสบตามมา ได้ แก่ ฟอสฟอรัส สารหนู
อาหารเป็ นพิษ
(3) ชนิดกดระบบประสาท (Narcotics) ทาให้ หมดสติ หลับลึก
ปลุกไม่ ตนื่ ม่ านตาหดเล็ก ได้ แก่ ฝิ่ น มอร์ ฟีน พิษจากงูเห่ า
งูจงอาง
(4) ชนิดกระตุ้นระบบประสาท (Deliriants) ทาให้ เพ้อคลัง่
ใบหน้ าและผิวหนังแดง ตื่นเต้ น ชีพจรเต้ นเร็ว ม่ านตาขยาย
ได้ แก่ อโทรปี น ลาโพง
(1) ประเมินสภาพเบือ้ งต้ นและแก้ ไขปัญหาคุกคามก่ อน
(2) ประเมินภาวะการได้ รับสารพิษ โดยการซักถาม สั งเกตอาการ
สภาพแวดล้ อมทีพ่ บผู้เจ็บป่ วยฉุ กเฉิน
(3) ปฐมพยาบาล
(4) ทาให้ สารพิษเจือจาง โดยดื่มนมหรือนา้ เย็น 4-5 แก้วหรือกลืนไข่ ขาวดิบ 5-10 ฟอง
(5) ทาให้ อาเจียน ในรายที่เป็ นสารพิษทีไ่ ม่ กดั เนือ้ เท่ านั้น
(6) นาส่ ง รพ. ทันที (หากมีซองยาให้ นาไปด้ วย)
มีบาดแผลทีศ่ ีรษะหรือไม่ กไ็ ด้ กรณีมีบาดแผล ต้ องห้ ามเลือดก่อน
อาการและอาการแสดง
(1)
(2)
(3)
(4)
(5)
มีบาดแผลทีศ่ ีรษะ
ระดับความรู้ สึกตัวเปลีย่ นไป (ซึมลง)
ปวดศีรษะ อาเจียน หลังได้ รับบาดเจ็บ
มีนา้ หรือเลือดออกทางหู หรือ จมูก
มองเห็นภาพซ้ อน
(1)
(2)
(3)
(4)
ประเมินสภาพและแก้ ไขปัญหาก่ อน
กรณีไม่ รู้ สึกตัว จัดท่ านอนและดูแลทางเดินหายใจให้ โล่ ง
ระวังการเคลือ่ นย้ าย โดยเฉพาะบริเวณคอ
นาส่ ง รพ.เร็วที่สุด โดยเฉพาะรายที่ไม่ รู้ สึกตัว
บาดเจ็บที่ทรวงอก
ทีพ่ บบ่ อย คือ
ทาให้ ผนังทรวงอกด้ านนั้นเสี ยความยืดหยุ่นไป
(1)
(2)
(3)
(4)
ประเมินสภาพและแก้ ไขปัญหา
ให้ นอนนิ่งๆ
ถ้ าไม่ มอี าการช็อค จัดให้ นอนศีรษะสู ง
ระวังการเคลือ่ นย้ ายขณะนาส่ ง รพ.
เกิดจากทีม่ ีซี่โครงหักหลายตาแหน่ ง ทาให้ ส่วนที่หักไม่ ต่อเนื่องกัน มีอาการ
หายใจลาบาก เหนื่อยหอบ เจ็บหน้ าอก หน้ าอกเคลือ่ นไหวไม่ สัมพันธ์ กนั เขียว
(1)
(2)
(3)
(4)
ประเมินสภาพและแก้ ไขปัญหา
ให้ นอนนิ่งๆ
ถ้ าไม่ มีอาการช็อค จัดให้ นอนศีรษะสู ง
ระวังการเคลือ่ นย้ ายขณะนาส่ ง รพ.
เกิดจากการถูกแทงหรือถูกยิง อาจมีอาการช็อค เขียว
(1) ประเมินสภาพและแก้ ไขปัญหา
(2) ดูแลบาดแผล ทาการห้ ามเลือด
(3) รีบนาส่ ง รพ. สั งเกตอาการอย่ างใกล้ ชิด
มีอาการปวดท้ อง เกร็งแข็งเวลากด บางรายอาจมีบาดแผล
หรือวัสดุปักคาอยู่ มีอาการช็อค เขียว
(1)
(2)
(3)
(4)
(3)
ประเมินสภาพและแก้ไขปัญหา
ดูแลบาดแผล ทาการห้ ามเลือด
จัดท่ าให้ นอนราบ งอเข่ าเล็กน้ อย
ไม่ ให้ นา้ หรือยาแก่ผู้ป่วย
รีบนาส่ ง รพ.
ภาวะฉุกเฉินทาง ตา หู คอ จมูก
ภาวะฉุกเฉินทางตา
สิ่ งแปลกปลอมเข้ าตา ส่ วนใหญ่ จะติดอยู่ในหนังตาบน เยือ่ บุตา หรือกระจกตา
(1)
(2)
(3)
(4)
(5)
ไม่ ขยีต้ า
ค้ นหาสิ่ งแปลกปลอมในตา
ใช้ ไม้ พนั สาลีชุบนา้ สะอาดเขี่ยออกเบาๆ
ถ้ ายังไม่ ออก ลืมตาในนา้ สะอาดแล้วกลอกตาไปมา
ถ้ ายังไม่ ออก รีบนาส่ ง รพ.
ลูกตาที่ได้ รับการกระทบกระเทือน
อาการ เจ็บตา ตามัวหลังถูกกระแทก อาจมีเลือดออกในตา
(1)
(2)
(3)
(4)
(5)
อยู่ในท่ าศีรษะสู ง เคลือ่ นไหวน้ อย
ถ้ ามีบาดแผลฉีกขาดบริเวณเปลือกตา ต้ องห้ ามเลือด
ประคบด้ วยความเย็น
ปิ ดตาทั้ง 2 ข้ าง
รีบนาส่ ง รพ.
ถ้ าเป็ นสิ่ งมีชีวติ
(1) ต้ องทาให้ ตายหรือลอยออกมาก่ อน โดยหยอดนา้ หรือนา้ มัน
มะกอก ทิง้ ไว้ สักครู่ แล้ วตะแคงให้ ไหลออกมาก
(2) ใช้ สาลีชุบนา้ ต้ มสุ กเช็ดให้ สะอาด
(3) ถ้ าไม่ ออก นาส่ ง รพ.
ถ้ าเป็ นสิ่ งไม่ มีชีวติ
(1) ห้ ามหยอดยาใดๆ ให้ ตะแคงหูขนึ้ ลง
(2) ถ้ าปวดมาก รับประทานยาแก้ปวด
(3) นาส่ ง รพ.
เลือดกาเดาออก / สิ่ งแปลกปลอมเข้ าจมูก
เลือดกาเดาออก มีเลือดออกทางจมูก บางรายเสี ยเลือดมากอาจช็อค
(1)
(2)
(3)
(4)
นั่งก้มศีรษะไปข้ างหน้ าเล็กน้ อย
บีบจมูกให้ แน่ น 8-10 นาที
ประคบความเย็นทีด่ ้งั จมูก
ถ้ าเลือดไม่ หยุด นาส่ ง รพ.
สิ่ งแปลกปลอมเข้ าจมูก
จะมีอาการคัดจมูก มีนา้ มูกใส อาจมีเลือดออก ถ้ าวัตถุซึมนา้ และพองตัว
จะเห็นจมูกพองข้ างเดียว
(1)
(2)
(3)
(4)
ซักถามว่ าสิ่ งแปลกปลอมคืออะไร
ถ้ าผู้ป่วยคุยรู้ เรื่อง ให้ ผ้ ปู ่ วยพยายามสั่ งออกมา
ถ้ าอยู่ลกึ แต่ ผวิ เรียบ ใช้ มอื บีบจมูกผู้ป่วยค่ อยๆ ไล่ ลงมา
ถ้ าไม่ ออก นาส่ ง รพ. สั งเกตอาการเขียว หายใจลาบาก ดูแลอย่ างใกล้ ชิด
การคลอดฉุกเฉิน ต้ องระมัดระวังในเรื่อง
ความเหมาะสมและจริยธรรม
ไม่ ควรละเมิดสิ ทธิอนั ชอบธรรมของผู้ต้งั ครรภ์
เช่ น มุงดูหรือถ่ ายภาพ
กรณีที่เด็กยังไม่ คลอด ควรแนะนาดังนี้
ให้ มารดาหายใจลึกๆ และยาวๆ
จัดท่ าให้ มารดานอนตะแคงซ้ าย
ปลอบโยนให้ กาลังใจ
กรณีศีรษะเด็กโผล่ออกมา
ห้ ามขัดขวางการคลอด
ห้ ามหนีบหรือไขว้ ขา
(1) ให้ ผู้ต้งั ครรภ์ นอนราบ ชันเข่ า แยกขาออก หายใจเข้ าและออกลึกๆ
(2) ผู้ช่วยทาคลอดต้ องใส่ ถุงมือและปูผ้าสะอาดเตรียมรองรับทารก
(3) ห้ ามแตะต้ องอวัยวะเพศของผู้จะคลอด ห้ ามดึงเด็กออก
(4) เมื่อทารกคลอดออกมาแล้ ว ให้ จับนอนตะแคงเพือ่ ป้ องกันการสาลัก
(5) ใช้ ลูกสู บยางแดงดูดนา้ ในปากและจมูกทารก
(6) ถ้ าทารกไม่ ร้อง ต้ องกระตุ้นให้ ร้อง โดยตบเบาๆ ทีห่ ลัง/ฝ่ าเท้ า
(7)
(8)
(9)
(10)
(11)
สั งเกตทารกปกติหรือไม่ ตัวแดงขยับแขนขาหรือไม่
ผูกสายสะดือห่ างจากลาตัวประมาณ 1 คืบ
เช็ดตัวทารกให้ แห้ งและห่ อด้ วยผ้ าสะอาด เพือ่ ความอบอุ่น
สั งเกตอาการทารกอย่ างต่ อเนื่อง
สั งเกตอาการมารดาเกีย่ วกับความรู้ สึกตัว ชีพจรและ
ปริมาณเลือดทีอ่ อกจากช่ องคลอด
(12) รกจะคลอดออกมาเองภายในครึ่งชั่วโมง
(13) นารกใส่ ถุง ส่ งรพ.พร้ อมมารดาและทารก
กรณีทคี่ ลอดผิดปกติ
เช่ น ทารกยื่นส่ วนอืน่ ของร่ างกายทีไ่ ม่ ใช่ ศีรษะ
ออกมา หรือรกโผล่ออกมาก่อนศีรษะ หรือมีเลือดออกจากช่ องคลอด
เป็ นอันตรายต่ อทารกและมารดามาก
ช่ วยเหลือดังนี้
ให้ ผู้ทคี่ ลอดนอนศีรษะต่า
ใช้ หมอนหรือผ้ าหนาๆ รองใต้ ก้นให้ สูงกว่ าศีรษะ
รีบนาส่ ง รพ.โดยเร็วทีส่ ุ ด
สาเหตุทพี่ บบ่ อย
(1)
(2)
(3)
(4)
(5)
ภาวะเครียด
การเจ็บป่ วย หรือ บาดเจ็บ
ได้ รับสารทีม่ ีผลต่ อจิตใจ เช่ น ดืม่ สุ รา ยา
มีปัญหาทางจิตใจ
โรคทางจิตเวช
(1)
(2)
(3)
(4)
ประเมินความปลอดภัยของสถานที่
ประเมินสภาพผู้เจ็บป่ วยฉุกเฉินเบือ้ งต้ น
ประเมินภาวะฉุกเฉินทางพฤติกรรม
ประเมินความรุนแรงจากสถานที่ ประวัตคิ รอบครัว ท่ าทาง
นา้ เสี ยงที่แสดงออก
(5) ให้ ความมัน่ ใจและสบายใจกับผู้ป่วย ขณะรอการช่ วยเหลือ
จากเจ้ าหน้ าที่ EMS