การดำเนินงานสาธารณสุข - คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Download Report

Transcript การดำเนินงานสาธารณสุข - คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

การดาเนิ นงาน
สาธารณสุข
สุวสั สา เพ็งสีแสง
สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร ์
คณะวิทยาศาสาตร ์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยราชภัฏบ ้านสมเด็จเจ ้าพระยา
o การส่งเสริมสุขภาพ
o การป้ องกันและควบคุมโรค
้
o การร ักษาพยาบาลเบืองต้
น
o การฟื ้ นฟู
o การประกันสุขภาพ
การส่งเสริมสุขภาพ
โอ ดอนเนลล ์ (O’ Donnell)
 หมายถึง วิทยาศาสตร ์และศิลปะในการช่วยให ้ประชาชน
่
เปลียนแปลงวิ
ถช
ี วี ต
ิ ไปสูส
่ ภาวะ
ครู เตอร ์ และดีวอร ์ (Kreuter and Devore)
 หมายถึง กระบวนการสนับสนุ นด ้านสุขภาพโดยให ้บุคคล
่
ครอบคร ัว ชุมชน ภาคเอกชน และภาคร ัฐ ร่วมมือปฏิบต
ั ิ เพือการ
่
มีสข
ุ ภาพทีดี
สุรเกียรติ อาชานานุ ภาพ
่
 หมายถึง กระบวนการส่งเสริมให ้ประชาชนเพิมสมรรถนะในการ
ควบคุมและพัฒนาสุขภาพของตนเอง
การส่งเสริมสุขภาพ
ยุทธศาสตร ์การส่งเสริมสุขภาพแนวใหม่
่ ขภาพ (Build healthy
 การสร ้างนโยบายสาธารณสุขเพือสุ
public)
่
่ อต่
้ อสุขภาพ (Create
 การสร ้างสรรค ์สิงแวดล
้อมทีเอื
supportive environment)
 การเสริมสร ้างกิจกรรมชุมชนให ้เข ้มแข็ง (Strengthen
community action)
 การพัฒนาทักษะส่วนบุคคล (Develop personal skills)
่
 การปร ับเปลียนระบบบริ
การสุขภาพ (Reorient health
services)
สุขบัญญัต ิ 10 ประการ
1. ดูแลร ักษาและของใช ้ให ้สะอาด
2. ร ักษาฟันให ้แข็งแรง และแปรงฟันทุกวันอย่างถูกต ้อง
3. ล ้างมือให ้สะอาดก่อนกินอาหารและหลังการขับถ่าย
่
4. กินอาหารสุก สะอาด ปราศจากสารอันตราย และหลีกเลียง
5.
6.
7.
8.
9.
อาหารรสจัด สีฉูดฉาด
งดบุหรี่ สุรา สารเสพย ์ติด การพนัน และการสาส่อนทาง
เพศ
สร ้างความสัมพันธ ์ในครอบคร ัวให ้อบอุน
่
ป้ องกันอุบต
ั ภ
ิ ยั ด ้วยการไม่ประมาท
ออกกาลังกายสม่าเสมอ และตรวจสุขภาพประจาปี
ทาจิตใจให ้ร่าเริงแจ่มใส่อยูเ่ สมอ
การป้ องกันและควบคุมโรค
้ ฒนาการของโรค
 การขจัดยับยังพั
 การประเมินและการร ักษาเฉพาะ
่ ดการความก ้าวหน้าของโรคในทุกระยะ
 เพือจั
่
แนวทางทัวไปในการป้
องก ันและ
ควบคุ
ม
โรค
Agent
Host
่ ท
่ าให ้
กาจัดสิงที
1.เสริมสร ้าง
เกิดโรค
ภูมค
ิ ุ ้มกันโรค
่
ในผูป้ ่ วย พาหะ
2.ลดพฤติกรรมเสียง
Environmentต่อโรค
และแหล่งแพร่เชือ้
่
้อม
ควบคุมปร ับปรุงสิงแวดล
้ อการเกิดแพร่โรค
ไม่ให ้เอือต่
้ ย สิงปฏิ
่
เช่น ขยะ นาเสี
กล
ู
่ นพาหะนา
สัตว ์และแมลงทีเป็
โรค
ระดับและแนวทางการป้ องกันโรค
Primary prevention
่ งไม่มโี รค
ป้ องก ันในระยะทียั
่
เพือไม่
ให้โรค โดยอาศ ัยหลัก
่
1.เปลียนความไวต่
อการเกิด
โรค (susceptibility)
2.ลดโอกาสผู ท
้ มี
ี่ ความไวใน
การเกิดโรค (individual
susceptibility)
3.กาจด
ั หรือลดสาเหตุ
ทาได้โดย
1.ส่งเสริมสุขภาพ
(Health Promotion)
2.คุม
้ ก ันเฉพาะ
(Specific Protection)
Secondary prevention
Tertiary prevention
่
้
ป้ องก ันเมือโรคเกิ
ดขึนแล้
ว
่
เพือลดความรุ
นแรงและการ
แพร่กระจายของโรค จะต้องทา
ก่อนการมีอาการ และขณะมี
้
อาการของโรคเกิดขึน
การป้ องก ัน ได้แก่ การ
่ และให้
วินิจฉัยในระยะแรกเริม
การร ักษาทันที
ทาได้โดย
่ งไม่ม ี
1. ค้นหาผู ป
้ ่ วยในระยะทียั
อาการ
2. วินิจฉัยผู ป
้ ่ วยได้อย่าง
่
รวดเร็วเมือพบมี
อาการ
่ การหรือป่ วยมาก
ป้ องก ันเมือพิ
่
เพือลดภาวะแทรกซ
้อนของ
โรค ลดความพิการของโรค
่
ตลอดจนผลเสียต่างๆ ทีจะ
ตามมาภายหลังจากเกิดโรค
่
เป็ นการป้ องก ันในขณะทีโรค
่
เป็ นมากแล้ว นับว่าเสียงต่
อ
อ ันตรายและได้ผลน้อย
ทาได้โดย
1. กาจด
ั ความพิการของโรค
(Disability limitation)
2. ฟื ้ นฟู สุขภาพ
(Rehabilitation)
ระยะก่อน
เกิดโรค
Stage of
susceptibility
ระยะยังไม่เป็ นโรค
Primary
preventio
n
ระยะเกิดโรค
Stage of
presymptomatic
disease
ยังไม่แสดงอาการ
Stage of clinical
disease
Stage of
disability
แสดงอาการ
ระยะหาย หรือ ตาย
Secondary
prevention
Tertiary
preventio
n
การป้ องกันโรคแบ่งได ้เป็ น 3 ระดับ
1. การป้ องกันโรคระดับแรก (Primary prevention)
่
2. การป้ องกันโรคระดับทีสอง
(Secondary
prevention)
่
3. การป้ องกันโรคระดับทีสาม
(Tertiary
pervention)
Primary prevention
่
 การส่งเสริมสุขภาพโดยทัวไป
 การปกป้ องและต่อต ้านการเกิดเฉพาะโรค
ได ้แก่
o การให ้สุขศึกษา
o การร ับประทานอาหารเหมาะสมตามวัย
o การพัฒนาบุคลิกภาพ
o การทางาน การพักผ่อน และนันทนาการอย่าง
เหมาะสม
่
่
o การได ้ร ับคาปรึกษาเรืองการแต่
งงานและเรืองเพศ
o การคัดกรองพันธุกรรม การตรวจสุขภาพ
Secondary prevention
 การได ้ร ับการวินิจฉัยในระยะแรกของโรคและได ้ร ับการร ักษา
ทันท่วงที
่ นมีระยะเวลาสันสามารถกลั
้
 ความรุนแรงของโรคทีเป็
บสูส
่ ภาวะ
ของการมีสข
ุ ภาพดีได ้อย่างรวดเร็ว
Tertiary pervention
่ เพียงแต่หยุดการดาเนิ นของโรคเท่านั้น
 เป็ นระดับทีไม่
่
 ป้ องกันความเสือมสมรรถภาพอย่
างสมบูรณ์
่ ้กลับสูส
 เพือให
่ งั คมได ้อย่างมีคณ
ุ ค่า
้
การร ักษาพยาบาลเบืองต้
น
 การระวัง การดูแล การป้ องกัน หรือการเยียวยา
 ตามพจนานุ กรมฉบับราชบัณฑิตสถาน
 ให ้ความหมายของการพยาบาล หมายถึง การดูแลคนไข ้ การ
้ ้อเลียงดู
้
ปรนนิ บต
ั ค
ิ นไข ้ การเอือเฟื
้
การร ักษาพยาบาลเบืองต้
น
แมคเคลนและแกรกก ์ (McClain & Gragg. 1966 : 33)
้ ทยา-ศาสตร ์และศิลปะ
 การพยาบาลเป็ นทังวิ
่ ้องการความเมตตา
 การพยาบาลเป็ นศิลปะอย่างหนึ่ งซึงต
กรุณาและความพร ้อมของผู ้พยาบาล
่
 เป็ นการช่วยเหลือให ้แต่ละบุคคลมีสข
ุ ภาพทีดี
่ ๆ มาประกอบการพยาบาล
 นากฎและหลักของศาสตร ์อืน
่
 เช่น ศาสตร ์ในวิชาชีววิทยา สังคมวิทยา วิทยาศาสตร ์ และอืน
ๆ
้
การร ักษาพยาบาลเบืองต้
น
 ไพรซ ์ (Price 1965 : 2)
้ ทยาศาสตร ์และศิลปะ
 การพยาบาลเป็ นทังวิ
 ไม่ใช่วท
ิ ยาศาสตร ์บริสท
ุ ธิ ์ และไม่ใช่ศล
ิ ปะอย่างแท ้จริง เช่น ศิลปะ




้
ทังหลาย
่ ผสมผสานกั
่
้
เป็ นสิงที
นของศาสตร ์ทังสอง
่ ความละเอียดลึกซึงมากกว่
้
เป็ นวิชาชีพทีมี
าศิลปะและวิทยาศาสตร ์
้
่ ทศ
มีองค ์ประกอบ 3 ประการ คือ ศิลป วิทยาศาสตร ์ และนาใจซึ
งอุ
ิ
ให ้โดยไม่เห็นแก่ตวั
่ ความเจ็บป่ วยทังทางร่
้
ให ้การช่วยเหลือแก่บค
ุ คลทีมี
างกายและ
จิตใจ
้
การร ักษาพยาบาลเบืองต้
น
 เฟิ สท ์ และวู ล ์ฟ (Fuerst & Wolff. 1979 : 4)
่ ขภาพ
 การพยาบาลเป็ นการให ้บริการดูแลเรืองสุ
่ ขภาพ และการช่วยเหลือให ้บุคคลนั้นเผชิญต่อ
 การคงไว ้ซึงสุ
่ ทสุ
่
่
วิถท
ี างทีดี
ี่ ดเท่าทีจะเป็
นไปได ้ เกียวกั
บปัญหาชีวต
ิ ประจาวัน
่
ความเจ็บป่ วย อันตราย ความพิการหรือแม้กระทังความตาย
้
 เป็ นการให ้บริการแก่ทก
ุ คน ไม่เลือกเชือชาติ
ศาสนา ลัทธิหรือ
สถานะทางสังคมและเศรษฐกิจ
 การดูแลผูส
้ งู อายุ ไม่วา่ ผูน้ ้ันจะมั่งมีหรือยากจน
้
 พืนฐานการให้
การพยาบาล คือ ความเคารพในคุณค่า
ของบุคคลทุกคน
สรุปได้วา
่
่ วยให ้บุคคลแต่ละคน
 การร ักษาพยาบาล เป็ นกระบวนการทีช่
่ ขภาพทีดี
่ ทงทางด
้ั
คงไว ้ซึงสุ
้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม
 ให ้สามารถดารงชีวต
ิ อยู่ในสังคมได ้อย่างมีความสุขตามสภาวะ
 ใช ้หลักการทางวิทยาศาสตร ์และศิลปะช่วยเหลือผูป่้ วยให ้มี
่
สุขภาพทีสมบู
รณ์
โครงการพระราชดาริ
 โครงการหน่ วยแพทย ์พระราชทาน
 โครงการแพทย ์ หู คอ จมูก และโรคภูมแ
ิ พ้
 โครงการอบรมหมอหมู่บ ้าน
 โครงการศัลยแพทย ์อาสาราชวิทยาลัยศัลยแพทย ์แห่ง
ประเทศไทย
่
่
 โครงการหน่ วยแพทย ์เคลือนที
ทางน
า้
 โครงการเกลือเสริมไอโอดีนพระราชทาน
การฟื ้ นฟู สมรรถภาพ
 ทางด ้านร่างกาย
 ทางด ้านจิตใจ
 ทางด ้านสังคม
 ทางด ้านอาชีพ
การฟื ้ นฟู สมรรถภาพทางด้าน
ร่างกาย
่
 ผูห
้ ย่อนสมรรถภาพทางด ้านร่างกาย หมายถึง บุคคลทีมี
ปัญหาทางร่างกายในด ้านโครงสร ้างและการทางานของอวัยวะ
ต่างๆอันเนื่ องมาจากการเป็ นโรค ความบกพร่องในการทางาน
่
ของระบบต่างๆ ความเสือมตามวั
ยหรืออุบต
ั เิ หตุ
้ ้น
 จัดให ้มีการร ักษาพยาบาลเบืองต
 ส่งเสริมร ักษาสุขภาพอนามัย
 กายภาพบาบัด
ต ัวอย่างกิจกรรมบาบัด
่
่
่ ของผู ้ป่ วย
 ให ้คาแนะนาหรือให ้กิจกรรมเพือคงไว
้ซึงสภาวะที
ดี
 สอนผูป
้ ่ วยทากิจวัตรประจาวันตามระดับความสามารถของ
 ดัดแปลงอุปกรณ์ชว่ ยและอุปกรณ์เสริมในการทากิจวัตร
ประจาวันให ้กับผูป้ ่ วย
่
่ ความจาเป็ นต ้อง
 ออกแบบและจัดทาเครืองดามให
้กับผู ้ป่ วยทีมี
่
่
ใช ้เครืองดาม
สอนวิธใี ส่-ถอดและการดูแลร ักษาเครืองดาม
การฟื ้ นฟู สมรรถภาพทางด้านจิตใจ
 จัดโครงการพัฒนาจิตใจ
 ส่งเสริมให ้ผูร้ ับการบริการได ้ปฏิบต
ั ธิ รรม และนิ มนต ์ พระสงฆ ์
มาแสดงธรรมอย่างสม่าเสมอ
กิจกรรมบาบัดปั ญหาด้านจิตใจ
 การช่วยลดอาการเจ็บป่ วยทางจิต ความเครียดและ การ




หมกมุ่นกับการเจ็บป่ วย
่ กยภาพและ ความภาคภูมใิ จแก่ผปู่ ้ วย
ช่วยเพิมศั
่ น
ช่วยให ้ผูป้ ่ วยและครอบคร ัวมีรายได ้จากการทางาน เพิมพู
คุณภาพชีวต
ิ ของผูป้ ่ วยและครอบครัว
สมาชิกของชุมชนอยู่รว่ มกับผูป่้ วยได ้อย่างสงบสุข
ผูป้ ่ วยและครอบครัว มีสว่ นร่วมในการร ับผิดชอบดูแลสุขภาพ
และช่วยเหลือตัวเอง
การฟื ้ นฟู สมรรถภาพทางด้านสังคม
 ทาข ้อมูลคนพิการสอบประวัตแ
ิ ละวางแผนให ้ความ
ช่วยเหลือ
 ให ้คาปรึกษาแนะนาและแก ้ไขปัญหาต่างๆ เป็ น รายบุคคล
และรายกลุม
่
่ ้การฟื ้ นฟูสมรรถภาพทางด ้าน
 จัดกิจกรรมกลุม
่ เพือให
สังคม อารมณ์ และจิตใจ
่
่
้านเพือสอบข
้อเท็จจริงประกอบการวางแผน
 เยียมบ
ช่วยเหลือ
 กาหนดแนวทางให ้บุคคลพิการอยูร
่ ว่ มกันอย่างมีความสุข
โดยรู ้จักช่วยเหลือตนเอง และช่วยเหลือผูอ้ น
ื่
 จัดนันทนาการ การกีฬา และการออกกาลังกาย
การฟื ้ นฟู สมรรถภาพทางด้าน
อาชีพ
 การฝึ กอาชีพและพัฒนาศักยภาพด ้านร่างกาย
 ส่งเสริมให ้ประกอบอาชีพอิสระและในสถานประกอบการ
้
 ให ้บริการด ้านอาชีวบาบัดและฝึ กพืนฐานทางอาชี
พ
้
 เน้นทักษะการฝึ กอาชีพแบบตรงไปตรงมา เช่น อธิบายอุปกรณ์ทใช
ี่ ้และสาธิตให ้ดูทก
ุ ขันตอน
้
ให ้ผูป้ ่ วยทาตาม หากทาได ้ไม่ครบทุกขันตอนจะได
้รบั ความช่วยเหลือจากนักอาชีวบาบัด
 จัดกลุม
่ ดนตรีไทย - สากล
 จัดกลุม
่ ทอเสือ่
 จัดกลุม
่ สานตะกร ้าจากเส ้นพลาสติก
่
 โครงการตามพระราชดาริ ได ้แก่ งานเครืองสานย่
านลิเพา งาน
แกะสลักไม ้และวิจต
ิ รศิลป์ งานดนตรีปีพาทย ์มอญ
การประก ันสุขภาพ
 การประกันสุขภาพตามระบบประกันสังคม
 การประกันสุขภาพในระบบกองทุนเงินทดแทน
 หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
 พระราชบัญญัตค
ิ ุม
้ ครองผู ป
้ ระสบภัยจากรถ
 การประกันชีวต
ิ และประกันสุขภาพเอกชน
การประก ันสุขภาพตามระบบ
ประก ันสังคม
 เป็ นระบบสวัสดิการทีร่ ัฐจัดให ้มีขน
ึ ้ โดยนายจ ้าง ลูกจ ้าง ร่วมกัน
จ่ายเงินสมทบเข ้ากองทุน
 รับผิดชอบโดยสานักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงานและ
สวัสดิการสังคม
 ตามพระราชบัญญัตป
ิ ระกันสังคม พ.ศ.2533
่ ม พ.ศ. 2542
 ฉบับแก ้ไขเพิมเติ
การประก ันสุขภาพตามระบบ
ประก ันสังคม
ประโยชน์ทดแทน 7 กรณี
1. กรณี ประสบอันตรายหรือเจ็บป่ วยอันมิใช่เนื่ องมาจากการ
ทางาน
2. กรณี คลอดบุตร
3. กรณี ทพ
ุ ลภาพ
4. กรณี เสียชีวต
ิ
5. กรณี สงเคราะห ์บุตร
6. กรณี ชราภาพ
7. กรณี วา่ งงาน
การประก ันสุขภาพในระบบกองทุน
เงินทดแทน
 กรณี ลก
ู จ ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่ วย หรือเสียชีวต
ิ เนื่ องจาก
การทางาน
 พระราชบัญญัตเิ งินทดแทน พ.ศ. 2537
่ ายเงินสมทบเข ้ากองทุนเงินทดแทน
 กาหนดให ้นายจ ้างมีหน้าทีจ่
ฝ่ ายเดียว
การประก ันสุขภาพในระบบกองทุน
เงินทดแทน
ประโยชน์ทลู
ี่ กจ้างได้ร ับจากกองทุนเงินทดแทน ได ้แก่
่ ดอุบต
1. เมือเกิ
ั เิ หตุหรือเกิดการเจ็บป่ วย นายจ ้างจะรีบส่งลูกจ ้างเข ้าร ับ
้ บแจ ้งอุบต
การร ักษาพยาบาลทันที พร ้อมกันนี จะรี
ั เิ หตุ
2. ลูกจ ้างเกิดความมั่นใจในการทางาน
่ า
3. ลูกจ ้างสามารถเข ้าร ับการร ักษา โดยไม่มค
ี วามกังวลเรืองค่
ร ักษาพยาบาล
4. ลูกจ ้างสามารถเข ้าร ับบริการฟื ้ นฟูสมรรถภาพในการทางาน
ได ้
่ กจ ้างสูญเสียอวัยวะหรือสูญเสียสมรรถภาพ จะได ้ร ับ
5. เมือลู
เงินทดแทน
หลักประก ันสุขภาพถ้วนหน้า
่
 หลักประกันสุขภาพถ ้วนหน้ามีแนวคิด ทีจะสร
้างหลักประกันให ้กับ
่ ้มาตรฐาน
คนไทยทุกคนในการร ับบริการสาธารณสุขทีได
 ผูย
้ ากไร ้มีสท
ิ ธิได ้ร ับการร ักษาพยาบาลจากสถานบริการ
สาธารณสุขของร ัฐโดยไม่เสียค่าใช ้จ่าย
่ มส
 คนทีไม่
ี ท
ิ ธิ จากหลักประกันสุขภาพในระบบประกันสังคม หรือ
่
สวัสดิการเกียวกั
บการร ักษาพยาบาลของข ้าราชการและ
ครอบคร ัวจะได ้ร ับสิทธิจากหลักประกันสุขภาพถ ้วนหน้า
 หลักประกันสุขภาพถ ้วนหน้าคล ้ายกับระบบประกันสังคม
 แต่สท
ิ ธิประโยชน์บางประการจะได ้ร ับน้อยกว่า
หลักประก ันสุขภาพถ้วนหน้า
สิทธิประโยชน์หลักในโครงการหลักประกน
ั สุขภาพ
ถ้วนหน้า
้ สภาพทัวไป
่
1. การตรวจร ักษาโรคและพืนฟู
่ คา่ ใช ้จ่ายสูง การใช ้ยาต ้านไวร ัสเอดส ์ รวมทัง้
2. การร ักษาพยาบาลทีมี
่
่ าหนด
อวัยวะเทียมและอุปกรณ์ ตามเงือนไขการจ่
ายทีก
่
่ ้าร่วม
3. กรณี อบ
ุ ต
ั เิ หตุ ฉุ กเฉิ น สามารถใช ้บริการทีสถานพยาบาลที
เข
่
่ ดเหตุทวประเทศ
่ั
โครงการทีใกล
้จุดทีเกิ
่ ดขึนภายใน
้
่ั
 ค่าใช ้จ่ายทีเกิ
72 ชวโมงแรกให
้เบิกจากกองทุนประกันสังคมที่
ส่วนกลาง
่
่ าหนด
 หลังจากนั้นหน่ วยบริการคูส
่ ญ
ั ญาจะร ับผิดชอบตามเงือนไขที
ก
่ จจุบน
4. บริการกลุม
่ ทีปั
ั มีงบประมาณให ้เป็ นการเฉพาะ ได ้แก่
- โรคจิต กรณี ทต
ี่ ้องร ับไว ้ร ักษาเป็ นผูป้ ่ วยในเกินกว่า 15 วัน
้ ผูต้ ด
- การบาบัดร ักษาพืนฟู
ิ ยาเสพติด
- ผูป้ ระสบภัยจากรถ
พระราชบัญญัตค
ิ ม
ุ ้ ครองผู ป
้ ระสบภัยจาก
รถ พ.ศ. 2535
 บังคับให้เจ้าของรถทุกคนทาประกันภัยภาคบังคับ
่ การบาดเจ็บ สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ หรือ
 เมือมี
เสียชีวต
ิ จากอุบต
ั เิ หตุทางจราจร บริษท
ั ประกันภัยจะเป็ น
ผูร้ ับผิดชอบ
การประก ันชีวต
ิ และประกันสุขภาพ
เอกชน
 เป็ นระบบการประกันสุขภาพภาคสมัครใจ
้
 ผูท
้ ต
ี่ ้องการได ้สิทธิประโยชน์จะซือประกั
นชีวต
ิ และประกัน
่
่
สุขภาพตามเงือนไขที
ตกลงกั
น