Powepoint ผลกระทบน้ำมันทอดซ้ำเสื่อมสภาพต่อสุขภาพ โดย อตินุช นารถ
Download
Report
Transcript Powepoint ผลกระทบน้ำมันทอดซ้ำเสื่อมสภาพต่อสุขภาพ โดย อตินุช นารถ
ผลกระทบ
นำ้ มันทอดซ้ำ
เสื่ อมสภำพ
ต่ อสุขภำพ
อตินุช นำรถนำ้ พอง
ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 อุบลราชธานี
15 มีนาคม 2554
การประชุมวิชาการคุม้ ครองผูบ้ ริ โภคครั้งที่ 2 (คคส.)
กรอบกำรนำเสนอ
ปริ มาณสารโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน
ในน้ ามันพืชทอดซ้ าที่ระดับสารโพลาร์ในน้ ามันต่างกัน
ปริ มาณโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในน้ ามัน
ทอดอาหารประเภทแป้ งและเนื้อสัตว์เพื่อจาหน่าย
ที่มีสารโพลาร์ไม่เกินร้อยละ 25 ของน้ าหนัก
ผลของแมกนีเซียมซิลิเกตต่อระดับ
โพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในน้ ามันทอดอาหาร
สำรพิษทีเ่ กิดขึน้ ในนำ้ มันทอดซ้ำเสื่ อมสภำพ
สำรโพลำร์
(Polar compounds)
โพลีไซคลิกอะโรมำติกไฮโดรคำร์ บอน
(Polycyclic aromatic hydrocarbons;
PAHs)
Polycyclic aromatic hydrocarbons (PAHs)
เป็ นกลุ่มของสารพิษที่ส่วนใหญ่เป็ นสารเหนี่ยวนาการกลายพันธ์
และสารก่อมะเร็ ง
เกิดจากกระบวนการเผาไหม้ที่ไม่สมบรู ณ์ของถ่านหิ น แก็ส ไม้
วัตถุอินทรี ยอ์ ื่นๆ และ น้ ามัน
เป็ นสารไม่มีข้วั ละลายได้ดีในไขมัน สะสมในร่ างกายได้นาน
และขับออกได้ยาก
เข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทางคือ
ปอดโดยการหายใจ
ระบบทางเดินอาหารโดยการกินอาหารที่ปนเปื้ อน PAHs
ผิวหนังเมื่อสัมผัสสิ่ งแวดล้อมที่มี PAHs
ปริมำณสำรโพลีไซคลิกอะโรมำติกไฮโดรคำร์ บอน
ในน้ำมันพืชทอดซ้ำที่ระดับสำรโพลำร์ ในน้ำมันต่ ำงกัน
น้ ามันสาหรับทอดอาหารเมื่อใช้ทอดอาหารไปเรื่ อยๆจะเกิดการเสื่ อมคุณภาพ
และทาให้เกิดการสะสมของสารโพลาร์
ปริ มาณของสารโพลาร์ รวมในน้ ามันเป็ นค่าหนึ่ งที่ใช้บ่งบอกถึงคุณภาพน้ ามัน
และเป็ นที่ยอมรับในระดับสากล
ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุ ขฉบับที่ 283 พ.ศ.2547 กาหนดให้
น้ ามันที่ใช้ทอดหรื อประกอบอาหารเพื่อจาหน่าย
มีค่าโพลาร์ ไม่เกินร้อยละ 25 ของน้ าหนัก
การวัดปริ มาณโพลาร์ ไม่ได้บ่งชี้ถึงความเป็ นพิษที่เกิดขึ้น
และสะสมจากการใช้น้ ามันที่เสื่ อมคุณภาพ
ปริมำณสำรโพลีไซคลิกอะโรมำติกไฮโดรคำร์ บอน
ในน้ำมันพืชทอดซ้ำที่ระดับสำรโพลำร์ ในน้ำมันต่ ำงกัน
อตินุช นารถน้ าพอง*, สุ พตั รา ปรศุพฒั นา**, เจตนา วีระกุล**, วรศักดิ์ อินทร์ชยั ***
*ศูนย์วท
ิ ยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 (อุบลราชธานี), **คณะเภสัชศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น, *** ศูนย์วทิ ยาศาสตร์การแพทย์ที่ 5 (นครราชสี มา)
วัตถุประสงค์
เพื่อศึกษาการเกิดขึ้นของสารกลุ่ม PAHs ในน้ ามันพืชทอดซ้ า
ที่มีค่าร้อยละสารโพลาร์ต่างๆ
วิธีกำรศึกษำ
การเตรี ยมน้ ามัน
ทอดแป้ ง ~ 1 ชัว่ โมง
ให้ความร้อนต่ออีก 1 ชัว่ โมง
รวมวันละ 2 ชัว่ โมง
ทอดซ้ าติดต่อกันเป็ นเวลา 10 วัน
หลังการทอดแต่ละครั้งจะไม่กรองน้ ามันและไม่เติมน้ ามันใหม่
แต่จะช้อนเศษอาหารที่ลอยอยูบ่ นผิวหน้าน้ ามันทิ้ง
ตรวจวัดค่าร้อยละสารโพลาร์ตามวิธีการของ IUPAC
ตรวจวัดปริ มาณ PAHs 8 ชนิด ด้วยเทคนิค HS-SPME-GC/MS
ผลกำรศึกษำ
PAHs
Naphthalene
Acenaphthylene
Acenaphthene
Fluorene
Phenanthrene
Anthracene
Fluoranthene
Pyrene
รวม
ปริ มาณสารกลุ่ม PAHs ที่ตรวจพบ
ในน้ ามันถัว่ เหลือง (ug/kg)
โพลาร์ 24 %
โพลาร์ 26 %
ND
ND
ND
BLOQ
ND
BLOQ
ND
0.7
ND
ND
ND
ND
ND
ND
ND
ND
-
0.7
BLOQ = Below Limit of quantification (0.4 ug/kg), ND= Non detect
ปริ มาณสารกลุ่ม PAHs ที่ตรวจพบ
ในน้ ามันปาล์ม (ug/kg)
โพลาร์ 24 %
โพลาร์ 26 %
BLOQ
0.7
ND
ND
BLOQ
0.7
BLOQ
0.8
ND
ND
ND
ND
ND
ND
ND
ND
-
2.2
ปริมำณโพลีไซคลิกอะโรมำติกไฮโดรคำร์ บอน
ในนำ้ มันทอดอำหำรประเภทแป้ งและเนือ้ สั ตว์ เพือ่ จำหน่ ำย
ทีม่ สี ำรโพลำร์ ไม่ เกินร้ อยละ 25 ของนำ้ หนัก
อตินุช นารถน้ าพอง*, สุ พตั รา ปรศุพฒั นา**, ศศิธร สุ กรี ฑา***
*ศูนย์วท
ิ ยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 (อุบลราชธานี), **คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, *** ศูนย์วทิ ยาศาสตร์การแพทย์ที่ 5 (นครราชสี มา)
วัตถุประสงค์
ศึกษาการเกิดขึ้นของ PAHs จานวน 8 ชนิด ในน้ ามันทอดอาหาร
เพื่อจาหน่ายที่มีสารโพลาร์นอ้ ยกว่าร้อยละ 25 ของน้ าหนัก
วิธีกำรศึกษำ
น้ ามันทอดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ 19 ตัวอย่าง (19 ร้าน)
น้ ามันทอดอาหารประเภทแป้ ง 20 ตัวอย่าง (20 ร้าน)
ในเขตอาเภอเมือง จังหวัดนครราชสี มา
สอบถามพฤติกรรมการทอดและการใช้น้ ามันของผูป้ ระกอบอาหาร
ได้แก่ วิธีการทอด, การใช้ซ้ าและการเติมน้ ามันในระหว่างการทอด
ตรวจวิเคราะห์สารโพลาร์ ดว้ ยชุดทดสอบสารโพลาร์ ในน้ ามันทอดซ้ าของ
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และตรวจวัดปริ มาณ PAHs
โดยวิธี HS-SPME-GC/MS
ผลกำรศึกษำ
นำ้ มันทอดเนือ้ สั ตว์
นำ้ มันทอดแป้ง
ชนิดของอำหำร
ไก่ทอด, ปลาทอด, หมูทอด, กะหรี่ ปั๊บ, นางเล็ด, โดนัท,กล้วยทอด,
หมูสามชั้น, เนื้อทอด
ไข่นกกะทา, ปาท่องโก๋ , ตือคาโค
ชนิดของนำ้ มัน
น้ ามันปาล์ม, น้ ามันไก่
น้ ามันปาล์ม, น้ ามันผสม
กำรทอด
กำรใช้ ซ้ำ
ปิ ด-เปิ ดเตาหลายครั้ง
จนกว่าจะเลิกจาหน่าย
19 ร้าน ใช้ซ้ า 9 ร้าน
ทอดต่อเนื่องครั้งเดียวจนเสร็ จ
แล้วปิ ดเตาเลิกใช้น้ ามัน
20 ร้าน ใช้ซ้ า 19 ร้าน
PAHs ทีพ่ บ
Phenanthrene (พบมากที่สุด) Phenanthrene
Naphthalene (พบมาก)
จำนวนทีพ่ บ PAHs 19 ตัวอย่าง
พบ 15 ตัวอย่าง (79%)
20 ตัวอย่าง
พบ 13 ตัวอย่าง (65%)
ปริมำณโพลีไซคลิกอะโรมำติกไฮโดรคำร์ บอน
ในนำ้ มันทอดอำหำรประเภทแป้งและเนือ้ สั ตว์เพือ่ จำหน่ ำย
ที่มีสำรโพลำร์ ไม่ เกินร้ อยละ 25 ของนำ้ หนัก
มีสารกลุ่ม PAHs เกิดขึ้นทั้งในน้ ามันทอดอาหารประเภทแป้ งและเนื้อสัตว์
แม้น้ ามันจะมีสารโพลาร์ไม่เกินร้อยละ 25 ของน้ าหนัก
แม้จะพบ PAHs ในน้ ามันปริ มาณน้อย
แต่มีความเป็ นได้ไปสู งที่ผปู ้ ระกอบอาหารจะได้รับ
สารกลุ่มนี้ดว้ ยการสู ดดมไอระเหยขณะทอดอาหาร
ข้อมูลจากการศึกษาทางระบาดวิทยาในสตรี ชาวไต้หวันและจีน
พบผูป้ ่ วยมะเร็ งปอดมากเป็ นอันดับหนึ่ง โดยหนึ่งในหลายปัจจัยหลัก
พบว่ามีสาเหตุเนื่องมาจากควันที่เกิดขึ้นจากการประกอบอาหารในห้องครัว
Pan CH, et al. Cancer Epidemiol Biomarkers Prev. 2008; 17: 3351-7
ผลของแมกนีเซียมซิลเิ กตต่ อ
ระดับโพลีไซคลิกอะโรมำติกไฮโดรคำร์ บอนในนำ้ มันทอดอำหำร
ลดต้นทุนการผลิตด้วยการนาน้ ามันที่ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ าโดยผ่านการปรับสภาพ
สารช่วยกรอง (Filtering aids) การกาจัดสี , กลิ่น
และทาให้คุณสมบัติทางเคมีบางประการของน้ ามันดีข้ ึน
สารช่วยกรองทาให้สารโพลาร์ ในน้ ามันลดลง
ปั จจุบนั ในบางประเทศจึงอนุญาตให้ใช้สารช่วยกรองได้
สารช่วยกรองที่นิยมใช้คือแมกนีเซี ยมซิ ลิเกตหรื อ
ชื่อการค้าคือแมกนีซอล (MAGNESOL)
นอกจากสารโพลาร์ แล้วน้ ามันเสื่ อมสภาพยังมีสารที่เป็ นอันตรายต่อผูบ้ ริ โภค
ที่หลายประเทศให้ความสนใจคือ สารกลุ่ม PAHs
ผลของแมกนีเซียมซิลเิ กตต่ อ
ระดับโพลีไซคลิกอะโรมำติกไฮโดรคำร์ บอนในนำ้ มันทอดอำหำร
อตินุช นารถน้ าพอง*, สุ พตั รา ปรศุพฒั นา**, เจตนา วีระกุล**, วรศักดิ์ อินทร์ ชยั ***
*ศูนย์วท
ิ ยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 (อุบลราชธานี), **คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, *** ศูนย์วทิ ยาศาสตร์การแพทย์ที่ 5 (นครราชสี มา)
วัตถุประสงค์
เพื่อศึกษาเปรี ยบเทียบระดับสารกลุ่ม PAHs ในน้ ามันพืชทอดอาหาร
ก่อนและหลังการผ่านกระบวนการปรับสภาพด้วยแมกนีเซียมซิลิเกต
วิธีกำรศึกษำ
ปรับสภาพน้ ามันทอดอาหารโดยเติมแมกนีเซียมซิลิเกต 8 % ของน้ าหนักในน้ ามัน
ทอดอาหารที่มีการเติม PAHs 8 ug/kg และให้ความร้อนที่ 120 องศาเซลเซียส
30 นาที ตรวจวัดปริ มาณ PAHs 8 ชนิด ด้วยเทคนิค HS-SPME-GC/MS
ผลกำรศึกษำ
น้ ามันถัว่ เหลือง : การเติม MgSiO3 8% มีผลลดระดับสาร PAHsใกล้เคียงกัน
ค่าเฉลี่ยปริ มาณ PAHs คงเหลือในน้ ามัน ~ 51.7%
น้ ามันปาล์ม : การเติม MgSiO3 8% มีผลลดปริ มาณสาร PAHs แตกต่างกัน
ระดับสาร PAHs ในน้ ามันคงเหลือตั้งแต่ 54.2-97.0%
กราฟแสดงสัดส่ วนการลดลงของสารกลุ่ม PAHs ความเข้มข้น 8 ug/kg ทั้ง 8 ชนิด
ในน้ ามันถัว่ เหลืองและน้ ามันปาล์มทอดซ้ าที่ปรับสภาพด้วยแมกนีเซียมซิลิเกต 8 %
ผลของแมกนีเซียมซิลเิ กตต่ อ
ระดับโพลีไซคลิกอะโรมำติกไฮโดรคำร์ บอนในนำ้ มันทอดอำหำร
แมกนีเซียมซิลิเกตเมื่อเติมในน้ ามันทอดอาหารที่มี PAHs ในปริ มาณสูง
มีผลลดปริ มาณสาร PAHs ได้ในระดับหนึ่ง แต่ยงั คงมีตกค้างเหลืออยู่
ข้อมูลการใช้แมกนีเซียมซิลิเกต
ร้านอาหาร < 1 %
อุตสาหกรรมอาหาร < 2 %
กำรยังคงอยู่ของ PAHs ในนำ้ มันทอดอำหำรแม้ มีกำรเติมแมกนีเซียมซิลเิ กต
ยังอำจเป็ นหนทำงนำไปสู่ โอกำสกำรได้ รับสำรก่อมะเร็งจำกกระบวนกำร
ปรุงอำหำรโดยเฉพำะจำกนำ้ มันทีม่ ีกำรปรับสภำพแล้วนำกลับมำใช้ ซ้ำ
นำ้ มันทอดซ้ำ
ขอบคุณค่ ะ